เมียเก็บ e-book
หล่อนคือหนามยอกยอกน้องสาวที่สมควรกำจัดให้พ้นทาง แต่กลับย้อนมาทิ่มแทงใจเขาให้ปวดร้าว แสนชิงชัง แต่กลับหลงใหลในวังวนเสน่หนา ใต้คำครหาหยามเหยียด...กืนน้ำใต้ศอกเพื่อนสนิท!

**หมายเหตุ**
งานเขียนนี้เคยตีพิมพ์ในนามปากกา ทิตภากร ปัจจุบันเนื้อหาได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความสมบูร์ของเนือเรื่อง

(เปิดให้อ่านบางส่วนเท่านั้น!!)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 2

ฝ่ายตฤณนั้นได้แต่ยืนส่งสายตามองไล่หลังสาวสวยในชุดเดรสสั้นที่ก้าวขึ้นรถไป ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก หากแต่นึกสังเวชเสียมากว่า ในสายตาเขา..ผู้หญิงดื่มเหล้าเที่ยวผับชอบท่องราตรีอยู่เป็นนิจจัดว่าเป็นผู้หญิงรักสนุก ลากขึ้นเตียงง่ายและพร้อมจะเปลื้องผ้าได้ทุกเมื่อ เคยได้ยินมาว่าบางคนมีเซ็กซ์กับผู้ชายไปทั่วเพื่อสะสมแต้มเอาไว้คุยอวดกันในกลุ่ม แน่นอนว่าเขายังไม่อยากเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นของพวกหล่อน

คิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มหยันก็ปรากฏบนริมฝีปาก ผู้หญิงสมัยนี้ใจกล้าหน้าด้านกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัวหรือเรื่องของความรัก ลองรักใครชอบใครเป็นคว้าดะ ไม่สนใจว่าจะลูกเขาผัวใคร และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาร้อนใจจนนั่งไม่ติดต้องจับเครื่องบินบินด่วนขึ้นมากรุงเทพฯ เนื่องจากน้องสาวเขาโทรศัพท์มารบเร้า ซ้ำยังร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรว่าสามีซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขาปันใจให้หญิงอื่น

ตฤณพ่นลมหายใจออกมา ความทุกข์ใจของน้องสาวก็คือความทุกข์ใจของเขา ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ทำให้เขาพลอยเครียดตามไปด้วย จนต้องมาปลดปล่อยตัวเองกับสถานเริงรมย์แห่งนี้ ทว่า...ยังไม่ทันจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน จู่ๆ เสียงอะไรบางอย่างก็แว่วเข้าหู ครั้นกวาดสายตามองหาก็พบโทรศัพท์มือถือตกอยู่บนพื้นห่างจากจุดที่เขายืนไม่ไกลนัก

“ของใครกัน?” ตฤณเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู วูบหนึ่งของความคิดก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าคงเป็นของผู้หญิงขี้เมาคนนั้น ครั้นจะวิ่งตามเอาไปคืนก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะรถที่มาจอดเทียบรับหล่อนหายลับไปก่อนหน้านี้

“ทำยังไงดีเนี่ย”

ตฤณพึมพำพลางมองโทรศัพท์ในมือ จู่ๆ สัญญาณเตือนว่ามีข้อความเข้าก็ดังขึ้น วินาทีนั้นเขาลังเล ใจหนึ่งก็ไม่อยากละลาบละล้วง เกรงว่าจะเป็นการล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่อีกใจก็ต้องการข้อมูลเพื่อส่งคืนโทรศัพท์ให้กับเจ้าของ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเรียกข้อความนั้นขึ้นมาดู ทว่า...

อี...ไม่มีปัญญาหาผัวหรือไง!!

“เฮ้ย! อะไรกันเนี่ย” ตฤณนึกฉงนขึ้นมาครามครัน เมื่อเห็นถ้อยคำหยาบคายปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ จนอดรนทนไม่ได้ต้องเรียกข้อความก่อนหน้านั้นขึ้นมาดู ก็พบว่านอกจากจะมีคำด่าทอในทำนองเดียวกันแล้ว ก็ยังมีข้อความนัดแนะระบุวันเวลาสถานที่นัดหมายปะปนอยู่ด้วย

“หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นเมียน้อยเสี่ย หรือไม่ก็เป็นชู้กับผัวชาวบ้านเขา” ตฤณครุ่นคิด แต่เขาก็บอกกับตัวเองว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย สิ่งที่ควรจะทำในตอนนี้ก็คือส่งคืนโทรศัพท์ให้กับเจ้าของ คิดดังนั้นก็ตัดสินใจสุ่มหมายเลขโทรศัพท์ส่งเดชจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่องแล้วกดโทรออก

หลังเสียงสัญญาณดังต่อเนื่องไม่กี่ครั้งก็มีผู้รับสาย แต่ตฤณไม่ได้กรอกเสียงลงไปทันที หากแต่รอฟัง ครั้นได้ยินเสียงผู้หญิงผ่านมาตามสายก็นึกโล่งใจ โชคดีที่ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์คู่ขาของหญิงสาวเจ้าของโทรศัพท์ ซึ่งหลังจากสนทนาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ทราบว่าคนรับสายชื่อเต็มเดือนเป็นเพื่อนสนิทกับหญิงสาวเจ้าของโทรศัพท์ ถึงกระนั้นหล่อนก็ปฏิเสธที่จะมารับของคืนแทนเพื่อนโดยอ้างว่าไม่สะดวก ซ้ำยังรบกวนเขาให้ช่วยส่งมอบโทรศัพท์ให้ถึงมือเพื่อนสนิท

แม้ลึกๆ ตฤณจะทราบว่าคู่สนทนากลัวการออกมาพบชายแปลกหน้าในยามวิกาล แต่ก็ไม่ได้เอ่ยขัด หากแต่รับคำอย่างมีน้ำใจ หลังจากสอบถามชื่อที่อยู่ของเจ้าของโทรศัพท์เป็นที่เรียบร้อย เขาก็กดตัดสัญญาณโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปหาความสำราญในผับตามที่ตั้งใจไว้ในทีแรก...



ตฤณเปิดเปลือกตาขึ้นในตอนสายๆ ของวัน หลังจากทำกิจกรรมบนเตียงกับสาวรักสนุกที่หิ้วมาเมื่อคืน เช้านี้เขาไม่มีอารมณ์จะทำเรื่องอย่างว่า แม้เวลานี้หล่อนจะยุ่มย่ามกับบางส่วนบนร่างกายเขา นั่นอาจจะเป็นเพราะพอสร่างเมาแล้วเห็นใบหน้าของหล่อนถนัดตาในยามที่ปราศจากแสงสี จู่ๆ เขาก็หมดอารมณ์ไปเฉยๆ

“พอเถอะ...” ตฤณบอกเนือยๆ พลางผละออกห่างพาสรีระกำยำสมบุรุษที่เจ้าตัวภูมิใจนักหนาไปหยิบกระเป๋าสตางค์ในกางเกงที่สลัดทิ้งเรี่ยราดบนพื้นตั้งแต่เมื่อคืน ครั้นหันกลับก็หยิบธนบัตรยื่นให้คู่นอนสาว

แม้แม่สาวรักสนุกจะหน้าเจื่อนกับการกระทำนั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการตัดพ้อ หากแต่หลุบสายตาลงต่ำมองซิกแพคเป็นลอนสวย นึกเสียดายลีลารักเร่าร้อนที่ทำให้ลุกเป็นไฟทั้งคืน แต่โชคไม่ดีที่หล่อนมัดใจผู้ชายคนนี้ไม่อยู่ ไม่อย่างนั้น...คงได้สนุกต่อกันอีกสักพัก อาจจะหนึ่งหรือสองสัปดาห์เป็นอย่างน้อย

“ขอบคุณค่ะพี่ แล้ววันหลังแวะไปที่ผับอีกนะ หนูเที่ยวที่นั่นทุกคืน” แม่สาวรักสนุกโปรยยิ้มหวาน ครั้นเห็นจำนวนธนบัตรที่ตฤณยื่นให้ก็คว้าหมับ รีบหยิบเสื้อผ้าเดินหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างรู้งาน กลับออกมาอีกครั้งก็ไม่ลืมส่งจูบให้เขาเป็นการทิ้งท้ายแล้วก้าวออกจากห้องไป

“ผู้หญิง...จะต้องการอะไรมากไปกว่าเงิน” ตฤณหยักยิ้มมุมปาก พลางโยนกระเป๋าสตางค์ไปบนที่นอนแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินผิวปากเข้าห้องน้ำ

ในความคิดของตฤณ...ผู้หญิงรักสนุกชอบเที่ยวผับเที่ยวบาร์ปล่อยตัวมั่วผู้ชายก็เป็นได้แค่อาหารว่างจานหนึ่ง ไม่ใช่อาหารจานหลักที่จะนำมาตั้งโต๊ะอาหาร ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติ เพราะต่างก็รู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี เหมือนไก่เห็นตีนงู งูก็เห็นนมไก่ รักสนุก...เขาก็พร้อมจะสนองตอบ แต่ต้องไม่มีภาระผูกพัน

ใครต่อใครหลายคนอาจจะมองว่าตฤณเป็นคนร้ายกาจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่เลย เขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง...มีความคิดมีความรู้สึก มีความต้องการเฉกเช่นผู้ชายทั่วไป จึงไม่ใช่เรื่องแปลก...ที่เขาจะต้องการใครสักคนมารองรับความใคร่ในยามที่อารมณ์พลุ่งพล่าน

ครั้นตฤณจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ก้าวออกจากห้องน้ำคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ ตั้งใจจะไปพบน้องสาว ทว่า...เมื่อเหลือบเห็นโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงก็นึกถึงแม่เมรีขี้เมาหน้าผับขึ้นมาได้ เขาคงต้องทำหน้าที่พลเมืองดีให้เสร็จเสียก่อนแล้วค่อยไปจัดการเรื่องน้องสาวต่อ

ไวเท่าความคิด ตฤณคว้าโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วก้าวออกจากห้องพัก ลงไปเรียกแท็กซี่ที่มาจอดรอรับผู้โดยสารที่ด้านหน้าโรงแรม ไม่นานนักก็มาถึงคอนโดฯ หรูในย่านชุมชน ทันทีที่ก้าวลงจากรถแท็กซี่แล้วแหงนหน้ามองอาคารสูงระฟ้ารูปทรงทันสมัยก็อดคิดเล่นๆ ตามนิสัยห่ามๆ ของผู้ชายขึ้นมาไม่ได้...

ผู้หญิงคนนี้คงมีลีลาบนเตียงเด็ดดวงไม่เบา

ไม่อย่างนั้น...เสี่ยกระเป๋าหนักที่อุปถัมภ์ค้ำชูคงไม่ลงทุนซื้อห้องชุดสุดหรูราคาแพงหูฉี่ให้หล่อน

คนคิดไปไกลเบ้ปาก ไม่ชอบใจสักนิด เมื่อมโนภาพใบหน้างามผุดขึ้นมาในความคิด เขาเกลียดเรื่องผิดผัวผิดเมียชาวบ้าน อีกทั้งยังเชื่อสนิทว่าหญิงสาวเจ้าของโทรศัพท์รักจะปีนต้นงิ้ว หล่อนถึงได้ทำตัวสิ้นคิดเข้าไปพัวพันกับคนที่มีเจ้าของแล้ว

“สวยเสียเปล่า...แต่สวยไร้สมองไม่สร้างสรรค์เลยนะแม่คุณ!”

ตฤณค่อน ครั้นก้าวเข้าไปในคอนโดฯ หรูก็ฝากโทรศัพท์ไว้กับประชาสัมพันธ์ เขาไม่รอพบเจ้าของ เพราะร้อนใจเรื่องน้องสาว อีกทั้งยังไม่ต้องการคำขอบคุณตามมารยาท ด้วยเห็นว่าการทำความดีไม่จำเป็นต้องให้ใครมารับรู้ แค่แสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็น่าจะพอแล้ว...





“พี่ตฤณ...พี่ตฤณต้องช่วยรินนะ พี่ต้องพูดกับคุณกวี บอกให้เขาเลิกกับนังนั่นให้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น...รินต้องอกแตกตายแน่ๆ” ระรินถลาเข้าไปซบอกพี่ชายร้องไห้ฟูมฟาย ทันทีที่ก้าวลงบันไดจากชั้นบนของตัวคฤหาสน์แล้วเห็นเขานั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวภายในห้องรับแขก

“ใจเย็นๆ ก่อนน่าริน เราพูดไปร้องไห้ไปแล้วพี่จะรู้เรื่องไหม”

“ก็ใครจะไปใจเย็นไหว ลองพี่ตฤณเป็นรินบ้างสิ แล้วพี่ก็จะรู้ว่าหัวอกคนเป็นเมียที่ถูกสามีนอกใจมันเป็นยังไง ตอนนี้รินทั้งเจ็บทั้งอาย เวลาเดินไปไหนก็มีแต่คนซุบซิบนินทาว่าผัวมีเมียน้อย” ระรินปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย น้ำตาที่นองหน้าเรียกคะแนนสงสารจากตฤณได้มากกว่าครึ่ง ถึงกระนั้นเขาก็ยังแก้ต่างแทนเพื่อนสนิท

“รินเอาอะไรมาพูด ไอ้กวีน่ะเหรอจะกล้าทำอย่างนั้น มันไม่ใช่คนเจ้าชู้สักหน่อย”

“พี่ตฤณจะไปรู้อะไร วันๆ พี่ก็ยุ่งอยู่กับงานที่โรงแรมทางใต้ พี่ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้คุณกวีเขาเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่มาเจออีนังผู้หญิงร่านรักคนนั้น”

“ริน! ทำไมพูดจาไม่น่ารักเลย ขึ้นไอ้ขึ้นอีอย่างนี้ ถ้าใครมาได้ยินเข้า...”

“ก็ช่างปะไร รินไม่สนหรอก รินอยากจะด่าอีนังนั่นให้เจ็บแสบ เป็นเพราะมันคนเดียว มันยั่วคุณกวีจนเขาไม่สนใจริน วันๆ เขาก็ขลุกอยู่กับมัน ทั้งรักทั้งหลงปกป้องสารพัด เขารับมันเข้ามาทำงานที่โรงแรมให้รินได้อายยังไม่พอ ยังยกคอนโดของพ่อเขาให้มันอีก”

“เป็นไปได้เหรอเนี่ย...” ตฤณมีสีหน้าแปลกประหลาดใจไม่ใช่น้อย ถึงกระนั้นก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียว เพราะเขากับกวีคบหากันมานานตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ซึ่งต่างคนต่างก็รู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี

“เป็นได้หรือไม่ได้ก็เป็นไปแล้ว...และก็ไม่ใช่แค่นั้นด้วยนะ แต่ยิ่งกว่านั้นเสียอีก รินว่านังนั่นต้องทำเสน่ห์ใส่คุณกวีแน่ๆ”

“เหลวไหล...เชื่ออะไรกับเรื่องงมงาย”

“รินไม่ได้งมงายนะ พี่ตฤณต้องฟังริน ทุกวันนี้คุณกวีเขากลับบ้านบ้างไม่กลับบ้าง เป็นอย่างนี้มาเป็นเดือนๆ จนรินจะบ้าตายอยู่แล้ว”

“พี่รู้ว่ารินร้อนใจ แต่เอะอะโวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไว้รอให้พี่ถามไอ้กวีดูก่อนไม่ดีกว่าเหรอ บางทีอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด อาจจะไม่ใช่อย่างที่รินคิดก็ได้” ตฤณวางมือบนไหล่บางพลางตบเบาๆ ปลอบใจกึ่งเตือนสติ เขาไม่อยากให้ใครมองน้องสาวในแง่ลบ ด้วยทราบดีว่าการเต้นแร้งเต้นกาเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติสามี ซึ่งคงไม่มีผู้ชายคนไหนพอใจนัก

“นี่พี่ตฤณไม่เชื่อรินใช่ไหม ทั้งที่รินก็บอกไปแล้วว่าคุณกวีมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น หรือจะรอให้นังนั่นท้องโตขึ้นมาเสียก่อน พี่ถึงจะจัดการให้รินได้!”

“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่พี่อยากให้รินหนักแน่นและมีเหตุผลมากกว่านี้ รินก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน...จะทำอะไรก็ต้องใจเย็นๆ”

“แต่รินเย็นไม่ไหวแล้ว รินจะไม่ยอมเป็นคนโง่ให้ผัวมาสวมเขา!”

“แต่พี่ว่า...”

“พี่ตฤณไม่ต้องมากล่อมเสียให้ยาก รินรู้นะว่าพี่ไม่เชื่อริน ถ้าคิดว่ารินกุเรื่องขึ้นมาละก็ รินจะพาไปพิสูจน์กับตาตัวเอง แล้วพี่ตฤณก็จะรู้ว่ารินไม่ได้โกหก!” ระรินไม่ได้พูดเปล่า หากแต่รั้งแขนพี่ชายให้ลุกขึ้น ยืนยันคำพูดด้วยการพาไปบุกที่ทำงานสามี...




สามารถโหลดอ่านได้แล้วที่...

http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjA4NDciO30




กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ม.ค. 2558, 01:37:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ม.ค. 2558, 01:43:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1309





<< ตอนที่1   ตอนที่ 3 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account