ฤดูกาลรักที่กลางใจ ตอน คิมหันต์กับปัญชิกา
เพราะโชคชะตาทำให้คิมหันต์ได้พบกับปัญชิกาอีกครั้งพร้อมกับข้อเสนอที่น่าตกใจ...
นั่นคือเธอขอมีความสัมพันธ์กับเขาเพียงคืนเดียว!
Tags: คิมหันต์ ปัญชิกา ซัน ปุยฝ้าย ใช้หนี้ นางเอกน่าสงสาร

ตอน: ตอนที่ 14

บทที่ 14


นับจากวันที่ซื้อต้นบลูฮาวายมา ปัญชิกาอดคิดไม่ได้ว่าคิมหันต์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ยิ่งนึกถึงหลังจากเขาช่วยเธอนำกระถางต้นไม้ไปแขวนไว้ตรงระเบียงแล้ว จากนั้นก็ชวนเธอออกไปทานอาหารนอกบ้านก่อนแวะซื้อโทรศัพท์มือถือให้โดยกำชับว่าใช้ติดต่อกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น รอยยิ้มก็ยิ่งกระจายเต็มใบหน้า

ปัญชิการู้สึกเหมือนความสุขกำลังอบอวลอยู่ในห้องหัวใจ ความรู้สึกที่มีต่อเขาเพิ่มขึ้นทุกทีตามวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงเขาไม่ใช่ผู้ชายสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่หนุ่มแสนดีในฝันของสาว ๆ แต่เธอก็รักเขา

เมื่อเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาติดผนังแล้วเห็นว่าอีกสองชั่วโมงก็จะเป็นเวลาหกโมงเย็น หญิงสาวก็ยิ้มหวานยามนึกถึงคำสั่งของคิมหันต์ตอนที่เขาโทรศัพท์มาหาเมื่อตอนบ่าย

“เตรียมข้าวเย็นเผื่อด้วย วันนี้ฉันจะกลับไปทาน”

ปัญชิกายิ้มอย่างมีความสุขยามบอกกับตัวเองว่าได้เวลาไปเตรียมทำอาหารแล้ว หญิงสาวเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับความคิดที่ว่าจะทำเมนูไข่ยัดไส้ ทว่าเพียงแค่ตอกไข่ไก่ใส่ชามหญิงสาวก็รู้สึกผะอืดผะอมจนต้องรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำหลังจากอาเจียนจนรู้สึกเหมือนกระเพาะไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว ปัญชิกาก็เดินโผเผออกจากห้องน้ำแล้วค่อย ๆ เดินไปนอนเอนตัวบนโซฟา หญิงสาวหลับตาลงเมื่อรู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวกำลังหมุนคว้างหลังจากนิ่งรอจนรู้สึกว่าดีขึ้นเจ้าตัวก็ฝืนลุกขึ้นมาเพราะตั้งใจจะไปทำอาหารเย็น แต่วินาทีนั้นความมืดมิดจากทุกทิศทางก็เข้าจู่โจมจนไม่อาจต้านทานได้ หญิงสาวยืนซวนเซครู่หนึ่งก่อนจะหมดสติแล้วล้มลงไปกองบนพื้น

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรเมื่อปัญชิการู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนโดยมีคิมหันต์นอนเอนตัวอยู่เคียงข้าง

“คุณซัน...”

คิมหันต์ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเริ่มกลับมาหายใจได้อีกครั้งหลังจากแทบหายใจไม่ออกนับตั้งแต่นาทีที่เปิดประตูเข้ามาแล้วพบว่าปัญชิกานอนฟุบอยู่บนพื้น

“ไม่สบายเหรอ”

“เปล่าค่ะ ปุยฝ้ายแค่เวียนหัวแล้วก็อาเจียน...” ปัญชิกาชะงักเพิ่งนึกเรื่องสำคัญออก ตั้งแต่มาอยู่กับคิมหันต์เขาและเธอมีความสัมพันธ์กันแทบทุกคืน แต่เหนืออื่นใดเธอเพิ่งนึกออกว่ารอบเดือนของเธอยังไม่มา หัวใจเต้นแรงเมื่อบอกกับตัวเองว่าหรือคำอธิษฐานของเธอจะเป็นผลแล้ว

คิมหันต์นิ่วหน้าเพราะไม่ชอบใจอาการของหญิงสาว ไม่รู้ทำไมเวลาเธอไม่สบายเขาก็พลอยไม่เป็นสุข ความกังวลทำให้ตัดสินใจ

“ไปหาหมอดีกว่า”

ปัญชิกาฟังแล้วใจหาย ทั้งกลัวทั้งไม่แน่ใจว่าหากข้อสันนิษฐานของเธอเป็นจริงขึ้นมาคิมหันต์จะยังต้องการเธออีกหรือเปล่า

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ปุยฝ้ายไม่เป็นไรแล้ว”

“ทำไมถึงดื้อแบบนี้นะ”

คิมหันต์เอ็ดอย่างหงุดหงิดปนร้อนใจแต่ก็ไม่อยากขัดใจคนป่วยยิ่งเห็นสีหน้าเซียวของหญิงสาว ชายหนุ่มก็อ่อนใจ

“งั้น...เดี๋ยวฉันออกไปซื้อข้าวต้มที่ปากทางข้างหน้าให้ก็แล้วกัน”

ยังไม่ทันที่ปัญชิกาจะแย้งว่าเธอทานอะไรไม่ลง คิมหันต์ก็ลุกจากเตียงแล้วเดินออกไป

เมื่ออยู่คนเดียวหญิงสาวก็ยกมือไปวางบนหน้าท้อง น้ำตาซึมเมื่อนึกว่าความหวังอีกอย่างของเธออาจจะกำลังเป็นจริง แต่เมื่อนึกถึงคิมหันต์ขึ้นมาปัญชิกาก็อดกลัวไม่ได้

จะทำยังไงหากเขาบอกว่าไม่ต้องการทั้งเธอและลูกที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นมา

ราวครึ่งชั่วโมงคิมหันต์ก็กลับมาพร้อมข้าวต้มรวมมิตร 2 ถุง ชายหนุ่มจัดแจงเทใส่ชามแล้วยกไปให้ถึงเตียงโดยไม่ทันสังเกตถึงท่าทีผะอืดผะอมของหญิงสาวยามได้กลิ่นของอาหาร

“แล้วคุณซันล่ะคะ”

“ไว้ทีหลัง”

คิมหันต์บอกพลางทำท่าจะตักป้อนแต่ปัญชิการีบค้าน

“ปุยฝ้ายทานเองได้ คุณซันไปทานเถอะค่ะ”

คล้อยหลังคิมหันต์ที่ยอมออกไปตามคำขอของเธอ ปัญชิกาก็ก้มลงมองข้าวต้มในชามด้วยสีหน้าผะอืดผะอมแต่ก็ฝืนตักขึ้นมา ทว่ายังไม่ทันเข้าปากหญิงสาวก็ทนต่อไปไม่ไหว

คิมหันต์งงเมื่อทันเห็นปัญชิกาวิ่งเข้าไปห้องน้ำก่อนเปลี่ยนเป็นกังวลเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนแว่วออกมา

เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยอาการโผเผ ปัญชิกาก็พบว่าคิมหันต์ยืนรออยู่หน้าประตูแล้วด้วยสีหน้าเครียด ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเมื่อลากเธอให้ตามเขาไปจนกระทั่งถึงหน้าประตู

“จะไปไหนคะคุณซัน”

หญิงสาวถามเมื่อชายหนุ่มทำท่าจะออกไปข้างนอก ก่อนจะได้คำตอบที่ทำให้ใจสั่น

“โรงพยาบาล”



“ยินดีด้วยคุณตั้งครรภ์ได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ”

ปัญชิกาน้ำตารื้นด้วยความดีใจเมื่อคำพูดของแพทย์หญิงยืนยันข้อสันนิษฐานของเธอ หญิงสาวเผลอเอามือลูบท้องราวกับจะสัมผัสหาอีกหนึ่งชีวิตที่ถือกำเนิดด้วยหัวใจเต็มตื้น

“แน่ใจนะครับคุณหมอ”

น้ำเสียงเข้มจัดที่ดังขึ้นใกล้ตัวทำให้ปัญชิกาเพิ่งระลึกได้ว่าคิมหันต์ก็ตามเข้ามาฟังผลตรวจด้วยเช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้ชายหนุ่มจัดการให้เธอเข้าตรวจสุขภาพแบบครบวงจรใช้เวลาไม่นานก็สามารถทราบผล

คิมหันต์บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกเช่นไรเมื่อแพทย์หญิงยืนยันกลับมาอีกครั้ง ชายหนุ่มหันไปมองคนข้างตัวแล้วต้องนิ่วหน้าเมื่อเห็นความหวั่นไหวแกมหวั่นกลัวในแววตาของปัญชิกา

เธอกลัว

คิมหันต์รู้สึกเหมือนมีก้อนหินกดทับในอกเมื่อแปรความหวาดกลัวของปัญชิกาออกมาว่าเธอไม่ต้องการอุ้มท้องลูกของเขา ชายหนุ่มแทบฟังคำแนะนำของแพทย์หญิงไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องของหญิงสาว

กว่าจะกลับมาถึงคอนโดฯ เวลาก็ล่วงเข้าเกือบห้าทุ่ม ระหว่างทางที่นั่งรถไม่มีใครพูดอะไรเพราะมัวแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง แต่ตอนนี้คิมหันต์คิดว่าเขาต้องการคำตอบบางอย่าง

“เดี๋ยว!”

ชายหนุ่มรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้เมื่อเห็นเธอทำท่าจะเดินหนีเข้าห้อง เริ่มมั่นใจว่าปัญชิกามีความกลัวบางอย่างก็ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเธอทำเหมือนไม่กล้าสบตา หลังจากดึงหญิงสาวให้ไปนั่งบนโซฟาคิมหันต์ก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามแล้วจับจ้องใบหน้าเซียว ๆ ของอีกฝ่ายนิ่งเป็นครู่ ก่อนตั้งคำถามเสียงเรียบไม่ผิดจากสีหน้าแววตา

“เธอไม่ต้องการมีลูกกับฉันใช่ไหม”

ปัญชิกาตกใจ นั่นน่าจะเป็นคำถามของเธอมากกว่าแล้วทำไมเขาถึงมาถามเธอแบบนี้

“ไม่ใช่นะคะ ปุยฝ้ายอยากมีลูกกับคุณซัน”

คิมหันต์นิ่งไปกับคำตอบที่ปัญชิกาละล่ำละลักบอก หัวใจสงบลงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้รังเกียจ หลังจากหรุบตาลงใคร่ครวญชายหนุ่มก็ยิงคำถามต่อ

“ถ้าอย่างนั้น...เธอกลัวอะไร”

เพราะไม่กล้าพูดปัญชิกาจึงนิ่ง หากครั้งนี้คิมหันต์ไม่ยอมปล่อยผ่านเมื่อคาดคั้นด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น

“เธอกลัวอะไร!”

“ปุยฝ้ายกลัว...” หญิงสาวใจสั่น กลัวเหลือเกินว่าคำตอบของเธอจะทำให้เขายิ่งโกรธ “กลัวว่า...คุณซัน...จะไม่อยากได้ลูก แล้วก็...”

“อะไรนะ!”

คิมหันต์โกรธจริง ๆ วินาทีนั้นชายหนุ่มเพิ่งเข้าใจคำเปรียบเปรยว่าโกรธจนลมออกหูมันเป็นยังไง

“นี่เธอคิดว่า...ฉันจะให้เธอไปเอาลูกของเราออกงั้นเหรอ”

ปัญชิกาตกใจเมื่อรู้ว่าคิมหันต์ตีความคำพูดของเธอไปไกลแต่ยังไม่ทันชี้แจงชายหนุ่มก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นหากแววตาราวกับมีไฟลุกโชน

“ในสายตาเธอ ฉันมันเลวขนาดนั้นเลยสินะ”

หญิงสาวร้องไห้เพราะตกใจและเสียขวัญ ก้อนสะอื้นขวางลำคอจนแทบเปล่งเสียงไม่ได้

“มะ...ไม่...”

คำพูดที่เตรียมชี้แจงชะงักค้างเมื่อคนที่เธอตั้งใจอธิบายปฏิเสธการรับรู้ ปัญชิกาน้ำตาร่วงพรูยามประตูห้องถูกกระแทกปิดด้วยฝีมือของคนที่ไม่คิดจะรับฟังใด ๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------------


แปะตอนใหม่ต่อค่ะ อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งถอนหายใจกันนะคะ^^



ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบเป็นกำลังใจให้กันค่ะ



Zephyr : 555 พี่ซันทำให้นึกอยากขาคู่กันเลยทีเดียว...ทนขัดใจต่อไปอีกหน่อยนะคร้า



konhin : อย่าเพิ่งเบื่อคนผีเข้าผีออกนะคะ ^^



LAM : ขอบคุณค่ะสำหรับคอมเม้นท์ย้อนหลังทุกตอนเลย คงมี LAM คนเดียวค่ะที่ยังชอบพี่ซัน 555 เพราะใคร ๆ ก็ไม่ร๊ากกกก พี่ซันกันแล้ว...ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันมาเสมอค่ะ






พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 เม.ย. 2558, 21:38:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 เม.ย. 2558, 21:38:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1525





<< ตอนที่ 12 และ 13   ตอนที่ 16 และ 17 >>
Pat 8 เม.ย. 2558, 22:12:35 น.
ไม่ทันแหล่ะ ถอนไปหนึ่งเฮือกแล้วค่ะ


konhin 8 เม.ย. 2558, 22:41:37 น.
ต้องบอกว่าโครตต่างกันมากเลยคู่นี้ ต่างคนต่างคิดไปเอง เหอะ


กาซะลองพลัดถิ่น 9 เม.ย. 2558, 01:05:29 น.
นายซัน ปุยฝ้ายเขากำลังอุ้มลูกนายอยู่นะเฟ้ย ไปตะคอกใส่หน้าเขายังงั้นได้ไง
เป็นใคร ๆก็กลัวนะ เมื่อต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คิดดิ คิด


yasta 9 เม.ย. 2558, 15:16:22 น.
พี่ซัน..ไมกลายเป็นคนแบบนี้นะ


Zephyr 9 เม.ย. 2558, 18:44:07 น.
เฮ้ยยยย คุยกันหน่อยสิคะ นะ
คนนึงพูดอีกคนช่วยอยู่ฟังจนจบได้มั้ย
มันยากนักเหรอฮะ นี่อะไร
คนนึงพูดๆๆๆๆ อีกคนกระซิกๆๆๆๆ ละอึกสะอื้นๆๆๆๆ
พออีกคนพูด ขึ้นเสียง เดินหนี ปิดประตู ฮ่วยยยยย

ไม่เกิดเป็นลูกสองคนนี้คงโชคดีเป็นบ้า ไม่งั้นเอานิสัยพ่อแม่มา
คงเป็นเด็กอารมณ์ขึ้นลง ฮึ่ยยยยย


LAM 10 เม.ย. 2558, 10:47:02 น.
เค้าชอบพี่ซันลุคนี้จังเลย ปากดีมากเลยนะพี่ซัน ปล่อยออกมาแต่ละที คนอ่านนี้างสารหนูปุยฝ้ายเลยล่ะ สนุก ๆ ค่ะ พันวลีชอบมาก ๆ เป็นกำลังใจให้พันวลีเสมอนะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 11 เม.ย. 2558, 23:11:27 น.
แหม่ คนอ่านก็ลุ้นจนกลั้นหายใจตามมมมเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account