จอมนางคู่มังกร
ไม่ว่าเจ้าอยู่ที่ใด ข้าก็จะตามหาเจ้าผู้เป็นเจ้าของหัวใจข้า อวี้เอ๋อร์ ข้าให้สัญญาจะรักเพียงเจ้า และเมื่อมีเจ้าแล้ว ข้าจะปกป้องเจ้าชั่วชีวิตเอง
Tags: ท่านอ๋อง, จีนโบราณ, ย้อนยุค, ความรัก, ผูกพัน, กำลังภายใน

ตอน: บทนำ ต่ออีก 50%

“เชิญท่านลุงกลับวังไปเถอะ ถ้าวันไหนข้าอยากไว้วานให้ท่านช่วยเรื่องจับคนฆ่าท่านแม่ ข้าจะติดต่อกลับไปเอง”

เช้าวันรุ่งขึ้น ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบก็ต้องแปลกใจ เพราะมีเกี้ยวประดับด้วยผ้าแพรที่สวยงาม และทองคำบริสุทธ์ รวมถึงทหารองค์รักษ์ประมาณสิบห้าคน เดินทางออกจากประตูพระราชวังตรงไปยังจวนเสนาบดีฝ่ายขวา

เมื่อท่านเสนาบดีทำการออกมาต้อนรับ รวมถึงทุกคนในจวนต้องคุกเข่าเพื่อรับราชโองการจากฮ่องเต้

“ฮ่องเต้ได้ทรงรับสั่งให้แต่งตั้งองค์ชายหวังหยางฟง หรือหนิงหยางฟง เป็นอ๋องสิบหก แห่งแผ่นดินแคว้นหนิง ได้รับฐานะเทียบชั้นเจ้าฟ้า รองลงมาจากฮ่องเต้ และองค์รัชทายาท นอกจากนั้นฮ่องเต้ได้พระราชทานวังเทียนหลิง ที่กำลังสร้างทางด้านทิศเหนือของเมืองหลวง ประทานทองคำ 30 หีบ และตั๋วแลกเงินจำนวน 150,000 ตำลึง ได้รับเกียรติในฐานะองค์ชาย ทรงสามารถเข้ามาศึกษาวิชาความรู้กับราชครูในวังหลวง

ได้รับป้ายหยกสลักว่าฟง และสามารถใช้ชีวิตนอกวังหลวงได้ตามอัธยาศัย จบพระราชโองการ”

ตำหนักหมิงเยว่ เจ้าของตำหนักคือฮองเฮาหลี่กุ้ยหลิน พระนางมีวัยเพียงสามสิบแปดชรรษา รูปร่างของนางยังคงความงดงาม แต่ใบหน้าตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความบูดเบี้ยว และเต็มไปด้วยความชิงชัง ริษยาบุคคลที่อยู่ในสนทนา

“เสี่ยวเจิ้ง เจ้าเห็นบ้างหรือไม่ว่า ฮ่องเต้ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาฮองเฮาอย่างข้าแค่ไหน แค่ลูกนังนั่นเมื่อแต่ก่อนนางเป็นชาวบ้านธรรมดา ตอนนั้นพ่อของนางยังไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ขนาดนี้ ข้ายังขับไล่ไสสงให้นางไปอยู่ไกลถึงชิงฟู ขนาดนางตายไปแล้ว ยังส่งลูกชายของนางกลับมาเมืองหลวง ข้าคงต้องช้ำใจตายแน่ ถ้าแผนการของข้าที่เคยวางไว้หลายปี กว่าข้าจะกำจัดพวกเหล่าองค์ชายและท่านอ๋องต่างๆ ได้ เจ้าก็รู้ว่ามันลำบากยากเย็นเพียงใด ตำแหน่งรัชทายาทที่ว่างลงมาหลายปี หวังว่าฮ่องเต้คงไม่ดำริอยากประทานให้องค์ชายชั้นต่ำหรอกมั้ง” นางได้แต่กำมือแน่นเข้าด้วยกัน แล้วกวาดสิ่งของขว้างปาไปทั่ว

“ฮองเฮาอย่าทรงกังวล ผู้ใดที่คิดจะเป็นศัตรูกับพี่สาวของข้า มันผู้นั้นไม่ตายดีแน่” หลี่เจิ้งตอบกลับ ให้ฮองเฮาผู้เป็นพี่สาวของเขาสบายใจ

หลังจากได้รับราชโองการจากองค์ฮ่องเต้แล้ว เขาไม่คิดว่าจะต้องก้าวเท้าเข้าไปในวังหลวงโดยไม่จำเป็น งานเลี้ยงฉลองที่มีในวังหลวง จัดขึ้นเพื่อฉลองที่เขารับตำแหน่งมาถึงได้ไม่นาน

ลานพิธีหน้าพระราชวัง มีเหล่าข้าราชบริพารและขุนนางต่างๆ พร้อมใจเข้ามาในงานเลี้ยงของวันนี้ วันนี้เป็นวันแรกที่เขาแต่งตัวเต็มยศอย่างอลังการสมกับฐานะท่านอ๋องสิบหก ข้างกายมีท่านตาของเขาเคียงข้างไม่ห่างนัก เพราะหลังจากวันนั้น เขาก็ชี้แจงเล่าเรื่องที่ท่านแม่ทรงปกปิดไว้ให้ท่านตาฟัง ท่านตารับฟังอย่างเข้าใจ

การที่มียศถาบรรดาศักดิ์เพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างท่านตากับเขาเหินห่างกันแต่อย่างใด แต่ท่านตากลับเป็นคนที่เข้าใจในความคิดของเขาคนหนึ่ง ท่านยังทราบว่าเขาไม่ปรารถนาจะรับตำแหน่ง แต่ก็ขัดราชโองการมิได้

ในสายตาของขุนนาง องค์ชายสิบหกถึงแม้ชรรษายังน้อย แต่วี่แววความเป็นปราชญ์แผ่ซ่านออกมา ทำให้ท่านอ๋องถูกเคารพนับถือจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ได้ในชั่วข้ามคืน

งานเลี้ยงยังดำเนินต่อไปจนกระทั่ง ฮองเฮาเสด็จ พระนางเข้ามาด้วยใบหน้าเชิดหยิ่งทระนงไว้ตัว ทรงปรายตามามองท่านอ๋องน้อยคนใหม่ ทรงรับสั่งว่า

“แม่เจ้าคงจะสั่งสอนเจ้ามาเป็นอันดีสินะ แต่ชั้นต่ำหรือจะมาสู้ท่านอ๋องต่างๆ ที่เคยสั่งสมบารมี และการทำราชกิจที่น่ายกย่องได้”

ทุกคนต่างได้ยินที่ฮองเฮารับสั่ง รู้สึกหวาดหวั่นแทนท่านอ๋ององค์ใหม่กันถ้วนหน้า แต่ไม่มีใครกล้าประจบยกยอท่านอ๋องอีก

“อืม” ท่านอ๋องปรายตาไปมองท่านตาที่หน้าแดงกร่ำ ที่หลานชายถูกหลบหลู่เกียรติ ถึงแม้เขาไม่ได้เลี้ยงหลานชานองค์นี้มา แต่เขาก็เคารพยกย่องนับถือสติปัญญา ทางด้านวรยุทธ์แม้ไม่เคยเห็นฝีมือ แต่พอรู้หลานชายของท่านมีดีอยู่ในตัว ไม่รู้ว่า เป็นศิษย์ของสำนักไหน เพราะรู้สึกลมปราณได้หลายสาย

“ถวายพระพรฮองเฮาขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี ๆ ข้าเป็นเพียงผู้น้อยต้อยต่ำ ยศถาบรรดาศักดิ์ใช่ว่าอยากได้มา แต่องค์ฮ่องเต้ทรงขอไว้ เพื่อชดเชยเรื่องที่ผ่านมาต่างหาก”

“ท่านอ๋องอย่าได้ถือสา ข้าเพียงสงสัยว่าท่านอ๋องคงอยากได้ตำแหน่งท่านอ๋องแห่งมณฑลด้านทิศเหนือกระมัง ข้าได้ยินฮ่องเต้ดำรัสและทรงปรึกษาเหล่าขุนนางอยู่ แต่ตอนนี้ข้าก็คิดว่าตำแหน่งนี้อาจจะเหมาะกับท่าน”

ท่านอ๋องไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร ที่มาวันนี้เพื่อดูท่าทีขุนนางและสืบหาข่าวเพิ่มเติม จากเรื่องที่ตั้งใจแต่เดิมต่างหากที่สำคัญ หลังจากเสร็จงานเลี้ยงแล้ว ท่านอ๋องก็กลับไปที่จวนตระกูลหวังดังเดิม

อีกด้านหนึ่งของวังหลวง หลังจากที่องค์ฮ่องเต้ทรงออกคำสั่งให้สร้างวังเทียนหลิง เหล่ากำนันในตำหนักต่างๆ ร่วมพากันคัดเลือกนางกำนัลเพื่อไปประจำยังวังแห่งใหม่จำนวนหลายร้อยคนนั้น มีหญิงสาววัยกลางคน ผิวพรรณผุดผ่องมีน้ำมีนวล ช่วยกันคนย้ายข้าวของที่องค์ฮ่องเต้ให้ซื้อไว้ใช้งานที่วัง กลิ่นเหงื่อของพวกข้ารับใช้ และกลิ่นอับๆ ของข้าวของที่กำลังบรรทุกอยู่ในเกวียนที่นางอาศัย ทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะอาเจียน หน้ามืดตาลาย คล้ายจะเป็นลมขึ้นมา

“ตี้ชิงเจ้าเป็นอะไรไป พวกเรายังไม่ขนข้าวของไปถึงวัง เจ้าจะมาด่วนไม่สบายไม่ได้นะ ไม่งั้นอาจโดนพ่อบ้านคนใหม่ด่าได้” นางกำนัลที่อยู่ในเกวียนทักนางขึ้นมา

“ไม่รู้ข้าเป็นอะไร หน้ามืด อยากอาเจียนขึ้นมา ทันทีที่ได้กลิ่นพวกนั้นนะ”

“อะไรกัน ถ้าข้าไม่รู้จักเจ้าดีพอ ข้าคงคิดว่าเจ้ากำลังตั้งท้องอยู่แน่นอน”

“จะเป็นไปได้อย่างไง ข้าไม่เคยหลับนอนกับผู้ชายใด ข้าอยู่แต่ในวังหลวง และอยู่แต่ในครัวเท่านั้น ไม่ได้อยู่ตำหนักของเหล่าองค์ชายต่างๆ ใครจะมารังแกข้าได้”

แต่หน้านางก็ซีดเผือดเมื่อคิดถึงระดูที่ขาดมาสองเดือน และคิดว่า ‘โอ้นี่สวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรกับข้าอยู่


#มาต่อแล้วคะ ทิ้งระเบิดไว้ตู้มใหญ่ เด็กน้อยกำลังเกิด ท่านอ๋องกำลังจะย้ายบ้าน คนร้ายกำลังจะออกลายอีกครั้ง การพลัดพรากกำลังจะเกิด ตอนหน้าจะเปิดตัวนางเอกหรือเปล่า ลุ้นกันคะ
คิดได้เท่านี้ พรุ่งนี้ไม่รู้จะได้มาอัพหรือเปล่า ฝากติดตามท่านอ๋องด้วยคะ



อนัญชริการ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ม.ค. 2558, 20:54:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ม.ค. 2558, 20:54:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1059





<< บทนำ 50%   บุคคลในทำนายคือใคร >>
Zephyr 4 ก.พ. 2558, 20:52:08 น.
ทำไม ยู่ๆห้องเต้ตั้งองค์ชายคะ งง
สิบขวบ มันดูอัจฉริยะไปมั้ย ความเห็นส่วนตัวนะ เพิ่มอายุสักนิดมั้ยคะ 15 ไรงี้ 555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account