เงามาร (กำลังรีไรท์ค่ะ)
'วาลาดา' ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ว่าตัวเองมีสามีมีลูกแล้ว
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ
คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...
ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...
หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...
ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ
โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...
รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม
ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...
เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...
และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร
และ...
หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน
...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...
...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ
คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...
ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...
หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...
ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ
โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...
รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม
ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...
เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...
และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร
และ...
หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน
...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...
...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....
Tags: ดราม่า ซุลก๊อตไนท์ วาลาดา นาดีม มาร มารร้าย ไสยศาสตร์ ญิน นุฮา อะสุเซน่า วารินทร์ อานิต้า
ตอน: บทที่ 43 น้องวาว่า
...น้องวาว่า...นี่ใครกันอ่ะ...อิอิอิ
______________________________________________________
“นี่นังดีม…ไหนๆแกก็หายเป็นปกติแล้ว…”
คุณหญิงวรลักษณ์เอ่ยกับลูกสาวที่ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว
อย่างจะปรึกษาหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของแผนการที่นางเพิ่งคิดได้หมาดๆ
“ลูกอะไรก็ไม่มีแล้ว ไอ้คฤหาสน์นั่นก็ชวดไปแล้ว…”
นาดีมมองมารดาแล้วกวาดสายตามองบ้านของตัวเอง
หลังใหญ่โตไม่ได้น้อยหน้าคฤหาสน์วรรัศมิ์สกุลก็จริง
แต่ความเก๋าและความขลังช่างแตกต่าง
เพราะไอ้เงื่อนไขบ้าบอพวกนั้นแท้ๆถึงทำให้เธอหมดสิ้นสิทธิ์ใดๆในวรรัศมิ์สกุล…
“แกก็ไม่ต่างจากสาวโสดไร้พันธะ…”
“แล้วไงล่ะแม่…” คนเป็นแม่นั่งลงบนโซฟาข้างๆลูกสาว
“ก็หาผัวใหม่สิยะ…และฉันเล็งเห็นแล้วว่า…”
นาดีมหันมามองมารดา จ้องเขม็งทีเดียว เพราะรู้ว่างานนี้มารดาของเธอ
คงต้องมีแผนอะไรอีกแน่ๆ…
“นายนุฮาอะไรนั่นยังโสดสนิท…แถมยังรวยมหารวย…
เพราะตอนนี้ทุกอย่างของตระกูลวรรัศมิ์สกุลก็ตกไปเป็นของแม่เจ้านี่
แล้วเจ้านี่ก็เป็นลูกชายคนเดียวของยัยซูฮาน่า…ไหนจะทรัพย์สมบัติอันมากมาย
ของตระกูลกรภัทรกุลอีก…นังดีมเอ๊ย…แกเห็นมั้ยว่า…ตอนนี้นายนุฮา
มีอะไรอยู่ในครอบครองบ้าง…”
นาดีมลอบถอนใจ…และพอจะเดาทางของมารดาออก
เพราะแค่มารดาอ้าปากเธอก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
“แต่เรายังหาตัวนังวาไม่ได้นะแม่…สมบัติของก๊อตเป็นของนังวากับลูกมัน”
“โธ่เอ๊ยนังดีม…ถ้าแกได้เป็นเมียนายนุล่ะก็ ต่อให้นังวามันกลับมา
แล้วแกคิดว่าแม่ของแกจะปล่อยให้นังวามันลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมต่อไปรึไง…
คิดสิคิด…ต้องคิด…” ไม่วายเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากลูกสาว
“อ้อยเข้าปากช้างแล้ว ใครมันจะยอมคายออกมา นอกจากจะเหลือ
แต่ชานอ้อยโน่นแหล่ะ…”
“แต่ดีมรักรินทร์ ดีมจะทวงเขาคืนมา…ถ้าเรื่องรวย รินทร์ก็ไม่แพ้ใคร”
“เชอะ…ไม่แพ้ใครที่ไหน…แกน่ะมันโง่ดักดาน…ตอนนี้ไม่มีใครสู้นายนุฮาได้หรอก…
แม่มันกำลังจะขึ้นแท่นรับมรดกมหาศาลอยู่รอมร่อแล้ว ถ้าแม่มันตาย
สมบัติจะเป็นของใครถ้าไม่ใช่ของลูกชายคนเดียว”
คนเป็นแม่หยุดหายใจแล้วสาธยายต่อไปอีกว่า
“ไอ้วารินทร์ก็เป็นได้แค่พวกเศรษฐีตีนเปล่า…สู้นายนุฮาไม่ได้หรอก
คนนี้เขาชาติตระกูลดี การศีกษาดี มีความสามารถ เป็นคนที่สังคมให้การยอมรับนับถือ
ที่สำคัญร่ำรวยมหาศาล แกจะได้มีสามีดีๆกับเขาสักที…
แล้วถ้าได้คนนี้…ต่อไปฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าไปทำให้ครอบครัวแกแตกแยกอีก…
แกอยากได้นักไม่ใช่รึไอ้ครอบครัวดีๆของแกน่ะ…แกก็สร้างมันกับคนๆนี้แหล่ะ…”
นาดีมถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ฟังเหตุผลของมารดา เธอเองก็อยากมีครอบครัวที่ดีๆ
ได้เชิดหน้าชูตาในสังคม ไม่ใช่สภาพแม่ม่ายผู้น่าสงสารแบบนี้
เธออยากให้คนทั้งโลกอิจฉาเธอ
…ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่ทำลายซุลก๊อตไนท์เลย
เพราะเขามีให้เธอได้ทุกอย่าง แค่เพียงเธอรู้จักที่จะยอมรับเท่านั้น…
“ดีมเห็นก่อนหน้านี้แม่แทบอยากจะฆ่าเขาด้วยซ้ำไปนี่…แล้วทำไมตอนนี้อยู่ๆถึงได้
มายุดีมให้แต่งงานกับเขา…” คนเป็นแม่ยักไหล่
“สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว…ทางที่ดีหันหน้าเข้าหากันมันจะเหมาะกว่า…
พ่อนายนุฮาก็มีอิทธิพล ผู้คนมากมายต่างให้การยำเกรงและนับถือเลื่อมใส
ถ้าแกได้แต่งงานกับนายนุฮาล่ะก็…พ่อแกอาจได้เป็นใหญ่เป็นโตระดับผู้นำประเทศ
ก็ได้นะนังดีม…แกไม่อยากเป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรีรึไงฮึ…”
ดวงตาของช่างปั้นฝันเป็นประกายสุกใส…เมื่อเริ่มมองทะลุทางตันออกไปได้แล้ว
“คราวนี้แกอยากได้สิ่งใดแกก็จะได้สมปรารถนา…ผู้คนก็จะสรรเสริญยกย่องแก
ไปทั่วทั้งแผ่นดิน…จะมีแต่คนอิจฉาในวาสนาของแก...”
นาดีมนิ่งฟังตามที่มารดาเอ่ยมา
“พอพ่อแกหมดวาระ ก็ส่งไม้ต่อให้ผัวแก…จากลูกสาวท่านผู้นำ
แกก็จะได้เป็นเมียผู้นำระดับประเทศเชียวนะ…คิดดู…”
“มันไม่เพ้อไปหน่อยเหรอแม่…”
“อะไรๆก็เกิดขึ้นได้นังดีม…และแกก็รู้ว่าฉันมีสมุนบริวารที่พร้อมจะ
ทำงานตามคำบัญชาของฉันให้ลุล่วง…”
นาดีมพยักหน้าด้วยรู้ว่ามารดามีลูกสมุนที่เป็นท้ังคนและไม่ใช่คนคอยใช้สอย…
“พี่นุไม่ใช่ไก่อ่อน…ดีมรู้จักเขาดี…เขาไม่มีวันยอมหรอกแม่”
“ไก่แก่อย่างแกจะต้องไปกลัวอะไร…แกไม่ได้สู้คนเดียวนะ
เพราะฉันจะอยู่ช่วยส่งแกให้ไปถึงจุดนั้นเลยนังดีม…” นาดีมส่ายหน้า
“มันไม่ง่าย…พี่นุเขาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรอย่างแม่ว่าได้หรอก…
และเขาไม่ได้โง่ยอมให้เราสนตะพายง่ายๆนะแม่…”
“โธ่…นังดีม…มันก็แค่ผู้ชาย…แกรู้มิใช่รึว่าจะเอาผู้ชายให้อยู่หมัดได้ยังไง…
ขึ้นชื่อว่าผู้ชายมันก็เหมือนๆกันนั่นแหล่ะ…นี่ถ้าฉันยังสาวๆอย่างแกตอนนี้ล่ะก็…
ไม่รอดมือฉันหรอก…จะเอาให้ดิ้นไปไหนไม่ได้ด้วยซ้ำ…จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด…
เหมือนลูกไก่ในกำมือ…”
ว่าพลางกำมือขึ้นมาบีบด้วยแววตากระหยิ่มยิ้มย่อง…ด้วยใจผยอง
และลำพองอย่างคึกคะนอง
“แต่ดีมต้องการรินทร์…ไม่ได้ต้องการคนอื่น”
“เชอะ…แล้วไอ้ที่แกไปนอนด้วยน่ะ…มันมีไอ้รินทร์อยู่ในบัญชีแกรึเปล่า
อย่ามาทำเหมือนผู้หญิงไร้เดียงสา รักเดียวใจเดียวหน่อยเลยนังดีม…
เพราะอย่างแกน่ะมันไม่ใช่…” นาดีมเม้มปากสนิทเมื่อโดนมารดาตอกเข้าตรงใจดำ
"แล้วมันน่ะ...เคยสักครั้งที่คิดจะเยี่ยมดูแกที่โรงพยาบาล ขนาดแกใกล้จะตาย
มันยังไม่เหลียวแลเล้ยนังดีม..." คนโดนตอกย้ำแผลที่ยังสดใหม่ถึงกับปวดแสบ
ปวดร้อน
“นายนุฮาทั้งหล่อทั้งบุคลิกดีกว่าไอ้วารินทร์เป็นไหนๆ…”
“ถ้าดีมรักใครสักคนเพราะความหล่อ ดีมคงไม่รักรินทร์หรอก…”
“ฮี…อย่า อย่าทำมาบอกว่่าไม่สนคนที่หน้าตา…เพราะปากแก
กับการกระทำของแกมันไม่ได้ไปด้วยกันสักที…คู่นอนแกแต่ละคน
มันไม่หล่อเลยรึนังดีม…ไอ้ก๊อตนั่นมันไม่หล่อรึไง…”
นาดีมไร้คำใดจะไปต่อกรเมื่อเจอเข้ากับไม้ตายที่มารดามักงัดมาทิ่มแทงเธอ
ได้อย่างไม่คิดจะละเว้น
“แม่จะพูดถึงใครก็พูด แต่อย่าพูดถึงก๊อต…ดีมไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีก”
ใช่…ยิ่งฟังยิ่งแสลงใจ และแอบรู้สึกผิดเล็กๆทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของอดีตคนรัก
ที่คบกันมาอย่างยาวนาน คนที่สุดท้ายก็สารภาพกับเธอว่ารักนังวา…
คนที่เธอลงมือฆ่าด้วยตัวเอง…
“แหม…ทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นไม่อยากได้ยินชื่อ…เพราะอยากได้คนใหม่แล้วล่ะสิ…
และฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า…ฉันจะให้แกแต่งงานกับนายนุฮานี่ให้ได้…
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา…
ฉันเทหมดหน้าตักเพื่ออนาคตอันสดใสของแก…”
นาดีมอยากจะค้าน เธอรู้ว่าจริงๆแล้วแม่ของเธอเพียงหวัง
อยากจะได้กรุสมบัตินั่นคืนมา แม่รักมัน ต้องการมันยิ่งกว่าเธอ
ยิ่งกว่าสิ่งใดในชีวิตเสียอีก พอรู้ว่ากรุสมบัตินั่นไปตกอยู่ที่ใคร
คนๆนั้นก็จะกลายเป็นเป้าหมายคนต่อไปของแม่ โดยใช้เธอเป็นสะพาน
พาท่านไปยังเป้าหมายดั่งเช่นที่ผ่านๆมา…
“ตามใจแม่เถอะ…ดีมเองก็เริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้แล้วเหมือนกัน
ถ้าแม่คิดว่า…คนๆนี้จะเป็นสามีคนสุดท้ายของดีมโดยที่แม่จะไม่ลอบวางแผนฆ่าเขาอีก…
ดีมก็จะยอมตามแม่…แต่แม่ห้ามยุ่งกับรินทร์เด็ดขาด…
ปล่อยเรื่องรินทร์ให้ดีมเป็นคนจัดการเอง…”
“แกนี่มันบ้าไอ้รินทร์ไม่เลิกจริงๆนะนังดีม…” ไม่วายตวาดเสียงเข้มใส่หน้าลูกสาว
อย่างไม่สบอารมณ์นัก
กี่ปีกี่ชาติลูกสาวของนางก็ยังจะอะไรกับนายวารินทร์นั่นไม่เลิกสักที…
สงสัยคงต้องหาทางกำจัดมันโดยไม่ให้นังดีมรู้ซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย…
แผนต้องมาพังเพราะไอ้วารินทร์เป็นต้นเหตุมากี่ครั้งกี่คราวแล้ว…
เพราะถ้ายัยลูกสาวตัวดีไม่คิดจะลากนังวาลาดามามีเอี่ยวด้วย…
เรื่องมันง่ายกว่านี้ไปนานแล้ว และที่ลูกสาวต้องลากนังวามาในแผนการด้วย
ก็เพราะไอ้วารินทร์
มันคือปฐมบทแห่งเหตุทั้งปวง…
แล้วอย่างนี้จะปล่อยมันไว้ให้เป็นขวากหนามไปทำไม…
แต่เหมือนว่าคนเป็นลูกจะรู้เท่าทันความคิดของคนเป็นแม่…
“ถ้าแม่ทำอะไรรินทร์แม้แต่นิดเดียวล่ะก็…เราจบกัน…”
“นี่แกเห็นมันดีกว่าแม่แกรึนังดีม…” นาดีมกระดกไหล่ก่อนจะ
ย้อนมารดาว่า
“แล้วแม่ล่ะ…สำหรับแม่แล้ว…แม่เคยรักใครจริงบ้าง…
เคยเห็นใครดีกว่าความต้องการของตัวเองบ้าง…”
พูดจบก็ลุกขึ้นเดินผ่านหน้า มารดาขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัว
…ความเจ็บปวดที่มารดาทำไว้กับเธอมาท้ังชีวิต ทำให้เธออยู่เหมือนคนตายทั้งเป็น…
มันทำให้เธอชินชาซะจนไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว…
ไม่มีความเจ็บปวดใดจะทำอะไรเธอได้อีกต่อไป…
และไม่ว่าใครก็ตามที่ทำอะไรกับเธอไว้…เธอไม่เคยลืม!
ณ เนินข้าวโพดยามค่ำคืนดึกสงัด จันทร์เสี้ยวปรากฎบนท้องฟ้าสีดำมืดมิด
ราวกับผ้ากำมะหยี่สีดำสนิิทที่แผ่คลุมไปทั่วสารทิศ…
ดวงดาวระยิบระยับงามจับตา…ด้วยความมืดสนิทรอบด้านทำให้
มองเห็นดาวอยู่ใกล้เอื้อมคว้า…อยู่เบื้องหน้า อยู่เหนือศีรษะไปไม่กี่คืบ
ดอกไม้งามส่งกลิ่นกรุ่นหอมไปทั่วทั้งบริเวณ…กลิ่นดอกโมกป่าของลุงหมาน
หอมขจรขจายไปไกล…ทำเอาสองหนุ่มสาวท่ียืนกอดก่าย
หันหน้าสู่ท้องฟ้าท่ามกลางใต้แสงดวงดาวสูดกลิ่นหอมเย็นของมันเข้าปอด…
วาลาดากระชับอ้อมแขนที่โอบรัดตัวเธอไว้ด้วยรอยยิ้มสุขใจ
หากลึกลงไปก็อดนึกไปถึงผู้คนอีกฟากหนึ่งไม่ได้…
“ก๊อตคิดว่า…ดีมเขาจะรู้สึกยังไงกับการสูญเสียลูกไป…”
คนท้องเอ่ยขึ้นอย่างเห็นใจคนที่ต้องสูญเสียของล้ำค่าไปไม่ได้
“เธอคิดว่านาดีม…เป็นคนรักเด็กม้ัยวา…” ซุลก๊อตไนท์ถามกลับ
“ไม่รู้สิ…ดีมเขาเป็นลูกคนเดียว…วาเลยเห็นว่าเขาเข้าหาเด็กไม่ค่อยเก่ง
ซึ่งเพื่อนดีมหลายๆคนที่เป็นลูกคนเดียวก็มักจะเป็นเหมือนดีม…
วาก็เลยแปลกใจตอนแรกที่รู้สึกตัวแล้วเห็นดีมกับตาหนูเข้ากันได้ดีน่ะ…
เพราะไม่เคยเห็นดีมจะหยอกเล่นกับเด็กคนไหนมาก่อน…เขาไม่ได้ถึงกับเกลียดเด็ก
แต่เป็นประมาณว่า…ไม่รู้จะจัดการยังไงกับเด็กน่ะ…”
“โลกสวย…” วาลาดาที่ได้ยินซุลก๊อตไนท์พูดแบบนั้นเลยรู้สึกเคืองขึ้นมา
“ทำไมมาว่าวาว่าโลกสวย…”
“นั่นมันคำชมนะ…”
“เชื่อตายละ…นั่นน่ะคำกระแนะกระแหนชัดๆ…”
“ก็แล้วไม่จริงรึไง…เธอน่ะมองคนโน้นคนนี้ในแง่ดี…เลยโลกสวยไง…”
“ก็แล้วถ้ามองคนอื่นในแง่ร้ายจนเกินไป… มันช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นกว่าเดิมรึไง…”
คนโลกสวยสวนกลับเข้าให้บ้าง
“หรือก๊อตอยากให้วาเป็นคนขี้ระแวง…”
“อย่าถึงกับขี้ระแวงเลย เอาแค่ระวังไว้ก็พอ…” คนพูดยิ้มบางที่มุมปาก
ก่อนจะผละจากวาลาดาเดินหายเข้าไปในห้องแล้วกลับมาพร้อมกับบางอย่างในมือ
ที่ทำเอาวาลาดาถึงกับอึ้งไปหลายวินาทีเมื่อเขายื่นมันมาให้เธอ…
“นี่มัน…มันน้องวาว่านี่…”
‘น้องวาว่า’ ที่ว่าคือ ตุ๊กตาหมีที่วาลาดาเคยมอบให้นาดีมตอนไปส่งเพื่อนรัก
ที่สนามบิน ซึ่งในวันนั้นนาดีมกับซุลก๊อตไนท์กำลังจะเดินทางไปศีกษาต่อ
ยังประเทศในแถบยุโรป เธอเลยอุ้มน้องหมีที่เธอตั้งชื่อให้ว่า ‘น้องวาว่า’
เพื่อเป็นตัวแทนของเธอ เป็นตัวแทนของความรักและมิตรภาพระหว่างเธอกับนาดีม
แถมยังย้ำให้เพื่อนดูแลอาบน้ำให้มันด้วยซ้ำ นาดีมรับไปกอดต่อหน้าซุลก๊อตไนท์
ซึ่งเขาเป็นพยานได้ดีว่าหมีตัวนี้ชื่อ ‘น้องวาว่า’
เพราะบนหน้าผากของมันไม่เหมือนหมีตัวใด เนื่องจากเธอเป็นคนปักชื่อเต็มๆของมัน
เอาไว้เป็นตัวอักษรไทยว่า… ‘วาว่า’ ส่วนที่ใบหนูทั้งสองข้างของมัน
เธอปักอักษรโรมัน ‘VA’ เอาไว้
แล้วทำไมตอนนี้มันถึงได้มาอยู่ในมือของซุลก๊อตไนท์
แล้วทำไมมันถึงได้มีสภาพแบบนี้ได้…
วาลาดามองภาพน้องวาว่า แล้วได้แต่หดหู่ เพราะเธอแอบเก็บตังค์ตั้งนาน
เพื่อจะซื้อน้องหมีตัวโตราคาแพงตัวแรกในชีวิตให้เพื่อนรักเอาไว้ดูต่างหน้า
…ตอนนั้นอุตส่าห์คิดว่าเพื่อนรักเราและจะต้องคิดถึงเราแน่ๆ เลยมอบอะไรๆแบบนี้ให้
และทั้งๆที่เธอสามารถขอหยิบยืมเงินพี่นุหรือซุลก๊อตไนท์ หรือวารินท
ร์เพื่อซื้อหมีตัวนี้ให้เพื่อนได้แท้ๆ แต่เธอก็อยากสร้างความภูมิใจเล็กๆ
ด้วยการเก็บเงินซื้อมันให้เพื่อน…
“เกิดอะไรขึ้นกับมันน่ะก๊อต…” อดถามซุลก๊อตไนท์ไม่ได้
หัวอกของคนที่เอาเงินที่เก็บมานานไปแลกหมีตัวนี้ที่ร้านดังในห้างหรูสั่นสะท้าน
วันนี้เธอมีเงินแล้ว จะซื้อหมีราคาแพงขนาดไหนสักกี่ตัวก็ได้
แต่วันนั้น...วันที่เธอเป็นแค่เด็กสาววัยสิบแปดปีมันไม่ใช่…
เธอไม่มีปัญญาแม้แต่จะครอบครองหรือนอนกอดมันด้วยซ้ำ…
พี่นุเคยจะซื้อให้เธอแล้ว แต่พ่อกับแม่เคยบอกเอาไว้ว่าห้ามไปรบกวน
ให้พี่นุซื้อโน้นซื้อนี่ให้ เธอเลยกัดฟันบอกไปว่าไม่อยากได้ทั้งๆที่อยากได้ใจจะขาด
เลยคิดว่านาดีมเองก็คงเหมือนเธอ เราคงรู้สึกไม่แตกต่างกัน
เธอเลยคิดว่าเพื่อนจะต้องดีใจแน่ๆถ้าได้กอดมัน…ยิ่งได้รู้ว่าเธอซื้อให้
เพื่อนยิ่งต้องซาบซึ้ง
ซึ่งเธอในวันนั้นจะอินกับความรักและมิตรภาพของความเป็นเพื่อนมากยิ่งกว่ารักแบบอื่น
…เพื่อนคือที่สุดแล้วสำหรับเธอในวันนั้น…
แต่เหมือนเธอจะคิดผิดไปหมด…รู้สึกไปเองข้างเดียว…
เพราะสภาพหมีที่ถูกเย็บเต็มไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะตรงใบหน้าของมัน
มันฟ้องว่าน้องวาว่่าของเธอเจออะไรมาบ้างระหว่างที่อยู่ในแดนไกล…
“มันคงจะรับโทษทัณฑ์แทนเธอน่ะนะ…” คนพูดเหมือนจะไม่ได้จริงจังในน้ำเสียงนั้น
เพราะเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังอินกับมันแค่ไหน…
เห็นแววตาก็รู้แล้วว่าสะเทือนใจแค่ไหน ถ้าเขาพูดน้ำเสียงผิดคีย์ออกไป
ทางท่วงทำนองเศร้าๆสักนิด คิดว่าคนตรงหน้าอาจน้ำตาร่วงได้
และเขาไม่อยากไปเปิดปุ่มนั่นเข้า…
“แล้วฝีเข็มที่เย็บออกมาได้ห่วยแตกแบบนี้มันคงไม่ใช่ฝีเข็มจากฝีมือของดีมแน่ๆ
ใช่มั้ยก๊อต…” เจ้าของฝีเข็มห่วยแตกถึงกับยิ้มแหย
จะมีสักเรื่องไหมที่วาลาดาจะจับผิดเขาไม่ได้…ความละเอียดละออของเพศหญิงเนี่ย
เขายอมรับมานานแล้ว และคงต้องยอมรับว่าภรรยาเขามีมากไม่น้อย
เมื่อเทียบกับหญิิงอื่น…รู้ได้แม้กระทั่งฝีเข็ม ตะเข็บรุ่ยๆอะไรพวกนั้นเธอคงเห็นหมดล่ะสิ
แม้ว่าคนเย็บจะพยายามซุกซ่อนเอาไว้อย่างสุดฝีมือแล้วก็ตาม…
“ก๊อตไปเจอมันที่ไหน…” มันช่างเป็นคำถามที่เขาไม่อยากตอบเลย
ที่ไม่อยากตอบไม่ใช่เพราะต้องการปกป้องนาดีม แต่เพราะไม่อยาก
เห็นคนถามต้องเสียใจและเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้
เขารู้ว่าวาลาดาอ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้แค่ไหน…ตัดสินใจอยู่ตั้งนาน
ว่าจะคืนมันให้เจ้าของที่แท้จริงไปดีหรือไม่…
แต่เพราะอยากให้เธอได้เห็นในสิ่งที่เขาเคยเห็น แต่เขากลับไม่ได้เอะใจมากมาย
เพราะตอนนั้นเขาเฝ้าแต่จะพยายามปกป้องนาดีมผู้แสนดีมาตลอด
พยายามบอกตัวเองว่ามันก็แค่ตุ๊กตาตัวนึงที่นาดีมคงเอาไว้ระบายความอัดอั้น
บางอย่างก็เท่านั้น…
เพราะเขาเชื่อมาตลอดว่านาดีมรักและผูกพันกับวาลาดามาก
แต่พอรู้ว่านาดีมทำอะไรไว้กับเธอบ้างในภายหลัง…
เขาเลยนึกถึงหมีวาว่าทีี่เก็บมาได้ตัวนี้ขึ้นมา ดูมันจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
ว่านาดีมเกลียดเจ้าของมันแค่ไหน…
เขาจึงอยากเปิดตาวาลาดาให้มองเพื่อนตัวเองได้กว้างขึ้นกว่าเดิม…มองในมิติใหม่
เพื่อที่เธอจะได้ระวังตัวมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ยิ่งต้องกลับไปเผชิญหน้ากันอีกครั้ง วาลาดายิ่งต้องแข็งแกร่ง
และไม่ยอมใจอ่อนหรืออ่อนข้อให้นาดีมอีก!
“ตอนดีมย้ายห้องน่ะ…ฉันไปช่วยเขาย้ายห้องตอนเขาเรียนอยู่ปีสอง…
เขาไม่ชอบที่เดิม อยากเปลี่ยนที่น่ะ…”
ตอบไปแล้วก็ได้แต่มองคนที่ถือตุ๊กตาหมีที่โดนทำร้ายมาอย่่างยับเยิน
แลดูบอบช้ำไม่น้อย…เพราะรอยเย็บมีเต็มทั้งตัว
แถมรอยเย็บก็…ก็ฝีมือผู้ชายที่ไม่เอาไหนเรื่องเย็บปักถักร้อยอย่างเขานี่นะ
จะให้สวยได้ยังไง…
หรือต่อให้เย็บเก่งระดับเทพก็คงทำได้ดีไม่เกินกว่าเขาสักเท่าไหร่หรอก…
สภาพอันยับเยินของน้องวาว่ามันไม่ได้จะรักษาเยียวยาให้ดูดี
ดูน่ารักเหมือนเดิมได้แล้ว…แค่ไม่ให้ไส้ของมันทะลักออกมา
หรีือมันสมองไหลเยิ้มก็ดีแค่ไหนแล้วหนา…
เพราะถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิต มันคงตายและย่อยสลายไปนานแล้ว…
ไม่มาอยู่ในมือวาลาดาอย่างตอนนี้แน่นอน…
“มันวางอยู่ในลังสำหรับของที่จะทิ้ง…ฉันเหลือบไปเห็นเข้า จำได้เลยแอบเก็บไว้…
ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องแอบน่ะนะ…และไม่รู้ว่าเพราะสงสารมัน
หรือเจ้าของเดิมของมันกันแน่…ก็เลยช่วยยัดไส้และมันสมองของมันกลับที่เดิม…
ปิดบาดแผลของมันไว้ด้วยฝีเข็มห่วยแตกนั่นแหล่ะ”
วาลาดาก้มมองฝีเข็มห่วยแตกนั่นอีกครั้งแล้วยกมันขึ้นกอด…
น้ำตาเริ่มคลอเบ้า…ยิ่งมองซุลก๊อตไนท์ปากบางยิ่งสั่นระริก
มันทั้งสะเทือนใจ มันทั้งซาบซึ้งใจ ความรู้สึกมันปนเปกันไปหมด
“เก็บมาทำไม…ถ้าไม่เก็บมา วาก็ไม่รู้หรอก…จะทำให้วาร้องไห้อีกแล้วใช่มั้ยก๊อต…
ก๊อตน่ะทำวาร้องไห้ได้ตลอดเลย…”
ซุลก๊อตไนท์เดินเข้าไปหาดึงร่างที่กำลังสั่นเข้ามากอดเอาไว้
แล้วยกมือลูบผมนั่นเป็นการปลอบ…
“อะไรที่มาจากเธอฉันเก็บไว้หมดแหล่ะวา…แม้ว่าสิ่งนั้นเธอจะไม่ได้ให้ฉันมาก็ตาม…
มันควรจะได้อยู่กับคนที่สู้อุตส่าห์เก็บตังค์ซื้อมันมา
ดีกว่าต้องไปอยู่กับคนที่ไม่เคยเห็นค่่าของความรักและมิตรภาพที่คนอื่นหยิบยื่นให้…
คนแบบนั้นไม่ควรจะได้รับความรู้สึกดีๆจากใคร
เพราะเขาน่ะดีแต่ทำลายความรู้สึกของคนอื่น…ให้อะไรไปสักเท่าไหร่
ก็ถูกเขาทำลายมันทิ้งอยู่ดี…”
วาลาดาเริ่มสะอื้นเมื่อได้อ้อมกอดอุ่นๆจากเขา
ก็ไม่ได้อยากจะร้องไห้เหมือนเด็ก แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง
“วาไม่คิดเลยก๊อต…ก๊อตรู้ม้ัยว่าคนเรากว่าจะรักใครสักคนหนึ่งได้
มันไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ…ใช่มองตาแล้วมันจะรักกันเลย…
โดยเฉพาะเพื่อน…มันต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันถึงจะรักกันได้…
ตอนนั้น…” หญิงสาวสะอื้นฮัก
“วา…วาไม่คิดว่า…วาจะเจอเพื่อนใหม่ที่ดีและเข้าใจวา รู้จักวาได้ดีเท่าดีมอีกแล้ว…
วาอินกับมันมากเลยนะก๊อต…วาแอบร้องไห้ทุกคืนที่รู้ว่าวากับดีมต้องแยกจากกันไป
คนละทิศละทางแล้วจริงๆอย่างไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านั้น...
แต่ยังไง…เราก็ต้องจากกันไปเพื่ออนาคต…เพื่อวันข้างหน้า…
วาหวังแค่ว่าสักวันเราจะกลับมาพบกันใหม่ กลับมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างวันวาน…
แต่วันที่ว่ามันไม่เคยมีอยู่จริงเลย…ไม่เคยมีเลยก๊อต…ไม่มีมาแต่เดิม
วาแค่รู้สึกไปคนเดียว…อินกับมันอยู่ฝ่ายเดียว…
ดีมเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับวาเลยใช่มั้ยก๊อต…ไม่เคยมีสักขณะจิตที่เขาจะรักวา
อย่างเพื่อนคนนึงจริงๆใช่มั้ยก๊อต…”
ถ้าเธอกับเพื่อนแตกหักกันเพราะว่าแย่งผู้ชายคนเดียวกัน
มันก็พอจะรู้สึกดีกว่าต้องมารับรู้ว่า เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดมันก็แค่ภาพมายา…
ที่มีแค่เธอที่ซาบซึ้งกับมันอยู่คนเดียว…
จริงๆเธอควรจะรู้ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่นาดีมวางแผนฆ่่าซุลก๊อตไนท์
อย่างเลือดเย็นแล้วด้วยซ้ำ
แต่อะไรเล่าที่ทำให้เธอยังคิดว่า…ที่ผ่านมา ในอดีตอันไกลโพ้น ในวัยเด็กนั่น…
เธอกับเพื่อนรักกันและผูกพันธ์กันมาก…จนเพิ่งจะมาหมางใจกันตอนโต…
ซึ่งมันไม่จริงเลย เพื่อนเธอวางแผนหลอกใช้เธอและซุลก๊อตไนท์มาโดยตลอด…
เพื่อนไม่เคยจริงใจกับเธอมาก่อน ไม่เคยบริสุทธิ์ใจในการคบหาเธอเลย…ไม่เลย…
ไม่ใช่เพราะหมีตัวนี้ที่ทำให้เธอมองเห็นอะไรชัดเจนขึ้น…
แต่เพราะ…เพราะมันเป็นชิ้นส่วนที่ขาดหายไป พอได้มันมา
เธอจึงประกอบชิ้นส่วนต่างๆที่กระจัดกระจายอยู่ได้จนครบ
ฉายภาพความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับนาดีมที่ผ่านมาในอดีตได้ชัดขึ้น…
เห็นมุมสะท้อนอีกฝั่ง ได้เห็นมุมของนาดีมอีกด้าน…ที่เธอไม่เคยได้เห็นมันชัดเจน
เท่าตอนนี้มาก่อนเลย…
“อย่าไปเสียความรู้สึกกับคนแบบนั้นเลยวา…เขาไม่ควรได้ความรู้สึกดีๆจากเธอ
หรือจากใคร…เพราะหัวใจเขาหยาบกระด้างเกินจะสัมผัสหรือรับรู้มันได้…”
วาลาดาหยุดสะอื้นไปแล้วหากยังคงกอดน้องวาว่ากับซุลก๊อตไนท์เอาไว้แน่น…
ซับน้ำตากับแผ่นอกของเขา
“ไม่มีวิธีหยุดหรือวิธีแก้เลยหรือก๊อต…” ซุลก๊อตไนท์ส่ายหน้า
“สายเกินจะเยียวยา…เพราะมันคือมะเร็งระยะสุดท้าย…” นั่นคือคำตอบจากเขา…
“มะเร็งที่กัดกินเซลล์ในร่างกายที่ว่าลุกลามยากเกินเยียวยารักษาแล้ว
มะเร็งที่กัดกินจิตวิญญาณของคนนั้นรักษายากยิ่งกว่านะวา…
เพราะมันต้องกลับไปแก้ที่ตอนปลูกฝัง…เมล็ดพันธุ์ที่ถูกปลูกฝังมาอย่างไร…
ตอนวันแห่งการเก็บเกี่ยวมาถึง มันก็ย่อมต้องได้รับผลตามที่ปลูกฝังและดูแลมา…”
วาลาดาผละจากอ้อมกอดเขาแล้วก้มมองตุ๊กตาหมีหน้าตาหน้ากลัว
ระคนสยองจนต้องถามคนเย็บมันว่า
“ก๊อตบอกว่าก๊อตเก็บของที่มาจากวาไว้หมดใช่มั้ย…” คนถูกถามคลี่ยิ้ม
เมื่อเห็นแววตาเหมือนเด็กขี้สงสัย มันไม่ได้ต่างจากแววตาของลูกชายของเขาเลยสักนิด
แววตาของสองแม่ลูกถอดกันมาเลยทีเดียว
“หมดสิ…จะทิ้งได้ไง…สงสารออก…”
“แค่ความสงสาร?” วาลาดาเอียงคอถาม
“ตอนนั้นแค่สงสารมั้ง และพอสงสารมากๆก็เลยกลายเป็นรักมากๆ…
สงสัยว่ามันน่าจะต้องเป็นแบบนั้น…” เพราะเอาเข้าจริงๆเขาก็ไม่รู้หรอก
หันกลับไปมองในวันวานอีกกี่ทีก็ยังคลางแคลงใจตัวเองอยู่อย่างนั้น
“ตอบไม่เคลียร์เลยสักนิด…”
“ก็ใครมันจะไปร่ายบอกเธอได้ว่าลำดับการรักเธอเป็นมายังไง
ฉันไม่ได้เป็นผู้วิเศษนะวา…หรือเธอรู้ ไหนเล่ามาซิว่าเธอรักฉันยังไง
เริ่มจากตอนไหน เล่ามาให้เป็นฉากๆเลยนะ ฉันยินดีนอนฟังเธอทั้งวันทั้งคืน
ถ้าเธอยืนยันว่าเล่าลำดับที่มาที่ไปของมันได้…”
วาลาดายอมยกธงขาวสะบัดต่อหน้าเขาเลยเมื่อเจอเข้าอย่างนี้
“เมื่อก่อน…ฉันเคยคิดอยากซื้อน้องหมีให้เธอนอนกอดเหมือนกันนะ
แต่ไม่รู้ทำไมสิ…ฉันว่าอย่างเธอไม่เหมาะจะนอนกอดตุ๊กตาหมีหรอก…”
ว่าแล้วเขาก็ดึงน้องวาว่าของเธอกลับไป วาลาดาจะแย่งคืน
หากคนที่ตัวสูงกว่าชูมันเสียสูงสุดมือ เธอเลยเอื้อมไม่ถึง
วาลาดาเลยหมั่นไส้ ยิ้มให้เขาขณะพูดว่า
“คนอะไร้…หึงได้แม้กระทั่งตุ๊กตาหมี…ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ ทำไมไม่หึงหมอน
ไม่หึงผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนซะด้วยล่ะ...” ซุลก๊อตไนท์ยิ้มกว้างเลยทีเดียว
“เมื่อก่อนไม่ซื้อให้กอดเพราะว่าหึง…แต่ตอนนี้ไม่หึงแล้ว…เพราะ...”
วาลาดาแย้มยิ้มตาใสเป็นประกายพลางเอ่ยสัพยอกเขาว่า
“เพราะมีหมีขั้วโลกตัวโตตรงหน้าให้วานอนกอดแล้วใช่มั้ยล่ะ…”
‘หมีขั้วโลก’ ที่ว่ายิ้มกริ่มทีเดียว
“แถมไม่ใช่ตัวเดียวแต่เป็นสองตัว…” อดไม่ได้ที่จะนึกถึงร่างอ้วนกลม
ของเจ้้้าลูกชายที่นอนหลับอยู่ในห้อง
“ช่ายยยยย…จะไปกอดหมีที่ไหนทำไม ในเมื่อหมีตัวนี้กอดอุ่นกว่าหมีที่ไหนในโลก…”
วาลาดายื่นปากย่นจมูกใส่คนหลงตัวเอง
“อย่าเป็นหมีลงพุงก็แล้วกัน…เพราะถ้าลงพุงเมื่อไหร่ไม่ยอมกอดหรอก”
ซุลก๊อตไนท์หัวเราะฮึๆในลำคอพลางมองคนที่ไม่อยากนอนกอดหมีลงพุง
“ทีฉันนอนกอดฝาชีทุกคืนไม่เห็นจะบ่น…”
‘ฝาชี’ ที่ว่าถึงกับถลึงตาใส่คนตรงหน้าก่อนจะค้อนตาพลิกตาคว่ำ
ซุลก๊อตไนท์เลยง้อด้วยการโน้มหน้าลงหอมแก้มพร้อมกับกระซิบข้างๆหูวาลาดาว่า
“เรามาแต่งงานกันอีกสักรอบเถอะวา…ฉันอยากจัดงานแต่งของเราอีกสักหน…
เรียกสื่อมวลชนกันมาให้เพียบ ญาติสนิทมิตรสหายเราจะเลี้ยงให้เขาอิ่มหนำสำราญ
หลังเดือนแห่งการถือศีลอดดีมั้ย…”
วาลาดาตาโต มองเขาอย่างไม่คาดคิด
“แต่งทั้งที่ยังป่องอย่างนี้เนี่ยนะก๊อต…” วาลาดาก้มมองท้องป่องๆของตัวเอง
มันจะสวมชุดเจ้าสาวสวยๆไปได้อย่างไรกัน…คงเป็นงานแต่งที่แปลกพิลึกแน่
“ก็ฉันอยากแต่ง…แล้วจะรีบจดทะเบียนกับเธอทันทีหลังจากนั้น…”
วาลาดามองคนอยากแต่งงานกับเธออย่างไม่ไว้ใจนัก
“มีแผนไรอีกก๊อต…” คนมีแผนยิ้มกว้างทีเดียว เป็นยิ้มที่สวย
และบาดใจคนมองเลยก็ว่าได้
“ว่าแต่อย่าลืมนะว่า…เราไปจดทะเบียนหย่ากันมาแล้ว และก๊อต
ก็ไปจดทะเบียนสมรสใหม่กับดีมแล้วด้วย…ตอนนี้ในทางกฎหมาย
ก๊อตกับดีมเป็นสามีภรรยากันนะ…
ส่วนวาน่ะเมียนอกกฎหมายไทย แต่ยังเป็นเมียตามธรรมเนียมปฏิบัติของอิสลาม
ที่โดนสามีหย่า...แล้วมาคืนดีทันเวลาก่อนคลอดเท่านั้นเอง…
ถึงจะไม่แต่งงานอีกรอบ เราก็ยังอยู่กินกันได้โดยไม่ผิดหลักศาสนานี่นา…
ทำไมต้องแต่งให้ยุ่งยากอีก”
ซุลก๊อตไนท์จ้องคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากวุ่นวาย
และชอบหลบหลีกความขัดแย้งกำลังหาทางมุดรูหนีอีกแล้ว
“ก็อยากประกาศให้คนรู้นี่ว่าฉันรักใคร…และอยากใช้ชีวิตคู่กับใคร
และทำใครป่องกันแน่…” ต้นประโยคมันก็ดูน่ารื่นหูชวนให้ยิ้มได้อยู่หรอก
ถ้าเขาจะไม่จบประโยคแบบนี้น่ะนะ
“แต่งครั้งแรกเธอก็ป่องนะ…ครั้งนี้แต่งทั้งป่องๆอีกสักทีจะเป็นไรไป…”
วาลาดาอดไม่ได้เลยฟาดต้นแขนนั้นไปให้หายแค้น
“แต่ในรูปแต่งงานครั้งนั้น…วาไม่ได้ป่องขนาดนี้ไม่ใช่หรือ…”
ก็เธอเคยเห็นรูปแต่งงานระหว่างเธอกับเขาที่มีไม่กี่ใบอยู่ในซอกหลืบของลิ้นชักนี่นา…
“ยิงป่องสิยิ่งดี…คนเขาจะได้รู้กันทั่วว่าเธอมีลูกกับฉันแล้วสองคน…
ฉันก็จะบอกกับทุกคนว่า ฉันดีใจที่เธอท้องอีกแล้ว เลยแต่งงานให้เธออีกรอบ
เป็นของขวัญ…ว่าฉันยินดีสุดๆที่มีลูกทีก็จัดงานแต่งงานที…เก๋ออก”
เก๋ของเขา แต่เธออายนี่
“วาอาย…”
“ไม่ต้องอายหรอกน่า…คนเขารู้กันทั่วว่าฉันแต่งงานกับเธอรอบแรกเพราะทำเธอป่อง…
รอบนี้แต่งอีกทีเป็นการแก้ลำดีมั้ย เขาว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง…”
ดูเขาพูดเข้าสิ
“คนเขาจะได้รู้กันถ้วนทั่วว่าฉันรักเธอแค่ไหนไง…ไม่ได้รักหลอกๆ
คราวนี้จะได้หายข้องใจกันสักทีว่าเธอกับดีม ใครคือหนึ่งในใจฉัน…”
“แหม…พูดเหมือนตัวเองโดนผู้หญิงรุมกันแย่งชิง จนต้องมีการ
ตัดสินว่าหญิงใดคือผู้ชนะเลยนะ…” ชายหนุ่มหัวเราะฮึๆ
“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว…เพราะเธอคือ…เดอะวินเนอร์…”
ว่าพลางชูกำปั้นให้คนชนะ วาลาดาได้แต่ส่ายหน้า
“ทำเป็นเล่นน่ะก๊อต…”
“ฉันเอาจริง…เธอก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้ฉันไม่ทำเล่นๆหรอก…จะจัดให้ยิ่งใหญ่
อลังการณ์งานสร้างเลยทีเดียว…เพราะแม่ฉันยอมเธอแล้วนะ
บอกว่าจะขอเป็นแม่งานจัดการให้ทุกอย่าง…น้องฉันก็ขอร่วมด้วย”
วาลาดาเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ก๊อตพูดจริงรึเนี่ย…” ซุลก๊อตไนท์กุมมือวาลาดาเอาไว้มั่น
ส่งสายตาบอกเธอว่า เขาจริงจังแค่ไหน
“ไม่เคยจะจริงจังอะไรเท่านี้มาก่อนในชีวิตเลยละ…เธอคือศรีสะใภ้
แห่งวรรัศมิ์สกุลแบบเต็มขั้นแล้ว…รู้ตัวรึเปล่า…”
วาลาดากะพริบตาปริบๆอย่างงงไม่หาย ซุลก๊อตไนท์โน้มใบหน้าจุมพิต
ตรงหน้าผากของเธอหนักๆแล้วบอกว่า
“เราจะคิดใหม่ทำใหม่ เริ่มต้นกันใหม่ด้วยกันนะวา…”
“แล้วดีมเขาจะยอมหย่าให้ก๊อตหรือ…” วาลาดาอดสงสัยไม่ได้ในเรื่องนี้
ว่่าถ้านาดีมรู้ว่าเขายังไม่ตาย แถมยังจัดงานแต่งงานกับเธออีก
เหตุการณ์จะอลหม่านขนาดไหน…
“เขาต้องรีบเซ็นให้ฉันทันทีที่เห็นหน้าฉันเลยล่ะวา…”
“แล้วถ้าดีมเขามีลูกไม้แบบว่าคาดไม่ถึงอะไรทำนองนี้ล่ะ…ก๊อตมีแผนสำรองไว้รึยัง…
วาไม่อยากคลอดลูกแบบฉุกเฉินในวันแต่งงานหรอกนะก๊อต…”
เพราะขนาดตุ๊กตาหมีของเธอยังโดนฟันด้วยมีดเสียยับเยินมาขนาดนี้
แล้วถ้าเป็นเธอตัวเป็นๆจะโดนขนาดไหน…
ไม่อยากจะจินตนาการให้ตัวเองจิตตกไปก่อนล่วงหน้าเลย
“แค่ได้เห็นสภาพน้องวาว่า…ก็เริ่มกลัวเพื่อนรักของตัวเองขึ้นมาแล้วล่ะสิ…”
เขาว่ายิ้มๆ
“ก็มันน่ากังวลนะก๊อต กลัวตายก็ส่วนนึง กลัวลูกมีอันตรายด้วยก็ส่วนหนึ่ง…”
“กลัวสามีจะเป็นอะไรด้วยก็ส่วนหนึ่งใช่มั้ย…” ซุลก๊อตไนท์ต่อให้เสียเลย
ทำเอาคนพูดไม่ทันจบถึงกับส่งค้อนให้ขวับๆ
“เธออย่าเพิ่งวิตกจริตไปก่อนเลย…กว่าจะถึงวันนั้น…มันยังมีอะไร
ที่เธอไม่คาดคิดอีกเยอะ…” วาลาดามองแววตาของจอมวางแผนนิ่ง
“วากลัวว่าพี่นุกำลังจะตกเป็นเป้าหมายของนาดีมน่ะสิ…ถ้าพวกเขา
ทำกับก๊อตและครอบครัวได้อย่างเลือดเย็นทั้งๆที่ทุกคนก็รักเขา
ไว้วางใจเขาเพียงเพราะต้องการกรุสมบัตินั่นจริงๆ…ไม่แคล้ว
ตอนนี้พี่นุก็คงจะกำลังโดนเพ่งเล็งอยู่แน่ๆ…” วาลาดาสันนิษฐาน
ตามข้อมูลที่รับรู้มาจากเขาตอนวันเกิดเหตุเพลิงไหม้
“นั่นแหล่ะที่ฉันต้องการ!” ซุลก๊อตไนท์พูดเสียงดังฟังชัด
แววตาเป็นประกายฉายแสงบางอย่าง
“บ้าน่ะก๊อต…ก๊อตทำกับพี่นุอย่างนี้ไม่ได้นะ…วาไม่ยอม…”
เธอจะไม่ยอมให้เขาเอาพี่นุมาเกี่ยวกับอะไรแบบนี้เด็ดขาด
เขาทำเกินไปแล้ว!
“พี่นุไม่ได้จะธรรมดาๆหรอกนะ…ไม่งั้นฉันไม่วางทุกอย่างไว้ในมือพี่เขาหรอก…
ฉันรู้ว่าพี่นุทำอะไรได้แค่ไหน…และที่ฉันให้พี่นุช่วยนั้นมันไม่มีอะไรเหนือบ่า
กว่าแรงพี่เขาหรอก…และเธอไม่ควรดูถูกคุณลุงกับคุณป้าของเธอนะวา…”
ซุลก๊อตไนท์ยิ้มในขณะที่ดวงตามีประกายบางอย่างที่วาลาดาอ่านไม่ออก
ให้ตายสิ…เธอไม่อยากให้เขาทำอะไรแบบนี้เลย…มันเสี่ยงเกินไป
“แล้วเธอจะได้เห็นว่า…เวลาวัวพันหลักมันอยู่ในสภาพแบบไหน…”
ก่อนจะเว้นช่วงแล้วหันมายิ้มให้วาลาดาเมื่อกระซิบบอกเธอว่า
“พี่นุเขามีบอดีการ์ดมือดีคอยช่วยแล้ว…เธออย่าห่วงเลย…
หน้าที่เธอคือ…เป็นเจ้าสาวแสนสวยให้ฉันเท่านั้น…”
สภาพที่เหมือนฝาชีแบบนี้มันจะไปสวยได้ยังไง…
และคำตอบราวกับได้ยินคำถามในใจของเธอก็คือ
“ตาน่าเขาอาสาจัดการชุดเจ้าสาวให้เธอแล้วนะ…ส่วนฉันมีหน้าที่
แค่วัดขนาดรอบเอวของเธอไปอัพเดตให้เขาเท่านั้น…
เพราะที่เหลือจากนี้…เราไม่ต้องเหนื่อย มีคนยอมเหนื่อยเพื่อเธอกับฉันแล้ว…”
วาลาดายอมรับหมดใจแล้วว่า ซุลก๊อตไนท์รู้จักใช้คนจริงๆ…
ก่อนจะตกใจตาค้างเมื่อเขาบอกเธอราวกับจะเปลี่ยนเรื่องว่า
“ไม่ใช่ว่านาดีมเขาเข้ากับเด็กไม่ได้หรอกวา…แต่เพราะเขาไม่ได้รักเด็ก…
โดยเฉพาะกับตาหนู…” ว่าพลางวางมือลงบนหน้้าท้องของเธอ
เพื่อเป็นการทักทายลูกในท้องของเธอที่เขามักทำเป็นประจำทุกวัน
วันละหลายๆครั้ง…
“เขาใช้ยาที่มีผลทำให้ความจำลบเลือนกับเธอ…ยาที่จิตแพทย์จะจ่าย
ให้กับคนไข้ที่มีอาการทางจิต…แต่เขาเฝ้าระวัง…เฝ้าดูแลเธออยู่อย่างใกล้ชิดมาตลอด
โดยที่ฉันไม่เคยเอะใจเพราะปักใจเชื่อว่าเขารักเธอและยังปรารถนาดีต่อเธอ
และลูกของเรา…ฉันเลยวางใจให้เขาอยู่ดูแลเธอในช่วงเดือนถือศีลอด
ที่ดีมเขาจะหยุดงานตลอดทั้งเดือน…เป็นการหยุดประจำปี…เพื่อมาดูแลเธอและลูก…”
ซุลก๊อตไนท์เปลี่ยนมาโอบบ่าวาลาดาอย่างออดอ้อน
“และถ้าฉันรู้ว่าเขาใช้ยาจำพวกนี้กับเธอ…ฉันจะไม่บังคับให้เธอให้นมลูกเด็ดขาด…”
วาลาดาตกใจก่อนจะเลิกคิ้วสูง แววตาเต็มไปด้วยคำถาม
“เพราะยาดังกล่าวจะส่งผลต่อเด็กในท้องและต่อลูกที่กินนมแม่…
ตาหนูจึงโยเยและมักมีปัญหาตลอดตั้งแต่เกิดจนเพิ่งจะมาฟื้นตัว
เมื่อตอนหลังๆที่เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานี่แหล่ะ…” วาลาดายังงงไม่หาย
หากก็ไม่วายซักต่อไปว่า
“ยาที่ว่ามันมีผลข้้างเคียงยังไงหรือก๊อต…” ซุลก๊อตไนท์เลยอธิบายว่า
“ยาพวกนี้มันจะส่งผ่านทางสารคัดหลั่ง น้ำนมมันก็คือหนึ่งในนั้น…
ระหว่างที่ท้องเธอโดนไปหนึ่งเดือนเต็มๆหรืออาจจะก่อนหน้านั้นอีกก็เป็นได้
พอหลังจากคลอดเธอก็โดนไปอีกรอบ…หนึ่งเดือนเต็มๆ…
แต่จะว่าไปแล้วยาพวกนี้ไม่ได้เป็นยาอันตราย แค่ทำให้คนที่กินลดความกังวล
ทำให้หลับ ทำให้เกิดการลืมแบบชั่วคราว ซึ่งทำให้การรับรู้ ความจำแย่ลง
ถ้ากินติดต่อเกิน 2-3 สัปดาห์มันจะทำให้เกิดการพึ่งยา
ซึ่งถ้าหยุดยาทันทีทันใดก็จะเกิดอาการขาดยา เช่น ทำให้กระสับกระส่าย กังวล
สับสน ซึ่งเขาเรียกว่า อาการถอนยา…
และทั้งหมดคืออาการของเธอในช่วงที่มารโดนล่ามในเดือนอันประเสริฐ…
และอาจจะมีบางช่วงอีกก็ได้ที่เธอทำตัวประหลาดๆด้วย...
จนคนหลายคนต่างมองว่าเธอเป็นโรคประสาทมีอาการทางจิต
ที่เหมือนจะขาดผู้ชายไม่ได้ แถมยังมีอาการคลุ้มคลั่งในบางครั้ง
จนนาดีมต้องพาเธอไปหาหมอประจำ...และฉันไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่งหรือพาเธอ
ไปพบแพทย์สักครั้ง...ไม่เคยคิดจะสนใจหรือใส่ใจ...
เพราะฉันรังเกียจและขยะแขยงเธอจริงๆนะตอนนั้นน่ะ...”
ซุลก๊อตไนท์หยุดไปนิดก่อนจะนึกถึงสภาพลูกน้อยตอนแรกเกิด
“ตาหนูตอนแรกเกิดมีสภาพไม่ต่างจากอาการถอนยาที่ว่าเลยนะ…
แถมยังร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน…ไม่หลับไม่นอน ดูกระสับกระส่าย”
“ก๊อตรู้ได้ไง…แล้วทำไมตอนนั้นก๊อตไม่ช่วยวากับลูก…”
ซุลก๊อตไนท์เองก็รู้สึกผิดไม่น้อยกับเรื่องนี้ เพียงเพราะเขาไม่คิดว่า
นาดีมจะทำอะไรแบบนี้ เพียงเพราะความไว้วางใจ ไม่เคยระแวง
ไม่เคยระแคะระคาย โทษทุกอย่างว่าเป็นเพราะความผิดของวาลาดา
ที่ทำตัวไม่ดีเองมาโดยตลอด ทำให้มองข้ามเรื่องพวกนี้ไป…
กว่าจะเริ่มสืบหา ก็หลังจากที่แน่ใจแล้วว่า นาดีมคือต้นเหตุที่ทำให้
วาลาดาอยู่ในสภาพแปลกๆจากคนเดิมที่เขาเคยรู้จักตอนสมัย
เรียนหนังสือด้วยกัน…
ยอมรับว่าเขาตอนนั้นหูเบา เชื่อที่นาดีมบอก นาดีมพูดแทบทุกอย่าง…
และเพราะความเชื่อใจนาดีม เขาถึงได้ทำร้ายวาลาดาและลูกในไส้ของตัวเอง…
ยอมให้เธอเข้ามาบงการเรื่องราวภายในครอบครัวเขา
ยอมให้นาดีมพาวาลาดาไปหาหมอแล้วไม่เคยจะใส่ใจดูรายละเอียดที่หมอบอกไว้
เกี่ยวกับอาการต่างๆของวาลาดา
เชื่อฟังแต่สิ่งที่นาดีมนำมากรอกหูโดยไม่คิดจะดูไปที่ตัวของหลักฐาน
ทางการแพทย์เลย…ไม่เคยไปพบแพทย์ผู้ทำการรักษาอาการของเธอเลยสักครั้งเดียว...
ถ้าเขาไปพบแค่เพียงสักครั้ง เขาคงได้คำตอบที่ควรจะได้มาตั้งนานแล้ว
“ฉันหูเบาที่เชื่อคำนาดีม…เชื่อภาพลวงตาพวกนั้น…”
“แล้วทำไมวาจำอะไรไม่ได้ล่ะ…จำได้แค่ตอนวันแต่งงานก๊อตเท่านั้น
เพราะถ้าเป็นแค่ยาพวกนั้น วาก็ต้องนึกอะไรออกบ้างสิ…
แต่นี่ไม่เห็นวาจะนึกอะไรขึึ้นมาได้…”
ซุลก๊อตไนท์ส่ายหน้ากับกรณีนี้ที่เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า
เหตุใดวาลาดาถึงจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่ยานั่นก็แค่ทำให้ลืมแบบชั่วคราวเท่านั้นเอง…
“มันอาจจะมีอะไรที่มากกว่านี้น่ะ…และคนที่จะบอกได้ก็คงจะเป็นนาดีม
กับแม่เขานั่นแหล่ะ…ฉันเองกว่าจะสืบเรื่องนี้จนรู้ก็ใช้เวลาไม่น้อยเหมือนกัน…
โชคดีที่เรามีหูมีตาในบ้าน เลยพอจะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆจนเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น…”
ถ้าไม่มีเด็กบัวหรืออะสุเซน่าคอยเฝ้าสอดส่องทุกอย่างภายในบ้านเขา
เขาก็คงจะงมเข็มในมหาสมุทรอยู่อีกเป็นนานแน่กว่าจะเจอ
“ใครหรือก๊อต…” วาลาดาไม่วายสงสัย
“บัวไง…”
“บัวน่ะหรือ…” หญิงสาวตาโตอย่างคาดไม่ถึง
“ใช่…เขาเป็นอดีตตำรวจสากล…แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตำรวจอยู่นะ…
นี่แหล่ะ…คนที่จะคอยเป็นแขนขาให้พี่นุ…”
“บัวเนี่ยนะก๊อต…” วาลาดาถามด้วยสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ใช่…บัวนั่นแหล่ะ…สายลับของคุณนายอัยรีนที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในบ้านของฉันตั้งแต่ต้น…”
เป็นอีกครั้งที่วาลาดาต้องยกมือลูบหน้าตัวเอง…
“เนียนมากเลยก๊อต…เขาทำได้เนียนมาก…” ซุลก๊อตไนท์เห็นด้วย
หากก็ไม่วายบอกว่า
“เรื่องอื่นเนียนหมด ยกเว้นเรื่องงานในหน้าที่กวาดบ้าน ถูบ้าน
จนฉันจะไล่ออกเพราะทำความสะอาดไม่ได้เรื่องตั้งหลายครั้งแล้ว…
แต่คุณนายอัยรีนบอกว่า เด็กรับใช้หายาก ให้บัวทำๆไปก่อน
หาคนใหม่ได้เมื่อไหร่ ค่อยไล่ออก…” ซุลก๊อตไนท์นึกถึงความแสบของมารดา
แล้วหัวเราะขื่นๆในลำคอก่อนจะเอ่ยออกมาว่า
“แต่ก็ไม่เคยหาคนใหม่มาให้สักที…”
“ก๊อต…วาเพลียสมองจัง…ขอไปนอนก่อนนะ…ไม่ไหวจะเรียบเรียงลำดับ
เรื่องราวพวกนี้แล้วจริงๆ…มึนมากอ่ะ...”
วาลาดายกมือแตะหน้าผากด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยังจับต้นจนปลายอะไรไม่ถูก…
แล้วสมองที่ช่วงเดือนนี้ไม่ค่อยจะไหลสักเท่าไหร่มันก็เริ่มอืด…
ขนาดออกแบบแปลนบ้านที่ซับซ้อนยังไม่ชวนให้มึนงงได้ขนาดนี้เลย...
“ได้สิ…ชวนเข้านอนแบบนี้…ฉันชอบ…” แม้จะยังมึนๆแต่เธอก็แปลนัยยะ
ในถ้อยความนี้ได้อยู่ เลยฟาดเขาเข้าให้สองที
“ห้ามเกเรนะ…ห้ามซุกซนด้วย…”
“งั้นกอดกับหอมแก้มได้ใช่มั้ย…” เมื่อไม่ได้รับคำปฏิเสธ
ซุลก๊อตไนท์เลยโอบเอววาลาดาเดินเข้าห้องไป
…แค่ได้กอดกับหอมแก้มมันก็ดีกว่าต้องนอนอ้างว้างคนเดียวในห้องเป็นไหนๆ…
ทำเอาลุงหมานที่มองทั้งสองมาจากกระท่อมถึงกับยิ้มกว้าง…
แม้ไม่ได้ยินถ้อยคำที่ทั้งสองพูดคุยกัน แต่ภาพที่ได้เห็นมันก็พอยืนยันได้ระดับหนึ่งแล้วว่า
แผนต่อไปกำลังจะเดินหน้าอย่างไม่มีสะดุด…
อดยอมรับไม่ได้ว่าซุลก๊อตไนท์นั้นวางแผนอะไรได้อย่างรัดกุม
และอ้อนเมียให้คล้อยตามแผนการของตัวเองได้เป็นเลิศ…
................โปรดติดตามตอนต่อไป.............
จากการไล่งานคอมเม้นท์นักอ่านหลายท่านทำให้พบว่า
ตอนที่แล้ว ต้องมีการสื่อสารผิดพลาดแน่ๆเลยอ่ะ...
เพราะคำว่า "เงาดำทะมึน" คำๆนี้แน่ๆเลยอ่ะ ท่ีทำให้นักอ่านเต่าตีความไปว่า
เป็น "มารดำๆ" ที่เป็น "ญิน" จริงๆไม่ใช่นะคะ...
เป็นคำเปรียบเปรยเฉยๆว่า ความมืดดำหรือความเลวร้ายกำลังจะพาดผ่าน
มาสู่ชีวิตของหนูบัว...มารร้ายในคราบญินที่เป็นลูกสมุนของพญามาร
ยังไม่มาเน้อ...
น่าจะมาพร้อมๆกับก๊อตค่ะ...เพราะตาก๊อตกะจะออกมาล่ามารโดยแท้...อิอิ
โยเลยปรับสำนวนเสียใหม่ เพื่อไม่ให้นักอ่านที่มาอ่านภายหลังเกิดความเข้าใจผิดอีก
...อิอิอิ...
และเต่าจะไม่รู้แน่ถ้าไม่ได้อ่านคอมเม้นท์ ดังนั้น ขอบคุณมากๆสำหรับ
คอมเม้นท์ของนักอ่านค่ะ
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ขอบคุณทุกๆไลค์ที่กดให้
ขอบคุณที่เข้ามาพูดคุยกัน ทุกอย่างล้วนเป็นกำลังใจให้คนเขียนหมดค่ะ
ปล.พี่นุงานเข้า...ฮ่าาาาาาา
ตอนหน้ามาลุ้นกับภารกิจลับ ภารกิจล้วง 2 กันต่อนะคะ
.......ตอบเม้นท์จ่ะ.........
1.คุณตุ๊งแช่...รอบนี้มาให้คนแรกเลยนะเนี่ย...^o^
ดีใจที่มีคนเป็นเพื่อนอยู่โยงเฝ้าบ้านแล้ว...ฮ่าาาา
วนบรรจบคบรอบ ย่างเนื้อโกเบเลยแล้วกันนะคะ
เต่าพร้อม น้ำจิ้มพร้อม เครื่องเคียงพร้อม...เหอๆๆ
2.คุณแว่นใส...มารร้ายในคราบมนุษย์ค่ะ...
น่ากลัวกว่ามารดำๆที่โดนล่ามซะอีก...อิอิ
3.คุณyapapaya...มารที่ว่านีี่คือพวกมนุษย์หรือเปล่าคะ
มารมนุษย์ใช่มั้ย(เพราะอีกมารนั้นยังโดนล่ามอยู่ค่ะ) อิอิ
4.คุณคนเหงา...ขอบคุณค่ะที่ติดตาม...และส่งเสียงมาทักทายเต่าโย ^o^
5.คุณPampam...ขอบคุณค่ะที่ส่งเสียงมายืนยันว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกัน
ในช่วงวันหยุดยาวนี้...ส่วนพ่อนาดีมจะใช่พวกพ่อค้ามนุษย์ที่บัวไล่ล่าอยู่รึเปล่า
ต้องมาดูกันค่ะ...ส่วนหนูบัว ชีวิตเธอเสี่ยงมาเยอะแล้วค่ะ เป็นตำรวจ
ที่ลุยขนาดนั้น ไม่มีภัยคงยากค่ะ...ต้องมาลุ้นกันต่อน้าาาาา
6.คุุณkonhin...5555...เค้าป่าวหลอกน้าาาาา
พี่นุแกไปจีบบัวจริงๆ ไปจีบให้มาทำงานให้ไง...ฮ่าๆๆๆ
ส่วนลึกๆแล้ว เฮียแกรู้สึกยังไง ต้องรอดูต่อไปค่ะ...
มันก็ต้องมีฟงมีฟอร์มบ้างหนา...อิอิ
ฝ่ายพญามารยังไม่ได้ส่งมารในคราบญินมาเลยหนา...
ตอนได้อ่านโยก็ว่าโยสื่อสารพลาดหรือเปล่า เลยขึ้นไปอ่านทวนดู
น่าจะต้องเป็นจุดตอนปิดตอนแน่ๆชิมิที่บอกว่าเงาดำทะมึนพาดผ่านอะไรตรงนั้น...
มันแค่คำเปรียบเปรยเองจ่ะ ว่าเรื่องเลวร้ายใกล้จะเข้ามา...
มารตัวจริงในคราบญินยังโดนล่ามอยู่ค่ะ...ยังหลุดมาไม่ได้...
ที่ก่อกวนอยู่นั้น...มารมนุษย์ล้วนๆ พวกชายชุดดำนั่นก็มนุษย์เราๆนี่เอง...
มะช่ายมารในคราบญินนี่เลยจ่ะ...อิอิอิ
โยก็เลยฉวยโอกาสนี้ปรับสำนวนเสียใหม่...ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยทำให้โย
เห็นจุดบอดค่ะ...^o^
7.คุณcoonX3...พี่นุคิดไร บัวคิดไรไม่รู้ แต่งานนี้ก๊อตเขาวางกับดักเอาไว้
ให้พี่นุแล้ว...เต็มใจไม่เต็มใจรับรองว่าพี่นุโดนจัดแน่ๆ...กว่าจะเอาคืนก๊อตได้
ก็อีกสักพักใหญ่ๆ ถึงตอนนั้นก็คงเอาคืนไม่ทันแระ...ฮ่าาาาาา
ส่วนฝ่ายมารมีเรื่องผิดกฎหมายแน่ๆค่ะงานนี้...
8.คุณน้องHabibi...จะได้เป็นคู่ตุนาหงันกันหรือไม่ เดี๋ยวได้รู้กันจ่ะ
เพราะงานนี้พี่นุก็พี่นุเถอะ...ฮ่าๆๆๆ...ส่วนทำไมนั่งเงียบมาตลอดทาง
ตอนก่อนหน้าโน้น ยังไมเคลียร์...
ปล.ช่วงเวลานี้ฝั่งตารินทร์ยังไปไม่ถึงไหนค่ะ ยังไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น
เต่าเลยรอเวลาไว้ก่อน ค่อยเปิดตัวเกมไล่ล่าระหว่างหนูกับแมว...อิอิ
9.คุณnapt...น้าเล็กน่าสงสารหรือไม่น่าสงสารมีเฉลยค่ะ...
เพราะแต่ละคนก็มีเหตุให้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ว่าจะทำอะไร
มันก็ต้องรับผลไปตามสิ่งที่ทำๆกันไว้...หนักเบาต้องมาดูกันค่ะ..อิอิ
ปล.เรื่องเที่ยวยังไม่หมดค่ะ ได้เที่ยวอีกชัวร์ๆ(ในเรื่องนี้เลย)
แต่จะเป็นตอนไหนแล้วมีไรน่าสนใจ ต้องมาดูกันต่อค่ะ...จุ๊บๆ
.....ขอให้สุขภาพพลานามัยแข็งแรงปลอดภัยกันทุกคนนะคะ.....
"เต่าโย"
yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 เม.ย. 2558, 18:25:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 เม.ย. 2558, 18:25:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 3222
<< บทที่ 42 ภารกิจลับ ภารกิจล้วง 1 | บทที่ 44 นางฟ้าสลาตัน >> |
coonX3 12 เม.ย. 2558, 19:12:13 น.
วาจะได้เปิดมุมมองและเลิกโทษตัวเองซักที แผนการนี้ของก๊อตหวังว่าจะราบรื่นน้า วางแผนจะแต่งงานกันแล้วจะหย่าก่อนมั้ยหรือหย่าตอนไหนเพื่อไม่ให้ดีมกลับคำได้อะ ต้องใช้แผนเหนือเมฆคลุมพื้นที่ทั้งหมด
วาจะได้เปิดมุมมองและเลิกโทษตัวเองซักที แผนการนี้ของก๊อตหวังว่าจะราบรื่นน้า วางแผนจะแต่งงานกันแล้วจะหย่าก่อนมั้ยหรือหย่าตอนไหนเพื่อไม่ให้ดีมกลับคำได้อะ ต้องใช้แผนเหนือเมฆคลุมพื้นที่ทั้งหมด
ร้อยวจี 12 เม.ย. 2558, 20:07:01 น.
นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว พรุ่งนี้มาอัพอีกนะคะ กำลังสนุกเลย อยากรู้ว่าก๊อตจะทำยังไงต่อ
นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว พรุ่งนี้มาอัพอีกนะคะ กำลังสนุกเลย อยากรู้ว่าก๊อตจะทำยังไงต่อ
yapapaya 12 เม.ย. 2558, 20:49:05 น.
จะจัดงานแต่งที่่ไหน ร่อนการด์บอกน้องดีมด่วน
จะจัดงานแต่งที่่ไหน ร่อนการด์บอกน้องดีมด่วน
แว่นใส 12 เม.ย. 2558, 21:13:07 น.
มาร พ่อของนาดีมหรือเปล่า คนเป็น ๆ น่ะ
มาร พ่อของนาดีมหรือเปล่า คนเป็น ๆ น่ะ
คนเหงา 12 เม.ย. 2558, 21:17:39 น.
เรื่องดีๆๆ กำลังจะเกิดขึ้นแล้วใช่เปล่า
เรื่องดีๆๆ กำลังจะเกิดขึ้นแล้วใช่เปล่า
konhin 12 เม.ย. 2558, 21:46:09 น.
ยังคิดตามไม่ทัน ว่าทำไมนาดีมจะหย่าให้ นอกจากเอาเรื่องที่นาดีมพยายามฆ่ามาขู่ เพราะถ้าก๊อตกลับไป สมบัติก็กลับไปที่ก๊อตอยู่นิิ
ส่วนก๊อตตอนนี้ เข้าข่าย นั่งบนภู(ข้าวโพด)ดูเสือ(มาร)กัดกัน
พี่นุก็คงรู้ตัวดีว่าโดนใช้เป็นหมาก ก็ยังทำให้เพื่อน้อง(??) แต่เนื่องจากเค้าชอบพี่นุเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม อยากให้พี่นุได้เอาคืนแบบก๊อตทำอะไรไม่ได้บ้างอ่ะ พี่นุโดนมัดมือชกแล้ว ต้องให้นายก๊อตโดนบ้าง
เฉลยแล้วว่าวาโดนอะไร มิน่าหล่ะ วาโดนยาหยอดตาแล้ว ตาสว่างเลย
ยังคิดตามไม่ทัน ว่าทำไมนาดีมจะหย่าให้ นอกจากเอาเรื่องที่นาดีมพยายามฆ่ามาขู่ เพราะถ้าก๊อตกลับไป สมบัติก็กลับไปที่ก๊อตอยู่นิิ
ส่วนก๊อตตอนนี้ เข้าข่าย นั่งบนภู(ข้าวโพด)ดูเสือ(มาร)กัดกัน
พี่นุก็คงรู้ตัวดีว่าโดนใช้เป็นหมาก ก็ยังทำให้เพื่อน้อง(??) แต่เนื่องจากเค้าชอบพี่นุเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม อยากให้พี่นุได้เอาคืนแบบก๊อตทำอะไรไม่ได้บ้างอ่ะ พี่นุโดนมัดมือชกแล้ว ต้องให้นายก๊อตโดนบ้าง
เฉลยแล้วว่าวาโดนอะไร มิน่าหล่ะ วาโดนยาหยอดตาแล้ว ตาสว่างเลย
Pampam 12 เม.ย. 2558, 22:01:08 น.
นาดีมร้ายจริงๆ งานแต่งครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนอีกล่ะสิ
นาดีมร้ายจริงๆ งานแต่งครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนอีกล่ะสิ
napt 12 เม.ย. 2558, 23:02:01 น.
มีแผนอีกแล้วววว เพลียสมองขอไปนอนด้วยคน เอ๊ยไม่ใช่ 555
พี่นุงานจะเข้าซะละ วัวจะพันหลักยังไง รอติดตามค่ะ
มีแผนอีกแล้วววว เพลียสมองขอไปนอนด้วยคน เอ๊ยไม่ใช่ 555
พี่นุงานจะเข้าซะละ วัวจะพันหลักยังไง รอติดตามค่ะ
คิมหันตุ์ 13 เม.ย. 2558, 01:02:36 น.
แผนการรัดกุมจริงๆนะคะคุณก๊อต
แผนการรัดกุมจริงๆนะคะคุณก๊อต
พัชรี 13 เม.ย. 2558, 08:05:15 น.
Happy Songkran day ja
I hope you have a healthy and happy life, so you will keep writing your good story forever
It has been such a long time since I read your story.
You still write an awesome story as aways.
Keep up your good work ka....
Happy Songkran day ja
I hope you have a healthy and happy life, so you will keep writing your good story forever
It has been such a long time since I read your story.
You still write an awesome story as aways.
Keep up your good work ka....
ตุ๊งแช่ 13 เม.ย. 2558, 12:36:37 น.
แผนการเธอช่างล้ำลึกจริงๆๆ
แผนการเธอช่างล้ำลึกจริงๆๆ