พิมพ์ลภัส
พิมพ์ลภัสเด็กสาวร่างอ้วนแก้มยุ้ยด้วยน้ำหนักตัวเกือบร้อยกิโลกรัมแอบรักพี่ชายขัางบ้านที่โตมาด้วยกัน ทว่าภีรมัตเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น..เธอรู้
ระหว่างเธอกับภีรมัตแตกต่างกันราวผีเน่ากับเทพบุตร ใครจะไปสวยเท่าแฟนสาวสิตาภาที่ครั้งหนึ่งเขาเคยประกาศต่อหน้าเธอว่าใช่สเป็ก นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ และการกลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างเธอกับภีรมัตเรื่องยุ่งๆของหัวใจจึงเริ่มต้นขึ้น

Tags: พิมพ์ลภัส ภีรมัต รักหวานซึ้งปนเศรา้้

ตอน: บทที่ 20 ยิ่งใกล้ยิ่งรัก



เมื่อเช้า..พบกันโดยบังเอิญขณะที่เขากลับพูดไม่ออก หลังจากนั้นทั้งบ่ายภีรมัตก็พยายามกวาดสายตามองหาร่างบาง ซึ่งอาจปะปนอยู่ในกลุ่มทีมงาน แต่ก็ไร้เงา..

นึกย้อนไปเมื่อเช้า..เขามัวแต่ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรเอ่ยคำไหนก่อนดี ยังรู้สึกละอายใจสำหรับเรื่องในวันนั้น ครั้นจะถามไถ่ก็กระดากปากเกินจะเอื้อนเอ่ยจึงนิ่งเงียบเพียงอย่างเดียว ไม่รู้ว่าป่านนี้สาวน้อยจะคิดอย่างไร จะโกรธหรือเกลียดเขามากแค่ไหน..สีหน้าเรียบเฉยของเธอยากจะเดาจริงๆ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆหากสาวน้อยจะโกรธ แต่..ขอเพียงสิ่งเดียวอย่าถึงขั้นเกลียดกันก็พอ ทำไมนะ..พอคิดว่าพิมพ์ลภัสจะเกลียดเขา หัวใจมันถึงยอมรับไม่ได้ ยอมให้โกรธแต่ไม่ยอมให้เกลียด

พอมีเวลาได้พักกอง ภีรมัตก็ฉวยจังหวะตอนที่สิตาภาไปทำธุระส่วนตัวเดินเลี่ยงมาหาสาวหน้าคมเพื่อนสนิทของพิมพ์ลภัส ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับอะไรสักอย่างหลังกอง

”อร” เสียงทุ้มเรียกไม่ดังแต่ไม่เบาเกินไป ทำให้เพียงอรซึ่งกำลังแอบดูภาพถ่ายจากกล้องของทีมงานที่นำมาฝากไว้ให้พี่ต๋อยชะงักมือหันมามอง

“อ้าว!พี่ภีมอยากได้อะไรเหรอคะมาถึงนี่เลย” เพียงอรถามหน้าตาเหลอหลา

แรกๆก็ตื่นเต้นเวลาที่เจอเขา หลังๆมานี่พบกันบ่อย..ก็เริ่มคุ้นเคยอาการตื่นเต้นจึงลดน้อยลง แต่ภีรมัตดูยังไง๊..ยังไงก็หล่อกระชากใจอยู่ดี ยิ่งใกล้ยิ่งหล่อ เพียงอรยิ้มเคลิ้ม

“พิมไปไหนซะล่ะ..พี่ไม่เห็นเลย” พระเอกหนุ่มเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

นั่นไง..แสดงว่าเมื่อเช้าพิมพ์ลภัสเจอภีรมัตแล้ว ถึงได้โวยเธอ แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ..ทำไมพิมพ์ลภัสต้องแสดงท่าทางช็อกซะขนาดนั้นด้วย ทั้งที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่..ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆโน่นแล้ว ชัวร์..ทะเลาะกันชัวร์ เพียงอรคิดต่อในใจ

“อยู่ที่บ้านพักโน่นค่ะ..ไม่รู้ป่านนี้จะหนีกลับกรุงเทพฯไปรึยัง” ขณะพูดก็แอบสังเกตปฏิกิริยาพระเอกหนุ่มด้วย เผื่อว่าจะแสดงพิรุธอะไรออกมาให้เห็นบ้าง

“หนี..ทำไมต้องหนีด้วย..” ภีรมัตถามเสียงดัง พร้อมทั้งเลิกคิ้วสูง สีหน้างุนงง

“นั่นน่ะสิคะ..อรก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน พอพี่ภีมมาปุ๊บ..นางก็จะกลับทันที” เพียงอรเอ่ยประกายตาวาววับจ้องหน้าภีรมัตไม่วางตา และเหมือนเธอจะเห็นพิรุธบางอย่าง..เมื่อภีรมัตเสมองอย่างอื่นหลบตาเธอ

ที่เอ่ยถาม..เพราะไม่คิดว่าพิมพ์ลภัสจะถึงกับต้องหนีหน้าเขา..แต่พอถูกสายตาจับผิดของเพียงอรมองมาอย่างคาดคั้น..เขาจึงรู้ว่าเพราะอะไรพิมพ์ลภัสถึงหนี จึงยิ้มเจื่อนๆให้เพียงอร

“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ” เขาจบบทเสียดื้อๆ แล้วเลี่ยงออกมา แต่ไม่ได้กลับไปนั่งรอที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งซึ่งทีมงานจัดไว้ให้ ภีรมัตเลือกที่จะเดินไปอีกทาง ซึ่งเป็นเส้นทางไปยังบ้านพัก เพียงอรมองตามแผ่นหลังสมาร์ทจนลับตาด้วยความสงสัย เขาอาจจะปวดหนักก็ได้ จากนั้นจึงเลิกสนใจไป
--------------------------------------------------------------*******************---------------------------------------------------------------

เท้าแข็งแรงสองข้างก้าวยาวๆไม่กี่ก้าวก็ถึงรั้วบ้านพักสีขาว ตลอดทั้งวันเขาครุ่นคิดอยู่ว่าควรจะพูดอย่างไรกับสาวน้อยดี พักหลังมานี่ทุกครั้งที่เจอกัน พิมพ์ลภัสมักจะเมินเฉยใส่เขาตลอดเวลา ถ้าไม่หน้ามุ่ยก็เดินหนีคอยหลบเลี่ยงทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้าจะมาถ่ายภาพนิ่งที่นี่ เขามีโอกาสไปดวลวงสวิงกับอาบรรพตที่บ้านโน้น พิมพ์ลภัสเอาแต่เก็บตัวอยู่บนห้องไม่ยอมลงมา กระนั้นตัวเขาเองก็เถอะ..ยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเธอเช่นกัน

ภีรมัตเดินพ้นแนวรั้วต้นไม้ ซึ่งทางบ้านพักปลูกไว้ประดับประดาสูงต่ำสลับกัน จนกระทั่งโผล่บริเวณบ้านพักตากอากาศหลังสีขาว สายตายาวรีสีนิลปะทะเข้ากับร่างโปร่งในชุดลูกไม้สีขาวยาวกรอมเท้า ข้างกายใกล้กันคือจุลกานต์ นายแบบหนุ่มมาแรงคนเดิม ทั้งคู่หัวเราะร่วนเสียงดังจนน่าหมั่นไส้ ใบหน้าหล่อเหลาคิ้วขมวดยุ่งอัตโนมัติ มองทั้งคู่อย่างไม่สบใจ วินาทีต่อมา..สาวน้อยจึงเหลือบสายตามาสบสานเข้ากับเขาอย่างจัง เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ต้องมองไปทางนั้นด้วย

รอยยิ้มสุกสว่างเลือนหายไปในทันที..ดวงตาสดใสรอยยิ้มละไมแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา เรียบเฉยเข้ามาแทนที่ แววของความตื่นตระหนกในตอนเช้าไม่มีให้เห็น

“อยากออกเดทด้วยกัน ทำไมไม่ขอคุณอาดีๆ ไม่เห็นต้องเอาทีมงานพี่ต๋อยมาบังหน้าเลย เปิดตัวกันแล้วนี่..ไม่น่ามีปัญหาอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยเข้มห้วนหน้าตึง มองไม่กะพริบ

เดิมที...ภีรมัตตั้งใจจะคุยกับเธอดีๆ แต่ไม่รู้เพราะอะไรเวลาที่เห็นพิมพ์ลภัสอยู่กับหมอนี่ ถึงเก็บอารมณ์ไม่อยู่สักที

คนชอบหาเรื่องก็ยังมีเรื่องให้จิกกัดได้ตลอดเวลา คิดเหรอว่าเธอจะหลบตาดุๆนั่น แม้จะหวั่นบ้าง..นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ภีรมัตมองเธอติดลบ ในสายตาเขา..เธอคงเป็นเด็กใจแตกสินะ ความน้อยใจตีรื้นขึ้นมาอีกแล้ว เธอจ้องตอบแววตาดุๆนั่นไม่ลดละก่อนจะตัดพ้อเขาทางสายตาด้วยความน้อยใจ แต่เพียงแว๊บเดียวเท่านั้นแล้วปรับโหมดเป็นปกติ มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึก กลับเป็นจุลกานต์ที่แก้สถานการณ์ซะเองเพราะไม่อยากให้มีสงครามเย็นเกิดขึ้น

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับคุณภีม..พอดีผมมีถ่ายโฆษณาจังหวัดใกล้กันนี่เอง..เสร็จงานก็เลยขอตามคุณพิมมา..” จุลกานต์เอ่ยยิ้มๆ เหลือบมองคนข้างกายเขาด้วยประกายตาสื่อความหมายลึกซึ้งไม่ปิดบัง

ภีรมัตมองจุลกานต์สลับกับใบหน้าหวาน..แล้วหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ เขาไม่สนใจฟังคำบอกเล่าของนายแบบหนุ่ม มันไม่ได้กระทบโสตหูเขาแม้เพียงน้อยนิด แต่กลับจ้องเสี้ยวหน้าเชิดรั้นของพิมพ์ลภัสนิ่งๆ

เธอไม่อยากเถียงเขา..ต่อให้หาเหตุผลมาอธิบายเพียงใดก็ไม่สามารถหักล้างความคิดเขาได้อยู่ดี ที่ผ่านมาพยายามคิดในแง่ดีมาตลอดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะห่วงเธอ แต่พอหนักเข้าเธอก็เริ่มจะไม่เข้าใจความคิดเขาแล้ว เพราะหลังๆมาภีรมัตทั้งใจร้อนไม่มีเหตุผล พี่ชายคนเดิมที่แสนอบอุ่นคนนั้นหายไปไหน ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้ ฉะนั้นการเงียบคือวิธีที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ ต่อกรไปก็ไร้ประโยชน์ รังแต่จะเจ็บปวดใจตัวเองเปล่าๆ

“คุณจุ๊นคะ..พาฉันไปเดินเล่นหน่อยค่ะ ตรงนี้มันไม่ค่อยมีอากาศน่ะ” เธอเอ่ยพร้อมทั้งแตะแขนจุลกานต์แผ่วเบาไม่มองเขา

“ขอตัวนะครับ” จุลกานต์หันมาเอ่ยกับภีรมัตตามมารยาท ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเคียงกันลงไปยังเบื้องล่างและหายไปตามแนวหาดทรายสีขาวนวลสะอาดตา ภีรมัตได้แต่มองเงียบๆ แม้ภายในจะแทบคลั่งก็ตามที

พอพ้นจากเขามา เธอถึงกับเผลอถอนใจเฮือกใหญ่เสียงดัง จนคนข้างกายต้องเหลียวมอง ทั้งเหนื่อยใจ..หนักใจรวมกัน ใบหน้าเรียวรูปไข่ก้มมองพื้นทรายหน้ายุ่งท่าทางครุ่นคิด

“คุณพิมเป็นอะไรไปครับ..หน้าเครียดจัง”

“เปล่าค่ะ..แดดคงแรงไปหน่อย” เธอบอกยิ้มบางๆให้เขานิด ก่อนจะยกเรื่องอื่นขึ้นมาเป็นฝ่ายชวนเขาคุยเพราะไม่อยากให้จุลกานต์เป็นกังวลไปด้วยจนทำให้หมดสนุก

--------------------------------------------------********-------------------------------------------------------------------------------

เย็นวันเดียวกัน งานถ่ายแบบที่คาดว่าจะเสร็จภายในวันนี้ กลับต้องเลิกถ่ายกะทันหันเพราะฝนดันลงเม็ดมาซะก่อน จึงต้องเลิกกองตอนช่วงบ่ายแก่ๆ ภีรมัตเดินมาส่งสิตาภาถึงที่พักแล้วก็รีบปลีกตัวกลับมายังบ้านพักของตนเพื่ออาบน้ำเสียที ชักเหนียวตัวเพราะลมทะเลที่พัดพาเอาความเค็มต้องผิวกายมาทั้งวัน

ผ่านไปร่วมชั่วโมงเศษ หลังสายฝนซาลงจนหยุดสนิท สิตาภาปรากฏกายหน้าห้องพักเขา..ดึงดันจะเข้ามาข้างในเสียให้ได้ ภีรมัตจำต้องเลี่ยงด้วยการพาเธอไปทานมื้อเย็นข้างนอกแทน

ร่างบางสะโอดสะองเดินเฉิดฉายเกาะเกี่ยวลำแขนแข็งแรงของแฟนหนุ่มจนแทบจะแทรกกายหายเข้าไปในตัวเขา เดินนวยนาดเข้าร้านอาหารริมทะเล สายตาหลายคู่จับจ้องอย่างใคร่รู้

บ่อยครั้งที่ภีรมัตอึดอัดกับท่าทางวางตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขามากเกินเหตุ ถึงขนาดกับวุ่นวายเรื่องคิวงาน จัดการตารางชีวิตให้เขาตามใจชอบ ไม่พอใจงานไหนก็ถือวิสาสะยกเลิกงานผละการโดยไม่ปรึกษา หลายครั้งหลายหนที่เขาต้องถือกระเช้าเข้าไปขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ พยายามหาเหตุผลเหมาะสมมาชี้แจงให้สปอร์นเซอร์ฟัง ยอมรับว่าโกรธที่เธอวุ่นวายเกินกติกาที่เคยตกลงกันแต่ไม่อยากเอาความเอาเรื่อง เพราะเห็นว่าคบหากันมานานหลายปี มีบ้างที่ต่อว่าไปแต่พอเห็นน้ำตาเขาก็อดใจอ่อนไม่ได้ทุกที
ทั้งคู่เลือกที่นั่งริมระเบียงแขนงไม้ สามารถมองทอดออกไปยังผืนน้ำสีเขียวครามได้เต็มตา

“ภีมคะ..เราพักห้องเดียวกันก็ได้นี่คะไม่เห็นต้องแยกห้องให้วุ่นวายเลย..ทีมงานก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเราเป็นอะไรกัน”

“สิตาครับ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเรามาทำงาน ไม่ได้มาเที่ยวกันสองคน ผมไม่อยากให้ใครมองคุณไม่ดี”

ภีรมัตพยายามยกเหตุผลที่สิตาภาฟังแล้วพึงพอใจ เพราะรู้ดีถ้าเหตุผลไม่มากพอคนอย่างสิตาภาจะไม่มีทางยอมรามือง่ายๆแน่ สิตาภายิ้มกว้าง นี่แหล่ะภีรมัต..เป็นสุภาพบุรุษเสมอ เขามักจะห่วงชื่อเสียงหน้าตาเธอตลอดเวลา

ในชีวิต..เธอผ่านผู้ชายมาหลายคน แต่กลับไม่เคยมีใครใส่ใจห่วงใย ปฏิบัติต่อเธอได้ดีเท่าภีรมัตมาก่อน ทุกคนเพียงสนใจแค่หน้าตาและฐานะทางสังคมของเธอเท่านั้น ไม่มีใครรักจริง ทว่าภีรมัตแตกต่าง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเอ่ยคำว่ารักให้ได้ยินแม้เพียงครั้ง กระนั้นตลอดเวลาที่คบหากันมา ภีรมัตก็ไม่เคยมีใครนอกจากเธอ..เธอจึงมั่นใจเต็มร้อยว่ายังไงเสียคนที่ภีรมัตจะต้องแต่งงานด้วยก็คือเธอ..ผู้เดียว

ผู้ชายแสนดีอย่างเขาไม่มีผ่านเข้ามาในชีวิตเธอบ่อยนักแล้วจะให้ปล่อยไปเรอะ..ไม่มีวันซะหรอก

เสียงหัวเราะพูดคุยกันเกรียวจากกลุ่มคนขนาดย่อมเดินเข้ามาในร้าน ทำให้ภีรมัตต้องหันไปมอง

“อ้าว!ภีม กินร้านนี้เหมือนกันเหรอ” ต๋อยทักเสียงดัง

ภีรมัตยิ้มให้ต๋อยด้วยความดีใจฉายชัดจากเต็มใบหน้า ต๋อยเหมือนเทวดามาโปรดเลย ณ..ตอนนี้ มาได้จังหวะดีเสียจริง อย่างน้อย..เขาก็ไม่ต้องอยู่ตามลำพังกับสิตาภาแล้ว วันทั้งวัน..เจ้าหล่อนเอาแต่ออดอ้อนคลอเคลียร์ให้เขาคอยเอาใจจนปวดหัว ไม่ปล่อยให้มีเวลาเป็นส่วนตัวบ้างเลย

“ครับ..พี่ต๋อยนั่งด้วยกันสิฮะ เดี๋ยวผมเรียกเด็กต่อโต๊ะเอง” พูดจบภีรมัตก็กวักมือเรียกพนักงานทันทีโดยไม่รอให้ใครได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

เด็กเสิร์ฟเข้ามาจัดการต่อโต๊ะเพิ่ม ต๋อยมองพระเอกหนุ่มอย่างเข้าใจ แม้จะไม่เอ่ยชวนต๋อยก็ตั้งใจจะนั่งร่วมโต๊ะด้วยอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านั้นเพิ่งให้ทีมงานไปเรียกภีรมัตที่บ้านพักจะชวนมาทานอาหารด้วยกัน ทว่าพระเอกหนุ่มออกมาซะก่อน นึกว่าอยากอยู่ตามลำพังกับแฟนสาว แต่พอได้เห็นแววตาขอความช่วยเหลือแบบนี้แล้ว..สงสัยจะหนักเอาการ

สิตาภามองเด็กเสิร์ฟยกเก้าอี้เสริมวุ่นวาย ตาเบิกโพลง อ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดซะเดี๋ยวนั้นเลย จะคัดค้านก็ไมได้เพราะวันนี้เธอเรื่องมากจนภีรมัตชักจะรำคาญแล้ว ทำไมจะดูไม่ออก จึงได้แต่ส่งสายตาไม่พอใจมาที่ต๋อยแทน กระนั้นต๋อยก็กลับไม่สนใจจนนิดเดียว นั่งลงข้างภีรมัตหน้าตาเฉย

ภีรมัตนั่งขั้นกลางระหว่างแฟนสาวกับต๋อย ก่อนจะส่งสายตากรุ่นๆเลยไปให้สาวน้อย ซึ่งขณะนี้คงหน้าบานเพราะชายหนุ่มสองคนต่างแย่งกันทำหน้าที่สุภาพบุรุษเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งจนแทบจะชนกัน คนสวยจึงจำใจต้องนั่งตรงกลางระหว่างจุลกานต์และแทนไท เท่ากับนั่งตรงข้ามกับภีรมัตโดยปริยาย สีหน้ามึนตึงจากเขาบ่งบอกชัดว่าไม่พอใจ คงไม่อยากให้เธอร่วมโต๊ะด้วย

ทำไมหมู่นี้..โชคถึงเข้าข้างเธอตลอดเลยนะ ยิ่งหนียิ่งเจอไม่เข้าใจพระพรหมเอาเสียเลย เหลือบมองเขาแว๊บหนึ่งก็สบเขากับสายตาคมปลาบสีนิลไร้ความรู้สึกอีกเช่นเคย

“จะมีเรื่องรึเปล่าวะเนี่ย..” เพียงอรเอียงหน้าเข้ามากระซิบข้างหูพิมพ์ลภัส พอเห็นสายตาเย็นเยือกของภีรมัตที่มองจุลกานต์สลับกับแทนไทแล้วอดขนลุกไม่ได้ ก่อนจะเดินไปนั่งท้ายโต๊ะติดกับแทนไท เป็นประธานแต่ด้านหลัง

ที่ถามไปแบบนั้นเพราะพิมพ์ลภัสเคยเล่าให้ฟังว่าภีรมัตไม่กินเส้นกับจุลกานต์เท่าไหร่..ด้วยความเป็นคนเจ้าชู้จึงไม่อยากให้เขามาวุ่นวายกับพิมพ์ลภัส กลัวว่าจะโดนจุลกานต์หลอกเหมือนผู้หญิงคนอื่น

ต๋อยแนะนำทุกคนให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แม้จะรู้สึกถึงกระแสพายุแปลกๆคล้ายระลอกคลื่นใต้น้ำระหว่างภีรมัตกับพิมพ์ลภัส..กระนั้นก็ไม่คิดว่ามันจะมีอะไรร้ายแรง..อาการแบบนี้มันเหมือนอาการหึงหวงกันมากกว่า เพียงแต่ภีรมัตอาจจะยังไม่รู้ตัว
เพราะภีรมัตกับพิมพ์ลภัสไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจะแอบปิ๊งกันตอนไหน เว้นซะแต่ว่าตน...ตกข่าว

ทุกคนเริ่มกางเมนูสั่งอาหารตามใจชอบเมื่อภีรมัตเสนอตัวเป็นเจ้ามือเลี้ยงเอง

“คุณพิมอยากทานอะไรครับ ผมสั่งให้” จุลกานต์เอียงหน้าเข้ามาพูดใกล้เธอ

แทนไทเหลือบมองคู่แข่งนิดสีหน้าแสดงอาการเซ็งชัดเจน มาทีหลังแต่ดันทำตัวอย่างกับเป็นแฟนพิมพ์ลภัสซะเอง ไม่รู้โผล่มาได้ไง

“จะจีบ แต่ไม่รู้ว่าพิมชอบอะไรใส่ใจจริงรึเปล่าเนี่ย” แทนไทเอ่ยแขวะลอยๆ สายตาจับอยู่ที่เมนู เพียงอรอดไม่ได้จำต้องเตือนสติ
เพื่อนหนุ่มด้วยการหยิกเข้าที่ท่อนแขนไปหนึ่งที แทนไทสะดุ้งนิดซู้ดปากเบาๆเพราะแสบที่เนื้อผิว

“อย่าจุดชนวนได้มั้ย..สงสารไอ้พิมมันบ้าง” เพียงอรกระซิบปุ้ยปากให้แทนไทมองคนข้างกายเขาที่นั่งคั่นกลางวางหน้าไม่ถูก แทนไทเหลือบตามองก็เห็นจริงอย่างที่เพียงอรบอก เพราะขณะนี้พิมพ์ลภัสมีสีหน้าพะอืดพะอมเหมือนอยากจะร้องไห้เสียเต็มประดา

“คนสวยก็แบบนี้แหล่ะ..ทำใจซะพิม” ต๋อยเอ่ยขันๆแก้บรรยากาศไม่ให้ตึงไปยิ่งกว่านี้ สาวน้อยเพียงยิ้มจืดๆกลับไปให้

“สิตาเดี๋ยวผมสั่งกุ้งเผาให้คุณนะ..ของโปรดคุณไม่ใช่เหรอ” ภีรมัตเอ่ยขึ้นเรียบๆแต่ชัดทุกถ้อยคำคล้ายอยากให้เธอได้ยิน พิมพ์ลภัสเงยมองเขาแว๊บนึง

“ขอบคุณค่ะภีม..คุณรู้ใจสิตาเสมอเลยนะคะ” ไม่พูดเปล่านางแบบสาวยังโน้นตัวเข้าไปจูบที่แก้มสากเพราะไรหนวดขึ้นจางๆโดยไม่แคร์สายตาใคร เพียงอรถึงกับเบ้ปากอย่างหมั่นไส้

“อร..ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อยสิ” พิมพ์ลภัสส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาถึงเพื่อนซี้

วันนี้..มันเป็นวันวินาศสันตะโรหรือไงกัน เธอถึงหาความสงบสุขไม่ได้เลย พอมาถึงหน้าห้องน้ำเพียงอรถึงกับถอนหายใจยาว..อย่างโล่งอก

“อกจะแตกตาย..นายจุลกานต์นั่นโผล่มาได้ไงวะ” เพียงอรสบถเสียงดัง เมื่อช่วงบ่าย..กะว่าจะถาม..แต่ไม่มีจังหวะ จุลกานต์คอยตามติดแจไม่ยอมห่าง เว้นเสียแต่ตอนที่พิมพ์ลภัสไปเข้าห้องน้ำ กระนั้นเธอก็ไม่ว่าง

“ฉันผิดเองแหล่ะ...แค่ชวนตามมารยาท ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมาได้เห็นบอกว่าติดงาน..” เธอพูดเสียงอ่อยสำนึกผิด

สำหรับเธอ จุลกานต์คือเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น ที่มีอาการลำบากใจอยู่เนี่ยก็เพราะทริปนี้เป็นของพี่ต๋อยและทีมงาน เธอก็อาศัยมาเที่ยวด้วยแถมยังมีจุลกานต์โผล่พ่วงมาอีกคนจะให้ปั้นหน้ายิ้มรื่นได้ไง

“เรื่องนั้นไม่สำคัญแต่..เมื่อกี้แกเห็นอะไรมั้ย พี่ชายข้างบ้านแกนั่งหน้าตึงแบบไม่ต้องฉีดโบท็อกเลยว่ะ มองนายจุลกานต์ตาขวางเชียว ถ้าไม่รู้ว่าเคยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ฉันคงคิดว่าพี่ภีมกำลังหวงแกว่ะพิม”

“แน่ล่ะ พ่อฝากให้เขาจับตาดูฉันไง ลืมไปแล้วเหรอ”

“ไม่ใช่แบบพี่หวงน้องสาว แต่มันเหมือนกับ..หวงหึงอะไรทำนองนั้นมากกว่า” เพียงอรบอกตามความรู้สึก

อาหารหลากหลายเมนูถูกยกมาเสิร์ฟจนแน่นโต๊ะ ภีรมัตเหลือบมองสองสาวหน้าห้องน้ำเป็นพักๆ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันเป็นนานสองนาน ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีแล้ว ยังไม่เห็นขยับเท้าออกจากตรงนั้นเสียที

“ผมขอไปล้างมือหน่อยนะครับ..” เขาเอ่ยกับทุกคนก่อนจะหันมายิ้มให้แฟนสาว สิตาภาจำต้องปล่อยให้ไปเพราะสายตาเข้มจากภีรมัตที่มองมาแม้จะไม่เอ่ยตรงๆแต่เธอรู้ดีว่าเขา...ขอเวลานอก

ภีรมัตเดินหายเข้าไปในห้องน้ำไม่ถึงห้านาทีก็กลับออกมา สองสาวยังคงยืนสนทนากันอยู่ที่เดิมอย่างออกรสจนไม่ทันสังเกตเห็นเขา

“เหลวไหลน่ะอร..คิดไปเอง..แฟนเค้านั่งหัวโด่ทั้งคน..”

“จริงนะแก..พี่ชายฉันยังไม่เคยหวงแบบนี้เลย มันชักยังไงอยู่น้า..” เพียงอรลากเสียงยาวทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อน

“จะกินมั้ยข้าว..ปล่อยให้คนอื่นรอมันเสียมารยาท” เสียงทุ้มเอ่ยเข้มห้วนดังแทรกเข้ามา แล้วก้าวฉับๆกลับโต๊ะหน้าตาเฉย
เพียงอรอ้าปากเหวอ พอได้สติจึงรีบเอามือขึ้นอุดปากตัวเอง

“อุ๊บส์...ได้ยินรึเปล่าวะเนี่ย” บ่นอุบมองพิมพ์ลภัสหน้าเหลอหลาตื่นๆ พิมพ์ลภัสส่ายหน้าเนือยๆ ชี้หน้าคาดโทษไว้ก่อนจะเดินตามเขากลับมาที่โต๊ะ

สองสาวกลับมาถึงโต๊ะ อาหารทยอยเรียงหน้าเข้ามาเสิร์ฟสารพัดอย่าง

“ใครสั่งค่ะเนี่ย..หมึกมะนาวของโปรดพิมเลย” พิมพ์ลภัสฉีกยิ้มกว้างดีใจ..พอกลับมานั่งก็เห็นของชอบตัวเองวางอยู่ตรงหน้า มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าเธอชอบทานเป็นพิเศษ ตั้งแต่ควบคุมน้ำหนัก..น้อยครั้งที่จะสั่งมาทาน..แม้แต่เพื่อนสนิททั้งสองก็แทบไม่เคยสังเกตเลยมั้ง..ว่าเป็นเมนูโปรด

“ภีมเป็นคนสั่ง..ของชอบพิมเหรอ” ต๋อยตอบแทน อีกทั้งสงสัยในความสัมพันของทั้งคู่จึงแอบสังเกตอยู่เรื่อยๆ ดูสิ!ว่าทั้งภีรมัตและพิมพ์ลภัสจะทำหน้ายังไง จะปิดอีกนานมั้ย

พิมพ์ลภัสมองเขาอย่างคาดไม่ถึง..จะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้จะบึ้งก็ทำไม่ลง เพราะสายตาของสิตาภาคอยมองจิกขุ่นขวางตลอดเวลา ภีรมัตเองก็มีท่าทีเฉยๆดูสบายๆไม่สบตาเธอ ตักอาหารใส่จานตนและแฟนสาวเงียบๆ

“ขอบคุณค่ะ..” พิมพ์ลภัสเอ่ยลอยๆ..ดีใจที่เขายังไม่ลืม มองคนตรงข้ามที่ทำแค่เพียงเหลือบตาขึ้นมองเธอแว๊บนึงเท่านั้น

“ภีมคะ...เดี๋ยวทานอาหารเสร็จเราไปฟังเพลงต่อนะคะ สิตาอยากฟังเพลง” นางแบบสาวเริ่มแสดงอภิสิทธิ์ของตนบ้าง กลัวเขาจะลืมว่าเธอนั่งอยู่ด้วยทั้งคน

“ได้สิ..” ภีรมัตตอบรับสั้นๆ เหลือบตามองจานพิมพ์ลภัสที่มีอาหารวางจนล้นพูน..หน้าตึง

แทนไทและจุลกานต์ต่างแย่งกันบริการตักอาหารใส่จานเธอจนกองทับถมเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ เธอมีสีหน้าลำบากใจ นั่งนิ่งมองทั้งคู่ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน แย่งกันตักโน่นหยิบนี่ให้เธอสารพัด จนดูเหมือนสงครามอาหารเพราะสารพัดเมนูต่างมารวมอยู่บนจานเธอ จนหน้าตาประหลาดไม่รู้ว่าจะเรียกอะไร

“พอแล้วค่ะคุณจุ๊น..ไทด้วย กองเท่าภูเขาแบบนี้..ใครจะไปกินหมด” เธอเอ่ยเสียงดังนิดจนทุกคนในโต๊ะชะงักมือหันมามองแล้วต่างกลั้นยิ้ม ก่อนที่จะหลุดยิ้มซะเอง เพราะกลั้นไม่อยู่ ”คนนะคะไม่ใช่หมู..รวมกันจนไม่รู้อะไรเป็นอะไร” พิมพ์ลภัสพูดไปขำไปด้วย

จุลกานต์และแทนไท ถึงกับยิ้มแหยๆเมื่อมองเห็นกองทัพอาหารพูนจานพิมพ์ลภัส ต๋อยกวักมือเรียกสาวเสิร์ฟขอจานเพิ่มอีกหนึ่งใบ จากนั้นทั้งหมดก็หัวเราะร่วนยกเว้นภีรมัตและสิตาภาที่ยังนั่งหน้าตึงไม่รู้จักเมื่อย

ภีรมัตเหลือบมองภูเขาอาหารนิ่งๆ..ทีท่าไม่ใส่ใจ ทว่าในใจร้อนรุ่ม อยากจะดึงแม่น้องสาวเจ้าเสน่ห์ออกจากตรงนี้ซะจริง พากันแย่งทำคะแนนจนน่าเวียนหัว

“จะกลับวันไหน..” จู่ๆเสียงเข้มวางอำนาจก็เอ่ยถามลอยๆห้วนกระด้างไม่สบตาใครในโต๊ะ ทุกคนหันมองกันเลิ่กลั่ก..ไม่รู้ว่าภีรมัตถามใคร แต่คนที่ตอบคำถามนั้นกลับเป็นพิมพ์ลภัส ก็ยิ่งทำให้ทุกคนยิ่งมึนกันไปใหญ่

”พร้อมทีมงานพี่ต๋อยค่ะ..” เธอตอบ

สิตาภาแทบเต้นเป็นจ้าวเข้า ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟที่แฟนหนุ่มแสดงความห่วงใยพิมพ์ลภัสกลางวงอาหารแบบนี้ สายตาวาวเรืองที่มองส่งให้พิมพ์ลภัสแต่แรกตอนนี้แทบจะเผาเธอให้มอดไหม้เป็นจุล พิมพ์ลภัสเหลือบมองเพียงนิดแต่ไม่คิดจะกลัว สิตาภารู้ดีว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก กระนั้นเธอก็ไม่อยากให้ภีรมัตให้ความสำคัญต่อผู้หญิงคนไหนมากกว่าตัวเอง จึงไม่พอใจ

“ขอโทษเถอะ นี่...ภีมกับน้องพิมรู้จักกันมาก่อนเหรอ” ต๋อยแทรกขึ้นมาหลังจากเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่อย่างมีมารยาททั้งที่ไม่เคยทำและไม่จำเป็นต้องทำเพราะตรงนี้มีแต่คนกันเองทั้งนั้น ทุกคนกลั้นยิ้ม เพราะรู้ดีว่าเจ้านายกำลังประชดภีรมัต พระเอกหนุ่มหันมายิ้มให้ต๋อยนิดก่อนตอบตามตรงไม่คิดจะปิดบัง

“ครับ..บ้านเราอยู่ใกล้กัน พ่อแม่เรา...ท่านสนิทกันมาก ผมกับพิมเลยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก”

”ก็ดีสิ!จะได้พูดง่ายหน่อย งานหน้า...พี่หานางแบบหน้าใหม่ให้ภีมได้แล้วนะ ติดอยู่ตรงที่ว่าน้องพิมจะตกลงรึเปล่า”

“ไม่ได้นะคะ!สิตาไม่ยอม!” สิตาภาแว๊ดกลางวงเสียงสูงปรี๊ด

“พิมขอผ่านดีกว่าค่ะ ทำไมไม่ลองชวนคุณสิตาภาล่ะคะเธอคงไม่ปฏิเสธแน่ๆ” พิมพ์ลภัสปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด ส่งให้ภีรมัตหน้าตึงยิ่งกว่าเดิม เจ้ากี้เจ้าการนัก เขาคิด

“เล่มนี้พี่ต้องการความแตกต่างน่ะ..” ต๋อยอธิบายสั้นๆเลี่ยงตอบไม่อยากให้เกิดสงครามกลางร้านข้าวและก็ไม่อยากให้พระเอกหนุ่มมีปัญหากับคนรัก

“ทำไมเหรอพิม...ถ่ายกับพี่ต้องขออนุญาตใครหรือไง” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียบๆฟังดูเหมือนไม่มีอะไร ทว่าสายตาคมกริบที่จ้องมานี่สิ..มันบอกชัดว่าเขากำลังชวนทะเลาะ

“เอางี้...ไว้ค่อยคุยกันวันหลังดีกว่า...พี่ว่าพวกเรากินข้าวต่อเถอะเดี๋ยวจะไม่อร่อยซะก่อน” ต๋อยรีบสงบศึกก่อนจะเกิดการปะทะจนกลายเป็นมหาสงครามเย็นไป

พิมพ์ลภัสตีหน้ายุ่งใส่เขา.. ไม่ใช่เขาเหรอที่ต้องขออนุญาตใครก่อน เห็นๆกันอยู่

---------------------------------------------------------------************---------------------------------------------------------------

กว่าจะผ่านมื้อเย็นมาได้ก็ต้องลุ้นระทึกแทบแย่ พิมพ์ลภัสกลับมากับกลุ่มของต๋อยเช่นเคยโดยที่ภีรมัตกับสิตาภาแยกจากลุ่มไปฟังเพลงตามคำขอของแฟนสาว เธอค่อยโล่งใจหน่อย..กลับมาเป็นตัวของตัวเอง ต๋อยพาทุกคนนั่งรถกินลมชมวิวตามสถานที่ต่าง ออกตระเวนบรรยากาศยามราตรีของหัวหิน ตลาดยามค่ำคืนดูคึกคักเป็นพิเศษเพราะนักท่องเที่ยวที่รอเวลาพลบค่ำหลีกหนีความวุ่นวายในตอนกลางวันและความร้อนจากพระอาทิตย์ต่างมารวมตัวกันที่นี่ค่อนข้างหนาตาทีเดียว ทะเลหัวหินจัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดซิคของเมืองไทยเพราะไม่ไกลมากเป็นอำเภอหน้าด่านก่อนเข้าภาคใต้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ตลอดทั้งปี

แก้วบรั่นดีสีอำพันในมือถูกสาดลงคอไปเป็นครั้งที่เท่าไหร่..ไม่ทราบได้ เสียงดนตรีขับกล่อมเปิดคลอเบาๆชวนเคลิบเคลิ้มผ่อนคลายสบายอารมณ์ ทว่าภีรมัตกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย ภายในใจร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็น

ร่างเพรียวนุ่มนิ่มข้างกายเบียดตัวเข้าแนบชิดเขาด้วยไฟเสน่ห์หา มือบางลูบไปตามแผงอกกว้างพยายามปลุกปั่นอารมณ์เขา ทว่ามันกลับเพิ่มความรำคาญให้ภีรมัตมากกว่า ดวงตาสีนิลยาวรีหลุบต่ำมองเจ้าหล่อนที่อิงแอบแนบซบอยู่บนอกเขาอย่างเบื่อๆ ยังนึกแปลกใจตัวเอง..ที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับสิตาภาเลย มือหนายกแก้วเหล้าขึ้นจรดริมฝีปากเงียบๆ..ไม่คิดจะใส่ใจวิธีเล้าโลมจากเธออีกต่อไป

ในหัวเขา..เวลานี้มีเพียงใบหน้าอ่อนใสหวานซึ้งลอยเด่นอยู่ในห้วงคำนึงทุกพื้นที่

“เป็นอะไรไปคะภีม..ตั้งแต่มาถึงคุณก็เอาแต่นั่งเงียบแล้วก็ดื่มอย่างเดียว..ไม่เห็นคุณสนใจสิตาบ้างเลย” ในที่สุดก็ระเบิดออกมาจนได้

ปกติแค่เธอแตะนิดลูบหน่อย..ไฟก็ลุกแล้ว นี่อะไรกันร่วมชั่วโมงแล้วภีรมัตเอาแต่นั่งนิ่งเป็นตอ จิบเหล้าเพียงอย่างเดียวจนน่าหงุดหงิด ถ้าไบรอันอยู่ใกล้ๆก็คงดี เธอจะไม่มาเสียเวลากับเขาเลย..คอยดูเถอะ

หลังๆมานี่ภีรมัตดูแปลกไป มีข้ออ้างไม่มาพบเธอก็บ่อย..เรื่องอย่างว่าก็นานๆครั้งจนผิดสังเกต ให้แวะมาหาที่คอนโดก็บอกเพียงว่าไม่ว่าง..นัดคุยงานบ้างล่ะ มีถ่ายละครเช้าบ้างล่ะ ข้ออ้างสารพัด บ่ายเบี่ยงตลอด เธอเคยจ้างนักสืบแอบตามดูพฤติกรรม เพราะคิดว่าภีรมัตอาจจะมีคนอื่น แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ดีที่ยังมีไบรอันอีกคน..ไม่งั้นเธอคงหงุดหงิดมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีวันยอมเสียภีรมัตให้ใครเด็ดขาด หล่อ..แล้วยังแสนดีสุภาพบุรุษอย่างเขา..ปล่อยไปก็โง่เต็มที

“ผมคงเหนื่อยไปหน่อย เรากลับกันเถอะ” ไม่พูดเปล่ายังลุกพรวดพราดโดยไม่สนใจท่าทางกระเง้ากระงอดของสิตาภาที่มีสีหน้าขัดเคืองใจชัดเจน

พอกลับมาถึงที่พักก็นึกว่าเขาจะยอมให้เธอผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้เหมือนเช่นทุกครั้ง ทว่าภีรมัตกลับเดินขึ้นบ้านพักหน้าตาเฉยโดยไม่ลาเธอซักคำ สิตาภาถึงกับออกอาการเต้นเร่าฮึดฮัดขัดใจอยู่ตรงบันไดบ้าน จะก้าวตามก็เกรงใจสายตาเสือป่าของทีมงานต๋อยซึ่งกำลังเมาได้ที่อยู่เชียว จึงตัดสินใจล่าถอยกลับบ้านพักตน
-----------------------------------------------------------------------***************-----------------------------------------------------------

สิตาภากลับบ้านพักด้วยความขุ่นเคืองใจ อารมณ์พลุ่งพล่านในกายที่ภีรมัตไม่ช่วยดับให้เหมือนเช่นทุกครา ส่งผลให้หงุดหงิดหนักกว่าเดิม ร่างเพรียวระหงสะโอดสะองเดินกระแทกเท้ามาตามทางเดินหินอ่อนใบหน้าบูดบึ้ง เสียงพูดคุยจากใครแว่วมาตามลมกระทบโสตหูทำให้ต้องหยุดเงี่ยหูฟังก่อนจะเปลี่ยนทิศทางใหม่มุ่งไปยังต้นเสียงนั้นแทน เงาร่างสองร่างหน้าหาดทรายดูคุ้นตา พอสายตาเริ่มชินกับความสลัวของแสงไฟ ทำให้รู้ว่าเงาร่างนั้นเป็นใครหรืออะไร จึงขยับเท้าเข้าใกล้อีกนิด อดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่าทั้งคู่กำลังคุยกันเรื่องอะไร

“ฉันขอถามหน่อยได้มั้ยพิม..เรื่องคุณจุ๊น แกจะทำยังไง”

“ก็...ไม่เห็นต้องทำไง ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อน..แกก็รู้” พิมพ์ลภัสตอบตามจริง เพียงอรถอนใจเบาๆหนักใจแทนเพื่อน

“ทำไมไม่ลองมองคนที่เขารักเราล่ะพิม...ที่ผ่านมาคุณจุ๊นก็ดูเสมอต้นเสมอปลายดี ออกจะรักแกมากด้วยซ้ำ” เพียงอรลองแสดงความคิดเห็นส่วนตัวบ้าง

“ไม่ถึงขั้นรักหรอกอร คุณจุ๊นอาจจะชอบฉันแต่เชื่อเถอะว่าไม่ใช่ความรัก”

พิมพ์ลภัสละความสนใจจากทะเลเบื้องหน้าหันมามองเพื่อน พร้อมทั้งใช้นิ้วเรียวจิ้มหน้าผากมนเพียงอรแรงๆหนึ่งที

“แกบอกให้ฉันทำ..ตัวแกเถอะทำได้รึเปล่า..” จากนั้นก็เงียบลงไปนิด ก่อนจะพูดต่อ ”ถ้ามันทำง่ายอย่างที่แกพูดก็ดีสิ..ฉันคงเลือกให้ตัวเองไม่เจ็บปวด” พิมพ์ลภัสเอ่ยแผ่วเบาเจือรอยเศร้าในน้ำเสียงไม่ปิดบัง เพียงอรถึงกับหดหู่ไปด้วย

พิมพ์ลภัสพูดถูก เธอเองก็ตกอยู่ในวังวนนี้เช่นเดียวกัน เพียงอรสลดวูบ..ที่พูดไม่ทันนึกถึงจิตใจพิมพ์ลภัส

“แล้วแกเคยคิดที่จะบอกให้เขารู้บ้างไหมพิม” เพียงอรถามต่อ อยากรู้ว่าเพื่อนคิดอย่างไร

“มันไม่ง่ายน่ะสิ...ถ้าวันหนึ่งพี่ภีมรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเขา..แม้แต่ความเป็นพี่น้องก็อาจจะไม่เหลือเลยก็ได้...ฉันไม่กล้าเสี่ยง” เธอเอ่ยเสียงเศร้าจนเพียงอรต้องเข้ามาปลอบใจด้วยการตบไหล่บางเบาๆ

สิตาภาหูผึ่งกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ระแวงเอาไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้องมีอะไร เด็กนั่น..คิดไม่ซื่อกับภีรมัตจริงๆ เธอจะต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม ถ้าปล่อยเอาไว้พิมพ์ลภัสอาจจะกลายเป็นหนามยอกอกทิ่มแทงใจเธอเข้าสักวัน สิตาภายืนเข่นเขี้ยวในใจก่อนจะหันกลับเข้าบ้านพักไม่คิดจะอยู่ฟังต่อ เตรียมคิดหาวิธีเขี่ยพิมพ์ลภัสออกไปจากชีวิตภีรมัต ก่อนที่เรื่องราวอาจจะหักมุมเปลี่ยนไปอย่างที่นึกกลัว

----------------------------------------------------------**************---------------------------------------------------------------------

มาอีกบทค่า ช่วงนี้พอมีเวลาอาจจะอัพถี่นิด เพราะเดือนหน้าปูไม่ค่อยว่างแล้วค่ะ

ตอบร้อยวจี: อย่าเพิ่งเกลียดพี่ภีมเรย ท่องเอาไว้ค่ะ...นางหล่อ

ตอบกาสะลองพลัดถิ่น: อย่าถือสาเพียงอรเลยนะ ฝากลุ้นกันต่อค่ะ

และสุดท้ายโอชิน: แทนไทอาจจะผิดหว้ง ท่องไว้ค่ะ นางไม่ใช่คู่แท้ของพิมพ์ลภัสค่ะ

ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ

By.รจนาไฉน




รจนาไฉน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ม.ค. 2558, 22:09:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ม.ค. 2558, 22:09:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1748





<< บทที่ 19 ยิ่งหนียิ่งใกล้   บทที่21 ยิ่งรักยิ่งเจ็บ (ตอนจบ) >>
ร้อยวจี 29 ม.ค. 2558, 22:44:54 น.
ความซวยมาเยือนอีกแล้ว ยัยพิม


โอชิน 30 ม.ค. 2558, 08:55:58 น.
รอดูแผนนางมารร้าย อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account