เงามาร (กำลังรีไรท์ค่ะ)
'วาลาดา' ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ว่าตัวเองมีสามีมีลูกแล้ว
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ

เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ


คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...

เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...

ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...

หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...


ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ

โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...

รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม

ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...

เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...

และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร


และ...

หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน






...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...


...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....



Tags: ดราม่า ซุลก๊อตไนท์ วาลาดา นาดีม มาร มารร้าย ไสยศาสตร์ ญิน นุฮา อะสุเซน่า วารินทร์ อานิต้า

ตอน: บทที่ 29 ซ่อนหา ซ่อนเงา



วารินทร์ทอดมองบ้านหลังงามของซุลก๊อตไนท์ที่เหลือแค่ซาก…

นับตั้งแต่วันนั้น…มีหลายคนที่ได้หายไปจากชีวิตเขา…แม้กระทั่งวาลาดา
ข่าวคราวของเธอเงียบหายไป แต่เขารู้ดีว่าเธอบอบช้ำแค่ไหน…

ไม่มีใครได้ข่าวของเธอเลยแม้แต่คนเดียว พ่อแม่พี่น้องของเธอต่างกังวล
กับการหายตัวไปในครั้งนั้น…ไม่ว่าจะออกตามหาก็ไม่พบเจอ
เขาจึงได้แต่วาดหวังให้พลังของเธอเปี่ยมล้น ฝ่าแดดลมฝนด้วยใจดวงใหม่อย่าได้อ่อนล้า…

ลึกลงไปเขามั่นใจว่าเธอเข้มแข็งพอที่จะก้าวผ่านเรื่องราวร้ายๆนี้ไปได้…
เพราะวาลาดาที่เขาเคยเจอไม่เหมือนใคร หลายครั้งที่ล้มแล้วในที่สุด
ก็สามารถลุกขึ้นได้ใหม่…หากก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี…

และไม่ว่าผู้คนจะโจษจันถึงเธอในทางใด หากเขาคนนึงไม่มีวันเชื่อ
ว่าเธอคือคนลงมือวางเพลิงบ้านหลังนี้…

ถ้าเป็นอีกคนที่เริ่มต้นด้วยการพูดจาให้ร้ายเธอนั้นไม่แน่…
เพราะต้ังแต่ปากของนาดีมเริ่มขยับพูด ก็มีเสียงอื่นๆตามมาเป็นระลอก…

ผู้หญิงคนนี้เขารู้ดีว่าคือ 'อสรพิษ' เพียงแต่ไม่คิดว่าฤทธิ์จะเยอะถึงขนาดนี้…
และไม่คิดว่านาดีมจะเหี้ยมจนทำร้ายคนอื่นเช่นนี้ได้ลงคอ…

วาลาดาไม่ควรมีเพื่อนเช่นนี้ในชีวิตเลย…เพื่อนแบบนี้มีแค่คนเดียว
ก็มากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ…

และตั้งแต่วันที่ได้อ่านข้อความในกระดาษที่วาลาดาเขียนให้เขาวันนั้น
เขาก็เริ่มสะกิดใจจนไม่กล้าสานสัมพันธ์กับอานิต้า
เพราะเกรงว่าเขาจะเป็นพาหะนำเชื้อร้ายไปสู่ชีวิตอันงดงามของเธอ…
จึงได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆจากที่ไกลๆ…คอยดูแลไม่ให้มารตัวใดมาทำร้ายเธอได้

“อ้าวรินทร์…” วารินทร์หันไปทางเสียงที่ดังแทรกความเงียบในยามเช้า
ก็พบหญิงสาวในชุดคลุมท้องกำลังส่งยิ้มมาให้เขา ทว่าชายหนุ่มกลับทำหน้านิ่ง
แล้วเสมองไปยังด้านหลังของเธอแทน ก็พบกับชายรูปร่างสันทัด ในชุดสูทอย่างดี
ท่าทางที่เห็นเดาได้ไม่ยากว่าทำอาชีพเกี่ยวกับอะไร

“มาทำอะไรตรงนี้ล่ะ…”

“แวะมาทักทายซากบ้านของไอ้ก๊อตมัน…เสียดาย…
เพราะวาเขาออกแบบไว้ได้ดีเยี่ยมทีเดียว…”

คำชื่นชมที่มีต่อศัตรูหัวใจส่งผลให้นาดีมถึงกับชักสีหน้าทันที…

ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมานั่งปั้นหน้าเป็นคนดีแสนดี
ทำตัวเป็นนางฟ้าอีกแล้วนี่…ขอเป็นตัวเองให้สบายอกสบายใจบ้างเถอะ…

ในเมื่อกฎหมายเข้าข้างเธอทุกทาง…ในขณะที่นังวาคืออาชญากร
ที่รอวันพิพากษาและเข้าสู่แดนประหาร

ขอแค่เธอจะควานหาตัวมันเจอแค่นั้น…แต่มันดันหายไปเลย…
หายไปไม่มีแม้แต่เงาให้ติดตาม…

“ดีมเองตั้งใจว่าจะสร้างใหม่เหมือนกัน…แต่คงต้องเปลี่ยนแบบ
เพราะว่าไม่อยากได้แบบที่ไฟไหม้ไปแล้ว…” วารินทร์ยิ้มที่มุมปาก

“คฤหาสน์วรรัศมิ์สกุลก็น่าจะกว้างขวางพอสำหรับเธอและลูกแล้วนะดีม
ไม่เห็นจะต้องสร้างบ้านใหม่ให้เปลืองเลย…แต่ถ้ามีเงินเหลือมาก
จะเอามาให้ฉันก็ได้นะ…ฉันจะเอาไปให้เด็กที่ยังไม่มีบ้านอยู่…
หรือคนที่เขาประสบภัยพิบัติ บ้านเรือนพัง ไม่มีเงินสร้างใหม่…”

ได้ทีก็อดไม่ได้ที่จะกัดเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ตั้งแต่สมัยอนุบาล…

น้อยคนจะรู้ว่านาดีมนั้นชอบทำตัวโอเว่อร์…พยายามอยู่เสมอ
ที่จะให้ตัวเองโดดเด่นกว่าเพื่อนซึ้อย่างวาลาดา…

มีเพื่อนดีๆที่ไหนเขาจะจ้างให้พวกอันธพาลมารุมทำร้ายเพื่อนตัวเอง…
ถ้าตอนนั้นเขากับไอ้ก๊อตไปช่วยไว้ไม่ทัน วาลาดาแย่ไปแล้ว…

เขาไม่เคยรู้หรอกว่าใครเป็นคนสั่งไอ้พวกอันธพาลมารุมทำร้ายวาลาดา
ตอนที่วาลาดากำลังเดินทางไปรายงานตัวเพื่อรับทุนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น

แต่เขาเพิ่งจะมารู้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เพราะหนึ่งในอันธพาลตอนนั้น
มันมาขอทำงานเป็นลูกน้องเขา และเขาก็ยังจำหน้ามันได้…มันเองก็จำเขาได้…

เขาจึงเฝ้าสังเกตและคอยจับตาชีวิตวาลาดามาตลอดเพราะเชื่อว่า
นาดีมอาจจะหาทางทำเรื่องร้ายอีก

แล้วก็จริง…ผู้หญิงตรงหน้าเขาไม่เคยจะละเว้นวาลาดาเลย

…มันน่าจับไปโยนในบ่อจระเข้เสียจริงๆ
เผื่อจะได้รู้กันว่าระหว่างจระเข้กับผู้หญิงคนนี้ ใครจะร้ายกว่ากัน…

“ก็ดีนะ…ดีมเองก็อยากนำเงินไปทำบุญอยู่เหมือนกัน…ตอนนี้ดีมไม่เหลือใคร
ก๊อตก็มาทิ้งไป…ลูกดีมก็ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อ…
ไม่อาจได้เห็นหน้าพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ…” น้ำเสียงเศร้าๆนั้น
หาได้ทำอะไรหัวใจของบุรุษหน้าโหดได้เลยแม้แต่น้อย

“เธอคงไม่คิดจะไว้ทุกข์ให้ไอ้ก๊อตมันตลอดชีวิตหรอกใช่มั้ย…”

อดไม่ได้อีกที่จะหาเรื่องแหย่…แหย่จอมเสแสร้งนั้นใครว่าไม่สนุก
สนุกกว่าแหย่ไอ้ก๊อตจอมขี้เก๊กเรื่องวาลาดาเป็นไหนๆ

“ถ้าดีมเจอคนที่ดีกว่าก๊อตหรือรักดีมได้มากกว่าก๊อต…ดีมก็ยินดี
ท่ีจะสูญเสียทุกอย่างเพื่อเขานะรินทร์…”

ไม่วายทอดสายตามองวารินทร์อย่างเผลอไผล…
ลืมไปเสียสนิทว่าในท้องของตนนั้นยังมีอีกหนึ่งชีวิตกำลังหายใจอยู่…

“ฉันนึกว่าเธอจะรู้ซะอีกว่าไอ้ก๊อตมันรักใคร…หรือว่าฉันมองเธอผิดไป…
เพราะฉันเชื่อมาตลอดว่าเธอฉลาดและช่างสังเกตจะตาย

ถ้าไม่ติดกับวา เธอก็คงได้ที่หนึ่งไปครอง…แต่พอมีไอ้ก๊อตก้าวเข้ามา
มันก็มาคว้าที่หนึ่งของห้องไปแทน วาก็ที่สองไป ส่วนเธอก็ที่สาม

ส่วนฉันน่ะอย่าให้พูดเลย…แค่สอบผ่านทุกวิชามาได้แม่ก็กระโดดกอดฉัน
จนแทบจะโยนขึ้นไปไว้บนหลังคาโรงเรียนได้แล้ว…”

พูดไปก็ยิ้มไปตามแบบฉบับของผู้ร้ายหน้าตาย…

“นี่ถ้าเธอกำจัดไอ้ก๊อตกับวาไปเสียตัั้งแต่ตอนม.หนึ่งล่ะก็…
รับรองว่าเธอได้ที่หนึ่งตลอดแน่…ไม่เป็นสองหรือสามรองใครเลยล่ะ”

นาดีมถึงกับตาโต มองคนที่พูดเหมือนกำลังกล่าวหาเธอกรายๆอย่างเอาเรื่องเลยทีเดียว

“รินทร์หมายความว่าไงที่พูดแบบนี้…” วารินทร์ยักไหล่
ทำหน้าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ได้หน้าตบยิ่งนัก

“คำพูดฉันเธอก็น่าจะรู้ดีว่าไม่จำเป็นต้องตึความ…มันตรงสุดๆแล้ว”
ว่าแล้วก็ยิ้มแฉ่ง

“ไอ้ก๊อตมันไม่น่าจะโง่…จนโดนย่างสดเลยจริงๆ…”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะรินทร์…” นาดีมเสียงเข้มทีเดียวเมื่อโดนแหย่

ร้อยวันพันปี คนตรงหน้าไม่เคยพูดกับเธอเกินสองประโยค
แต่ไหงวันนี้ถึงได้ถากเธอจนหน้าชาแบบนี้นะ

“ฉันไม่กลัวข้อหาหมิ่นประมาทหรอกน่า อย่าคิดจะเอาทนายมาขู่กันซะให้ยาก
ปากฉันก็อย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว…เธอก็น่าจะรู้ดีว่าสันดานคนน่ะ
มันเปลี่ยนกันยาก…ฉันมันสันดานไม่ดี…ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจชาวบ้านเป็นอาจิณ…”

เมื่อเห็นคนตรงหน้ากำลังจะดิ้นพล่าน วารินทร์ก็รีบยกมือห้ามปราม

“อ่ะๆๆ…อย่ารีบทำหน้าเครียดซี เดี๋ยวสุขภาพจิตย่ำแย่
พาลจะทำให้ลูกหลุดออกมาจากมดลูกก่อนถึงกำหนดคลอดนา…
ไอ้ก๊อตมันก็ไม่ได้อยู่เพื่อช่วยเธอทำลูกอีกแล้ว…กรุสมบัตินั่นต้องตกเป็นของพี่นุแกไป
จะหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้นะ…”

วารินทร์พอจะรู้เรื่องเงื่อนไขเกี่ยวกับทายาทผู้มีสิทธิ์และอำนาจ
ในการจัดการกรุสมบัติของตระกูลวรรัศมิ์สกุลมาบ้างจากวาลาดา
ที่เคยโทรมาปรึกษาเขา…

“ได้ข่าวว่ากรุสมบัติอะไรนั่นมันสุดยอดไปเลยนี่…” นาดีมเม้มปาก
มองคนหาเรื่องเธอไม่ยอมหยุดหย่อน วารินทร์ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ถึงได้พูดจาระรานเธอเช่นนี้…

“ปากร้าย…”

“ก็ยังดีกว่าใจร้ายๆน่า…” วารินทร์ย้อนแล้วทำท่าจะผละจากไป
หากก็ยังไม่วายหันมาพูดทิ้งทายอีกว่า

“อ้อ…ลืมเตือน…จริงๆแล้วฉันก็สงสารเธอไม่น้อยนะดีม…
เพราะเธอยังสาวยังสวย จะแต่งงานใหม่ก็ยากเพราะต้องเสียสละกรุสมบัตินั่น
ให้ทายาทสายรองเขาไป…ซ้ำยังต้องเฝ้าระมัดระวังไม่ให้ลูกหลุดหรือลูกตายอีก…

ฉันว่าถ้าการแบกไอ้กรุสมบัตินั่นมันหนักและเหนื่อยเกินไป…จะเอามันลงซะก็ได้นะ…
วิญญาณไอ้ก๊อตมันคงไม่ว่าอะไรเธอหรอก…ฉันเองก็ไม่อยากให้ชีวิตเธอต้องอับเฉา
เหมือนดอกซ่อนกลิ่นหน้าโลงศพ…

บอกตามตรงว่าตายคาอกสามีมันยังมีความสุขกว่าตายคากองสมบัติเป็นไหนๆ…
ลองคิดดูดีๆนะ...ผู้ชายดีๆไม่ได้มีแค่ไอ้ก๊อตคนเดียวในโลกนี้สักหน่อย…”

เตือนให้เพื่อนเก่าเพื่อนแก่สมัยเรียนหาสามีใหม่เสร็จก็จ้ำอ้าวกลัับไปยังรถที่จอดอยู่ทันที

ก่อนขึ้นรถไปก็ไม่วายหันไปยิ้มให้กับทนายชื่อดังที่คอยเป็นที่ปรึกษาเรื่องคดีความต่างๆ
ให้กับตระกูลของนาดีม…

เพราะใบหน้านี่แหล่ะที่คอยให้ข่าวต่างๆเกี่ยวกับคดีความต่างๆของนาดีม
โดยเฉพาะเรื่องมรดกอันมหาศาลของวรรัศมิ์สกุล
ที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ว่าใครจะเป็นผู้จัดการมรดกดังกล่าว
ระหว่างนาดีม วรรัศมิ์สกุล ภรรยาของซุลก๊อตไนท์
กับซูฮาน่า กรภัทรกุล ทายาทสายรองของตระกูลวรรัศมิ์สกุล…

เพราะทายาทสายตรงมีเพียงลูกในท้องของนาดีม
ที่ยังไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ กับเด็กชาย ซุลฟา วรรัศมิ์สกุล
ลูกชายของซุลก๊อตไนท์ที่เกิดแต่ภรรยาคนก่อน
ซึ่งก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับผู้เป็นมารดา

ซึ่งดูไปแล้วทนายผู้นี้ฝีปากดีไม่น้อยเลยทีเดียว…วารินทร์จึงอดไม่ได้
ที่จะสบตาคมที่มองมาทางเขานิ่งสนิท…พร้อมกับยิ้มกับตัวเอง
เมื่ออดนึกชื่นชมทนายคนนั้นในใจไม่ได้ว่า…มันหล่อดี!
แถมยังนิ่งดีไม่มีหลุดมาดเนี้ยบเลย…





“พ่อจะตั้งข้อหามันคืน…” นะวาวีย์มองเอกสารในมือที่ได้รับมาจาก
เจ้าลูกชายแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเจ็บใจ

“ยัยวาไม่มีทางเผาบ้านที่เขาออกแบบเองหรอก…ยิ่งฆ่าพ่อของลูกยิ่งเป็นไปไม่ได้…”

เสียงของผู้เป็นลุงแท้ๆของวาลาดาขึ้นจมูกทีเดียว
ทำเอาคนเป็นลูกชายถึงกับนั่งยิ้ม เพราะนานๆจะเห็นผู้เป็นบิดา
ออกโรงปกป้องหลานสาวคนนี้…

“พ่อว่าเราจะตั้งข้อหาอะไรดี…” คนเป็นลูกลองหยั่งเชิงบิดาดู

“ก็ข้อหาวางแผนฆ่าเพื่อหวังในทรัพย์สมบัติน่ะสิ…หรือแกว่ามัน
เป็นไปไม่ได้เลยฮึเจ้านุ…แค่ดูก็รู้แล้วว่ากระหายอยากได้ไอ้กรุสมบัตินั่นกันแค่ไหน
ขนาดเอาลายเซ็นอัยรีนมาโชว์ออกสื่อ…บ้ากันทั้งบ้าน

แล้วไอ้ทนายนั่นแกก็รู้จักว่ามันเจ้าเล่ห์แค่ไหน…ประวัติโชกโชน…
ทำแต่คดีมรดก กินหัวกินหาง กินตรงกลางตลอดตัว…”

นุฮาชอบประโยคสุดท้ายของผู้เป็นบิดาเป็นที่สุด
เพราะเป็นการเปรียบที่เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งนัก

“ถ้าเขามาได้ยิน พ่อจะโดนข้อหาหมิ่นเอานา…” นุฮากระเซ้าบิดา

“นี่แกยังยิ้มได้อีกรึเจ้านุ…บ้านนั้นตายกันทั้งหลัง แถมยัยวากับลูก
ก็หายเข้ากลีบเมฆแบบนั้นอีก…”

“แล้วพ่อจะให้ผมร้องไห้เหมือนพวกผู้หญิงหรือไง…ผมทำไม่เป็น
แค่นั่งดูแม่ร้องไห้เช้าเย็นก่อนและหลังอาหาร ผมก็ร้องไม่ออกแล้ว”

อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปยังผู้เป็นมารดาที่นั่งอมทุกข์อยู่ตรงโซฟา
ดวงตาเลื่อนลอยมองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา

มีท่านอยู่ตรงนี้ก็เหมือนไม่มีอยู่…เพราะไร้ปฏิกิริยาใดๆตอบกลับ
เขารู้ว่ามารดากำลังเศร้า และยังไม่ยอมเลิกเศร้าง่ายๆ…

แต่ครั้นจะให้เขาทำแบบท่านเขาก็ทำไม่ได้

เวลานี้ ซุลก๊อตไนท์กับวาลาดาต้องการความชอบธรรม
และเขากำลังตามหามันให้สองคนนั่นอยู่

“เผลอๆพวกมันอาจจะอุ้มฆ่ายัยวากับลูกไปแล้วก็ไม่รู้…ถึงได้ยัดข้อหาให้
โดยไม่หวาดหวั่นอะไรแบบนั้น…เห็นแล้วมันรับไม่ได้…”

“ผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน…และผมจะรอพิสูจน์ว่าเด็กในท้องของนาดีม
เป็นลูกก๊อตจริงรึเปล่า…เพราะยังไงๆผมก็ไม่เชื่อว่าก๊อตมันจะมีอะไรกับนาดีม
ทั้งๆที่มีวาเป็นเมียอีกคนแน่ๆ…ที่สำคัญ...ไอ้หมอนั่นมันฉลาดเป็นกรดมาแต่ไหนแต่ไร…”

พร้อมคิดในใจ มันไม่ตายง่ายๆหรอก
บางทีอาจจะนอนกอดยัยวาอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้วปล่อยให้เขาหัวหมุนแทนมัน
แทนแม่และน้องของมัน…

เพราะตอนนี้เรื่องคดีต่่างๆรวมทั้งเรื่องมรดกก็ตกมาอยู่บนกะบาลของแม่เขากับเขา
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

อย่าให้รู้ว่ามันไม่ตายจริงๆก็แล้วกัน…เพราะถ้าเห็นมันโผล่หน้ามาเมื่อไหร่
เขานี่แหล่ะจะเหยียบหน้ามันให้จมหายไปในเม็ดทรายเลยทีเดียว…

โทษฐานที่ผลักภาระมาให้เขาแบกเอาไว้แบบนี้…

“ฉลาดแต่ก็เสียทีให้ผู้หญิงจนได้…” คนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหน้า
ก่อนจะยกมือบีบขมับ…แล้วไม่วายหันไปถามความเห็นผู้เป็นภรรยาคู่คิดคู่ชีวิตมาตลอด

“นี่คุณ…คุณจะเอายังไงกับเรื่องนี้…เพราะนี่มันญาติฝั่งคุณนะ”

“แจ้งจับมันบ้างสิคะ…น้องว่านาดีมนี่แหล่ะน่าสงสัยกว่ายัยวาร้อยเท่า
ถึงน้องจะไม่ปลื้มยัยวาสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้สายตาลำเอียงนะคะ…

เด็กนั่น…ซื่อๆมาแต่ไหนแต่ไร ถ้างกอยากได้สมบัติก็น่าจะมาทวงเอากับพี่วีก็ได้นี่
ไม่เห็นจะต้องไปกระเสือกกระสนแย่งชิงของตระกูลนั่น

เราเองก็พร้อมจะยกในส่วนของพวกเขาให้พวกเขาอยู่แล้ว
แต่พวกเขาปฏิเสธไม่เอาเอง…คนแบบนี้หรือคะคือคนโลภ ไม่รู้จักพอ
และฆ่าสามีเพราะความโกรธแค้น…เราเอาประเด็นนี้เข้าต่อสู้ไปเลยค่ะ
เอาให้รู้ดำรู้แดงกันไป…” เสียงคนพูดดูไม่จืดแม้แต่น้อย ทำเอานุฮา
ที่นั่งมองมารดานั่งเศร้าซึมมาเป็นเดือนๆถึงกับยิ้มเต็มหน้า…

“แม่เราเอาจริงแล้ว…” สายตาคมตวัดใส่ลูกชายคนเดียวทันที
ที่โดนลูกชายกระตุกหนวดเสือสาว

“แต่นาดีมยืนยันว่าเห็นยัยวาจุดไฟเผาบ้าน…” ซุฮาน่าเอ่ยอย่างหัวเสีย

เสียเพื่อนไปไม่พอ ยังต้องมาต่อกรกับนาดีมและยัยคุณหญิงวรลักษณ์อะไรนั่นอีก
ถึงอัยรีนจะชอบพอกับมารดาของนาดีม แต่เธอคนนึงที่ขอสะบัดบ๊อบ…
ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่เห็นหน้าตาท่าทางแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

“ปากคนก็พูดไปเรื่อยคุณ…ศาลใดๆในโลกนี้ไม่เชื่อแค่ลมปากของคนอย่างเดียวหรอก
ของแบบนี้มันต้องมีหลักฐานพยานอื่นๆเสริม…ถ้าหลักฐานอ่อนก็ตกไป…
ซึ่งดูๆไปแล้ว…ก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไรมามัดยัยวาได้แน่นหนาจนส่งฟ้องได้…”

“แต่วาก็เสียชื่อเสียงไปไม่น้อยแล้วนะครับ…ผมว่านาดีมอาจจะแค่
หาเรื่องให้วาไม่มีที่อยู่ในผืนแผ่นดินไหนๆมากกว่า…แบบว่าเดินไปไหน
ก็ต้องหลบๆซ่อนๆ เอาปี๊บคลุม…”
ผู้เป็นมารดาหันมาทางลูกชายทันทีพร้อมกับสั่งกำชับว่า

“นุช่วยให้ใครสืบค้นประวัติทุกคนในครอบครัวของนาดีมรวมทั้ง
คนที่เกี่ยวข้องให้แม่หน่อยนะ…เอาแบบชนิดที่ทะลุทะลวงถึงรากเหง้าไปเลย…
แม่ชักอยากรู้เรื่องของพวกเขาแล้วว่ามีความเป็นมายังไง…”

น้ำเสียงคนสั่งหนักแน่นและจริงจัง มุ่งหวัง

“นี่แม่กะจะถอนรากถอนโคนกันเลยหรือครับ…”

“ก็ถ้าอยู่ดีๆไม่ชอบ…ก็คงต้องควานหารากเหง้าให้เจอ
จะได้หาทางกำจัดได้ถูกวิธี…เพราะแม่ไม่เชื่อว่ายัยวาจะฆ่าคนในครอบครัวอัยรีนได้
และถ้าไม่ใช่ยัยวาก็ต้องเป็นคนที่ใส่ความยัยวานั่นแหล่ะ…ที่น่าสงสัยที่สุด…”

“ครับแม่…แล้วผมจะจัดการให้…” รับคำแล้วก็เหมือนจะนึกขึ้นได้

“เอ่อ…แม่ครับ…แม่จำได้มั้ยที่ผมเคยบอกแม่ว่า…วาโดนมนต์ดำ”
ซุฮาน่าพยักหน้ารับ

“จำได้สิ…”

“แม่คิดว่าไงครับ…”

“ตอนนั้นไม่มั่นใจ แต่ตอนนี้มั่นใจว่าใช่…เพราะจะว่าไปแล้ว
อัยรีนก็เคยโดนนะ…แต่เป็นคนละแบบกัน…” เท่านั้นแหล่ะ นุฮาก็หูผึ่ง

“คุณอาก็เคยโดนหรือครับ…”

“เคยสิ…ตอนงานแต่ง…อัยรีนโดนของ ทำให้อยากวิ่งออกไปหาผู้ชายคนอื่น
แต่ย่าของก๊อตเขารู้เท่าทันเล่ห์กลพวกนี้ เลยจับอัยรีนล่ามโซ่เอาไว้
ไม่ให้ออกไปทำเรื่องเสื่อมเสีย…อาหญิงของเราเขาเหมือนคนบ้า
ที่ร้องหาแต่ชื่อผู้ชายคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างทุรนทุราย
และไม่ให้พ่อของก๊อตเขาเข้าใกล้เลย…สุดท้ายเลยได้อาจารย์ที่เคร่งศาสนา
มาล้างมนต์ดำให้…แล้วสอนวิธีป้องกันไสยศาสตร์

อัยรีนก็พยายามปฏิบัติอย่างเคร่งครัดหลังจากสติกลับคืนมา
เลยรอดตัวมาได้จนทุกวันนี้…” นุฮาฟังมารดาแล้วให้สงสัย

“อาจารย์ที่เคร่งศาสนาที่ว่านั้น แม่พอจะรู้จักมั้ยครับ
แล้วท่านยังมีชีวิตอยู่อีกรึเปล่าครับ…” ซุฮาน่าพยักหน้าพร้อมกับเฉลย

“อาจารย์การีม…ท่านยังไม่ตาย และคนที่แนะนำอาจารย์การีม
มาให้รักษามนต์ดำให้กับอัยรีนก็คือ น้ามารีอาห์ของเรานั่นแหล่ะ

พอดีพ่อเราเขาเผลอพูดออกไปว่ามีญาติของแม่โดนทำไสยศาสตร์กับน้องสาวเข้า…
เพราะถึงน้าของเราเขาจะหนีออกจากบ้านไปแต่งงานและอยู่กิน
กับพ่อของยัยวาแล้วก็ตาม แต่พ่อเราเขายังหาทางติดต่อและแวะเวียนไปหาอยู่บ่อยๆ…

น้าเราก็เลยแนะนำอาจารย์การีมที่สอนศาสนาน้าเรามา…
ปัจจุบันนี้ท่านอายุมากแล้วล่ะ…ไปไหนไม่ไหวแล้ว…
แต่ลูกชายท่านก็เก่งมีความรู้เรื่องศาสนามากคนหนึ่ง…” นุฮาพยักหน้าหงึกๆ

“งั้นก็แสดงว่า…กว่าอาหญิงจะมีก๊อตได้นานเหมือนกันสิครับ…”

“ก็นานนะ อยู่กินกันเกือบๆห้าปีเลยทีเดียว…เพราะว่าหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นแล้ว
ก็ยังมีการเล่นมนต์ดำซ้ำซ้อนอีกครั้ง…ตอนนั้นอัยรีนเขาไม่ได้ระมัดระวัง
เผลอไผลเลยโดนมารแทรก ถูกเสกเงื่อนปมไม่ให้มีลูกได้…”

“ยังไงครับ…อาการของคนโดนน่ะครับ”

“มันจะมีอาการปวดหลังส่วนล่างและที่รังไข่ ประจำเดือนมาไม่ปกติ
เวียนหัวและอาเจียนขณะมีประจำเดือน…เป็นอยู่เกือบปี…ไปหาหมอ
หมอก็หาสาเหตุไม่เจอ…หมดเงินรักษาไปมากมายก็ไม่หาย
เราเลยกลับไปปรึกษาอาจารย์การีม ท่านเลยรักษามนต์ดำให้ด้วยกับอัลกุรอาน…
หลังจากนั้นไม่นาน อัยรีนก็ตั้งครรภ์…ได้ลูกชายสมใจปู่ย่าตายาย…”

พอมารดาพูดถึงตายายของซุลก๊อตไนท์ นุฮาก็อดนึกไปถึงบรรดาญาติๆ
ทางฝั่งมารดาของซุลก๊อตไนท์ขึ้นมาไม่ได้

เพราะต้ังแต่เกิดเหตุการณ์ร้าย แต่ละคนออกโรงอาละวาตพ่อและพี่ๆน้องๆของวาลาดา
จะเอาเรื่องทางโน้นให้ได้ที่ปล่อยให้ลูกสาวทำเรื่องชั่วช้า…
ถึงขนาดประณามการกระทำของวาลาดาผ่านสื่อต่างๆ…
เพราะเชื่อลมปากของนาดีมที่พวกเขาต่างก็ไว้วางใจมาตลอด
เพราะสนิทใจกับนาดีมมากกว่าวาลาดา…

น้อยคนนักที่จะรู้จักน้องสาวคนนี้ของเขาโดยแท้จริง
เว้นแต่คนที่เคยคบหากันมาแต่เยาวัยเท่านั้นถึงจะรู้ว่าวาลาดานั้นแท้จริงแล้วเป็นเช่นไร

แต่ถึงจะอย่างนั้น ผู้คนที่เคยรู้จักกับวาลาดามาก่อนก็ยังไม่วายเคลือบแคลงสงสัย
ในตัวน้องสาวของเขาอยู่ดี

…งานนี้วาลาดาเลยรับไปเต็มๆ…ถูกคนในสังคมพิพากษา
พร้อมมอบบทลงโทษไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยที่เจ้าตัวยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นศาล
เพื่อแก้ข้อกล่าวหาใดๆแม้แต่คำเดียว…

มันช่างอยุติธรรมสิ้นดีกับแม่ลูกอ่อนที่ถูกยัดเยียดให้มาเดินบนถนนสายนี้…
ที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเลือกเองเลยตั้งแต่ต้น…

“ก๊อตเขาจึงเป็นที่รักและเป็นดั่งความหวังที่ทุกคนรอคอยการมาของเขา
แม้แต่ญาติๆทั้งทางฝั่งพ่อฝั่งแม่ต่างก็รักใคร่เอ็นดู…พอมาเจอเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้
เป็นใครก็ใครเถอะนุุ ก็ต้องดิ้นพล่านกันทั้งนั้น…

เพราะก๊อตเขากลายเป็นหัวเรือใหญ่ของญาติๆไปแล้ว…เขาไม่อยู่สักคน
เรือก็เหมือนไม่มีคนขับ แล้วจะไปต่อยังไง…คิดดู…”

นุฮาเห็นด้วยว่าซุลก๊อตไนท์นั้นไม่ต่างจากกัปตันเรือที่ต้องพาลูกเรือไปให้ถึงฝั่ง
แต่ยังไปไม่ถึงไหน กัปตันก็มามีอันเป็นไปเสียแบบนี้
ทุกอย่างมันจึงเข้าข้ันวิกฤต ทุกชีวิตที่มีกัปตันคอยดูแล คอยสนับสนุนส่งเสริม
จึงเคว้งคว้างกลางทะเลใหญ่ที่ดูเวิ้งว้าง

ยิ่งความเลวร้ายทางเศรษฐกิจบ้านเมืองในระยะหลังๆมานี้กำลังสาดซัดเข้ามาซ้ำอีก…
มันพาลจะทำให้เรือทั้งลำจมดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทร

และถ้าเขารู้ ถ้าเขารู้ว่าซุลก๊อตไนท์แกล้งตายล่ะก็…มันต้องโดนดีแน่ๆ…
ที่ทิ้งภาระอันหนักหน่วงนี้ให้เขาแบกไว้

…ทิ้งเรือที่กำลังถูกโจรสลัดบุกให้เขากอบกู้…

แน่นอน…อย่าให้รู้ก็แล้วกันว่ามันไปซุกหัวอยู่ที่ไหน…




วาลาดายืนทอดสายตามองไร่ข้าวโพดที่เห็นสุดลูกหูลูกตาบนเนินเขาสลับไปมา
โดยมีชาวไร่คอยให้การดูแลประปราย

สีเขียวผสมสีเหลืองของมันทำให้หัวใจที่แห้งผากรู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้…

ลุงหมานพาเธอมาหลบกบดานอยู่ตรงบ้านหลังน้อยบนเนินเขาสูงแห่งนี้เมื่อสองเดือนก่อน…
บอกว่าเป็นบ้านญาติ แม้เธอจะพยายามบอกว่าเธอไม่กลัวที่จะเดินเข้าไปหาตำรวจ
เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาเหล่านั้นด้วยความบริสุทธิ์

เพราะในเมื่อเธอไม่ใช่คนทำ ใยเธอจะต้องหนีมากบดานอยู่ที่นี่ด้วย…
ยิ่งหนีเขาก็จะยิ่งประโคมข่าวว่าเธอเป็นคนร้ายตัวจริง
เพราะถ้าเธอไม่ได้ทำก็ไม่มีความจำเป็นต้องหนี…

หากลุงหมานกลับบอกให้เธออยู่ที่นี่…เพราะการเดินเข้าไปหาตำรวจ
เท่ากับการเดินเข้าไปหากับดักหลุมพรางที่พวกนั้นขุดเอาไว้รอ…

เธอจึงต้องมาอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้กับลูกน้อยที่ตอนนี้พูดได้ชัดขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก…

กลิ่นหอมของลุบาน ซึ่งมันคือกำยานจะหอมกรุ่นไปทั่วทั้งบ้านตลอดเวลา
ตั้งแต่วันแรกที่เธอย่างเท้าเข้าสู่บ้านหลังน้อยท่ีดูน่ารักน่าเอ็นดูหลังนี้…
มันเป็นบ้านที่ทำด้วยปีกไม้ เป็นบ้านไม้ทั้งหลัง ให้ความโล่งโปร่งสบาย…

กลิ่นของลุบานที่ถูกรมไปทั่วทั้งบริเวณบ้านมันทำให้เธอนึกถึงร้านค้าของชาวอาหรับ
ที่มักจะนำกำยานแบบชนิดหอมมาใช้เพื่อสร้างความหอมบริเวณบ้านหรือร้านค้า
กลายเป็นประเพณีปฏิบัติกันมา จนเธอเองก็แอบติดใจเสมอเวลาได้เข้าไป

พอได้มาอยู่ในบรรยากาศเช่นนี้จึงทำให้รู้สึกดี…

มารู้ทีหลังจากลุงหมานที่จะพักอยู่ตรงกระท่อมหลังน้อยติดๆกันกับบ้านพักของเธอว่า
กลิ่นหอมของลุบานนั้นเป็นกลิ่นที่ชัยฏอน (มารร้าย) ไม่ชอบ
หรืออีกนัยก็คือ สิ่งที่หอมนั้นมารร้ายไม่ชอบนั่นเอง…

พอไม่ชอบมันก็จะไม่เข้าใกล้ เธอถึงต้องเน้นเรื่องความสะอาด
และความหอมเป็นเรื่องหนัก…

ซึ่งกำยานยังมีข้อดีอีกมากมาย โดยเฉพาะเอาไว้แก้โรคหลงลืม
ลุงหมานจะนำกำยานมาแช่ไว้ในตอนกลางคืน พอตื่นเช้ามายังไม่ได้รับประทานอะไร
ก็ให้ดื่มกำยานทันทีระหว่างท้องว่าง เพราะมันจะช่วยแก้โรคหลงลืมได้ดี

ลุงหมานปฏิบัติเช่นนี้มาตลอด พอมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ลุงหมานเลยนำกำยาน
มาให้เธอและลูกดื่มทุกๆเช้า…ยิ่งรู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว
ลุงหมานยิ่งกำชับให้เธอดื่มกำยานเป็นประจำ เพราะมันจะช่วยบำรุงสมองของลูกในท้อง…
ทำให้เด็กเกิดมามีความจำดี และทำให้เธอนอนหลับสบายในยามกลางคืน…

วาลาดาสูดกลิ่นหอมนั้นแล้วยิ้มบางขณะวางมือลงบนหน้าท้อง…

ลูกคือขวัญกำลังใจที่ทำให้เธอมีแรงใจฮึดขึ้นสู้ ไม่ยอมเครียด พยายามไม่เศร้าใจ
พยายามยิ้ม เพราะตอนนี้นอกจากตาหนูแล้ว เธอยังมีลูกอีกคนในท้อง
ที่ต้องดูแลเอาใจใส่ ถ้าเธอเป็นอะไรไปอีกคน ลูกของเธอจะเป็นเช่นไร…

นั่นจึงทำให้เธอกัดฟันข่มความเจ็บปวดเพื่อฝังมันเอาไว้ให้ลึกสุดใจ
และพยายามที่จะมีความสุข พยายามใช้ชีวิตที่ดี…ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

เพียงแต่ช่วงนี้เธอมักจะเพลียบ่อยๆ ตาหนูที่เธอหย่านมแล้วก็หันมากินนมวัวแทน…
แม้จะนึกสงสารและเห็นใจ แต่ลูกก็โตพอแล้วแถมยังรู้เดียงสายิ่งนัก…

วาลาดายิ้มบางก่อนจะรู้สึกคลื่นเหียนจนต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ
อาเจียนอยู่นานราวกับว่าอาหารที่กินเข้าไปตอนมื้อเช้าได้ลงไปอยู่ในโถส้วมเรียบร้อยแล้ว…

และขณะที่นั่งก้มลงอาเจียนก็รู้สึกได้ถึงมือน้อยๆที่คอยลูบหลังให้เธอพร้อมกับถามเสียงใสว่า

“แม่ไม่ฉะบายอีกแล้ว…น้องทำแม่ ไม่ฉะบาย…” วาลาดาหันไปยิ้มให้ลูกน้อย
ที่คอยห่วงใยเธอไม่ยอมห่าง เห็นใบหน้านั้นแล้วก็ให้นึกไปถึง
ใบหน้าของพ่อของลูกขึ้นมาไม่ได้…วาลาดาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
แล้วดึงลูกเข้ามาสวมกอดพร้อมกับบอกว่า

“แม่ไม่เป็นไร…เดี๋ยวก็ดีขึ้น…นอนพักสักหน่อยก็หายแล้ว…
ตาหนูอย่าซนนะลูก…แม่ไล่ตามลูกไม่ไหว…”

วาลาดาบอกกับลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะวักน้ำล้างหน้าแล้วจูงลูก
ออกไปยังห้องนอน เอนกายลงนอนอย่างหมดแรง…

ร่างน้อยๆของลูกก็พยายามปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วมานั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ข้างๆแม่
ลูบใบหน้าของแม่ก่อนจะก้มลงหอมแก้ม…แล้วซบหน้าลงกับต้นแขนของวาลาดา…

“ฟาจะอยู่เป็นเพื่อน…ไม่ซน ไม่เที่ยว…” วาลาดายกมืออีกข้างลูบผม
ลูกน้อยแล้วฝังจมูกลงบนหัวทุยๆนั่น

“ทำได้แน่หรือ…” หัวน้อยๆพลันผงกขึ้นทันใดพร้อมเสียงใสแจ๋วน่าฟัง

“ได้…ฟาทำได้…”

“งั้นช่วยรินน้ำใส่แก้วเอามาให้แม่หน่อยสิลูก…” ว่าพลางขอให้ลูกช่วยเสริฟน้ำให้
ซึ่งเจ้าลูกชายก็ทำให้เป็นประจำอย่างไม่เกี่ยงงอน

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ร่างน้อยปีนลงจากเตียง เดินไปหยิบแก้วน้ำวางไว้บนพื้นห้อง
ก่อนจะประคองเหยือกน้ำเอาไว้อย่างเต็มกำลังที่มี
นั่งคุกเข่าทั้งสองข้างกับพื้นแล้วบรรจงเทน้ำลงไปในแก้วอย่างระวัง
ไม่ให้น้ำกระฉอกหรือหกลงบนพื้น เพราะถ้าหกเขาจะต้องรับผิดชอบ
ด้วยการหาผ้ามาเช็ดให้แห้ง…

พอเสร็จแล้วก็นำเหยือกน้ำไปวางไว้ที่เดิมก่อนจะเดินมาหยิบแก้วน้ำบนพื้น
ประคองมาอย่างดี ระวังไม่ให้หลุดมือหรือน้ำในแก้วกระฉอกออกมา
แล้วมาหยุดข้างๆแม่ ยื่นแก้วน้ำให้ วาลาดาที่เฝ้ามองดูลูกอยู่ตลอด
ยันกายลุกขึ้นมารับแก้วน้ำ แล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด

มือน้อยๆแบมือมาขอรับแก้วน้ำแล้วนำไปวางไว้ข้างๆเหยือกน้ำ
หยิบพัดที่วางอยู่ไม่ไกลติดมือมาด้วย…

พอปืนกลับมาบนเตียงอีกครั้ง จึงนั่งพัดวีให้แม่อย่างเอาใจ…

“เรามีกานฉองโคน…” เสียงใสพูดเหมือนที่เธอมักพูดด้วยเช่นนี้กับลูกเสมอ
พร้อมกับยกสองนิ้วชูขึ้นประกอบ แล้วส่ายหน้าขณะบอกว่า

“ทิ้งกานม่าย ไม่ด้าย…” วาลาดายิ้มกว้าง ยกมือข้างซ้ายประคองแก้ม
ของลูกน้อยขณะบอกว่า

“ต่อไปเราจะมีน้องเพิ่มเข้ามาอีกเป็นสามคน…รวมลุงหมานด้วยก็สี่คน
คราวนี้พี่ฟาก็จะมีน้องมาเล่นเป็นเพื่อนรู้มั้ย…”

“พี่ฟาจะ จะมีน้อง…มาเล่นด้วย”

เจ้าตัวน้อยแทนตัวเองว่า ‘พี่ฟา’ ทันทีด้วยรอยยิ้มสดใส…

“แล้วป้อ…ป้อจะ กับมา มั้ยคับ…ฟา…ฟาคิดถึง…”
วาลาดาเลยรั้งลูกชายเข้ามาสวมกอด

อีกสองเดือนลูกน้อยก็จะมีอายุครบขวบครึ่งแล้ว
นับว่าพูดได้แค่นี้ก็เก่งสุดๆแล้วสำหรับเด็กน้อยตัวแค่นี้…สำเนียงฟังยาก
แต่เธอก็ฟังออก ติดอ่างไปบ้าง แต่ก็ยังคงน่าฟังและอยากจะฟังยิ่งกว่าเสียงของใครๆ…

“แม่ก็ไม่แน่ใจ…พ่ออาจจะติดงานนานหน่อย…แต่พองานเสร็จก็คงกลับมาหาพวกเรา…”

บอกไปอย่างนั้น ให้ลูกไม่ต้องเสียใจจนเกินไป…
เพราะลึกลงไป เธอก็ไม่อยากยอมรับว่าพ่อของลูกได้จากไปนิรันดร์
และคงไม่ย้อนกลับมาหาเธอและลูกอีก…

ไม่มีอ้อมกอดของเขาอีกแล้วสำหรับเธอสำหรับลูก…

และสภาพเธอในตอนนี้ก็ยากเกินจะกลับไปต่อกรกับนาดีมหรือใครๆได้…

“ถ้าสมติว่าพ่อติดงานนานจนไม่ยอมกลับมา ตาหนูของแม่จะเสียใจมากมั้ยลูก…”

ลูกน้อยพยักหน้าทั้งๆที่ยังซุกหน้ากับอกของเธออยู่ เธอรู้ว่าอีกไม่นานลูกจะต้อง
น้ำตาไหลอาบสองแก้มอีกเป็นแน่...ถ้าลองพูดถึงพ่อขึ้นมาแบบนี้


ย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่า กำลังคิดถึงจนทนไม่ไหว เลยต้องมาระบาย
ด้วยการถามไถ่เอากับเธอเช่นนี้

“ป้อต้องกับมา…”

“แม่ก็อยากให้กลับมาจ่ะ…”

คงมีผู้หญิงอีกมากมายในโลกนี้ที่ประสบชะตากรรมเช่นเธอ
และเธอไม่ควรโอดครวญ…มันไม่สมควรเลยท่ีเธอจะพร่ำบ่นให้ลูกน้อย
หรือใครๆได้ยินว่าเธอเจ็บปวดแค่ไหนกับทุกวันที่กำลังคืบคลานผ่านพ้นไป…

และโดยไม่รู้ตัววาลาดากับลูกน้อยก็หลับไปด้วยกันในอ้อมกอดของกันและกัน…
มือข้างนึงโอบกอดลูกชายเอาไว้ ส่วนอีกข้างวางไว้ตรงหน้าท้องอย่างหวงแหน

แสงแฟลชกะพริบเหนือสองร่างท่ีนอนอยู่ก่อนจะวูบหายไป
ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมของข้าวโพดหวานต้มแล้วจุ่มน้ำเกลือซึ่งวางอยู่ในถาดสี่ฝัก





...........โปรดติดตามตอนต่อไป...............

ก๊อตไม่ได้ไร้น้ำยาอย่างนาดีมว่าสักนิดเดียว...ฮ่าาาาาา




ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามค่ะ
ขอบคุณทุกไลค์ที่จิ้มให้กัน
ขอบคุณกำลังใจที่เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันจ๊ะ
และขอบคุณนักอ่านเงา...^O^





......ตอบเม้นท์จ๊ะ........

1.คุณจ๊ะจ๋า...ต้องรอดูรอลุ้นกันต่อไปค่ะว่าจะมาแนวๆนั้นหรือเปล่า อิอิอิ
เพราะเป้าหมายของมารไม่ได้มีแค่นั้น

2.คุณคิมหันตุ์...เผยแล้วค่ะในบางส่วน จะเรียกว่าคลี่ปมหรือกระชากปมดี
ก็ไม่รู้อ่ะซี...อิอิ ส่วนผู้รอดชีวิตนี่...คือไม่ได้ตายในกองเพลิงน่ะค่ะ
ก็คือ นาดีม...มันคือการจัดฉาก...จะสมบูรณ์แบบไร้ที่ติหรือไม่
ต้องมาดูกันค่ะ

3.คุณร้อยวจี...โยตั้งใจจะปิดเรื่องนี้ภายในเดือนนี้ให้ได้ แต่ความเป็นไปน้อยมาก
เพราะจัดสรรเวลาได้ลำบากน่าดู แต่ก็จะพยายามค่ะ เนื่องจากเดือนหน้างานเข้า
เกรงว่าถ้าปิดให้จบไม่ทันในเดือนนี้ อาจยืดเยื้อออกไปนานให้นักอ่านค้างกัน...
และที่สำคัญ...กลัวอารมณ์ตัวเองจะค้างนี่แหล่ะ...อิอิอิ
ดังนั้น จะพยายามไม่ให้นักคนอ่านและคนเขียนค้าง...อ่าาาาา


4.คุณRdoubleC...ร้องจริงไรจริงแน่นา มิใช่ว่ากำลังโสน้าหน้านายก๊อตอยู่ อิอิ
ส่วนรางวัลทีี่เดาถูกก็คือไก่ย่างถูกเผาที่พลัดหลงมา ดีมั้ยคะ...เหอๆ

หมายถึงน้าเล็กของรินทร์รึเปล่าคะ เพราะว่ารินทร์เขาไม่มีอาเลย...
คนที่หล่อๆพอๆกับก๊อตใช่หรือไม่...อิอิอิ

ความโลภกับความอยากมันทำให้คนหน้ามืดตามัวมานักต่อนักแล้วค่ะ
บางคนเก่งแสนเก่งก็มาตายเอาน้ำตื้นๆ เพราะกิเลสที่ว่านี้แหล่ะ

ส่วนเรื่องผอ.กับเด็กนักเรียนม.6 นั้น โยว่ามันเป็นเรื่องของอารมณ์
พอใช้อารมณ์อยู่เหนือสติ มันก็พลาด เพราะไม่ได้มานั่งใช้สติใคร่ครวญ
แบบว่าอารมณ์พาไป พอสติกลับมาอยู่กับตัว จึงได้รู้ว่า เรือหาย...ฮ่าาาา

เรื่องความยาว...ไม่ต้องเกรงใจค่ะ...การได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันและกัน
เป็นสิ่งที่โยชอบ...ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจดีๆ
นอกจากจะเป็นมนุษย์ค้างคาวที่ออกหากินตอนกลางคืนแล้ว
ก็ยังเป็นหมีแพนด้าด้วยน้าาาาา...อ่าาาาาา


แต่คืนนี้หนังตาชักหย่อนคล้อย น่าจะได้เวลาเข้านอนเร็วกว่าคืนอื่นๆ...^o^



5.คุณcoonX3...รอดไม่รอดต้องรอดูต่อไปค่ะ...เรื่องนี้มีพลิกไปพลิกมา
ให้นักอ่านได้เวียนหัวกันเล่นๆจ๊ะ...อิอิอิ
ก๊อตน่ะมีแผนจริงค่ะ แต่แผนจะสำเร็จลุล่วงรึเปล่านั้นก็...อีกเรื่องนึง
ส่วนมารมีแผนชัวร์ค่ะ...แต่จะสะดุดชายกระโปรงตัวเองล้มมั้ย...ต้องมาดูกันค่ะ...

6.คุณkonhin...โดนกระแทกไปทั้งๆที่ปากโดนปิดสนิท
จะด่าสักคำยังทำไม่ได้แบบนั้น...มันน่าอึดอัดแทนสุดๆไปเลย...ฮ่าาาา
อีกไม่นานน่าจะมีคนโดนจัดหนัก...อิอิอิ เห็นเงารางๆแล้ว...เหอๆ

7.คุณPat...ปูมหลังของนาดีมจะค่อยๆเผยออกมาค่ะ
จะได้เป็นการเผยให้เห็นถึงพื้นนิสัยของมารกัน...ว่าทำไมถึงได้ออกมาในสภาพนี้ได้
สายเลือดส่วนหนึ่ง การเลี้ยงดูส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งคือ ความรักความอบอุ่น
วัวเริ่มพันหลักโดยไม่รู้ตัวแล้วค่ะ...ส่วนลุงหมานเดาทางมารได้ยังไง
ต้องมาดูกันต่อค่ะ...ลุงแกไม่ธรรมดาเลยค่ะ

ซึ่งงานนี้ นาดีมไม่ได้เสแสร้งเก่งจนถึงขนาดที่ว่าไม่มีใครจับได้เลยนะคะ
อย่างน้อยก็มีคนๆนึงที่ตาแหลมมาแต่เด็ก...คนที่ประกาศตัวว่าไม่ชอบกินปลาช่อน
ในงานแต่งก๊อตกับนาดีมนั่นแหล่ะค่ะ...เขาพูดเป็นนัยๆมาตลอด...อิอิ


8.คุณPampam...มาเสริฟให้ต่อแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่มีน้ำซุปน้าาา...อ่าาา
ส่วนแม่ก๊อตคงได้รู้เช่นเห็นชาติลูกสะใภ้คนโปรดเสียที...
ลองคิดดูเล่นๆนะคะว่า ใครมันช่างหาเรื่องคิดแผนอะไรทำนองนี้ออกมาได้
โยถึงเกริ่นเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทัพหน้าของวาลาดานั้นช่างเกรียงไกรยิ่งนัก
แต่ทำเอาวากินน้ำตาต่างน้ำซุปไปแล้ว...

9.คุณตุ๊งแช่...จอมโจรปล้นใจใช่มั้ยคะ...อิอิอิ
งานนี้จะมีการรู้เห็นเป็นโจรกันกี่คนต้องมาดูกันต่อค่ะ...ฮ่าาาา

ไม่ค่อยแน่ใจซะแล้วว่าชีจะไปชิงรักหักสวาทกับอานิต้าต่ออ่ะ...
ในเมื่อยังไงๆ เด็กในท้องก็ไม่น่าจะใช่ลูกเงาะอยู่แล้ว
เพราะเงาะบอกก๊อตตั้งแต่เนิ่นๆแล้วว่า ไม่กินปลาช่อน
แต่ชอบกินปลาหมอ...อิอิอิ ปัจจุบัน ก็ไม่รู้ว่าจับหนูไปถึงไหนแล้ว...
ระหว่างปลาช่อนท้องป่องกับหนูจอมซน เงาะคงฉลาดเลือกไม่น่าหลวมตัวได้ อิอิ

ส่วนเรื่องไฟ...มันเป็นธาตุที่ทรงพลังที่สุดที่พอจะเรียกมาได้แล้วค่ะ
จะเรียกลมมาจนพัดบ้านให้บินไปทั้งหลังได้ก็แสนจะยากเย็น
ยิ่งเรียกน้ำมา เดี๋ยวท่วมกรุงเทพอีก...สงสารคนกรุงเทพอ่ะ...
หมาแมวลอยคอในน้ำ ช่างน่าอนาถใจแท้...เศร้าไป...มาม่าเกิน...
ส่วนจะให้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ก็ดันไม่มียักษ์ที่ทรงพลังในการกระทืบแผ่นดิน
ให้สะเทือนเลื่อนลั่นได้ในเรื่องนี้กันสักตน มีแต่หัวพญามารพ่นไฟทั้งนั้น...
เลยได้ไฟมาโหมนี่เอง...ช่างเป็นอะไรที่เบสิกมากๆละ คิดอะไรไม่ออก
ก็เล่นกับธาตุไฟมันนี่แหล่ะ...ฮ่าาาา

เรื่องบ้านสองแม่ลูกทีี่ถูกเผานั้น ไม่ช้าไม่นานจะออกตัวแล้วค่ะ
ก็ไม่รู้ว่าวารินทร์กับพี่นุเก็บข้อมูลกันไปถึงไหนแล้ว สองคนนั่นชักช้า
ไม่ทันใจเลยค่ะ...ต้องรอให้งานเข้าก่อนหรือไม่ก็ไฟลนก้นอะไรทำนองนั้นมั้งคะเนี่ย
เหอๆ


10.คุณแว่นใส...นั่นน่ะสิคะ...น้าของวารินทร์หรือมีใครอื่นอีกหรือเปล่า
ที่มีเอี่ยวในเรื่องนี้...ตัวละครมีไม่น้อย ลองเดาๆดูนะคะว่าความน่าจะเป็น
จะไปลงที่ตัวละครตัวใดได้บ้าง...เฮะๆ

11.คุณเดิมเดิม...ได้ออกมาจากเงาแล้วสดชื่นว่ามั้ยคะ...อิอิอิ
ออกมาบ่อยๆซี...เต่าจะได้ไม่เหงา มีคนอ่านมาคุยเพิ่ม...เฮะๆ

จริงๆแล้วเงาะของเต่าก็ทรงเสน่ห์ไม่เบาเลยนะฮ้า...
มีเสน่ห์มาตั้งแต่ตอนเด็กๆที่ยังตัวดำเมี่ยมเหมือนตอไม้โดนเผา แล้วหัวก็หยิก
พอลองๆคิดดูอีกที...หา...นาดีมชอบลูกเงาะได้ยังไงหว่า...เงาะมีดีอะไร...
ต้องมาดูกันค่ะว่า...ทำไมต้องเงาะ...


12.คุณOhLaLa...ตอนนี้ที่รู้ๆมีสองหัว แม่ลูก...ต้องรอดูว่าหัวต่อไป
เป็นหัวของใครค่ะ...เพราะมารเขาผนึกกำลังกันมาอย่างดีตั้งแต่ต้นเลย
แสดงให้เห็นว่าปรองดองกันดีในระดับนึงทีเดียว...
ส่วนที่ก๊อตพูดเป็นนัยๆนั้น ก๊อตย่อมต้องรู้บางอย่างค่ะ...
พระเอกเต่าก็เรียนสุขศึกษามานา...แถมผ่านการมีลูกมีเมียมาแล้ว
ไม่ได้ซิงๆรู้แต่ในแง่ทฤษฎีอย่างเงาะที่ยังทำตัวเหมือนฤาษีอยู่...ฮ่าาาาาา
นาดีมที่ก็ไม่ได้ซิงๆแล้วเลยมีระแวงก๊อต รีบชิงกำจัดโดยเร็ว...
และไอ้เร็วๆรีบๆนี่แหล่ะ...จะสร้างปัญหาให้ชีในอีกไม่นาน...


13.คุณsunflower...หายไปนานเลยทีเดียวกว่าจะออกมาทักทายเต่า...อิอิอิ
เรื่องเงาะโรงเรียนกับนาดีมยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ...ยังมีอีก...และมีอีก...ฮ่าา


14.คุณpretty...ที่ชอบเพราะได้โสน้าหน้าแม่ก๊อตกับซุลตาน่าแบบนี้
แสดงว่าแค้นสองคนนี้มาก...ฮ่าาาาาา
ที่จัดไปถือว่่ายังไม่หนักค่ะ...รออีกนิด...คราวนี้แบ่งไว้ไปจัดหนักคนอื่นบ้าง
เราต้องหาค่าเฉลี่ยค่ะ...ใครซวยก็โดนมากหน่อย ซึ่งสรุปยอดแล้ว
พระ-นาง น่าจะซวยที่สุดแล้ว...อิอิอิ




...ขอให้สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้านะคะ.....


"เต่าโย"




yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มี.ค. 2558, 00:22:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มี.ค. 2558, 00:22:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 3120





<< บทที่ 26 เรือรักกระดาษ (100%)   บทที่ 30 ซ่อนกล ซ่อนใจ >>
Pampam 22 มี.ค. 2558, 01:47:20 น.
แล้วจะสู้กับมารยังไง เพราะไม่ใช่แค่มีเล่ห์เหลี่ยมแต่เล่นมนต์ดำเสกของเข้าท้องได้ด้วย อาจารย์การีมจะช่วยได้ไหมน๊ะ


RdoubleC 22 มี.ค. 2558, 02:59:41 น.
เรื่องที่นาดีมชอบรินทร์. น่าจะมาจากการที่เขา(เคย)ช่วยอะไรสักอย่าง แล้าว ผญ เกิดความประทับใจ. แล้วกลายเป็นชอบในเวลาต่อมา
แต่กับก๊อต ที่มาจีบโดยตรง. และตอนหลังมารุ้ว่าไม่ได้ชอบตน คงแค้นใจมากอ่ะ...คือ ทำให้ตั้งแต่แต่งงานมาคงไม่เคยรักก๊อตแน่ๆ

“ก็ถ้าอยู่ดีๆไม่ชอบ...“ ชอบประโยคของแม่พี่นุมากค่ะ. ไม่รุ้ทำไม
คงเป็นเพราะให้ความรุ้สึกแบบว่า. เป็นคนไม่ยุ่งกับใคร. แต่ถ้าใครมาทำร้ายก็พร้อมเอาเรื่องนะ

หลายคนแย่งซีนพระเอกอ่ะ. ทั้งพี่นุฮและวารินทร์. คือพระเอกถูกบรรยายว่าเก่งจริง
แต่คุณโยอุบเงียบเรื่องความเก่ง. ผิดกับพี่นุและรินทร์(ที่ไปเป็นทาซานช่วยสาว) อิอิ
และคนสุดท้ายคือลุงหมาน 555. คนนี้มาเหนือเมฆมาก.

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


coonX3 22 มี.ค. 2558, 06:51:49 น.
กองหนุนวาลาดาเริ่มปฏิบัติการแล้ว หวังว่าจะรอดผลจากมาร ทำยังไงใหมารไม่รู้ ทางพี่นุน่าจะเป็นเป้าหมายต่อไป ชอบรินจัง ตรงๆๆดี


Pat 22 มี.ค. 2558, 06:59:47 น.
ชักสงสัยลุงหมานเป็นลูกชายอาจารย์การีมถึงไม่ธรรมดา นี่อาจจะเป็นการรู้กันระหว่างก๊อตกับลุงหมานถึงกันวามาเก็บไว้ในที่ปลอดภัย แม่ก๊อตเคยเจอโดนเรื่องมนต์ดำมาก่อนน่าจะเฉลียวใจบ้างนะเรื่องวา ตอนนี้ยกให้เงาะเป็นเป็นพระเอกเลยค่ะ


เดิมเดิม 22 มี.ค. 2558, 07:37:06 น.
ลุงหมานนี่ผู้พิทักษ์หนูวาแล้ว ถ่ายรูปแม่ลูกส่งให้ก๊อตแน่เลย




konhin 22 มี.ค. 2558, 07:54:55 น.
ชอบพี่นุ มาที่ไรแย่งซีนทุกที โดยเฉพาะที่คาดโทษก๊อตถ้าไม่ตายจริง ฮามาก คือ คิดว่าพี่นุรู้ว่าก๊อตหน่ะ เจ้าเล่ห์ เลยเลือกไม่ปักใจเชื่อ
วาท้องสอง อึ้ง แบบว่า วาทำไมไม่โดนมนต์ดำไม่ให้มีลูกหรือเพราะคิดว่าก๊อตไม่สนใจวาแล้ว นาดีมเลยมองข้าม รอด
ที่คิดๆไว้นะ ยังไงก๊อตจะโอนสมบัติให้ใครก็ได้ป่ะใบสมรสไม่เกี่ยว มรดกคงแอบทำให้ลูกคนโตไปแล้วแต่อาจจะให้เวลาไว้ซักปีก่อนเปิดพินัยกรรมเผื่อให้ตัวเองหรือคนอื่นช่วยเปิดโปง
เพราะงั้น นาดีมตอนนี้ถือครองกรุสมบัติ แต่ถ้าลูกเกิดแล้วโดนพี่นุจัดการแน่ๆ หรือว่าจะโดนก่อน
มารมีแค่สองเหรอคะ ไม่น่านะ น่าจะมากกว่านั้น ให้บ้านโน้นเป็นกันหมด พ่อมารหรือจะไม่รู้


แว่นใส 22 มี.ค. 2558, 20:10:49 น.
เอารูปไปฝากคนซ่อนตัวเหรอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account