ลบเหลี่ยมรัก / ( เหลี่ยมร้าย บำเรอรัก )
เพราะเกมแมวยักษ์(เสือ)วิ่งไล่จับหนูนา มีคนเล่นตุกติกผิดกติกา แม่หนูเลยถูกพ่อเสือลากเข้าป่า...และตกล่องปล่องชิ้นกลายเป็นเมียเสือไม่รู้ตัว!!!

............

“ ฮักน้องบ่อ้าย” ดวงหน้างามพลันแดงระเรื่อ หัวใจกระตุกไหว พอหลุดปากออกไปก็อยากจะตะปบคำพูดนั้นกลับคืน เฮ้อ...เสียเหลี่ยมเขาแล้วไหมละลูกจันทร์ !
ชายหนุ่มยิ้มนัยน์ตาพราวระยับ ท่าทางเจ้าเล่ห์ยียวน แต่ก็หล่อเหลากระชากใจ ก่อนจะตอบหล่อนเสียงดังว่า “ สุด ๆ ” ทองภูมิเชยคางหญิงสาวด้วยสัมผัสแห่งรัก เขาจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่ม เนิ่นนานและอ้อยอิ่งด้วยความรักซึ่งอัดแน่นล้นใจ...

........

ห้าปีก่อน ทองภูมิ หรือ ’ทิกเกอร์’ ถูกพิพากษาให้เป็น ไอ้บ้ากาม จากข้อกล่าวหาของ ลินจันทร์ ซึ่งอ้างว่า เขาแอบถ้ำมองดูหล่อนอาบน้ำ เรื่องนี้ได้กลายเป็นรอยแค้นแรกพบฝังใจทิกเกอร์ตลอดมา และไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์เล็ก ๆ ครั้งนั้นส่งผลให้ลูกครึ่งหนุ่มเลือดร้อนผู้หมอนหมิ่นถูกคลุมถุงชนแต่งงานกับ อรอินทร์ สาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งกำลังตั้งท้องกับ หรรษพล เพื่อนรักซึ่งกำลังมีอนาคตไกล และการช่วยเพื่อนทำให้ทองภูมิต้องตัดใจจากหนึ่งฤทัย ครูสาวซึ่งน้องหรรษพลด้วย



ทว่าหลังจากคลอดลูกชาย น้องขนุน ไม่ทันข้ามปี อรอินทร์ก็ย้อนกลับไปคบกับ หรรษพล การผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างเพื่อนจึงขาดสะบั้นลง ทั้งที่ทองภูมิยอมเสียเกรียติรับผิดชอบเป็นพ่อในท้องให้อรอินทร์แต่สุดท้าย หรรษพลเองก็กลืนคำพูดตนเอง พาอรอินทร์หนีตามกันไป ....







Tags: http://writer.dek-d.com/o-iambear/story/view.php?id=715808

ตอน: บทที่ ๓ รักซ่อนร้าย

บทที่ ๓ รักซ่อนร้าย


ลินจันทร์เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าต่อทุกสิ่ง หล่อนถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ความทุกข์หนักอก ยากเหลือเกินที่จะหันหน้าพึ่งใคร หากไม่รู้จักปล่อยวางจากบ่วงกิเลสซึ่งยึดมั่น ถือมั่นเอาไว้ หล่อนคงต้องติดอยู่ในวังวนแห่งความหม่นไหม้ตลอดไป


หญิงสาวตั้งใจหลีกหนีทุกสิ่ง หวังเพียงไม่ต้องทนอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ อยากหลุดพ้นจากวงจรชีวิตบัดซบ ขอเพียงการเดินทางไกลช่วยลบฝันร้ายในคืนข้ามปีลงเสีย


หากอีกใจกลับกลัวจุดหมายเบื้องหน้า หล่อนไม่รู้ว่ามีสิ่งใดรออยู่ ยิ่งกว่านั้นการตัดสินใจหลบหนี คนรักและความวุ่นวายในบ้านพุดตานผู้เป็นพี่สาวคือทางเลือกที่ดีที่สุดจริงหรือ


‘บ้านหนองใสดินงาม’ คือจุดหมายที่ลินจันทร์กำลังจะบ่ายหน้าไป


หลายปีก่อนหล่อนเคยพบสิ่งดี ๆ ที่นั่น ถึงจะมีเรื่องน่ารังเกียจของผู้ชายบ้านนอกหื่นกามซึ่งสะกิดใจอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นเพียงส่วยน้อยนิด หากเทียบกับความสุขใจจากผืนดินอันราบสูง


การสร้างห้องสมุดให้ชุมชนในวันเก่าก่อน สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ในฐานะผู้ให้ หัวใจลินจันทร์อิ่มเอมสุขล้น ซึ่งกิจกรรมเล็ก ๆ ครั้งนั้น ได้สานต่อให้หล่อนพร้อมกับเพื่อนในกลุ่มอีกหลายคนก่อตั้งชมรม เพื่อสานเจตนารมณ์การเป็นผู้ใหญ่มาถึงทุกวันนี้


หญิงสาวได้รวบรวมทุนสร้างโครงการจิตอาสาพี่ช่วยน้อง และได้รับทุนส่วนหนึ่งจากบริษัทของ
รหัทด้วยดีตลอดมา


และอีกหนึ่งเหตุผล ที่หล่อนเป็นตัวตั้งตัวดี เดินหน้าทำงานด้านนี้ก็เพราะหญิงสาวยากจะเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปให้ชีวิตสมบูรณ์ หลายคนไม่อาจล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้ว ลินจันทร์เติบโตมาจากบ้านนอกคอกนาไม่ใช่คนเมืองกรุงอย่างที่หล่อนพยายามสร้างภาพให้ทุกคนเห็น


หล่อนละอายรากเหง้าของตน หญิงสาวรู้ดีแก่ใจ เพราะความจน ความขาดวิ่นของชีวิตในวัยเยาว์ซึ่ง ลินจันทร์ไม่อาจเผยให้ใครรู้ได้ การสร้างภาพให้ทุกคนเห็น ในด้านบวกจึงเป็นการปกปิดรอยอดีตที่ไม่น่าจดจำเอาไว้


ทว่าเมื่อหัวใจเหนื่อยล้า หล่อนจึงคิดว่าการหยุดเวลาของชีวิตให้หมุนช้าลง อาจเป็นทางออกเดียวที่เยียวยาความรู้สึกตนได้ บางทีหัวใจอาจเข้มแข็งได้เร็วขึ้น และรอยรักจากรหัทคงจางหายไปได้ในที่สุด แม้ว่าคืนวันต่อแต่นี้ไป ต้องทนอยู่กับความเดียวดาย มีน้ำตาเป็นเพื่อน



หญิงสาวรูดซิปกระเป๋าช้า ๆ สะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งชีวิตรักของตน รวมถึงการปะทะคารมกับพี่สาว หลังจากพยายามพูดความสิ่งที่อัดอันในใจให้เธอฟัง กลับดูเหมือนว่าความรักความหลงสามีทำให้พุดตานจมอยู่ในอาการตาบอดสนิท!มองไม่ออกว่าสมชายผู้เป็นพี่เขยคิดเคลมน้องเมียทุกครั้งที่มีโอกาส
นี่ขนาดหล่อนยังไม่นับรวมเรื่องเมื่อคืนซึ่งที่ต้องหนีตายจากเงื้อมือเฒ่าหัวงู จนตาสว่างได้พบภาพบาดตาบาดใจ รับรู้ว่าแท้จริงแล้วรหัทก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่น เขารักสนุก เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น ชั่วครั้งชั่วคราว และมีไว้เพื่อระบายตัณหา!


กระนั้นจนแล้วจนรอด พุดตานยังไม่เชื่อในสิ่งที่หล่อนสาธยายมาทั้งหมด แถมยังเอ่ยติดตลกว่าน้องสาวจงเกลียด จงชัง เฮียสมชายเกินเหตุ ว่าลินจันทร์เป็นพวกคิดเล็ก คิดน้อย หัวโบราณ ไม่เหมือนผู้หญิงยุคสมัยนี้


ทุกอย่างเลยเถิดไปจนถึงเรื่องในมุ้ง อันเป็นข้อบกพร่องของพุดตานด้วยไม่สามารถมีลูกให้สามีสุดที่รักได้
ตั้งแต่อยู่กินกับสมชายมาร่วมสิบปี เธอไม่มีวี่แววมาจะป่องสักที ทั้งที่พยายามทุกสารพัดวิธีทั้งงัดกลเม็ดเด็ดพลายบนเตียงมาใช้กับสามีซึ่งแก่คราวพ่อลินจันทร์ เรียกได้ว่าปั๊มลูกมาชั่วนาตาปี แต่ไม่รู้ว่าเพราะฝ่ายชายไม่มีน้ำยาด้วยแก่เกินแกง หรือพุดตานซึ่งปวดออด ๆ แอด ๆ สุขภาพไม่สู้กันแน่ หากสุดท้ายลงเอยว่าพวกเขาไม่สามารถมีโซ่ทองคล้องใจ


จวบจนได้ปรึกษาหมอท่านหนึ่ง การ‘อุ้มบุญ’ จึงผุดในหัวพุดตาน พอมีทางเลือก เธอก็เกิดความหวัง ทว่าสำหรับเมืองไทยแล้วการหาคนมาอุ้มบุญ ยากเสียยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร จากนั้นการอุ้มบุญก็กลายเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับครอบครัวพุดตานอย่างเลี่ยงมิได้


กลับกันพอไม่สามารถมีลูกให้สมชายได้สมใจ เฒ่าหัวงูจึงหาทางกินเล็กกินน้อย กับสาว ๆ ไปทั่ว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือน้องสาวพราวเสน่ห์ หากพุดตานเลยกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ทนฝืนรับชะตากรรมด้วยน้ำตาตกใน



ลินจันทร์เงยหน้าขึ้นช้า ๆ หล่อนปาดน้ำตาซึ่งไหลอาบดวงหน้า หัวปวดตุบ ๆ ไม่อยากคิดถึงมัน หากภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมดยังฉายชัดวนเวียนไปมา ครั้นบานประตูห้องถูกผลักเข้ามา ลินจันทร์ถึงกลับกุมขมับ
เมื่อเห็นร่างพี่สาวโผล่มาพร้อมสีหน้าตึงเครียด


“ คิดโง่ ๆ นะลูกจันทร์ จะแบกหน้าไปอยู่กับคนอื่นทำไม ถ้าไม่อยากอยู่บ้านพี่ ก็ไปเช่าห้องเอาสิ ทำตัวอย่างกับเป็นเด็ก ๆ พอมีปัญหาที ก็หลบหน้าหนีที”


พุดตานแว้ดใส่ ใจจริงอยากจะสรรหาคำพูดดี ๆ ให้น่าฟังเพื่อรั้งน้องสาว ทว่าเหมือนมีก้อนเหนียวหนืดติดอยู่ตรงลำคอ มันจึงยากเกินจะปลอบประโลมหล่อน เลยพาลแสดงความโกรธเกรี้ยวเข้าหา ทั้งที่มันได้สร้างความเจ็บปวดให้พุดตานเช่นกัน


“คิดโง่ ๆ แบบลูกจันทร์ยังดีกว่าคิดแบบคนฉลาดอย่างพี่น้ำตาล เห็นอยู่ทนโท่ แต่ยังให้ผัวแก่ ๆ มายุ่งกับน้องสาวตัวเอง!” หล่อนปากคอสั่น กระดากใจยามเอ่ย ทว่าหากฝืนเก็บไว้ รังแต่มันจะค้างใจ เป็นปมให้พี่กับน้อง เจ็บปวดกับสิ่งซึ่งไม่กล้าเปิดเผย


“แกเอาอะไรมาพูด เฮียเขาไม่ทำรุ่มร่ามแบบหรอก” ผู้เป็นพี่สาวเนื้อเต้น ดวงตาแดงก่ำ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่ข้อกล่าวหา หากเป็นสิ่งที่เธอเคยเห็นเต็มตา หากยังรีบปกป้องสามีทันควัน เพราะขืนเงียบ อาจเหมารวมว่ารู้เห็นเป็นใจกับพฤติกรรมของสามี


“ถ้ารักเฮียบ้ากามนัก ก็ไม่ต้องมาสนใจลูกจันทร์ บางทีคงถึงเวลาที่ลูกจันทร์ต้องออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองเสียที ” ใจจริงหล่อนไม่อยากกล่าวหาสมชาย แต่หลายครั้งที่พี่เขยเข้ามาเกาะแกะ พุดตานก็ไม่เคยห้ามปราม


ในความรู้สึกลึก ๆ ลินจันทร์ครั่นคร้ามใจ กลัวเหลือเกินว่าคนที่พี่สาวตั้งใจอยากให้อุ้มบุญคือหล่อน อนิจจา...หากเป็นความจริง แค่คิดหัวใจก็แตกสลาย


“ โอ๊ย ฉันเบื่อเต็มทนเวลาพูดกับแก โตจนควรจะแยกแยะอะไรได้ แล้วยังฉลาดเป็นกรดอย่างแก ทำไมน้าไม่รู้จักหัดลืม ๆ เรื่องไม่เป็นเรื่องไปบ้าง นี่แค่ได้ยินคนอื่น ๆ พูดถึงเฮียว่าไปกกผู้หญิงอื่น ฉันก็นอนร้องไห้ทุกคืนอยู่แล้ว นี่ยังจะสร้างความเดือดร้อนให้ฉันกลุ้มใจไปถึงไหนห๊า ”


“นั่นไง พี่น้ำตาลทุกข์แค่เรื่องผัวสุดที่รักไปเถอะ พอลูกจันทร์ไม่อยู่ จะได้มีเวลาจับตาดูเฮียไง ว่ามันไปทำระยำตำบอนที่ไหนบ้าง”


“ลูกจันทร์! แกชักจะไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่เข้าทุกวัน นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นน้องคลานตามกันมา ฉันส่งแกให้พวกลูกชายเจ้าของเขียงหมูไปตั้งแต่เป็นสาวรุ่น ๆ ก็ดีหรอก จะได้ไม่ต้องมาเถียงคำไม่ตกฝากแบบนี้”


“เป็นเมียพ่อค้าในตลาดก็ดี เพราะไม่ต้องขึ้นชื่อว่า...ใช้ผัวคนเดียวกันกับพี่สาว” หล่อนกระแทกเสียง สิ่งที่เอ่ยมันเจ็บเสียยิ่งกว่าการตบลงบนหน้าพี่สาวเป็นร้อยเท่าพันทวี บัดนี้แก้วซึ่งเคยร้าวยากเกินประสานได้

หญิงสาวลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าใบเล็กที่จัดของใช้กระจุกกระจิกไว้หลายอย่าง เป็นจังหวะนั้นเองที่ลินจันทร์แอบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความน้อยใจ


แปลกนักเมื่อครั้งยังเด็กหล่อนกับพี่สาว รักกันมาก เคยคิดว่าคงไม่มีสิ่งใดพรากทั้งคู่จากกัน หากพอเข็มชีวิตเดินทางมาถึงวันนี้ ลินจันทร์รับรู้ด้วยหัวใจว่าหล่อนกับพุดตานต่างสร้างกำแพงใจ กั้นไม่ให้อีกฝ่ายผ่านเข้าถึงความรู้สึกแท้จริง


พุดตานนิ่งงันไปครูหนึ่ง เธอรักน้องสาวคนนี้มากตั้งแต่แม่จากไป เธอเปรียบเสมือนแม่คนที่สองของลินจันทร์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเคยอดมื้อกินมื้อ ทุกข์ยากแค่ไหนก็ไม่เคยทิ้งกัน กระทั่งต้องใช้ชีวิตคู่กับชายซึ่งแก่คราวพ่อลินจันทร์จึงเกิดวิตกจริตหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคืออาการหวาดกลัวความเจ้าชู้ของสามีตน


“ชีวิตนี้เป็นของแก เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเองแล้วกัน ฉันสอนได้แค่นี้ล่ะ” เสียงพี่สาวสั่นเครือเธอเสียน้ำตาไม่ต่างจากลินจันทร์


“เชื่อพี่ให้อภัยเชนเสีย รู้จักฟังเหตุผลบ้าง คนรักกันต้องให้อภัยกันได้ อย่าหัวแข็งไปหน่อยเลย ชีวิตแกมีผู้ชายรวย ๆ มาสนใจบุญเท่าไหร่ อยากจะกลับไปอยู่บ้านเท่ารูหนูเหมือนก่อนรึไง จำได้ไหม เราหนีชีวิตบ้านนอกมาด้วยความยากลำบากแค่ไหน จะหันกลับไปหามันอีกทำไม”


“อยู่อย่างลำบาก ยังดีกว่าอยู่กับผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา” ลินจันทร์เสียงแข็ง ความซื่อสัตย์คำนี้มันกรีดก้องอยู่ในใจ ตั้งแต่แม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีก


“ฉันถามหน่อย ซื่อสัตย์ที่ว่ามันทำให้แกสุขสบายไหม?”


“อย่างน้อยมันก็ทำให้ลูกจันทร์รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า ไม่ต่ำต้อย คนเรามันมีศักดิ์ศรีนะพี่น้ำตาล ลูกจันทร์ยอมตายดีกว่า ไปเป็นของเล่นใคร”


“เออ...พูดกันตอนนี้ แกคงยกเหตุผล เข้าข้างตัวเองมาให้พี่ปวดหัว แต่ถ้าคิดจะเลิกกับเชนจริง ๆ ก็ไม่เห็นต้องหนีไปอยู่ที่อื่น จำไม่ได้หรือไงเรามีกันแค่สองคนนะลูกจันทร์”


“ฮึ! แน่ใจว่าแค่สองคน แล้วเฮียละ พี่เอามันไปไว้ที่ไหน”


“เอ๊ะ! พูดดีด้วยก็แล้ว หัวดื้อไม่รู้จักฟังคนอื่น ขืนทำตัวไม่รู้จักฟังเหตุผล ไปอยู่ไหน แกก็หนีไม่พ้นความทุกข์ที่ติดอยู่ในใจแกหรอกลูกจันทร์”


“ดูสิ ไม่ให้พร แล้วยังมาแช่งกันอีกปากอย่างงี้ไง เด็กมันถึงไม่อยากมาอยู่ด้วย” ลินจันทร์หัวเราะขื่น พลางใช้หลังมือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวล


“ ฉันเป็นห่วงแกต่างหาก บ้านนอก คอกนาจะอยู่ได้ยังไง แล้วไว้ใจได้แค่ไหนเพื่อนแกคนนั้น ไม่เจอกันกี่ปีแล้ว จู่ ๆ ไปอาศัยเขา ทำตัวอย่างกับบ้านช่องไม่มีซุกหัว ดีไม่ดีพลาดท่าเสียตัวให้ผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนเข้า คราวนี้ได้งามหน้าแน่”


“พี่น้ำตาล! พูดเหมือนไม่รู้จักน้องสาวตัวเอง เอาละกรอกหูแต่เรื่องเดิม ๆ ก็ไม่เห็นจะได้อะไรขึ้นมา พี่ไปดู ผัวดีกว่าไหม ป่านนี้ คงวิ่งแก้ผ้าไล่ปล้ำหมาตัวเมียที่ไหนก็ไม่รู้”


“แกไม่ต้องมาสอน ผัวฉัน ฉันรู้จักเขาดี ตอนนี้ก็คงทำงานงก ๆ หาเงินมาให้แกเสวยสุขเป็นคุณนายลินจันทร์น่ะสิ จำไว้ใส่ใจเสียบ้าง ที่แกสุขสบายนี่เพราะใคร”


“เงินของเขาสักวันลูกจันทร์จะหามาคืนทุกบาททุกสตางค์ รับรองไม่เอามาใช้ฟรี ๆ”


“ลูกจันทร์ พี่ไม่อยากให้แกคิดอย่างนั้นนะ พี่ขอโทษ...” ยามที่เห็นดวงตาคู่งาม วาวโรจน์คนเป็นพี่ก็ต้องใจอ่อน กลัวความคิดของหล่อนยิ่งนัก ลินจันทร์เด็ดเดี่ยวและไม่ยอมใครจนน่าหวั่นใจ


“ลูกจันทร์ตั้งใจแล้ว จะไม่ยอมเป็นหนี้เขา ขอจบกันแค่ชาตินี้ ไม่อยากตามไปชดใช้ชาติอื่น เป็นห่วงก็แต่พี่น้ำตาล ไม่อยากเชื่อว่าพี่ดูไม่ออกว่าเฮียมันหน้ามืดแค่ไหน ทั้งเสมียนที่โรงพิมพ์ ไหนจะสาว ๆ ร้านอาหาร ดูเอาเถอะระรี้ระริกทั้งตัวผู้ตัวเมีย!”


“ลูกจันทร์! ถ้าแกทะเลาะเชน ก็อย่าพาลแขวะคนอื่นพูดเปรอะไปทั่ว สงบปากสงบคำไว้บ้าง ฉันไม่อยากฟังพวกขี้อิจฉาโดยเฉพาะน้องที่ฉันเลี้ยงมากับมือ”


“ ลูกจันทร์แค่อยากให้พี่มองเห็นเรื่องบัดสีพวกนี้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่หูหนวกตาบอด รำคาญลูกตาแทน เฮ้ย ...แต่ทำไงได้ ในเมื่อพี่น้ำตาลเอาแต่ขังตัวเองไว้ในโลกแคบ ๆ พูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ หรือพี่น้ำตาลจะเถียง...” ไม่ทันที่ลินจันทร์จะเอ่ยจบประโยคดี เสียงประตูห้องก็ดังปัง!



ในที่สุดการปรับความเข้าใจของหล่อนกับพี่สาวก็พังไม่แพ้ชีวิตรักของหล่อนกับรหัท


หญิงสาวล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรงใจ คิดถึงภาพในวันวาน ซึ่งพี่สาวพาหล่อนออกมาจากครอบครัวใหม่ของพ่อหลังจากที่แม่จากไปพร้อมชายชาวต่างชาติซึ่งใช้เงินซื้อไปด้วยราคาหลายล้านบาท!

ลินจันทร์ไม่ยอมเปิดประตูรั้วให้รหัท ทั้งคู่ต่างนิ่งค้าง และส่งต่อความรู้สึกร้าวไหวถึงกัน ใจหนึ่งหล่อนอยากไล่เขาให้พ้น ๆ หน้า แต่อีกความรู้สึก กับถวิลหาอ้อมกอดแห่งความอบอุ่นซึ่งรหัทเคยมอบให้
ทว่าหากทั้งรักทั้งต้องเหนื่อย แล้วหล่อนยังจะยอมให้ชีวิตคู่ได้สานต่ออีกหรือ


แวบแรกที่เห็นเขา หญิงสาวก็วูบไหว สายตารหัทยามที่มองมาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริง ๆ เขารักหล่อน ข้อนี้รู้อยู่เต็มหัวใจ แล้วเหตุผลกลใดจึงไม่อาจให้อภัยผู้ชายซึ่งพร้อมอยู่เคียงข้างตน
หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวต่อความรู้สึกตัวเองเหลือเกิน


อดีตร้าย ๆ ในหนหลังย้อนคืนกลับ หญิงสาวเจ็บปวดตั้งแต่เรื่องพ่อ ด้วยเขาผลักไสแม่ให้ชายอื่น หลังจากนั้นพ่อก็มีสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน จนลูกสาวทั้งสองคนต้องตกอยู่ในมรสุมชีวิต แล้วยังมาเจอเรื่องพี่สาวซึ่งเป็นเมียเก็บเฮียสมชาย ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะถูกตามล่าจากบ้านใหญ่ กระทั่งเมียเขาเสียชีวิตลง พุดตานถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย หากเฒ่าตัณหากลับก็ยังมีบ้านเล็ก บ้านน้อยอีกนับไม่ถ้วน


ครั้นหลาย ๆ เหตุการณ์รวมเข้าด้วยกัน หล่อนจึงสรุปได้ว่าผู้ชายทั้งโลกล้วนหาความซื่อสัตย์ไม่ได้
ประจวบกับภาพเมื่อคืนที่เห็นด้วยสองตา เหมือนถูกตราไว้ในดวงจิต ความไว้เนื้อเชื่อใจของหล่อนที่มีต่อรหัทจึงสิ้นสุดลงในที่สุด


กระนั้นถึงจะโกรธและเจ็บปวดต่อการกระทำของชายหนุ่มอยู่มาก ทว่าหล่อนไม่ได้มีอคติมากพอที่จะตัดขาดกันชั่วชีวิต อย่างน้องเขายังคงอยู่ในฐานะพี่ชาย เป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกคนหนึ่งที่หล่อนยังคงต้อง พบเจอ ผิดแต่ว่ารหัทจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากหล่อนอีกก็เท่านั้น


ชายหนุ่มพาหล่อนมาทานร้านขนมใกล้ ๆ หมู่บ้านของหญิงสาว ร้านขนมปังดังกล่าว จัดได้สวยเก๋เป็นเอกลักษณ์ ตบแต่งด้วยโทนสีฟ้าสลับด้วยสี สีน้ำชมพูสุดหวานพร้อมประดับดอกไม้โทนสีขาว ให้ความรู้สึก ผ่อนคลายอย่างประหลาดในยามที่หล่อน มีความทุกข์ล้นใจ


ในช่วงเวลานี้รหัทยิ้มให้หล่อน เขาหวังให้หญิงสาวยกโทษต่อทุกความผิดที่ก่อขึ้น ดังนั้นบนโต๊ะอาหารจึงดอกไม้ช่อใหญ่วางรวมอยู่ด้วย


หากทั้งดอกไม้ และ อาหารโปรดตรงหน้าไม่ได้ทำให้ลินจันทร์รู้สึกดีต่อเขาเลย
แปลกเหลือเกินที่ลินจันทร์มองชายหนุ่มผู้เคยเป็นที่รักด้วยสายตาเปลี่ยนไป เพียงข้ามคืนหล่อนเกลียดเขาคงคอเชียวหรือ ความรักซึ่งบ่มเพาะมานานจบลงจากการกระทำผิดพลาดแค่ชั่ววูบ


“ไม่ทานอะไรหน่อยละคะ” รหัทเขาเอ่ยพลางตักเค้กมะพร้าวเตรียมป้อนหญิงสาว


“ลูกจันทร์ไม่หิว” หล่อนออมคำ กลัวเขาจับความอ่อนแอจากน้ำเสียงได้


“งั้นดื่มน้ำส้มสักหน่อยสิ จะได้สดชื่น ลูกจันทร์หน้าซีดมากรู้ไหม” เขาเอาอกเอาใจหล่อนเป็นพิเศษ แม้กระทั่งแก้วน้ำส้มคั้นยังคะยั้นคะยอยื่นให้


“เอ...ทำไมรสมันทะแม่ง ๆ แม่ครัวชักจะฝีมือตกนะเนี่ย ” หล่อนจิบเพียงนิดแล้วเลื่อนแก้วน้ำส้มห่างตัว รสชาติมันไม่ได้แย่อะไรหรอก หากใจหล่อนต่างหากที่เปลี่ยนไปเลยพาลให้ทุกสิ่งซึ่งเคยชอบ ผิดแผกจากเดิม


“ลูกจันทร์ ขอกาแฟเย็นเข้ม ๆ สักแก้วดีกว่า...” หล่อนเสียงห้วน แล้วลุกขึ้นขอตัวไปเข้าห้องน้ำ


ลินจันทร์หายไปนานพอสมควร เพราะหล่อนกำลังต่อสู่กับจิตใจตนเอง


ณ ขณะนี้ ความหวาดหวั่น ถาโถมเข้าใส่หล่อนไม่ยั้ง ดวงหน้าสวยในบานกระจกเงา ไร้ซึ่งความสดใส ความทุกข์ใจระบายอยู่ทั่วดวงหน้า และโอมคลุมหญิงสาวไว้จนพรากรอยยิ้ม แห่งความสุขให้หดหาย


พนักงานซึ่งรู้จักหญิงสาวดี เข้ามาไถ่ถามด้วยเป็นห่วง แค่ได้รับกำลังใจจากอีกฝ่ายเล็กน้อย หล่อนก็น้ำตาคลอหน่วย พูดกันอยู่ประเดี๋ยวก็ขอตัวกลับโต๊ะ ทว่าพออีกฝ่ายกระซิบบอกความลับหนึ่งกับหล่อน ถ้อยความนั้นก็สร้างความเคลือบแคลงใจ ในทุกย่างก้าวซึ่งไปหาชาย ผู้เคยเป็นคนรัก ประหนึ่งทางเดินเบื้องกำลังพาหล่อนมุ่งสู่ก้นเหวลึกอันมืดดำ!


ครั้นกลับมาที่โต๊ะหล่อนก็ไม่พูดพล่ามอะไร ลินจันทร์ตั้งท่าผละจากร้านไปเสียดื้อ ๆ พลอยให้รหัททำตัวไม่ถูก ดวงหน้างอง้ำไม่ได้โกรธเกลียดเขา หากโกรธตัวเองมากกว่าที่ยังโง่งมงาย ด้วยความหวังริบหรี่


แวบหนึ่งลินจันทร์อยากจะกลืนน้ำลายตัวเอง ยกโทษต่อความผิดที่เขาก่อขึ้น มันแค่เรื่องขี้หมา หากหล่อนใจกว้างพอทุกอย่างก็จบ คิดเสียว่าผู้ชายแค่อยากสนุกเล็ก ๆ น้อย ๆ มันไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอก
รู้อย่างนี้แล้ว หล่อนจะโกรธเกลียดเขาจนถึงขั้นเลิกราทำไม ?


ผู้ชายรักสนุก หล่อนเองมีประสบการณ์มากับตัวเองมานักต่อนักแล้ว ในความจริงหญิงสาวก็ไม่ได้รักเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ ความร่ำรวย และหน้าตาทางสังคมของชายหนุ่มต่างหากที่ทำให้หล่อนกระโดดเข้าใส่เขา
ด้วยหวังว่ามันจะฉุดให้หล่อนพ้นจากชีวิตที่ต่ำต้อยนี้


ในขณะที่หล่อนดึงดันที่จะก้าวออกไป รหัทมองลินจันทร์หล่อนความเหนื่อยใจ ดวงตาเขาเว้าวอนขอให้นั่งลงเสีย


“ไม่ดื่มกาแฟก่อนเหรอ พี่ตั้งใจชงให้กับมือตัวเองเลยนะ” เขายิ้มตาหยี หวังให้หล่อนรับแก้วกาแฟดื่มจิบรสชาติสักนิดยังดี หากหญิงสาวยังคงทำหน้าตึง


ครั้งหนึ่งเขาเคยรักหล่อนหมดหัวใจหากพอเขาไม่ได้รับ ความรักจากหล่อนแท้จริงชายหนุ่มก็เริ่มหันเห ความสนใจไปถึงสิ่งอื่นรอบตัว ทั้งหน้าที่หลักในบริษัทซึ่งต้องดูแล งานในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่ เขาจึงต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจให้งานครั้งนี้อย่างสุดความสามารถ


“เราไปเดินเล่น ที่ไหนกันดีลูกจันทร์” เขารู้ว่าหล่อนชอบเดินทอดน่องที่ตลาดนัด เมื่อก่อนหลังจากเรียนจบหญิงสาวมักจะประดิษฐ์ของไปขาย เพื่อหาทุนเลี้ยงตนเองและส่วนหนึ่งสำหรับช่วยเหลือแก่เด็กในชนบท งานที่หล่อนรักยิ่ง


“ไหนว่างานเยอะ” หล่อนมองเขา พยายามมองลึกให้ถึงเนื้อในที่แท้จริง


“เปล่า พี่อยู่กับลูกจันทร์จนถึงพรุ่งนี้เช้ายังได้เลย”


“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เราอยู่ห่าง ๆ กันดีกว่ามังคะ ”คำพูดหล่อนนั้นกระทบความรู้สึกคนฟังไม่น้อย
“ทำไมพูดแบบนั้นละ ยังไม่หายงอนอีกใช่ไหม...”


“ปละ เปล่า เห็นพี่ดูเหนื่อย ๆ ลูกจันทร์ ‘เกรงใจ’ น่ะค่ะ” คำพูดหล่อนเปิดเผย จนชายหนุ่มต้องขบกรามตึง เขารู้ว่าหล่อนยังโกรธ เลยแสดงอาการไม่พอใจ หากมันดูไม่เข้าท่าและเขาเริ่มระอาเต็มที


“กลับกันเถอะคะ ลูกจันทร์เหนื่อย” หญิงสาวไม่ลงเหลือความยินดียินร้ายใด ๆ ต่อเขา จึงตัดบทขอตัวดีกว่าจะรั้งให้ต้องทรมานกันทั้งสองฝ่าย


คำพูดนั้นทำให้ชายหนุ่มหมุนตัวเดินลิ่วนำไปที่รถ เขานิ่งเงียบไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา ความกดดันตลอดเส้นทางซึ่งมุ่งหน้ากลับไปยังหมู่บ้านที่ลินจันทร์อาศัยอยู่ กระทั่งขับรถออกมาจนถึงถนนสายซึ่งทอดยาว ชายหนุ่มรู้ดีว่าความเงียบระหว่างเขาและหล่อน คือสิ่งซึ่งอันตรายสำหรับชีวิตคู่
“ลูกจันทร์ เราดีกันได้หรือยังคะ พี่ไม่สบายใจเลยรู้ไหมที่เป็นแบบนี้...”


หล่อนแสยะยิ้มตอบกลับแทนคำตอบ มีสักครั้งไหมที่รหัทจะเข้าใจความรู้สึกหล่อนอย่างแท้จริง
ทำไมเขาต้องบังคับให้เดินตามเกมเดิม ๆ ซึ่งเขาวางแผนไว้ ทั้งที่มันไม่ใช่ตัวตนหล่อน หมดเวลาเสียทีสำหรับ
หน้าที่ตุ๊กตาหน้ารถ หล่อนไม่อยากฝืนตนเอง พร่ำพูดจา หวานหู เอาอกเอาใจเขา และทำตัวง่ายเข้าไว้ เมื่อผู้ชายปลดตะขอ แล้ว...รูดซิบกางเกง !


“อย่าทำให้มันยืดเยื้อกว่านี้เลยพี่เชน ” หล่อนกล้าหาญพอที่จะเป็นคนบอกเลิกผู้ชาย


“ยืดเยื้อ!”


“ใช่ พี่ควรจะทำตามใจตัวเองตั้งนานแล้ว เสียดายที่โง่ ปล่อยให้เวลาผ่านมา จนป่านนี้”


บรรยากาศในรถตึงเครียด หญิงสาวสัมผัสได้ แปลกเหลือเกินยามรักขม มันช่างมีหลายเหตุผลมากล่าวอ้างสารพัดถึง ความไม่เอาไหนอีกฝ่าย


“ลูกจันทร์มีคนอื่นนอกจากพี่ใช่ไหม”


คำพูดเขานั้นเมื่อหลุดออกมา สร้างบาดแผลเฉือนใจหญิงสาวอย่างรุนแรง นี่เขาคิดว่าพอตนเองมั่วได้ หล่อนซึ่งเป็นกุลสตรีจะล่าแต้มแข่งกับเขาใช่ไหม ผู้ชายไม้เลื้อยคิดเข้าข้างแต่ตัวเอง เพราะความร่ำรวยของเขาโดยแท้ หล่อนถึงกระโจนเข้าใส่ในวันนั้น หวังเพียงอย่างเดียวอยากหลุดพ้นจากเงื้อมือพี่เขย และใครต่อใครซึ่งพุดตานพยายามจับคู่ให้ ทั้งที่หล่อนก็มีสมอง สองมือ สองเท้า แต่เพราะความรักสบาย จึงพยายามหาสะพานเชื่อมไปให้ถึงฝั่งฝันเร็วขึ้น


“ทำไมพี่เชนคิดแบบนั้น” หัวใจเจ็บจี๊ด


“ก็ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรที่เราต้องเลิก กัน ยกเว้นแต่ว่า ลูกจันทร์เจอคนที่รวยและโง่กว่าพี่”


“พี่เชน! จอดรถเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นลูกจันทร์จะกระโดดไปจริง ๆ ”


“อย่า! ทำบ้า ๆ นะลูกจันทร์” เขาพลาดไปแหย่แม่เสือสาว และหล่อนก็กำลังแยกเขี้ยวขู่
“ลูกจันทร์ทนไม่ได้ที่จะให้คนที่เคยรัก พูดจาว่าร้ายกันแบบนี้ ถ้าไม่รักไม่ชอบลูกจันทร์แล้ว เราก็ควรอยู่ห่าง ๆ กันดีกว่า และขอบอกให้พี่เชนให้รู้ไว้ นอกจากพี่ลูกจันทร์ไม่เคยมีใคร!” หล่อนย้ำคำหนักแน่น ดวงหน้างามบึ้งตึง ไม่อยากจะโกรธเกลียดเขา หากหัวใจมันเริ่มลดแต้มลง


“พูดไปก็ทะเลาะกันเปล่า ๆ” เขาเบื่อหน่ายที่จะต่อล้อ ต่อเถียง ความรักระหว่างช่างหดหายเร็วจนน่าตกใจ ทว่าเมื่อความเหือดหาย แต่ความใคร่ที่เขาเคยมีต่อเรือนร่างงดงามนี้ไม่เคยมอดดับ !


อำนาจฝ่ายต่ำบุกเร้าสันดานดิบในตัว หากเขาไม่รัก ไม่หวง คงไม่ยอมให้หล่อนเป็นหญิงเดียวในดวงใจตลอดมา


รหัทหักห้ามใจไม่ชิงสุกก่อนหาบมานานเท่าไหร่ หรือจะปล่อยให้ทุกสิ่งที่ลงทุนไปสูญเปล่า
เม็ดเงินซึ่งลงทุนไปหาได้รับสิ่งใดตอบแทน วันนี้ละหากหล่อนคิดจะเลิกราจากไป เขาควรได้บางสิ่งที่หล่อนหวงแหนสุดชีวิตเป็นค่าตอบแทนที่หลงงมงายกับผู้หญิงซึ่งหวาดกลัวต่อความรู้สึกตัวเอง


อยู่ ๆ รหัทก็เลี้ยงรถเข้าซอยแคบ ๆ นั้น ป้ายไฟเบื้องหน้านั้นสร้างความฉงนให้ลินจันทร์ไม่น้อย หล่อนขมวดคิ้วมุ่น ประหวั่นใจกับท่าทีเย็นชาของเขา โดยเฉพาะดวงตาชายชายหนุ่มซึ่งมองหล่อนเปลี่ยนไป รหัทไม่เคยเป็นเช่นนี้ หล่อนจับความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงได้


ชายหนุ่มแสดงอาการผิดปกติให้หล่อนเห็น สีหน้าคล้ายไม่สบายอย่างหนัก หากหญิงสาวพอคะเนได้ว่า เขาแสร้งทำ!


“ลูกจันทร์หยิบ ยาทาแก้ปวดให้พี่ทีสิคะ” เขาเอ่ยเสียงหวานอ้อนหล่อน หากเสียงนั้นเคลือบด้วยยาพิษ!


ลินจันทร์มองตามไปยังช่องเก็บของหน้ารถ และเห็นกระปุกสีขาวเล็ก ๆ มีฝาปิดหล่อนลังเลอยู่ประเดี๋ยว จนเขาเร่งให้รีบเปิดตลับยาที่ว่านั่น


“ เร็ว ๆ สิคะ พี่ปวดหัวจะแย่ โอย...” เขาทำท่าปวดหัวไม่ใคร่จะเหมือนจริงนัก


“ พี่เชนเป็นอะไร ปวดหัว? แล้วทำไมต้องทายา...? ” หล่อนถามอย่างไม่ใส่ใจนัก ด้วยระแวดระวังภัยมากกว่า ตั้งแต่เดินออกไปโทรศัทพ์ และจิบน้ำส้มเพียงนิดเดียว หัวใจพลันกระตุกวูบต้องรีบตัวเข้าห้องน้ำ แล้วพอได้ยินเรื่องชวนให้น่าสงสัยจากพนักงานในร้านที่สนิทกันเอ่ยบอก ลินจันทร์ก็ประหวั่นใจ


‘หนูไม่รู้ว่าตาฝาดหรือเปล่า แต่หนูเห็นพี่ผู้ชายเขา หยิบอะไรออกมาจากเสื้อไม่รู้ แล้วใส่ลงให้แก้วน้ำส้มนะคะ ตอนนั้นพี่ลูกจันทร์กำลังเดินออกไปคุยโทรศัพท์ คงไม่ทันสังเกต’


วาบแรกที่ได้ยิน หล่อนไม่เชื่อสนิทใจ หากพอเกิดอาการแปลก ๆ กับตนนั้นแหละลินจันทร์จึงพรั่นพรึงต่อคำพูดของเด็กสาว


ยิ่งร่างกายเริ่มเกิดอาการวูบวาบ ด้วยบางสิ่งที่กำลังออกฤทธิ์อ่อน ๆ ต่อระบบประสาท ยิ่งทำให้หล่อนขยาดกลัวเขา


“เปิดออกแล้ว ทายาให้ที่ตรงขมับหน่อยสิ มันปวดจี๊ดเลย” เขาสั่งแกมบังคับ หากหล่อนหันไปมองชายหนุ่มสักนิด คงเห็นความผิดปกติบนดวงหน้านั้น ทั้งเหงื่อกาฬซึ่งผุดเหนือหน้าผาก และดวงตาสีน้ำตาลใต้เลนส์ใสซึ่งหลุกหลิกเป็นที่สุด


ยากระตุ้นประสาทในแก้วน้ำส้ม ออกฤทธิ์กล่อมประสารทอ่อน ๆ ทำให้หญิงสาวปวดหัวตุบ ๆ ไม่ทันฉุกคิดถึงสิ่งใด โดยเฉพาะเรื่องร้ายซึ่งกำลังจะเกิดกับตัว


ในวินาทีซึ่งลินจันทร์เปิดตลับสีขาวมุก หล่อนหารู้ไม่ว่ามันคือ ยาเสียสาวซึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘แมลงวันสเปน’
ลินจันทร์ใช้ปลายนิ้วสัมผัสเพียงเล็กน้อย หากสายตารหัทที่มองมา บอกให้แตะตัวยาให้มากกว่านั้น “มากกว่านั้นอีกคะ ไม่...ไม่ อีกหน่อยนึง” เสียงเขาเหมือนอยู่ไกล แสนไกล และร่างกายลินจันทร์
ประหนึ่งลอยคว้างในชั้นบรรยากาศ ความรู้สึกร้อนวาบแล่นเข้าสู่ร่าง !


หญิงสาวหัวใจกระตุกวูบ สมองมึนงง และร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื้อตัวเหมือนถูกมนตราประหลาดครอบงำ ก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะเผลอไผลครางเสียงแหบพร่า ออกมา เสียงนั้นช่างน่าอดสู จนหล่อนทนฟังไม่ได้ เหมือนคนตกอยู่ในห้วงแห่งความพิศวาสต่อร่างของชายหนุ่ม


ลินจันทร์ตกใจการกระทำของตน ไม่รู้ว่านึกอย่างไร หล่อนถึงป้ายตัวยาลงบนแขนตนเองแล้ว ถูไปมาจนเกิดอาการประหลาดกับตัว!


หล่อนวูบไหวไปทั้งร่าง มือไม้อ่อนระทวย แทบประครองตัวเองไม่ได้ วาบหนึ่งอยากจะโผเข้าไปซบเข้าและกอดจูบชายหนุ่มตามแรงปรารถนาซึ่งขับออกมาจากส่วนลึกภายในร่างกาย


“ พี่เชน ลูกจันทร์ร้อน หายใจไม่ออก” หล่อนหวาดกลัวความรู้สึกตนเอง มันไม่ใช่แค่อาการร้อนในอก หากไล่ไปจนถึงชุดชั้นในซึ่งปกปิดเรือนร่างอันเย้ายวนนี้ หล่อนอยากจะปลดเปลื้องทุกพันธนาการให้หายไปจากเรือนร่างซึ่งขยายใหญ่ และเพียงเขาช่วยดับไฟกิเลส ลินจันทร์ก็พร้อมจะเป็นนางบำเรออย่างไม่เกี่ยงงอน


“หือ... ว่าไงนะคะ” เขาแสร้งไม่ได้ยิน รหัทยิ้มหวานจับใจ ดวงหน้านั้นมีเสน่ห์ล้นเหลือกระทั่งหล่อนอยากจะมอบความสาว ความสวยซึ่งหวงแหนให้เชยชม ให้ตายเถอะ ความรู้สึกบ้า ๆ ผุดในหัวได้อย่างไร นี่คงไม่ได้หมายความว่า เขาวางยาหล่อน อย่างที่คิดไว้แต่แรกหรอกนะ...


พอคิดได้ดังนั้น สติที่เหลืออยู่น้อยนิดจึงรวบรวมเข้าด้วยกันความกลัวภัยซึ่งกำลังจะมาถึงตัว
ลินจันทร์อดกลั้นอำนาจแห่งราคะที่แผดเผาร่างงามเจียนคลั่ง หล่อนขยับตัวชิดประตูรถ กลัวชายหนุ่มฉวยโอกาสในยามที่หล่อน อ่อนแอ ควบคุมตนไม่ได้


“ลูกจันทร์ปวดหัวจนจะระเบิดอยู่แล้ว! พี่เชนช่วยลูกจันทร์ด้วย” เสียงของหล่อนน่าสงสารยิ่งนัก


รหัทซึ่งหวังจะให้ฤทธิ์ยากล่อมประสาทปลุกพลังความต้องการของหญิงสาวออกมา เพื่อเขาและหล่อนจะได้ร่วมรักกันดูดดื่มสักครั้ง ก่อนเขาจะปล่อยหล่อนไปจากชีวิต


ทว่าชายหนุ่มต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่เขาทำร้ายคนรักได้ลงคอเชียวหรือ แค่อยากจะเชยชมเรือนร่างงดงาม ถึงกับปล่อยให้ จิตใจถลำจมไปอยู่ กับสิ่งเลวร้ายที่ยั่วกิเลส “ลูกจันทร์พี่ขอโทษ” กระแสเสียงเจือ ความเจ็บปวด ท้ายที่สุด เขาก็รักหล่อนเกินที่ทำร้ายผู้หญิงซึ่งคอยดูแล ทะนุถนอมตลอดระยะเวลาหลายปี


ชั่วเวลานั้นถึงสมองมึนงง และร่างกายร้อนวูบ แทบระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ หากลินจันทร์ยังรับรู้ถึงสิ่งที่เขาเอ่ยชัดแจ้ง ดวงหน้าชายหนุ่มขาวราวกับกระดาษ แม้รหัทเก่งกาจหลายสิ่ง แต่ยามอยู่กับหล่อน เขาไม่เคยโกหกได้สักครั้ง “พี่เชน...ทำอย่างนี้กับลูกจันทร์ทำไม ? ”


ดวงหน้าหล่อนแดงก่ำ หมดซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจ หล่อนไม่คาดคิดว่า เขาจะวางแผนร้าย ๆ กับตน
ลินจันทร์กลั้นเสียงสะอื้น ขอบตาผะผ่าวร้อน ใช่ ! หล่อนเคยสัญญาว่าจะไม่ยอมพลาดท่าและเสียน้ำตาให้ผู้ชายหน้าไหนอีก แม้แต่คนซึ่งเคยรัก ก็จะไม่ให้เขาได้เห็น


กระทั่งรถเคลื่อนชิดริมฟุตบาท หล่อนสูดลมหายใจลึก ไม่ทันที่รหัทจะเอี้ยวตัวเข้ามาใกล้ด้วยซ้ำ หล่อนชูกระป๋องสเปรย์พริกไทย หมายมั่นใช้ป้องกันตัว หากรหัทคิดรวบหัวรวบหาง ข่มเหงกันง่าย ๆ หล่อนก็พร้อมปกป้องศักดิ์ศรี หล่อนยอมตายด้วยความบริสุทธิ์ไร้ราคี “ลูกจันทร์อย่าทำบ้า ๆ นะ วางลงเถอะคะ พี่ไม่ทำอะไรลูกจันทร์หรอก” เขาพูดจริง ความใคร่พลันมอดดับเมื่อเห็นคนเคยรัก ตอบกลับด้วยสายตาชิงชัง !


“ไม่...มันสายเกินไปแล้วพี่เชน แค่คิดชั่ว ๆ กับลูกจันทร์ ก็ทำให้ลูกจันทร์เจ็บ เจ็บจากการถูกคนรักหักหลัง” ลินจันทร์รวบแรงกายเท่าที่มีต่อสู้ให้พ้นจากบ่วงราคะ


จากนั้นนิ้วเรียวก็กดปุ่มเพียงค้างไว้ไม่กี่วินาที สเปรย์พริกไทยพลันรดหน้าชายหนุ่มเต็มรัก ลินจันทร์ไม่แน่ใจว่ารหัทร้องโอดโอย และเจ็บปวดแค่ไหน ด้วยหล่อนพยายามพาตัวเองหนีจากเขาให้ไกลที่สุด


ร่างแบบบางวิ่งทะยานไปเบื้องหน้า โชคดีเหลือเกินที่ยังมีคนเดินตามฟุตบาทอยู่บ้าง ก่อนสติดับวูบลง หลายเสียงที่อยู่รอบตัวหล่อน ต่างร้องส่งต่อกันให้ช่วยเหลือหญิงสาว เปลือกตาลินจันทร์ปิดลงอย่างช้า ๆ ร่างงามครึ่งหลับครึ่งตื่น เสียงโหวกเหวกดังรอบตัว


กระทั่งความเงียบสงบเข้ามาเยือน พร้อมกลิ่นยาฉุนเข้าจมูก เนิ่นนานเพียงใดที่หล่อนวูบไป



วาบหนึ่งหล่อนเห็นดวงหน้าพุดตานผุดขึ้น เพียงแค่นั้นน้ำตาก็ไหลกลบตา


สัมผัสจากพี่สาวทำให้หญิงสาวอบอุ่นเหลือเกิน ภาพซึ่งฉายตรงหน้าชัดแจ้งอย่างที่พุดตานบอกไว้ หากในโลกนี้ไม่เหลือใคร ลินจันทร์ยังมีพี่สาวคนนี้เสมอ





เขมปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ค. 2554, 14:08:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.ค. 2554, 14:24:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 1820





<< บทที่ ๒ หนูนาตกสวรรค์    บทที่ ๔ เกลียดอะไร เจออย่างนั้น >>
ปริยาธร 10 ก.ค. 2554, 14:22:12 น.
แวะมาทักทายคุณพี่ค่ะ อิ อิ


เขมปัณณ์ 10 ก.ค. 2554, 14:25:18 น.
อิ ๆๆๆ หวัดดี ครับ นุ้ย จังงงงง อิ อุ อิ อุ


gozilar 22 ก.ค. 2554, 13:40:02 น.
ทำไมเราชอบพี่เชนนะ แต่เอ่อ ถ้าเอาสเปร์ออกมาไม่ฉีดเลย ร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์คือโดนแย้งนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account