เล่ห์ร้าย...ดวงใจปรารถนา
เพราะไฟปรารถนาที่ลุกโชนภายในจิตใจ ทำให้คิมหรัตน์ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้สาวน้อยอย่างชื่นชีวามาครอบครอง แม้จะรู้ดีว่ามันไม่สมควรเพราะเธออยู่ในฐานะเด็กในการอุปการะของพี่สาวตัวเอง แต่เมื่อเสียงของหัวใจเรียกร้องเกินทัดทาน เขาจึงยอมสวมบทเป็นซาตานร้ายเพื่อพิชิตใจเธอ
Tags: แนวตบจูบ...

ตอน: โชคชะตาที่พัดพาให้มาเจอ 1.1

6 ปีผ่านไป

แสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่กระทบมายังห้องนอนกว้าง ร่างบางที่นอนหลับอยู่รู้สึกได้ถึงไออุ่นของแสงแดดอ่อนยามเช้า เหมือนเป็นสัญญาณปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้นจากภวังค์หลับใหล จากเด็กสาววัยใสแก้มยุ้ยขี้งอแง ตอนนี้ชื่นชีวากลายเป็นสาวสวยหุ่นดีปราดเปรียว ดวงตากลมโตดำเข้มเบิกกว้าง ขนตาแพเข้มงอนงามก่อนที่ดวงตาคู่ใสจะกระพริบตาถี่ๆ ปรับสภาพกับแสงที่ส่องเข้ามาในห้อง ร่างบางลุกขึ้นก่อนที่จะขยับตัวพับผ้านวมผืนหนาวางยังปลายเตียง

“อากาศเมืองไทยดีจริงๆ เลย ชื่นใจที่สุด” เสียงใสเอ่ยกับตัวเองเมื่อสัมผัสถึงความสดชื่นของบรรยากาศยามเช้าของเมืองไทย ร่างบางยกข้อศอกทั้งสองข้างขึ้น บิดร่างไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยล้าในร่างกายพร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเหมือนจะซึมซับความรู้สึกนี้ไว้นานๆ นี่เป็นเช้าวันแรกที่เธอได้ตื่นขึ้นมาใต้ฟ้าเมืองไทยหลังจากที่แคททรียาส่งเธอไปเรียนยังมหาลัย Central Queensland University ที่ซิดนีย์ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลา 5 ปีเต็ม ชื่นชีวาทรงตัวลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปพบกับแคททรียา เมื่อคืนกว่าหญิงสาวจะถึงมาบ้านอิสระกุลชัยก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนเพราะตอนที่เธอกลับมาเป็นช่วงต้นเดือนกันยายนหรือเรียกว่า day light saving เวลาในออสเตรเลียจึงต่างกับประเทศไทยถึง 4 ชั่วโมงทำให้ชื่นชีวาเดินทางมาถึงเมืองไทยช้ากว่ากำหนด เธอเลยไม่มีโอกาสได้พบกับแคททรียา เช้านี้หญิงสาวจึงตั้งใจจะไปกราบและกอดแคททรียาให้หายคิดถึง

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

เสียง เคาะประตูหน้าห้อง ส่งผลให้ร่างใหญ่ซึ่งกำลังนอนหลับอย่างสบายใจต้องตื่นขึ้นด้วยความหงุดหงิด ก็กว่าชายหนุ่มจะกลับจากงานเลี้ยงของบริษัทที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าก็ปา เข้าไปเกือบตี 3 ชายหนุ่มยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย ใครนะช่างกล้ามาขัดใจเขาในเวลาตอนนี้ ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาด้วยท่าทางงัวเงียร่างกายกำยำ แผงอกกว้างเปลือยเปล่า หน้าท้องไร้ซึ่งไขมัน ร่างใหญ่ยืนผงาดพิงร่างกับประตูด้วยความเพลียและงุนงง เขาไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าใครกันแน่ที่มายืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง มือหนายกขึ้นป่ายมือไปมาเพื่อไล่ใครบางคนที่ยืนเกะกะอยู่หน้าห้องให้ออกไป ให้พ้นเพราะเขาต้องการจะพักผ่อนและไม่อยากให้ใครรบกวนอีก

“บอกพี่แคทด้วย วันนี้ฉันไม่ทานอาหารเช้า ฉันจะนอน ไป ไป ไปได้แล้ว ถ้าไม่มีอะไรสำคัญหรือใครไม่ตายก็ไม่ต้องขึ้นมาอีก” สิ้นคำสั่งชายหนุ่มก็ปิดประตูใส่หน้าหญิงสาวทันที แล้วก้าวเท้ากลับไปยังเตียงนอนก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงกว้างเพราะความเหนื่อย ล้าจากการทำงานคิมหรัตน์จึงต้องการพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ปล่อยให้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องต้องตกตะลึงกับปฏิกิริยาที่ชายหนุ่มแสดงออกมา ชื่นชีวายืนงงกับภาพที่เห็นเธอตั้งใจว่าจะมาแคททรียาที่ห้อง ก็เมื่อก่อนเธอยังจำได้ดีว่าห้องนอนห้องนี้เป็นห้องนอนของแคททรียาเธอเคยมา หาแคททรียาอยู่บ่อยๆ แถมบางครั้งก็มานอนค้างกับแคททรียาด้วยซ้ำไป แต่ทำไมวันนี้ชายหนุ่มคนนี้ถึงมายืนเสนอหน้าที่ห้องนี้ได้

ไม่ ใช่เธอจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เขาคือคิมหรัตน์ ลาปาเตโร่ อิสระกุลชัย น้องชายสุดรักสุดหวงของแคททรียา เพราะครั้งหนึ่งชายหนุ่มเคยวิ่งชนเธอจนล้มก้นกระแทกพื้นมาแล้ว แต่ตอนนั้นเธอยังเด็กมากเพิ่งจะย้ายมาอยู่ที่นี้ได้ไม่นาน และตอนนั้นชายหนุ่มก็ยังเป็นหนุ่มเลือดร้อนผิดกับตอนนี้ที่ดูจะโตเป็น ผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ เธอจำได้ว่าตอนนั้นคิมหรัตน์กลับมาเที่ยวเมืองไทยกับเพื่อนอีกสองคน เธอเพิ่งจะกลับจากเรียนหนังสือยังไม่ทันได้เข้าบ้านเลยด้วยซ้ำก็ชายหนุ่ม วิ่งชนจนล้มนั่งร้องเจ็บอยู่กับพื้น โครงหน้าคมเข้ม แววตาสีฟ้าเข้ม รูปร่างที่หล่อเหลาเรียกมนต์สะกดให้เด็กสาวอย่างเธอเผลอมองใบหน้าหล่อนี้ อยู่นาน แต่หลังจากเอ่ยคำขอโทษเพียงคำเดียวเขาก็วิ่งขึ้นรถขับออกไปข้างนอกหน้าตาเฉย ปล่อยให้เธอต้องพยุงตัวขึ้นด้วยความเจ็บ หลังจากนั้นเธอและคิมหรัตน์ก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเพราะตอนที่คิมหรัตน์กลับมา อยู่เมืองไทยเธอก็ถูกแคททรียาส่งไปเรียนที่ออสเตรเลียเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยและรู้จักกันเนื่องจากแคททรียาไม่ยอมให้เธอกลับมา เมืองไทยเลยตลอดระยะเวลาห้าปีเต็ม ส่วนใหญ่แคททรียาจะเป็นคนบินไปเยี่ยมเธอมากกว่าเวลาที่เธอเอ่ยปากว่าจะ ขอกลับมาเมืองไทยจึงทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกตลอด ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับใครนอกจากแคททรียาเพียงคนเดียว

*********************

หลัง จากชื่นชีวาตั้งสติได้ก็รีบวิ่งลงไปยังข้างล่างของบ้านซึ่งเธอคุ้นเคยเป็น อย่างดี หญิงสาวเดินเข้าครัวไปหาป้านวล คนรับใช้เก่าแก่ของบ้านอิสระกุลชัย สายตาคู่สวยมองหาป้านวลอยู่นานจนในที่สุดก็สะดุดเข้ากับหญิงชราวัยหกสิบ ปลายๆ ร่างท้วมผิวขาวเหลืองที่ยังคงดูเปล่งปลั่งไม่เคยเปลี่ยนกำลังยืนหันหลังทำ ขนมหวานที่ชวนส่งกลิ่นหอมหวานโชยแตะจมูกหญิงสาวเข้าอย่างจัง ชื่นชีวาสาวเท้าไม่ถึงสามก้าวก็เดินเข้าประชิดถึงร่างของป้านวล และเหมือนหญิงชราจะรับรู้หรือสัมผัสได้ว่าอะไรบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้ตัว หรือกำลังมีใครบางคนแอบมายืนอยู่ข้างหลัง แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าเป็นหวาน สาวใช้ลูกมือจึงรีบออกคำสั่ง

“นังหวานหยิบน้ำตาลให้ป้าหน่อย เร็วๆ” ชื่นชีวาเมื่อเห็นว่าป้านวลออกคำสั่งโดยที่ ไม่รู้เลยว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นใครจึงหยิบน้ำตาลส่งให้ป้านวลพร้อม ทั้งก้าวเข้าไปกอดหญิงชราไว้จนแน่น ทำให้หญิงชราร่างท้วมตกใจไม่น้อยกับจังหวะโอบกอด จึงหันกลับมามองด้วยความสงสัย

“คุณหนูชีวา!”

“คุณหนูชีวาจริงๆ ด้วย สุดที่รักของป้ากลับมาแล้วเหรอค่ะ โตเป็นสาวแล้ว สวยขึ้นเป็นกองเลยนะค่ะ” หญิงชรารับขวัญคุณหนูสุดสวยด้วยการกล่าวคำชมถึงความสวยทั้งหน้าตา ผิวพรรณ จมูกนิ่มจรดบนแก้มนวลทั้งสองข้างฟอดใหญ่ๆ จนชื่นชีวาเกิดอาการดีอกดีใจหอมแก้มตอบกลับป้านวลหนักๆ อย่างไม่ยอมแพ้

“ชีวาก็คิดถึงป้านวลที่สุดเลยค่ะ คิดถึงมากๆ” มือบางเอื้อมมากอดเอวหนาของหญิงชราไว้แน่น ไม่ยอมคลายเหมือนกลัวว่าจะมีใครมาแย่งไป พลางก้มศีรษะลงออดอ้อนเอาใจอย่างเต็มที่

“คุณหนูทานอะไรหรือยังค่ะ หิวหรือเปล่าเอ่ย เดี๋ยวป้าจัดอาหารให้นะค่ะ นี่วันนี้ป้าทำบัวลอยไข่หวานด้วย น่าทานไหมค่ะ” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นพร้อมทั้งจับมือนุ่มที่กอดเอวไว้ด้วยความคิดถึงส่งผ่านความรักความห่วงใยที่มีให้กันตลอดมา

“ยังไม่หิวค่ะ รอทานกับป้านวล นะ นะ นะค่ะ” คางมนยังคงกดอยู่ที่ไหล่ท้วม พร้อมทั้งส่งเสียงหวานออดอ้อนไม่ขาดปาก

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ รออีกแป๊บนะค่ะ ใกล้จะเสร็จแล้ว”

“ได้ค่ะ กี่แป๊บก็รอได้ ฝีมือป้านวลอร่อยคุ้มค่าการรอคอยอยู่แล้ว”

“ปากหวานไม่เคยเปลี่ยนเลยนะค่ะ คุณหนูของป้าเนี่ย”

“อยู่ แล้วคะ ก็ชีวาเป็นลูกมือป้านวลนี่ค่ะ” เสียงหัวเราะและคำพูดที่หลุดจากปากบางเรียกรอยยิ้มจากหญิงชราได้เป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาป้านวลเฝ้าบ่นหาและคิดถึงชื่นชีวาอยู่ตลอดแต่ หญิงชราก็รู้ดีว่าการที่ชื่นชีวาไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปิดเทอมก็ เพราะแคททรียาไม่อยากให้ชื่นชีวากลับมาเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ บางอย่างที่คอยตามรังควาญหมายมาดเอาชีวิตเธออยู่ แคททรียาไม่อยากให้ชื่นชีวาต้องจบชีวิตลงเหมือนกับเพื่อนสนิทอย่างชณาวินท์ เธอจึงเป็นฝ่ายบินไปเยี่ยมหญิงสาวด้วยตัวเองตลอด

ชื่น ชีวานั่งรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับป้านวล และคนรับใช้คนอื่นๆ ภายในครัว หญิงสาวรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หล่อนตั้งใจจะไปไหว้แคททรียาให้หายคิดถึงแต่ป้านวลกลับบอกว่าแคททรียาเพิ่ง จะบินไปดูกิจการที่เพิ่งจะเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกสองวันถึงจะกลับ ชื่นชีวาจึงต้องบ่นออกมาด้วยความเสียดาย เธอรู้ว่าแคททรียายุ่งกับงานมากขนาดไหนเพราะเหตุนี้ เธอจึงขออนุญาตกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อจะได้ช่วยงานที่บริษัทให้สมกับที่แค ททรียาได้ส่งเสียเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดี

เวลาล่วงเลยเข้าสู่ตอนเที่ยงวัน เสียงโทรศัพท์ในห้องครัวดังขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนในครัวรับรู้ว่าตอนนี้ คุณหนูประจำบ้านอีกคน ตื่นนอนแล้วและกำลังจะสั่งอาหารขึ้นไปทานยังห้องนอนซึ่งชายหนุ่มมักจะทำแบบนี้เป็นประจำ ทันทีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียงตอบรับจากป้านวลก็ตามมาติดๆ การเอาอกเอาใจคิมหรัตน์ทำให้ชื่นชีวาที่นั่งฟังอยู่นึกหมั่นไส้ชายหนุ่มขึ้นมากับการอวดดีหยิ่งผยอง ด้วยคำสั่งที่ยังดังก้องหูเจ้าหล่อนอยู่ “แค่ลงมาทานอาหารข้างล่างแค่นี้มันจะตายหรือไงนะ เอาแต่ใจจริงๆ” ชื่นชีวานึกเอ็ดการกระทำของคิมหรัตน์อยู่ในใจ

เมื่อป้านวลจัดเตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็เรียกหาลูกน้องคู่ใจ

“นังหวาน นังหวานอยู่ไหนมายกอาหารขึ้นไปให้คุณคิมหน่อยเร็ว” แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ จากปลายเสียงของชื่อที่หญิงสูงวัยเอ่ยเรียก จนร่างสวยของชื่นชีวาที่นั่งหน้างออยู่ต้องรีบเตือนหญิงชรา

“ป้านวลค่ะ หวานออกไปซื้อของข้างนอกคะ ก็เมื่อตะกี้หวานมาขออนุญาตกับป้านวลเองนี่ค่ะ แล้วป้านวลก็ให้หวานออกไป ป้านวลจำไม่ได้หรือค่ะ” ชื่นชีวาช่วยพูดเตือนสติ

“ป้าลืมไปเสียสนิทเลยค่ะคุณหนู คนแก่ก็อย่างนี้ล่ะค่ะ พอแก่เข้าหน่อยก็ฟั่นเฟือนจำโน่นจำนี่ไม่ค่อยจะได้”

“ถ้าอย่างนั้นคุณหนูช่วยยกอาหารไปให้คุณคิมหน่อยนะค่ะ” หญิงชราจึงไหว้วานให้ชื่นชีวายกอาหารขึ้นไปให้แทน จะไปใช้คนรับใช้คนอื่นก็ไม่ได้เพราะต่าง คนต่างมีหน้าที่ต้องทำ ทำให้ชื่นชีวาต้องรีบแย้งขึ้นทันควัน

“แต่ว่า…” เสียงที่แย้งขึ้นมาไม่เป็นผล เมื่อหญิงชราออกอาการปวดแข้งปวดขาขึ้นมา ทำให้ชื่นชีวาต้องออกปากรับคำ

“จะให้ป้ายกไปคงไม่ไหวหรอกค่ะ ป้ามันแก่แล้ว ปวดเมื่อยไปหมด”

“ก็ได้ค่ะ ชีวายกขึ้นไปเองค่ะป้า แค่นี้สบายมาก” หญิงสาวรับปากแล้วรีบยกถาดอาหารที่ประกอบไปด้วย แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ผัดผักรวมมิตร แล้วก็ข้าวเปล่าจานโต



ชมพูทิวา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ค. 2554, 08:16:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ค. 2554, 14:22:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1608





<< บทนำ   โชคชะตาที่พัดพาให้มาเจอ 1.2 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account