เงามาร (กำลังรีไรท์ค่ะ)
'วาลาดา' ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ว่าตัวเองมีสามีมีลูกแล้ว
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ

เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ


คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...

เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...

ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...

หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...


ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ

โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...

รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม

ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...

เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...

และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร


และ...

หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน






...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...


...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....



Tags: ดราม่า ซุลก๊อตไนท์ วาลาดา นาดีม มาร มารร้าย ไสยศาสตร์ ญิน นุฮา อะสุเซน่า วารินทร์ อานิต้า

ตอน: บทที่ 36 เสียศูนย์ สูญเสีย




“น้าเล็ก…น้าเล็กต้องช่วยดีมน้า…” พอก้าวเข้ามาในห้องส่วนตัวภายในเซฟเฮ้าส์
ที่มีระบบการดูแลอย่างรัดกุม นาดีมก็เริ่มออดอ้อนหนุ่มใหญ่ทันที
อย่างมีจริตจก้าน…และด้วยแววตาที่ใช้ล่ามโซ่หัวใจผู้ชายมานักต่อนัก…

“จะให้น้าช่วยอะไรอีกฮึ…” เสียงนั้นฟังดูอ่อนโยนเสมอเมื่อเจอกับหญิงสาว
หน้าตาน่าสงสาร น่าทะนุถนอม แต่แฝงความเร่าร้อนเอาไว้

และไม่พูดเปล่า มือก็พยายามปลดปราการบนเรือนร่างหญิงสาวไปด้วย
ลูบไล้ร่างงามไปด้วย…

“รินทร์กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น!” ประโยคนั้นทำเอามือใหญ่
ชะงักไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับมาทำหน้าที่ของมันต่อ…

“ก็ให้มันแต่งไปสิ…ยังไงเราก็ยังมีน้า…น้ารักดีมนะ…ดีมอยากได้อะไรขอให้บอกน้า…
น้ายินดีจะหามาให้…ปล่อยเจ้ารินทร์มันไปเถอะ…”

“โธ่…น้าเล็กขา…น้าเล็กก็รู้ว่าดีมคิดยังไงกับรินทร์…ดีมทำใจไม่ได้”

นาดีมพยามออดอ้อนหนุ่มใหญ่พร้อมกับลูบไล้เรือนกายของเขาไปด้วย
ก่อนจะซบหน้าลงตรงอกกว้างนั้น…

“แล้วจะให้น้าทำยังไง…ไหนบอกมาซิ…” ว่าพลางลูบเส้นผมสลวย
บนศีรษะที่กำลังคลอเคลียอยู่ตรงแผงอกของเขาเบาๆอย่างรักใคร่

เขารักนาดีม…รักอย่างที่ไม่เคยรักใคร…ทั้งรักท้ังหลงใหล…ทั้งใคร่ทั้งโหยหา…
รูป รส กลิ่น เสียง ที่ได้เสพสมช่างทรงพลังยิ่งนัก…

“น้าเล็กช่วยจัดการให้ผู้หญิงคนนั้นไปให้พ้นๆจากชีวิตรินทร์ได้มั้ยคะ
เอาแบบที่จะไม่สามารถหวนกลับมาได้อีก…”

มือที่ลูบไล้เส้นผมนั้นอย่างเพลิดเพลินถึงกับชะงักไปอีกครั้ง…
ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสางเส้นผมนั้นด้วยนิ้วเรียวยาวสวยดั่งลำเทียน

“เธอไม่ใช่ลูกตาสีตาสาที่เราจะทำอะไรได้ง่ายๆเลยนะน้าว่า…”

“แต่ดีมรู้ว่าไม่ยากเกินความสามารถของน้าเล็กเลย…แค่ให้ผู้หญิงคนนึง
หายไปจากชีวิตรินทร์…น้าเล็กทำได้อยู่แล้ว…” หญิงสาวพยายามกล่อม
ให้อีกฝ่ายช่วยขจัดศัตรูหัวใจของตน…

“ทำน่ะทำได้…แต่…เจ้ารินทร์ล่ะ…น้าไม่อยากทำร้ายรินทร์…
เราก็รู้ว่าน้ารักรินทร์เหมือนลูกแท้ๆ…”

นั่นคือความจริง…เขากับหลานชายผูกพันธ์กันมาตั้งแต่หลานชายเพิ่งลืมตาดูโลก…
ช่วยดูแลกันและกันมาตลอด แม้พักหลังๆจะมาห่างๆกันไปบ้าง
หากสายใยผูกพันมันไม่ได้จะขาดสะบั้นลงได้ง่ายๆ…

“แล้วน้าเล็กไม่รักดีมหรือคะ…ดีมเองก็รักรินทร์…ดีมทำใจไม่ได้ค่ะ…”

หนุ่มใหญ่ลอบถอนใจ เขาเองรักนาดีมและรับรู้มาตลอดว่าหญิงสาวรุ่นลูก
แอบรักหลานชายของเขา…หลายครั้งที่เขาพบว่าเธอแอบนั่งร้องไห้
พอเข้าไปถามจึงได้รู้ว่า เธอร้องไห้เพราะวารินทร์ไม่แยแสแถมยังต่อว่ากลับมาอีก…

จากความสงสารแปรเปลี่ยนเป็นความเห็นอกเห็นใจ…
ยิ่งเห็นปัญหาครอบครัวของหญิงสาวที่พ่อแม่ไม่ค่อยลงรอยกัน
เห็นเธอโดนแม่แท้ๆรังแกและตบตีอยู่บ่อยครั้ง…จึงอดไม่ได้ที่จะอยากปลอบใจ
ให้กำลังใจเธอ…อยากเห็นเธอมีความสุข…

แต่พอได้ปลอบกันไปปลอบกันมาก็กลับหนีไม่พ้นเรื่องบนเตียง…

เด็กสาววัยสิบเจ็ด กำลังหอมหวนเย้ายวนใจ ความบริสุทธิ์แห่งวัยสาว
เสน่ห์เรือนกายของนาดีมทำให้เขาต้องทำเรื่องผิดศีลธรรมเพิ่ม…

เขาจึงเป็นชายคนแรกของเธอที่สอนให้เธอรู้จักความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง
และคอยสอนคอยฝึกให้ตลอดมา…ไม่ว่าเธอจะบินไปไกลถึงเมืองนอก
เขาก็ตามไปช่วยทำแบบฝึกหัดให้กับเธอได้อย่างไร้อุปสรรคใดๆ…

คู่หมั้นคู่หมายของเธออย่างซุลก๊อตไนท์หาได้ล่วงรู้…
แม้กระทั่งมารดาของเธอก็หาได้รู้ไม่

…ทุกอย่างเป็นความลับและเป็นความสุขที่ไม่รู้อิ่ม…

มันบาป เขารู้…แต่บาปนี้ช่างแสนหวานและหอมหวนเกินจะห้ามใจได้…

“ถ้าไม่รัก…น้าจะยอมมีลูกกับดีมหรือ…ดีมขอลูก…น้าก็ยินดีจะให้…”

แม้จะมีอะไรด้วยกันมานาน หากเขากับหญิงสาวป้องกันมาตลอด แบบรัดกุม…
แต่เมื่อไม่นานมานี้ เธอมาอ้อนวอนเขา ขอลูกจากเขา

ถ้าไม่รักไม่ใยดี มีหรือที่เขาจะอยากหาโซ่มาล่ามขาเอาไว้…

จึงอดไม่ได้ที่ลูบไปตรงหน้าท้องของเธอที่นูนขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกว่า
เลือดเนื้อเชื้อไขของเขากำลังเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน
และรอวันลืมตาออกมาดูโลกสีเทาๆใบนี้…

“ปล่อยรินทร์ไปได้ไหม…แล้วดีมอยากได้อะไร…น้าจะหามาให้ทุกอย่าง
น้าทำเพื่อดีมได้ทุกอย่าง…ดีมก็รู้…”

ไม่ว่าเรื่องพวกนั้นจะเลวทรามต่ำช้าแค่ไหน เขาก็ทำมาหมดแล้ว…
ชีวิตที่เต็มไปด้วยความโสมม มันเปลี่ยนหัวใจเขาไปแล้วตลอดกาล…

เพราะเพียงแค่การตัดสินผิดเพียงแค่ครั้งเดียว…

การทำผิดครั้งแรกนั้นช่างยากเย็น…หากเมื่อได้ทำมันลงไปแล้ว
ครั้งต่อๆไปก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไป…

เขาชินชากับการทำเรื่องเลวร้ายเสียจนกลับหลังหันไม่ได้อีกต่อไป…
กลับไปเดินบนเส้นทางที่ดีงามไม่ได้อีกแล้ว…จะว่าไม่ตั้งใจก็ไม่ใช่…
เพราะเหวลึกที่เขาก้าวถลำลงไป…มันลึกจนเกินจะปีนขึ้นไป…
มันสายเกินไปที่แก้ไขอะไรได้อีก…

เขาไม่มีเรี่ยวแรงพอจะฝ่ากระแสอันเชี่ยวกรากของมันเพื่อไปให้ถึงต้นน้ำ
อันใสสะอาดได้อีกแล้ว…ต้นน้ำอันใสสะอาดบริสุทธิ์อยู่ไกลเกินคว้า…
และเขาไม่มีเรี่ยวแรงจะไปถึงมัน

…บาปกรรมและความผิดทั้งหมดที่ทำไว้ เขายินดีจะชดใช้มันในนรก…

เพราะเขาขายชีวิตในโลกหน้าไว้ด้วยความสุขในโลกนี้แล้ว...เขาทำมันไปแล้ว…

“แต่ดีมทำใจไม่ได้จริงๆน้าเล็ก…ดีมทำใจไม่ได้…” หญิงสาวเริ่มสะอื้นตรงแผงอกเปล่า
น้ำตาของหญิงสาวแทรกซึมผ่านผิวหนัง มันอุ่นและสร้างความอ่อนไหว
ให้หัวใจอันแห้งแล้ง…และแข็งกระด้าง

“ในชีวิตดีม นอกจากรินทร์แล้ว ก็มีน้าเล็กที่เป็นความหวังของดีม…
ถ้าไม่มีน้าเล็ก…ดีมก็คงเป็นได้แค่เด็กสาวใจแตก หมดสิ้นอนาคต…
เป็นเด็กเสเพล หนีเตลิดเปิดเปิง…ไม่มีภาพพจน์ที่ดีงาม ไม่มีชื่อเสียง
ไม่มีความสามารถ ไม่มีใครยอมรับ…ไม่มีใครชื่นชม…ไม่ร่ำรวย
และสุขสบายอย่างทุกวันนี้…” น้ำตาหญิงสาวไหลพรากๆเปื้อนแผ่นอกแกร่งของบุรุษเพศ…
ที่กำลังโอบกอดเธอเอาไว้ด้วยหัวใจรัก…

“เพราะมีน้าเล็กคอยแต่งเติม เสริมสร้าง…ดีมถึงมีวันนี้ได้…”

ชายที่กำลังกอดเธอคือ ผู้ชุบชีวิตเธอให้ผ่านความอับเฉามาได้…
ครอบครัวจนๆก็ค่อยๆมั่งมี ความสุขที่ไม่เคยได้จากพ่อแม่ เขาก็เป็นผู้ทดแทนให้…
อ้อมกอดและสัมผัสของพ่อที่เธอไม่เคยได้ก็ได้เขามาคอยชดเชยและเติมเต็มให้…

เขาคือครูผู้สอนศิษย์คนเซ่ออย่างเธอเรื่องการวางตัวให้ดูดีในสังคม
สอนเรื่องบุคลิกภาพ…สอนเรื่องการพูดจาปราศัยกับผู้คนในที่สาธารณชน…

“น้าเล็กเป็นทั้งครูผู้สอนสั่ง เป็นทั้งหมอผู้เยียวยารักษา เป็นทั้งทนายเมื่อภัยมาเจอ
เป็นสไตลิสต์คอยดูแลเอาใจใส่สอดส่อง…เป็นพ่อ เป็นพี่ชาย…เป็นนักออกแบบชีวิตให้ดีม…
เป็นสามีที่มอบความสุขให้ดีม...และก็เป็นพ่อของลูกดีม…

ถึงดีมจะรักรินทร์ เพราะรินทร์คือความหวังที่ดีมยังไปไม่ถึง…
แต่กับน้าเล็ก…น้าเล็กมีค่าต่อชีวิตดีมมากกว่าใครๆในโลกนี้เลยนะคะ…”

คนฟังถึงกับยิ้มด้วยความชื่นอกชื่นใจ…โอบกอดร่างของนาดีมแน่นขึ้น
ก้มลงจูบกลางกระหม่อมนั้นอย่างรักระคนเอ็นดู

“สำหรับคนอื่นจะมองน้าเล็กยังไงดีมไม่รู้…แต่น้าเล็กคือคนดีของดีม…”

พูดจบหญิงสาวก็ช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา แลดูภูมิฐาน

อ้อมกอดชายใดก็ไม่อุ่นใจเท่าชายผู้นี้เลย…

หนุ่มใหญ่จึงก้มลงมอบจุมพิตให้กับริมฝีปากที่เอ่ยวาจาอันสร้างความชื่นหัวใจ
ที่แสนแห้งแล้งของเขา…

นาดีมสร้างความสุขให้เขาได้ทั้งกายและใจ…เธอและเขาต่างก็เคยขาดมาเหมือนกัน…
เขาไม่มีพ่อแม่ให้ความอบอุ่น เพราะท่านทั้งสองจากไปตั้งแต่เขายังเล็ก
มีเพียงพี่สาวที่คอยประคับประคองเลี้ยงดู พอพี่สาวแต่งงานออกเรือน
ก็เอาเขาไปอยู่ด้วย เขาจึงมีพี่เขยที่ทำตัวเหมือนพ่อคนที่สองของเขา…
หากก็ไม่อาจเป็นพ่อของเขาได้จริงๆ…

พี่สาวที่แสนดีก็ให้ความรู้สึกของแม่ที่เขาขาดไปไม่ได้…
มีเพียงหลานชายท่ีพอจะทำให้ชีวิตเขาสดชื่นขึ้นมาได้บ้าง…
แต่ชีวิตก็ยังดูขาดๆเกินๆ…

หลายครั้งที่พยายามหาสิ่งนั้นสิ่งนี้มาเติมเต็มช่องว่างในหัวใจ…แต่เติมยังไงก็ไม่เต็มเสียที…
หัวใจเขามันมีรอยรั่วมากเกินที่ใครจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในนั้นได้หมด…
ยิ่งค้นหาตัวเองเท่าไหร่ก็ยิ่งหาไม่เจอ…

แต่พอได้เจอคนที่เหมือนๆกัน เจออะไรมาคล้ายๆกัน
มันจึงเหมือนแม่เหล็กดึงดูดให้เข้าหากัน

ชีวิตเขาจึงมีเพียงนาดีมที่พอจะเข้าใจและทำให้เขาสัมผัสถึงความสุข
ในการมีชีวิตขึ้นมาบ้าง…

เขาอยากแต่งงานกับนาดีม อยากใช้ชีวิตคู่อย่างคนธรรมดาทั่วๆไปกับเธอ…
แต่มันก็เป็นแค่ความคิด เพราะในชีวิตจริงมันเป็นไปไม่ได้…
เงื่อนไขในชีวิตเขาอีกมากมายทำให้ไม่สามารถลงหลักปักฐานกับใครได้…

โดยเฉพาะกับหญิงสาวผู้นี้!

เธอคือบุคคลต้องห้ามสำหรับเขามานานแล้ว เป็นมาตั้งแต่ต้นแล้ว…

“พรุ่งนี้รินทร์จะแต่งงานแล้ว…น้าเล็กต้องช่่วยดีมนะคะ…อย่าให้ใครเอารินทร์ไปนะคะ…”

หญิงสาวที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของหนุ่มใหญ่ ออดอ้อนเสียงหวาน
มือก็ลูบไล้ไปบนแผงอกนั่น…

“ได้สิคนดีของน้า…แต่…” นาดีมผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าของเขา แล้วเลิกคิ้วสูง
แววตาทอดมองอย่างต้องการคำตอบ

“แต่อะไรคะ…” ใบหน้าหล่อเหลาฉายยิ้มพราว

“แต่ต้องทำให้น้าพอใจก่อนนะ…ทำได้หรือเปล่า…”

“แต่เมื่อกี้ก็…” หญิงสาวเว้นช่องไฟ ทำหน้าเก้อเขินอย่างมีจริตจก้าน

“ยังจ่ะ…ยังไม่พอใจเท่าไหร่เลย…” พูดจบก็ก้มลงมอบความสุข
พร้อมกับตักตวงความสุขจากหญิงสาวอีกครั้ง
ก่อนจะลดตัวลงมานอนข้างๆ ดึงหญิงสาวเข้ามาสวมกอดเมื่อไฟรักมอดลง
รู้สึกอิ่มเอมและเต็มตื้นด้วยความสุข

…มนุษย์คนอื่นในโลกกว้างๆใบนี้จะแสวงหาความสุขอย่างไรเขาไม่รู้
แต่นี่คือรูปแบบที่เขาและเธอต่างก็ใช้หาความสุขใส่ตัวอยู่เสมอ…

“น้าเล็ก!” นาดีมผวาลุกขึ้น มองคนที่นอนข้างๆด้วยแววตาหวาดหวั่น

“แม่กำลังมา…ดีมต้องรีบไปแล้ว…” แล้วก็รีบลุกขึ้นแต่งตัวทันทีอย่างเร่งรีบ
มองนาฬิกาบนฝาผนัง บอกเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า
หญิงสาวไม่รอช้า ก้มหน้าหอมแก้มหนุ่มใหญ่ที่ลุกขึ้นมานั่งมองเธอ
อยู่บนเตียงพร้อมกับบอกว่า

“ดีมต้องไปแล้ว…เอาไว้ดีมจะมาหาน้าเล็กอีกนะคะ…”
หนุ่มใหญ่คว้าร่างนาดีมเข้ามากอดแล้วหอมแก้มซ้ายขวา

“น้าจะรอนะครับ…”

“น้้าเล็กต้องไม่ลืมที่ดีมขอน้า…” ไม่วายทวงสัญญา หนุ่มใหญ่ยิ้ม
ก่อนจะปล่อยร่างนั้นให้เป็นอิสระเมื่อพูดว่า

“ครับ…น้าไม่ลืม…” ก่อนจะกำชับเธอว่า

“อย่าลืมออกทางเส้นทางลับนะดีม…แล้วที่สำคัญ…ระวังตัวด้วย…”
นาดีมยิ้มกว้าง

“ค่ะ…ดีมจะระวัง…เพราะตอนนี้ดีมมีลูกของเราให้ต้องดูแลนี่คะ…”
ว่าพลางลูบหน้าท้องของตัวเอง

“แล้วเจอกันค่ะ…” แล้วร่างนั้นก็หายไปตามชองทางลับที่จะไปพาสู่อุโมงค์ใต้ดิน
ก่อนจะไปโผล่ตรงทางออกอีกแผ่นดินหนึ่งซึ่งลับตาคน
และแผ่นดินนั้นก็เป็นของเขาที่ใครจะเข้ามาเดินเพ่นพ่านไม่ได้โดยง่าย



เพียงไม่นานนัก คุณหญิงวรลักษณ์ก็มาถึงด้วยสีหน้าท่าทาง
เหมือนไปฟัดกับใครมา

“นังดีมมันหายไป…พี่ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ…” น้ำเสียงและสีหน้าหงุดหงิดนั้น
ส่งผลให้คนที่อยู่ในชุดลำลอง แลดูเรียบร้อยคลี่ยิ้มออกมา

“แล้วทำไมอยู่ๆถึงอยากเจอดีมล่ะครับ…”

“พี่กลัวมันทำเสียเรื่อง…พรุ่งนี้เจ้ารินทร์มันจะแต่งงานแล้วนี่…
นังดีมมันต้องเดือดแน่ๆ…และมันอาจจะทำอะไรโดยไม่ทันยั้งคิด…”

“อย่างเช่นการทำให้พี่ต้องสูญเสียกรุสมบัติกับคฤหาสน์หลังนั้นไปน่ะหรือครับ”

หญิงกลางคน ทว่ารูปร่างและใบหน้ายังคงอ่อนกว่าวัยอยู่หลายปี
หันมามองใบหน้าหล่อเหลาของชู้รักที่รู้ทันความคิดนางแทบทุกอย่างแล้วได้แค่คลี่ยิ้ม
เดินเข้าไปหา วางมือลงบนแผงอกนั่น

“ก็ถ้ากรุสมบัติกับคฤหาสน์หลังนั้นมันหลุดลอยไปได้อีก…ไอ้ที่เราวางแผนกันมา
มันก็ไร้ค่าไร้ความหมายน่ะสิ…พี่รับไม่ได้หรอกนะเล็ก”

ว่าพลางก็ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของคนตรงหน้าไปด้วย

“ดีมคงไม่คิดจะทำอะไรให้ตัวเองต้องสูญเสียหรอกครับพี่…”

“เชื่อได้ที่ไหนกัน…มันคิดอะไรของมันแต่ละอย่าง…บางครั้งก็เข้าที บางครั้งก็สิ้นคิด…”

มือเรียวจับมือที่กำลังแหวกสาบเสื้อของเขาเอาไว้
เพราะเขายังไม่พร้อมจะเริ่มใหม่ในตอนนี้…

“แล้วพี่คิดจะทำยังไงล่ะครับ…” พูดเหมือนจะเข้าใจเจตนาของคนตรงหน้า

เพราะเขากับผู้หญิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าคบหากันมานานตั้งแต่เขาเพิ่งเข้าสู่วัยหนุ่ม
ยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่กำลังเคว้งคว้าง สับสนและเริ่มค้นหาตัวเอง

ตอนเพิ่งเรียนจบด้านศาสนากลับมาใหม่ๆ พี่เขยก็ได้แนะนำให้เขาทำความรู้จัก
กับเพื่อนสนิทซึ่งเป็นสามีของผู้หญิงตรงหน้า และพลอยทำให้เขาได้รู้จักเธอผู้นี้ไปด้วย…

ได้รู้ว่าเธอมีลูกสาวตัวน้อยๆที่น่ารักน่าเอ็นดูและน่าสงสารคนหนึ่งอายุรุุ่นราวคราวเดียว
กับหลานชายของเขา…

หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆถูกดึงเข้าสู่หุบเหวนรก…และผู้หญิงตรงหน้าก็คือ
การตัดสินใจผิดพลาดครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของเขา
ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้…


ผู้หญิงคนนี้ในวันนั้น สวยงาม บอบบาง น่าทะนุถนอม
ไม่ต่างจากนาดีมผู้เป็นลูกสาวในวันนี้เลย…

และด้วยความอ่อนต่อโลก ไม่เจนสังคม ไม่รู้เท่าทันมารยาหญิง…
เขาจึงต้องเอาชีวิตที่เคยดีงามไปแลกกับดอกไม้ไฟที่คอยเผาผลาญจิตวิญญาณของเขา
ไปพร้อมๆกับความสุขหฤหรรษ์ที่เธอผู้นี้มอบให้มาโดยตลอด
อย่างไม่มีเกรงกลัวกับความร้อนของดอกไม้ไฟดอกนี้…

โดยที่ผู้เป็นสามีของเธอผู้นี้ไม่เคยได้ล่วงรู้…เขาต้องเป็นชู้โดยที่ทำอะไรไม่ได้…
จะว่าเต็มใจคงไม่ใช่…แต่จะว่าถูกบังคับก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน…

เพราะเขาในวันนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากแมลงเม่าบินเข้ากองไฟเลย…
ไม่เคยเสียดายวิญญาณที่ถูกสังเวย ไม่เคยนึกถึงบาปบุญคุณโทษ
ขอเพียงแค่ได้ลอง เขาในวันนั้นก็พร้อมจะกระโจนเข้ากองไฟ…

กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร...มันก็สายเกินเยียวยา…

“พี่อยากให้เล็กช่วยพานังดีมไปอยู่ที่ไหนสักพัก เอาให้ไกลๆ…”
คนฟังถึงกับกระตุกคิ้ว

“ยังไงครับ…”

“ก็กักตัวมันไว้สักพัก อย่าให้มันออกมาทำให้เสียเรื่อง
รอให้มันคลอดลูกจนเสร็จ แล้วพี่จะเอาลูกของมันมาเลี้ยงดูเอง…
ส่วนมันจะไปแอบมีสัมพันธ์ลับกับใครพี่จะไม่ขัดขวางเลย…
ขอแค่อย่าให้เรื่องมันแดงออกมาก็พอ…อย่างน้อยตอนนี้ก็ขอเวลายักย้ายถ่ายเท
ไอ้สมบัติพวกนั้นก่อน…”

“ไหนพี่บอกว่า อยากได้ครอบครอง แต่ไม่อยากขายยังไงล่ะครับ…”

“มันก็ใช่…แต่ถ้าเกิดวันใด นังดีมมันเกิดทำเสียเรื่องขึ้นมา พี่ก็แย่สิ
ดังนั้น ตอนนี้พี่ขอเวลาเคลื่อนย้ายพวกสมบัติล้ำค่าพวกนั้นไปไว้ที่อื่นก่อน…

แต่ไอ้ระบบป้องกันภัยของมันนี่สิแก้ยากเหลือเกิน…แตะต้องไม่ได้…
พอแตะหรือยกย้ายก็จะมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น…

นังดีมมันบอกว่า…ซุลก๊อตไนท์มีรหัสลับที่ทำให้ระบบนิรภัยพวกนี้หยุดการทำงาน…
แต่นังดีมมันดันลืมคิดเรื่องนี้ก่อนปลิดชีพไอ้ก๊อต…มันน่ะพลาดตลอด…
พลาดโดยไม่เคยรู้ตัวเลยว่าพลาด…แล้วตอนนี้ไอ้ก๊อตมันก็ไม่อยู่ให้ถามแล้ว…
แม่มันก็ด้วย…เฮ้อ…” เสียงถอนใจดังขึ้น พร้อมกับเดินไปนั่งลงตรงโซฟาตัวงาม
หมดอารมณ์พิศวาสขึ้นมาเมื่อคิดถึงผลประโยชน์ต่างๆที่ยากเย็นแสนเข็ญกว่าจะได้มา

“และไม่รู้ว่ามันเอาไอ้รหัสพวกนั้นไปซ่อนไว้ที่ไหน…พี่เชื่อว่ามันต้องมี
ตอนนี้พี่กำลังพยายามสอบถามไอ้พวกทนายนั่นอยู่ มันก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้…
บอกว่าคนที่เก็บรหัสคือคนเดียวที่จะบอกผู้มีอำนาจและสิทธิ์ในกรุสมบัติคนต่อไปได้…
ถ้าเขาไม่บอก…ใครก็ทำอะไรไม่ได้…แล้วอย่างนี้พี่จะทำยังไง…
ไม่คิดเลยว่าจะมีอะไรบ้าๆแบบนี้อีก…คราวที่แล้วก็สมบัติไอ้ก๊อตมันก็เพิ่งจะชวดมา…
รอบนี้ก็ต้องมาปวดหัวกับไอ้กรุสมบัตินั่นอีก…ไอ้พวกทนายมันเจ้าเล่ห์
และคงหวังในกรุสมบัตินั่นเหมือนกันนั่นแหล่ะ...ปากว่าตาขยิบกันท้ังนั้น…”

ไม่วายบ่นถึงคนโน้นคนนี้ที่ไม่ได้ดั่งใจ…จนต้องหอบความเครียด
มาให้คู่ขาช่วยแบกรับอย่างเคย…

“คนรวยที่มีสมบัติล้ำค่าก็มักจะมีวิธีดูแลสมบัตินั้นน่ะครับ…ไม่แปลก”

คนที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบสนิท ไม่บ่งบอกอารมณ์ใด

“แต่พี่เชื่อว่าสักวันมันต้องมีหนทาง เพียงแต่ตอนนี้พี่ไม่ไว้ใจนังดีมมัน
เล็กช่วยหาทางล่อมันออกไปกักตัวไว้ที่ไหนสักพักได้ไหม…”

“แต่ดีมอยู่ในช่วงกำลังต่อสู้ดำเนินคดีอยู่นะครับ…”

“แค่เสียทรัพย์ประกันตัวน่ะ…ไม่เท่าไหร่หรอก…อีกอย่างไอ้พวกนั้น
มันก็หาหลักฐานอะไรที่เด็ดๆมามัดตัวพี่กับนังดีมไม่ได้สักอย่าง…
นังบัวมันก็ไม่ได้รู้เห็นอะไรมากมาย…จะชี้ตัวคนร้ายสักคนก็ไม่ได้…
เพราะว่าจำหน้าคนร้ายไม่ได้สักคน…เขาถึงยอมให้ประกันตัวไงล่ะ…”

คนฟังลอบถอนใจ หากลึกๆแล้วก็อดพอใจไม่ได้เช่นกัน…
เพราะเขาเองก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจและชื่อเสียงของหลานชาย
พอๆกับอยากเก็บนาดีมเอาไว้ใกล้ๆตัว…

“ผมจะลองคิดดู…”

“คิดไม่ทันแล้วเล็ก…ต้องดำเนินการเลย…เพราะพรุ่งนี้นังดีมมันอาจจะ
ไปอาลาวาตในงานเขาก็ได้…เล็กต้องช่วยพี่ตามหาตัวนังดีมมันให้เจอภายในคืนนี้นะ
ไม่งั้นเรื่องได้ยุ่งกันไปใหญ่แน่ๆ…พี่มั่นใจว่านังดีมมันไม่มีทางอยู่เฉยๆแน่
มันเองก็คงจะเพิ่งรู้เรื่องนี่แหล่ะ เพราะหลานชายเล็กน่ะ อยู่ๆก็ประกาศแต่งงาน…
ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย…”

“ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันครับ…” ใช่ เขาเองก็เพิ่งรู้ก่อนหน้านาดีมจะมาหานี่เอง…

“เล็กต้องช่วยพี่นะเล็ก…พี่ไม่รู้จะไปขอพึ่งใคร…มีแต่เล็กคนเดียวที่พี่พึ่งได้…”
ร่างอวบเริ่มขยับเข้าแนบชิดหนุ่มใหญ่ทันทีพร้อมด้วยน้ำเสียงและท่าทางออดอ้อนออเซาะ
ไม่ได้แตกต่างไปจากนาดีมเลย

แม่ลูกคู่นี้เหมือนกันเหลือเกิน เหมือนกันจนแทบแกะกันออกมาเลยทีเดียว
จะต่างกันก็เพียง นาดีมดูน่าเห็นใจกว่าก็เพียงเท่านั้น…

และเพราะไอ้ความเห็นใจนั่นแหล่ะที่ทำให้เขารักนาดีม หลงเธอ
ยิ่งกว่าผู้หญิงตรงหน้านี้หลายเท่านัก…

“เราไม่มีอะไรกันมานานแล้วนะเล็ก…พี่เองก็เหงาๆ…” ว่าพลางก็กระแซะเข้ามาแนบชิด

“แต่ผมคงไม่มีเวลา เพราะพี่เร่งรัดผมให้จัดการกับดีมไม่ใช่หรือครับ”

หนุ่มใหญ่อาศัยเหตุผลดังกล่าวในการหลีกเลี่ยง…และหลบหลีก
เพราะเขารู้ว่าคู่ขาของคุณหญิงวรลักษณ์ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว…
ผู้หญิงคนนี้มีคนอื่นในสังกัดอีกไม่น้อย…ส่วนสามีจะรู้ในเรื่องพฤติกรรมมากรัก
หลายชายของภรรยาตัวเองหรือไม่นั้น เขาเองก็ไม่แน่ใจ…

แต่ถ้าไม่โง่จนเกินไป ก็น่าจะรู้ได้ตั้งนานแล้ว…

เพียงแต่เขามั่นใจว่า ท่านสนธยายังไม่เคยรู้ว่าเขากับเมียตัวเองมีอะไรกันก็เท่านั้นเอง…
เพราะถ้ารู้…เรื่องคงมาไม่ไกลถึงขั้นนี้แน่

“โธ่…เล็ก…” สีหน้านั้นกระเง้ากระงอด ก่อนจะกอดร่างสูงเอาไว้

“เอาไว้คราวหน้านะครับ…วันนี้ผมไม่มีอารมณ์จริงๆ…พี่ก็รู้ว่า
ผมกำลังเครียดๆกับหลายๆเรื่อง…” เมื่อเจอเข้ากับประโยคนี้คนที่กะจะมาหา
เพื่อระบายความเครียดและระบายอารมณ์เหงาเลยได้แต่ยืนตีหน้าเศร้า

“ตำรวจเริ่มได้กลิ่นเรา…ผมเองต้องรีบหาอะไรมาอุดไม่ให้กลิ่นรั่วออกไป
กระทบจมูกพวกมันอีก…พี่ต้องเข้าใจนะครับ…”

พูดจบก็ก้มลงจุมพิตกลางหน้าผากชู้รักแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นทุกครั้ง…

“พี่รักเล็กนะ…กับคนอื่นๆพี่ก็แค่เล่นๆสนุกๆเท่านั้นเอง…แต่กับเล็กแล้ว...พี่รักเล็ก…”

“แล้วกับพี่สน…”

“ก็อย่างที่พ่ีเคยบอกเล็กมานับครั้งไม่ถ้วนนั่นแหล่ะ…ว่าพี่ไม่ได้รักใคร่ใยดีอะไรเขาเลย…
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นพ่อของนังดีม พี่เลิกไปซะตั้งนานแล้ว…”

จริงๆแล้วเลิกไม่ได้มากกว่า เพราะว่าถ้าเลิกก็เท่ากับขุดหลุมฝังตัวเองเท่านั้น…
เพราะสามีเธอตอนนี้กำลังรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน อนาคตกำลังไปได้สวย…
อาจจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งในอีกไม่ช้า…

แล้วเธอจะหย่าทำไมให้เสียโอกาสทางสังคม…

“ครับ…” หนุ่มใหญ่ได้แต่ลอบถอนใจกับชีวิตของตัวเองที่ต้องมาพัวพันกับผู้หญิงสองคน
ที่ไม่อาจรวมตัวกันได้…แต่จะทำอย่างไรได้...ในเมื่อเขาเลือกเองทั้งนั้น…


"นี่ก็ใกล้ถึงเดือนรอมฎอนแล้ว...ผมคงต้องหยุดเรื่องทำบาปทำผิดศีลธรรมเอาไว้สักเดือน
เพราะถึงจะเลวจะชั่วยังไง...ผมก็ยังให้เกียรติเดือนนี้ครับพี่...หวังว่าพี่คงเข้าใจ..."

"พี่เข้าใจ..." คุณหญิงวรลักษณ์ยิ้มให้หนุ่มใหญ่ตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

“แต่เล็กต้องจัดการนังดีมให้พี่นะ…” ไม่วายตอกย้ำถึงเป้าหมายที่อุตส่าห์
ถ่อมาหาเขาถึงที่นี่…

“ครับ…”

“เล็กนี่น่ารักที่สุดเลยรู้ไหม…” ว่าพลางก็เขย่งปลายเท้าจุมพิตหนุ่มใหญ่
ที่นางหลงใหลใฝ่ฝันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้า และไม่เคยหยุดความรัก
ความหลงใหลลงได้เลย…

“เราออกตามหาดีมกันเถอะครับ…” หนุ่มใหญ่ผละร่างอวบออกห่าง
แล้วชักชวนกันออกไปจากเซฟเฮาส์ดังกล่าว





คุณหญิงวรลักษณ์แทบไม่ต้องไปตามหานาดีมที่ไหนเลย เพราะแค่เพียงกลับมายัง
คฤหาสน์วรรัศมิ์สกุลอีกครั้งในตอนกลางดึก ก็พบว่าลูกสาวกำลังนั่งถือกล้องถ่ายรูป
ในมืออยู่ในห้องทำงาน…จึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วก็พบว่าลูกสาวรีบกดปิดหน้า
ที่กำลังแสดงผลของภาพถ่ายวิดีโอทันที ทำเอาคนมาใหม่ถึงกับกระตุกคิ้วมุ่น
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

และเป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อมือนั้นรีบคว้ากล้องถ่ายรูปในมือลูกสาวมาไว้ในมือของตนเอง
ขณะที่ลูกสาวเผลอ…นาดีมรีบลุกตามเพื่อจะยื้อแย่งกล้องถ่ายรูปคืน

“แม่…เอาของดีมคืนมานะ…” นาดีมเริ่มกังวลเพราะว่าเธอยังไม่ได้เอาภาพวิดีโอ
ดังกล่าวลงในคอมพิวเตอร์...กะจะเอาลงแล้วแท้ๆ แต่แม่ดันมาแย่งตัดหน้าไปเสียก่อน
เธอไม่น่าชะล่าใจเลย รู้อย่างนี้เอาลงเสียก่อนหน้านี้ก็ดี

“เรื่องอะไร…แกมันมีลับลมคมในนักนี่…” ว่าพลางก็พยายามหันหลังหนีลูกสาว
ที่พยายามจู่โจมเข้ามาเพื่อแย่งชิงกล้องในมือนาง แล้วกดดูภาพล่าสุดในกล้องไปด้วย
ก็พบภาพเคลื่อนไหว…จึงกดเล่นวิดีโอดังกล่าว…แค่เห็นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ตาของคุณหญิงวรลักษณ์ก็ถึงกับวาววับ หันมาทางลูกสาวทันที จ้องเขม็งทีเดียว

“อธิบายมาว่าแกคิดจะทำอะไรกับไอ้วิดีโอนี่ฮะนังดีม…” เสียงนั้นเริ่มเกรี้ยวกราด
เพราะรู้จักนิสัยลูกสาวตัวเองดี รู้ไส้รู้พุงด้วยซ้ำ

“ฉันถามว่าแกจะเอามันไปทำอะไร!” เสียงเกรี้ยวกราดเริ่มเปลี่ยนเป็นตวาดลั่นห้อง…

“นี่อย่าคิดนะว่า…จะเอามันไปแฉในงานแต่งไอ้วารินทร์น่ะ ไม่งั้นล่ะก็
ฉันจะฆ่าแกเป็นคนแรกเลยนังดีม…”
นาดีมกัดปากตัวเองข่มความแค้นฝังแน่นในใจเอาไว้…

“เพราะถ้าแกทำอย่างนั้น…มันไม่ต่างกับการขุดหลุมฝังตัวเองทั้งเป็น
และถ้าอยากตายนัก ฉันจะได้สงเคราะห์ซะเลยโดยไม่ต้องมาทำให้ชีวิตฉัน
ต้องเดือดร้อน…”

ความเห็นแก่ตัวที่เกาะกุมจิตใจผู้เป็นมารดามักอยู่เหนือความรักที่มีต่อลูกและสามี
เสมอมานั้นนาดีมรับรู้มาตลอด

“แม่ก็เป็นอย่างนี้…ดีที่โทษคนโน้นคนนี้ เคยมั้ยที่จะโทษตัวเองบ้าง
แม่น่ะดีแต่หลอกใช้งานคนอื่น…ใช้คนอื่นเป็นสะพานให้ตัวเองเหยียบย่ำ
หาผลประโยชน์เข้าตัวเองคนเดียว ไม่คิดถึงใจคนอื่น พอใช้งานเสร็จก็เผาสะพานทิ้ง…”

นาดีมเหลืออดจนกล่าวตำหนิมารดาของตนอย่างไม่กริ่งเกรง

“อยากโดนตบอีกรึไง…ครั้งก่อนมันยังน้อยไปใช่มั้ยนังดีม…”

“เอาสิ…” นาดีมยื่นหน้าออกไป

“คราวนี้…ถ้าแม่ตบดีม ดีมจะตบกลับบ้าง…แม่แก่แต่ดีมยังสาว
ก็ให้มันรู้ไปสิว่าแรงใครจะมากกว่ากัน…” เมื่อโดนท้า
คุณหญิงวรลักษณ์เลยวางกล้องลงบนโต๊ะแล้วกระชากเส้นผม
ของลูกสาวมาแล้วตบไม่ยั้งหมายจะสั่งสอน

“แกมันก็ไม่ได้ต่างไปจากฉันหรอกนังดีม…สันดานแกมันก็เอามาจาก
สันดานฉันนี่แหล่ะ…หัดส่องกระจกดูซะบ้าง…ว่าไอ้ที่แกพูดแกด่่าอยู่น่ะ
มันคนที่เบ่งแกออกมา…ถ้าฉันไม่เบ่ง...แกจะออกมาดูโลกนี้ได้มั้ยนังดีม…”

“ถ้าแม่ไม่เบ่งดีมออกมาแม่ก็ตายเหมือนกัน…แม่จำเป็นต้องเบ่งดีมออกมา
เพราะความจำเป็นมันบังคับ แม่ไม่ได้เบ่งเพราะอยากเห็นหน้าดีมหรอก…”

หญิงสาวสวนกลับมารดาทันที พอคนเป็นแม่จะยกมือฟาดลงมาซ้ำ
นาดีมก็รีบรับมือนั้นเอาไว้

“บุญคุณใดออกลูกมาแล้วเลี้ยงเหมือนสัตว์ เหมือนวัวเหมือนควาย
เอาไว้รับใช้ รองมือรองเท้า ทิ้งๆขว้างๆ ไม่พอใจก็ตบก็ตี…
ใช้ลูกเป็นสะพาน…หาความสุขสบายใส่ตัว…พอเราประท้วงก็อ้างเรื่องบุญคุณ…”

นาดีมแสยะยิ้มมองมารดาด้วยแววตาเจ็บแค้น

“บุญคุณที่ออกลูกมาน่ะหรือแม่…ส่งลูกให้ไปลงนรกน่ะหรือ บุญคุณ…”
คนเป็นลูกกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นว่ามารดานิ่งไป

“ดีมไม่ใช่วัวใช่ควายนะแม่ ที่พอหมดหน้านาก็ฆ่ากินน่ะ…ดีมมีหัวใจ
ดีมอยากทำตามใจตัวเองบ้าง…ที่ผ่านมาดีมยังรับใช้แม่ไม่พออีกรึไง”

หญิงสาวต่อว่าต่อขานมารดาด้วยแรงอารมณ์ที่กักเก็บมานานต้ังแต่เล็กแต่น้อย
แต่เพราะเมื่อตอนเล็กๆนั้นเธอสู้แรงมารดาไม่ได้
ซ้ำยังกลัวมารดายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด พอจะหันหน้าไปพึ่งพาบิดา
ก็ไม่เคยจะอยู่ให้พึ่งพา หรือต่อให้อยู่ ก็ไม่เคยคิดจะปกป้องเธอเลย…
ทำได้มากสุดก็แค่ตวาดใส่…แล้วก็เดินหนีไป…ไม่ใส่ใจไม่ใยดี…

เธอเคยคิดมาตลอดว่าพ่อแม่ทำไมถึงทำได้อย่างนี้…

ทำไมพ่อแม่นังวามันไม่เหมือนพ่อแม่ของเธอเลย…
ถึงนังวามันจะถูกให้อยู่ช่วยงานหลังเลิกเรียนประจำ…แต่ก็ไม่เคยโดนตบตีเหมือนเธอเลย…
ใครทำอะไรนังวาพี่ๆน้องๆมันก็พร้อมจะกางปีกปกป้อง พ่อแม่มันพร้อมจะช่วยเหลือ
อยู่เคียงข้างคอยปลอบใจมันตลอด…

ผิดกับพ่อแม่ของเธอที่ดูลูกตัวเองโดนคนอื่นทำร้ายได้…แถมกลับมายังโดนตีซ้ำอีก
หาว่าเธอไปทะเลาะกับลูกคนอื่นให้พ่อแม่ต้องอับอายขายขี้หน้าชาวบ้าน…
ไม่มีเลยที่จะถามว่าทำไมเธอถึงทะเลาะกับเพื่อนในโรงเรียน…

แถมยังตีเธอเพื่อเป็นการลงโทษต่อหน้าชาวบ้านชาวช่อง
พร้อมกับต่อว่าเธอสารพัดให้ชาวบ้านได้ยิน…เธอไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าเป็นการสั่งสอน
หรือเป็นการประจานกันแน่...แต่เธออาย...อายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด...
ทั้งเจ็บทั้งอาย!

เมื่อยังเด็กมีหลายๆอย่างที่เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่ใช้ให้ทำเลย…
จนโตขึ้นเรื่อยๆจึงเข้าใจเจตนาอันซ่อนเร้นของแม่…ว่าแม่ปรารถนาสิ่งใดอย่างแท้จริง!

“แม่รู้มั้ยว่าดีมไม่เคยเขียนเรียงความเรื่องแม่ได้ประทับใจคุณครูที่โรงเรียน
ได้เลยสักครั้งเดียว นังวาโน่นที่มันได้รางวัลตลอด…มันได้รางวัลทุกปี
ผลงานของมันขึ้นบอร์ดทุกครั้ง…”

หญิงสาวกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่ร้าวลึกเอาไว้

“เด็กกำพร้าพ่อแม่บางคนมันยังเขียนเรียงความวันพ่อวันแม่
ได้ดีและกินใจกว่าดีมที่มีพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตาซะอีก…แม่รู้มั้ยว่าทำไม…”

คนเป็นแม่ถึงกับนิ่ง มือที่ถูกนาดีมกระชับไว้อ่อนลงจนตกลงข้างลำตัว

“ดีมเคยดูตัวเองในกระจกแล้วถามว่าหน้าตาดีมไม่เหมือนพ่อไม่เหมือนแม่ท่ีตรงไหน
ทำไมเราถึงเหมือนไม่ใช่พ่อแม่ลูกกัน...อย่างพ่อแม่ลูกบ้านอื่น…

แต่ไม่ว่าจะดูกี่ที ดีมก็มีเค้าหน้าเหมือนพ่อและก็เหมือนแม่ในรูปถ่ายเก่าๆ…
นั่นเลยทำให้ดีมรู้ว่าแม่ไปทำศัลยกรรมหน้ามา…เราเลยไม่เหมือนกันอย่างที่ควร
จะเหมือนกันกว่านี้…”

หญิงสาวหายใจหอบด้วยแรงอารมณ์ที่ปะทุอยู่ภายในอก

“กอดแม่มันไม่เคยอุ่นเลย…มันทั้งหนาวทั้งร้อน…”

“แกเลยมั่วผู้ชายเพื่ออยากได้กอดอุ่นๆ…ช่างหาเหตุผลให้กับการกระทำของตัวเอง
โดยโยนบาปให้คนอื่นได้หน้าตาเฉยนะนังดีม...
แกมันลูกทรพี…คิดวัดรอยเท้าแม่ตัวเอง…”

คุณหญิงวรลักษณ์ด่าทอลูกตัวเองอย่างที่ทำมาทั้งชีวิต

“แล้วแม่ล่ะ…แม่มีเหตุผลอะไรที่มั่วกับคนโน้นคนนี้ทั้งๆที่ก็มีพ่ออยู่ด้วย” นาดีมเหยียดยิ้ม

“อย่าคิดว่าดีมไม่รู้นะว่าแม่มีเด็กในสังกัดเท่าไหร่…มันมากยิ่งกว่าของดีมซะอีก…”
คนฟังถึงกับขบกราม กำหมัดแน่น

“นังดีม!” นาดีมยื่นแก้มให้มารดาอย่างท้าทาย

“เอาสิแม่…ถ้าที่ดีมพูดมันไม่ใช่เรื่องจริง แม่ก็ตบดีมเลย…”
คนเป็นแม่ปากคอส่ันที่โดนลูกในไส้ย้อน

“แม่ก็เหมือนแม่ปูที่พยายามสอนลูกปูให้เดินให้ตรงนั่นแหล่ะ…
แม่ว่าดีมก็เหมือนว่าตัวเองนั่นแหล่ะ…”

“นังดีม!” เสียงนั้นดังพร้อมกับฝ่ามือที่ฟาดลงบนแก้มนวลเนียนนั่นด้วยแรงโกรธ
จนเลือดกลบปากคนเป็นลูก

“ตอนนี้ดีมไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น…ไม่ว่าจะไอ้กรุสมบัติบ้าบอนั่น
หรือว่าไอ้คฤหาสน์นี่…เพราะรินทร์ก็มีทุกอย่างที่ดีมต้องการ…”
หญิงสาวเชิดหน้ามองมารดาแน่วแน่

“ดีมไม่ขอเป็นเหมือนวิญญาณที่ต้องมาอยู่โยงเฝ้าทรัพย์บ้าบอนี่อีก…
จะเอาไปไหนทำอะไรก็ไม่ได้…ไม่เห็นว่ามันจะมีดีที่ตรงไหน…ทำได้มากสุด
ก็แค่ดูเล่น...เอาไปโชว์ใครก็ไม่ได้...สิทธิ์บ้าบออะไรนั่นไม่เห็นจะอยากได้แล้ว”

คนที่กำลังกรุ่นโกรธที่โดนลูกในไส้ย้อนเข้าให้เมื่อครู่ถึงกับเดือดดาลทีเดียว
เมื่อได้ยินคำประกาศิตนั่นจากปากของลูกสาว

เธอสู้อุตส่าห์วางแผนนี้มาตั้งแต่เมื่อครั้งผิดพลาดในการจับบิดาของซุลก๊อตไนท์
จนอัยรีนเข้ามาเสียบตำแหน่งแทน เธอสู้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้อัยรีนหลุดพ้น
จากคุณสมบัติที่สามารถครอบครองกรุสมบัติที่บิดาของซุลก๊อตไนท์
เคยแอบลักลอบพาเธอเข้าไปชื่นชมเพราะทนต่อเสียงออดอ้อนของเธอไม่ได้…
แต่ก็พลาดแล้วพลาดอีก...

จนต้องหาสามีใหม่ เพื่อจะได้มีลูกสาวมาสานต่อเจตนารมย์เดิมของเธอให้ลุล่วง
แม้สามีจะไม่ได้โปรดลูกสาวเพราะอยากได้ลูกชาย

แต่สำหรับเธอแล้ว…เธอดีใจอย่างที่สุดที่ได้รู้ว่านาดีมคือลูกสาว…
เธอเฝ้ารอ เธอเฝ้าดูความเป็นไปของพวกเขา เฝ้าอดทนทุกอย่าง
เฝ้าวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อจะมีวันที่เธอจะอยู่เหนืออัยรีน ได้ทุกอย่างสมใจปรารถนา…

เฝ้าปลุกปั่นเฝ้าสั่งสอนลูกสาวคนเดียว เฝ้าทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกสาว
ได้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งของศรึสะใภ้วรรัศมิ์สกุล…

แล้วอยู่ๆลูกสาวในไส้ของเธอกำลังจะทำลายความปรารถนาของเธอลง
เธอไม่มีวันยอมหรอก เธอเสียแรงเสียทุกอย่างไป ลงทุนไปเพื่อการณ์นี้
มามากต่อมากแล้ว

อย่างไรเธอก็จะขอเก็บเกี่ยวสิ่งที่ได้มานี้ให้คุ้มเสียก่อน…จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหน
มาขวางทางได้เด็ดขาด…แม้คนๆนั้นจะเป็นลูกในไส้ก็ตาม

“เสียใจนังดีม…เพราะฉันจะไม่มีวันยอมให้แกได้ทำอะไรบ้าๆแบบนั้นแน่
แกน่าจะรู้จักแม่แกดีนะนังดีม” พูดจบก็เดินไปหยิบกล้องวิดีโอนั่นมาไว้ในมือ
ปาดหน้านาดีมไปเพียงเสี้ยววินาที

“เอาคืนมานะแม่…เอาคืนมา…”

นาดีมวิ่งไล่ตามมารดาที่กำลังช่วงชิงของสำคัญของเธอไปต่อหน้าต่อตา
มันคือความหวังและอนาคตของเธอที่จะได้อยู่กับคนที่เธอรักและเฝ้ารอมาตลอด

แม่จะเอามันไปไม่ได้เด็ดขาด เธอไม่ยอม…

คุณหญิงวรลักษณ์รีบก้าวออกจากห้องนั้นทันทีพร้อมกล้องที่อยู่ในมือ…
ไม่สนใจเสียงที่วิ่งไล่หลังมาติดๆ…ก่อนจะรีบก้าวลงมาจากชั้นบน
เพื่อลงไปยังชั้นล่าง กะจะเอาไอ้ตัวปัญหาในมือไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยกว่านี้
ไกลพอที่ลูกสาวจะเอื้อมไม่ถึง…

ทว่า…การปกป้องกรุสมบัติและคฤหาสน์หลังนี้ของคุณหญิงวรลักษณ์
กลับผิดพลาดอย่างมหันต์เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของนาดีมที่ก้าวพลาด
จนกลิ้งตกบันไดลงมาถึงพื้นชั้นล่าง

“นังดีม!” เสียงนั้นกรีดร้องลั่นคฤหาสน์เมื่อก้าวเข้าไปหาลูกสาว
ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นพร้อมเลือดกองใหญ่…




............โปรดติดตามตอนต่อไป.............

ตอนแรกว่าจะปัั่นมาให้กันแบบติดๆจากตอนก่อนเลย แต่ดันไปติดกับธุระอื่น
กว่าจะด้นเสร็จก็เอามาลงได้เอาป่านนี้ค่ะ...แหะๆ

กว่าจะเขียนบทนี้เสร็จ เหงื่อตก น้ำตาซึมนะ...มันบอกไม่ถูกว่าทำไม
ถึงเขียนออกมาอารมณ์นี้ได้...กลับไปอ่านอีกรอบและอีกรอบ
ก็ไม่แน่ใจว่าอะไรผลักดันออกไป อยากส่งอารมณ์อีกแบบแต่ได้อีกแบบ...
แต่ก็รู้สึกว่ามันก็ได้อารมณ์ที่ลงล๊อคไปอีกแบบ...เหอๆ

นักอ่านอ่านแล้วรู้สึกยังไง บอกด้วยนะคะ...อยากรู้ว่าเรารู้สึกตรงกันบ้างรึเปล่า...


ขอบคุณนักอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณทุกๆไลค์ที่จิ้มให้กัน
ขอบคุณกำลังใจที่ผลักดันให้มีแรงปั่น...ขอบคุณนักอ่านเงาจ๊ะ...



.......ตอบเม้นท์จ๊ะ............

1.คุณPampam...เรื่องพ่อของนาดีมยังกัํ๊กไว้ก่อนค่ะ...แต่ตอนนี้ได้เห็นอีกเงานึง
แบบเต็มๆแล้วเนอะ...อิอิ เปิดปมให้กันอีกแล้ว...
นาดีมเดือดก็ยังไม่สู้แม่นาดีมเดือดค่ะ...เลยกลายเป็นแดงเดือดไปแล้ว...

2.คุณแว่นใส...ยังไม่ทันถึงงานแต่ง ก็เจอศึกแดงเดือดซะแล้วค่ะ...
พรุ่งนี้ เย้ย ตอนหน้ามาดูกันว่าเงาะจะได้แต่งงานกับอานิต้าหรือเปล่า....อิอิ

3.คุณคิมหันตุ์...เงาะน่ารักหรือว่าน่ากินคะ...จะได้ยกให้เข่งนึง...ฮ่าาาาา
หรือว่าจะยกให้ทั้งสวนดี ตอนหน้ามาลุ้นกันต่อน้าาาาา

4.คุณcoonX3...ตอนก่อนเงาะออกโรงปกป้องของรัก
มาตอนนี้ถึงคราวคุณหญิงวรลักษณ์ออกโรงปกป้องของหวงบ้างแล้วค่ะ...
ปกป้องจนพินาศเลย...

5.คุณkonhin...อานิต้าโดนมัดมือชกเหมือนวาค่ะ แต่วาเจอหนักกว่านี้
ตอนนี้หญิงวาหายไป(หายไปจริงๆจากเรื่อง) จนนาดีมมาแย่งซีนไปหมดเลยเนอะ...
มันมาม่าอ่ะ...ดาร์คด้วย...เขียนเองหดหู่เองนะตอนนี้...

6.คุณHabibi...นาดีมเดือดจริงๆค่ะ แต่แดงเดือดนะคะ...
ไม่รู้ว่านักอ่านอยากสมน้ำหน้าหรือว่าอยากสงสารนางมารของเต่า...
แต่อย่าถามฟาร์มรู้สึกเต่าน้า...คือ...มันยังหดหู่อยู่เลย...
ไม่รู้คนอ่านจะหดหู่เหมือนเต่ารึเปล่านะคะ...เหอๆ




........ขอให้ทุกคนมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงกันถ้วนหน้านะคะ......

"เต่าโย"




yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 เม.ย. 2558, 00:58:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 เม.ย. 2558, 00:58:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 3338





<< บทที่ 34 ซ่อนรัก ซ่อนเสน่หา   บทที่ 37 ของขวัญวันแต่งงาน >>
coonX3 1 เม.ย. 2558, 01:47:35 น.
เปิดผู้ร่วมขบวนการอีกหนึ่งคนแล้ว สองแม่ลูกนี่เหมือนกันไม่มีผิด แต่มีหรือที่คนเป็นพ่อจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ่นาดีมจะเสียลูกมั้ยน้า ถ้าไม่มีลูก การครอบครองสมบัติก็ไม่ได้แล้วนา มาถึงทางตันของสองแม่ลูกแล้ว เหลือแต่จะถูกใครเปิดโปงแทน


Pampam 1 เม.ย. 2558, 04:06:29 น.
ถ้าไม่ได้สมบัตินาดีมต้องเดินหน้าเต็มตัวไปทางวารินทร์น่ะสิ น้าเล็กจะทำอะไรอานิต้าหรือเปล่านะ


Pat 1 เม.ย. 2558, 06:15:58 น.
หดหู่ตาม (ไร้คำบรรยาย)


ตุ๊งแช่ 1 เม.ย. 2558, 08:27:35 น.
คิดถึงเขาไหม..เวลาที่ไม่..เห็นเม้นท์..เก๊า..

เริ่มเปิดเผยด้านมืดนางมารออกมาทีละคน เอ๊ะ มันสืบพันธุ์ แบบ ปอบป่าวนี่

กำลังรอกรรมติดจรวดของแต่ละคน ใกล้นายก๊อต คืนชีพหรือยังค่ะ

งดปูไปอีกนานนนน กินไปเยอะมากกกก จนคันมือ น้ำปูที่เลอะๆ เนื่องจากต้องคอยแกะให้บรรดา สว..ด้วย


konhin 1 เม.ย. 2558, 08:34:59 น.
เพราะนาดีมอาจจะแท้ง เลยต้องกลับไปหาอ่านเงื่อนไขการเป็นเจ้าของสมบัติใหม่

นาดีมมีชู้ ถ้ามีคนรู้ สิทธ์หลุด
แต่ถ้าไม่แท้ง แล้วมีคนตรวจได้ว่าเป็นลูกชู้ก็หมดสิทธ์
แต่ถ้าแท้ง แปลว่าไม่มีทายาท งานนี้กรุเด้งไปที่พี่นุแน่ ยังไงแกก็คนเก็บไว้ให้ก๊อตมั้ง
แต่เชื่อว่ายังไงแม่นางก็คงปิดบัง คิดเอาเด็กอื่นมาสวมรอยแทน แต่จะโดนขัดขวางหรือเปล่า อีกเรื่องนึง

บทนี้ ให้นาดีมมาแสดงบทโศกเรียกน้ำตาคนอ่านหรือเปล่าคะ


แว่นใส 1 เม.ย. 2558, 08:54:40 น.
แท้งหรือเปล่านะ แต่นิสัยเหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะ ได้สามีคนเดียวกันด้วย


Habibi 1 เม.ย. 2558, 11:30:43 น.
นาดีมแท้งรัเปล่าน๊าา...แล้วงานแต่งจะไปได้สวยมั้ย...ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงเลยแม่ลูกคู่นี้....จะว่าไปก็แอบสงสารนาดีมนะตรงที่ว่าพ่อแม่ไม่สนใจนะแล้วแม่ก็ยังสอนลูกให้เสียคนอีก...รอก็อตอยู่น๊าา...วาด้วย..คิดถึงตาหนูจัง


yasta 1 เม.ย. 2558, 12:05:57 น.
โหววววว....สงสัยกรรมจะเริ่มตามสนองแล้ว
น่าสนใจ..น่าสนใจ


คิมหันตุ์ 1 เม.ย. 2558, 13:05:21 น.
สงสารนาดีมเลยค่ะ. สงสารลูกน้าเล็กด้วย ไม่ใช่ลูกจากความไม่ตั้งใจนิเนอะถ้าเสียไปก้อทำใจยากอยุ่ อ่านแล้วก้อคงหดหู่แบบคุณ Pat


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account