ฤดูกาลรักที่กลางใจ ตอน คิมหันต์กับปัญชิกา
เพราะโชคชะตาทำให้คิมหันต์ได้พบกับปัญชิกาอีกครั้งพร้อมกับข้อเสนอที่น่าตกใจ...
นั่นคือเธอขอมีความสัมพันธ์กับเขาเพียงคืนเดียว!
นั่นคือเธอขอมีความสัมพันธ์กับเขาเพียงคืนเดียว!
Tags: คิมหันต์ ปัญชิกา ซัน ปุยฝ้าย ใช้หนี้ นางเอกน่าสงสาร
ตอน: ตอนที่ 14
บทที่ 14
นับจากวันที่ซื้อต้นบลูฮาวายมา ปัญชิกาอดคิดไม่ได้ว่าคิมหันต์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ยิ่งนึกถึงหลังจากเขาช่วยเธอนำกระถางต้นไม้ไปแขวนไว้ตรงระเบียงแล้ว จากนั้นก็ชวนเธอออกไปทานอาหารนอกบ้านก่อนแวะซื้อโทรศัพท์มือถือให้โดยกำชับว่าใช้ติดต่อกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น รอยยิ้มก็ยิ่งกระจายเต็มใบหน้า
ปัญชิการู้สึกเหมือนความสุขกำลังอบอวลอยู่ในห้องหัวใจ ความรู้สึกที่มีต่อเขาเพิ่มขึ้นทุกทีตามวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงเขาไม่ใช่ผู้ชายสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่หนุ่มแสนดีในฝันของสาว ๆ แต่เธอก็รักเขา
เมื่อเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาติดผนังแล้วเห็นว่าอีกสองชั่วโมงก็จะเป็นเวลาหกโมงเย็น หญิงสาวก็ยิ้มหวานยามนึกถึงคำสั่งของคิมหันต์ตอนที่เขาโทรศัพท์มาหาเมื่อตอนบ่าย
“เตรียมข้าวเย็นเผื่อด้วย วันนี้ฉันจะกลับไปทาน”
ปัญชิกายิ้มอย่างมีความสุขยามบอกกับตัวเองว่าได้เวลาไปเตรียมทำอาหารแล้ว หญิงสาวเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับความคิดที่ว่าจะทำเมนูไข่ยัดไส้ ทว่าเพียงแค่ตอกไข่ไก่ใส่ชามหญิงสาวก็รู้สึกผะอืดผะอมจนต้องรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำหลังจากอาเจียนจนรู้สึกเหมือนกระเพาะไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว ปัญชิกาก็เดินโผเผออกจากห้องน้ำแล้วค่อย ๆ เดินไปนอนเอนตัวบนโซฟา หญิงสาวหลับตาลงเมื่อรู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวกำลังหมุนคว้างหลังจากนิ่งรอจนรู้สึกว่าดีขึ้นเจ้าตัวก็ฝืนลุกขึ้นมาเพราะตั้งใจจะไปทำอาหารเย็น แต่วินาทีนั้นความมืดมิดจากทุกทิศทางก็เข้าจู่โจมจนไม่อาจต้านทานได้ หญิงสาวยืนซวนเซครู่หนึ่งก่อนจะหมดสติแล้วล้มลงไปกองบนพื้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรเมื่อปัญชิการู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนโดยมีคิมหันต์นอนเอนตัวอยู่เคียงข้าง
“คุณซัน...”
คิมหันต์ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเริ่มกลับมาหายใจได้อีกครั้งหลังจากแทบหายใจไม่ออกนับตั้งแต่นาทีที่เปิดประตูเข้ามาแล้วพบว่าปัญชิกานอนฟุบอยู่บนพื้น
“ไม่สบายเหรอ”
“เปล่าค่ะ ปุยฝ้ายแค่เวียนหัวแล้วก็อาเจียน...” ปัญชิกาชะงักเพิ่งนึกเรื่องสำคัญออก ตั้งแต่มาอยู่กับคิมหันต์เขาและเธอมีความสัมพันธ์กันแทบทุกคืน แต่เหนืออื่นใดเธอเพิ่งนึกออกว่ารอบเดือนของเธอยังไม่มา หัวใจเต้นแรงเมื่อบอกกับตัวเองว่าหรือคำอธิษฐานของเธอจะเป็นผลแล้ว
คิมหันต์นิ่วหน้าเพราะไม่ชอบใจอาการของหญิงสาว ไม่รู้ทำไมเวลาเธอไม่สบายเขาก็พลอยไม่เป็นสุข ความกังวลทำให้ตัดสินใจ
“ไปหาหมอดีกว่า”
ปัญชิกาฟังแล้วใจหาย ทั้งกลัวทั้งไม่แน่ใจว่าหากข้อสันนิษฐานของเธอเป็นจริงขึ้นมาคิมหันต์จะยังต้องการเธออีกหรือเปล่า
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ปุยฝ้ายไม่เป็นไรแล้ว”
“ทำไมถึงดื้อแบบนี้นะ”
คิมหันต์เอ็ดอย่างหงุดหงิดปนร้อนใจแต่ก็ไม่อยากขัดใจคนป่วยยิ่งเห็นสีหน้าเซียวของหญิงสาว ชายหนุ่มก็อ่อนใจ
“งั้น...เดี๋ยวฉันออกไปซื้อข้าวต้มที่ปากทางข้างหน้าให้ก็แล้วกัน”
ยังไม่ทันที่ปัญชิกาจะแย้งว่าเธอทานอะไรไม่ลง คิมหันต์ก็ลุกจากเตียงแล้วเดินออกไป
เมื่ออยู่คนเดียวหญิงสาวก็ยกมือไปวางบนหน้าท้อง น้ำตาซึมเมื่อนึกว่าความหวังอีกอย่างของเธออาจจะกำลังเป็นจริง แต่เมื่อนึกถึงคิมหันต์ขึ้นมาปัญชิกาก็อดกลัวไม่ได้
จะทำยังไงหากเขาบอกว่าไม่ต้องการทั้งเธอและลูกที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นมา
ราวครึ่งชั่วโมงคิมหันต์ก็กลับมาพร้อมข้าวต้มรวมมิตร 2 ถุง ชายหนุ่มจัดแจงเทใส่ชามแล้วยกไปให้ถึงเตียงโดยไม่ทันสังเกตถึงท่าทีผะอืดผะอมของหญิงสาวยามได้กลิ่นของอาหาร
“แล้วคุณซันล่ะคะ”
“ไว้ทีหลัง”
คิมหันต์บอกพลางทำท่าจะตักป้อนแต่ปัญชิการีบค้าน
“ปุยฝ้ายทานเองได้ คุณซันไปทานเถอะค่ะ”
คล้อยหลังคิมหันต์ที่ยอมออกไปตามคำขอของเธอ ปัญชิกาก็ก้มลงมองข้าวต้มในชามด้วยสีหน้าผะอืดผะอมแต่ก็ฝืนตักขึ้นมา ทว่ายังไม่ทันเข้าปากหญิงสาวก็ทนต่อไปไม่ไหว
คิมหันต์งงเมื่อทันเห็นปัญชิกาวิ่งเข้าไปห้องน้ำก่อนเปลี่ยนเป็นกังวลเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนแว่วออกมา
เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยอาการโผเผ ปัญชิกาก็พบว่าคิมหันต์ยืนรออยู่หน้าประตูแล้วด้วยสีหน้าเครียด ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเมื่อลากเธอให้ตามเขาไปจนกระทั่งถึงหน้าประตู
“จะไปไหนคะคุณซัน”
หญิงสาวถามเมื่อชายหนุ่มทำท่าจะออกไปข้างนอก ก่อนจะได้คำตอบที่ทำให้ใจสั่น
“โรงพยาบาล”
“ยินดีด้วยคุณตั้งครรภ์ได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ”
ปัญชิกาน้ำตารื้นด้วยความดีใจเมื่อคำพูดของแพทย์หญิงยืนยันข้อสันนิษฐานของเธอ หญิงสาวเผลอเอามือลูบท้องราวกับจะสัมผัสหาอีกหนึ่งชีวิตที่ถือกำเนิดด้วยหัวใจเต็มตื้น
“แน่ใจนะครับคุณหมอ”
น้ำเสียงเข้มจัดที่ดังขึ้นใกล้ตัวทำให้ปัญชิกาเพิ่งระลึกได้ว่าคิมหันต์ก็ตามเข้ามาฟังผลตรวจด้วยเช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้ชายหนุ่มจัดการให้เธอเข้าตรวจสุขภาพแบบครบวงจรใช้เวลาไม่นานก็สามารถทราบผล
คิมหันต์บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกเช่นไรเมื่อแพทย์หญิงยืนยันกลับมาอีกครั้ง ชายหนุ่มหันไปมองคนข้างตัวแล้วต้องนิ่วหน้าเมื่อเห็นความหวั่นไหวแกมหวั่นกลัวในแววตาของปัญชิกา
เธอกลัว
คิมหันต์รู้สึกเหมือนมีก้อนหินกดทับในอกเมื่อแปรความหวาดกลัวของปัญชิกาออกมาว่าเธอไม่ต้องการอุ้มท้องลูกของเขา ชายหนุ่มแทบฟังคำแนะนำของแพทย์หญิงไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องของหญิงสาว
กว่าจะกลับมาถึงคอนโดฯ เวลาก็ล่วงเข้าเกือบห้าทุ่ม ระหว่างทางที่นั่งรถไม่มีใครพูดอะไรเพราะมัวแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง แต่ตอนนี้คิมหันต์คิดว่าเขาต้องการคำตอบบางอย่าง
“เดี๋ยว!”
ชายหนุ่มรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้เมื่อเห็นเธอทำท่าจะเดินหนีเข้าห้อง เริ่มมั่นใจว่าปัญชิกามีความกลัวบางอย่างก็ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเธอทำเหมือนไม่กล้าสบตา หลังจากดึงหญิงสาวให้ไปนั่งบนโซฟาคิมหันต์ก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามแล้วจับจ้องใบหน้าเซียว ๆ ของอีกฝ่ายนิ่งเป็นครู่ ก่อนตั้งคำถามเสียงเรียบไม่ผิดจากสีหน้าแววตา
“เธอไม่ต้องการมีลูกกับฉันใช่ไหม”
ปัญชิกาตกใจ นั่นน่าจะเป็นคำถามของเธอมากกว่าแล้วทำไมเขาถึงมาถามเธอแบบนี้
“ไม่ใช่นะคะ ปุยฝ้ายอยากมีลูกกับคุณซัน”
คิมหันต์นิ่งไปกับคำตอบที่ปัญชิกาละล่ำละลักบอก หัวใจสงบลงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้รังเกียจ หลังจากหรุบตาลงใคร่ครวญชายหนุ่มก็ยิงคำถามต่อ
“ถ้าอย่างนั้น...เธอกลัวอะไร”
เพราะไม่กล้าพูดปัญชิกาจึงนิ่ง หากครั้งนี้คิมหันต์ไม่ยอมปล่อยผ่านเมื่อคาดคั้นด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“เธอกลัวอะไร!”
“ปุยฝ้ายกลัว...” หญิงสาวใจสั่น กลัวเหลือเกินว่าคำตอบของเธอจะทำให้เขายิ่งโกรธ “กลัวว่า...คุณซัน...จะไม่อยากได้ลูก แล้วก็...”
“อะไรนะ!”
คิมหันต์โกรธจริง ๆ วินาทีนั้นชายหนุ่มเพิ่งเข้าใจคำเปรียบเปรยว่าโกรธจนลมออกหูมันเป็นยังไง
“นี่เธอคิดว่า...ฉันจะให้เธอไปเอาลูกของเราออกงั้นเหรอ”
ปัญชิกาตกใจเมื่อรู้ว่าคิมหันต์ตีความคำพูดของเธอไปไกลแต่ยังไม่ทันชี้แจงชายหนุ่มก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นหากแววตาราวกับมีไฟลุกโชน
“ในสายตาเธอ ฉันมันเลวขนาดนั้นเลยสินะ”
หญิงสาวร้องไห้เพราะตกใจและเสียขวัญ ก้อนสะอื้นขวางลำคอจนแทบเปล่งเสียงไม่ได้
“มะ...ไม่...”
คำพูดที่เตรียมชี้แจงชะงักค้างเมื่อคนที่เธอตั้งใจอธิบายปฏิเสธการรับรู้ ปัญชิกาน้ำตาร่วงพรูยามประตูห้องถูกกระแทกปิดด้วยฝีมือของคนที่ไม่คิดจะรับฟังใด ๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
แปะตอนใหม่ต่อค่ะ อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งถอนหายใจกันนะคะ^^
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบเป็นกำลังใจให้กันค่ะ
Zephyr : 555 พี่ซันทำให้นึกอยากขาคู่กันเลยทีเดียว...ทนขัดใจต่อไปอีกหน่อยนะคร้า
konhin : อย่าเพิ่งเบื่อคนผีเข้าผีออกนะคะ ^^
LAM : ขอบคุณค่ะสำหรับคอมเม้นท์ย้อนหลังทุกตอนเลย คงมี LAM คนเดียวค่ะที่ยังชอบพี่ซัน 555 เพราะใคร ๆ ก็ไม่ร๊ากกกก พี่ซันกันแล้ว...ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันมาเสมอค่ะ
นับจากวันที่ซื้อต้นบลูฮาวายมา ปัญชิกาอดคิดไม่ได้ว่าคิมหันต์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ยิ่งนึกถึงหลังจากเขาช่วยเธอนำกระถางต้นไม้ไปแขวนไว้ตรงระเบียงแล้ว จากนั้นก็ชวนเธอออกไปทานอาหารนอกบ้านก่อนแวะซื้อโทรศัพท์มือถือให้โดยกำชับว่าใช้ติดต่อกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น รอยยิ้มก็ยิ่งกระจายเต็มใบหน้า
ปัญชิการู้สึกเหมือนความสุขกำลังอบอวลอยู่ในห้องหัวใจ ความรู้สึกที่มีต่อเขาเพิ่มขึ้นทุกทีตามวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงเขาไม่ใช่ผู้ชายสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่หนุ่มแสนดีในฝันของสาว ๆ แต่เธอก็รักเขา
เมื่อเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาติดผนังแล้วเห็นว่าอีกสองชั่วโมงก็จะเป็นเวลาหกโมงเย็น หญิงสาวก็ยิ้มหวานยามนึกถึงคำสั่งของคิมหันต์ตอนที่เขาโทรศัพท์มาหาเมื่อตอนบ่าย
“เตรียมข้าวเย็นเผื่อด้วย วันนี้ฉันจะกลับไปทาน”
ปัญชิกายิ้มอย่างมีความสุขยามบอกกับตัวเองว่าได้เวลาไปเตรียมทำอาหารแล้ว หญิงสาวเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับความคิดที่ว่าจะทำเมนูไข่ยัดไส้ ทว่าเพียงแค่ตอกไข่ไก่ใส่ชามหญิงสาวก็รู้สึกผะอืดผะอมจนต้องรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำหลังจากอาเจียนจนรู้สึกเหมือนกระเพาะไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว ปัญชิกาก็เดินโผเผออกจากห้องน้ำแล้วค่อย ๆ เดินไปนอนเอนตัวบนโซฟา หญิงสาวหลับตาลงเมื่อรู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวกำลังหมุนคว้างหลังจากนิ่งรอจนรู้สึกว่าดีขึ้นเจ้าตัวก็ฝืนลุกขึ้นมาเพราะตั้งใจจะไปทำอาหารเย็น แต่วินาทีนั้นความมืดมิดจากทุกทิศทางก็เข้าจู่โจมจนไม่อาจต้านทานได้ หญิงสาวยืนซวนเซครู่หนึ่งก่อนจะหมดสติแล้วล้มลงไปกองบนพื้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรเมื่อปัญชิการู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนโดยมีคิมหันต์นอนเอนตัวอยู่เคียงข้าง
“คุณซัน...”
คิมหันต์ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเริ่มกลับมาหายใจได้อีกครั้งหลังจากแทบหายใจไม่ออกนับตั้งแต่นาทีที่เปิดประตูเข้ามาแล้วพบว่าปัญชิกานอนฟุบอยู่บนพื้น
“ไม่สบายเหรอ”
“เปล่าค่ะ ปุยฝ้ายแค่เวียนหัวแล้วก็อาเจียน...” ปัญชิกาชะงักเพิ่งนึกเรื่องสำคัญออก ตั้งแต่มาอยู่กับคิมหันต์เขาและเธอมีความสัมพันธ์กันแทบทุกคืน แต่เหนืออื่นใดเธอเพิ่งนึกออกว่ารอบเดือนของเธอยังไม่มา หัวใจเต้นแรงเมื่อบอกกับตัวเองว่าหรือคำอธิษฐานของเธอจะเป็นผลแล้ว
คิมหันต์นิ่วหน้าเพราะไม่ชอบใจอาการของหญิงสาว ไม่รู้ทำไมเวลาเธอไม่สบายเขาก็พลอยไม่เป็นสุข ความกังวลทำให้ตัดสินใจ
“ไปหาหมอดีกว่า”
ปัญชิกาฟังแล้วใจหาย ทั้งกลัวทั้งไม่แน่ใจว่าหากข้อสันนิษฐานของเธอเป็นจริงขึ้นมาคิมหันต์จะยังต้องการเธออีกหรือเปล่า
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ปุยฝ้ายไม่เป็นไรแล้ว”
“ทำไมถึงดื้อแบบนี้นะ”
คิมหันต์เอ็ดอย่างหงุดหงิดปนร้อนใจแต่ก็ไม่อยากขัดใจคนป่วยยิ่งเห็นสีหน้าเซียวของหญิงสาว ชายหนุ่มก็อ่อนใจ
“งั้น...เดี๋ยวฉันออกไปซื้อข้าวต้มที่ปากทางข้างหน้าให้ก็แล้วกัน”
ยังไม่ทันที่ปัญชิกาจะแย้งว่าเธอทานอะไรไม่ลง คิมหันต์ก็ลุกจากเตียงแล้วเดินออกไป
เมื่ออยู่คนเดียวหญิงสาวก็ยกมือไปวางบนหน้าท้อง น้ำตาซึมเมื่อนึกว่าความหวังอีกอย่างของเธออาจจะกำลังเป็นจริง แต่เมื่อนึกถึงคิมหันต์ขึ้นมาปัญชิกาก็อดกลัวไม่ได้
จะทำยังไงหากเขาบอกว่าไม่ต้องการทั้งเธอและลูกที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นมา
ราวครึ่งชั่วโมงคิมหันต์ก็กลับมาพร้อมข้าวต้มรวมมิตร 2 ถุง ชายหนุ่มจัดแจงเทใส่ชามแล้วยกไปให้ถึงเตียงโดยไม่ทันสังเกตถึงท่าทีผะอืดผะอมของหญิงสาวยามได้กลิ่นของอาหาร
“แล้วคุณซันล่ะคะ”
“ไว้ทีหลัง”
คิมหันต์บอกพลางทำท่าจะตักป้อนแต่ปัญชิการีบค้าน
“ปุยฝ้ายทานเองได้ คุณซันไปทานเถอะค่ะ”
คล้อยหลังคิมหันต์ที่ยอมออกไปตามคำขอของเธอ ปัญชิกาก็ก้มลงมองข้าวต้มในชามด้วยสีหน้าผะอืดผะอมแต่ก็ฝืนตักขึ้นมา ทว่ายังไม่ทันเข้าปากหญิงสาวก็ทนต่อไปไม่ไหว
คิมหันต์งงเมื่อทันเห็นปัญชิกาวิ่งเข้าไปห้องน้ำก่อนเปลี่ยนเป็นกังวลเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนแว่วออกมา
เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยอาการโผเผ ปัญชิกาก็พบว่าคิมหันต์ยืนรออยู่หน้าประตูแล้วด้วยสีหน้าเครียด ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเมื่อลากเธอให้ตามเขาไปจนกระทั่งถึงหน้าประตู
“จะไปไหนคะคุณซัน”
หญิงสาวถามเมื่อชายหนุ่มทำท่าจะออกไปข้างนอก ก่อนจะได้คำตอบที่ทำให้ใจสั่น
“โรงพยาบาล”
“ยินดีด้วยคุณตั้งครรภ์ได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ”
ปัญชิกาน้ำตารื้นด้วยความดีใจเมื่อคำพูดของแพทย์หญิงยืนยันข้อสันนิษฐานของเธอ หญิงสาวเผลอเอามือลูบท้องราวกับจะสัมผัสหาอีกหนึ่งชีวิตที่ถือกำเนิดด้วยหัวใจเต็มตื้น
“แน่ใจนะครับคุณหมอ”
น้ำเสียงเข้มจัดที่ดังขึ้นใกล้ตัวทำให้ปัญชิกาเพิ่งระลึกได้ว่าคิมหันต์ก็ตามเข้ามาฟังผลตรวจด้วยเช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้ชายหนุ่มจัดการให้เธอเข้าตรวจสุขภาพแบบครบวงจรใช้เวลาไม่นานก็สามารถทราบผล
คิมหันต์บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกเช่นไรเมื่อแพทย์หญิงยืนยันกลับมาอีกครั้ง ชายหนุ่มหันไปมองคนข้างตัวแล้วต้องนิ่วหน้าเมื่อเห็นความหวั่นไหวแกมหวั่นกลัวในแววตาของปัญชิกา
เธอกลัว
คิมหันต์รู้สึกเหมือนมีก้อนหินกดทับในอกเมื่อแปรความหวาดกลัวของปัญชิกาออกมาว่าเธอไม่ต้องการอุ้มท้องลูกของเขา ชายหนุ่มแทบฟังคำแนะนำของแพทย์หญิงไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องของหญิงสาว
กว่าจะกลับมาถึงคอนโดฯ เวลาก็ล่วงเข้าเกือบห้าทุ่ม ระหว่างทางที่นั่งรถไม่มีใครพูดอะไรเพราะมัวแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง แต่ตอนนี้คิมหันต์คิดว่าเขาต้องการคำตอบบางอย่าง
“เดี๋ยว!”
ชายหนุ่มรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้เมื่อเห็นเธอทำท่าจะเดินหนีเข้าห้อง เริ่มมั่นใจว่าปัญชิกามีความกลัวบางอย่างก็ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเธอทำเหมือนไม่กล้าสบตา หลังจากดึงหญิงสาวให้ไปนั่งบนโซฟาคิมหันต์ก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามแล้วจับจ้องใบหน้าเซียว ๆ ของอีกฝ่ายนิ่งเป็นครู่ ก่อนตั้งคำถามเสียงเรียบไม่ผิดจากสีหน้าแววตา
“เธอไม่ต้องการมีลูกกับฉันใช่ไหม”
ปัญชิกาตกใจ นั่นน่าจะเป็นคำถามของเธอมากกว่าแล้วทำไมเขาถึงมาถามเธอแบบนี้
“ไม่ใช่นะคะ ปุยฝ้ายอยากมีลูกกับคุณซัน”
คิมหันต์นิ่งไปกับคำตอบที่ปัญชิกาละล่ำละลักบอก หัวใจสงบลงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้รังเกียจ หลังจากหรุบตาลงใคร่ครวญชายหนุ่มก็ยิงคำถามต่อ
“ถ้าอย่างนั้น...เธอกลัวอะไร”
เพราะไม่กล้าพูดปัญชิกาจึงนิ่ง หากครั้งนี้คิมหันต์ไม่ยอมปล่อยผ่านเมื่อคาดคั้นด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“เธอกลัวอะไร!”
“ปุยฝ้ายกลัว...” หญิงสาวใจสั่น กลัวเหลือเกินว่าคำตอบของเธอจะทำให้เขายิ่งโกรธ “กลัวว่า...คุณซัน...จะไม่อยากได้ลูก แล้วก็...”
“อะไรนะ!”
คิมหันต์โกรธจริง ๆ วินาทีนั้นชายหนุ่มเพิ่งเข้าใจคำเปรียบเปรยว่าโกรธจนลมออกหูมันเป็นยังไง
“นี่เธอคิดว่า...ฉันจะให้เธอไปเอาลูกของเราออกงั้นเหรอ”
ปัญชิกาตกใจเมื่อรู้ว่าคิมหันต์ตีความคำพูดของเธอไปไกลแต่ยังไม่ทันชี้แจงชายหนุ่มก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นหากแววตาราวกับมีไฟลุกโชน
“ในสายตาเธอ ฉันมันเลวขนาดนั้นเลยสินะ”
หญิงสาวร้องไห้เพราะตกใจและเสียขวัญ ก้อนสะอื้นขวางลำคอจนแทบเปล่งเสียงไม่ได้
“มะ...ไม่...”
คำพูดที่เตรียมชี้แจงชะงักค้างเมื่อคนที่เธอตั้งใจอธิบายปฏิเสธการรับรู้ ปัญชิกาน้ำตาร่วงพรูยามประตูห้องถูกกระแทกปิดด้วยฝีมือของคนที่ไม่คิดจะรับฟังใด ๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
แปะตอนใหม่ต่อค่ะ อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งถอนหายใจกันนะคะ^^
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบเป็นกำลังใจให้กันค่ะ
Zephyr : 555 พี่ซันทำให้นึกอยากขาคู่กันเลยทีเดียว...ทนขัดใจต่อไปอีกหน่อยนะคร้า
konhin : อย่าเพิ่งเบื่อคนผีเข้าผีออกนะคะ ^^
LAM : ขอบคุณค่ะสำหรับคอมเม้นท์ย้อนหลังทุกตอนเลย คงมี LAM คนเดียวค่ะที่ยังชอบพี่ซัน 555 เพราะใคร ๆ ก็ไม่ร๊ากกกก พี่ซันกันแล้ว...ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันมาเสมอค่ะ
พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 เม.ย. 2558, 21:38:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 เม.ย. 2558, 21:38:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 1573
<< ตอนที่ 12 และ 13 | ตอนที่ 16 และ 17 >> |
Pat 8 เม.ย. 2558, 22:12:35 น.
ไม่ทันแหล่ะ ถอนไปหนึ่งเฮือกแล้วค่ะ
ไม่ทันแหล่ะ ถอนไปหนึ่งเฮือกแล้วค่ะ
konhin 8 เม.ย. 2558, 22:41:37 น.
ต้องบอกว่าโครตต่างกันมากเลยคู่นี้ ต่างคนต่างคิดไปเอง เหอะ
ต้องบอกว่าโครตต่างกันมากเลยคู่นี้ ต่างคนต่างคิดไปเอง เหอะ
กาซะลองพลัดถิ่น 9 เม.ย. 2558, 01:05:29 น.
นายซัน ปุยฝ้ายเขากำลังอุ้มลูกนายอยู่นะเฟ้ย ไปตะคอกใส่หน้าเขายังงั้นได้ไง
เป็นใคร ๆก็กลัวนะ เมื่อต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คิดดิ คิด
นายซัน ปุยฝ้ายเขากำลังอุ้มลูกนายอยู่นะเฟ้ย ไปตะคอกใส่หน้าเขายังงั้นได้ไง
เป็นใคร ๆก็กลัวนะ เมื่อต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คิดดิ คิด
yasta 9 เม.ย. 2558, 15:16:22 น.
พี่ซัน..ไมกลายเป็นคนแบบนี้นะ
พี่ซัน..ไมกลายเป็นคนแบบนี้นะ
Zephyr 9 เม.ย. 2558, 18:44:07 น.
เฮ้ยยยย คุยกันหน่อยสิคะ นะ
คนนึงพูดอีกคนช่วยอยู่ฟังจนจบได้มั้ย
มันยากนักเหรอฮะ นี่อะไร
คนนึงพูดๆๆๆๆ อีกคนกระซิกๆๆๆๆ ละอึกสะอื้นๆๆๆๆ
พออีกคนพูด ขึ้นเสียง เดินหนี ปิดประตู ฮ่วยยยยย
ไม่เกิดเป็นลูกสองคนนี้คงโชคดีเป็นบ้า ไม่งั้นเอานิสัยพ่อแม่มา
คงเป็นเด็กอารมณ์ขึ้นลง ฮึ่ยยยยย
เฮ้ยยยย คุยกันหน่อยสิคะ นะ
คนนึงพูดอีกคนช่วยอยู่ฟังจนจบได้มั้ย
มันยากนักเหรอฮะ นี่อะไร
คนนึงพูดๆๆๆๆ อีกคนกระซิกๆๆๆๆ ละอึกสะอื้นๆๆๆๆ
พออีกคนพูด ขึ้นเสียง เดินหนี ปิดประตู ฮ่วยยยยย
ไม่เกิดเป็นลูกสองคนนี้คงโชคดีเป็นบ้า ไม่งั้นเอานิสัยพ่อแม่มา
คงเป็นเด็กอารมณ์ขึ้นลง ฮึ่ยยยยย
LAM 10 เม.ย. 2558, 10:47:02 น.
เค้าชอบพี่ซันลุคนี้จังเลย ปากดีมากเลยนะพี่ซัน ปล่อยออกมาแต่ละที คนอ่านนี้างสารหนูปุยฝ้ายเลยล่ะ สนุก ๆ ค่ะ พันวลีชอบมาก ๆ เป็นกำลังใจให้พันวลีเสมอนะ
เค้าชอบพี่ซันลุคนี้จังเลย ปากดีมากเลยนะพี่ซัน ปล่อยออกมาแต่ละที คนอ่านนี้างสารหนูปุยฝ้ายเลยล่ะ สนุก ๆ ค่ะ พันวลีชอบมาก ๆ เป็นกำลังใจให้พันวลีเสมอนะ
นักอ่านเหนียวหนึบ 11 เม.ย. 2558, 23:11:27 น.
แหม่ คนอ่านก็ลุ้นจนกลั้นหายใจตามมมมเลย
แหม่ คนอ่านก็ลุ้นจนกลั้นหายใจตามมมมเลย