สิเน่หา...ยอดดวงใจ
260 ปี มันช่างนานแสนนานเหลือเกินกับการต้องรอคอยพบเจอะเจอหญิงสาวอันเป็นนิมิตรหมายในห้วงอันคลั่งแค้นแสนสะสมมานานเป็นร้อยๆ ปีคริสต์ศักราช

แนะนำตัวละคร

ดานิล วาดิติน อเล็กซานดรูว์ บุรุษมหาเศรษฐีเก่าแก่ลึกลับตระกูลหนึ่งของรัสเซีย ทรัพย์สินที่มีไว้ครอบครองมีค่ามากกว่าเมืองหนึ่งๆ ของรัสเซียเลยทีเดียว

ในอดีตชื่อ Anna Mikhailov

ปัจจุบันชื่อ อันนา วรเวช สาวน้อยวัยยี่สิบสองปี ที่ต้องมาจมปลักทนทุกข์ เมื่อกำลังเดินทางมายังเมืองมอสโกแห่งรัสเซียแล่นสู่คฤหาสน์วาติดิน ใน ฐานะ ภรรยาของดานิล วาดิตินวัยหกสิบปี อันนาเข้าใจว่า ดานิลคือชายชรา ก้าวแรกที่เข้ามาได้พบเขา อันนาก็ต้องตกใจ ไหนจากบ้านของเธอบอกว่า ดานิล วาดิติน อายุหกสิบปีแล้ว คนที่เธอเห็นตรงหน้ากลับเป็นชายหนุ่มเรือนร่างกำยำหล่อเหลาไร้ที่ติ แต่ดวงตาคู่คมกริบที่จ้องมองเธอนั้นกลับน่ากลัวเหลือเกิน คำแรกที่ดานิลเอ่ยกับอันนา คือ คำสั่ง เป็นคำสั่งที่อันนาแทบมึนงุนงง ไม่เข้าใจเสียจริงๆ เขาต้องการให้เธอค้นหาหัวใจของเขาที่หายไป...

Tags: รักโรแมนติกพาฝัน,ซึ้งกินใจ,สิเน่หา...ยอดดวงใจ

ตอน: บทที่ 12 พบดวงใจที่หายไป...

บทที่ 12 พบดวงใจที่หายไป

ทาติน่ามีอาการหน้างอนงำ เมื่อยังเล่นน้ำทะเลสีครามในแดนฝั่งอันดามันแห่งเอเชีย ได้ไม่ค่อยสะใจนัก เพราะจู่ๆ ก็ถูกสั่งให้เดินทางกลับมอสโกโดยด่วน นางสงสัยว่าท่านดานิล คงจะทะเลาะกับนายหญิงอันนาอีกแล้วแน่ๆ ทาติน่าระบายลมหายใจถอนทิ้งอย่างยาวๆ กับความรักของเจ้านาย เนื่องจากต่างฝ่าย ต่างไม่คิดที่จะเปิดใจคุยกันบ้างเลยหรือไร

ท่านดานิลนั้นหลงรักแม่สาวน้อยเอเชียอย่างอันนา จนถอนตัวไม่ขึ้น แต่ดันปากแข็งนัก และชอบทำตัวโหดๆ เพื่อให้อันนาเกิดความกลัว ส่วนฝ่ายหญิงนะเหรอ ทาติน่าเดาว่าอาจจะมีใจให้เจ้านายของนางอยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ ถ้าจะให้รักอย่างจริงจัง คงจะต้องใช้เวลาอีกนานเลยล่ะมั้ง เมื่อท่านดานิลมักเผลอทำตัวดุร้ายใส่แบบนี้ แล้วผู้หญิงสาวคนไหนจะไป...รักได้ลงล่ะ

“วอนก้า หยุดรถทำไม นี่ยังไม่ถึงคฤหาสน์วาดิตินเลยนะ” ทาติน่าเอ่ยถาม เนื่องด้วยต้องขึ้นเครื่องบินกลับมาก่อนเจ้านายทั้งสองคน เพราะท่านดานิลติดธุระอีกนิดหน่อย จริงๆ แล้ว ท่านดานิล คงไม่อยากให้ทาติน่า เป็นที่พึ่งพาหรือออกโรงปกป้องอันนาต่างหาก

“ผมร็อกโคครับ คุณทาติน่า” เมดวัยชราคิ้วย่นหากันด้วยความฉงน เนื่องจากว่า นายวอนก้าได้เดินตามหลังนางมาพร้อมด้วย เมื่อออกจากแอร์พรอ์ตแล้วนี่นา อยู่ๆ เขาจะหายตัวไปไหนกันล่ะ

“เอ่อ...พอดีผมเปลี่ยนรถคันใหม่น่ะครับ”

“เกิดอะไรขึ้น...หรือเปล่า ร็อกโค” ทาติน่าถามออกไป อย่างมีอาการหวาดหวั่นๆ

“ขอโทษครับ ช่วยผมด้วย คุณทาติน่า ได้โปรดไปพบ...คนๆ นั้นด้วยเถอะ” นายบอดี้การ์ดร็อกโคถึงกับเอ่ยขอร้องวิงวอนอย่างสุดหัวใจ

“พบใคร? ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ” ทาติน่าแทบงุนงงไปหมดแล้ว และไม่เข้าใจว่า ทำไมร็อกโคกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่

“ผมไม่อยากให้นายท่านรู้ครับ คุณทาติน่า คือ...เอ่อ...พวกมันจับตัวลูกสาวผมไป” ร็อกโคบอกความจริงอย่างเสียงเบาๆ เขาเกิดความวิตกกังวลมากที่สุดในชีวิต

“อะไรนะ!” ทาติน่าร้องตกใจ และหายใจแทบเกือบไม่ทัน การที่ลูกสาวของนายบอดี้การ์ดคนนี้ถูกจับไปนั้น มันก็ต้องหมายความว่า ท่านดานิลอยู่ในความไม่ปลอดภัยแล้ว และเป็นเรื่องใหญ่ด้วยเช่นกัน

“ดะ...ได้โปรดช่วยผมลูกสาวด้วย” ร็อกโคเอ่ยพูดละลำละลัก เพราะเขาอับจนหนทางแล้วจริงๆ

“โปรด...ยอมปลอมตัวเป็นนายหญิง เพื่อแลกตัวกับลูกสาวของผมด้วยเถอะ คุณทาติน่า” นี่คือการแก้ปัญหาของร็อกโค เพราะเขาไม่ต้องการให้ท่านดานิลรับรู้

“พวกมันต้องการ นายหญิงหรือนี่!” คราวนี้เมดทาติน่า ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม

“ครับ พวกมันหาทางเล่นงานนายท่าน แต่ทว่ากลับไม่มีช่องโหว่ใดๆ ทั้งสิ้น มันจึงหันมาเล่นงานผมแทนครับ” ร็อกโคบอกออกไป ด้วยน้ำเสียงปนความทุกข์แสนสาหัสอย่างยิ่ง

“หมายความว่า นายปล่อยให้ประวัติตัวเองรั่วหรือร็อกโค!” ในที่สุดทาติน่าก็เดาถูกทาง นางรู้อยู่แล้วว่าศัตรูของท่านดานิลมีเยอะมากมายถึงแค่ไหน

“ไม่ครับ ผมรักครอบครัวมาก แต่ทว่าน้องชายของผม มันติดการพนันกับเหล้านัก พอเมา...มันก็เลยมีเรื่องชกต่อยกัน และชอบอ้างว่าผมทำงานให้กับใคร”

“ให้ตายสิ!” ทาติน่าถึงกับพ่นลมหายใจทิ้งอย่างสุดแรง กับความสะเพราของนายบอดี้การ์ดคนนี้

“ผมขอโทษ ผมกลัว...และห่วงลูกสาวตัวน้อยมาก ได้โปรดเถอะครับ คุณยายทาติน่า โปรดช่วยผมได้ไหมครับ”

“ได้ๆ ฉันจะช่วย...” เมื่อได้ยินหญิงวัยชราตอบ และจะช่วยเหลือตน ร็อกโคแทบตาโต แล้วปล่อยน้ำตาไหลพราก จนหมดมาดชายฉกรรจ์ชุดดำ

“ขอบคุณครับ ขอบคุณๆ”

“ว่าแต่ฉันจะรอดกลับอย่างไร ในเมื่อนายได้ลูกสาวคืนแล้ว...” คราวนี้ ร็อกโคถึงกับหน้ามืดอย่างซีดๆ เขาตอบคำถามนี้ไม่ได้ ทาติน่าถึงกับต้องหลับตาพริ้มลง...อย่างทำใจ อย่างยอมรับ และยอมช่วยเหลือร็อกโค เพราะถ้านายหญิงถูกจับตัวไป ท่านดานิลนั้นแหละ อาจจะต้องหัวใจสลายแน่ๆ

“จบงานนี้ นายควรลาออกจากงานซะนะ ร็อกโค” ทาติน่าแนะนำด้วยความหวังดี แม้ร็อกโคจะทำงานกับท่านดานิลมานาน แต่ทว่าหลงปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว งานนี้ท่านดานิลก็ต้องไล่ออกอย่างแน่นอน

“ครับ” ร็อกโคแทบน้ำตาไหล ขับรถจนมือสั่นไปหมด มาดบอดี้การ์ดร่างโตกลายเป็นพ่อหมูขี้แย ด้วยความที่เป็นห่วงลูกสาวตัวเล็กจับหัวใจอย่างยิ่ง



ด้านวอนก้ากำลังหัวเสีย...เพราะติดต่อร็อกโคไม่ได้ เขารู้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ว่าร็อกโคบอดี้การ์ดมือดีคนหนึ่งในทีม กำลังมีปัญหาในเรื่องปล่อยให้ข้อมูลประวัติตัวเองหลุด เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ร็อกโคทำงานกับเขามานาน และแต่งงานไม่นาน นี่เพิ่งจะมีลูกสาวตัวน้อยมาออกเป็นพยานความรัก ร็อกโครักครอบครัวมาก แต่ด้วยงานบอดี้การ์ดที่เสี่ยงถึงอันตรายได้ทุกเมื่อ ประวัติบอดี้การ์ดของท่านดานิลจึงจำเป็นต้องความลับด้วยเช่นกัน

วอนก้า เดาว่าร็อกโคจะต้องหาแพะสักคน เพื่อไปช่วยคนสำคัญในครอบครัว ให้หลุดออกจากจากวงศัตรูของท่านดานิล เพราะนายหญิงอันนานั้น เข้าถึงยากนัก เนื่องจากเธอแทบอยู่ติดกับท่านดานิลตลอดเวลา วอนก้ารู้สึกสงสารคุณยายทาติน่าที่สุด ต้องกลายเป็นเหยื่อสังเวย ให้พวกหมาลอบกัด

“(วอนก้า ทาติน่าไปไหน ทำไมถึงมาช้ากว่าพวกฉัน)” ท่านดานิลโทรเข้ามือถือของวอนก้า เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์วาดิตินเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่เห็นเมดวัยชราออกมาต้อนรับ และแล้วความซวยก็ตกมาถึงวอนก้าที่สีหน้าเริ่มเจื่อนๆ เมื่อรับสายของเจ้านาย

“เอ่อ...เจ้านายครับ...ผมหลงทางกับคุณยายทาติน่าครับ” ได้ยินน้ำเสียงบอกอ่อยๆ ของบอดี้การ์ดมือยอดเยี่ยม ทำให้ดานิลเกิดสายตากระตุก ก่อนจะเจอแรงมโนภาพบางอย่าง กระแทกปะทะใส่ม่านดวงตา ซึ่งเป็นร่างของหญิงวัยชราอันคุ้นเคย กำลังนอนจมอยู่ในกองเลือดแดงฉาน

“(พวกมันเป็นใคร ทาติน่าอยู่ที่ไหน!)” ได้ยินประโยคนี้ของเจ้านายถามกลับมา วอนก้าถึงกับสะดุ้งโหยง ความเคลื่อนไหวของท่านดานิลมักแม่นยำอย่างนี้เสมอๆ

“ผมกำลังสืบอยู่ครับ เป็นเพราะนายร็อกโค มันทำประวัติตัวเองหลุด” วอนก้า บอกสาเหตุที่อยู่ๆ ทาติน่าก็ถูกจับตัวไป

“(ตามร็อกโคกลับมาให้ได้ ฉันจะจัดการมันเอง)”

“ครับ” วอนก้าวางสายโทรศัพท์อย่างสันหลังเย็นยะเยือก เมื่อท่านดานิลลงมือเอง แน่นอนว่ามักจะมีความโหดร้าย มากกว่าที่เขาจัดการเองโดยหลายเท่านัก



ดานิลถึงกับนั่งกุมขมับอยู่ในคฤหาสน์วาดิติน เขาเพิ่งรู้ตัวว่า ปล่อยให้ทาติน่าตกอยู่ในความอันตรายอย่างยิ่ง พวกนั้นกำลังเล่นงานเขาอย่างรุนแรงและชัดเจนที่สุด และแท้จริงแล้ว พวกมันอาจจะต้องการเพียงแค่อันนา แต่เข้าถึงตัวยาก เพราะเขาอยู่กับเธอไม่ห่างไปไหน ดานิลแทบคาดคิดไม่ถึงอีก คือ พวกมันหันมาเล่นงานบอดี้การ์ดของเขา ถือว่าพวกมันจนมุมอย่างหมดหนทางแล้วจริงๆ จึงต้องใช้วิธีนี้

“เจ้าต้องปลอดภัยนะ ทาติน่า ข้าขอสัญญา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าตายโดยเด็ดขาด” ดานิลเอ่ยพึมพำเป็นสัญญา เพราะเป็นห่วงเมดวัยชราอย่างจริงใจ หลังจากที่ดานิลเอ่ยคำสัญญา จู่ๆ ก็แสงประหลาดๆ เหมือนรูปวงแหวนลอยอยู่ในม่านอากาศ มันกำลังพยายามแหวกแยกออกให้เป็นรอยขีดเส้นแสงน้อยๆ เพื่อเฝ้ารอเวลา...รอเวลาการเปลี่ยนผันของไอคลื่นพลังรอบใหม่ ที่จะมาเยือนเร็วๆ นี้

เวลาล่วงเลยผ่านไปอีกสองชั่วโมง ท่ามกลางหิมะราตรีอันมืดสลัวๆ เสียงเครื่องยนต์รถแล่นดังกระหึ่ม ไม่สนถนนหนทางว่ามันจะมีก้อนหิมะโรยปกคลุมเต็มไปหมด นายร็อกโคพยายามขับรถหนีอย่างสุดชีวิต เมื่อได้ตัวลูกสาววัยน้อย กลับมาอยู่กับตนเองแล้วเรียบร้อย และตอนนี้เขายังถูกตามล่าจากวอนก้า บอดี้การ์ดมือชั้นยอดของท่านดานิล ซึ่งเป็นอดีตนายทหารที่เก่งกาจมาก และเป็นคนที่ร็อกโค หวาดกลัวอีกคนหนึ่ง ยามเมื่อวอนก้า มีความเดือดดาลโทสะ ก็น่ากลัวพอๆ กับท่านดานิลเช่นกัน

“ฮือๆ” เสียงลูกสาวของร็อกโคพึมพำร้องไห้อย่างตื่นๆ เมื่อเห็นคุณพ่อขับรถเร็วจี๋ปานสายฟ้า ร็อกโคพยายามปลอบขวัญลูกสาวตัวน้อยวัยเกือบจะสี่ขวบ ซึ่งอีกแค่ไม่กี่ไมค์ เขาก็จะพ้นขอบเขตดวงตาของวอนก้าแล้วล่ะ

เปรี้ยง! กรี๊ดดด ทว่าแผนของร็อกโคอาจจะช้าเกินไป สำหรับมนุษย์ผู้ดั่งเสมือนยมทูต ร่างหนาใหญ่ราวกับหมาป่า ณ ยามราตรี ลอยมาหยุดแรงรถของเขา ด้วยการทิ้งร่างเหยียบเกาะกระโปร่งหน้ารถ ทำให้รถของร็อกโคหักเลี้ยวหนีอย่างตาลปัตร และเพียบแค่สูดลมหายใจเข้าปอดรอบหนึ่ง ตามด้วยเสียงกระจกแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ ร็อกโคคว้าลูกสาวตัวน้อยมาไว้ในอ้อมกอดสุดใจขาดสิ้น และเตรียมรับโทษทัณฑ์จาก...ท่านดานิลผู้ชายที่มีอิทธิพลน่าเกรงขามมากที่สุดในประเทศ

ด้านของวอนก้าที่ขับรถแวนมาดักรอ เมื่อทราบตำแหน่งการหนีของร็อกโคชัดเจนแล้ว...ถึงกับขนลุกซู่ กับการมาเยือนของเจ้านายหนุ่มที่เนื้อหนังและเรือนร่าง ไม่มีความแก่ชราให้เห็น พร้อมแผ่ซ่านรังสี...แห่งความลับของตระกูลวาดิติน อเล็กซานดรูว์ ที่ผู้คนทั่วโลก อยากครอบครองมันนัก

“ข้าเกียจที่สุด คือ คนทรยศ!” เสียงทุ้มคำรามกึกก้องดังไปทั่วพื้นถนนหิมะยามมืดมิด ร่างของร็อกโคหนาวสั่นยะเยือกจนซีดเผือก ไร้เลือดมาหล่อเลี้ยงร่างกาย และกอดบุตรสาวตัวน้อยอย่างความห่วงใยที่ขาดสิ้นชีวา

ดวงตาสีแดงฉานของดานิล จ้องมองความหวาดกลัวของมนุษย์ด้วยความเอือมระอา ก่อนจะจัดการทุกอย่างให้มันจบลงอย่างเรียบร้อยภายในไม่กี่นาที



เสียงลมหายใจของทาติน่าระรวยรินอ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อสลับเป็นตัวประกัน ร็อกโคได้ลูกสาวตัวน้อยหลับคืนสู่อ้อมอก หลังจากนั้นร็อกโคก็หนีอย่างเดียว ปล่อยให้ทาติน่าเผชิญหน้ากับศัตรูตัวร้ายกาจของท่านดานิล เพียงแค่เห็นร่างท้วมของพวกหมาลอบกัด ทาติน่าก็ตาตื่นโต

“บัดซบ! ไอ้เวร นั้นมันหลอกลวง!” ชายร่างท้วมร้องสบถลั่น เมื่อร่างของเมดวัยชราประจำตระกูลวาดิติน อเล็กซานดรูว์

“ท่านมาร์ติน?” ทาติน่าขานชื่ออย่างเสียงหลง นางไม่คิดว่ามาร์ติน สเปโร่จะลงมือกับแผนการชุ่ยๆ แบบนี้

“เก็บซะ...นางไม่มีประโยชน์” มาร์ตินเอ่ยสั่งลูกน้องชายฉกรรจ์หลายคน ที่ยืนล้อมรอบตัวเมดวัยชรา...อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ หวังอยากจับตัวผู้หญิงเอเชียที่ท่านดานิลรุมหลง มาเป็นเครื่องมือต่อรองอำนาจ ทว่ามันผิดพลาดไปหมด เมื่อไอ้บอดี้การ์ดอ่อนไหวตัวหนึ่งของดานิล ดันใช้แผนซ้อน แผนตบตา

“อะไรทำให้ท่านต้องทำเรื่องชั่วๆ แบบนี้” เมดวัยชราร้องถาม เมื่อมาร์ตินเดินหันหลังหนี เพราะภารกิจล้มเหลว

“ยายแก่น่าโง่!...ใครกันแน่ที่ชั่วช้า เลวทราม!”

ปัง! ปัง! ปัง! มาร์ตินเดือดดาลด้วยโทสะครอบงำ เขาคว้าไปหยิบปืนกระบอกสั้นกับลูกน้องคนข้างๆ และสาดกระสุนในร่างหญิงชรา เป็นการแก้แค้นที่ดานิล ทำลายตระกูลของเขาอย่างย่อยยับ ร่างหญิงชราทรุดล้มไปกองกับพื้นกลางสุสานร้างแห่งหนึ่ง นางยอมตาย เพื่อให้คนที่นางรักทั้งชีวิตมีความสุขตลอดไป ลาก่อน...ท่านดานิล...ชายผู้เป็นที่รักยิ่งชีวิตของนาง...



“คุณยาย!” อันนาสะดุ้งตื่นกลางดึก น้ำตาไหลพรากกับความฝันร้าย เมื่อเห็นร่างของยายทาติน่าจมในกองเลือดอันน่าสะพรึงกลัว อันนาตัวสั่นและสะเทือนใจสุดๆ มือของเธอคว้าเจ้าแมวเรเวนมากอดปลอบขวัญตนเอง ตอนนี้เธออยู่ในคฤหาสน์เพียงลำพัง เธอไม่รู้หรอกว่าดานิลและบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดหายไปไหน แต่ทว่าวันนี้แปลกอย่างมาก เพราะคุณยายทาติน่าก็หายไปด้วย

“เรเวน...ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย...ฉันควรจะหนีออกจากที่นี่ดีไหม” อันนาถามแมวลายเสือ ที่มันเอ่ยร้องเหมี้ยวๆ เหมือนไม่เห็นด้วย...เธอสะอื้นไห้เบาๆ ก่อนจะเอามือปาดน้ำตาบนใบหน้า และก้าวออกจากเตียงนอนอันกว้างใหญ่ของดานิล...มีเพียงเจ้าแมวเรเวน เดินคลอเคียแข้งขาของเธอด้วย

“ฉันไม่หนีหรอกน่า...” อันนาก้มตัวลงมาลูกหัวเจ้าแมวลายเสือ ที่ดูจะขัดขวางการเดินระเหยเล่นๆ ไปมาของเธอ เธอยอมรับว่าใจกระตุกแปลกๆ กับฝันร้ายเมื่อครู่ ทว่าคฤหาสน์อันกว้างใหญ่นี้ เมื่ออยู่อย่างโดดเดี่ยว มันยิ่งทำให้เธอเหงาและเศร้าได้เช่นกัน

“คุณยายจ๋า กลับมาหาอัน...เร็วๆ นะ” อันนาเดินมาหยุดที่บานหน้าต่างหนึ่ง และพึมพำคิดถึงคุณยายทาติน่า เพราะภาพในฝันร้าย ก่อนจะทอดมองท้องฟ้ายามราตรีที่มีสีราวกับเลือด...



ดานิลมาถึงที่หมายปลายทางในสุสานร้างอันห่างไกลจากตัวเมืองใหญ่ มันสถานที่ที่พากันเชื่อว่าความลับของตระกูลวาดิติน อเล็กซานดรูว์ ซ่อนอยู่ที่นี่ แน่นอนว่ามันเป็นความจริง แต่ทว่ามันก็แค่เรื่องเล่าขานอันล่ำลือเท่านั้น

“ทาติน่า...” ดานิลถึงกับเข่าทรุด เขารีบถลาเข้ามากอดหญิงวัยชราที่นอนจมในกองเลือด นางสิ้นใจแล้ว ดวงตาแกร่งร้อนผะผ่าวอย่างขวัญเสีย ทาติน่าอยู่กับเขาตั้งแต่นางอายุเพียงสิบขวบ และเขายังสร้างความทรงจำใหม่ให้ทาติน่ารับรู้ว่า เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับนาง ทั้งๆ ที่ดานิลอยู่ในร่างกายอมตะที่ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ มีแต่นางที่นับวันได้แก่ชราลงเรื่อยๆ

“ข้าสัญญา ข้าจะตามฆ่าคนที่ฆ่าเจ้า...ทาติน่า...” ดานิลให้สัญญา เขากำลังสูญเสียคนที่ไว้ใจและศรัทธาในตัวเขาไปอีกแล้ว ตลอดเวลาสองร้อยหกสิบปี เขาเห็นความตายของผู้คน และผู้คนที่คอยรับใช้เขา...

‘ทาติน่า...จะรับใช้ท่านดานิลไปจนวันตาย...’ นั้น คือ เสียงเด็กสาววัยสิบขวบ เอ่ยคำหมั้นสัญญา เพื่อต้องการตัวเองหลุดพ้นออกจากการทรมานของบิดาและมารดาของตน เด็กสาวถูกจับขังไว้ในคุกใต้ดิน เมื่อถูกคนในหมู่บ้านตราหน้าว่า เป็นปีศาจร้าย...ท่าติน่าถูกเฆี่ยนตีทั้งห้าขวบ...เพียงปล่อยให้เด็กชายคนหนึ่งนอนจมในกองเลือดที่ถูกหัวใจได้ถูกควักหายไป...ท่าติน่านอนในความมืดอันเหม็นชื้นๆ ตลอดจนสิบขวบ และแสงสว่างอันน้อยนิดก็เอื้อมมือมารับนางให้หลุดออกนรกนี้

“และข้าสัญญา เจ้าจะไม่มีวันตาย...” ดานิลเอ่ยขานตอบกลับ เมื่อหวนนึกถึงการได้พบกับนางเป็นครั้งแรก...นางถูกกล่าวหาว่า...เป็นปีศาจ...ชีวิตนางมีความคล้ายคลึงเหมือนเขานัก ดานิลจึงรับเลี้ยงเด็กสาวปีศาจคนนี้...

แสงสว่างสาดจ้าเข้าม่านดวงตาของดานิล...ก่อนที่ร่างของเข้าจะสั่นเทิ้มด้วยความทรมาน...รอยตราอัคคีสีแดงเลือด...กำลังผุดขึ้นบนร่างกายของเขา....

“อ๊ากกก...” ดานิลกรีดร้องด้วยความทรมาน...ร่างกายของเป็นอะไรไม่รู้ จู่ๆ มันก็เจ็บปวดรวดร้าวเยี่ยงนี้ เสียงดานิลคำรามอย่างแสนสาหัส และม่านดวงตาของเขาขาวโพลง...และได้ยินเสียงกรีดร้องของอันนาดังกึงก้องอยู่โสตประสาท มโนภาพที่สุดท้าย ที่เห็นคือ...แมวเรเวน มีเลือดแดงฉาน มันชักกระตุก...ร่างกายของดานิลก็สะดุ้งเฮือก...และร่างบางก็ถูกมือมืดกลุ่มหนึ่งลากออกไป...ลากออกไป...

“อะ...อันนา...” ดานิลคำรามเรียกอันนาสุดเสียงในคำคอ...ก่อนจะวูบดับลงสู่นิทรา เป็นการหลับด้วยความทรมาน...และเจ็บปวดบริเวณหน้าอกแกร่ง...เหมือนจะถูกฉีกออกจากกัน...แสงสีดำม่วงหนึ่งลอยเข้ามาใกล้ๆ ดานิล ยิ่งใกล้ร่างกายของดานิลก็ยิ่งอยากจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ดานิลได้ยินเสียงบทสวดพึมพำเป็นภาษาที่เขาไม่ได้ยินมานานเหลือเกิน...สายเลือดแห่งภูตปีศาจ กำลังสร้างพิธีกรรมบางอย่าง...ดานิลรับรู้และสัมผัสมันได้...ในที่สุดเขาก็ได้พบ...ได้พบดวงใจที่หายไป...




โปรดติดตามตอนต่อไป

บทที่ 13 วันที่ต้องสูญเสีย

ต้อง ขอ อภัย อย่างแรงเด้อ
ไรเตอร์หายตัวไปนานอีกแล้ว เช่นเคยยยย ฮ่าๆ
และ ขอโปรโมทนิดๆ นะ ^^ v อิอิ
ไรเตอร์ทำอีบุ๊คขายค่ะ
ฝากโหลดด้วยนะคะ
ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ ^^v

http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=21339







Aricha
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.พ. 2558, 14:57:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.พ. 2558, 14:57:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1421





<< บทที่ 11 ความรักที่บังตา...   บทที่ 13 วันที่ต้องสูญเสีย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account