เมียเก็บ e-book
หล่อนคือหนามยอกยอกน้องสาวที่สมควรกำจัดให้พ้นทาง แต่กลับย้อนมาทิ่มแทงใจเขาให้ปวดร้าว แสนชิงชัง แต่กลับหลงใหลในวังวนเสน่หนา ใต้คำครหาหยามเหยียด...กืนน้ำใต้ศอกเพื่อนสนิท!

**หมายเหตุ**
งานเขียนนี้เคยตีพิมพ์ในนามปากกา ทิตภากร ปัจจุบันเนื้อหาได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความสมบูร์ของเนือเรื่อง

(เปิดให้อ่านบางส่วนเท่านั้น!!)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 5


“คุณว่าใครปากร้าย!”

รสาหันขวับ หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทีเดียว เมื่อเห็นเจ้าของน้ำเสียงดุๆ ยืนตีหน้ายักษ์ ให้ตายสิ! หมอนี่มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“คุณตฤณ...”

รสายิ้มแหยๆ หน้าเจื่อนสนิท ครั้นเห็นตฤณมองโทรศัพท์ในมือ หล่อนก็รีบป้องปากกระซิบกระซาบกับเต็มเดือนผ่านกระบอกหูโทรศัพท์แล้วตัดสัญญาณทิ้ง ยืนก้มหน้านิ่งไม่ต่างจากนักเรียนกระทำความผิดแล้วถูกอาจารย์จับได้

“ผมถามว่าคุณว่าใคร!”

รสาสะดุ้งเล็กน้อย พลางช้อนตาขึ้นมองเจ้าของคำถามที่กระชากเสียงถามเกือบจะเป็นตวาด อึกอัก ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร แต่อีกฝ่ายก็ไม่รอคำตอบ หากแต่คาดคั้นเสียงดังอีกครั้ง

“คุณว่าผมใช่ไหม!”

“เอ่อ...ไม่ใช่นะคะ คือ...”

“ไม่ต้องมาปฏิเสธ ผมได้ยินเต็มสองหู ให้ตายสิ! ผมไม่เคยเจอพนักงานคนไหนห่วยแตกเหมือนคุณมาก่อน ทำงานก็ไม่เรื่องแล้วยังจะนินทาแขกหน้าห้องพักเขาอีก ช่างกล้าเหลือเกินนะ หรือคิดว่าตัวเองเส้นใหญ่”

“ขอโทษค่ะ คือดิฉัน...”

“ไม่ต้องพูด หน้าที่ของคุณตอนนี้คือฟัง!” ตฤณเอ็ด สีหน้าแววตาเขาบ่งบอกความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดจนรสาต้องก้มหน้างุด

“ถามจริงๆ เถอะ งานที่คุณถนัดคือการทำแต่เรื่องแย่ๆ หรือไง ทำไมไม่รู้จักปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น หรือทำเรื่องดีๆ บ้าง จะได้ไม่ต้องพูดขอโทษคนอื่นเขาบ่อยๆ”

“ค่ะ ต่อไปดิฉันจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ไม่ทราบว่าที่คุณออกมานี่มีอะไรจะเรียกใช้ดิฉันหรือเปล่าคะ หรือว่าอยากได้อะไรเป็นพิเศษ ดิฉันจะไปเอามาให้ค่ะ” รสาบอกอย่างสุภาพ รู้ตัวว่าผิดสมควรถูกตำหนิ ถึงกระนั้นก็พยายามแก้ไขสถานการณ์ให้อีกฝ่ายอารมณ์เย็นลง ทว่า...

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ถ้าคุณทำผิดอีกละก็ ผมเล่นงานจริงๆ แล้วก็อย่าคิดว่าไอ้กวีจะคุ้มหัวได้ คนอย่างมันไม่กล้าเอาชื่อเสียงของโรงแรมมาแลกกับคนอย่างคุณหรอก” ตฤณชี้หน้าคาดโทษ ทำท่าจะหมุนตัวกลับ แต่นึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง

“อ้อ แล้วก็เลิกใช้โทรศัพท์ในขณะปฏิบัติงานด้วย”

“ค่ะ” รสาตอบรับเสียงเบาพลางชำเลืองมองตามร่างสูง ครั้นเห็นเดินหายเข้าไปในห้องก็พ่นลมหายใจออกมา อึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงกระนั้นก็ไม่ถอดใจ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะลบอคติในใจของแขกคนนี้ให้ได้

“สู้ๆ รสา เรื่องแค่นี้สบายมากน่า”

แม้จะบอกตัวเองอย่างนั้น แต่ก็หนักใจไม่น้อย ถึงกระนั้นก็กดลิฟต์ลงไปสอบถามข้อมูลของแขกรายนี้จากนภดลตามที่ตั้งใจไว้ในทีแรก เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมไว้รับมือเขาในช่วงบ่าย...




“อะไรนะคะ!”

รสามีสีแปลกประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากทราบข้อมูลของตฤณจากปากของนภดลซึ่งเป็นหัวหน้าโดยตรงของหล่อน อยากจะคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น แต่คำอธิบายที่ตามมาก็ทำให้หล่อนไม่สบายใจ

“ก็อย่างที่ผมบอกคุณไปนั่นแหละ คุณตฤณเป็นพี่ชายของคุณระริน นอกจากเขาจะมีศักดิ์เป็นพี่เมียคุณกวีเจ้านายเราแล้ว เขากับคุณกวีก็ยังเป็นเพื่อนรักกันอีก ความสัมพันธ์หลายชั้นทีเดียวล่ะคุณ”

“มิน่า...ถึงได้ทำตัวกร่าง เขามีอภิสิทธิ์มากกว่าแขกคนอื่นนี่เอง”

รสาพึมพำ วูบหนึ่งของความคิดคลับคล้ายคลับเหมือนเคยเห็นหน้าตฤณที่ไหนมาก่อน แต่ก็จำได้แค่เรื่องที่เดินสวนกันในห้องของกวี หล่อนหลงลืมเรื่องที่เคยพบเขาที่หน้าผับไปเสียสนิท

“ที่จริงผมก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของใครหรอกนะ แต่อยากจะเตือนว่าคุณตฤณกับคุณระรินนิสัยต่างกัน รายนั้นไม่ขี้วีนเหมือนน้องสาว แต่จัดอยู่ในประเภทกัดไม่ปล่อยเสียมากกว่า ก็อย่างว่าละนะ...คนใต้รักใครก็รักจริง ถ้าโกรธเกลียดขึ้นมาก็เกลียดเข้าไส้ ที่ผมพูดเนี่ยไม่ได้มีประสบการณ์โดยตรงหรอกนะ แต่เผอิญมีเพื่อนเป็นคนใต้อยู่หลายคน”

“ขอบคุณค่ะที่เตือน” รสายิ้มบาง ขอบคุณมิตรไมตรีจิตของคนเป็นนาย อย่างน้อย...ก็ยังมีคนใส่ใจห่วงใยหล่อนอยู่บ้าง

“เอาเป็นว่า...คุณจะทำอะไรก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาผมได้ อดทนเข้าไว้ ผมอยากร่วมงานกับคนขยันอย่างคุณไปนานๆ อย่าลาออกด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง” นภดลนึกเห็นใจคนใต้อาณัติ นั่นอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นมนุษย์เงินเดือนที่รู้และเข้าใจสภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนทราบดีถึงผลกระทบที่จะเกิดกับครอบครัว หากถูกเพ่งเล็งหรือโดนกลั่นแกล้งให้ออกจากงาน

“ทำไมพูดอย่างนี้ละคะ หรือว่าคุณไปรู้อะไรมา” รสานึกฉงน สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยคู่นั้นทำให้นภดลรู้ตัวว่าพลาดไปถนัดที่พลั้งปากพูดออกไป

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ผมก็แค่พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย”

แม้นภดลจะยิ้มกลบเกลื่อน แต่รสาไม่เชื่อคำพูดนั้นสักนิด ขยับปากจะซักถาม แต่โทรศัพท์สายตรงบนโต๊ะทำงานของนภดลก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน หล่อนก็เลยจำต้องเก็บคำถามทั้งหมดไว้ เมื่อเขาหันไปยกหูโทรศัพท์จากแป้นวาง

“นภดลครับ...”

“คุณดูแลลูกน้องของคุณยังไง ทำงานก็ไม่ได้เรื่อง จะเรียกใช้อะไรก็หายหัวไปไหนก็ไม่รู้”

น้ำเสียงกระด้างบ่งบอกความหงุดหงิดที่ดังผ่านกระบอกหูโทรศัพท์ทำให้นภดลต้องเหลือบมองคนในปกครองแล้วพ่นลมหายใจออกมา พลางแก้ต่างอย่างสุภาพ

“ผมต้องขอโทษแทนคนของผมด้วยครับ รสาเพิ่งย้ายมาทำหน้าที่นี้ เธออาจจะทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เอาเป็นว่า...ผมจะเปลี่ยนบัตเลอร์ให้คุณใหม่ดีไหมครับ คุณจะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น”

“ไม่ต้อง! บอกให้เธอรีบขึ้นมาพบผมก็พอ” ตฤณกระชากเสียงห้วนๆ สวนกลับไปแล้ววางสายตัดบทหน้าตาเฉยโดยไม่รอฟังคำตอบ

“เฮ้อ...ให้มันได้อย่างนี้สิ!” นภดลส่ายหน้าพลางวางหูโทรศัพท์ลงกับแป้นวาง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนอารมณ์ขุ่นสมคบคิดกับน้องสาวตั้งใจจะกลั่นแกล้งรสา แต่พูดมากไปก็ไม่ใช่เรื่อง ครั้นหันมองคนที่อยู่ใต้อาณัติเห็นมีสีหน้าไม่สบายใจ เขาก็ได้แต่ถอนหายใจ

“ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?”

“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก คุณขึ้นไปดูแลคุณตฤณเถอะ”







“ทำอะไรอยู่นะ จะต้องให้จุดธูปเชิญไหมเนี่ย”

ตฤณพ่นคำพูดออกมาอย่างหงุดหงิด พลางคว้าแก้วบรั่นดีมาจิบ เขานั่งรอแม่บัตเลอร์สาวอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ภายในเพนเฮ้าส์มาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา คิดว่าจะโทรไปหานภดลอีกรอบ แต่ประตูห้องพักก็เปิดออกเสียก่อน

“ทำไมเพิ่งมา หรือมัวแต่ไปหว่านเสน่ห์กับผู้ชายอยู่” ตฤณส่งคำพูดฟาดฟันออกไป เขาไม่ได้หันมองเสียด้วยซ้ำ หากแต่จับจังหวะจากเสียงรองเท้าที่มาหยุดอยู่เบื้องหลัง

รสากัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ จ้องแผ่นหลังกว้างของคนที่ส่งคำพูดมาค่อนขอด หากเวลานี้ดวงตาของหล่อนเป็นไฟ เขาคงมอดไหม้เป็นจุลไปแล้ว แม้จะไม่พอใจในคำปรามาสนั้น แต่ก็จำต้องสงบปากสงบคำ เมื่อนึกถึงคำเตือนของนภดล ทั้งที่อยากจะโต้ตอบกลับไปให้คนวางตัวเป็นผู้คุมนั้นหน้าหงายว่า...

หล่อนจะไปหว่านเสน่ห์กับใครก็ไม่ใช่เรื่องของเขา!

“ดิฉันกลับไปเอาเสื้อผ้ามาค่ะ พอดีไม่ทราบมาก่อนว่าต้องมาทำหน้าที่นี้ก็เลยไม่ได้เตรียมตัวมา” รสาชี้แจงเสียงเรียบ แม้จะทราบดีว่าคนที่หันมาเผชิญหน้าไม่รับฟัง เขามีอคติและจ้องจับผิดหล่อน

“แล้วไหนล่ะกระเป๋า ถ้าจะโกหกก็ทำอะไรให้แนบเนียนกว่านี้หน่อย”

“เอาไปเก็บที่ห้องพักพนักงานแล้วค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเอามา”

“เอ๋...?”

“สงสัยอะไร”

“คือ...คุณอาจจะไม่ทราบว่าบัตเลอร์มีห้องพักพนักงานที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้แล้ว เราจะไม่พักรวมกับแขกน่ะค่ะ”

“เรื่องนั้นผมทราบดี แต่ไม่อยากโทรตามตัวให้วุ่นวาย เผื่อดึกๆ นึกอยากเรียกใช้ขึ้นมาจะได้สะดวก”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ หัวใจของงานบริการคืออะไรคงไม่ต้องให้ผมบอก เพราะคุณคงรู้อยู่แล้วว่าลูกค้าคือพระเจ้า!”

รสากัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่จ้องคนเรื่องมากเขม็ง คิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้ไม้นี้ ครั้นตฤณเห็นหล่อนยังนิ่งเฉยก็เอ่ยเสียงดังอีกครั้ง

“จะมายืนจ้องหน้าผมอยู่ทำไม หรือว่ามีปัญหาอะไร”

“เปล่าค่ะ...”

“ถ้าอย่างนั้น...ก็รีบไปเอากระเป๋ามาสิ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าดึกๆ ผมจะย่องเข้าหา เพราะต่อให้คุณยั่วผมอีกสิบแปดกระบวนท่า ผมยังต้องขอคิดดูก่อนเลยว่าจะลากผู้หญิงมือสองอย่างคุณขึ้นเตียงดีหรือเปล่า” ตฤณยิ้มหยันแล้วหันไปหยิบบรั่นดีสาดลงลำคอ เขาไม่คิดจะให้เกียรติ เพราะปักใจเชื่อว่ารสามีพฤติกรรมสำส่อน ซ้ำยังชอบแย่งสามีชาวบ้าน ครั้นวางแก้วบรั่นดีลงบนเคาน์เตอร์บาร์ก็เดินเข้าห้องโดยไม่สนใจหล่อนอีก


โหลดอ่านได้แล้วที่....
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjA4NDciO30



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ม.ค. 2558, 01:55:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ม.ค. 2558, 01:55:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1278





<< ตอนที่ 4   ตอนที่ 6 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account