4 หล่อขอสืบ (ภาคนิยาย) สร้างเป็นละครช่อง 3
เมื่อ 4 หนุ่มนักสืบรูปหล่อซึ่งมีความสามารถแตกต่างกัน
ลงขันเปิดสำนักงานนักสืบร่วมกัน
พวกเขาต้องแบ่งหน้าที่กันไขคดีปริศนาต่าง ๆ
ภายใต้ชื่อสำนักงาน "4 หล่อขอสืบ"
Tags: 4 หล่อขอสืบ,สืบสวน,ธรากร

ตอน: ตอนที่ 9 คู่ปรับ

วารินกลับถึงโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเอาหัวโขกกับผนังกั้นระหว่างโต๊ะพนักงานเป็นสิบทีหลังการประชุมสิ้นสุดลง จนคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งถอยเก้าอี้ที่มีล้อลากแล้วเอ็ดใส่ไปชุดใหญ่ นักข่าวสาวรู้สึกผิดมากเมื่อรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป มาประชุมสาย แฟลชไดร์ฟเสียหายจากการตกจากรถจักรยานยนต์เมื่อเช้าจนเปิดเอกสารคอลัมน์สัมภาษณ์ที่ต้องใช้ปลายสัปดาห์นี้ไม่ได้ โชคดีที่หลังประชุมเสร็จบรรณาธิการใหญ่มีนัดทานข้าวกับลูกค้าคนสำคัญ ช่วยต่อเวลาการโดนเรียกไปขึ้นเขียงไปได้สองสามชั่วโมง

ช่วงพักกลางวันวารินไปทานข้าวผัดกะเพราไก่ไข่ดาวไม่สุกที่ร้านอาหารตามสั่งใกล้ ๆ กับเพลินตา ปากว่ายอมรับว่าตัวเองผิดจริงแต่ระหว่างพูดคุยก็ไม่วายโยนไปว่าเป็นเพราะบ.ก.เจนจิราให้งานเธอเยอะเกินไป พอถึงเวลาเข้างานช่วงบ่ายเธอไม่เป็นอันทำงาน เอาแต่หวาดระแวงว่าเมื่อไหร่หัวหน้าของเธอจะมา นักข่าวสาวตัดสินใจละความไม่สบายใจด้วยการหยิบหูฟังขึ้นมาฟังเพลงจากสมาร์ทโฟน จนไม่ทันได้ยินเสียงพนักงานคนหนึ่งซึ่งตะโกนขึ้น

“บ.ก. เจนนี่มาแล้ว!”

คำเตือนดังกล่าวเหมือนเสียงกลองที่ตีป่าวประกาศว่าข้าศึกบุกในยุคที่สยามประเทศยังทำสงครามกับอาณาจักรเพื่อนบ้าน พนักงานที่บ้างนั่งเล่นยูทูป บ้างนั่งเล่นเฟซบุ๊ครีบกดปิดหน้าจอแล้วเปิดโปรแกรมสำหรับทำเอกสาร หรือไม่ก็โปรแกรมจัดอาร์ทเวิร์คขึ้นมาทันที พวกที่แอบซื้อหมูปิ้งมากินในสำนักงานต่างเอาของเททิ้งลงในถังขยะแล้วฉีดสเปรย์ดับกลิ่น ส่วนคนที่กำลังทาปากเติมแก้มรีบเก็บเครื่องสำอางซ่อนลงในลิ้นชักโดยเร็ว

ร่างระหงท่าทางปราดเปรียวเปิดประตูออฟฟิศก้าวเข้ามาในสำนักงาน ความชุลมุนมักง่ายที่ปรากฏอยู่เมื่อครู่หายไปโดยสิ้นเชิง มีเพียงวารินที่นั่งสวมหูฟังฟังเพลงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของตน จนไม่รู้ว่าภัยร้ายกำลังย่างกรายเข้ามา

เมื่อช่างภาพสาวเพลินตาซึ่งนั่งเยื้องอยู่กับวารินเห็นว่า บ.ก. เจนจิราเดินใกล้เข้ามา เธอจึงตัดสินใจเตือนเพื่อนด้วยการโทรเข้ามือถือผ่านโปรแกรมสนทนา ซึ่งจะขึ้นแจ้งว่ามีคนโทรเข้ามาทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และในมือถือของเธอเอง

พอโปรแกรมขึ้นแจ้งเตือนว่าเพื่อนรักโทร. มา วารินก็ขมวดคิ้วมุ่น แทนที่จะรับสายกลับหันไปมองเพลินตา แล้วขยับปากถาม

“โทร. มาทำไม”

เพลินตายิ้มแหยแล้วชี้นิ้วไปตรงทางเดินด้านหลังวาริน เหยี่ยวข่าวสาวเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงค่อย ๆ หันไปมอง พอเห็นว่า บ.ก. เจนจิรายืนกอดอกทำคอเชิด ๆ อยู่ เพลงมีจังหวะที่ก้องอยู่ในหูก็ไม่ช่วยทำให้เธอสนุกและเพลิดเพลินอีกต่อไป

นักข่าวสาวค่อย ๆ ถอดหูฟังออก

“มาประชุมสาย ทำไฟล์หาย และยังนั่งฟังเพลงในเวลางาน” บ.ก. วัยสามสิบตอนกลางผู้มีรัศมีดังนางพญาเอ่ย “เธอรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอะไรต่อ”

“ค่ะ” วารินตอบเสียงจ๋อย

บรรณาธิการใหญ่เดินเชิดไปสองสามก้าวแล้วหันมามองวารินด้วยหางตา แล้วเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง วารินหันมาเพลินตา แต่พนักงานอีกคนที่นั่งอยู่หลังช่างภาพสาวทำท่าเอานิ้วปาดคอตัวเองแล้วชี้นิ้วนั้นบอกให้วารินรีบตามเจนจิราเข้าไปในห้องทำงาน

เจนจิราทิ้งตัวลงนั่งหลังตรงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง หล่อนเลื่อนแฟ้มเอกสารที่วางอยู่ด้านข้างมาตรงกลางโต๊ะ เปิด อ่านและลงนามอนุมัติโครงการและรับทราบเรื่องต่าง ๆ ยังไม่ทันถึงหนึ่งนาทีดี เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามหน

บอกอเจนจิราเอ่ยปาก ‘เชิญ’ วารินก็เปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเจือน บรรณาธิการคนดังไม่มองสบตา ชี้นิ้วไปที่เก้าอี้สั่งแทนคำพูดเพื่อให้เธอนั่งลง

บอกอเจนจิราเป็นสาวสวยสง่า ท่าทางคล่องแคล่วว่องไว เป็นคนทำงานเก่งและเป็นผู้หญิงที่ติดกับความสมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง คุณสมบัติทำให้เธอก้าวสู่ตำแหน่งใหญ่โตในสำนักข่าวได้โดยง่าย แต่ผู้คนที่อยู่ใกล้จะสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่เหมือนรังสีอำมหิต พร้อมพิฆาตความไม่เข้าท่าเข้าทางทั้งหลายให้พ้นออกไปจากชีวิตของเธอ

“ถ้าจำไม่ผิด เธอเพิ่งผ่านโปรมาได้ครึ่งปี” เจนจิราหมายถึงช่วงเวลาในการทดลองงาน

“ค่ะ” นักข่าวสาวตอบ

“ช่วงโปร ทำงานดีไม่มีผิดพลาด” บรรณาธิการใหญ่เซ็นเอกสารแฟ้มสุดท้าย ปิดแล้วดันมันไปที่ริมโต๊ะฝั่งขวา “ซ่อนไว้สินะ ลายถึงเพิ่งเริ่มออก”

“ไม่ใช่นะคะ บ.ก.” วารินรีบชี้แจงความจริง “เมื่อเช้าที่ดิฉันมาสายมันเป็นเพราะอุบัติเหตุ ฉันกำลังนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมา อยู่ ๆ ก็มีผู้ชายวิ่งตัดหน้ารถกระบะที่อยู่ข้างหน้าฉัน รถกระบะเบรกกะทันหัน ฉันเลยตกจากรถมอเตอร์ไซค์ มีปากเสียงกันอยู่สักพัก เลยเป็นเหตุให้ฉันมาประชุมสายน่ะค่ะ”

“ถ้าเธอมาเร็วกว่านี้สักครึ่งชั่วโมง ก็คงนั่งรถเมล์มา” เจนจิรามองด้วยสายตาเฉียบคม “ไม่ต้องรีบนั่งมอเตอร์ไซค์ แถมมาด้วยสภาพหัวกระเซอะกระเซิง”

“แต่เรื่องที่ฉันแอบฟังเพลงเมื่อกี้ คือ ฉัน ฉัน ...”

“เธอจะบอกว่า ใคร ๆ ก็ทำใช่มั้ย” ริมฝีปากสีแดงขยับยิ้ม

“เปล่าค่ะ ไม่ใช่ คือ...” วารินอ้ำอึ้งทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่ากฎต่าง ๆ ภายในสำนักงาน ห้ามเข้าโซเชียลมีเดีย ห้ามเล่นมือถือ ห้ามฟังเพลง ห้ามหลับ ห้ามแต่งหน้าในเวลาทำงาน ซึ่งทุกคนล้วนฝ่าฝืน แต่เธอก็ไม่อยากฟ้องหัวหน้าว่า ทุกคนก็ทำ ไม่ใช่แค่เธอ

“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันผิดเองที่ฟังเพลงในที่ทำงาน ฉันไม่อยากโทษใคร”

บรรณาธิการใหญ่ทำหน้าประหลาดใจ

“แปลก เธอนี่แปลกคนดีจริง ๆ” น้อยคนนักที่จะถูก บ.ก. เจนจิราคนดังชม “เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าทุกคนแหกกฎแค่ไหน แต่เธอเป็นคนที่พอถูกจับได้ว่าทำผิด กลับไปโยนความผิด หรือประจานความผิดคนอื่น คนแบบนี้น่ะ ฉันนับถือ”

“ขอบคุณค่ะ” วารินเขินจนไม่กล้าสบตาบรรณาธิการจอมโหด

พอรู้ตัวว่าเผลอชมเด็กใหม่ตรงหน้าเยอะไป เจนจิราก็ยืดตัวหลังตรงแล้วกระแอมอย่างไว้ท่า เธอเหลือบหันไปมองนาฬิกาบนฝาผนังห้อง เข็มยาวกับเข็มสั้นชี้บอกเวลาบ่ายโมงครึ่ง

“เรื่องหาคนสัมภาษณ์ลงคอลัมน์ ‘ตามกลิ่นนักสืบ’ แทนคนเดิมที่เธอทำไฟล์เสียหายเรียบร้อยหรือยัง”

“ได้แล้วค่ะ” วารินตอบ เธอฝากให้เพลินตาช่วยนึกว่าจะสัมภาษณ์ใครดี เพลินตาเลยขันอาสาจะประสานงานให้

“ใคร” เจนจิราถาม แววตาจิกดุคู่นั้นทำให้วารินกลัว

“คุณพอล ธนพล นักสืบที่เคยดังเป็นพลุแตกสมัยอยู่ ม.ปลาย ตอนนี้ สำเร็จการศึกษาแล้ว กำลังจะเปิดสำนักงานนักสืบเอกชนของตัวเอง”

“เราเคยสัมภาษณ์คุณพอลบ่อยแล้วนะ” เจนจิราว่า “ฉันว่าตอนนี้ มีนักสืบกลุ่มใหม่ที่กำลังมาแรง ทั้งในโลกออนไลน์และในหน้าหนังสือพิมพ์”

“สี่หน่อ สี่หน่ออะไรสักอย่างใช่ไหมคะ” วารินทำฟอร์มตอบตะกุกตะกัก เพราะไม่อยากยอมรับว่าตนเองกำลังสนใจนักสืบกลุ่มนี้อยู่ เพราะคาใจว่าเขาใช่คนที่เคยขโมยจูบเธอหรือไม่”

“4 หล่อขอสืบ” บรรณาธิการใหญ่ตอบ

“ใช่ค่ะ นั่นแหละ ใช่เลย” วารินยิ้มหน้าบาน

“อย่าบอกนะว่า เธอไม่รู้จัก ‘4 หล่อขอสืบ’ พวกเขาขึ้นข่าวหน้าหนึ่งแทบทุกฉบับเลยนะ ช่วงนี้” เจนจิราคาดคั้นหยั่งเชิง

“รู้ ... รู้สิคะ ทำไมจะไม่รู้” นักข่าวมือใหม่แถอย่างไม่สนว่าจะถูกจับได้ “พอดีมันติดอยู่ที่ริมฝีปากน่ะค่ะ”

“เอาเถอะ ฉันอยากให้สัมภาษณ์นักสืบกลุ่มนี้ กำลังเป็นกระแสเลยเชียว ส่วนคุณพอลเอาไว้เป็นฉบับหน้าก็แล้วกัน” เจนจิราถอนสั่งงานไปในตัว “คอลัมน์ใช้ศุกร์นี้ อย่างช้า เย็นพรุ่งนี้ เธอต้องได้บทสัมภาษณ์ หวังว่าเธอคงรู้นะว่าถ้าบทความไหนว่าง ผู้ที่รับผิดชอบคอลัมน์นั้นจะต้องเจอกับอะไร เชิญ!”

วารินสัมผัสได้ถึงรังสีพิฆาตที่เหมือนดึงเอาความสุขจากชีวิตเธอไปทั้งหมด สาวสวยยิ้มแห้ง ๆ แล้วเดินออกจากห้องบรรณาธิการใหญ่ไป เธอเข้าใจได้ว่าทำไมใครต่อใครจึงตั้งฉายาห้องนี้ว่า ‘ห้องเย็น’



ปาณัสม์ตบเช็คลงกลางโต๊ะประชุมอย่างหงุดหงิดก่อนที่ทิ้งตัวลงนั่ง ผู้ประกาศข่าวสาวสวยในจอโทรทัศน์ที่ยืนเล่าข่าวสั้นเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีจับแก๊งลักเด็กที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ พอจบช่วงข่าวคั่น เพลงนำละครก็เริ่มขึ้น เมื่อเห็นว่าละครหลังไม่ว่าจะน้ำดีหรือน้ำเน่าก็ไม่ส่งผลต่อชีวิตของสี่หนุ่มเท่าไหร่ ต้องชนะจึงเลือกหยิบรีโมทขึ้นมากดปิดทิ้งเสีย

“เซ็งโว้ย” ปาณัสม์ระเบิดอารมณ์ “ไปตามนัดสายเพราะยายผู้หญิงงี่เง่านั่น สุดท้าย โดนหักโบนัสไปตั้งหลายพัน”

“อะไรวะพี่ แค่ไปสายไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ถึงกับหักเงินเลย”

พออินทร์ธัชพูดจบ สามหนุ่มชะโงกหน้ามาดูตัวเลขบนใบเช็ค

“แค่นี้เองเหรอ” ต้องชนะตกใจ

“อ้าว ... ตกลงกันไว้จะให้โบนัสถ้าหาหมาเจอภายในสามวันอีกราคานึงไม่ใช่เหรอ พี่น็อต” อชิระสงสัย
“เดี๋ยวนะ” อินทร์ธัชหยิบไอโฟนเปิดแอปปลิเคชั่นเครื่องคิดเลขขึ้นมา แล้วกดคำนวณอย่างรวดเร็ว “หายไปตั้งสองในสามเลยนะพี่”

“นั่นดิพี่ แบบนี้มันโกงกันชัด ๆ

“สรุปว่าจะไม่เอาใช่มั้ย” ปาณัสม์ทำท่าจะฉีกเช็คทิ้ง

“เอา” สามหล่อตอบพร้อมกันทันที

“งั้นพรุ่งนี้เอาไปเข้าแบงค์ด่วนเลย” หัวหน้าทีมยื่นเช็คให้อชิระ หน้าที่การขึ้นเช็คเงินได้เป็นของเขา

“เดือนนี้ต้องชักเนื้ออีกแล้วสิ” อชิระรับมาแล้วทำหน้าเซ็ง ๆ “เนื้อยิ่งน้อย ๆ อยู่ด้วย”

“วันนี้ซวยทั้งวัน” ปาณัสม์ถอนหายใจแรง ใบหน้าของวารินพลันปรากฏขึ้นมาในมโนความคิด “เพราะยายนั่นแท้ ๆ เลย ยายตัวซวย”

ทันใดนั้นอินเตอร์คอมจากข้างล่างก็ดังขึ้นมาในบริเวณพื้นที่พักอาศัยชั้นสอง

“สวัสดีค่ะ น้อง ๆ คะ” เสียงพุชรีย์ดังขึ้น

“อ้าว ... ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอเจ๊” อินทร์ธัชแซว “เลิกงานตั้งนานแล้ว เดี๋ยวผัวเจ๊ก็โทร. มาด่าพวกผมอีกหรอก”

“ก็ติดต่อหาลูกค้าให้น้อง ๆ อยู่ไงคะ ไม่ได้นั่งเฉย ๆ คิดมุกตลกบ้างไม่ตลกบ้างไปวัน ๆ” ถึงเวลาที่พุชรีย์กัดบ้างก็ทำเอาเหล่านักสืบสุดหล่อเจ็บจิ๊ดไปตาม ๆ กัน “เจ๊ลืมแจ้งเรื่องสำคัญ พรุ่งนี้บ่ายสองครึ่ง สำนักข่าวสปายนิวส์จะขอสัมภาษณ์น้อง ๆ ลงคอลัมน์ ตามกลิ่นนักสืบ สนใจมั้ยคะ”

สี่หล่อหันมองหน้าสบตากัน

“สำนักข่าวสปายนิวส์...” ต้องชนะตาโตดีใจ

“...จะขอสัมภาษณ์พวกเรา” อชิระเสริม

“แบบนี้ก็มีโอกาสที่พวกเราจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นใช่มั้ย” อินทร์ธัชยิ้มออก ปาณัสม์ยิ้มแหย หน้าของวารินที่ยังอยู่ในมโนความคิดชัดเจนขึ้นยิ่งกว่าเดิม ชัดจนเขาเริ่มนึกออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน

“ตกลงครับ” ปาณัสม์ตอบโดยไม่ลังเล “นัดอะไรที่ลงคิวไว้พรุ่งนี้บ่าย ยกเลิกให้หมด ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องลงสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์นี้ให้ได้ ฝากเคลียร์ให้ด้วยนะเจ๊”

สี่นักสืบมองหน้ากัน นัยน์ตาแต่ละคนเหมือนมีเปลวไฟแห่งความหวัง จุดให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ยกเว้นปาณัสม์ที่สังหรณ์ใจว่า นักข่าวสาวที่มา จะเป็นเธอคนนั้น นักข่าวที่เขาเคยจูบปากเมื่อครึ่งปีก่อน

“ยายตัวซวย!”

-------------------------------------------------

คำถามท้ายตอน 4 หล่อขอสืบ ตอนที่ 9 คู่ปรับ

"ก่อนที่จะมาสัมภาษณ์ 4 หล่อขอสืบ วารินตั้งใจจะไปสัมภาษณ์นักสืบที่มีชื่อว่าอะไร และเป็นตัวละครจากนิยายเรื่องใดของ ธรากร"

ผู้ที่ตอบถูก 10 คนแรก จะได้รับคะแนนสะสม คนละ 5 คะแนนครับ



ธรากร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.พ. 2558, 21:10:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.พ. 2558, 21:10:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1295





<< ตอนที่ 8 คุ้นเคย   ตอนที่ 10 สัมภาษณ์ >>
ธรากร 3 ก.พ. 2558, 21:23:56 น.
เฉลยคำถามจาก ตอนที่ 8 นะครับ

รถที่พุ่งมาเกือบชนวาริน คือ รถกระบะ ครับ

ผู้ที่ตอบถูก ได้แก่ ...

คุณแว่นใส และคุณ dragon ครับ

คะแนนสะสม มีดังนี้ครับ

คุณแว่นใส 40 คะแนน
คุณ konhin และคุณ dragon 35 คะแนน
คุณกาซะลองพลัดถิ่น 15 คะแนน
คุณ sunflower และคุณปลาวาฬสีน้ำเงิน 10 คะแนน ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนุกกันนะครับ


แว่นใส 4 ก.พ. 2558, 08:20:00 น.
พอล ธนพลจ้า


กาซะลองพลัดถิ่น 5 ก.พ. 2558, 04:18:16 น.
คุณพอล ธนพล คะ........


dragon 5 ก.พ. 2558, 07:04:38 น.
พอล ธนพล สำหรับจากหนังสืออะไรไม่แน่ใจนะคะ เดี๋ยวขอมาตอบชื่อหนังสือดึกๆนะค่ะ


dragon 5 ก.พ. 2558, 20:52:58 น.
มาจากหนังสือthe alternate พลิกปมแค้น สลับแผนฆาตกรรม (พอล ธนพล ศิริวงศ์นุวัฒน์) :คนเขียนจ๋าอย่าโหดนักเลย กว่าจะหาคำตอบเจอคนอ่านปวดตับแล้วเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account