จุมพิตนิทรา
"หากได้พบเธอแค่เพียงในฝัน ฉันก็ปรารถนาจะหลับใหลไปชั่วกาล"
นราภัทร วิศวกรคอมพิวเตอร์สาวมั่นที่ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ
แต่หลังจากไปไหว้พระตรีมูรติ เธอก็ได้พบกับคนที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอ
"เขา" ทำให้เธอยิ้ม ทำให้เธอหัวเราะ ทำให้เธอมีความสุขได้
แต่ "เขา" อยู่แต่ในความฝันของเธอเท่านั้น
นราภัทรแค่ฝันไป? หรือ เขาคือเนื้อคู่ที่สวรรค์ประทานลงในให้?
นราภัทร วิศวกรคอมพิวเตอร์สาวมั่นที่ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ
แต่หลังจากไปไหว้พระตรีมูรติ เธอก็ได้พบกับคนที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอ
"เขา" ทำให้เธอยิ้ม ทำให้เธอหัวเราะ ทำให้เธอมีความสุขได้
แต่ "เขา" อยู่แต่ในความฝันของเธอเท่านั้น
นราภัทรแค่ฝันไป? หรือ เขาคือเนื้อคู่ที่สวรรค์ประทานลงในให้?
Tags: โรแมนติก,ดราม่า,ความฝัน,รักในฝัน
ตอน: บทที่ 6/1
6
“บ้า! บ้าไปแล้ว” เมื่อหายจากอาการตกตะลึง นราภัทรก็ตะเบ็งเสียงใส่ผู้ชายตรงหน้า
“บ้าตรงไหนครับ คุณผู้หญิง”
“คุณจะมาชอบฉันได้ยังไง เราเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเองนะ คนโกหก!” วิศวกรสาวรัวใส่เป็นชุดขณะถลึงตามองเขา วงหน้าเนียนใสขึ้นสีแดงด้วยความโกรธ ด้วยคิดว่าคนตรงหน้าพูดปดเพราะหวังในตัวเธอ
ชายหนุ่มตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับพูดสิ่งที่ถูกต้องที่สุด “ชอบก็คือชอบ ผมไม่มีเหตุผลมากมายนักหรอก ผมรู้สึกดีที่ได้พบคุณ และผมก็คิดถึงคุณ อยากเจอคุณ อยากคุยกับคุณ แล้วที่คุณทำแบบนั้นกับผม ไม่ได้แปลว่าคุณเองก็ชอบผมงั้นเหรอ”
“แบบนั้น? แบบไหน” นราภัทรขมวดคิ้วทวนถามอย่างมึนงง ไม่ได้เสแสร้งแม้แต่น้อย
“ก็เมื่อกี้ที่คุณจับตัวผมไง เรียกว่าเข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศได้เลยนะนั่น” เขาช่วยขยายความให้
นราภัทรถึงได้รู้ตัวว่าเมื่อกี้เธอทำแบบนั้นไปจริงๆ ดวงหน้าขาวยิ่งแดงก่ำเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป หญิงสาวอ้าปากแล้วหุบแล้วอ้าอยู่สองสามครั้ง ก่อนที่จะหลุดคำพูดออกมา
“ฉะ...ฉันเปล่านะ”
“ถึงจะปฏิเสธไปก็ไม่ได้ทำให้เรื่องที่คุณจับหน้าอกผมเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนไปได้หรอกนะ” ชายหนุ่มทำหน้ายิ้มๆ
นราภัทรสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์แล้วอธิบายให้เขาฟังว่าทำไมเธอถึงได้ทำแบบนั้นลงไป แต่ถ้อยคำที่ออกมายังคงติดๆ ขัดๆ เพราะนราภัทรกระอักกระอ่วนพูดไม่ออก ใช้คำไม่ถูก
“ฉัน...ฉันแค่คิดว่าคุณไม่ใช่คน ฉันก็แค่จับ...ไม่! ลูบ เอ๊ย! ไม่ใช่! ฉันแตะ ฉันแค่แตะดูว่าคุณเป็นคนจริงๆ ไหมก็เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องชอบหรือไม่ชอบหรอก” พอพูดออกมาได้หมด หญิงสาวก็ถึงกับถอนใจด้วยความโล่งอก
ทูตสวรรค์กะพริบตาปริบๆ ทำเหมือนยอมรับความคิดนี้ได้ ก่อนจะพูดว่า “งั้นผมสงสัยคุณบ้างว่าคุณเป็นผีหรือเปล่า ขอผม ‘แตะ’ คุณคืนแบบที่คุณ ‘แตะ’ ผมบ้างได้ไหม”
“นี่!” นราภัทรขึงตาใส่
ชายหนุ่มแบมือออกแล้วยักไหล่ “ไม่ยุติธรรมนี่ ทำไมคุณแตะผมได้ แต่ผมแตะคุณไม่ได้ล่ะ”
หญิงสาวหลับตาลงข่มโทสะที่พลุ่งพล่านเอาไว้ ก่อนจะถามเขาด้วยเสียงอ่อนลง “ฉัน...ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“แต่ผมเป็นผู้เสียหายนะ จู่ๆ ก็มีผู้หญิงเข้ามาแตะนั่น หยิกนี่ ดึงโน่น ลูบตรงโน้น ไล้ตรงนี้ ผมถูกคุณคุกคามทางเพศอยู่นะครับ” คนตรงหน้ายังยืนกรานและสาธยายออกมาจนทำให้นราภัทรรู้สึกเหมือนความดันพุ่งขึ้นสูง จนอยากเอาศีรษะโหม่งโลกให้ตายไปซะตรงนี้เลย
‘ทำไมตอนที่เธอทำลงไป ถึงได้ไร้สติขนาดนั้นนะ’
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น หงุดหงิดอีกฝ่ายที่ทำหวงตัวเป็นผู้หญิงไปได้ “ก็ขอโทษไปแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก เป็นผู้ชายแตะนิดแตะหน่อยไม่สึกหรอหรอกน่ะ”
“คนทำผิดก็ต้องรับผิดชอบสิ” ชายหนุ่มอ้างตรรกะที่ถูกที่ควร
“ก็ขอโทษแล้วไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ” นราภัทรมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“ถ้าขอโทษแล้วหายกัน โลกนี้ไม่มีคำว่าชดใช้หรอก คุณผู้หญิง” ทูตสวรรค์ที่นราภัทรเพิ่งจะมองเห็นหางและปีกของปีศาจร้ายตอบกลับมาด้วยสีหน้าสบายๆ ไม่เดือดร้อนกับท่าทางเหมือนจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ ของเธอ
“ต้องการให้ฉันรับผิดชอบอะไร ฉันกล้าทำก็กล้ารับ เมื่อกี้ฉันพลาดไปแล้ว คุณอยากได้อะไรก็ว่ามา” โทสะคุกรุ่นจนรู้สึกว่าศีรษะร้อนไปหมด ถ้าตอนนี้เธอเป็นกาน้ำก็คงกำลังเดือดปุดๆ
ชายหนุ่มกลอกตาไปมา ยกมือแตะปลายคาง แล้วเหลือบมองหญิงสาวที่กำลังเดือดเป็นฟืนเป็นไฟอย่างครุ่นคิด
“คุณจะรับผิดชอบจริงๆ เหรอ”
“ย้ำอยู่ได้ ฉันบอกว่ารับก็รับสิ”
“ผมเป็นพวกตาต่อตา ฟันต่อฟันเสียด้วย...ผมกลัวว่าคุณจะไม่กล้าน่ะสิ” เขามองไล่ตั้งแต่ใบหน้าของเธอและมาหยุดตรงช่วงอก ก่อนจะกลับมามองที่หน้าของนราภัทรใหม่
‘นี่หรือว่าเขาคิดจะ...’ นราภัทรเบิกตากว้างแล้วก้มลงมองหน้าอกตัวเอง ‘คิดจะทำแบบเดียวกับที่เราทำงั้นเหรอ’ ดวงหน้าร้อนผ่าวกลายเป็นสีแดงจัด วิศวกรสาวกรีดร้องในใจ เชื่อแน่ว่าอีกไม่กี่นาทีเธอจะคลุ้มคลั่งแล้วกลายร่างเป็นฆาตกรฆ่าคนหมกสระว่ายน้ำ หลายร้อยคำสบถวิ่งวนเวียนอยู่ในหัวเต็มไปหมด
“ไม่กล้าใช่ไหมล่ะ”
หญิงสาวกัดฟันแน่น ใครใช้ให้เธอไปจับตัวเขาก่อนกันเล่า “ฉันกล้า!”
ทูตสวรรค์มองอย่างไม่เชื่อ หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ถ้าคุณกลับคำ ขอให้เป็นลูกหมา”
“ได้! ถ้าฉันกลับคำก็เป็นหมา” ท่าทางของนราภัทรเหมือนคนที่กระเหี้ยนกระหือรือจะไปออกรบไม่มีผิด เธอกำมือแน่น สีหน้าขึงเครียด นัยน์ตาจับจ้องชายหนุ่มเขม็ง ซึ่งเขาลงความเห็นว่า หากเคลื่อนไหวนิดเดียว หมัดน้อยๆ นั่นต้องเสยคางของเขาแน่ๆ
“โอเค งั้นก็รับผิดชอบผมด้วยการเป็นแฟนกับผมแล้วกันนะ คุณผู้หญิง” ใบหน้าของทูตสวรรค์สว่างไสวด้วยรอยยิ้มกระจ่าง
ในที่สุดเขาก็เผยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงออกมาทำเอานราภัทรอ้าปากค้าง “หา!...”
“อ๊ะๆๆ อย่ากลับคำนะครับ เมื่อกี้คุณบอกมาแล้วว่าจะรับผิดชอบ” ชายหนุ่มรีบดักคอพลางส่ายนิ้วชี้เป็นการปรามล่วงหน้า
“แต่ฉันนึกว่าคุณจะ...”
“จะอะไรเหรอ” เขาถามหน้าซื่อตาใส
หญิงสาวพูดไม่ออกด้วยความกระดากปาก เพราะคิดไปว่าอีกฝ่ายคิดจะจับหน้าอกเธอ
“ฮึ้ย! ว้าย!” นราภัทรอดเจ็บใจไม่ได้ที่ตกหลุมพรางของเขาเพราะจู่ๆ เธอก็ถูกรวบตัวไปกอด
“ตอนนี้คุณเป็นแฟนผมแล้วนะ ห้ามนอกใจผม ห้ามชายตามองคนอื่น คุณต้องมีผมแค่คนเดียวเท่านั้นทั้งยามหลับและยามตื่น ไม่อนุญาตให้ฝันถึงผู้ชายคนอื่นแล้วนะ” เมื่อสมประสงค์ตามที่ไล่ต้อนจนหญิงสาวจนมุมแล้ว ทูตสวรรค์ที่หางโผล่ว่าแท้จริงแล้วเป็นซาตานจำแลงแปลงมานั้นก็ร่ายกฎกติกาและเงื่อนไขออกมา
นราภัทรอยากจะด่าผู้ชายตรงหน้านัก แต่เธอยังสรรหาคำที่เจ็บแสบมาต่อว่าเขาไม่ได้ ในพจนานุกรมของเธอเหมือนจะไม่มีคำไหนเหมาะสำหรับคนฉวยโอกาสอย่างเขา คิดแล้วก็คันไม้คันมืออยากใช้ไม้หน้าสามฟาดใส่คนหน้าเป็นสักเปรี้ยง
“อ้อ แล้วก็...ห้ามไป ‘แตะ’ ตัวผู้ชายคนไหนด้วย” แฟนหมาดๆ ย้ำคำว่า ‘แตะ’ เป็นพิเศษ
“ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใครเสียหน่อย!” หญิงสาวโต้อย่างฉุนเฉียว
“แปลว่าคุณทำแบบนี้กับผมเป็นคนแรกและคนเดียวงั้นสินะ” นัยน์ตาชวนฝันของเขาเป็นประกายวาววับ
“เอ่อ...” นราภัทรอึกอัก ไม่อยากจะยอมรับให้อีกฝ่ายดีใจ แต่ก็คงช้าไปแล้ว เพราะชายหนุ่มยิ้มกริ่มจนน่าหมั่นไส้
“น่ารักจริงๆ แฟนใครเนี่ย อย่างนี้ต้องให้รางวัลหน่อยแล้ว” ชายหนุ่มเคลื่อนหน้าเข้าใกล้หญิงสาว
“เอ๊ะ!” หัวใจที่สงบลงไปชั่วครู่กลับมาเต้นโครมครามอีกครั้งเมื่อสองมือหนาประคองข้างแก้มของเธอไว้
“นี่คุณ...เร็วไปหรือเปล่า” เพื่อนผู้ชายของนราภัทรมักจะเล่าถึงความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวที่รวดเร็วปานความไวแสง เจอหน้ากันหนเดียวก็ไปนอนด้วยกันแล้ว...แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเธอด้วย
“ผมว่าช้ามากด้วยซ้ำ” สายตาของเขาจับจ้องที่ริมฝีปากของหญิงสาว ก่อนก้มหน้าลงมาหา นราภัทรเลยได้แต่หลับตาปี๋ คิดในใจว่าทนๆ เอาหน่อยแล้วกัน แป๊บเดียวก็คงจบแล้ว คิดซะว่าโดนหมาเลีย
แต่แล้วเขากลับให้รางวัลเธอด้วยการจุมพิต...หน้าผาก
สัมผัสที่กดย้ำบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาสร้างความปั่นป่วนใจให้นราภัทรเป็นอย่างมาก คล้ายคลึงอย่างมาก เหมือนสัมผัสของใครคนหนึ่งที่เคยฝากเอาไว้...ในความฝันอันมืดมิด
ริมฝีปากของเขาไล่ลงมาพรมจูบยังเปลือกตาทั้งสองข้างแล้วเลื่อนเบาๆ มาตามสันจมูกของเธอ
นราภัทรเกร็งมือซึ่งจับอยู่ที่แขนของชายหนุ่ม ก่อนจิกเล็บเข้าไปในผิวเนื้อเรียบลื่น เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภาพลวงตาสองภาพที่ซ้อนทับกันพอดี รอยจูบของผู้ชายตรงหน้ากับรอยจูบในความมืดนั้นให้ความรู้สึกเดียวกันไม่มีผิดเพี้ยนทั้งความอ่อนโยนมากมาย และความรักที่มากล้นเหลือคณนา
เธออยู่ในความฝันกับใครกันแน่นะ ในความมืดมิดและเต็มเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้า หรือในสระว่ายน้ำกับผู้ชายที่แสนจะเจ้าเล่ห์แต่มีรอยยิ้มดั่งทูตสวรรค์
แล้วเขาคือคนคนนั้นหรือเปล่า คือคนที่เป็นแสงสว่าง คนที่ปัดเป่าความมืดมิดให้หายไปจากเธอ ใช่เขาหรือเปล่า
ชายหนุ่มไล้ริมฝีปากไปที่แก้มเนียนของหญิงสาว ก่อนจะกระซิบข้างหูว่า “ผมจะเว้นที่ตรงริมฝีปากเอาไว้ก่อน รอวันที่คุณยอมรับว่าก็ชอบผมเหมือนกันนะครับ”
นราภัทรลืมตาขึ้นจะมองเขา ในใจยังเต็มไปด้วยความสงสัยและสับสน
ชายหนุ่มเห็นแววตาที่เหมือนกับเด็กหลงทางของนราภัทรแล้วก็อยากกอดเธอเอาไว้แน่นๆ ให้จมหายไปในอกของเขาได้เลยยิ่งดี ไม่อยากให้ใครได้เห็นท่าทางอ่อนแอแบบนี้ เขาอยากประกาศให้โลกนี้รู้ว่า เธอคนนี้คือคนรักของเขา
“อย่าไปจับผู้ชายคนไหนแบบนั้นอีกนะ ผมขอเตือน คุณมีแฟนแล้ว และแฟนคุณชื่อ...”
...
นราภัทรลืมตาตื่นขึ้นเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงกรีดร้องเสียงดัง เพราะตั้งปลุกไว้เป็นเพลงที่มีเสียงระคายหูซึ่งเป็นเสียงที่ตั้งไว้เฉพาะเบอร์ของภวิตา โทรศัพท์ยังคงส่งเสียงไม่หยุด ในที่สุดหญิงสาวก็ต้องรับสายอย่างจำใจ แล้วจึงเดินไปเปิดไฟ
ภวิตาโทร. มาถามหาเอกสารซึ่งหาไม่เจอ ทำเอาวิศวกรสาวผู้ควบตำแหน่งเลขาฯ ถอนหายใจเบาๆ เธอจำได้ว่าส่งเข้าอีเมลของภวิตาไปแล้ว แต่เธอรู้ดีว่าภวิตาชอบไม่เปิดอ่านอีเมล ทั้งที่เป็นคนบอกกับลูกน้องทุกคนในฝ่ายว่าต้องเช็กอีเมลทุกวัน วันละสามครั้งเป็นอย่างต่ำ นราภัทรไม่อยากจะทะเลาะกับผู้อำนวยการ เธอจึงหยิบแลปทอปขึ้นมาเปิดแล้วส่งอีเมลให้ภวิตาใหม่ เมื่อส่งเสร็จก็มองนาฬิกา...เป็นช่วงเที่ยงคืนกว่าๆ
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ พลางนึกว่า สามีของผู้อำนวยการไม่เตือนภรรยาตัวเองบ้างหรือไงนะว่า ตอนนี้มันดึกแล้ว และลูกน้องก็อาจจะเข้านอนไปแล้วก็ได้
นราภัทรปิดแลปทอปเตรียมนอนอีกรอบ แต่เมื่อเห็นตุ๊กตาบนเตียง ซึ่งตัวหนึ่งเป็นสุนัขสีขาวชื่อชิโระ กับอีกตัวหนึ่งเป็นแมวดำมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชื่อคุโระแล้ว...ก็ให้คิดถึงผู้ชายที่เปลือกนอกเป็นทูตสวรรค์ แต่ภายในคือซาตาน
รอยสัมผัสบางอย่างในฝันยังติดตรึงอยู่ในใจเธอราวกับเกิดขึ้นจริง หญิงสาวยกมือแตะหน้าผากแล้วเลื่อนไปตามแต่ละจุดที่ถูกแตะต้อง ก่อนจะเปลี่ยนไปจับที่ใบหูของตัว ใบหน้าร้อนฉ่าขึ้นฉับพลัน ยิ่งเห็นแมวคุโระส่งยิ้มมาให้ เธอก็ยิ่งโมโหคนในฝัน จึงจับคุโระมาเป็นกระสอบทราย ชกใส่ท้องอวบอ้วนของมันหลายครั้ง แล้วดึงหูมันไปมาระหว่างอ้าปากกรีดร้องอย่างไร้เสียงด้วยความเจ็บใจที่ถูกชายในฝันมัดมือชก
“บ้าๆๆๆๆๆ บ้าที่สุด” แล้วนราภัทรก็กลายเป็นคนบ้าเสียเอง...ก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยกอดเจ้าคุโระไว้ แล้วหลับสนิทไปทั้งคืน
..........................................
แฮ่ หายไปประมาณ 2 อาทิตย์ ติดหวัด+ปีใหม่ เลยยาวเลย ^^
ขอให้โอกาสนี้ อวยพรปีใหม่ค่า ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ นะคะ คิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาน้า
ส่วนใครถ้ามีเฟซบุ๊ก เร็วๆ นี้ ฟ้าจะมีให้เล่นเกมง่ายๆ (ง่ายจริงๆ ง่ายมากๆ) แจก สคส. 2 ลายค่า ไว้มีเล่นเมื่อไหร่จะมาชวนน้า
ตอนนี้ฟ้ากำลังจะมีนิยายจีน เรื่องสั้น ชื่อ กรงดอกท้อ ไว้ลงจุมพิตนิทราครบ จะมาเอามาลงให้อ่านกันนะคะ
ขอบคุณทุกคนมากค่า
“บ้า! บ้าไปแล้ว” เมื่อหายจากอาการตกตะลึง นราภัทรก็ตะเบ็งเสียงใส่ผู้ชายตรงหน้า
“บ้าตรงไหนครับ คุณผู้หญิง”
“คุณจะมาชอบฉันได้ยังไง เราเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเองนะ คนโกหก!” วิศวกรสาวรัวใส่เป็นชุดขณะถลึงตามองเขา วงหน้าเนียนใสขึ้นสีแดงด้วยความโกรธ ด้วยคิดว่าคนตรงหน้าพูดปดเพราะหวังในตัวเธอ
ชายหนุ่มตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับพูดสิ่งที่ถูกต้องที่สุด “ชอบก็คือชอบ ผมไม่มีเหตุผลมากมายนักหรอก ผมรู้สึกดีที่ได้พบคุณ และผมก็คิดถึงคุณ อยากเจอคุณ อยากคุยกับคุณ แล้วที่คุณทำแบบนั้นกับผม ไม่ได้แปลว่าคุณเองก็ชอบผมงั้นเหรอ”
“แบบนั้น? แบบไหน” นราภัทรขมวดคิ้วทวนถามอย่างมึนงง ไม่ได้เสแสร้งแม้แต่น้อย
“ก็เมื่อกี้ที่คุณจับตัวผมไง เรียกว่าเข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศได้เลยนะนั่น” เขาช่วยขยายความให้
นราภัทรถึงได้รู้ตัวว่าเมื่อกี้เธอทำแบบนั้นไปจริงๆ ดวงหน้าขาวยิ่งแดงก่ำเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป หญิงสาวอ้าปากแล้วหุบแล้วอ้าอยู่สองสามครั้ง ก่อนที่จะหลุดคำพูดออกมา
“ฉะ...ฉันเปล่านะ”
“ถึงจะปฏิเสธไปก็ไม่ได้ทำให้เรื่องที่คุณจับหน้าอกผมเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนไปได้หรอกนะ” ชายหนุ่มทำหน้ายิ้มๆ
นราภัทรสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์แล้วอธิบายให้เขาฟังว่าทำไมเธอถึงได้ทำแบบนั้นลงไป แต่ถ้อยคำที่ออกมายังคงติดๆ ขัดๆ เพราะนราภัทรกระอักกระอ่วนพูดไม่ออก ใช้คำไม่ถูก
“ฉัน...ฉันแค่คิดว่าคุณไม่ใช่คน ฉันก็แค่จับ...ไม่! ลูบ เอ๊ย! ไม่ใช่! ฉันแตะ ฉันแค่แตะดูว่าคุณเป็นคนจริงๆ ไหมก็เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องชอบหรือไม่ชอบหรอก” พอพูดออกมาได้หมด หญิงสาวก็ถึงกับถอนใจด้วยความโล่งอก
ทูตสวรรค์กะพริบตาปริบๆ ทำเหมือนยอมรับความคิดนี้ได้ ก่อนจะพูดว่า “งั้นผมสงสัยคุณบ้างว่าคุณเป็นผีหรือเปล่า ขอผม ‘แตะ’ คุณคืนแบบที่คุณ ‘แตะ’ ผมบ้างได้ไหม”
“นี่!” นราภัทรขึงตาใส่
ชายหนุ่มแบมือออกแล้วยักไหล่ “ไม่ยุติธรรมนี่ ทำไมคุณแตะผมได้ แต่ผมแตะคุณไม่ได้ล่ะ”
หญิงสาวหลับตาลงข่มโทสะที่พลุ่งพล่านเอาไว้ ก่อนจะถามเขาด้วยเสียงอ่อนลง “ฉัน...ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“แต่ผมเป็นผู้เสียหายนะ จู่ๆ ก็มีผู้หญิงเข้ามาแตะนั่น หยิกนี่ ดึงโน่น ลูบตรงโน้น ไล้ตรงนี้ ผมถูกคุณคุกคามทางเพศอยู่นะครับ” คนตรงหน้ายังยืนกรานและสาธยายออกมาจนทำให้นราภัทรรู้สึกเหมือนความดันพุ่งขึ้นสูง จนอยากเอาศีรษะโหม่งโลกให้ตายไปซะตรงนี้เลย
‘ทำไมตอนที่เธอทำลงไป ถึงได้ไร้สติขนาดนั้นนะ’
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น หงุดหงิดอีกฝ่ายที่ทำหวงตัวเป็นผู้หญิงไปได้ “ก็ขอโทษไปแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก เป็นผู้ชายแตะนิดแตะหน่อยไม่สึกหรอหรอกน่ะ”
“คนทำผิดก็ต้องรับผิดชอบสิ” ชายหนุ่มอ้างตรรกะที่ถูกที่ควร
“ก็ขอโทษแล้วไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ” นราภัทรมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“ถ้าขอโทษแล้วหายกัน โลกนี้ไม่มีคำว่าชดใช้หรอก คุณผู้หญิง” ทูตสวรรค์ที่นราภัทรเพิ่งจะมองเห็นหางและปีกของปีศาจร้ายตอบกลับมาด้วยสีหน้าสบายๆ ไม่เดือดร้อนกับท่าทางเหมือนจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ ของเธอ
“ต้องการให้ฉันรับผิดชอบอะไร ฉันกล้าทำก็กล้ารับ เมื่อกี้ฉันพลาดไปแล้ว คุณอยากได้อะไรก็ว่ามา” โทสะคุกรุ่นจนรู้สึกว่าศีรษะร้อนไปหมด ถ้าตอนนี้เธอเป็นกาน้ำก็คงกำลังเดือดปุดๆ
ชายหนุ่มกลอกตาไปมา ยกมือแตะปลายคาง แล้วเหลือบมองหญิงสาวที่กำลังเดือดเป็นฟืนเป็นไฟอย่างครุ่นคิด
“คุณจะรับผิดชอบจริงๆ เหรอ”
“ย้ำอยู่ได้ ฉันบอกว่ารับก็รับสิ”
“ผมเป็นพวกตาต่อตา ฟันต่อฟันเสียด้วย...ผมกลัวว่าคุณจะไม่กล้าน่ะสิ” เขามองไล่ตั้งแต่ใบหน้าของเธอและมาหยุดตรงช่วงอก ก่อนจะกลับมามองที่หน้าของนราภัทรใหม่
‘นี่หรือว่าเขาคิดจะ...’ นราภัทรเบิกตากว้างแล้วก้มลงมองหน้าอกตัวเอง ‘คิดจะทำแบบเดียวกับที่เราทำงั้นเหรอ’ ดวงหน้าร้อนผ่าวกลายเป็นสีแดงจัด วิศวกรสาวกรีดร้องในใจ เชื่อแน่ว่าอีกไม่กี่นาทีเธอจะคลุ้มคลั่งแล้วกลายร่างเป็นฆาตกรฆ่าคนหมกสระว่ายน้ำ หลายร้อยคำสบถวิ่งวนเวียนอยู่ในหัวเต็มไปหมด
“ไม่กล้าใช่ไหมล่ะ”
หญิงสาวกัดฟันแน่น ใครใช้ให้เธอไปจับตัวเขาก่อนกันเล่า “ฉันกล้า!”
ทูตสวรรค์มองอย่างไม่เชื่อ หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ถ้าคุณกลับคำ ขอให้เป็นลูกหมา”
“ได้! ถ้าฉันกลับคำก็เป็นหมา” ท่าทางของนราภัทรเหมือนคนที่กระเหี้ยนกระหือรือจะไปออกรบไม่มีผิด เธอกำมือแน่น สีหน้าขึงเครียด นัยน์ตาจับจ้องชายหนุ่มเขม็ง ซึ่งเขาลงความเห็นว่า หากเคลื่อนไหวนิดเดียว หมัดน้อยๆ นั่นต้องเสยคางของเขาแน่ๆ
“โอเค งั้นก็รับผิดชอบผมด้วยการเป็นแฟนกับผมแล้วกันนะ คุณผู้หญิง” ใบหน้าของทูตสวรรค์สว่างไสวด้วยรอยยิ้มกระจ่าง
ในที่สุดเขาก็เผยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงออกมาทำเอานราภัทรอ้าปากค้าง “หา!...”
“อ๊ะๆๆ อย่ากลับคำนะครับ เมื่อกี้คุณบอกมาแล้วว่าจะรับผิดชอบ” ชายหนุ่มรีบดักคอพลางส่ายนิ้วชี้เป็นการปรามล่วงหน้า
“แต่ฉันนึกว่าคุณจะ...”
“จะอะไรเหรอ” เขาถามหน้าซื่อตาใส
หญิงสาวพูดไม่ออกด้วยความกระดากปาก เพราะคิดไปว่าอีกฝ่ายคิดจะจับหน้าอกเธอ
“ฮึ้ย! ว้าย!” นราภัทรอดเจ็บใจไม่ได้ที่ตกหลุมพรางของเขาเพราะจู่ๆ เธอก็ถูกรวบตัวไปกอด
“ตอนนี้คุณเป็นแฟนผมแล้วนะ ห้ามนอกใจผม ห้ามชายตามองคนอื่น คุณต้องมีผมแค่คนเดียวเท่านั้นทั้งยามหลับและยามตื่น ไม่อนุญาตให้ฝันถึงผู้ชายคนอื่นแล้วนะ” เมื่อสมประสงค์ตามที่ไล่ต้อนจนหญิงสาวจนมุมแล้ว ทูตสวรรค์ที่หางโผล่ว่าแท้จริงแล้วเป็นซาตานจำแลงแปลงมานั้นก็ร่ายกฎกติกาและเงื่อนไขออกมา
นราภัทรอยากจะด่าผู้ชายตรงหน้านัก แต่เธอยังสรรหาคำที่เจ็บแสบมาต่อว่าเขาไม่ได้ ในพจนานุกรมของเธอเหมือนจะไม่มีคำไหนเหมาะสำหรับคนฉวยโอกาสอย่างเขา คิดแล้วก็คันไม้คันมืออยากใช้ไม้หน้าสามฟาดใส่คนหน้าเป็นสักเปรี้ยง
“อ้อ แล้วก็...ห้ามไป ‘แตะ’ ตัวผู้ชายคนไหนด้วย” แฟนหมาดๆ ย้ำคำว่า ‘แตะ’ เป็นพิเศษ
“ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใครเสียหน่อย!” หญิงสาวโต้อย่างฉุนเฉียว
“แปลว่าคุณทำแบบนี้กับผมเป็นคนแรกและคนเดียวงั้นสินะ” นัยน์ตาชวนฝันของเขาเป็นประกายวาววับ
“เอ่อ...” นราภัทรอึกอัก ไม่อยากจะยอมรับให้อีกฝ่ายดีใจ แต่ก็คงช้าไปแล้ว เพราะชายหนุ่มยิ้มกริ่มจนน่าหมั่นไส้
“น่ารักจริงๆ แฟนใครเนี่ย อย่างนี้ต้องให้รางวัลหน่อยแล้ว” ชายหนุ่มเคลื่อนหน้าเข้าใกล้หญิงสาว
“เอ๊ะ!” หัวใจที่สงบลงไปชั่วครู่กลับมาเต้นโครมครามอีกครั้งเมื่อสองมือหนาประคองข้างแก้มของเธอไว้
“นี่คุณ...เร็วไปหรือเปล่า” เพื่อนผู้ชายของนราภัทรมักจะเล่าถึงความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวที่รวดเร็วปานความไวแสง เจอหน้ากันหนเดียวก็ไปนอนด้วยกันแล้ว...แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเธอด้วย
“ผมว่าช้ามากด้วยซ้ำ” สายตาของเขาจับจ้องที่ริมฝีปากของหญิงสาว ก่อนก้มหน้าลงมาหา นราภัทรเลยได้แต่หลับตาปี๋ คิดในใจว่าทนๆ เอาหน่อยแล้วกัน แป๊บเดียวก็คงจบแล้ว คิดซะว่าโดนหมาเลีย
แต่แล้วเขากลับให้รางวัลเธอด้วยการจุมพิต...หน้าผาก
สัมผัสที่กดย้ำบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาสร้างความปั่นป่วนใจให้นราภัทรเป็นอย่างมาก คล้ายคลึงอย่างมาก เหมือนสัมผัสของใครคนหนึ่งที่เคยฝากเอาไว้...ในความฝันอันมืดมิด
ริมฝีปากของเขาไล่ลงมาพรมจูบยังเปลือกตาทั้งสองข้างแล้วเลื่อนเบาๆ มาตามสันจมูกของเธอ
นราภัทรเกร็งมือซึ่งจับอยู่ที่แขนของชายหนุ่ม ก่อนจิกเล็บเข้าไปในผิวเนื้อเรียบลื่น เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภาพลวงตาสองภาพที่ซ้อนทับกันพอดี รอยจูบของผู้ชายตรงหน้ากับรอยจูบในความมืดนั้นให้ความรู้สึกเดียวกันไม่มีผิดเพี้ยนทั้งความอ่อนโยนมากมาย และความรักที่มากล้นเหลือคณนา
เธออยู่ในความฝันกับใครกันแน่นะ ในความมืดมิดและเต็มเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้า หรือในสระว่ายน้ำกับผู้ชายที่แสนจะเจ้าเล่ห์แต่มีรอยยิ้มดั่งทูตสวรรค์
แล้วเขาคือคนคนนั้นหรือเปล่า คือคนที่เป็นแสงสว่าง คนที่ปัดเป่าความมืดมิดให้หายไปจากเธอ ใช่เขาหรือเปล่า
ชายหนุ่มไล้ริมฝีปากไปที่แก้มเนียนของหญิงสาว ก่อนจะกระซิบข้างหูว่า “ผมจะเว้นที่ตรงริมฝีปากเอาไว้ก่อน รอวันที่คุณยอมรับว่าก็ชอบผมเหมือนกันนะครับ”
นราภัทรลืมตาขึ้นจะมองเขา ในใจยังเต็มไปด้วยความสงสัยและสับสน
ชายหนุ่มเห็นแววตาที่เหมือนกับเด็กหลงทางของนราภัทรแล้วก็อยากกอดเธอเอาไว้แน่นๆ ให้จมหายไปในอกของเขาได้เลยยิ่งดี ไม่อยากให้ใครได้เห็นท่าทางอ่อนแอแบบนี้ เขาอยากประกาศให้โลกนี้รู้ว่า เธอคนนี้คือคนรักของเขา
“อย่าไปจับผู้ชายคนไหนแบบนั้นอีกนะ ผมขอเตือน คุณมีแฟนแล้ว และแฟนคุณชื่อ...”
...
นราภัทรลืมตาตื่นขึ้นเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงกรีดร้องเสียงดัง เพราะตั้งปลุกไว้เป็นเพลงที่มีเสียงระคายหูซึ่งเป็นเสียงที่ตั้งไว้เฉพาะเบอร์ของภวิตา โทรศัพท์ยังคงส่งเสียงไม่หยุด ในที่สุดหญิงสาวก็ต้องรับสายอย่างจำใจ แล้วจึงเดินไปเปิดไฟ
ภวิตาโทร. มาถามหาเอกสารซึ่งหาไม่เจอ ทำเอาวิศวกรสาวผู้ควบตำแหน่งเลขาฯ ถอนหายใจเบาๆ เธอจำได้ว่าส่งเข้าอีเมลของภวิตาไปแล้ว แต่เธอรู้ดีว่าภวิตาชอบไม่เปิดอ่านอีเมล ทั้งที่เป็นคนบอกกับลูกน้องทุกคนในฝ่ายว่าต้องเช็กอีเมลทุกวัน วันละสามครั้งเป็นอย่างต่ำ นราภัทรไม่อยากจะทะเลาะกับผู้อำนวยการ เธอจึงหยิบแลปทอปขึ้นมาเปิดแล้วส่งอีเมลให้ภวิตาใหม่ เมื่อส่งเสร็จก็มองนาฬิกา...เป็นช่วงเที่ยงคืนกว่าๆ
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ พลางนึกว่า สามีของผู้อำนวยการไม่เตือนภรรยาตัวเองบ้างหรือไงนะว่า ตอนนี้มันดึกแล้ว และลูกน้องก็อาจจะเข้านอนไปแล้วก็ได้
นราภัทรปิดแลปทอปเตรียมนอนอีกรอบ แต่เมื่อเห็นตุ๊กตาบนเตียง ซึ่งตัวหนึ่งเป็นสุนัขสีขาวชื่อชิโระ กับอีกตัวหนึ่งเป็นแมวดำมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชื่อคุโระแล้ว...ก็ให้คิดถึงผู้ชายที่เปลือกนอกเป็นทูตสวรรค์ แต่ภายในคือซาตาน
รอยสัมผัสบางอย่างในฝันยังติดตรึงอยู่ในใจเธอราวกับเกิดขึ้นจริง หญิงสาวยกมือแตะหน้าผากแล้วเลื่อนไปตามแต่ละจุดที่ถูกแตะต้อง ก่อนจะเปลี่ยนไปจับที่ใบหูของตัว ใบหน้าร้อนฉ่าขึ้นฉับพลัน ยิ่งเห็นแมวคุโระส่งยิ้มมาให้ เธอก็ยิ่งโมโหคนในฝัน จึงจับคุโระมาเป็นกระสอบทราย ชกใส่ท้องอวบอ้วนของมันหลายครั้ง แล้วดึงหูมันไปมาระหว่างอ้าปากกรีดร้องอย่างไร้เสียงด้วยความเจ็บใจที่ถูกชายในฝันมัดมือชก
“บ้าๆๆๆๆๆ บ้าที่สุด” แล้วนราภัทรก็กลายเป็นคนบ้าเสียเอง...ก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยกอดเจ้าคุโระไว้ แล้วหลับสนิทไปทั้งคืน
..........................................
แฮ่ หายไปประมาณ 2 อาทิตย์ ติดหวัด+ปีใหม่ เลยยาวเลย ^^
ขอให้โอกาสนี้ อวยพรปีใหม่ค่า ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ นะคะ คิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาน้า
ส่วนใครถ้ามีเฟซบุ๊ก เร็วๆ นี้ ฟ้าจะมีให้เล่นเกมง่ายๆ (ง่ายจริงๆ ง่ายมากๆ) แจก สคส. 2 ลายค่า ไว้มีเล่นเมื่อไหร่จะมาชวนน้า
ตอนนี้ฟ้ากำลังจะมีนิยายจีน เรื่องสั้น ชื่อ กรงดอกท้อ ไว้ลงจุมพิตนิทราครบ จะมาเอามาลงให้อ่านกันนะคะ
ขอบคุณทุกคนมากค่า
ท้องฟ้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ม.ค. 2558, 04:07:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ม.ค. 2558, 04:07:16 น.
จำนวนการเข้าชม : 1186
<< บทที่ 5/2 | บทที่ 6 /2 >> |
ปรางขวัญ 8 ม.ค. 2558, 00:42:30 น.
อยากเจอเจ้าชายในฝันบ้างงงงง กรีดร้องงง
อยากเจอเจ้าชายในฝันบ้างงงงง กรีดร้องงง