พิมพ์ลภัส
พิมพ์ลภัสเด็กสาวร่างอ้วนแก้มยุ้ยด้วยน้ำหนักตัวเกือบร้อยกิโลกรัมแอบรักพี่ชายขัางบ้านที่โตมาด้วยกัน ทว่าภีรมัตเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น..เธอรู้
ระหว่างเธอกับภีรมัตแตกต่างกันราวผีเน่ากับเทพบุตร ใครจะไปสวยเท่าแฟนสาวสิตาภาที่ครั้งหนึ่งเขาเคยประกาศต่อหน้าเธอว่าใช่สเป็ก นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ และการกลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างเธอกับภีรมัตเรื่องยุ่งๆของหัวใจจึงเริ่มต้นขึ้น

Tags: พิมพ์ลภัส ภีรมัต รักหวานซึ้งปนเศรา้้

ตอน: บทที่ 17 ความคิดถึง

“อะไรเอ่ย..มองแต่รูปจูบก็ไม่ได้” เสียงกระเซ้าเย้าแหย่จากเพื่อนรักแทรกมาในภวังค์ความคิด พิมพ์ลภัสสะดุ้งสุดตัว หมุนเก้าอี้กลับมายังโต๊ะทำงาน ซึ่งหันหน้าไปยังประตูรีบยัดกรอบรูปในมือเก็บลงลิ้นชักโต๊ะทำงานตามเดิมก่อนจะต่อว่าผู้มาเยือน ซึ่งมาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง

“ทำไมไม่รู้จักเคาะประตูก่อน..” ไม่จริงจังนัก

“ถ้าเคาะก็อดเห็นช็อตเด็ดพอดีนะสิ..” เพียงยิ้มยิ้มล้ออยู่ในที

“บุกมาถึงบริษัทมีอะไรเหรอ” พิมพ์ลภัสเปลี่ยนเรื่องซะเอง ไม่อยากให้เพื่อนขุดคุ้ยต่อไปอีก

“แกลืมรึไง..ฉันบอกเอาไว้แล้วนี่ ว่าวันนี้จะเข้ามาถ่ายรูปแกลงสกรู๊ปพิเศษหน่อย..เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนะเพื่อนฉัน”
เพียงอรมอป้ายประจำตำแหน่งหน้าโต๊ะแล้วทำสีตาโตส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

“นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการซะด้วย..ขอเอาไปเขียนข่าวหน่อยนะ” ใบหน้าสวยคมก้มปรับเลนส์หาจุดโฟกัสนิดหน่อย จากนั้นจึงเริ่มลงมือเก็บภาพติดๆกันสองสามภาพ

“นี่..ไม่คิดจะถามหน่อยเหรอว่าฉันยินยอมรึเปล่า”พิมพ์ลภัสแกล้งตีหน้าดุใส่เพื่อน

“เอาน่า..ช่วยเพื่อนทำมาหากินเลี้ยงปากท้องหน่อย รับรอง..ฉันจะเขียนให้แกเป็นซินเดอเรล่าที่หนุ่มๆจะต้องฝันถึงเลยเชียวล่ะ” เพียงอรคุยโว รัวชัตเตอร์อีกสองสามครั้งแล้วเก็บกล้องลงในกระเป๋า

“ไทไปไหนซะล่ะ ถึงต้องมาทำเอง” ปกติหน้าที่ช่างภาพข้างกายเพียงอรจะต้องเป็นแทนไท มีงานที่ไหนเพียงอรจะต้องหนีบแทนไทไปด้วยเสมอ สาวตาคมทิ้งก้นนั่งบนโซฟาตัวยาวสีแดงเข้มหน้าบูดบึ้ง

“ไปงานอื่น..ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับเด็กฝึกหัด” เล่าน้ำเสียงกระแทกกระทั้นไม่พอใจ ยิ่งนึกถึงหน้าใสๆของน้องนักศึกษาฝึกงานที่เข้ามาเมื่ออาทิตย์ก่อนคนนั้นแล้วยิ่งของขึ้น

“ก้าวหน้าแฮะ..” พิมพ์ลภัสเอ่ย เธอนิ่งไปอึดใจก่อนจะเห็นสิ่งผิดปกติบนสีหน้าเพื่อน ”..ทำไม..ผู้หญิงเหรอ” เพียงอรเหลือบมองเพื่อนนิดนึงแล้วพยักหน้าหนึ่งครั้ง ”หึงรึไง..”

“จะบ้าเหรอ ไม่เห็นจะสนใจสักนิด” รีบปฏิเสธทันควัน

“ไม่สน แล้วอารมณ์เสียทำไมเนี่ย..” พิมพ์ลภัสเย้าต่ออีกอย่างนึกสนุก

“ไม่เอาๆคุยเรื่องอื่น..ว่าแต่แกเถอะงานประมูลที่คุณหญิงแม่เป็นประธานคืนนี้ไปด้วยรึเปล่า” เพียงอรรีบแหวกลบเกลื่อนแล้วชิงเปลี่ยนเรื่องเสีย

“ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบงานสังคม วุ่นวายน่าปวดหัว..แกก็รู้”

“เฮ้ย..แต่ข่าวเขียนไว้ว่าแกบริจาคของส่วนตัวร่วมงานประมูลการกุศลด้วยไม่ใช่เหรอ”

“ฝีมือคุณหญิงปานทิพย์ทั้งนั้น ทุกวันนี้นั่งอยู่เฉยๆก็มีข่าว..” พิมพ์ลภัสเล่าขำๆ

“งานนี้งานใหญ่ รายได้ส่วนหนึ่งช่วยภัยหนาว อีกส่วนหนึ่งช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกที่ได้รับภัยธรรมชาติ ทั้งในวงการนอกวงการไปกันแน่น..คนคงเยอะน่าดู” เพียงอรสาธยายให้ฟัง เหลือบเห็นพิมพ์ลภัสเหม่อลอยจมดิ่งอยู่ในภวังค์นัยน์ตาเศร้า ไม่สนใจสิ่งที่เธอกำลังพูดด้วยซ้ำ

เรื่องนี้เธอก็พอได้ยินจากมารดาอยู่บ้าง ที่เด็ดสุดคือของชิ้นสำคัญซึ่งภีรมัตจะนำมาร่วมการประมูลด้วยรู้สึกจะเป็นไฮไลต์ของงาน จนได้..แล้วสมองเธอก็หนีไม่พ้นเรื่องเขา

เพียงอรสังเกตเสี้ยวหน้างดงาม บัดนี้ดูเซียวลงกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย พักหลังมานี่พิมพ์ลภัสดูเงียบๆไป แล้วก็เก็บเนื้อเก็บตัวมากขึ้น พูดน้อยลงไม่ค่อยยิ้มเหมือนก่อน ข่าวภีรมัตกับสิตาภาก็ควงหวานกันออกสื่อถี่ยิบ เพื่อนเธอคงปวดใจไม่น้อย

...มีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้เพื่อนรักสมหวังได้..เธอจะทำ

เสียงเคาะประตูดังติดกันสองครั้ง จากนั้นมันก็ถูกผลักเข้ามาโดยไม่ต้องรอให้คนข้างในอนุญาต จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณหญิงปานทิพย์เท่านั้นที่มีอำนาจสิทธิ์เพียงนี้

เพียงอรลุกจากโซฟาอัตโนมัติตามมารยาทผู้ดี สาวน้อยกระพุ่มมือไหว้มารดาเพื่อนที่คุ้นเคยมานาน

“ไหว้พระเถอะลูก..แวะมาเที่ยวเหรอหนูอร” คุณหญิงปานทิพย์เอ่ยแววตาเจือความเอื้ออารีอบอุ่นเสมอยามมองเด็กสาว เพียงอรคบหากับบุตรสาวมานาน ตนจึงรักและเอ็นดูดั่งลูก แต่พักหลังๆไม่ค่อยเห็นหน้าค่าตาเท่าไหร่นัก ได้ฟังเพียงบุตรสาวบอกเล่าว่างานยุ่งมาก

“ไม่เชิงค่ะคุณหญิงแม่..อรแวะมาเก็บภาพยัยพิมไปลงคอลัมน์พิเศษนิดหน่อย แล้วก็กำลังจะชวนไปหาอะไรทานนะค่ะ” เธอตอบตามจริง ซึ่งคุณหญิงปานทิพย์ไม่ได้ต่อว่ากระไร เพราะรู้ดีว่าเพียงอรไม่มีทางที่จะทำให้พิมพ์ลภัสเสื่อมเกียรติแน่นอน

“ตามสบายนะจ้ะ..เดี๋ยวแม่ขอคุยกับลูกพิมสักเดี๋ยวก็แล้วกัน”

“งั้นอรออกไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะ..งานเสร็จพอดี”

คุณหญิงปานทิพย์รีบฉวยมือบางห้ามไว้ ยิ้มละไมด้วยความเอ็นดู เพียงอรรู้กาละเทสะและมีมารยาทดีเสมอแม้จะกระโดกกระเดกไปบ้างแต่ตนก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไร

“ไม่ต้องหรอกจ้ะ..อยู่ฟังก็ได้ แม่ไม่ได้มีความลับอะไร” เอ่ยเรียบเรื่อยพร้อมรอยยิ้ม มีเพียงพิมพ์ลภัสเท่านั้นที่รู้ว่ามารดาต้องไม่ได้มาคุยเรื่องทั่วไปแน่ๆ มาดดียิ้มสวยแบบนี้มักจะมีแผนเสมอล่ะ

“แม่มีเรื่องอยากรบกวนลูกพิม..วันนี้แม่ยุ่งทั้งวันเลยเชียว งานซ้อนกันสองที่ ไหนจะต้องไปช่วยคุณหญิงเกตุรับแขกบ้านแขกเมืองที่สถานฑูตไทยญี่ปุ่น จะไม่ไปเสียก็ไม่ได้ งานประมูลคืนนี้ก็สำคัญ...” คุณหญิงเว้นวรรคแอบสังเกตุปฏิกิริยาบุตรสาว

นั่นไง..ว่าแล้วเชียว ถ้าไม่มีแผนไม่ใช่คุณหญิงปานทิพย์แน่ พิมพ์ลภัสถอนหายเฮือกหนึ่ง เหลือบตาไปทางเพื่อนสาว สบตากันอย่างรู้ทัน คาดเอาไว้แล้วเชียว คิดอะไรไว้ไม่เคยผิดโผเลยสักที เพียงอรถึงกับหลุดขำเสียงดังโชคดีที่เอามืออุดปากตัวเองได้ทันซะก่อนที่เสียงจะเล็ดลอดออกมา

“คุณแม่จะให้พิมไปแทนใช่มั้ยคะ..” เธอต่อให้ซะเอง

“ได้มั้ย ไปแทนแม่หน่อยนะ..ถึงคราวจำเป็นจริงๆ” ท่านเอ่ยเสียงอ่อย สีหน้ายุ่งยากเพื่อเรียกคะแนนความเห็นใจจากบุตรสาวเต็มที่ ถ้าเป็นเรื่องออกงานสังคม..พิมพ์ลภัสพูดยากมากที่สุด คราวนี้ต้องแสดงละครให้เนียนกว่าที่ผ่านมา

“คุณแม่ก็รู้ว่าพิมไม่ชอบออกงานสังคม..”

“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น อีกอย่างแม่ให้เลขาของแม่ไปกับลูกด้วย ประภาจะจัดการทุกอย่างเอง ลูกพิมแค่ไปเป็นตัวแทนในนามของแม่ งานเลิกก็กลับบ้านไม่เกินสองสามชั่วโมงหรอก” พยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาเกลี้ยกล่อม ให้พิมพ์ลภัสเห็นใจ

“แค่ครั้งนี้นะคะ..” เธอตอบตกลงเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่านางจะมาไม้ไหนอีก

โป๊ะเชะ!สำเร็จจนได้ คุณหญิงปานทิพย์กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ในที่สุดปลาก็ติดเหยื่อ ลูกยังไงก็ยังเป็นลูกอยู่วันยังค่ำจะมาเก่งรู้ทันเกินแม่เป็นไม่มี...จากนั้นก็กลับมาตีหน้าเศร้าใหม่ให้รู้ว่าตนลำบากใจแค่ไหนที่ต้องขอร้องให้พิมพ์ลภัสทำในสิ่งที่ไม่ชอบ

“แม่รู้ว่าลูกอึดอัด ยังไงแม่ก็ขอบใจลูกมากนะจ้ะลูกรัก..” นางตรงเข้ามาสวมกอดบุตรสาวอย่างซาบซึ้งใจ ทั้งที่ในอกลิงโลดที่แผนขั้นแรกสำเร็จด้วยดี ”นี่เพิ่งสิบเอ็ดโมงครึ่ง..งั้นเดี๋ยวลูกออกไปทานข้าวกันเลย เสร็จแล้วกลับบ้านไปแต่งตัวสวยๆแม่ให้ทางห้องเสื้อพัชรินทร์เขาเตรียมเสื้อผ้าไปให้ลูกไปลองที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ทุ่มตรง..ตาจุ๊นจะไปรับนะจ้ะ” ว่าจบแล้วนางก็เตรียมสะบัดก้นออกจากห้อง

นั่นไงโดนเข้าจนได้..ว่าแล้วเชียว มันแปลกๆเธอหลงกลมารดาอีกจนได้

“แม่คะ นั่น!ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงนะคะ”

“เอาน่า ลูกพิม ตาจุ๊นก็ไปงานนี้อยู่แล้ว มีเพื่อนไปพร้อมกันลูกจะได้ไม่ตื่นเต้นมากไง” นางให้เหตุผลที่พิมพ์ลภัสฟังแล้วปฏิเสธไม่ลง ทว่าเธอไม่ได้ซื่อซะจนดูไม่ออกว่ามารดาคิดจะจับคู่เธอกับจุลกานต์

คุณหญิงปานทิพย์ก้าวเท้าจะไปอีกครั้ง ขืนอยู่นานกว่านี้ ลูกสาวคนเก่งคงรู้ทันแผนในใจแน่

“นี่!คุณแม่คิดจะทำอะไรคะ จะจับคู่พิมกับจุลกานต์ใช่ม๊ะ”

นั่น...ปะไรยังไม่ทันก้าวขาพ้นธรณีห้องด้วยซ้ำ บุตรสาวรู้ทันเกมส์เธอเสมอ หญิงสูงวัยจำต้องหันกลับมายอมรับความจริง

เพียงอรมองคุณหญิงแม่สลับกับพิมพ์ลภัสไปมา ชักเริ่มเวียนหัว สงครามชิงไหวชิงพริบระหว่างคุณหญิงแม่กับเพื่อนมีให้เห็นบ่อยครั้ง หนนี้จะลงเอยโดยที่คุณหญิงแม่เป็นฝ่ายกุมชัยชนะอีกรึเปล่า เธอจึงเฝ้าดูสถานการณ์เงียบๆ ผลลัพธ์เรื่องนี้จะจบลงเช่นไรต้องติดตามตอนต่อไป

“เฮ้อ..” คุณหญิงปานทิพย์ถอนหายใจเฮือกหนึ่งยอมจำนน แล้วเดินกลับมาที่เดิม

ตั้งแต่วันงานแสดงเครื่องเพชรของพรีมสตาร์ นางเห็นสายตาซ่อนแววหวานลึกซึ้งของลูกสาวยามมองภีรมัต วูบแรก..รู้สึกตกใจ ต่อมาภายหลังจึงเข้าใจและเห็นใจ นางถึงต้องทำเช่นนี้

ลูกสาวผูกพันกับภีรมัตมาตั้งแต่เด็ก ตลอดสิบห้าปีมีเพียงภีรมัตที่วนเวียนอยู่ใกล้ๆ ลูกสาวเชื่อฟังคำพี่ชายต่างสายเลือดทุกอย่างไม่ว่าเขาจะบอกอะไร นั่นคือเรื่องดีในสายตาคนเป็นแม่ เพราะภีรมัตจะสอนบอกแนะนำสิ่งดีๆให้กับพิมพ์ลภัสเสมอ บุตรสาวจึงเติบโตอย่างคนที่เข้าใจเรื่องราวรอบกายได้ดีและมีเหตุผล มองทุกสิ่งตามความเป็นจริงใช้ชีวิตอย่างมีสติ รับฟังเหตุผลได้ดีเยี่ยม เป็นผู้ใหญ่เกินวัยมีความคิดและมโนสำนึก

สายใยสายสัมพันธ์จึงมีมานานมากเกินกว่าความรู้สึกของน้องสาวกับพี่ชาย ไม่แปลกถ้าพิมพ์ลภัสจะรักฝังใจที่ภีรมัตคนเดียว ทั้งชีวิตของลูกสาว..ภีรมัตเป็นฮีโร่ในดวงใจมาเนิ่นนาน นางผิดที่ไม่เคยคิดระแวดระวังใจลูกสาวจะมาตัดสายใยรักที่พิมพ์ลภัสมีต่อภีรมัตมายาวนานคงไม่ใช่เรื่องง่าย นางเอ็นดู..รักภีรมัตอย่างลูกแท้ๆคนหนึ่ง

ยอมรับ..ว่านอกจากภีรมัตแล้วเธอก็ไม่วางใจชายหนุ่มคนใดที่จะดูแลลูกสาวได้ดีเท่า เสียดายที่ตอนนี้ภีรมัตมีคู่รักแล้ว ถ้าเพียงแต่ภีรมัตจะหันมามองบุตรสาวนางบ้าง นางก็จะยินดี ทว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น ไม่งั้นลูกสาวคงมานั่งอมทุกข์เช่นทุกวันนี้จากการแอบรักข้างเดียว

พิมพ์ลภัสเป็นแก้วตาดวงใจเพียงสิ่งเดียวในชีวิตของตนกับท่านบรรพต ถ้าหากคนที่จะเข้ามาดูแลแก้วตาดวงใจเป็นภีรมัตก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ นางและสามีคงนอนตายตาหลับ

“แม่แค่อยากให้ลูกลองเปิดโอกาสให้คนอื่นแล้วก็ตัวเองบ้าง เนื้อแท้ตาจุ๊นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ อีกอย่างแม่กับคุณหญิงแสงเป็นเพื่อนเรียนกันมา..คบหากันนานปีดีดัก ตระกูลเราเป็นตระกูลเก่าทั้งคู่ ถ้าได้เกี่ยวดองกันก็จะยิ่งดีใหญ่เสริมวงศ์ตระกูล”

“แต่เรื่องแบบนี้..มันบังคับความรู้สึกกันไม่ได้ง่ายๆนะคะ” เธอแย้ง

แม้จะเข้าใจเจตนารมณ์และความหวังดีของมารดา แต่เรื่องของหัวใจ ขอเถอะ..ยกเว้นเอาไว้เรื่องหนึ่งล่ะ ถ้าลองได้รักใครแล้ว หัวใจมันไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น แม้จะรู้ว่าอะไรคือความเหมาะสม หากไม่ใช่คนที่เรารัก มันก็คอยแต่จะรั้นไม่พยายามทำความเข้าใจอยู่ดี อย่างนี้รึเปล่า..ที่เค้าเรียกว่าหัวใจไม่รักดี

“แม่รู้ลูก..แค่ขอโอกาสให้ตาจุ๊นสักครั้งจะได้มั้ย” นางเอ่ยอ่อนโยน แววตาอบอุ่นเห็นใจมองทอดบุตรสาวสุดรักและห่วงใยเท่าชีวิต

“แล้วถ้าคำตอบทำให้แม่ผิดหวังล่ะคะ ถ้าพิมรู้สึกกับเขามากกว่านี้ไม่ได้ คุณแม่จะให้สิทธ์พิมตัดสินใจเองรึเปล่า” เธอเอ่ยจริงจัง ความแน่วแน่ฉายชัดในแววตาคู่งามมองมารดานิ่งขอความเห็นใจ เธอพยายามจะหาทางออกคนละครึ่งทาง ใจ..ไม่อยากตัดรอนความหวังดีจากมารดา ยังอยากเป็นลูกที่ดีอยู่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับหัวใจเธอ เพราะฉะนั้นต้องตกลงกันก่อน เพื่อหาบทสรุปของเรื่องนี้ มารดาจะได้เลิกพยายามจับคู่ระหว่างเธอกับจุลกานต์ซะที

“ถ้าถึงเวลานั้น..ลูกยังไม่รู้สึกชอบพอตาจุ๊น แม่จะไม่บังคับใจลูกอีก” คุณหญิงปานทิพย์ยอมตกลงในที่สุด ท่านจับมือนุ่มของบุตรสาวตบเบาๆบนหลังมือ

นางรักลูกยิ่งกว่าสิ่งใด ไม่ใช่แม่แบบเผด็จการจึงไม่คิดจะหักหาญน้ำใจลูกอยู่แล้ว หากลูกไม่รักไม่ชอบ ยังไงเสียความสุขของลูกก็ต้องมาก่อนเสมอ

มารดาก้าวออกจากห้องไปแล้ว พร้อมทิ้งความหนักอึ้งเอาไว้ในใจเธอ แม้จะตกลงกันแล้ว กระนั้นก็ยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่ดี จะให้โอกาสทำไม..อย่างไรซะคำตอบของหัวใจเธอย่อมรู้ดี ถ้าไม่ใช่เขา มันก็ไม่ยอมรับใคร

เพียงอรตบบ่ามนปลอบใจ ไม่อยากให้เก็บมาคิดมาก รังแต่จะสร้างความไม่สบายใจไปเท่านั้น

“อย่าคิดมากเลยพิม..ถ้าวันหนึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ คุณหญิงแม่คงยอมรับความจริงแล้วเลิกราไปเอง ท่านแค่หวังดีเท่านั้น” พิมพ์ลภัสถึงยิ้มออกมาได้

เธอมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ไม่ว่าวันนี้หรือว่าวันไหน ชื่อเดียวเท่านั้นที่หัวใจยอมรับคือ ภีรมัต ธาดา เธอมีความสุขดีที่ได้รักเขา แค่ได้รักเขา..ก็เพียงพอแล้ว


---------------------------------------------------------***************--------------------------------------------------------------------

บทนี้สั้นไปนิด แต่รับรองว่าตอนหน้า.....อุ๊บส์

ขอบคุณร้อยวจีค่าที่ตามติดและติดตามมาโดยตลอด และขอบคุณนักอ่านทุกท่านทุกคอมเม้นเป็นกำลังใจให้รจนาไฉนได้มากๆเลย ถ้ามีข้อบกพร่องก็อยากให้ช่วยชี้แนะและแนะนำด้วยค่ะ ยังมีความฝันอยู่...ว่าสักวันจะได้เห็นหนังสือของตัวเองตามร้านหนังสือค่ะ

ตอบทุกเม้นค่ะ ใจเย็นๆนะ อยากให้ลองลุ้นดู

พิมพ์ลภัส จากเนื้อเรื่องคล้ายจะยอมพี่ภีมไปเสียหมด แต่ถ้าอ่านดีจะเห็นว่าชีไม่ได้ลงให้ภีรมัตไปเสียทุกเรื่องหรอกนะคะ แต่ออกแนวรำคาน ถ้าเขียนไม่ถึงอารมณ์ก็ต้องขออภัยมา ณ.โอกาสนี้ด้วยค่ะ ไม่มีประสบการณ์ ขาดผู้แนะนำจริงๆค่ะ

By...รจนาไฉน



รจนาไฉน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ม.ค. 2558, 19:34:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ม.ค. 2558, 20:09:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1826





<< บทที่ 16 Love for ever   บทที่ 19 ยิ่งหนียิ่งใกล้ >>
lookpud 25 ม.ค. 2558, 19:50:55 น.
รออ่านตอนต่อไปคะ


กาซะลองพลัดถิ่น 25 ม.ค. 2558, 20:13:55 น.
กลายเป็นว่าสงสารหนุ่ม ๆ ที่มาจีบสาวน้อยแทนอ่ะ


โอชิน 26 ม.ค. 2558, 20:17:20 น.
ตามมาให้กำลังใจค่า มือใหม่เหมือนกัน เดินจูงมือไปด้วยกันนะคะ เขียนดีนะคะ เราว่าสนุก รีบเขียนให้จบแล้วหาสำนักพิมพ์ส่งต้นฉบับกันดีกว่า ลองดูค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account