ห่างไกลเหลือเกิน
ภาคภูมิและจริงใจ สองเพื่อนรักที่กลายมาเป็นคนรักกันในที่สุด
จะเป็นอย่างไร เมื่อจริงใจอยากได้เพื่อนรักของเธอกลับคืน
พบกับความรักของคนสองคนที่แม้จะอยู่ใกล้กัน แต่ก็เหมือนไกลออกไปทุกที

ห่างไกลเหลือเกิน

Tags: เพื่อนสนิท เพื่อนรัก รัก

ตอน: ตอนที่ 7

ร้านอาหารแถวฝั่งธนในเวลานี้เงียบผิดปกติ เพราะนอกจากโต๊ะของจริงใจและยิ้มแล้ว ก็มีคนเพียงอีกแค่สองโต๊ะเท่านั้นที่มากินข้าวกันในช่วงสายๆ บรรยากาศในร้านเงียบสงบดูร่มเย็นดี ต่างจากบรรยากาศแถวโต๊ะของจริงใจที่ไม่ได้สงบอย่างเช่นโต๊ะอื่นๆเลย

"จะสิบเอ็ดโมงครึ่งอยู่แล้ว ทำไมแขกแกยังไม่มา!!" จริงใจเหวี่ยงใส่ยิ้มอย่างหงุดหงิด เมื่อเลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงครึ่ง บรรยากาศดูมาคุ ร้อนรนกว่าโต๊ะอื่นๆเป็นเท่าตัว

"ใจเย็นๆ แก ... พี่เขารถเสียอยู่ที่ทางด่วน กำลังมา" ยิ้มตอบแหยๆ เพราะรู้ทัน ว่าเพื่อนอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ จริงใจกอดอกแล้วเตะใต้โต๊ะแรงๆ แรงจนทำให้จานสั่น ยิ้มถอนหายใจสะดุด เมื่อเห็นว่าจริงใจใกล้จะถึงจุดขีดสุด

"แล้วทำไมไม่นัดที่บริษัท? มานัดที่ร้านอาหารอย่างนี้ งานก็ไม่ได้ทำ ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน"จริงใจหันมาถามเสียงดังอย่างใส่อารมณ์

"โอ๊ยยยย อย่าพึ่งโมโหหิว พี่เขาไลน์มาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว"

"นี่แกนัดใครมาให้ฉันกันแน่? บอกก็บอกไม่ได้ แถมยังมาสายขนาดนี้ อย่างนี้ไม่ไหวตั้งแต่แรกเลยนะเว้ย"

"เฮ้ย! ไม่ใช่! ไม่ใช่เรื่องนั้นนะ จับคงจับคู่ไม่จับแล้ว นี่เรื่องงานล้วนๆ"

"เรื่องงานอะไรของแก?"

"อ๊ะ นั่นมาแล้ว... พี่กิตคะ ยัยกิ่ง ทางนี้ๆ" ยิ้มกวักมือเรียกชายหญิงสองคนที่เข้ามาเร็วๆดูลนลนเป็นสัญญาน เมื่อทั้งสองเห็น ก็พุ่งตรงมาที่โต๊ะทันที

"ขอโทษยิ้ม พี่ขอโทษ รถเสียกลางทางด่วน...นานเลย" ชายที่ยิ้มเรียกว่าพี่กิต กล่าวขอโทษขอโพยทันทีที่มาถึง ยิ้มส่ายหน้าแหยๆ แล้วชี้มาที่จริงใจอย่างกล้าๆกลัวๆ

"เอ่อ ยิ้มว่า... พี่กิตขอโทษอีกคนดีกว่าค่ะ" ยิ้มบอกเบาๆ พร้อมร้องโอดโอยเมื่อเพื่อนสาวหยิกที่ใต้เก้าอี้แรงๆ จริงใจยิ้มให้กิตและกิ่งอย่างมีมารยาท พร้อมทั้งสำรวจทั้งสองอย่างรวดเร็ว คนผู้ชาย น่าจะผ่านมรสุมห้องเครื่องมา เพราะเสื้อและหน้ามีรอยเปื้อนเหงื่อ และคราบดำเล็กๆน้อยๆ ไม่ได้ดูน่าเกลียดมาก หน้าตาบ่งบอกว่ารู้สึกผิดชัดเจน ถ้าไม่ได้ดูว่าชุดเปื้อน การแต่งตัวก็ดีมากทีเดียว จัดว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีหนึ่งคน ส่วนคนผู้หญิงนี่ ยังดูเนี๊ยบอยู่ ดูเหมือนนั่งในรถสวยๆมา ไม่ได้ผ่านการซ่อมแซมอะไรมาแต่อย่างใด เป็นสาวสมัยใหม่ที่หน้าเหวี่ยงหน้าจิกตลอดเวลา

"ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ หม้อน้ำรถมันรั่ว บนทางด่วนรถก็ติดมาก กว่าคนจะมาช่วยได้เนี่ย นานเลยทีนี้" เขาหันมาบอกเธออย่างสุภาพ จริงใจเมื่อเห็นสภาพเขาก็อ่อนลง

"ไม่เป็นไรค่ะ" เธอตอบ พร้อมยื่นเมนูให้เขา เขารับมา พร้อมส่งต่อให้หญิงสาวข้างๆ

"โอเค มากันครบแล้ว จะได้แนะนำให้รู้จักสักที นี่! พี่กิต!! พี่ข้างบ้านที่สนิทสุดๆของฉัน เราโต เราเล่นมาด้วยกันตั้งแต่ตัวน้อยๆ" ยิ้มผายมือไปทางพี่กิตให้เธอเห็นได้เด่นชัดขึ้น เขาพยักหน้าให้เธอเล็กๆ จังหวะเดียวกับที่เธอยิ้มรับ เสียงยิ้มยังคงเจื้อยแจ้วต่อไป

"พี่กิตจะมาจ้างพวกเราให้ทำงาน event และ presentation งานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ให้เขานะ" ยิ้มอธิบาย เมื่อพูดจบ เธอก็ผายมือไปที่หญิงสาวคนข้างๆทันที

"คนต่อไป...กิ่ง น้องสาวพี่กิต เรียนจบมานานแล้ว แต่พึ่งจะอยากทำงาน เลยจะมาขอทำงานกับพวกเราเดือนหน้า อายุเท่าพวกเราเนี่ยแหละ น่าจะเป็นเพื่อนกันได้" ยิ้มแนะนำต่อไปอย่างเป็นกันเอง แต่ไม่รู้จริงใจคิดไปเองรึเปล่า เธอสัมผัสได้ว่ายิ้มมีอาการจิกกัดน้องสาวพี่กิตคนนี้อยู่มาก และดูเหมือนกิ่งจะรู้...ว่าโดนหลอกด่า เธอชักสีหน้าออกมาชัดเจน แต่ยิ้มก็ไม่สน เธอผายมือมาทางจริงใจเป็นคนต่อไป

"ส่วนนี่!!! เพื่อนของยิ้มเองค่ะ ชื่อจริงใจ เป็นทั้งหุ้นส่วน และผู้ช่วย บางครั้งก็เป็นเจ้านาย"

"ไม่ใช่หุ้นส่วน ไม่ใช่เจ้านาย แต่เป็นลูกจ้างค่ะ" จริงใจรีบแก้บท พร้อมหันไปค้อนยิ้มทันที พี่กิตเห็นอย่างนั้นก็เบาใจ สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ตอนแรกเขานึกว่าเพื่อนยิ้มคนนี้จะโกรธง่าย หายยากเสียแล้ว

"งั้นก็คงเป็นลูกจ้างชั้นเยี่ยมเลยนะครับ ยิ้มชอบมาเล่าถึงจริงใจให้ฟังบ่อยๆ ว่าบางครั้งก็ทำงานหนักกว่าเจ้าของบริษัทอีก" เขาตอบอย่างเป็นกันเอง จริงใจยิ้มน้อยๆ หันไปมองเพื่อนตัวดี

"พี่อย่าพูด... อย่าพูดอะไรเลยนะ ยิ้มขอ.. เปลี่ยนเรื่องไปเลย เดี๋ยวจริงมันรู้ว่ายิ้มเอามันไปนินทา" ยิ้มรีบทำท่าจุ๊ปาก กวนประสาทจริงใจไปเรื่อย เห็นอย่างนี้ทุกคนก็ขำ เว้นก็แต่ น้องสาวพี่กิตคนเดียวที่ยังหน้ามุ่ยอยู่

"สั่งอาหารกันเถอะครับ ทุกคนคงหิวกันแล้ว... ดูยัยกิ่งสิหน้างอเลย เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง" เขาบอก พร้อมเชื้อเชิญให้ทุกคนสั่งอาหาร กิ่งที่เงียบมานาน ค้อนขวับเข้าหาพี่ชาย แล้วกระแทกเปิดเมนูดังๆ จริงใจหันมามองยิ้มอย่างอึดอัด ยิ้มที่รู้ตัวก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะไม่อยากให้จริงใจใส่ใจอะไร เธอรู้ว่ากิ่งเป็นยังไงมาตั้งแต่เล็กๆแล้ว

"สินค้าของพี่กิต คืออะไรเหรอคะ?..." เพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไป จริงใจถามขึ้นเมื่อเห็นอาหารเริ่มทยอยมา

"สินค้าตัวใหม่ของพี่เป็นผลิตภัณฑ์ข้าวออแกนิกที่ใช้วิธีปลูกแบบอินทรีย์ร้อยเปอร์เซนต์ มีสองแบบ คือ ข้าวหอมมะลิ กับข้าวกล้องครับ สิ่งที่อยากให้จริงใจกับยิ้มช่วยกันทำ ก็คืองานเปิดตัวสินค้าที่จะมีอีกในสามเดือนข้างหน้า กับ presentation ที่จะใช้เปิดในงาน" จริงใจฟังและพยักหน้าช้าอย่างเข้าใจ เสียงยิ้มดังมาข้างๆประกอบกัน

"แต่ทีนี้มันจะมีงานประจำปีที่ชื่อว่า Thai Food เดือนหน้าแล้ว พี่เขาอยากได้ ตัว presentation ไปเปิดในงานก่อนด้วย รวมไปถึง โครงสร้างบูธ ฉาก แล้วก็พวกแบคดรอปด้วยนะ" ยิ้มอธิบายเพิ่มเติม จริงใจที่ได้ฟังก็เริ่มสงสัย

"ระยะเวลาห่างกันพอสมควรนะ presentation จะเป็นตัวเดียวกันมั้ยคะ?" เธอหันมาถามคุณลูกค้า

"แล้วแต่ทีมครีเอทีฟจะคิดมาเลยครับ ขอให้ลองเอาไอเดียมาขายดู จะใช้ตัวเดียวกับงานเปิดหรือไม่ใช่ก็ได้ แต่ที่งาน Thai Food จะต้องมีตัวนึงไปเปิดแน่นอน พี่อยากให้น้องๆช่วยคิดและวางแผน ว่ามันควรออกมาจะเป็นยังไง รูปแบบไหน เรื่องราคาพี่บอกเพดานของพี่ให้ยิ้มแล้วครับ"

"ได้ค่ะ" เธอตอบ เมื่อได้ฟังขอบเขตงานคร่าวๆ ก็รีบคิดคำนวนในหัวอย่างรวดเร็ว งานนี้ถ้าทำได้ทั้งหมด ก็คงจะใหญ่พอดู ใหญ่พอสำหรับบริษัทเล็กๆเช่นนี้

"นี่แหละ ฉันจะให้แกกับกิ่ง คุมงานนี้เลย แกเลือกแล้วจัดสรรวางแผนมาเลยว่าแกอยากทำตัวไหน อีกตัวจะได้ให้กิ่งทำ" ยิ้มเสนอ เพราะอยากให้จริงใจได้เลือก จะได้จัดการวางแผนได้เหมือนทุกๆครั้ง แต่ยังไม่ได้ทันที่จริงใจจะได้อ้าปาก หญิงสาวที่นั่งเงียบมานานก็พูดขึ้น

"กิ่งขอเลือกได้มั้ยยิ้ม? กิ่งขอทำส่วนของงานเปิดตัว กิ่งถนัดมากกว่า" กิ่งพูดแทรกขึ้นมา ทั้งยิ้มทั้งจริงใจ ต่างก็งงที่โดนปาดแบบรุนแรงแซงทุกโค้ง แต่ยิ้มก็พยายามตั้งรับไว้ เพราะกลัวกิ่งจะแหกโค้งตกหน้าผาตายไปเสียก่อน

"เรากะว่าจะให้จริงเลือกอะ เพราะยังไง งานนี้จริงก็เคยทำมาก่อน น่าจะแจกจ่าย แล้วก็วางแผนงานด้า...."

"ขอโทษนะคะ คุณจริงใจ กิ่งขอทำงานเปิดตัวได้มั้ยคะ กิ่งไม่ถนัดงานยิบย่อย ข้อมูล รายละเอียดอย่าง งานวัน Thai Food นะค่ะ กิ่งถนัดงานที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยมากกว่า" กิ่งไม่ยอมฟังยิ้มให้จบ หันมาขอจริงใจเสียดื้อๆ จริงใจที่รู้ดี ว่ากำลังโดนวางอำนาจข่มใส่ ถือว่าเป็นเด็กเส้นเด็กฝาก จะมาปาดผลงานชิ้นใหญ่อย่างนี้ ย่อมได้ เธอจัดให้

"อ่อ ได้ค่ะ ถ้าคุณกิ่ง คิด ว่า มี ความ สามารถ พอ ก็ได้ เดี๋ยวเราทำส่วนของงาน ThaiFood กับ presentation เอง" จริงใจกล่าวอย่างนิ่งสงบ แต่ขีดเส้นใต้เน้นย้ำตรงคำว่า ถ้าคุณกิ่งมีความสามารถพอ เผื่อคนฟังจะได้เจ็บ ได้คันอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ กิ่งยิ้มเหมือนดีใจที่ได้รับชัยชนะ ยิ่งทำให้อารมณ์ของจิงใจเดือดปุดปุด เอาจริงๆ เธอวางแผนจะทำงาน ThaiFood ก่อนอยู่แล้ว เพราะเห็นว่า คงวานแผนคุมงานอะไรไว้ก่อนได้มากกว่า เวลายัยกิ่งเน่านั่นจะได้เอาไปทำต่อได้ง่ายๆ แต่แม่เล่นวางอำนาจกันตั้งแต่วันนี้ เห็นทีการทำงานอะไรๆมันก็คงไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดไว้เสียแล้ว

บรรยากาศเริ่มมาคุ ยิ้มมองจริงใจอย่างเกร็งๆ หนึ่งก็เซ็งที่จริงใจยอม สองก็กลัวเพราะเธอรู้ดี จริงใจเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด แต่ดูเหมือนหญิงสาวเจ้าปัญหาจะไม่ได้สนใจอะไรนักเลย พอได้คำตอบที่อยากได้ ก็รีบเก็บของ ไม่แม้แต่จะมองอาหารที่พึ่งเสิร์ฟเสร็จจนครบถ้วน ในขณะที่พี่กิตก็ดูออก ว่าน้องสาว ทำบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเจื่อนไปมากแค่ไหน เขาหันไปมองน้องสาวของตัวเองที่เก็บของเร็ว เตรียมลุกออกจากโต๊ะอย่างประหม่า

"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กิ่งขอไปก่อน ประชุมดราฟแรกเมื่อไหร่ ก็บอกนะ วันนี้กิ่งติดธุระ บายยิ้ม บายพี่กิต บายนะคะ คุณจริงใจ" เธอตอบเชิดเชิด ตามสไตล์ผู้หญิงที่ไม่แคร์ใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง แล้วเดินนวยนาดออกไป ยิ้มตะโกนเบาๆตามไปเพราะกลัวสาวเจ้าจะลืม

"เริ่มงานเดือนหน้า เข้างาน 9 โมงทุกวัน ห้ามสายนะยะ" ยิ้มตะโกนบอก กิ่งยกมือขึ้นชูเอาเป็นว่ารับรู้ แล้วเปิดประตูออกนอกร้านไป

บรรยากาศบนโต๊ะเงียบกริบ ถ้าจะให้มีอะไรต้องประมวลผลในอาหารมื้อนี้ ก็ขอบอกว่ามากอยู่ ที่น่าหนักใจที่สุดสำหรับจริงใจ ก็เห็นจะเป็นเพื่อนร่วมงานคนใหม่ ที่แค่เริ่มไม่ทันไรก็ชักจะไม่สวยซะแล้ว

"ต้องขอโทษแทนกิ่งด้วยนะครับ เด็กคนนี้ชอบทำจังหวะเสียอยู่เรื่อยเลย" พี่กิตเอ่ยทันทีเมื่อหญิงสาวเจ้าของหัวข้อสนทนาเดินลับออกไป

'จังหวะนรกเลยละ' จริงใจคิด แต่ไม่ได้พูด

"อย่าใส่ใจเลยนะจริง กิ่งมันก็เป็นอย่างนี้แหละ เอาใจยากนิดหน่อย" ยิ้มกล่าวสมทบ เธอรู้จักเพื่อนเธอคนนี้ดี คนนิสัยอย่างกิ่งเนี่ยแหละ คือคนที่จริงใจจะพยายามหลีกเลี่ยงไปให้ไกลที่สุด

"ใช่ครับ อย่าใส่ใจเลย ลูกคนเล็กก็อย่างนี้" พี่กิตอธิบายต่อ จริงใจได้แต่พยักหน้าตอบรับ

"ค่ะ" แม้จะกล้ำกลืนฝืนทน แต่ก็ต้องตอบ พี่กิต คือลูกค้า และยัยกิ่งเน่านั่นก็เป็นน้องสาวของลูกค้า ต้องอดทนไว้ อดทนเอาไว้ จริงใจย้ำกับตัวเองอย่างนั้น พี่กิตชวนให้ทุกคนทานอาหารกันต่อไป โดยไม่ลืมที่จะถามไถ่การทำงานของทั้งสองคน ว่ามีแผนและโครงการวางไว้คร่าวๆไว้อย่างไรบ้าง เพราะถึงบริษัทของยิ้มจะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ก็งานแน่นพอสมควร การรับงานของกิตที่เป็นขนาดกลางเข้าไป อาจจะมีผลกระทบต่อแผนงานเดิม

"ไม่มีปัญหาเลยค่ะ พี่กิตเงินถึงอยู่แล้ว ลูกค้าชั้นเยี่ยมอย่างนี้ ยิ้มโอเค" ยิ้มแทรกทันที เมื่อเห็นพี่ชายเป็นห่วง พี่กิตหัวเราะ จริงใจพยักหน้าเห็นด้วย

"ใช่ค่ะ ปกติเราก็วางแผนกันก่อนเป็นเดือนๆอยู่แล้ว ถ้างานพี่กิตไม่ได้เร่งอะไรมาก ก็ไม่น่าจะมีปัญหา"

"งานเปิดตัวนะไม่เร่ง แต่ที่งาน Thai Food ก็อาจจะต้องเร่งนิดนึง ยังไงพี่รบกวนจริงใจช่วยดูให้พี่อีกแรงนะครับ" พี่กิตทิ้งท้ายไว้ หญิงสาวพยักหน้าตอบรับ

แม้บรรยากาศจะเสียไปบ้างในตอนแรกๆ แต่นั่นคงไม่มีผลต่อรสชาติอาหาร พิสูจน์ได้จากอาหารที่เกลี้ยงเกลาสะอาดทุกจาน ก็บ่งบอกได้ดีว่าอาหารมื้อนี้อร่อยดี ไม่ขาดตกบกพร่อง จริงใจ ยิ้ม และพี่กิตต่างก็รวบช้อน พูดคุยกันต่อไปสักพักอย่างสนุกสนาน ไม่นานนัก... พี่กิตก็สั่งเชคบิลพร้อมยื่นบัตรเครดิตแพลทินั่มสุดหรูให้กับบริกร หญิงสาวทั้งสองคนกล่าวขอบคุณคุณลูกค้าที่เอื้อเฟื้อ

"ตามปกติ ยิ้มต้องเลี้ยงคุณลูกค้านะ วันนี้ให้คุณลูกค้าเลี้ยงนี่ ดีจริงๆเลย" ยิ้มกล่าวกับเจ้ามือ

"น้อยๆหน่อย พี่เลี้ยงน้อง ไม่ได้เลี้ยงให้บริษัท"

"งั้นก็ขอบพระคุณค่า คุณพี่ชาย" ยิ้มยอกย้อนเมื่อเห็นพี่ชายข้างบ้านใจดีเช่นทุกครั้ง เขาไม่ตอบอะไร นอกจากหยิบการ์ดคืนมา แล้วเซ็นลายเซ็นลงไปเร็วๆ

"ขอบคุณนะคะพี่กิต" จริงใจกล่าวสมทบอีกครั้ง เขายิ้มรับพยักหน้า

"ไม่เป็นไรครับ ถือว่าเลี้ยงเพื่อนใหม่ด้วย ของานสวยๆเป็นของตอบแทนก็พอครับ" พี่กิตส่งยิ้มมาให้หญิงสาวทั้งสอง

"ค่าาา" สองสาวตอบรับทันที

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ทั้งสามใช้เวลาบอกลากันไม่นาน ต่างคนต่างก็เดินออกจากร้านไป ยิ้มและจริงใจมุ่งหน้ากลับบริษัท ส่วนพี่วินโบกแท๊กซี่ไปหาลูกค้าอีกคนที่อยู่กันคนละทาง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

"เป็นไงแก?" ยิ้มถามทันทีเมื่อก้าวขึ้นบนรถ

"อะไร? อ๋อ ก็ดีนิ น่าทำดี สินค้าออแกนิกด้วยฉันกำลังสนใจพอดี" จริงใจตอบ พร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยเร็วๆ ยิ้มส่ายหน้าเซ็งๆ

"ไม่ใช่งาน!!!! ฉันหมายถึงพี่กิต เป็นไงมั่ง?" ยิ้มถาม พร้อมเสียบเข็มขัดนิรภัยบ้าง

"ก็.... ไม่เป็นไงนี่ ก็ดี" จริงใจตอบ แต่ดูเหมือนคำตอบจะไม่ถูกใจยิ้มสักเท่าไหร่

"โอ๊ยยย!!! แกนี่มันซื่อบื้อ ไม่ได้เรื่องเลย" ยิ้มกระแทกเกียร์ เหยียบคันเร่งแรงๆอย่างหงุดหงิด จริงใจที่เซตามจังหวะรถก็หงุดหงิดบ้าง

"อะไร! ไหนเมื่อกี้บอกว่าไม่จับคู่แล้วไง? แล้วนี่มาเยอะมาแยะอะไรของแก?..." เธอบอกเสียงดัง ยิ้มที่พึ่งนึกได้ก็แหยๆ

"ก็.... แหมมม พี่เขาดีนะ ฉันก็อยากให้แกรู้จักเอาไว้" ยิ้มแก้ตัว จริงใจได้ยินแค่นั้นก็แสยะยิ้ม

"เออ ตัวพี่อ่ะดี น่าทำความรู้จัก แต่ตัวน้องนี่ ไม่ขอออกความคิดเห็นนะ" จริงใจตอบ ยิ้มได้ฟังก็สะดุด ความจริงเรื่องกิ่ง ก็เป็นปัญหาที่เธอคิดหนักไว้ก่อนเหมือนกัน แต่ก็ไม่นึกว่าจะมาก่อปัญหากันตั้งแต่วันแรกขนาดนี้

"ฉันรู้แล้วละน่า.. ฉันก็ไม่อยากให้มันมาทำนักหรอก...แต่ป้าดาเขาขอร้องฉันมา" ยิ้มอธิบาย

"ป้าดา?"

"เออ แม่ของพี่กิตนะ... ยัยกิ่งอะมันนั่งๆนอนๆมาได้สองปีแล้ว ให้ไปทำที่บริษัทพี่กิตก็เหมือนไม่ได้ไปทำ เข้ามั่ง ไม่เข้ามั่ง จนคนเขาเอาไปนินทา สุดท้ายป้าดาเลยเอามาฝากไว้ที่ฉันเนี่ย"

"เฮ้อออ แล้วทำไมงานนี้แกไม่ทำ? แกมาให้ฉันทำ...มันจะเวิร์คเหรอ?"

"ก็... ฉันยังเหลืองานร้านอาหารอีกตัวอะ แกก็ช่วยดูงานนี้ให้หน่อยสิ"

จริงใจเงียบ ไม่อยากตอบ เอาจริงๆ เธอก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจะให้ทำงานกับคนที่เอาแต่ใจแบบนี้ มันก็น่าคิดหนัก

"โธ่ อย่าเงียบสิ นะแกนะ ถือว่าช่วยพี่กิตเขาด้วย น่ะ ... " ยิ้มยังคงง้อต่อ

"เออ เออ เออ รู้แล้ว ขับรถมองถนนได้แล้ว หยุดพูดสักที" จริงใจตัดรำคาญ จริงๆ ถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากผ่านงานนี้ไปให้ได้เหมือนกัน งานน่าทำ ลูกค้าก็น่ารัก แต่ก็นะ... เพื่อนร่วมงานใหม่ไม่รู้ว่าจะแสดงฤทธิเดชอะไรอีก แค่คิด ก็อดกลุ้มใจไม่ได้แล้ว
แต่ต่อให้คิดจนโลกแตก ... สุดท้ายก็ต้องตอบรับ เพื่อเงิน

จำไว้ เงิน เงิน เงิน
เงินคืองาน สร้างทุกอย่างบันดาลสุข
เฮ้อออ.... สุดท้ายก็ต้องตกเป็นทาสทุนนิยมอีกจนได้







แว่นกระดาษ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.พ. 2558, 22:17:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.พ. 2558, 22:17:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 846





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 8 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account