ทัณฑ์ดอกรัก
เนิ่นนานกว่าร้อยปี โชคชะตาจึงชักพาเธอมาพบเจอกับเขาอีกครั้ง เธอถูกหว่านล้อมลวงหลอกด้วยเล่ห์กะเท่ห์มารยาของหนุ่มนักเลงกลอนอายุร่วมร้อยปีที่แสนน่ารัก โรคใจอ่อนกำเริบจนอ่อนใจ น่ากลัวว่า เธอจะเผลอตัวเผลอใจยอมตกห้วงรักอันแสนเย้ายวนไปร่วมกับเขาเข้าสักวัน
เพียงแต่คนบางคน หรือจะยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น!
“ผมไม่สนใจว่าเขาจะเป็นวิญญาณบรรพบุรุษสายไหนของผม ผมรู้แต่ว่าเขาควรอยู่ส่วนเขา ส่วนคุณ...คุณต้องอยู่กับผม!”
(วิญญาณน่าเจี๊ยะ เจ้านายน่าแซะค่ะ ^^ เชิญเลือกหม่ำตามสบาย)
เพียงแต่คนบางคน หรือจะยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น!
“ผมไม่สนใจว่าเขาจะเป็นวิญญาณบรรพบุรุษสายไหนของผม ผมรู้แต่ว่าเขาควรอยู่ส่วนเขา ส่วนคุณ...คุณต้องอยู่กับผม!”
(วิญญาณน่าเจี๊ยะ เจ้านายน่าแซะค่ะ ^^ เชิญเลือกหม่ำตามสบาย)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: เปิดตัว (2/2)
ลมเย็นเอื่อยพัดแผ่วโชยเอากลิ่นโมกแคระซึ่งห้องข้างๆปลูกไว้ที่ระเบียงเผื่อแผ่มาถึง ปัญญ์ปรียายืนยื่นหน้ารับลมและสูดกลิ่นหอมเย็นให้สมองโล่งปลอดโปร่ง ปากอมยิ้มฮัมเสียงไปตามเพลงที่ตนเปิดฟัง ปล่อยให้ท่วงทำนองช้าๆผ่อนจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วกว่าปกติลงบ้าง
“โอ๊ย! นอนไม่หลับ”
เสียงงอดแงดงอแงของเพื่อนร่วมห้องลอดเข้ามาแม้ปัญญ์ปรียาจะเสียบหูฟังไว้ทั้งสองข้าง เจ้าของเสียงเปิดประตูออกมาปล่อยน้ำหนักทิ้งตัวข้างๆเธอพลางถอนใจเฮือก
“เป็นอะไร ร้อนเหรอ” หญิงสาวดึงหูฟังออกข้างหนึ่ง แล้วหันไปถามไถ่ ตัวเธอก็นอนไม่หลับแต่มั่นใจว่าเหตุผลของตนกับเพื่อนไม่เหมือนกัน
“ล้มตัวลงนอนทีหมูกระทะมันล้นมาที่คอแทบทะลัก” จอมขวัญเฉลยพลางทำหน้ายู่ย่น มือลูบพุงที่นูนเด่นขณะโอดครวญ
“ใครให้กินเยอะนักเล่า” ปัญญ์ปรียาหัวเราะเบาๆก่อนหลบตา หันไปวุ่นวายกับการจิ้มโทรศัพท์มือถือ เปิดปิดโปรแกรมเดิมซ้ำไปมา เพราะเครื่องราคาไม่กี่พันไม่มีฟังก์ชั่นใช้งานอะไรมากมาย
“ก็มันอร่อยนี่ พูดแล้วน้ำลายยังสอ” คนตะกละไม่ทันสังเกตปฏิกิริยาเพื่อน รสหมูย่างกับน้ำจิ้มรสแซ่บแถมด้วยน้ำซุปร้อนๆเหมาะกับอากาศเย็นๆตอนกลางคืนยังทำให้เกิดความอยากอาหารขึ้นมาอีก ทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้ “มันอร่อยจริงๆนะแก คิดถูกจริงๆที่ถ่อไปตั้งไกลกับพวกพี่เขา ไม่แพงด้วย กินกันหกคน มูมมามตายอดตายอยากมากแต่หารออกมาร้อยนิดๆเอง หมูเขาหมักดี หวานๆมีกลิ่นน้ำมันงาหอมๆ น้ำซุปนี่จัดว่าเด็ดมาก-ก-ก-ก-ก-ก...เอากอไก่ไปอีกล้านตัวเลย”
เสียงท้องคนฟังลั่นครอกๆฟ้องความอยากจนจอมขวัญขำ
“โหยแก ท้องร้องหรือฟ้าร้องเนี่ย ดังไปมั้ย นี่ถ้าแกไม่ต้องไปทำงานนะ ฉันลากไปด้วยแล้ว แกทำงานที่นี่เสียอย่างเดียว วันหยุดไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง”
“ไปแล้วฉันจะรู้จักใครละ คนที่ทำงานแกทั้งนั้น ต่อให้ฉันหยุดฉันก็ไม่ไปด้วยหรอก” คนหิวบ่น แตะมือลงบนหน้าท้องแบนๆ พลางนึกในใจว่าตนคงจะอิ่มทิพย์กินน้อยไปหน่อย จึงย่อยหมดเร็วแบบนี้
“เย็นกินไรมาหรือไม่ได้กิน วันนี้แกกินมังนี่”
“กินชมพู่ไป” ปัญญ์ปรียาตอบเสียงเบา แล้วหมุนตัวหันมาใช้หลังพิงแนวระเบียง มือกำโทรศัพท์มือถือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อการสนทนาวนเวียนมาถึงเรื่องการกินมังสวิรัติทุกวันเกิดของเธอ ดูเหมือนลมที่พัดมาจะทำให้ร้อนตัวอย่างไรพิกล!
“แกเป็นอะไรกับคนขายชมพู่วะ” จอมขวัญหันตามแล้วก้มลงช้อนหน้ามองเพื่อนที่ก้มหน้างุดๆดูมีพิรุธ
“ฮะ...อะไร! บ้าแล้วแกนี่” เสียงปฏิเสธดังกว่าปกติ คนปฏิเสธก็ออกมือออกไม้วาดลวดลายกว่าปกติเสียด้วย เพื่อนที่ร่วมห้องกันมานานหลายปีจึงค้อนขวับ
“กินชมพู่หรือคนขาย ทำไมต้องเขิน! คายมาเดี๋ยวนี้! แกจะมีความลับกับฉัน ฉันไม่ยอมนะ!”
“บ้า! ไม่มีอะไรสักหน่อย”
“อะไรๆ อย่ามา! พิรุธอย่างนี้เรื่องผู้ชายแน่ๆ แกไม่สนเจ้านายแล้วไปสนคนขายผลไม้นี่ไม่เวิร์คนะเว้ย” จอมขวัญรัวใส่เป็นชุด ตบหลังตบไหล่เพื่อนเบาๆไปหลายทีหวังให้หลุดเล่าอะไรออกมาบ้าง แต่คนที่เคยเปิดเผยเล่าอะไรง่ายๆวันนี้กลับบิดๆม้วนๆอมพะนำ
“ฉันไม่ได้ปิ๊งคนขายผลไม้ แกก็เพ้อ!”
“อ่า...งั้นก็ปิ๊งเจ้านายเจ้าเก่า เขาส่งข้อความมาจีบแกอีกเหรอ” จอมขวัญตั้งข้อสังเกต ก่อนจะพบว่าปัญญ์ปรียากอดอกกกโทรศัพท์มือถือไว้แน่น “แน่ๆเลย! เขาส่งอะไรมา แกบอกฉันด้วยสิ ฉันอยากฟินมั่งอ่า”
“เหอะ! ไม่มีอะไร!” ปัญญ์ปรียารีบผลุบหนีเข้าไปภายในห้อง กระโดดขึ้นเตียงนอนคลุมโปงไม่ยอมเผยหน้าแดงก่ำของตนให้เพื่อนเห็น
“แกอย่าหนีฉันนะ เล่ามาก่อน อย่างนี้ฉันก็ยิ่งนอนไม่หลับสิ” จอมขวัญบ่นไล่หลังตามมาตะครุบตัวไม่ทัน ก็ตั้งท่าจะดึงผ้าห่มออกให้เพื่อนมาคุยต่อให้รู้เรื่อง
“ไม่อะ ฉันง่วงแล้ว” ปัญญ์ปรียาปดเสียงอู้อี้จากในผ้าห่ม นึกโทษเพื่อนอยู่ในใจว่าเธอไปยืนปลอบปรามหัวใจที่เต้นระริกๆอยู่ตั้งนานจนเกือบจะข่มตาหลับได้อยู่แล้ว กลับมาโดนสะกิดให้นึกถึงเขาอีกจนได้
จอมขวัญเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมตามใจตนแน่แล้ว จึงรามือจากการราวี แล้วบ่นกระปอดกระแปดเดินผละไปเปิดตู้เย็นหวังหาน้ำดื่มดับกระหายเผื่อจะน้ำจะช่วยให้หายใคร่รู้เสียด้วย แต่พอเห็นถุงชมพู่ลูกโตผิวสวยที่ถูกแกะจนลดพร่องไปนิดหน่อย วางเคียงกับส้ม แอปเปิล แคนตาลูปครึ่งลูกที่ยังปิดซีลอยู่เรียบร้อย แถมด้วยเชอรี่อีกหนึ่งกล่องใหญ่ที่ทำให้ตู้เย็นตู้เล็กดูคับแคบไปถนัดใจ เธอก็อมยิ้มตะโกนแซวอย่างมีชัย
“เฮ้ย! ไม่ใช่ขายแต่ผลไม้มั้งเจ้านี้ เขาขายขนมจีบด้วยเว้ย” จอมขวัญปิดประตูตู้เย็นแล้วปรี่ไปกระแซะเพื่อนที่กลายร่างเป็นดักแด้ไม่ยอมฟักออกจากผ้าห่ม “ให้ทาย เขาชื่อวรทใช่มั้ยแก”
แม้ไม่มีคำตอบยืนยัน แต่จอมขวัญมั่นใจว่าใช่จนหัวเราะคิกคักเขินแทน
คนในผ้าห่มอาการหนักกว่า เพราะอมยิ้มแก้มตุ่ย จะกรี๊ดดังๆสักทีให้ความขัดเขินได้ระบายออกจากอกบ้างก็ไม่ทำได้ด้วยอายเพื่อน ผลก็คือตาค้างนอนไม่หลับไปครึ่งค่อนคืน!
มือใหม่หัดขายขนมจีบก็อาการไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก เขานั่งหน้าขรึมอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เบื้องหน้าคืองบการเงินที่หอบหิ้วมาจากโคราชรอการตรวจตรา ทั้งที่นึกว่าถ้าจัดการบรรเทาปัญหาหัวใจจนเรียบร้อย จะมีสมาธิตรวจงานสักหน่อย แต่กลายเป็นว่าการเจอเธอชั่วครู่ชั่วยามทำให้อาการหนักกว่าเดิม
ถ้อยความประโยคต่อประโยคที่เจรจาพาทีกับเธอยังวนเวียนอยู่ในหัวยากจะขจัดออก ใบหน้านวลที่มักก้มหลบอย่างขัดเขิน ดวงตาคู่งามที่ช้อนมองเขาบ้างเป็นบางครั้งนั้นบังเกิดเป็นภาพจำในใจ
...
“วันนี้ปี่กินมังค่ะ ขอโทษนะคะ คุณวรทหิวเหรอคะ” แม้ไม่ใช่ความผิดอะไรของเธอ ยังกล่าวขอโทษคล้ายเป็นประโยคติดปาก เขาอดคิดไม่ได้ว่าหรือเธอจะรังเกียจจนต้องหาข้ออ้าง
“แต่ตอนที่ไปกินข้าวที่บ้าน” เขาตั้งข้อสังเกตขึ้น เธอจึงรีบอธิบายเป็นพัลวัน
“ปี่กินมังเฉพาะวันอาทิตย์น่ะค่ะ ที่จริงปี่ตั้งใจจะกินทุกวันเกิด ทั้งล้างท้องทั้งละบาปไปในตัว แต่ตอนเรียน ถ้ากินมังวันจันทร์จะหาของกินยาก อาจต้องแยกกินกับเพื่อนๆ ปี่เลยเปลี่ยนมาเป็นวันอาทิตย์แทน”
...
แม้รวบรวมความกล้าเอ่ยชวนเธอไปอย่างไร้มาด แต่แผนการยืดเวลาประสบความล้มเหลวในนาทีสุดท้าย เพราะเรื่องธรรมะธัมโมที่เขาคาดไม่ถึง วรทจำต้องส่งเธอกลับเข้าหอพัก หยิบยื่นกระเป๋าถือคืนให้แต่โดยดี
จนกระทั่ง เดินกลับมาถึงปากซอยแล้ว ใจมันยังค้างคา เขาจึงบอกตัวเองว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ปกติเขาไม่ใช่คนใจร้อน แต่เรื่องของเธอทำให้เขาร้อนใจได้ทุกทีไป
น่าตลกที่คนอายุขนาดเขายังทำตัวเหมือนเป็นหนุ่มแรกรัก แต่จะว่าไป เขาก็เริ่มรักเธอเป็นคนแรกจริงๆด้วย
วรทไม่เคยใช้ชีวิตอย่างคึกคะนองเรียนรู้ที่จะมีรักและหมดรักอย่างคนอื่นๆ เขาค่อนไปทางเด็กเรียนค่อนข้างเก็บตัว แม้เรียนโรงเรียนสหศึกษาแต่เพื่อนฝูงที่คบหากลับมีแต่ผู้ชาย
ด้วยหน้าตาและฐานะผู้หญิงทอดสะพานให้ย่อมมีมาก ต่อให้เขาจะหน้าดุเสียงโหดแถมยังเข้มงวดจริงๆจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่เพื่อน แต่สาวที่ใจกล้าท้าลองก็พอมีประปราย เพียงแต่พอเจอของจริงที่หนักหนากว่ากิตติศัพท์ที่ลือกัน สุดท้ายพวกเธอมักเบี่ยงเป้าหมายไปหาบรรดาเพื่อนของเขาแทนเสมอ
เขาไม่เคยมีแฟนและได้เมียคนแรกจากการที่แม่จัดแจงหามาให้
ว่าที่แฟน...ที่เขาหวังแต่งเป็นเมียคนสุดท้าย...
เป็นครั้งแรกที่ต้องจีบเอง
...
ความมุ่งมั่นเร่งเร้าให้เขาเอารถออกอีกครั้งยามค่ำคืนเพื่อไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ห่างออกไป ขนซื้อผลไม้มาหลายชนิด หวังว่าจะมีสักอย่างหนึ่งที่ถูกใจเธอ เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นก็กลับมายืนเก้กังหน้าที่พักเธออีกครั้ง ก่อนจะโทรศัพท์หาเธอที่เบอร์ส่วนตัวเป็นครั้งแรก
“คุณวรท...มีอะไรให้ปี่ช่วยเหรอคะ” เธอทัก น้ำเสียงแปลกใจไม่น้อย
“ลงมาข้างล่างหน่อย”
เขาพูดอะไรไม่ค่อยถูก จึงได้แต่ก่นด่าตัวเองหลังจากนั้นเมื่อพบว่าประโยคที่คล้ายกับคำสั่งของเขาทำให้เธอรับคำลนลานและรีบลงมาหาเขาที่ด้านล่างจนกระหืดกระหอบ
หัวใจเขาเต้นแรง...
น่าโมโหที่เธอมีอิทธิพลต่อเขาขนาดนี้ ร่างที่เตี้ยเล็กกว่าอยู่เป็นคืบ ยืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้า ผิวหน้าไร้เครื่องสำอางกระจ่างนวล เธออาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้ว เสื้อผ้าบางไปสักหน่อยกับการออกมารับแขก แต่เจ้าตัวคงรีบมากจนไม่ทันคิด หรือไม่เขาก็คิดและมุ่งพิจารณาเธอมากเกินไป
เขาพยายามเลื่อนสายตาจากทรวงอกที่สะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะด้วยอาการหอบของเธอ มาถึงดวงตาคู่สวยที่แสนอยากรู้อยากเห็นแต่ก็เคลือบด้วยความกริ่งเกรงประหนึ่งกวางน้อยที่ประสบพบนายพรานเป็นครั้งแรก
“คุณวรท...มีอะไรให้ปี่ช่วยเหรอคะ”
เธอย้ำประโยคเดิมเหมือนตอนที่รับโทรศัพท์ เสียงของเธอช่วยเรียกสติเขาคืนกลับมาจากริมฝีปากอิ่มที่ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายแล้วกระแอมเบาๆ ก่อนตอบ
“ผมซื้อมาฝาก”
เขายื่นถุงผลไม้ส่งให้ แต่เธอยืนอึ้ง แม้เพียงชั่วครู่แต่นั่นก็นานพอให้เขาใจเสีย และต่อมรักศักดิ์ศรีก็ทำงานด้วยการหาข้ออ้างแก้ตัว
“ผมแวะไปซุปเปอร์ฯซื้อขนมให้หนูดี...พอดี...คิดว่าคุณคงยังไม่ได้กินอะไร”
“ขอบคุณนะคะ”
ตอนนั้น เธอรับมันไว้ ยืนก้มหน้านิ่งๆ เธอกำลังทำตัวไม่ถูก และเหมือนจะรู้ตัวว่าตัวเองรีบออกมาในชุดที่ไม่ค่อยจะเหมาะนัก
เขาเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน จึงกล่าวลาสั้นๆ ก่อนหมุนตัวจากมา
เดินห่างจากเธอออกมาได้หน่อย ใจเริ่มกล้าขึ้นบ้างจึงพอจะบังคับให้มือหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดข้อความอย่างรวดเร็ว
...ตั้งใจไปซื้อให้ หวังว่าชอบนะ...
วรทแทบเดินสะดุดยอดหญ้าที่สนามบ้าน ตอนที่ได้อ่านข้อความที่เธอส่งตอบกลับมา
ชอบคุณค่ะ
ใจมันสั่นตอนอ่าน แล้วมันก็สั่นมาถึงตอนนี้จนไม่เหลือสติจะทำงาน นานไม่ใช่น้อยกว่าโปรแกรมจะเด้งอีกหนึ่งข้อความที่พังทลายความพิเศษของข้อความแรกไปจนสิ้น
*ขอบคุณค่ะ
ขอโทษนะคะ มันอยู่ใกล้กันมากเลยกดผิด
เธอจะรู้ตัวบ้างไหมว่าทำอะไรลงไป ก่อนส่งเธอควรอ่านข้อความให้มันดีๆก่อนสิ ถือดีอย่างไรมาทำให้หัวใจคนอื่นเขาวุ่นวายขนาดนี้
ใบหน้าขรึมเคร่งที่ปั้นเก๊กไว้แต่แรกค่อยๆเผยยิ้ม คนยิ้มเองก็รู้ตัวว่าคล้ายคนบ้าขึ้นทุกทีจึงคว้าเอาแก้วน้ำมาดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะสำลักเพราะน้ำติดคอ เรียกเสียงหัวเราะจากลูกสาวที่ยืนหอบสมุดนิทานภาพมายืนรออยู่ตรงประตูโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว
“หนูดียังไม่นอนอีกเหรอ” เขาทักเบาๆ แล้วจิบน้ำอีกรอบเพื่อปิดบังรอยยิ้มที่ไม่ยอมหุบหาย
“หนูดีว่าถ้าคุณพ่อไม่มีสมาธิทำงาน คุณพ่อไปเล่านิทานให้หนูดีฟังเถอะค่ะ พี่หวานเล่าไม่หนุกเท่า”
“อะไร นี่พี่หวานของหนูดีมือตกแล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะ เล่าเรื่องอะไรไม่รู้เดิมๆ เจ้าหญิงเจ้าชาย หนูดีอยากฟังเรื่องเจ้านายกับลูกน้องมากกว่า”
วรทเพิ่งจะรู้ตัวว่าลูกตั้งใจเดินมาแหย่ก็ตอนท้ายประโยค ลูกสาวจอมแก่แดดหัวเราะกรี๊ดกร๊าด เมื่อสมประสงค์ก็รีบปิดประตูที่เชื่อมระหว่างห้องนอนกับห้องทำงานหนีหน้า
คนเป็นพ่อนั่งขำลูกขำตัวเอง ทั้งเขินทั้งกลุ้มใจ อยากเล่านิทานเรื่องเจ้านายกับลูกน้องที่มีตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งให้ลูกฟังได้เร็วๆ!
XXX
มีเฮแล้วค่ะ #ทีมวรท
สงสารคุณพี่ผีเหลือเกิน มัวแต่โศกเลยไม่ได้ออกลวดลาย ตอนนี้คุณวรทคาบหัวใจหนูปี่มาเสียแล้ว ไม่รู้คุณพี่เอื้อจะกวดมาคว้าคืนทันมั้ยนะ 555
ก้นเป็นไฟตามเคยค่ะสำหรับตอนนี้ ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอ่านกัน ^_^
ตอนหน้า วันหยุดของหนูปี่ค่ะ ให้ทายว่าใครจะมาทำคะแนน อิอิ
xxx
คุณดังปัณณ์ --- หนอนน้อยยยย โหยหวนอะไรปานนั้น เลือกไม่ถูกก็ไม่ต้องเลือก ข้าพเจ้าจะจัดให้ทั้งสองคน 5555
คุณโอชิน --- ตอนนี้เลือกไม่ได้ระหว่างเล่นหมากเก็บกับพี่เอื้อ และไปเก็บหมากกับชายแก่สินะคะ แหม คุณวรทก็ไม่ใช่ชราไลน์ขนาดนั้น ลูกหนึ่งเองงงงงง
คุณพันธ์แตงกวา --- ขุ่นพี่เจ้าขา สุดท้ายอดกินจิ้มจุ่มเจ้าค่ะ กินชมพู่แทน หวานๆอร่อยๆ ฟินๆเหมือนกันนะเจ้าคะ
คุณใบบัวน่ารัก --- เมียมีเมียพี่ต้องมานะคะ เดี๋ยวดูกันค่ะว่าเมียพี่จะโผล่มามั้ย แต่ไร่แห้วแผ้วถางรอคุณเอื้อครอบครองแน่แล้ว สงสารฮีจัง (ว่าแล้วก็หัวเราะด้วยความสงสารไปหนึ่งตลบ กร๊ากกก) กินชมพู่กันนะคะ
คุณ mhengjhy --- ไม่เนียนค่ะ สนิมเกาะแบบสะกิดทีร่วงกราวเลยทีเดียว ฮุฮิ
“โอ๊ย! นอนไม่หลับ”
เสียงงอดแงดงอแงของเพื่อนร่วมห้องลอดเข้ามาแม้ปัญญ์ปรียาจะเสียบหูฟังไว้ทั้งสองข้าง เจ้าของเสียงเปิดประตูออกมาปล่อยน้ำหนักทิ้งตัวข้างๆเธอพลางถอนใจเฮือก
“เป็นอะไร ร้อนเหรอ” หญิงสาวดึงหูฟังออกข้างหนึ่ง แล้วหันไปถามไถ่ ตัวเธอก็นอนไม่หลับแต่มั่นใจว่าเหตุผลของตนกับเพื่อนไม่เหมือนกัน
“ล้มตัวลงนอนทีหมูกระทะมันล้นมาที่คอแทบทะลัก” จอมขวัญเฉลยพลางทำหน้ายู่ย่น มือลูบพุงที่นูนเด่นขณะโอดครวญ
“ใครให้กินเยอะนักเล่า” ปัญญ์ปรียาหัวเราะเบาๆก่อนหลบตา หันไปวุ่นวายกับการจิ้มโทรศัพท์มือถือ เปิดปิดโปรแกรมเดิมซ้ำไปมา เพราะเครื่องราคาไม่กี่พันไม่มีฟังก์ชั่นใช้งานอะไรมากมาย
“ก็มันอร่อยนี่ พูดแล้วน้ำลายยังสอ” คนตะกละไม่ทันสังเกตปฏิกิริยาเพื่อน รสหมูย่างกับน้ำจิ้มรสแซ่บแถมด้วยน้ำซุปร้อนๆเหมาะกับอากาศเย็นๆตอนกลางคืนยังทำให้เกิดความอยากอาหารขึ้นมาอีก ทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้ “มันอร่อยจริงๆนะแก คิดถูกจริงๆที่ถ่อไปตั้งไกลกับพวกพี่เขา ไม่แพงด้วย กินกันหกคน มูมมามตายอดตายอยากมากแต่หารออกมาร้อยนิดๆเอง หมูเขาหมักดี หวานๆมีกลิ่นน้ำมันงาหอมๆ น้ำซุปนี่จัดว่าเด็ดมาก-ก-ก-ก-ก-ก...เอากอไก่ไปอีกล้านตัวเลย”
เสียงท้องคนฟังลั่นครอกๆฟ้องความอยากจนจอมขวัญขำ
“โหยแก ท้องร้องหรือฟ้าร้องเนี่ย ดังไปมั้ย นี่ถ้าแกไม่ต้องไปทำงานนะ ฉันลากไปด้วยแล้ว แกทำงานที่นี่เสียอย่างเดียว วันหยุดไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง”
“ไปแล้วฉันจะรู้จักใครละ คนที่ทำงานแกทั้งนั้น ต่อให้ฉันหยุดฉันก็ไม่ไปด้วยหรอก” คนหิวบ่น แตะมือลงบนหน้าท้องแบนๆ พลางนึกในใจว่าตนคงจะอิ่มทิพย์กินน้อยไปหน่อย จึงย่อยหมดเร็วแบบนี้
“เย็นกินไรมาหรือไม่ได้กิน วันนี้แกกินมังนี่”
“กินชมพู่ไป” ปัญญ์ปรียาตอบเสียงเบา แล้วหมุนตัวหันมาใช้หลังพิงแนวระเบียง มือกำโทรศัพท์มือถือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อการสนทนาวนเวียนมาถึงเรื่องการกินมังสวิรัติทุกวันเกิดของเธอ ดูเหมือนลมที่พัดมาจะทำให้ร้อนตัวอย่างไรพิกล!
“แกเป็นอะไรกับคนขายชมพู่วะ” จอมขวัญหันตามแล้วก้มลงช้อนหน้ามองเพื่อนที่ก้มหน้างุดๆดูมีพิรุธ
“ฮะ...อะไร! บ้าแล้วแกนี่” เสียงปฏิเสธดังกว่าปกติ คนปฏิเสธก็ออกมือออกไม้วาดลวดลายกว่าปกติเสียด้วย เพื่อนที่ร่วมห้องกันมานานหลายปีจึงค้อนขวับ
“กินชมพู่หรือคนขาย ทำไมต้องเขิน! คายมาเดี๋ยวนี้! แกจะมีความลับกับฉัน ฉันไม่ยอมนะ!”
“บ้า! ไม่มีอะไรสักหน่อย”
“อะไรๆ อย่ามา! พิรุธอย่างนี้เรื่องผู้ชายแน่ๆ แกไม่สนเจ้านายแล้วไปสนคนขายผลไม้นี่ไม่เวิร์คนะเว้ย” จอมขวัญรัวใส่เป็นชุด ตบหลังตบไหล่เพื่อนเบาๆไปหลายทีหวังให้หลุดเล่าอะไรออกมาบ้าง แต่คนที่เคยเปิดเผยเล่าอะไรง่ายๆวันนี้กลับบิดๆม้วนๆอมพะนำ
“ฉันไม่ได้ปิ๊งคนขายผลไม้ แกก็เพ้อ!”
“อ่า...งั้นก็ปิ๊งเจ้านายเจ้าเก่า เขาส่งข้อความมาจีบแกอีกเหรอ” จอมขวัญตั้งข้อสังเกต ก่อนจะพบว่าปัญญ์ปรียากอดอกกกโทรศัพท์มือถือไว้แน่น “แน่ๆเลย! เขาส่งอะไรมา แกบอกฉันด้วยสิ ฉันอยากฟินมั่งอ่า”
“เหอะ! ไม่มีอะไร!” ปัญญ์ปรียารีบผลุบหนีเข้าไปภายในห้อง กระโดดขึ้นเตียงนอนคลุมโปงไม่ยอมเผยหน้าแดงก่ำของตนให้เพื่อนเห็น
“แกอย่าหนีฉันนะ เล่ามาก่อน อย่างนี้ฉันก็ยิ่งนอนไม่หลับสิ” จอมขวัญบ่นไล่หลังตามมาตะครุบตัวไม่ทัน ก็ตั้งท่าจะดึงผ้าห่มออกให้เพื่อนมาคุยต่อให้รู้เรื่อง
“ไม่อะ ฉันง่วงแล้ว” ปัญญ์ปรียาปดเสียงอู้อี้จากในผ้าห่ม นึกโทษเพื่อนอยู่ในใจว่าเธอไปยืนปลอบปรามหัวใจที่เต้นระริกๆอยู่ตั้งนานจนเกือบจะข่มตาหลับได้อยู่แล้ว กลับมาโดนสะกิดให้นึกถึงเขาอีกจนได้
จอมขวัญเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมตามใจตนแน่แล้ว จึงรามือจากการราวี แล้วบ่นกระปอดกระแปดเดินผละไปเปิดตู้เย็นหวังหาน้ำดื่มดับกระหายเผื่อจะน้ำจะช่วยให้หายใคร่รู้เสียด้วย แต่พอเห็นถุงชมพู่ลูกโตผิวสวยที่ถูกแกะจนลดพร่องไปนิดหน่อย วางเคียงกับส้ม แอปเปิล แคนตาลูปครึ่งลูกที่ยังปิดซีลอยู่เรียบร้อย แถมด้วยเชอรี่อีกหนึ่งกล่องใหญ่ที่ทำให้ตู้เย็นตู้เล็กดูคับแคบไปถนัดใจ เธอก็อมยิ้มตะโกนแซวอย่างมีชัย
“เฮ้ย! ไม่ใช่ขายแต่ผลไม้มั้งเจ้านี้ เขาขายขนมจีบด้วยเว้ย” จอมขวัญปิดประตูตู้เย็นแล้วปรี่ไปกระแซะเพื่อนที่กลายร่างเป็นดักแด้ไม่ยอมฟักออกจากผ้าห่ม “ให้ทาย เขาชื่อวรทใช่มั้ยแก”
แม้ไม่มีคำตอบยืนยัน แต่จอมขวัญมั่นใจว่าใช่จนหัวเราะคิกคักเขินแทน
คนในผ้าห่มอาการหนักกว่า เพราะอมยิ้มแก้มตุ่ย จะกรี๊ดดังๆสักทีให้ความขัดเขินได้ระบายออกจากอกบ้างก็ไม่ทำได้ด้วยอายเพื่อน ผลก็คือตาค้างนอนไม่หลับไปครึ่งค่อนคืน!
มือใหม่หัดขายขนมจีบก็อาการไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก เขานั่งหน้าขรึมอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เบื้องหน้าคืองบการเงินที่หอบหิ้วมาจากโคราชรอการตรวจตรา ทั้งที่นึกว่าถ้าจัดการบรรเทาปัญหาหัวใจจนเรียบร้อย จะมีสมาธิตรวจงานสักหน่อย แต่กลายเป็นว่าการเจอเธอชั่วครู่ชั่วยามทำให้อาการหนักกว่าเดิม
ถ้อยความประโยคต่อประโยคที่เจรจาพาทีกับเธอยังวนเวียนอยู่ในหัวยากจะขจัดออก ใบหน้านวลที่มักก้มหลบอย่างขัดเขิน ดวงตาคู่งามที่ช้อนมองเขาบ้างเป็นบางครั้งนั้นบังเกิดเป็นภาพจำในใจ
...
“วันนี้ปี่กินมังค่ะ ขอโทษนะคะ คุณวรทหิวเหรอคะ” แม้ไม่ใช่ความผิดอะไรของเธอ ยังกล่าวขอโทษคล้ายเป็นประโยคติดปาก เขาอดคิดไม่ได้ว่าหรือเธอจะรังเกียจจนต้องหาข้ออ้าง
“แต่ตอนที่ไปกินข้าวที่บ้าน” เขาตั้งข้อสังเกตขึ้น เธอจึงรีบอธิบายเป็นพัลวัน
“ปี่กินมังเฉพาะวันอาทิตย์น่ะค่ะ ที่จริงปี่ตั้งใจจะกินทุกวันเกิด ทั้งล้างท้องทั้งละบาปไปในตัว แต่ตอนเรียน ถ้ากินมังวันจันทร์จะหาของกินยาก อาจต้องแยกกินกับเพื่อนๆ ปี่เลยเปลี่ยนมาเป็นวันอาทิตย์แทน”
...
แม้รวบรวมความกล้าเอ่ยชวนเธอไปอย่างไร้มาด แต่แผนการยืดเวลาประสบความล้มเหลวในนาทีสุดท้าย เพราะเรื่องธรรมะธัมโมที่เขาคาดไม่ถึง วรทจำต้องส่งเธอกลับเข้าหอพัก หยิบยื่นกระเป๋าถือคืนให้แต่โดยดี
จนกระทั่ง เดินกลับมาถึงปากซอยแล้ว ใจมันยังค้างคา เขาจึงบอกตัวเองว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ปกติเขาไม่ใช่คนใจร้อน แต่เรื่องของเธอทำให้เขาร้อนใจได้ทุกทีไป
น่าตลกที่คนอายุขนาดเขายังทำตัวเหมือนเป็นหนุ่มแรกรัก แต่จะว่าไป เขาก็เริ่มรักเธอเป็นคนแรกจริงๆด้วย
วรทไม่เคยใช้ชีวิตอย่างคึกคะนองเรียนรู้ที่จะมีรักและหมดรักอย่างคนอื่นๆ เขาค่อนไปทางเด็กเรียนค่อนข้างเก็บตัว แม้เรียนโรงเรียนสหศึกษาแต่เพื่อนฝูงที่คบหากลับมีแต่ผู้ชาย
ด้วยหน้าตาและฐานะผู้หญิงทอดสะพานให้ย่อมมีมาก ต่อให้เขาจะหน้าดุเสียงโหดแถมยังเข้มงวดจริงๆจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่เพื่อน แต่สาวที่ใจกล้าท้าลองก็พอมีประปราย เพียงแต่พอเจอของจริงที่หนักหนากว่ากิตติศัพท์ที่ลือกัน สุดท้ายพวกเธอมักเบี่ยงเป้าหมายไปหาบรรดาเพื่อนของเขาแทนเสมอ
เขาไม่เคยมีแฟนและได้เมียคนแรกจากการที่แม่จัดแจงหามาให้
ว่าที่แฟน...ที่เขาหวังแต่งเป็นเมียคนสุดท้าย...
เป็นครั้งแรกที่ต้องจีบเอง
...
ความมุ่งมั่นเร่งเร้าให้เขาเอารถออกอีกครั้งยามค่ำคืนเพื่อไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ห่างออกไป ขนซื้อผลไม้มาหลายชนิด หวังว่าจะมีสักอย่างหนึ่งที่ถูกใจเธอ เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นก็กลับมายืนเก้กังหน้าที่พักเธออีกครั้ง ก่อนจะโทรศัพท์หาเธอที่เบอร์ส่วนตัวเป็นครั้งแรก
“คุณวรท...มีอะไรให้ปี่ช่วยเหรอคะ” เธอทัก น้ำเสียงแปลกใจไม่น้อย
“ลงมาข้างล่างหน่อย”
เขาพูดอะไรไม่ค่อยถูก จึงได้แต่ก่นด่าตัวเองหลังจากนั้นเมื่อพบว่าประโยคที่คล้ายกับคำสั่งของเขาทำให้เธอรับคำลนลานและรีบลงมาหาเขาที่ด้านล่างจนกระหืดกระหอบ
หัวใจเขาเต้นแรง...
น่าโมโหที่เธอมีอิทธิพลต่อเขาขนาดนี้ ร่างที่เตี้ยเล็กกว่าอยู่เป็นคืบ ยืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้า ผิวหน้าไร้เครื่องสำอางกระจ่างนวล เธออาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้ว เสื้อผ้าบางไปสักหน่อยกับการออกมารับแขก แต่เจ้าตัวคงรีบมากจนไม่ทันคิด หรือไม่เขาก็คิดและมุ่งพิจารณาเธอมากเกินไป
เขาพยายามเลื่อนสายตาจากทรวงอกที่สะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะด้วยอาการหอบของเธอ มาถึงดวงตาคู่สวยที่แสนอยากรู้อยากเห็นแต่ก็เคลือบด้วยความกริ่งเกรงประหนึ่งกวางน้อยที่ประสบพบนายพรานเป็นครั้งแรก
“คุณวรท...มีอะไรให้ปี่ช่วยเหรอคะ”
เธอย้ำประโยคเดิมเหมือนตอนที่รับโทรศัพท์ เสียงของเธอช่วยเรียกสติเขาคืนกลับมาจากริมฝีปากอิ่มที่ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายแล้วกระแอมเบาๆ ก่อนตอบ
“ผมซื้อมาฝาก”
เขายื่นถุงผลไม้ส่งให้ แต่เธอยืนอึ้ง แม้เพียงชั่วครู่แต่นั่นก็นานพอให้เขาใจเสีย และต่อมรักศักดิ์ศรีก็ทำงานด้วยการหาข้ออ้างแก้ตัว
“ผมแวะไปซุปเปอร์ฯซื้อขนมให้หนูดี...พอดี...คิดว่าคุณคงยังไม่ได้กินอะไร”
“ขอบคุณนะคะ”
ตอนนั้น เธอรับมันไว้ ยืนก้มหน้านิ่งๆ เธอกำลังทำตัวไม่ถูก และเหมือนจะรู้ตัวว่าตัวเองรีบออกมาในชุดที่ไม่ค่อยจะเหมาะนัก
เขาเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน จึงกล่าวลาสั้นๆ ก่อนหมุนตัวจากมา
เดินห่างจากเธอออกมาได้หน่อย ใจเริ่มกล้าขึ้นบ้างจึงพอจะบังคับให้มือหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดข้อความอย่างรวดเร็ว
...ตั้งใจไปซื้อให้ หวังว่าชอบนะ...
วรทแทบเดินสะดุดยอดหญ้าที่สนามบ้าน ตอนที่ได้อ่านข้อความที่เธอส่งตอบกลับมา
ชอบคุณค่ะ
ใจมันสั่นตอนอ่าน แล้วมันก็สั่นมาถึงตอนนี้จนไม่เหลือสติจะทำงาน นานไม่ใช่น้อยกว่าโปรแกรมจะเด้งอีกหนึ่งข้อความที่พังทลายความพิเศษของข้อความแรกไปจนสิ้น
*ขอบคุณค่ะ
ขอโทษนะคะ มันอยู่ใกล้กันมากเลยกดผิด
เธอจะรู้ตัวบ้างไหมว่าทำอะไรลงไป ก่อนส่งเธอควรอ่านข้อความให้มันดีๆก่อนสิ ถือดีอย่างไรมาทำให้หัวใจคนอื่นเขาวุ่นวายขนาดนี้
ใบหน้าขรึมเคร่งที่ปั้นเก๊กไว้แต่แรกค่อยๆเผยยิ้ม คนยิ้มเองก็รู้ตัวว่าคล้ายคนบ้าขึ้นทุกทีจึงคว้าเอาแก้วน้ำมาดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะสำลักเพราะน้ำติดคอ เรียกเสียงหัวเราะจากลูกสาวที่ยืนหอบสมุดนิทานภาพมายืนรออยู่ตรงประตูโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว
“หนูดียังไม่นอนอีกเหรอ” เขาทักเบาๆ แล้วจิบน้ำอีกรอบเพื่อปิดบังรอยยิ้มที่ไม่ยอมหุบหาย
“หนูดีว่าถ้าคุณพ่อไม่มีสมาธิทำงาน คุณพ่อไปเล่านิทานให้หนูดีฟังเถอะค่ะ พี่หวานเล่าไม่หนุกเท่า”
“อะไร นี่พี่หวานของหนูดีมือตกแล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะ เล่าเรื่องอะไรไม่รู้เดิมๆ เจ้าหญิงเจ้าชาย หนูดีอยากฟังเรื่องเจ้านายกับลูกน้องมากกว่า”
วรทเพิ่งจะรู้ตัวว่าลูกตั้งใจเดินมาแหย่ก็ตอนท้ายประโยค ลูกสาวจอมแก่แดดหัวเราะกรี๊ดกร๊าด เมื่อสมประสงค์ก็รีบปิดประตูที่เชื่อมระหว่างห้องนอนกับห้องทำงานหนีหน้า
คนเป็นพ่อนั่งขำลูกขำตัวเอง ทั้งเขินทั้งกลุ้มใจ อยากเล่านิทานเรื่องเจ้านายกับลูกน้องที่มีตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งให้ลูกฟังได้เร็วๆ!
XXX
มีเฮแล้วค่ะ #ทีมวรท
สงสารคุณพี่ผีเหลือเกิน มัวแต่โศกเลยไม่ได้ออกลวดลาย ตอนนี้คุณวรทคาบหัวใจหนูปี่มาเสียแล้ว ไม่รู้คุณพี่เอื้อจะกวดมาคว้าคืนทันมั้ยนะ 555
ก้นเป็นไฟตามเคยค่ะสำหรับตอนนี้ ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอ่านกัน ^_^
ตอนหน้า วันหยุดของหนูปี่ค่ะ ให้ทายว่าใครจะมาทำคะแนน อิอิ
xxx
คุณดังปัณณ์ --- หนอนน้อยยยย โหยหวนอะไรปานนั้น เลือกไม่ถูกก็ไม่ต้องเลือก ข้าพเจ้าจะจัดให้ทั้งสองคน 5555
คุณโอชิน --- ตอนนี้เลือกไม่ได้ระหว่างเล่นหมากเก็บกับพี่เอื้อ และไปเก็บหมากกับชายแก่สินะคะ แหม คุณวรทก็ไม่ใช่ชราไลน์ขนาดนั้น ลูกหนึ่งเองงงงงง
คุณพันธ์แตงกวา --- ขุ่นพี่เจ้าขา สุดท้ายอดกินจิ้มจุ่มเจ้าค่ะ กินชมพู่แทน หวานๆอร่อยๆ ฟินๆเหมือนกันนะเจ้าคะ
คุณใบบัวน่ารัก --- เมียมีเมียพี่ต้องมานะคะ เดี๋ยวดูกันค่ะว่าเมียพี่จะโผล่มามั้ย แต่ไร่แห้วแผ้วถางรอคุณเอื้อครอบครองแน่แล้ว สงสารฮีจัง (ว่าแล้วก็หัวเราะด้วยความสงสารไปหนึ่งตลบ กร๊ากกก) กินชมพู่กันนะคะ
คุณ mhengjhy --- ไม่เนียนค่ะ สนิมเกาะแบบสะกิดทีร่วงกราวเลยทีเดียว ฮุฮิ
นณกร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ม.ค. 2558, 20:58:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ม.ค. 2558, 23:58:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 1184
<< เปิดตัว (1/2) | ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก (1/2) >> |
พันธุ์แตงกวา 18 ม.ค. 2558, 23:59:37 น.
โถ พ่อคุณ ประหม่าจนแทบสะดุดยอดหญ้า น่าร้อคอ่า คุณวรทสู้ๆ ฟอร์มนี่นะ เยอะ แต่ก็แอบลุ้นตาม เร็วเข้าพ่อคุณ คุณผี เขาอ้อนเข้าไปคลุกวงในแล้ว
โถ พ่อคุณ ประหม่าจนแทบสะดุดยอดหญ้า น่าร้อคอ่า คุณวรทสู้ๆ ฟอร์มนี่นะ เยอะ แต่ก็แอบลุ้นตาม เร็วเข้าพ่อคุณ คุณผี เขาอ้อนเข้าไปคลุกวงในแล้ว
โอชิน 19 ม.ค. 2558, 13:40:00 น.
วุ้ย..น่ารักไปไหน..หน้าคุณวรทคงแดงเถือกตอนอ่านข้อความ..ชอบคุณค่า..เหอๆ น่ารักง่ะ..!
คลั่งไคล้กะหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบหย่อนๆคนนี้แล้วอะ..โธ่ พ่อคุ๊ณ พ่อหนุ่มลูกหนึ่ง..พ่อมือใหม่หัดจีบ..!
วุ้ย..น่ารักไปไหน..หน้าคุณวรทคงแดงเถือกตอนอ่านข้อความ..ชอบคุณค่า..เหอๆ น่ารักง่ะ..!
คลั่งไคล้กะหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบหย่อนๆคนนี้แล้วอะ..โธ่ พ่อคุ๊ณ พ่อหนุ่มลูกหนึ่ง..พ่อมือใหม่หัดจีบ..!
mhengjhy 19 ม.ค. 2558, 21:32:59 น.
โอ้ยย น่ารักไม่ไหวแล้ว หนูปี่ ถ้าไม่ชอบ ขอนะคะ 5555
โอ้ยย น่ารักไม่ไหวแล้ว หนูปี่ ถ้าไม่ชอบ ขอนะคะ 5555
ใบบัวน่ารัก 20 ม.ค. 2558, 07:03:03 น.
เค้าอยากกินจิ้มจุ่มมากกว่าอะ ชวนเค้าไปก็ได้
ฝากผลไม้ก็ยังดี รับคะ รับหมด เลย
คุณเอื้ออายุเท่าไรในยุคนั้น 30 แล้วหรือ
เมียเก่าจะมาอีกหรือ นุกอะดิ
เค้าอยากกินจิ้มจุ่มมากกว่าอะ ชวนเค้าไปก็ได้
ฝากผลไม้ก็ยังดี รับคะ รับหมด เลย
คุณเอื้ออายุเท่าไรในยุคนั้น 30 แล้วหรือ
เมียเก่าจะมาอีกหรือ นุกอะดิ
ดังปัณณ์ 20 ม.ค. 2558, 15:27:23 น.
ง่ะ หญิงกอกด หนอนน้อยสงสารคุณผีขึ้นมาตงิดๆๆๆ ไม่น้าาาาาาาาาาาา คุณวรทอย่าทำแบบนั้น คุณผีเจ็บซ้ำเจ็บซากมากตั้งแต่ชาติที่แล้วอย่าให้คุณผีเจ๊บอีกเลย (ครวญเป็นเพลง)
ว่าแต่หญิงกอกดจะส่งให้จิงง่ะ อ๊ะจัดคิวรอ ใครลงวันไหน
ง่ะ หญิงกอกด หนอนน้อยสงสารคุณผีขึ้นมาตงิดๆๆๆ ไม่น้าาาาาาาาาาาา คุณวรทอย่าทำแบบนั้น คุณผีเจ็บซ้ำเจ็บซากมากตั้งแต่ชาติที่แล้วอย่าให้คุณผีเจ๊บอีกเลย (ครวญเป็นเพลง)
ว่าแต่หญิงกอกดจะส่งให้จิงง่ะ อ๊ะจัดคิวรอ ใครลงวันไหน