เงามาร (กำลังรีไรท์ค่ะ)
'วาลาดา' ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ว่าตัวเองมีสามีมีลูกแล้ว
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ
คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...
ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...
หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...
ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ
โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...
รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม
ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...
เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...
และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร
และ...
หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน
...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...
...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ
คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...
ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...
หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...
ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ
โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...
รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม
ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...
เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...
และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร
และ...
หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน
...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...
...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....
Tags: ดราม่า ซุลก๊อตไนท์ วาลาดา นาดีม มาร มารร้าย ไสยศาสตร์ ญิน นุฮา อะสุเซน่า วารินทร์ อานิต้า
ตอน: บทที่ 41 กระชับพื้นที่ (100%)
เอาที่เหลือมาส่งจ่ะ^o^
______________________________________________
ซูฮาน่าเห็นลูกชายคนเดียวกำลังสะพายเป้ใบใหญ่สวมชุดลำลอง
อย่างพวกนักท่องเที่ยวเดินลงบันไดมาจึงอดถามไถ่ไม่ได้
“นั่นจะไปไหนล่ะนั่นน่ะ…” คนเป็นลูกเดินมาหามารดาแล้วก้มลง
หอมแก้มไปหนึ่งฟอดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างเมื่อบอกมารดาว่า
“ไปตามหาไตอีกข้างครับ…บอกพ่อด้วยนะครับว่าผมลางานสามวัน”
คนเป็นแม่ถึงกับตาโต
“แล้วงานทางนี้ล่ะตานุ…” อยู่ๆประธานบริษัทจะมาโดดงานแบบนี้ได้ไง
“ผมมอบหมายงานต่างๆให้ลูกขุนพลแนวหน้าของเราไปหมดแล้วครับ…
เด็จแม่วางใจได้พะยะค่ะ…กระผมลาล่ะขอครับ แล้วเจอกันนะขอครับ…”
พูดจบก็กระชับเป้เดินจ้ำอ้าวออกไปโดยไม่รอให้คนเป็นแม่ได้ซักไซ้ไล่เลี่ยเลย
ทำเอาคนที่ยังอึ้งๆอยู่ถึงกับอ้าปากค้าง
“มันน่าสงสัยนะ!” เสียงนั้นเปรยออกมาด้วยแววตาไม่ไว้วางใจเจ้าลูกชาย
นุฮาที่แปลงร่างเป็นนักท่องเที่ยวขอใช้ชีวิตติดดินอย่างนายดินทราย
นั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองมาลงที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่
แทนที่จะเป็นสนามบินตรัง เพราะเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ
ไปลงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่นั้นมีหลายเที่ยวกว่า
เพราะมีแทบทุกชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ
นั่งไม่ถึงชั่วโมงเครื่องบินก็ร่อนลงแตะพื้นสนามบินปลายทาง
ก่อนจะนั่งรถตู้ต่อไปยังท่าเรือปากบาราในจังหวัดสตูล
ด้วยความรอบคอบ ชายหนุ่มใช้บัตรกดเอาเงินสดออกจากเครื่อง
เพราะไม่แน่ใจว่าที่เกาะหลีเป๊ะมีตู้เอทีเอ็มให้กดเงินเอาไว้ใช้หรือไม่
หรือถ้ามี หากว่ามันเสียขึ้นมา คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเงินจ่ายค่าห้อง
ค่าครองชีพที่ใครๆต่างเล่าขานกันว่าที่นั่นค่าครองชีพแพงยิ่งนัก
และไม่แน่ใจว่ามีร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลเว่นไหม
เขาจึงเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อน้ำดื่มติดตัวไปด้วย…
แม้จะเป็นเดือนแห่งการถือศีลอดแต่น้ำก็จำตกพกไป…อะไรรออยู่ข้างหน้าบ้างนั้นเราไม่รู้…
จึงต้องปลอดภัย อุ่นใจไว้ก่อน…
ชายหนุ่มเลือกขึ้นเรือเฟอร์รี่ ทั้งที่รู้ว่าเรือสปีดโบ๊ทจะมีการแวะจอดเกาะไข่
และเกาะตะรุเตาด้วย เพียงแต่การมาในครั้งนี้ เขามิได้มาเพียงเพื่อเที่ยวเตร่
แต่เที่ยวอย่างมีเป้าหมาย…เลยเลือกอะไรที่มันเร็ว ยิ่งเร็วยิ่งแรงเขายิ่งต้องการ…
และเขาไม่แน่ใจว่าช่วงนี้มีคลื่นแค่ไหน จึงไม่ขอเลือกที่นั่งด้านหน้าของเรือ
เพราะเกรงว่าอาจจะมีการเมาเรือโดยไม่คาดคิด…
ชายหนุ่มจึงเลือกที่นั่งด้านหลังเพราะด้านหน้าหัวเรือจะต้องเชิดขึ้น-ลงอยู่ตลอด
ตามจังหวะของคลื่นลม และถ้าคิดจะชมวิวด้านนอกเรือเห็นจะยากเสียแล้ว
เพราะกระจกมัวเหลือเกิน เขาเลยขอหลับตาพัก
นั่งเรือประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษๆก็มาถึงเกาะหลีเป๊ะ เพียงแต่เกาะหลีเป๊ะ
ไม่มีท่าเรือให้เรือจอด เรือใหญ่จึงมาหยุดจอดอยู่ตรงโป๊ะกลางน้ำที่หาดพัทยา
ผู้โดยสารเรือใหญ่จึงค่อยๆทะยอยกันลงจากเรือเพื่อไปต่อเรือหางยาว
ที่มารอรับเข้าหาดอีกต่อหนึ่ง
กว่าจะรู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เขาก็ได้ยินเสียงผู้โดยสารคนหนึ่งซึ่งคงเป็นนักท่องเท่ียว
ที่มาที่นี่บ่อยๆบอกเล่าโดยให้เหตุผลว่า ช่วงที่เรือใหญ่แล่นผ่านและมี
การทอดสมอเรือนั้นมันจะเป็นการทำลายแนวปะการัง เรือใหญ่ที่เขาโดยสารมา
จึงต้องมาจอดลอยลำที่โป๊ะแห่งนี้เพื่อส่งผู้สารต่อไปยังเรือเล็ก…
แต่เขามองว่า…นอกจากจะเป็นการไม่ทำลายแนวปะการังแล้ว
ชาวบ้านในละแวกนี้มีงานให้ทำเพิ่ม…นับว่าเป็นการเพิ่มอาชีพให้กับชาวเกาะหลีเป๊ะ
อีกทางหนึ่ง…เพราะแทนที่เม็ดเงินจะไปตกอยู่ในกระเป๋านายทุนใหญ่เสียทั้งหมด
มันก็พอจะมีรั่วไหลกระจัดกระจายไปยังมือน้อยๆของชาวบ้านอยู่บ้าง…
เพราะคนขับเรือเล็กหรือเรือหางยาวโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นคนในท้องถิ่น
ซึ่งเรือหนึ่งลำจุคนได้ประมาณ 10 คน นั่งประมาณ 10 นาที
เรือน้อยก็จอดเกยหาดทรายสีขาวละเอียดเหมือนน้ำตาลทรายขาว
แต่เมื่อเพ่งดูดีๆเขาว่ามันยิ่งกว่าคอฟฟี่เมทที่เอาไว้เติมในกาแฟเสียอีก…
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าได้ตกเป็นเป้าสายตาของสาวๆที่นั่งโดยสารเรือลำเดียว
มาตั้งแต่ท่าเรือปากบารายันเรือเล็ก ชายหนุ่มผู้สะพายเป้ กางเกงสั้นแค่เข่า
โชว์ขนหน้าแข้ง เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นโชว์กล้ามเนื้อแขนไม่มากไม่น้อยจนเกินงาม
ที่เมื่อพอมันโดนลมทะเล เสื้อเชิ้ตตัวบางที่ไม่ได้ติดกระดุมเลยสักเม็ด
ก็ปลิวสยายท้าลมร้อนและไอแดดที่แผดเผา…ทำให้เห็นหุ่นกำยำที่อยู่ภายใต้เสื้อกล้าม
สีขาวแบบแนบเนื้อหนุ่ม…
ใบหน้าที่ไม่ได้ขาวจัด ซ้ำยังดูคมเข้ม ผมตัดเรียบ สวมแว่นกันแดดสีชามหาเสน่ห์
รูปร่างหน้าตาบาดจิตบาดใจทั้งสตรีไทยหมายเลขหนึ่ง และสตรีต่างแดนหมายเลขสอง…
ไม่เว้นแม้แต่สตรีหมายเลขสามอย่างกระเทย…
สามสาวจากสามเผ่าพันธุ์จับจ้องชายหนุ่มราวกับว่าเขาคือเนื้อวัวโกเบ
ที่หั่นเป็นชิ้นบางๆในจานที่วางล่อตาล่อใจ ล่อน้ำย่อยในกระเพาะอยู่ข้างๆเตาย่าง
ที่พร้อมจะทำหน้าที่อยู่แล้ว…ขาดแค่น้ำจิ้มและเครื่องเคียงเท่านั้น…
มิเช่นนั้น…ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ท่ามกลางท้องทะเลสีครามและหาดทรายขาว…
ดั่งสวรรค์เป็นใจเปิดทางให้…โอกาสอย่างนี้ไม่ได้จะมีมาเยือนกันบ่อยๆ
สามสาวจากสามเผ่าหันมามองหน้ากัน ส่งสายตาให้กันเป็นสัญญาณว่า
ผู้ชายที่ข้างกายไร้คู่เช่นนี้ ใครดีใครได้ มือใครยาวสาวได้สาวเอา…
และแม้ไม่ได้พกสาวๆมาแม้แต่คนเดียว หากก็ยังมีสาวๆคอยเดินติดสอย
ห้อยตามนุฮามาตลอดทางไม่ให้ห่าง…
โดยที่คนโดนเล็งเป้าหาได้ใส่ใจสิ่งใดไม่
เพราะเป้าที่เขาเล็งไว้…มันคือ…ไตอีกข้างหนึ่ง!
ปฏิบัติการตามหาไตที่หนีหายมาอยู่ที่นี่จึงเริ่มขึ้นด้วยการเช็คอินเข้าพักรีสอร์ท
ที่เขาสืบรู้มาว่าเป็นรีสอร์ทที่มารดาของหญิงสาวเป็นเจ้าของ…
สามสาวที่จองที่พักไว้ที่อื่นก่อนหน้านี้ยอมเสียเงินค่าจองล่วงหน้าไปโดยไม่เสียดาย
ก่อนจะเช็คอินที่เดียวกันกับเป้าที่เล็งกันไว้ แต่โชคร้ายที่ห้องเดี่ยวหมด
เหลือแค่บ้านพักที่จุคนได้ไม่เกินสามคนเพียงแค่หลังเดียวเท่านั้น
สามสาวจากสามเผ่าเลยต้องไปกองอยู่ในที่เดียวกันอย่างไม่อาจขัดขืนได้
เสร็จจากเข้าห้องพัก อาบน้ำอาบท่าแล้ว นุฮาก็เดินไปสำรวจรอบๆบริเวณ
ก่อนจะนอนลงตรงที่นั่งริมหาด ลมทะเลยามเย็นพัดต้องกาย
หอบความเหนื่อยล้าพัดลงทะเลไปได้อย่างไร ชายหนุ่มก็ยังฉงน
เพราะบรรยากาศดีๆเหล่านี้ก็เป็นได้ที่ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
กับการตรากตรำทำงานแบบไม่มีวันหยุดมาหลายเดือน
พร้อมทั้งคอยสะสางปัญหายุ่งยากต่างๆทำให้สมองและร่างกายของเขา
ดูจะตื่นตัวกับความงดงามตรงหน้าอยู่ไม่น้อย…
นุฮามองไปยังชายหาด ซึ่งหาดที่เกาะหลีเป๊ะมี 3 หาด คือ
หาดซันไรส์หรือหาดชาวเล หาดซันเซทหรือหาดชาวประมง และหาดพัทยา
โดยหาดซันไรส์จะเป็นหาดที่สวยที่สุดในเกาะหลีเป๊ะ มีร้านอาหารและถนนคนเดิน
มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ซึ่งในส่วนของรีสอร์ทขนาดกลางที่เขาเข้าพักแห่งนี้จะอยู่ในส่วนของหาดซันเซท
ที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีรีสอร์ทไม่มากนัก หาดจะมีโขดหิน
มีสันทรายยื่นไปในทะเล วิวสวยมาก หากมองจากรีสอร์ทแห่งนี้
ก็จะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าครามและแนวปะการังใต้น้ำได้อย่างชัดเจน…
นุฮาที่นอนดูก้อนเมฆรูปร่างต่างๆบนท้องฟ้าที่เหมือนลอยอยู่เหนือผืนน้ำ
แค่ไม่กี่เซ็นติเมตรอย่างเพลิดเพลินจนเผลอหลับไป
มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ดวงอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้าแล้ว
เป็นสัญญาณว่าใกล้ได้เวลาละศึลอด…ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นมุ่งไปยัง
ส่วนของร้านอาหารของทางรีสอร์ททันที…
มีอาหารแบบบุฟเฟ่เตรียมไว้สำหรับมุสลิมที่ละศีลอด และมีในส่วนที่สามารถ
สั่งอาหารเพิ่มเติมได้…นุฮานั่งอ่านเมนูอาหารแล้วยิ้มกว้างเมื่อเจอเมนูโปรด…
“วันนี้จะได้กินมั้ย…ดูซี…ดวงอาทิตย์ห้อยโตงเตงใกล้จะลงไปเล่นน้ำทะเล
อยู่รอมร่อแล้วนะ…หรือจะให้ห้อยท้องรอไปจนมันโผล่ขึ้นมาจากน้ำ
เพื่อเยาะเย้ยคนไม่ได้กินข้าวสักเม็ดอีกรอบตอนเช้าวันพรุ่งนี้…”
เพราะครัวที่รีสอร์ทแห่งนี้เป็นครัวเปิด ทำให้ชายหนุ่มได้ยินเสียงคนในครัว
ดังออกมาพร้อมกลิ่นหอมของอาหารอบอวนไปทั่วทั้งบริเวณ
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหล่ะ…ผมมีลูกค้า เห็นมั้ยว่าลูกค้าหลายโต๊ะ…รออาหารอยู่…
ลูกค้าคือพระราชา…”
“แต่พี่คือ…วีไอพีนะ…วี-ไอ-พี” มีการย้ำเสียงหนักแน่นอย่างคนที่เอาแต่ใจ
ไม่ต่างจากเด็กที่กำลังร้องขอข้าวปลาอาหารจากแม่
“วีไอพีที่ย่อมาจาก…เวรี่…อินโนเซ้นท์…เพอร์ซั่นน่ะนะ…”
แล้วเสียงโอดครวญก็ติดตามมากระแทกหูลูกค้าหลายรายที่นั่งรออาหาร
จานเด็ดจากพ่อครัวหัวเห็ดท่ีกำลังต่อกรกับอีกคนอย่างดุเด็ดเผ็ดมันเลยทีเดียว…
นฺุฮาหันไปดูลูกค้าโต๊ะอื่นที่เหมือนจะนั่งยิ้มๆแล้วจึงยิ้มตาม…
เขาว่าเสียงนั้นมันคุ้นๆหูอยู่ไม่น้อย แต่จังหวะจะโคนและสำนวนการพูดมันไม่คุ้นเลย…
“อยากได้อย่างใจก็มาผัดเองเลย…ไอ้สปาเก็ตตี้เส้นดำผัดซอสเฟสโตขี้เมาของพี่น่ะ…
เอาเลย...ผมยกกะทะกับตะหลิวให้…แถมเตาให้อีกหัว…เชิญเลยครับคุณแม่ครัวหัวยุ่ง…”
แม่ครัวหัวยุ่งตีหน้ายุ่งทันทีเมื่อโดนดีเข้าให้จนได้…
“อย่า…อย่าให้ถึงคิวบู๊บ้างก็แล้วกัน…” มีเสียงคาดโทษตามมาติดๆ
“จะจับปืนยิงกะบาลผมหรือ…อย่าเลย…แค่นี้มือพี่ก็สั่นเพราะหิวข้าวใจจะขาดอยู่แล้ว
และแน่ใจนะว่า…เหนี่ยวไกปืนไหว…ฮ่าๆๆ…”
เสียงหัวเราะชอบใจลอยมาตามลม…คนฟังก็นั่งฟังไปว่าอีกฝ่ายจะต่อกรกลับไปยังไง…
เอาสิ...งานนี้พ่อครัวปากร้ายกับแม่ครัวหัวยุ่งใกล้จะเปิดศึกสงคราม
กันในห้องครัวแล้ว โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตะวันใกล้จะชิงพลบ…แค่อีกไม่กี่คืบเท่านั้น…
“แกก็ทำให้หน่อยไม่ได้รึไง…ตะหลิวมันไม่ใช่ปืนนะ พี่ใช้มันไม่เป็น
ก็เห็นๆอยู่ว่ามันมีกลไกที่ซับซ้อนมาก…”
“พูดอย่างน้ีตลอด…แล้วก็ชี้นิ้วสั่งตลอด…”
“หน่า…อย่างน้อยพี่ก็ชี้นิ้วสั่งเป็น…รู้จักเมนูอาหารทุกอย่าง…
แกทำไรได้ ไม่มีที่พี่ไม่รู้จัก” เสียงนั้นเหมือนจะภูมิใจในตัวเองอยู่ไม่น้อย
“สงสารอนาคตสามีพี่นะ…คงต้องอดตายก็เพราะเมียทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง…
นอกจากไล่จับผู้ร้ายกับกินแล้วไม่จ่่ายลูกเดียว…”
“ไม่มีหรอกน่า…แกไม่ต้องผวาไป…พี่ไม่หามันหรอกสามงสามี
จะอยู่ชี้นิ้วสั่งแกไปอย่างนี้แหล่ะ…กินแล้วไม่ต้องจ่ายแบบนี้มีท่ีไหนในโลก…
แกคือยอดพ่อครัวขมูขี...”
"ขมูขีนี่เขาใช้กับยักษ์กับมารไม่ใช่รึไง..."
"แกไม่รู้อะไร...เดี๋ยวนี้เขาเอามาใช้กับพวกเทพบุตรกับเหล่านางฟ้ากันแล้วนะ...
พี่คือคนแรกที่นำมาใช้เองแหล่ะ...เดี๋ยวก็มีคนใช้ตาม...
ตามพี่มา รับรองว่าไม่มีตกรถไฟ(เทรน)..."
'ยอดพ่อครัวขมูขี' ไม่แน่ใจว่าควรจะยินดีหรือยินร้ายกับฉายาล่าสุดนี้ดี...
แม้ว่าจะพูดไปก็ยังทำอาหารไปอย่างคล่องแคล้ว ไม่มีใส่เคร่ืองปรุงผิดพลาด
เพราะเสียสมาธิไปกับการโต้คารมกับอีกคน…
นับได้ว่าเป็นพ่อครัวที่แยกประสาทสัมผัสได้ดีเยี่ยม แถมการทำงานของปาก
กับมือก็ยังไหลลื่นไปด้วยกันได้ดีเลิศ…เมนูอาหารกี่จานๆที่รับรายการมา
ถูกส่งต่อไปยังพนักงานเสริฟในร้านเพื่อนำส่งถึงโต๊ะลูกค้าอย่างไม่มีติดขัด
“ดูสิ…มีคนสั่งเมนูเดียวกับพี่ด้วยนะ…” พ่อครัวรับรายการมาจาก
พนักงานเสริฟที่เดินเข้ามาส่งรายการอาหารของลูกค้ารายล่าสุดให้
“แล้วแกจะให้เขาแซงคิวพี่รึ…นี่พี่แท้ๆของแกนะ…”
“ก็บอกแล้วว่า…ลูกค้าคือพระราชา…”
“ฮึๆ…งั้นขอดูหน้าพระราชาของแกหน่อยเหอะ…”
ว่าแล้วก็ชะโงกหน้าออกไปดูหน้าตาพระราชาตามหมายเลขโต๊ะที่เขียนเอาไว้
บนรายการอาหารนั้น แล้วก็ต้องตาค้างเมื่อได้สบตาคมของเจ้าของเมนูดังกล่าว
ที่เหมือนจะมองมาทางเธออยู่ก่อนหน้าแล้วด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องทำ…พระราชาของแกไม่กินแล้ว…แคนเซิลไปเลย…”
หญิงสาวหันไปสั่งน้องชายให้ยกเลิกรายการอาหารดังกล่าวเสียงเข้มทีเดียว
นุฮาที่เห็นเจ้าของบทสนทนาในห้องครัวเต็มๆตาอีกทั้งยังได้ยินคำสั่งแบบเอาแต่ใจนั่น
ทำเอาเขาถึงกับลุกขึ้นเดินไปยังหน้าเคาน์เตอร์ที่มองเข้าไปยังห้องครัวได้ทันที…
“พี่จะกินครับ…ไม่มีแคนเซิล…” นุฮาบอกพ่อครัว ทำให้คนที่กำลัง
ลังเลว่าจะทำดีหรือไม่ทำดีหันมามองเจ้าของเมนูอาหารดังกล่าว
แล้วก็ต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ…ให้กับความหล่อเหลาไม่เบาของพระราชา
และไม่ต้องคิดนาน เขาเต็มใจทำให้พระราชาหน้าตาดี
โดยไม่ต้องรอขอความเห็นจากใครในโลกหล้า…
“ถ้าแกทำให้เขา แกตายแน่จามาล…”
นุฮามองหญิงสาวตรงหน้านิ่ง ไม่เข้าใจว่าผีตนไหนไปเข้าสิงเธอ
ให้หันมาทำสงครามกับเขา ทั้งๆที่ผีห่าซาตานมารร้ายมันควรจะโดนล่ามไปแล้วแท้ๆ!
“นั่นมันเรื่องของพี่…แต่ครัวนี่มันของผม…พี่อย่ามาเบ่งผิดที่นะ…”
คนเป็นพี่หันไปทางพ่อครัวที่เริ่มลงมือจัดการทำเมนูอาหารดังกล่าวอย่างขมีขมัน…
“ขอข้าวผัดธัญพืชเพิ่มด้วยนะครับ…” มีการสั่งเพิ่มเสียด้วย
ทำเอาหญิงสาวยืนกัดฟันเพราะทำอะไรได้ไม่มาก หิวก็หิว…
เพราะถือศีลอดมาทั้งวัน…
เจอน้องกวนประสาทไม่เท่าไหร่ แต่นี่เขาเดินทางมาเหยียบดินแดนนี้ทำไม…
แถมยังมาเหยียบหน้าเธออีก…ดูจะไม่จบง่ายๆเสียแล้ว!
จบอาหารมื้อค่ำ เป้าหมายของเขาก็หายไปเลยไม่มีโผล่ออกมาให้เห็นแม้แต่เงา…
นุฮาเลยยอมให้หนึ่งวัน ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
พอตื่นมากินอาหารเช้าก่อนแสงแดงที่ขอบฟ้าจะปรากฏ เขาก็ไม่พบเธอในห้องครัว
มีแต่พ่อครัวที่มีฝีมือการทำอาหารเป็นเลิศที่คอยเอาใจแขกเหรื่อ
ซึ่งเป็นมุสลิมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ตื่นมารับประทานอาหารในเวลานี้
อยู่ในห้องครัวเพียงลำพัง…กับลูกมืออีกสามคน…
เสร็จจากอาหาร ก็เข้าสู่เวลาละหมาด นุฮาละหมาดในห้องที่เตรียมไว้
หลังจากนั้นจึงออกมารับอากาศบริสุทธิ์ เดินไปยังหาดชาวเลหรือหาดซันไรส์
เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น
ความสงบกับลมทะเลและเท้าที่ได้สัมผัสกับเม็ดทรายละเอียดส่งผลให้นุฮายิ้มกว้าง
กางแขนรับลมทะเล…ต้อนรับแสงแรกที่โพ้นขอบฟ้า…
ก่อนจะนั่งลงบนผืนทรายมองดูไข่แดงใบโตสีส้มอมแดงสุกเหนือผืนน้ำอยู่นาน…
ซึมซับความงามนั้นเข้าสู่จิตใจ ก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่าง
วูบผ่านหลังเขาไป…ชายหนุ่มหันไปมองก็พบกับสตรีสามนางในชุดเบาบางวาบหวิว
ชวนให้หัวใจกระตุกยืนส่งยิ้มมาให้เขาแล้วเหมือนว่าภาพนั้นจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
จนกระทั่ง...
“ขอพวกเรานั่งดูตะวันขึ้นด้วยได้ม้ัยคะ…” เสียงใสดังมาจากสาวต่างชาติ
ด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษแปร่งๆมองผาดๆเหมือนมีเลือดผสมระหว่าง
ญี่ปุ่นกับชาวยุโรปสักชาติหนึ่ง ตามมาด้วยสาวชาวไทยและมีอีกนาง
ที่เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าควรใช้คำว่านางนำหน้าได้ไหม…
สามสาวมานั่งล้อมหน้าล้อมหลังเขา ทำเอาพระอาทิตย์สีส้มแดงสด
ถูกบดบังไปโดยปริยาย…
“เอ่อ…พอดี…ผมคงต้อง…”
“แหม…อย่าเพิ่งปฏิเสธสิคะ…พวกเราน่ะแค่อยากทำความรู้จักกับคุณก็เท่านั้นเอง
พอดีเดินผ่านมาเห็นนั่งคนเดียวก็นึกว่าจะเหงา…”
สาวหมายเลขสามใจกล้ากว่าใครเอ่ยขึ้น เสียงที่ดังออกมาส่อได้ว่า
สิ่งที่นุฮาคิดไว้ไม่มีคลาดเคลื่อน สาวผู้นี้มิอาจใช้คำนำหน้านางได้จริงๆ
นี่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับใครกันล่ะเนี่ย…
แม่ผู้คอยช่วยชีวิตเขา กันท่าเขาจากสาวๆมาตลอดก็ไม่ได้อยู่ข้างๆ
คอยเป็นเทพีผู้พิทักษ์นุฮาเสียด้วยสิ…
มองไปแล้วก็ไม่พบว่าใครจะพาเขาออกไปจากสถานการณ์เช่นนี้ได้…
เขาไม่ใช่หนุ่มเจ้าสำราญ…ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับสาวๆ
เรื่องงานพอจัดการไหว แต่อะไรเทือกนี้ดูเหมือนว่าสมองของเขา
เกิดจะมาพิการเอาเสียดื้อๆ…
แล้วมือของสาวหมายเลขสามก็ไต่ไปตามลำแขนเปล่าเปลือยของเขา
เพราะเขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น สีโปรดแถมยังมีลูบไล้ ถูไปถูมา
เหมือนกำลังมองหาเลขเด็ด
“เจอมั้ยครับ…” ปากไวเท่าความคิด
“อะไรคะ…”
“ก็…เลขเด็ดน่ะ…” เท่านั้นแหล่ะสามสาวก็พากันหัวเราะคิกคักกันใหญ่อย่างมีจริตจะก้าน
“คุณนี่อารมณ์ขันเหมือนกันนะคะเนี่ย…” สาวไทยเอ่ยขึ้นพลางฟาดเบาๆ
ลงไปบนลำแขนของเขาคล้ายจะหยอกเย้า ทว่าสายตากลับเหมือนมี
ลูกไฟน้อยๆจุดประกายให้เห็นซึ่งความร้อนแรง
“ดูสิคะ…ผมเสียทรงหมดแล้ว…” สาวหมายเลขสองจากต่างแดน
เสยผมที่ปรกลงมาตรงหน้าผากให้เขาอย่างเบามือ แถมไม่พอแค่นั้น
ยังจับจ้องใบหน้าเขา คืบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ กระชับพื้นที่เขามาชิด
“คุณชื่ออะไรคะ…” เสียงหวานเอ่ยถามเขาโดยที่ลมหายใจนั้นรินรดอยู่บนใบหน้าเขาแล้ว
อะไรมันจะใกล้กันได้ไวขนาดนี้ หัวใจนุฮาเริ่มเต้นแรง
เขายังเป็นผู้ชาย และไม่ได้ตายด้าน!
“ผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ…” ชายหนุ่มรีบผุดลุกทันทีเมื่อเริ่มเห็นเค้าลาง
ภัยอันตรายผุดพรายอยู่ตรงหน้า
…เขาถือศีลอด…พยายามย้ำกับตัวเองว่า…เขากำลังถือศีลอด!
“ผมกำลังถือศีลอดครับ…คงไม่เหมาะ…ขอโทษด้วยนะครับ…”
เท่านั้นแหล่ะ ประตูทางออกของเขาก็เปิดกว้าง…ชายหนุ่มรีบจ้ำอ้าว
จากสถานที่ตรงน้ันทันทีทันใดโดยไม่หันกลับมามองเลยด้วยซ้ำ
“เพราะความกระหายอยากของหล่อนแท้ๆเลยนังกระสือ…”
เสียงสาวหมายเลขสามต่อว่าสาวหมายเลขสองทันทีที่เหยื่อตกใจ
กระโจนหนีออกไปแบบนั้น
“เพราะหล่อนด้วยแหล่ะย่ะนังปอบ…”
“ทั้งสองคนนั่นแหล่ะ…ไม่น่าเลยจริงๆ…ไปแล้ว…เขาไปแล้ว…”
เสียงสาวไทยหมายเลขหนึ่งพร่ำรำพัน ออกอาการคลั่งไคล้
จนสองสาวมองแล้วเกิดหมั่นไส้ขึ้นมา
“หล่อนก็ไม่ได้น้อยหน้าเลยนะนังชะนี…ฉันเห็นนะว่าหล่อนแอบลวนลามเขา…
ทำเป็นตีเบาๆ แหมๆๆ…ฉันรู้ทันหล่อนหรอกย่ะ…”
เสียงสาวหมายเลขสามกระหน่ำชะนีหน้าขาวในยามเช้าอย่างรู้เท่าทันเล่ห์กลมารยา
แล้วก็ต่างโยนความผิดให้กันต่อไปอีกหลายนาที
โดยที่นุฮาที่ออกมาจากสถานการณ์นั้นได้ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
หากก็โล่งอกได้ไม่กี่วินาทีเมื่อเห็นร่างของเป้าหมายของเขากำลังเดินอยู่ไม่ไกลกันนัก
นุฮารีบวิ่งไปเพื่อให้ทันร่างนั้น…พร้อมกับเรียกเธอไปด้วย
“บัว…บัว…” ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องวิ่งหนีสาวแล้วสุดท้ายก็ต้องมาไล่ล่าสาวอีกคน
…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา!
แล้วดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยินเสียงเขาเลย เพราะเธอยังคงเดินจ้ำอ้าว
ไปยังหน้าหาดที่มีต้นไม้เรียงราย โขดหินทอดตัวอย่างสวยงามเป็นแนว
ยิ่งเมื่อแสงแดดกระทบก็จะเห็นแสงสะท้อนออกมาจากก้อนหินเหล่านั้น
ช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก หากเขาไม่มีเวลาจับตามองมันนานไปกว่านี้
เพราะยังต้องการจะพูดคุยกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง
แต่พอหันไปอีกที ทุกอย่างกลับว่างเปล่า ไม่มีหญิงสาวที่เขาวิ่งตามมา
นุฮาลอบถอนใจอย่างหนักหน่วง
“ไปไหนของเขานะ ก็เมื่อกี้ยังเห็นๆอยู่เลย ถ้าจะหายไปไวขนาดนี้
มันไม่ใช่คนแล้ว ต้องขอมดำดิน…” ชายหนุ่มเปรย
เดินไปเดินมาอยู่ใกล้ๆต้นไม้ มองหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเธอ พลอยให้รู้สึกเซ็ง…
เลยทรุดลงนั่งบนผืนทรายใต้ต้นไม้ให้หายเหนื่อย
หากพอจะลุกขึ้นเพื่อกลับไปอาบน้ำที่ห้องพัก กลับได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
เหมือนเสียงของตกจากที่สูง และสิ่งที่พบบนผืนทรายใต้ต้นไม้กลับไม่ใช่ผลของมัน
และเขาก็ไม่คิดว่าต้นไม้ต้นใดในโลกนี้จะออกผลเป็น ‘ไอโฟน’
แม้ว่ามันจะมีสัญลักษณ์ของลูกแอปเปิ้ลโดนแทะอยู่ตรงด้านหลังก็ตาม
นุฮาฉุดยิ้มที่มุมปาก หยิบเจ้ามือถือยี่ห้อผลไม้ที่ร่วงลงมาจากต้นอะไรสักอย่าง
ที่เขาไม่รู้จักชื่อของมัน…
แต่เชื่อแน่ว่า มันไม่มีทางออกลูกเป็นเจ้านี่ที่บัดนี้อยู่ในครอบครองของเขาได้เป็นแน่…
ก่อนจะถอยออกไปสามก้าวเพื่อแหงนหน้ามองเจ้าของของมันให้เต็มตา…
แล้วก็พบว่ามีคนที่น่าจะกลายพันธุ์มาจากลิงซิมแพนซีที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนกิ่งไม้
มีการเก็บขาเรียบร้อยไม่มีห้อยโตงเตงลงมาให้เป็นที่น่าผิดสังเกต…
แล้วไอ้เสื้อคลุมแขนยาวสีเขียวกับกางเกงเลสีเขียวเข้มติดไปทางดำนั่น
มันดูจะเข้ากันกับพวกใบไม้ได้ดีไม่น้อย…ผ้าคลุมศีรษะสีเดียวกันกับชุดนั่นด้วย…
ลิงตัวนี้ใส่ชุดสีเดียวกับพวกทหารพรานเลย
…ถึงว่าสิ…เผลอไม่ทันไรหายแว้บ ที่แท้ก็ใช้วิธีของลิงนี่เอง…หาใช่ขอมดำดินไม่!
สสารไม่ได้หายไปจากโลกนี้…เขาขอยืนยันด้วยอีกคน!
“ว่าไง…จะลงมาคุยกันดีๆได้รึยัง…” นุฮาถามเมื่อเธอยอมนั่งห้อยขาตามสบายแล้ว
“อยากคุยก็คุยไปสิ…จะบนต้นไม้หรือใต้ต้นไม้…ยังไงก็ค่าเท่ากัน…”
นี่คิดจะเอาคืนกันใช่มั้ย…เขารู้แล้วว่าเธอน่าจะไม่พอใจที่ตอนนั้น
เขาคุยกับเธอไปก็ทำงานไปด้วยแถมยังมีกองเอกสารเป็นกำแพงสูง
คอยปิดกั้นการสนทนา…มันคงดูขัดตาขัดความรู้สึก
และคงขัดใจอดีตผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่ไม่น้อยล่ะสิท่า…
“มันจะดีกว่านี้…ถ้าฉันได้คุยกับเธอในสภาพที่เป็นคนเต็มคน…”
“แล้วฉันเป็นคนไม่เต็มคนตรงไหน…”
“ก็ตรงที่ตอนนี้เธอเป็นครึ่งคนครึ่งลิงอยู่น่ะสิ…”
นุฮาสวนกลับแบบไม่มีถนอมน้ำใจ ทำเอาคนโดนสวนถึงกับนั่งแทบไม่ติด
ดีนะที่มือเหนียวจับกิ่งไม้เอาไว้แน่นอยู่ ไม่งั้นได้ร่วงไปนอนอยู่บนผืนทรายไปแล้ว
“ก็ถ้าอยากให้เท่าเทียมกัน คุณจะขึ้นมาคุยกับฉันแบบครึ่งคนครึ่งลิงบนนี้ก็ได้นะ
แต่ยังไงๆฉันก็ไม่ลงไปหรอก…”
นุฮาลอบถอนใจ ก่อนจะฉุดยิ้มที่มุมปากเมื่อนึกได้แล้วว่าจะทำอย่างไร
ให้เกิดความเท่าเทียมกันโดยที่เขาไม่ต้องกลายเป็นครึ่งคนครึ่งลิง
“งั้นอย่าลงมานะ…รออยู่บนนั้นแหล่ะ…อย่าลงมา!”
เขาจี้นิ้วสั่ง กำชับเลยทีเดียว ก่อนจะเดินจากไป…
ทำเอาคนบนต้นไม้ถึงกับชะโงกหน้าออกไปมองว่าเขาเดินไปทางไหน
หากเพราะความดกของใบไม้ทำให้เห็นไม่ชัด
และเมื่อเห็นว่าเขาหายไปนานแล้ว หญิงสาวที่เริ่มจะไม่สนุกกับการนั่ง
อยู่ในสภาพเดิมๆแบบนี้จึงคิดจะลงจากต้นไม้…
เหนือกว่านั้นคือ มือถือไอโฟนของเธอยังอยู่ในมือเขา…
แต่เพียงขยับก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา และแน่นอนว่าเป็นเขานั่นแหล่ะ…
อะสุเซน่าหรือบัวถึงกับถลึงตาโตมองสิ่งที่อยู่ในมือของเขา…
ไม่นะไม่!!!
หญิงสาวกู่ก้องภายในใจเมื่อรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนต่อจากนี้…
“จะลงหรือไม่ลง…” เสียงเข้มๆถามย้ำ หากคนอย่างเธอหรือจะฟังคำสั่ง
เขาไม่ใช่เจ้าชีวิต ไม่ใช่เจ้านาย ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาของเธอนี่…
“โอเค…” พูดพลางก็สะบัดรังมดแดงในมือไปบนต้นไม้ที่เธอใช้เป็นฐานที่มั่น
แล้วจึงโยนรังมดแดงทั้งรังไว้ตรงโคนต้น…ไม่ใช่แค่รังเดียว เขาเอามาถึงสองรัง…
แล้วกองทัพมดแดงที่รังแตกมันก็ย่อมต้องอพยพโยกย้ายหาที่อยู่ใหม่
แล้วที่ไหนเล่าถ้าไม่ใช่ที่ที่เธอจับจองอยู่ก่อนหน้ามันน่ะ!
น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟฉันใด…คนจำนวนน้อยก็ย่อมแพ้ให้แก่มดจำนวนมากฉันนั้น…
หญิงสาวมองหาทางลง แต่ตอนนี้มันลงไม่ได้แล้วนะสิ…
ส่วนคนที่หาเรื่องเธอยืนเท้าสะเอวมองเธออยู่ในดินแดนอันปลอดจากกองทัพมดแดง…
รอยยิ้มของเขามันช่างตำใจเธอยิ่งนัก…
แล้วไม่นานมดแดงมันก็จู่โจมเธอ ท้ังๆที่มันมาทีหลังแท้ๆ…
หญิงสาวยอมยกธงขาว ห้อยตัวลงมาจากต้นไม้ด้วยการโหนตัวไปยังอีกกิ่ง
ที่ต่ำกว่าอย่างคล่องแคล้วว่องไวไม่ต่างจากลิงลมที่โหยตัวจากกิ่งหนึ่งไปสู่อีกกิ่งหนึ่ง
ทำเอาคนมองถึงกับมองอย่างอึ้งและทึ่ง
จนสุดท้ายเท้าทั้งสองของเธอก็แตะพื้นทราย
มือทั้งสองคอยปลดเจ้ามดแดงที่กำลังรุมเธออยู่จนต้องปลดผ้าคลุมศีรษะออก
แล้วควานหาตัวการที่กำลังกัดเธออยู่
นุฮาเดินเข้าไปใกล้ หมายจะช่วยเธอปลดมดแดงที่วิ่งเล่นอยู่บนเส้นผมหยิก
สีน้ำตาลแดงเหมือนตุ๊กตาฝรั่ง สีเดียวกับสีของมดแดงนั่นออกให้…
“ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปห่างๆเลยนะ…”
หญิงสาวถอยออกมาให้ห่างๆเขาในขณะที่พยายามเอามดแดงที่กำลังกัดคอเธอออก
แถมมันยังไต่เข้าไปในใต้ร่มผ้าของเธออีก
…เพราะเขาคนเดียวเลย คิดทำอะไรพิเรนแบบนี้
“ก็จะช่วยไง…เดี๋ยวก็แดงไปทั้งตัวหรอก…” นุฮาขยับเข้าไปใกล้
หวังจะช่วยหญิงสาวด้วยใจบริสุทธิ์ เพราะอดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ที่เขาแกล้งเธอแรงไป…
“ไม่ต้องเข้ามา…เพราะคุณคนเดียวเลย…” หญิงสาววิ่งเข้าไปซ่อนตัว
จากสายตาของชายหนุ่มอยู่หลังต้นไม้ใหญ่เพื่อควานมือเข้าไปในร่มผ้า
หวังจะจับเจ้ามดแดงตัวร้ายออกมาลงทัณฑ์…
กว่าจะปลดออกได้หมด เนื้อตัวของหญิงสาวก็แดงเถือก เสื้อคลุมถูกสลัดทิ้งไป
เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีดำแนบเนื้อ พอสะบัดมดแดงออกจากเสื้อคลุมได้
จึงนำมันกลับมาสวมอีกครั้ง…
พอออกมาจากที่ซ่อนได้ เธอก็รีบจำอ้าวเดินผ่านหน้านุฮาออกไป
ด้วยสีหน้าแดงก่ำทันที…นุฮาเดินตามไปติดๆ
พร้อมกับส่งเสียงตามหลัังเธอไปไม่ขาดสาย
“ฉันขอโทษ…ได้ยินมั้ยบัวว่าขอโทษ…ขอโทษจริงๆ…”
แต่คนเดินนำไม่คิดจะพูดอะไรตอบกลับมาเลย เธอเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยง
เข้าไปยังบ้านหลังใหญ่ตรงด้านหลังรีสอร์ทที่เขามั่นใจว่ามันคือบ้านของเธอ
เขาจึงเดินตามเข้าไปในบ้านหลังนั้นด้วย…
“อ้าวบัว…” เสียงมารดาเรียกลูกสาวไว้
“แม่ช่วยบัวหน่อย…” หญิงสาวจับมือมารดาไว้แล้วพยักหน้าน้อยๆด้วยแววตาออดอ้อน
“ช่วยอะไร…”
“บัวโดนมดแดงกัดไปทั้งตัวเลย…” หญิงสาวยังคงทอดสายตาเว้าวอนไปยังมารดา
“โตจนป่านนี้แล้ว ยังปีนต้นไม้อีกหรือลูก…ไม่ไหวๆ พอทีเถอะ…
เราน่ะเป็นผู้หญิงนะ เรื่องปีนป่ายมันไม่ใช่อะไรที่ผู้หญิงเราสมควรทำ
และตอนนี้เราก็ไม่ได้เป็นไอ้ตำรวจอะไรนั่นแล้ว เลิกทำอะไรแบบนั้นเสียทีได้มั้ย
ก่อนที่แม่จะหัวใจวายตายเพราะทนมองไม่ได้…” หญิงสาวยิ้มแหย
“บัว…บัวจะพยายามจ่ะแม่จ๋า…แต่ตอนนี้ช่วยทายาให้บัวหน่อยน้า”
“ไปอาบน้ำก่อนเลย…แล้วเดี๋ยวแม่จะขึ้นไปทายาให้…แล้ว…เอ่อ…”
หญิงกลางวัยสั่งลูกสาวก่อนจะตกลงพูดติดๆขัดๆขึ้นมาเมื่อหันไปเจอคนแปลกหน้า
แต่จะว่าแปลกหน้าก็คงจะไม่ใช่ซะทีเดียว…
“อัสสลามุอะลัยกุมครับคุณน้า…ผมนุฮา กรภัทรกุลครับ…”
ชายหนุ่มทักทายพร้อมแนะนำตัวทันทีด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง
นางจึงยิ้มตอบ เพราะว่ารู้จักกับครอบครัวกรภัทรกุลดี
เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานและยังไม่ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่
นางยังไปมาหาสู่กับมารดาของคนตรงหน้าอยู่บ่อยครั้ง
เพราะเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสถาบันกัน…
“บัวเขาโดดงานมาครับ…แม่ผมให้ผมมาตามกลับไปทำงานให้ท่าน…”
นุฮาเอาแม่มาบังหน้าได้อย่างแนบเนียนเลยทีเดียว
โบราณเขาว่าไว้ว่าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด…
แต่ตอนนี้ไม่มีแม่มาให้เดินตาม ก็ขอเอาชื่อแม่มาใช้ก็แล้วกัน…
“โทรแล้วเขาก็ไม่รับ ไม่รู้ว่าเอาโทรศัพท์ไปไว้เสียที่ไหนครับ…
ผมเลยต้องมาตามถึงที่นี่…” ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้มีช่องว่างให้คนจบกฎหมาย
ใช้ช่องทางนั้นเอาตัวรอด
“งั้นเอากลับไปเลยค่ะ…อยู่นี่ก็ดีแต่ป่วนชาวบ้านเขา…เมื่อก่อนลุงเขา
ก็โทรมาเรียกไปช่วยงานตั้งหลายรอบแล้ว แต่สุดท้ายก็หนีกลับมาทุกที
ล่าสุดนี่ก็โทรมาตามอยู่เหมือนกันค่ะ…ไม่รู้ทำไมสิ…”
ว่าพลางหันไปทางลูกสาวท่ีรู้สึกว่าเริ่มจะทำตัวเกเรไม่ต่างจากตอนเด็กๆ
ที่ดื้อดึงพูดเท่าไหร่ สอนเท่าไหร่ก็ไม่เคยตาม ไม่เคยเชื่อฟังกัน
ทีกับผู้บังคับบัญชาล่ะเชื่อฟังกันดีนัก…บอกให้ทำอะไรยังไงก็ทำตามเขา
ไม่มีปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยง งานเสี่ยงแค่ไหนก็ไม่สน…
“บัวไม่ใช่เด็กๆนะแม่…” หญิงสาวหน้างอ ค้อนมารดาที่ตำหนิเธอต่อหน้าเขาแบบนี้
เธอไม่ชอบเลย ไม่ชอบสายตาของเขาที่เหมือนจะยิ้มได้หัวเราะได้อยู่ในลูกกะตานั่น
“แล้วที่กลับมาเพราะว่าอยากจะมาอยู่ดูแลแม่หรอก…”
“หือ…มาอยู่ดูแลแม่หรือมาอยู่ให้แม่ดูแลกันแน่ฮึ…วันๆทำแต่เรื่องเสี่ยงๆ
เมื่อวานไปมีเรื่องชกต่อยกับเขาน่ะ ลืมไปแล้วหรือ…”
“ก็มันลวนลามผู้หญิง…ต้องสั่งสอนมันบ้างนะแม่…ปล่อยไปก็เป็นภาระตกหนัก
กับสาวๆที่อื่นอีกตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่…เอาเข้าคุกไม่ได้
ก็เอาให้หยอดน้ำข้าวต้มไปสักสองสัปดาห์เป็นอย่างต่ำ…จะได้หลาบจำ
ไม่ไปเกะกะระรานชาวบ้านเขาอีกไงแม่” หญิงสาวว่าหน้าตาเฉย
“แล้วยังมีหน้ามาถามบัวอีกว่า…รู้ไหมว่าฉันลูกใคร…แม่ว่าบัวจะไปรู้กับเขามั้ยล่ะ…”
ยิ่งแม่มาพูดย้ำเรื่องเหตุการณ์สดๆร้อนเมื่อวานตอนเช้าที่หน้าหาด
อะสุเซน่าก็ถึงกับของขึ้น ทั้งๆที่ไม่อยากทำร้ายใครในเดือนนี้แล้วแท้ๆ
แต่พอมาได้เห็นภาพผู้ชายกำลังจะลวนลามผู้หญิงคนหนึ่งที่ตื่นมาดูตะวันขึ้นที่หน้าหาด
ทั้งๆที่เขาไม่เต็มใจ มันก็ยังจะขืนใจเขา
เธอเลยห้ามมือและเท้าตัวเองไม่อยู่ เลยต้องปะบู๊กัน
เสียพลังงานไปไม่น้อย เพราะมันมีพรรคพวกตามมาสมทบ…
กว่าจะเอาพวกมันจนสลบได้เธอแทบหมดแรงข้าวต้ม จนต้องสู้อดทน
ข่มความหิวมาทั้งวัน…
แต่ต้องมาปรอทแตกก็ตอนที่น้องชายมาหาเรื่องยียวนกวนประสาท
ไม่ยอมทำอาหารจานโปรดให้เสียที แถมยังมีคนมาแซงคิวอีก…
เป็นใครก็ใครมันก็ต้องฟิวส์ขาดกันบ้างล่ะ…
ศีลอดที่ถือไปจะได้ผลบุญครบถ้วนสมบูรณ์หรือเปล่าเธอเองก็ชักไม่แน่ใจ
แต่ให้ทำไงได้ สถานการณ์มันบังคับนี่นา…
“จริงๆก็ไม่น่าจะทำกันขนาดนั้นนะ…แค่ช่วยผู้หญิงออกมาให้ได้ก็น่าจะพอแล้ว
แต่นี่เราเล่นพวกเขาเสียระบม…แม่ว่ามัน…”
“มันสมน้ำสมเนื้อแล้วแม่…” หญิงสาวต่อให้ทันทีด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
นุฮายืนฟังสองแม่ลูกพูดคุยกันโดยไม่มีแทรกก่อนจะฉุดยิ้มที่มุมปาก
เมื่อได้เห็นหญิงสาวผู้นี้ในอีกด้านที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็น…
“แล้วถ้าเขามาเอาเรื่องเราทีหลังจะทำไง…”
“ก็ให้เขาไปฟ้องศาลเอา บัวสู้ขาดใจ…”
“แม่กลัวเขาจะเอาลูกน้อยหน่่ามาฝากน่ะสิ…”
“ให้มันเอามา ใช่มันมีคนเดียวในประเทศไทยเสียเมื่อไหร่…
เพราะถ้ามันทำ บัวจะยัดลูกตะกั่วกรอกปากมันแทนป็อปคอร์น…
และถ้ามันคิดจะเล่นกันบนฟ้า บัวจะยิงให้ร่วง แต่ถ้ามันคิดจะเล่นใต้ดิน
บัวก็จะดำดินไปจัดการมัน…”
ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่เด็ดขาด หากท่าทางของคนพูดดูเด็ดเดี่ยวไม่น้อย…
แววตานั้นไม่ได้พูดเล่นเลย…นุฮารู้ว่าคนแบบนี้เป็นคนพูดจริงทำจริงแน่
และเอาเรื่องน่าดู
“เก่ง เก่งเหลือเกิ๊น…” ผู้เป็นมารดากระแนะกระแหนลูกสาว
“แต่แพ้มดแดง…แม่ล่ะเซ็ง…” คนแพ้มดแดงถึงกับหน้าเหลือสองคืบ
พร้อมกับเหลือบตาไปยังอีกคนที่เธอเหมือนจะลืมการมีอยู่ของเขาไปเมื่อครู่
และเมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบขอตัวทันที
“บัวขอไปอาบน้ำก่อนนะแม่…แต่แม่อย่าลืมหายามาทาให้ด้วยน้าาาา”
เสียงนั้นดูออดอ้อนแทบยังมีกระแซะมาชิดลำแขนมารดา
“มันก็คงต้องอย่างนั้น…ไปได้แล้วไป๊…แม่จะได้พูดคุยกับคุณนุเขาสักที”
ว่าพลางหันมายิ้มให้นุฮา
“เชิญค่ะ…เชิญนั่งก่อน…อย่าไปถือสาเจ้าบัวมันนะคะ มันก็อย่างนี้ล่ะ
ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงทั่วไป…คำพูดคำจาก็ขวานผ่าซาก…สอนให้เป็น
ผู้หญิงเต็มร้อยยากค่ะ…เลือดพ่อเขาแรง…ว่าแต่ไม่เจอกันนาน
ยังจำน้าได้อยู่หรือคะ…”
แล้วบทสนทนาระหว่างทั้งสองก็ดำเนินไปอย่างเป็นกันเอง…
แม้ไม่เจอกันนานมากแล้วหากนุฮายังจำมารดาของเป้าหมายของเขาได้เป็นอย่างดี…
เพราะหลายครั้งที่ท่านจะขึ้นไปเยี่ยมเยือนพี่ชายที่กรุงเทพฯ
แล้วมักจะแวะไปหามารดาของเขาอยู่บ่อยๆ
เขาเองก็รู้เพียงแต่ท่านมีลูกสองคน ผู้หญิงกับผู้ชาย
แต่ไม่เคยเจอหน้าลูกสาวคนโตของท่านสักครั้ง เพราะเธอเรียนและทำงาน
อยู่ในต่างประเทศตลอด…ส่วนลูกชายของท่านเขาก็เคยเจอตอนที่ยังเล็กอยู่มาก…
และเจอแค่สองครั้งเห็นจะได้…
........โปรดติดตามตอนต่อไป.........
เป็น50% ที่ยาวมากกกกก....ฮ่าาาาา
เอาพี่นุมาให้เต็มๆ...เพราะเฮียแกยอมลดค่าตัวลงแล้ว...
เห็นว่าถ้าให้บทดีๆ เทียบเท่ากับบทบาทพระเอกเรื่องนี้ได้
เฮียแกยินดีมาเข้าฉากให้ฟรีๆ...ไม่คิดตังค์....5555
ก็ต้องดูกันต่อไปว่าเฮียแกจะแย่งซีนก๊อตไปได้สักกี่น้ำกัน...ฮ่าาาาา
เพราะตอนนี้เห็นจะทำได้แค่เพียง "มดแดงแฝงพวงมะม่วง" เหอๆๆๆ
ใกล้วันหยุดยาวแล้ว...ไปเล่นสาดน้ำกันที่ไหนขอให้ระวังด้วยนะจ๊ะ
ส่วนเต่าน่าจะอยู่โยงเฝ้ายามอยู่หน้าคอมแน่ๆเลย...อิอิ
แต่ก็ยังไม่แน่จ่ะ...เพราะใจนั้นอยากนอนอยู่กับบ้านอ่านโน่นนี่มากกว่า...
อย่างไรสำหรับวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
ก็ขอให้นักอ่านทุกท่านมีความสุขและมีเวลาดีๆกับครอบครัว
แล้วก็ปลอดภัยทั้งกายและใจกันทุกคนนะคะ...
แล้วอย่าลืมส่งกำลังใจมาให้เต่าด้วยนา...
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากๆค่ะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจด้วย
ขอบคุณทุกไลค์ที่กดให้กันนะคะ
..........ตอบเม้นท์จ่ะ............
1.คุณkonhin....อ่า...ไม่ใช่แค่เต็มครึ่งตอน
แต่มาแบบเต็มตอนแบบเต็มๆ...แถมยังมีล้นไปอีกตอนหน้า
เพราะถ้าเฮียแกจีบหนูบัวไม่สำเร็จ กุญแจที่ว่าก็ยากจะได้มาครอบครอง...ฮ่าาาา
ส่วนของรินทร์กับตาก๊อตจะเอากุญแจมายังไงนั้น...ต้องมาดูกันค่ะ
แบบว่ามีเข้าเค้าแล้วหนาาาาที่เดาๆมา...อิอิอิ
ของพี่นุแกเต่าอมพนำเอาไว้เพราะเฮียแกไม่ยอมมาเข้าฉากเท่าไหร่
ผลุบๆโผล่ แต่จะมาถี่ๆขึ้นในช่วงท้ายๆเรื่อง แบบว่าเวียนเทียนกันละ สามหนุ่ม
สามมุมของเต่า...อิอิอิ
ปล.แม่พี่นุ แม่ก๊อตเขาเป็นเพื่อนร้ากกกกกกกกันค่ะ...อิอิอิ
แถมมีแม่ของบัวเพิ่มมาอีกคน...กันท่าหรือว่ากันอะไรต้องมาดูกันค่ะ...
เพราะคนแก่ๆเขาก็มีมุมมองอีกแบบนึงของเขานาาาา....ฮ่าาาาา
2.คุณPampam....อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับฟาร์มสามารถของพี่นุแกนะคะ
ว่าจะจีบหนูบัวติดรึป่าววววว...ขนาดรินทร์ที่จีบหญิงไม่เป็น ห่ามๆแบบนั้น
ยังหาลู่ทางรวบหัวรวบหางนางฟ้ามาแต่งงานด้วยได้เลย...ฮ่าาาาา
พี่นุจะปล่อยให้ก๊อตกับรินทร์เหยียบหน้าได้ก็เอา...อิอิ
ก๊อตลูกสองแล้ว ส่วนรินทร์ได้แต่งแล้วแต่ยังไม่ได้ทำไรอย่างที่โม้กับพี่นุไว้เลยอ่ะ...555
ฟาร์มสามารถมันแตกต่างกัน ชนิดไม่ติดฝุ่นถ้าเทียบกันกับก๊อตน่ะนะ...ฮ่าๆๆๆ
3.คุณแว่นใส...ถ้าค่าตัวไม่แพง เฮียแกน่าจะแรงได้อีก...ฮ่าาาาาา
4.คุณyapapaya...พี่นุแกเป็นประเภทกัดไม่ปล่อยนะคะ...
ไม่เหมือนหญิงวาหรอก อย่างก๊อตน่ะต้องระวังไว้ ทำไรกับใครไว้ต้องระวัง...เหอๆ
ส่วนแม่ก๊อตช่างน่าสงสัยจริงๆ แต่คิดว่า ตอนนี้ใครๆก็น่าสงสัยนะคะ
เต่าเองยังสงสัยเลย...ฮ่าาาาาาาา
5.คุณตุ๊งแช่...ก่อนจะเข้าหอมันต้องจีบให้ติดก่อนน้าาาา
จะจับยัดเข้าห้องหอเหมือนอานิต้าก็กระไรอยู่...เพราะหนูบัวแกไม่ได้หัวอ่อน
และแสนดีอย่างหนูต้านาาาา...มันต้องใช้สเตปอื่นในการกระชับพื้นที่...อิอิ
ใครว่าโผล่ครบ...ยังเหลือมารเต่าที่เพิ่งรอดตายกับน้าเล็ก
ยังไม่ได้วนไปหาเลยนา...ฮ่าาาาา
งานนี้จุดเทียนเวียนเมีย เย้ย จุดเทียนเวียนวน...
ปล.พ่อจอมโจรที่โม้ว่าจะผลิตแฝดสยามน่ะหรือคะ ยังหรอกค่ะ
ทางโรงงานเขายังไม่อนุญาตให้ผลิต...ผู้ประกอบการก็ต้องรอไปก่อน...
ถึงจะมีใบอนุญาตให้ใช้สถานที่แล้ว แต่ก็ต้องเสียค่าผ่านทางเข้าไปด้วยนะ ใช่ว่าหนูต้า
จะยอมให้จับกินง่่ายๆนา...นางก็มีลูกล่อลูกชนของนางเหมือนกานนนน...ฮ่าๆๆๆ
6.คุณcoonX3...นั่นน่ะสิ...แม่พ่ีนุมีไรเก็บไว้ในใจหรือป่าว...
พวกผู้ใหญ่กำลังคิดอ่านทำการไรอยู่...ฮ่าาาาาาาาา...
พี่นุงานเข้าจริงๆนะเนี่ย มีสามสาวต่างเผ่าพันธุ์มาติดพันเฮียแกซะแล้ว...ฮ่าาาา
7.คุณnapt...พาไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะแล้วหนาาาาา...อย่าลืมบอกเต่าด้วยว่า
มันสนุกมั้ย...ฮ่าาาาา...แต่ทริปนี้เหมือนจะยังไม่จบนะคะ...^^
.....ขอให้สุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์พูนสุขกันถ้วนหน้านะคะ....
"เต่าโย"
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 เม.ย. 2558, 04:22:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 เม.ย. 2558, 04:23:37 น.
จำนวนการเข้าชม : 3624
<< บทที่ 41 กระชับพื้นที่ (50%) | บทที่ 42 ภารกิจลับ ภารกิจล้วง 1 >> |
![](/images/icons/guest.jpg)
![](/images/icons/29.jpg)
konhin 9 เม.ย. 2558, 06:31:28 น.
แหมมม พี่นุกล้าเล่นมุก ไตหาหัวจามมมม เค้าแปลออกนะ หุๆๆ
บัวพยศไปแล้ว พี่นุช่างแกล้งไปมั้ย?? มดแดงกัดเจ็บนะ รังแกผู้หญิงๆๆๆ ว่าแต่รายนามผู้ที่ถูกเผาไฟไป เมื่อไหร่จะกลับมาอีกคะ?
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ ระหว่างนี้จะมาลงอยู่หรือเปล่าคะ
แหมมม พี่นุกล้าเล่นมุก ไตหาหัวจามมมม เค้าแปลออกนะ หุๆๆ
บัวพยศไปแล้ว พี่นุช่างแกล้งไปมั้ย?? มดแดงกัดเจ็บนะ รังแกผู้หญิงๆๆๆ ว่าแต่รายนามผู้ที่ถูกเผาไฟไป เมื่อไหร่จะกลับมาอีกคะ?
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ ระหว่างนี้จะมาลงอยู่หรือเปล่าคะ
![](/images/icons/54.jpg)
Pat 9 เม.ย. 2558, 06:31:30 น.
นานๆปล่อยพี่นุแบบเต็มๆ เสน่ห์เหลือร้ายเหมือนกันนะ มีทั้งสาวและไม่สาวตามติดเนี่ย
พี่นุเล่นแรงไปไหม มดแดงตั้งสองรัง เดี๋ยวให้บัวเอาคืนหนักๆซะเลย
นานๆปล่อยพี่นุแบบเต็มๆ เสน่ห์เหลือร้ายเหมือนกันนะ มีทั้งสาวและไม่สาวตามติดเนี่ย
![](/images/emo/smilelyly.gif)
![](/images/icons/guest.jpg)
coonX3 9 เม.ย. 2558, 06:32:05 น.
พี่นุต้อวพยายามมากๆๆเลย เข้าทางผู้ใหญ่บัวไม่กัดจ้า
พี่นุต้อวพยายามมากๆๆเลย เข้าทางผู้ใหญ่บัวไม่กัดจ้า
![](/images/icons/guest.jpg)
napt 9 เม.ย. 2558, 07:21:19 น.
พี่นุออกตัวแรงเชีย รู้ความรู้สึกตัวเองไว 555
ไม่เคยไปหลีเป๊ะ พาเที่ยวต่ออีกหน่อยก็ดีค่าคุณโย
พี่นุออกตัวแรงเชีย รู้ความรู้สึกตัวเองไว 555
ไม่เคยไปหลีเป๊ะ พาเที่ยวต่ออีกหน่อยก็ดีค่าคุณโย
![](/images/emo/poyo.gif)
![](/images/icons/guest.jpg)
แว่นใส 9 เม.ย. 2558, 08:24:14 น.
มีบรรยากาศอย่างนี้ด้วย ไม่น่าเชื่อ พี่นุแกเก่งตลอดแต่แพ้หญิงเหรอเนี่ย
มีบรรยากาศอย่างนี้ด้วย ไม่น่าเชื่อ พี่นุแกเก่งตลอดแต่แพ้หญิงเหรอเนี่ย
![](/images/icons/221.jpg)
ตุ๊งแช่ 9 เม.ย. 2558, 08:49:40 น.
ที่กับสาวอื่นมิกล้า...แต่ถ้าสาวที่หมายตานี่..วิธีปราบแหะ..![](/images/emo/biggrin.gif)
อ้าวรึ นึกว่าโผล่ครบแล้ว ...งั้นจัดมาให้ครบบบบ...
ที่กับสาวอื่นมิกล้า...แต่ถ้าสาวที่หมายตานี่..วิธีปราบแหะ..
![](/images/emo/biggrin.gif)
อ้าวรึ นึกว่าโผล่ครบแล้ว ...งั้นจัดมาให้ครบบบบ...
![](/images/emo/huhu.gif)
![](/images/icons/guest.jpg)
yapapaya 9 เม.ย. 2558, 09:38:06 น.
ตามหาไตกันต่อไปนะพี่นุ หนูบัวจะยอมเปล่า ติดตามกันต่อไปเอาใจช่วยนะคะพี่นุ
ตามหาไตกันต่อไปนะพี่นุ หนูบัวจะยอมเปล่า ติดตามกันต่อไปเอาใจช่วยนะคะพี่นุ
![](/images/icons/guest.jpg)
![](/images/icons/guest.jpg)