เมียเก็บ e-book
หล่อนคือหนามยอกยอกน้องสาวที่สมควรกำจัดให้พ้นทาง แต่กลับย้อนมาทิ่มแทงใจเขาให้ปวดร้าว แสนชิงชัง แต่กลับหลงใหลในวังวนเสน่หนา ใต้คำครหาหยามเหยียด...กืนน้ำใต้ศอกเพื่อนสนิท!

**หมายเหตุ**
งานเขียนนี้เคยตีพิมพ์ในนามปากกา ทิตภากร ปัจจุบันเนื้อหาได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความสมบูร์ของเนือเรื่อง

(เปิดให้อ่านบางส่วนเท่านั้น!!)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 9

ฝ่ายตะวันนั้นได้แต่มองโทรศัพท์ในมือตาปริบๆ นึกฉงนขึ้นมาครามครัน ซึ่งท่าทางนั้นก็ทำให้เต็มเดือนที่เดินถือแก้วกาแฟมายื่นให้ต้องเอ่ยถาม

“รสาว่ายังไงบ้างคะ...จะมาหรือเปล่า?”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี้โทรไปไม่รู้ใครรับสาย อุตส่าห์ถามดีๆ แต่หมอนั่นกลับด่ามาเป็นชุด มันหมาบ้าชัดๆ” ตะวันบ่นอุบ

“พี่ตะวันโทรผิดหรือเปล่าคะ”

“พี่เมมเบอร์รสาไว้จะโทรผิดได้ยังไงกัน”

“ถ้าอย่างนั้น...เดี๋ยวเดือนโทรให้ดีกว่า” เต็มเดือนไม่พูดเปล่า หากแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารสา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

“สงสัยยัยรสาจะปิดเครื่อง ไว้ค่อยโทรพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะคะ แต่พี่ตะวันต้องโทรไปนะ ยังไงวันเกิดปีนี้ก็ต้องชวนยัยรสามาให้ได้”

“อืม...”

ตะวันรับคำในลำคออย่างเนือยๆ แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ แม้ท่าทางภายนอกจะเป็นปกติ แต่ในใจกลับคิดมากไม่น้อย ด้วยรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโทรผิด เพราะเขาเมมเบอร์รสาไว้ในโทรศัพท์ ส่วนเรื่องเปลี่ยนเบอร์นั้นไม่ต้องพูดถึง รสาคงไม่เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์โดยไม่บอกล่าว ถ้าอย่างนั้น...ผู้ชายน้ำเสียงดุๆ คนนั้นเป็นใคร มีความสัมพันธ์เช่นไรกับรสา...



รสาก้าวออกจากห้องน้ำก็ตั้งใจว่าจะเดินกลับไปที่โต๊ะ ทว่าระหว่างทางหล่อนเหลือบเห็นกระเป๋าหนังใส่ธนบัตรตกอยู่หน้าบันไดทางขึ้นไปยังชั้นสองของผับ ก็คิดว่าจะนำไปให้ประชาสัมพันธ์ประกาศหาเจ้าของ ทว่าในจังหวะก้มเก็บแล้วเงยหน้าขึ้น ก็พบว่ากวีกับชายต่างชาติคนหนึ่งกำลังลงบันไดมาอย่างรีบร้อน

“อ้าว...รสา เธอมาทำอะไรที่นี่” กวีร้องถามด้วยนึกฉงน

“ฉันก็มากับเพื่อนคุณน่ะสิ เขาสั่งให้มานั่งเฝ้า แล้วคุณล่ะ”

“พอดีฉันพาเพื่อนมาดื่มกันนิดหน่อย” กวีหันไปทางชายต่างชาติ พลางเอ่ยแนะนำ

“นี่วิลเลี่ยม...ส่วนนี่ก็รสา เธอทำงานอยู่ที่โรงแรมผม”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มสำเนียงแปร่งๆ ที่สื่อสารออกมาเป็นภาษาไทยกับรอยยิ้มมีไมตรีที่แสดงออกมาอย่างเปิดเผย ทำให้รสาคลี่ยิ้มบางพลางยื่นมือออกไปสัมผัสกับมืออีกฝ่ายตามมารยาท

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”

“วิลเลี่ยมเขาทำรีสอร์ทอยู่ที่สิงค์โปร์ เรารู้จักกันตอนที่ฉันไปดูงานที่นั่น พอดีเขาแวะมาเมืองไทยก็เลยถือโอกาสชวนมาดื่ม แต่เขาดันทำกระเป๋าสตางค์หาย นี่ก็กำลังจะช่วยกันหา เธอเดินผ่านมาพอจะเห็นกระเป๋าหนังสีน้ำตาล ใบประมาณนี้บ้างไหม” กวีทำมือทำไม้ประกอบท่าทาง

“กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลเหรอคะ ใช่ใบนี้หรือเปล่า?” รสายื่นกระเป๋าหนังใส่ธนบัตรที่เก็บได้ไปตรงหน้าวิลเลี่ยม ทำให้เขาต้องเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น

“โอ้ว...มายก๊อด กระเป๋าสตางค์เป็นของผม คุณเจอมันที่ไหนเหรอครับ”

“ตรงบันไดนี่ล่ะค่ะ”

“อย่างนั้นเหรอครับ ผมนี่แย่จริงๆ ทำอะไรไม่รู้จักระวัง โชคดีที่คุณเก็บได้ ไม่อย่างนั้น...คงต้องโทรไประงับบัตรเครดิตกันวุ่นวาย ขอบคุณมากนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ” รสาทำท่าจะเดินกลับไปที่โต๊ะ แต่วิลเลี่ยมก็ท้วงขึ้นมาเสียก่อน

“เดี๋ยวสิครับ ผมอยากจะเชิญคุณไปร่วมโต๊ะกับพวกเรา ผมอยากจะเลี้ยงตอบแทนคุณ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เชิญพวกคุณตามสบายเถอะ พอดีฉัน...”

“อย่าเสียมารยาทสิรสา วิลเลี่ยมเขามีน้ำใจ เธอก็ควรจะไปร่วมโต๊ะกับพวกเรา ก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้น” กวีชิงพูดขึ้นเชิงตัดบทแล้วหันไปทางวิลเลี่ยม

“เดี๋ยวคุณพารสาไปที่โต๊ะก่อนก็แล้วกัน ผมขอตัวสักครู่” กวีเดินแยกไปเข้าห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าเรื่องกระเป๋าสตางค์นั้นคลี่คลาย อีกทั้งวิลเลี่ยมกับรสาก็คุยกันถูกคอ

“มาเถอะครับ เราคนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องเกรงใจหรอก” วิลเลี่ยมไม่ได้พูดเปล่า หากแต่แตะข้อศอกรสาอย่างสุภาพ แต่ทั้งสองยังไม่ทันก้าวขึ้นบันได เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นราวกับฟ้าผ่า

“มานี่!”

รสาไม่ทันตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ วินาทีที่หันมอง...ตฤณที่เดินทำหน้าเครียดเข้ามาในผับก็คว้าหมับมาที่แขนแล้วออกแรงกระชากจนหล่อนเซถลา

“คุณจะทำอะไร ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” วิลเลี่ยมเห็นท่าไม่ดีก็เอาตัวเข้าขวาง แสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการปกป้องผู้หญิงที่มีบุญคุณต่อเขา แต่ตฤณไม่กลัวเกรง เขาพร้อมจะคุกคามชายต่างชาติคนนี้ หากหมอนั่นคิดจะขัดขวางการกระทำของเขา

“เรื่องของผัวเมีย คุณไม่เกี่ยว!” ตฤณตวาดกร้าว

คำพูดนั้นทำให้วิลเลี่ยมต้องคิดหนัก ด้วยใจหนึ่งก็อยากยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือรสา แต่ไม่กล้าผลีผลาม ถ้าหล่อนปฏิเสธออกมาคำเดียว เขาก็พร้อมจะเอากำปั้นยัดปากชายแปลกหน้าคนนี้ แต่นี่หล่อนนิ่ง แล้วเขาจะรู้ไหมว่าหมอนั่นกับหล่อนมีความสัมพันธ์กันอย่างไร นอกจากเลียบๆ เคียงๆ ถามออกไปด้วยความเป็นห่วง

“อยากให้ผมช่วยไหม?”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณกลับไปที่โต๊ะเถอะ” รสาคลี่ยิ้มบาง อยากให้วิลเลี่ยมเบาใจ ใช่ว่าจะอ่านความคิดเขาไม่ออก แต่ไม่อยากให้เดือดร้อนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะคงไม่ส่งผลดีกับชาวต่างชาติอย่างเขา

“แน่ใจนะครับว่าคุณไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผม”

“ค่ะ เรื่องแค่นี้ฉันจัดการเองได้” รสายิ้มให้วิลเลี่ยมอีกครั้งตามมารยาท แต่ตฤณที่มีใจอคติกลับมองว่าหล่อนอ่อยไม่เลือกทั้งไทยทั้งเทศ จัดอยู่ในประเภทผู้หญิงไวไฟที่เผลอเป็นไม่ได้จนต้องพูดแทรกขึ้นมา

“ผมจะกลับแล้ว จะไปเอากระเป๋าได้หรือยัง หรือต้องรอให้ผมต่อยไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวนี่ก่อน”

รสาตวัดสายตามองคนข่มขู่ แม้จะไม่พอใจ แต่ก็เดินกลับไปเอากระเป๋าที่โต๊ะ โดยบอกวิยะดาสั้นๆ ว่าจะกลับ ไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก วิยะดาก็เลยเข้าใจไปว่ารสาจะกลับก่อน หล่อนเห็นสบโอกาสเหมาะก็เลยสนับสนุนเต็มที เพราะอยากอยู่กับตฤณตามลำพังจะได้ทำอะไรได้สะดวก...

สามารถโหลดอ่านได้แล้วที่...
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjA4NDciO30




กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ม.ค. 2558, 14:02:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ม.ค. 2558, 14:02:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1303





<< ตอนที่ 8   ตอนที่ 10 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account