เงามาร (กำลังรีไรท์ค่ะ)
'วาลาดา' ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ว่าตัวเองมีสามีมีลูกแล้ว
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ

เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ


คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...

เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...

ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...

หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...


ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ

โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...

รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม

ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...

เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...

และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร


และ...

หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน






...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...


...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....



Tags: ดราม่า ซุลก๊อตไนท์ วาลาดา นาดีม มาร มารร้าย ไสยศาสตร์ ญิน นุฮา อะสุเซน่า วารินทร์ อานิต้า

ตอน: บทที่ 43 น้องวาว่า


...น้องวาว่า...นี่ใครกันอ่ะ...อิอิอิ




______________________________________________________



“นี่นังดีม…ไหนๆแกก็หายเป็นปกติแล้ว…”

คุณหญิงวรลักษณ์เอ่ยกับลูกสาวที่ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว
อย่างจะปรึกษาหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของแผนการที่นางเพิ่งคิดได้หมาดๆ

“ลูกอะไรก็ไม่มีแล้ว ไอ้คฤหาสน์นั่นก็ชวดไปแล้ว…”

นาดีมมองมารดาแล้วกวาดสายตามองบ้านของตัวเอง
หลังใหญ่โตไม่ได้น้อยหน้าคฤหาสน์วรรัศมิ์สกุลก็จริง
แต่ความเก๋าและความขลังช่างแตกต่าง

เพราะไอ้เงื่อนไขบ้าบอพวกนั้นแท้ๆถึงทำให้เธอหมดสิ้นสิทธิ์ใดๆในวรรัศมิ์สกุล…

“แกก็ไม่ต่างจากสาวโสดไร้พันธะ…”

“แล้วไงล่ะแม่…” คนเป็นแม่นั่งลงบนโซฟาข้างๆลูกสาว

“ก็หาผัวใหม่สิยะ…และฉันเล็งเห็นแล้วว่า…”

นาดีมหันมามองมารดา จ้องเขม็งทีเดียว เพราะรู้ว่างานนี้มารดาของเธอ
คงต้องมีแผนอะไรอีกแน่ๆ…

“นายนุฮาอะไรนั่นยังโสดสนิท…แถมยังรวยมหารวย…
เพราะตอนนี้ทุกอย่างของตระกูลวรรัศมิ์สกุลก็ตกไปเป็นของแม่เจ้านี่
แล้วเจ้านี่ก็เป็นลูกชายคนเดียวของยัยซูฮาน่า…ไหนจะทรัพย์สมบัติอันมากมาย
ของตระกูลกรภัทรกุลอีก…นังดีมเอ๊ย…แกเห็นมั้ยว่า…ตอนนี้นายนุฮา
มีอะไรอยู่ในครอบครองบ้าง…”

นาดีมลอบถอนใจ…และพอจะเดาทางของมารดาออก
เพราะแค่มารดาอ้าปากเธอก็เห็นลิ้นไก่แล้ว

“แต่เรายังหาตัวนังวาไม่ได้นะแม่…สมบัติของก๊อตเป็นของนังวากับลูกมัน”

“โธ่เอ๊ยนังดีม…ถ้าแกได้เป็นเมียนายนุล่ะก็ ต่อให้นังวามันกลับมา
แล้วแกคิดว่าแม่ของแกจะปล่อยให้นังวามันลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมต่อไปรึไง…
คิดสิคิด…ต้องคิด…” ไม่วายเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากลูกสาว

“อ้อยเข้าปากช้างแล้ว ใครมันจะยอมคายออกมา นอกจากจะเหลือ
แต่ชานอ้อยโน่นแหล่ะ…”

“แต่ดีมรักรินทร์ ดีมจะทวงเขาคืนมา…ถ้าเรื่องรวย รินทร์ก็ไม่แพ้ใคร”

“เชอะ…ไม่แพ้ใครที่ไหน…แกน่ะมันโง่ดักดาน…ตอนนี้ไม่มีใครสู้นายนุฮาได้หรอก…
แม่มันกำลังจะขึ้นแท่นรับมรดกมหาศาลอยู่รอมร่อแล้ว ถ้าแม่มันตาย
สมบัติจะเป็นของใครถ้าไม่ใช่ของลูกชายคนเดียว”

คนเป็นแม่หยุดหายใจแล้วสาธยายต่อไปอีกว่า

“ไอ้วารินทร์ก็เป็นได้แค่พวกเศรษฐีตีนเปล่า…สู้นายนุฮาไม่ได้หรอก

คนนี้เขาชาติตระกูลดี การศีกษาดี มีความสามารถ เป็นคนที่สังคมให้การยอมรับนับถือ
ที่สำคัญร่ำรวยมหาศาล แกจะได้มีสามีดีๆกับเขาสักที…

แล้วถ้าได้คนนี้…ต่อไปฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าไปทำให้ครอบครัวแกแตกแยกอีก…
แกอยากได้นักไม่ใช่รึไอ้ครอบครัวดีๆของแกน่ะ…แกก็สร้างมันกับคนๆนี้แหล่ะ…”

นาดีมถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ฟังเหตุผลของมารดา เธอเองก็อยากมีครอบครัวที่ดีๆ
ได้เชิดหน้าชูตาในสังคม ไม่ใช่สภาพแม่ม่ายผู้น่าสงสารแบบนี้

เธออยากให้คนทั้งโลกอิจฉาเธอ

…ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่ทำลายซุลก๊อตไนท์เลย
เพราะเขามีให้เธอได้ทุกอย่าง แค่เพียงเธอรู้จักที่จะยอมรับเท่านั้น…

“ดีมเห็นก่อนหน้านี้แม่แทบอยากจะฆ่าเขาด้วยซ้ำไปนี่…แล้วทำไมตอนนี้อยู่ๆถึงได้
มายุดีมให้แต่งงานกับเขา…” คนเป็นแม่ยักไหล่

“สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว…ทางที่ดีหันหน้าเข้าหากันมันจะเหมาะกว่า…
พ่อนายนุฮาก็มีอิทธิพล ผู้คนมากมายต่างให้การยำเกรงและนับถือเลื่อมใส
ถ้าแกได้แต่งงานกับนายนุฮาล่ะก็…พ่อแกอาจได้เป็นใหญ่เป็นโตระดับผู้นำประเทศ
ก็ได้นะนังดีม…แกไม่อยากเป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรีรึไงฮึ…”

ดวงตาของช่างปั้นฝันเป็นประกายสุกใส…เมื่อเริ่มมองทะลุทางตันออกไปได้แล้ว

“คราวนี้แกอยากได้สิ่งใดแกก็จะได้สมปรารถนา…ผู้คนก็จะสรรเสริญยกย่องแก
ไปทั่วทั้งแผ่นดิน…จะมีแต่คนอิจฉาในวาสนาของแก...”
นาดีมนิ่งฟังตามที่มารดาเอ่ยมา

“พอพ่อแกหมดวาระ ก็ส่งไม้ต่อให้ผัวแก…จากลูกสาวท่านผู้นำ
แกก็จะได้เป็นเมียผู้นำระดับประเทศเชียวนะ…คิดดู…”

“มันไม่เพ้อไปหน่อยเหรอแม่…”

“อะไรๆก็เกิดขึ้นได้นังดีม…และแกก็รู้ว่าฉันมีสมุนบริวารที่พร้อมจะ
ทำงานตามคำบัญชาของฉันให้ลุล่วง…”

นาดีมพยักหน้าด้วยรู้ว่ามารดามีลูกสมุนที่เป็นท้ังคนและไม่ใช่คนคอยใช้สอย…

“พี่นุไม่ใช่ไก่อ่อน…ดีมรู้จักเขาดี…เขาไม่มีวันยอมหรอกแม่”

“ไก่แก่อย่างแกจะต้องไปกลัวอะไร…แกไม่ได้สู้คนเดียวนะ
เพราะฉันจะอยู่ช่วยส่งแกให้ไปถึงจุดนั้นเลยนังดีม…” นาดีมส่ายหน้า

“มันไม่ง่าย…พี่นุเขาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรอย่างแม่ว่าได้หรอก…
และเขาไม่ได้โง่ยอมให้เราสนตะพายง่ายๆนะแม่…”

“โธ่…นังดีม…มันก็แค่ผู้ชาย…แกรู้มิใช่รึว่าจะเอาผู้ชายให้อยู่หมัดได้ยังไง…
ขึ้นชื่อว่าผู้ชายมันก็เหมือนๆกันนั่นแหล่ะ…นี่ถ้าฉันยังสาวๆอย่างแกตอนนี้ล่ะก็…
ไม่รอดมือฉันหรอก…จะเอาให้ดิ้นไปไหนไม่ได้ด้วยซ้ำ…จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด…
เหมือนลูกไก่ในกำมือ…”

ว่าพลางกำมือขึ้นมาบีบด้วยแววตากระหยิ่มยิ้มย่อง…ด้วยใจผยอง
และลำพองอย่างคึกคะนอง

“แต่ดีมต้องการรินทร์…ไม่ได้ต้องการคนอื่น”

“เชอะ…แล้วไอ้ที่แกไปนอนด้วยน่ะ…มันมีไอ้รินทร์อยู่ในบัญชีแกรึเปล่า
อย่ามาทำเหมือนผู้หญิงไร้เดียงสา รักเดียวใจเดียวหน่อยเลยนังดีม…
เพราะอย่างแกน่ะมันไม่ใช่…” นาดีมเม้มปากสนิทเมื่อโดนมารดาตอกเข้าตรงใจดำ



"แล้วมันน่ะ...เคยสักครั้งที่คิดจะเยี่ยมดูแกที่โรงพยาบาล ขนาดแกใกล้จะตาย
มันยังไม่เหลียวแลเล้ยนังดีม..." คนโดนตอกย้ำแผลที่ยังสดใหม่ถึงกับปวดแสบ
ปวดร้อน

“นายนุฮาทั้งหล่อทั้งบุคลิกดีกว่าไอ้วารินทร์เป็นไหนๆ…”

“ถ้าดีมรักใครสักคนเพราะความหล่อ ดีมคงไม่รักรินทร์หรอก…”

“ฮี…อย่า อย่าทำมาบอกว่่าไม่สนคนที่หน้าตา…เพราะปากแก
กับการกระทำของแกมันไม่ได้ไปด้วยกันสักที…คู่นอนแกแต่ละคน
มันไม่หล่อเลยรึนังดีม…ไอ้ก๊อตนั่นมันไม่หล่อรึไง…”

นาดีมไร้คำใดจะไปต่อกรเมื่อเจอเข้ากับไม้ตายที่มารดามักงัดมาทิ่มแทงเธอ
ได้อย่างไม่คิดจะละเว้น

“แม่จะพูดถึงใครก็พูด แต่อย่าพูดถึงก๊อต…ดีมไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีก”

ใช่…ยิ่งฟังยิ่งแสลงใจ และแอบรู้สึกผิดเล็กๆทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของอดีตคนรัก
ที่คบกันมาอย่างยาวนาน คนที่สุดท้ายก็สารภาพกับเธอว่ารักนังวา…
คนที่เธอลงมือฆ่าด้วยตัวเอง…

“แหม…ทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นไม่อยากได้ยินชื่อ…เพราะอยากได้คนใหม่แล้วล่ะสิ…
และฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า…ฉันจะให้แกแต่งงานกับนายนุฮานี่ให้ได้…
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา…
ฉันเทหมดหน้าตักเพื่ออนาคตอันสดใสของแก…”

นาดีมอยากจะค้าน เธอรู้ว่าจริงๆแล้วแม่ของเธอเพียงหวัง
อยากจะได้กรุสมบัตินั่นคืนมา แม่รักมัน ต้องการมันยิ่งกว่าเธอ
ยิ่งกว่าสิ่งใดในชีวิตเสียอีก พอรู้ว่ากรุสมบัตินั่นไปตกอยู่ที่ใคร
คนๆนั้นก็จะกลายเป็นเป้าหมายคนต่อไปของแม่ โดยใช้เธอเป็นสะพาน
พาท่านไปยังเป้าหมายดั่งเช่นที่ผ่านๆมา…

“ตามใจแม่เถอะ…ดีมเองก็เริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้แล้วเหมือนกัน
ถ้าแม่คิดว่า…คนๆนี้จะเป็นสามีคนสุดท้ายของดีมโดยที่แม่จะไม่ลอบวางแผนฆ่าเขาอีก…
ดีมก็จะยอมตามแม่…แต่แม่ห้ามยุ่งกับรินทร์เด็ดขาด…
ปล่อยเรื่องรินทร์ให้ดีมเป็นคนจัดการเอง…”

“แกนี่มันบ้าไอ้รินทร์ไม่เลิกจริงๆนะนังดีม…” ไม่วายตวาดเสียงเข้มใส่หน้าลูกสาว
อย่างไม่สบอารมณ์นัก

กี่ปีกี่ชาติลูกสาวของนางก็ยังจะอะไรกับนายวารินทร์นั่นไม่เลิกสักที…
สงสัยคงต้องหาทางกำจัดมันโดยไม่ให้นังดีมรู้ซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย…

แผนต้องมาพังเพราะไอ้วารินทร์เป็นต้นเหตุมากี่ครั้งกี่คราวแล้ว…
เพราะถ้ายัยลูกสาวตัวดีไม่คิดจะลากนังวาลาดามามีเอี่ยวด้วย…
เรื่องมันง่ายกว่านี้ไปนานแล้ว และที่ลูกสาวต้องลากนังวามาในแผนการด้วย
ก็เพราะไอ้วารินทร์

มันคือปฐมบทแห่งเหตุทั้งปวง…

แล้วอย่างนี้จะปล่อยมันไว้ให้เป็นขวากหนามไปทำไม…

แต่เหมือนว่าคนเป็นลูกจะรู้เท่าทันความคิดของคนเป็นแม่…

“ถ้าแม่ทำอะไรรินทร์แม้แต่นิดเดียวล่ะก็…เราจบกัน…”

“นี่แกเห็นมันดีกว่าแม่แกรึนังดีม…” นาดีมกระดกไหล่ก่อนจะ
ย้อนมารดาว่า

“แล้วแม่ล่ะ…สำหรับแม่แล้ว…แม่เคยรักใครจริงบ้าง…
เคยเห็นใครดีกว่าความต้องการของตัวเองบ้าง…”

พูดจบก็ลุกขึ้นเดินผ่านหน้า มารดาขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัว

…ความเจ็บปวดที่มารดาทำไว้กับเธอมาท้ังชีวิต ทำให้เธออยู่เหมือนคนตายทั้งเป็น…
มันทำให้เธอชินชาซะจนไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว…

ไม่มีความเจ็บปวดใดจะทำอะไรเธอได้อีกต่อไป…

และไม่ว่าใครก็ตามที่ทำอะไรกับเธอไว้…เธอไม่เคยลืม!







ณ เนินข้าวโพดยามค่ำคืนดึกสงัด จันทร์เสี้ยวปรากฎบนท้องฟ้าสีดำมืดมิด
ราวกับผ้ากำมะหยี่สีดำสนิิทที่แผ่คลุมไปทั่วสารทิศ…

ดวงดาวระยิบระยับงามจับตา…ด้วยความมืดสนิทรอบด้านทำให้
มองเห็นดาวอยู่ใกล้เอื้อมคว้า…อยู่เบื้องหน้า อยู่เหนือศีรษะไปไม่กี่คืบ

ดอกไม้งามส่งกลิ่นกรุ่นหอมไปทั่วทั้งบริเวณ…กลิ่นดอกโมกป่าของลุงหมาน
หอมขจรขจายไปไกล…ทำเอาสองหนุ่มสาวท่ียืนกอดก่าย
หันหน้าสู่ท้องฟ้าท่ามกลางใต้แสงดวงดาวสูดกลิ่นหอมเย็นของมันเข้าปอด…

วาลาดากระชับอ้อมแขนที่โอบรัดตัวเธอไว้ด้วยรอยยิ้มสุขใจ
หากลึกลงไปก็อดนึกไปถึงผู้คนอีกฟากหนึ่งไม่ได้…

“ก๊อตคิดว่า…ดีมเขาจะรู้สึกยังไงกับการสูญเสียลูกไป…”

คนท้องเอ่ยขึ้นอย่างเห็นใจคนที่ต้องสูญเสียของล้ำค่าไปไม่ได้

“เธอคิดว่านาดีม…เป็นคนรักเด็กม้ัยวา…” ซุลก๊อตไนท์ถามกลับ

“ไม่รู้สิ…ดีมเขาเป็นลูกคนเดียว…วาเลยเห็นว่าเขาเข้าหาเด็กไม่ค่อยเก่ง
ซึ่งเพื่อนดีมหลายๆคนที่เป็นลูกคนเดียวก็มักจะเป็นเหมือนดีม…
วาก็เลยแปลกใจตอนแรกที่รู้สึกตัวแล้วเห็นดีมกับตาหนูเข้ากันได้ดีน่ะ…
เพราะไม่เคยเห็นดีมจะหยอกเล่นกับเด็กคนไหนมาก่อน…เขาไม่ได้ถึงกับเกลียดเด็ก
แต่เป็นประมาณว่า…ไม่รู้จะจัดการยังไงกับเด็กน่ะ…”

“โลกสวย…” วาลาดาที่ได้ยินซุลก๊อตไนท์พูดแบบนั้นเลยรู้สึกเคืองขึ้นมา

“ทำไมมาว่าวาว่าโลกสวย…”

“นั่นมันคำชมนะ…”

“เชื่อตายละ…นั่นน่ะคำกระแนะกระแหนชัดๆ…”

“ก็แล้วไม่จริงรึไง…เธอน่ะมองคนโน้นคนนี้ในแง่ดี…เลยโลกสวยไง…”

“ก็แล้วถ้ามองคนอื่นในแง่ร้ายจนเกินไป… มันช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นกว่าเดิมรึไง…”

คนโลกสวยสวนกลับเข้าให้บ้าง

“หรือก๊อตอยากให้วาเป็นคนขี้ระแวง…”

“อย่าถึงกับขี้ระแวงเลย เอาแค่ระวังไว้ก็พอ…” คนพูดยิ้มบางที่มุมปาก
ก่อนจะผละจากวาลาดาเดินหายเข้าไปในห้องแล้วกลับมาพร้อมกับบางอย่างในมือ
ที่ทำเอาวาลาดาถึงกับอึ้งไปหลายวินาทีเมื่อเขายื่นมันมาให้เธอ…

“นี่มัน…มันน้องวาว่านี่…”

‘น้องวาว่า’ ที่ว่าคือ ตุ๊กตาหมีที่วาลาดาเคยมอบให้นาดีมตอนไปส่งเพื่อนรัก
ที่สนามบิน ซึ่งในวันนั้นนาดีมกับซุลก๊อตไนท์กำลังจะเดินทางไปศีกษาต่อ
ยังประเทศในแถบยุโรป เธอเลยอุ้มน้องหมีที่เธอตั้งชื่อให้ว่า ‘น้องวาว่า’
เพื่อเป็นตัวแทนของเธอ เป็นตัวแทนของความรักและมิตรภาพระหว่างเธอกับนาดีม

แถมยังย้ำให้เพื่อนดูแลอาบน้ำให้มันด้วยซ้ำ นาดีมรับไปกอดต่อหน้าซุลก๊อตไนท์
ซึ่งเขาเป็นพยานได้ดีว่าหมีตัวนี้ชื่อ ‘น้องวาว่า’

เพราะบนหน้าผากของมันไม่เหมือนหมีตัวใด เนื่องจากเธอเป็นคนปักชื่อเต็มๆของมัน
เอาไว้เป็นตัวอักษรไทยว่า… ‘วาว่า’ ส่วนที่ใบหนูทั้งสองข้างของมัน
เธอปักอักษรโรมัน ‘VA’ เอาไว้

แล้วทำไมตอนนี้มันถึงได้มาอยู่ในมือของซุลก๊อตไนท์
แล้วทำไมมันถึงได้มีสภาพแบบนี้ได้…

วาลาดามองภาพน้องวาว่า แล้วได้แต่หดหู่ เพราะเธอแอบเก็บตังค์ตั้งนาน
เพื่อจะซื้อน้องหมีตัวโตราคาแพงตัวแรกในชีวิตให้เพื่อนรักเอาไว้ดูต่างหน้า

…ตอนนั้นอุตส่าห์คิดว่าเพื่อนรักเราและจะต้องคิดถึงเราแน่ๆ เลยมอบอะไรๆแบบนี้ให้
และทั้งๆที่เธอสามารถขอหยิบยืมเงินพี่นุหรือซุลก๊อตไนท์ หรือวารินท
ร์เพื่อซื้อหมีตัวนี้ให้เพื่อนได้แท้ๆ แต่เธอก็อยากสร้างความภูมิใจเล็กๆ
ด้วยการเก็บเงินซื้อมันให้เพื่อน…

“เกิดอะไรขึ้นกับมันน่ะก๊อต…” อดถามซุลก๊อตไนท์ไม่ได้

หัวอกของคนที่เอาเงินที่เก็บมานานไปแลกหมีตัวนี้ที่ร้านดังในห้างหรูสั่นสะท้าน

วันนี้เธอมีเงินแล้ว จะซื้อหมีราคาแพงขนาดไหนสักกี่ตัวก็ได้
แต่วันนั้น...วันที่เธอเป็นแค่เด็กสาววัยสิบแปดปีมันไม่ใช่…
เธอไม่มีปัญญาแม้แต่จะครอบครองหรือนอนกอดมันด้วยซ้ำ…

พี่นุเคยจะซื้อให้เธอแล้ว แต่พ่อกับแม่เคยบอกเอาไว้ว่าห้ามไปรบกวน
ให้พี่นุซื้อโน้นซื้อนี่ให้ เธอเลยกัดฟันบอกไปว่าไม่อยากได้ทั้งๆที่อยากได้ใจจะขาด

เลยคิดว่านาดีมเองก็คงเหมือนเธอ เราคงรู้สึกไม่แตกต่างกัน
เธอเลยคิดว่าเพื่อนจะต้องดีใจแน่ๆถ้าได้กอดมัน…ยิ่งได้รู้ว่าเธอซื้อให้
เพื่อนยิ่งต้องซาบซึ้ง

ซึ่งเธอในวันนั้นจะอินกับความรักและมิตรภาพของความเป็นเพื่อนมากยิ่งกว่ารักแบบอื่น

…เพื่อนคือที่สุดแล้วสำหรับเธอในวันนั้น…

แต่เหมือนเธอจะคิดผิดไปหมด…รู้สึกไปเองข้างเดียว…
เพราะสภาพหมีที่ถูกเย็บเต็มไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะตรงใบหน้าของมัน

มันฟ้องว่าน้องวาว่่าของเธอเจออะไรมาบ้างระหว่างที่อยู่ในแดนไกล…

“มันคงจะรับโทษทัณฑ์แทนเธอน่ะนะ…” คนพูดเหมือนจะไม่ได้จริงจังในน้ำเสียงนั้น
เพราะเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังอินกับมันแค่ไหน…

เห็นแววตาก็รู้แล้วว่าสะเทือนใจแค่ไหน ถ้าเขาพูดน้ำเสียงผิดคีย์ออกไป
ทางท่วงทำนองเศร้าๆสักนิด คิดว่าคนตรงหน้าอาจน้ำตาร่วงได้
และเขาไม่อยากไปเปิดปุ่มนั่นเข้า…

“แล้วฝีเข็มที่เย็บออกมาได้ห่วยแตกแบบนี้มันคงไม่ใช่ฝีเข็มจากฝีมือของดีมแน่ๆ
ใช่มั้ยก๊อต…” เจ้าของฝีเข็มห่วยแตกถึงกับยิ้มแหย

จะมีสักเรื่องไหมที่วาลาดาจะจับผิดเขาไม่ได้…ความละเอียดละออของเพศหญิงเนี่ย
เขายอมรับมานานแล้ว และคงต้องยอมรับว่าภรรยาเขามีมากไม่น้อย
เมื่อเทียบกับหญิิงอื่น…รู้ได้แม้กระทั่งฝีเข็ม ตะเข็บรุ่ยๆอะไรพวกนั้นเธอคงเห็นหมดล่ะสิ
แม้ว่าคนเย็บจะพยายามซุกซ่อนเอาไว้อย่างสุดฝีมือแล้วก็ตาม…

“ก๊อตไปเจอมันที่ไหน…” มันช่างเป็นคำถามที่เขาไม่อยากตอบเลย

ที่ไม่อยากตอบไม่ใช่เพราะต้องการปกป้องนาดีม แต่เพราะไม่อยาก
เห็นคนถามต้องเสียใจและเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้

เขารู้ว่าวาลาดาอ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้แค่ไหน…ตัดสินใจอยู่ตั้งนาน
ว่าจะคืนมันให้เจ้าของที่แท้จริงไปดีหรือไม่…

แต่เพราะอยากให้เธอได้เห็นในสิ่งที่เขาเคยเห็น แต่เขากลับไม่ได้เอะใจมากมาย
เพราะตอนนั้นเขาเฝ้าแต่จะพยายามปกป้องนาดีมผู้แสนดีมาตลอด
พยายามบอกตัวเองว่ามันก็แค่ตุ๊กตาตัวนึงที่นาดีมคงเอาไว้ระบายความอัดอั้น
บางอย่างก็เท่านั้น…

เพราะเขาเชื่อมาตลอดว่านาดีมรักและผูกพันกับวาลาดามาก
แต่พอรู้ว่านาดีมทำอะไรไว้กับเธอบ้างในภายหลัง…

เขาเลยนึกถึงหมีวาว่าทีี่เก็บมาได้ตัวนี้ขึ้นมา ดูมันจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
ว่านาดีมเกลียดเจ้าของมันแค่ไหน…

เขาจึงอยากเปิดตาวาลาดาให้มองเพื่อนตัวเองได้กว้างขึ้นกว่าเดิม…มองในมิติใหม่
เพื่อที่เธอจะได้ระวังตัวมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

ยิ่งต้องกลับไปเผชิญหน้ากันอีกครั้ง วาลาดายิ่งต้องแข็งแกร่ง
และไม่ยอมใจอ่อนหรืออ่อนข้อให้นาดีมอีก!

“ตอนดีมย้ายห้องน่ะ…ฉันไปช่วยเขาย้ายห้องตอนเขาเรียนอยู่ปีสอง…
เขาไม่ชอบที่เดิม อยากเปลี่ยนที่น่ะ…”

ตอบไปแล้วก็ได้แต่มองคนที่ถือตุ๊กตาหมีที่โดนทำร้ายมาอย่่างยับเยิน
แลดูบอบช้ำไม่น้อย…เพราะรอยเย็บมีเต็มทั้งตัว

แถมรอยเย็บก็…ก็ฝีมือผู้ชายที่ไม่เอาไหนเรื่องเย็บปักถักร้อยอย่างเขานี่นะ
จะให้สวยได้ยังไง…

หรือต่อให้เย็บเก่งระดับเทพก็คงทำได้ดีไม่เกินกว่าเขาสักเท่าไหร่หรอก…
สภาพอันยับเยินของน้องวาว่ามันไม่ได้จะรักษาเยียวยาให้ดูดี
ดูน่ารักเหมือนเดิมได้แล้ว…แค่ไม่ให้ไส้ของมันทะลักออกมา
หรีือมันสมองไหลเยิ้มก็ดีแค่ไหนแล้วหนา…

เพราะถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิต มันคงตายและย่อยสลายไปนานแล้ว…
ไม่มาอยู่ในมือวาลาดาอย่างตอนนี้แน่นอน…

“มันวางอยู่ในลังสำหรับของที่จะทิ้ง…ฉันเหลือบไปเห็นเข้า จำได้เลยแอบเก็บไว้…
ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องแอบน่ะนะ…และไม่รู้ว่าเพราะสงสารมัน
หรือเจ้าของเดิมของมันกันแน่…ก็เลยช่วยยัดไส้และมันสมองของมันกลับที่เดิม…
ปิดบาดแผลของมันไว้ด้วยฝีเข็มห่วยแตกนั่นแหล่ะ”

วาลาดาก้มมองฝีเข็มห่วยแตกนั่นอีกครั้งแล้วยกมันขึ้นกอด…
น้ำตาเริ่มคลอเบ้า…ยิ่งมองซุลก๊อตไนท์ปากบางยิ่งสั่นระริก

มันทั้งสะเทือนใจ มันทั้งซาบซึ้งใจ ความรู้สึกมันปนเปกันไปหมด

“เก็บมาทำไม…ถ้าไม่เก็บมา วาก็ไม่รู้หรอก…จะทำให้วาร้องไห้อีกแล้วใช่มั้ยก๊อต…
ก๊อตน่ะทำวาร้องไห้ได้ตลอดเลย…”

ซุลก๊อตไนท์เดินเข้าไปหาดึงร่างที่กำลังสั่นเข้ามากอดเอาไว้
แล้วยกมือลูบผมนั่นเป็นการปลอบ…

“อะไรที่มาจากเธอฉันเก็บไว้หมดแหล่ะวา…แม้ว่าสิ่งนั้นเธอจะไม่ได้ให้ฉันมาก็ตาม…
มันควรจะได้อยู่กับคนที่สู้อุตส่าห์เก็บตังค์ซื้อมันมา
ดีกว่าต้องไปอยู่กับคนที่ไม่เคยเห็นค่่าของความรักและมิตรภาพที่คนอื่นหยิบยื่นให้…

คนแบบนั้นไม่ควรจะได้รับความรู้สึกดีๆจากใคร
เพราะเขาน่ะดีแต่ทำลายความรู้สึกของคนอื่น…ให้อะไรไปสักเท่าไหร่
ก็ถูกเขาทำลายมันทิ้งอยู่ดี…”

วาลาดาเริ่มสะอื้นเมื่อได้อ้อมกอดอุ่นๆจากเขา

ก็ไม่ได้อยากจะร้องไห้เหมือนเด็ก แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง

“วาไม่คิดเลยก๊อต…ก๊อตรู้ม้ัยว่าคนเรากว่าจะรักใครสักคนหนึ่งได้
มันไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ…ใช่มองตาแล้วมันจะรักกันเลย…

โดยเฉพาะเพื่อน…มันต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันถึงจะรักกันได้…
ตอนนั้น…” หญิงสาวสะอื้นฮัก

“วา…วาไม่คิดว่า…วาจะเจอเพื่อนใหม่ที่ดีและเข้าใจวา รู้จักวาได้ดีเท่าดีมอีกแล้ว…
วาอินกับมันมากเลยนะก๊อต…วาแอบร้องไห้ทุกคืนที่รู้ว่าวากับดีมต้องแยกจากกันไป
คนละทิศละทางแล้วจริงๆอย่างไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านั้น...
แต่ยังไง…เราก็ต้องจากกันไปเพื่ออนาคต…เพื่อวันข้างหน้า…

วาหวังแค่ว่าสักวันเราจะกลับมาพบกันใหม่ กลับมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างวันวาน…
แต่วันที่ว่ามันไม่เคยมีอยู่จริงเลย…ไม่เคยมีเลยก๊อต…ไม่มีมาแต่เดิม

วาแค่รู้สึกไปคนเดียว…อินกับมันอยู่ฝ่ายเดียว…
ดีมเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับวาเลยใช่มั้ยก๊อต…ไม่เคยมีสักขณะจิตที่เขาจะรักวา
อย่างเพื่อนคนนึงจริงๆใช่มั้ยก๊อต…”

ถ้าเธอกับเพื่อนแตกหักกันเพราะว่าแย่งผู้ชายคนเดียวกัน
มันก็พอจะรู้สึกดีกว่าต้องมารับรู้ว่า เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดมันก็แค่ภาพมายา…
ที่มีแค่เธอที่ซาบซึ้งกับมันอยู่คนเดียว…

จริงๆเธอควรจะรู้ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่นาดีมวางแผนฆ่่าซุลก๊อตไนท์
อย่างเลือดเย็นแล้วด้วยซ้ำ

แต่อะไรเล่าที่ทำให้เธอยังคิดว่า…ที่ผ่านมา ในอดีตอันไกลโพ้น ในวัยเด็กนั่น…
เธอกับเพื่อนรักกันและผูกพันธ์กันมาก…จนเพิ่งจะมาหมางใจกันตอนโต…

ซึ่งมันไม่จริงเลย เพื่อนเธอวางแผนหลอกใช้เธอและซุลก๊อตไนท์มาโดยตลอด…
เพื่อนไม่เคยจริงใจกับเธอมาก่อน ไม่เคยบริสุทธิ์ใจในการคบหาเธอเลย…ไม่เลย…

ไม่ใช่เพราะหมีตัวนี้ที่ทำให้เธอมองเห็นอะไรชัดเจนขึ้น…
แต่เพราะ…เพราะมันเป็นชิ้นส่วนที่ขาดหายไป พอได้มันมา
เธอจึงประกอบชิ้นส่วนต่างๆที่กระจัดกระจายอยู่ได้จนครบ
ฉายภาพความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับนาดีมที่ผ่านมาในอดีตได้ชัดขึ้น…
เห็นมุมสะท้อนอีกฝั่ง ได้เห็นมุมของนาดีมอีกด้าน…ที่เธอไม่เคยได้เห็นมันชัดเจน
เท่าตอนนี้มาก่อนเลย…

“อย่าไปเสียความรู้สึกกับคนแบบนั้นเลยวา…เขาไม่ควรได้ความรู้สึกดีๆจากเธอ
หรือจากใคร…เพราะหัวใจเขาหยาบกระด้างเกินจะสัมผัสหรือรับรู้มันได้…”

วาลาดาหยุดสะอื้นไปแล้วหากยังคงกอดน้องวาว่ากับซุลก๊อตไนท์เอาไว้แน่น…
ซับน้ำตากับแผ่นอกของเขา

“ไม่มีวิธีหยุดหรือวิธีแก้เลยหรือก๊อต…” ซุลก๊อตไนท์ส่ายหน้า

“สายเกินจะเยียวยา…เพราะมันคือมะเร็งระยะสุดท้าย…” นั่นคือคำตอบจากเขา…

“มะเร็งที่กัดกินเซลล์ในร่างกายที่ว่าลุกลามยากเกินเยียวยารักษาแล้ว
มะเร็งที่กัดกินจิตวิญญาณของคนนั้นรักษายากยิ่งกว่านะวา…
เพราะมันต้องกลับไปแก้ที่ตอนปลูกฝัง…เมล็ดพันธุ์ที่ถูกปลูกฝังมาอย่างไร…
ตอนวันแห่งการเก็บเกี่ยวมาถึง มันก็ย่อมต้องได้รับผลตามที่ปลูกฝังและดูแลมา…”

วาลาดาผละจากอ้อมกอดเขาแล้วก้มมองตุ๊กตาหมีหน้าตาหน้ากลัว
ระคนสยองจนต้องถามคนเย็บมันว่า

“ก๊อตบอกว่าก๊อตเก็บของที่มาจากวาไว้หมดใช่มั้ย…” คนถูกถามคลี่ยิ้ม
เมื่อเห็นแววตาเหมือนเด็กขี้สงสัย มันไม่ได้ต่างจากแววตาของลูกชายของเขาเลยสักนิด

แววตาของสองแม่ลูกถอดกันมาเลยทีเดียว

“หมดสิ…จะทิ้งได้ไง…สงสารออก…”

“แค่ความสงสาร?” วาลาดาเอียงคอถาม

“ตอนนั้นแค่สงสารมั้ง และพอสงสารมากๆก็เลยกลายเป็นรักมากๆ…
สงสัยว่ามันน่าจะต้องเป็นแบบนั้น…” เพราะเอาเข้าจริงๆเขาก็ไม่รู้หรอก
หันกลับไปมองในวันวานอีกกี่ทีก็ยังคลางแคลงใจตัวเองอยู่อย่างนั้น

“ตอบไม่เคลียร์เลยสักนิด…”

“ก็ใครมันจะไปร่ายบอกเธอได้ว่าลำดับการรักเธอเป็นมายังไง
ฉันไม่ได้เป็นผู้วิเศษนะวา…หรือเธอรู้ ไหนเล่ามาซิว่าเธอรักฉันยังไง
เริ่มจากตอนไหน เล่ามาให้เป็นฉากๆเลยนะ ฉันยินดีนอนฟังเธอทั้งวันทั้งคืน
ถ้าเธอยืนยันว่าเล่าลำดับที่มาที่ไปของมันได้…”

วาลาดายอมยกธงขาวสะบัดต่อหน้าเขาเลยเมื่อเจอเข้าอย่างนี้

“เมื่อก่อน…ฉันเคยคิดอยากซื้อน้องหมีให้เธอนอนกอดเหมือนกันนะ
แต่ไม่รู้ทำไมสิ…ฉันว่าอย่างเธอไม่เหมาะจะนอนกอดตุ๊กตาหมีหรอก…”

ว่าแล้วเขาก็ดึงน้องวาว่าของเธอกลับไป วาลาดาจะแย่งคืน
หากคนที่ตัวสูงกว่าชูมันเสียสูงสุดมือ เธอเลยเอื้อมไม่ถึง
วาลาดาเลยหมั่นไส้ ยิ้มให้เขาขณะพูดว่า

“คนอะไร้…หึงได้แม้กระทั่งตุ๊กตาหมี…ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ ทำไมไม่หึงหมอน
ไม่หึงผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนซะด้วยล่ะ...” ซุลก๊อตไนท์ยิ้มกว้างเลยทีเดียว

“เมื่อก่อนไม่ซื้อให้กอดเพราะว่าหึง…แต่ตอนนี้ไม่หึงแล้ว…เพราะ...”

วาลาดาแย้มยิ้มตาใสเป็นประกายพลางเอ่ยสัพยอกเขาว่า

“เพราะมีหมีขั้วโลกตัวโตตรงหน้าให้วานอนกอดแล้วใช่มั้ยล่ะ…”

‘หมีขั้วโลก’ ที่ว่ายิ้มกริ่มทีเดียว

“แถมไม่ใช่ตัวเดียวแต่เป็นสองตัว…” อดไม่ได้ที่จะนึกถึงร่างอ้วนกลม
ของเจ้้้าลูกชายที่นอนหลับอยู่ในห้อง

“ช่ายยยยย…จะไปกอดหมีที่ไหนทำไม ในเมื่อหมีตัวนี้กอดอุ่นกว่าหมีที่ไหนในโลก…”
วาลาดายื่นปากย่นจมูกใส่คนหลงตัวเอง

“อย่าเป็นหมีลงพุงก็แล้วกัน…เพราะถ้าลงพุงเมื่อไหร่ไม่ยอมกอดหรอก”
ซุลก๊อตไนท์หัวเราะฮึๆในลำคอพลางมองคนที่ไม่อยากนอนกอดหมีลงพุง

“ทีฉันนอนกอดฝาชีทุกคืนไม่เห็นจะบ่น…”

‘ฝาชี’ ที่ว่าถึงกับถลึงตาใส่คนตรงหน้าก่อนจะค้อนตาพลิกตาคว่ำ
ซุลก๊อตไนท์เลยง้อด้วยการโน้มหน้าลงหอมแก้มพร้อมกับกระซิบข้างๆหูวาลาดาว่า

“เรามาแต่งงานกันอีกสักรอบเถอะวา…ฉันอยากจัดงานแต่งของเราอีกสักหน…
เรียกสื่อมวลชนกันมาให้เพียบ ญาติสนิทมิตรสหายเราจะเลี้ยงให้เขาอิ่มหนำสำราญ
หลังเดือนแห่งการถือศีลอดดีมั้ย…”

วาลาดาตาโต มองเขาอย่างไม่คาดคิด

“แต่งทั้งที่ยังป่องอย่างนี้เนี่ยนะก๊อต…” วาลาดาก้มมองท้องป่องๆของตัวเอง
มันจะสวมชุดเจ้าสาวสวยๆไปได้อย่างไรกัน…คงเป็นงานแต่งที่แปลกพิลึกแน่

“ก็ฉันอยากแต่ง…แล้วจะรีบจดทะเบียนกับเธอทันทีหลังจากนั้น…”
วาลาดามองคนอยากแต่งงานกับเธออย่างไม่ไว้ใจนัก

“มีแผนไรอีกก๊อต…” คนมีแผนยิ้มกว้างทีเดียว เป็นยิ้มที่สวย
และบาดใจคนมองเลยก็ว่าได้

“ว่าแต่อย่าลืมนะว่า…เราไปจดทะเบียนหย่ากันมาแล้ว และก๊อต
ก็ไปจดทะเบียนสมรสใหม่กับดีมแล้วด้วย…ตอนนี้ในทางกฎหมาย
ก๊อตกับดีมเป็นสามีภรรยากันนะ…

ส่วนวาน่ะเมียนอกกฎหมายไทย แต่ยังเป็นเมียตามธรรมเนียมปฏิบัติของอิสลาม
ที่โดนสามีหย่า...แล้วมาคืนดีทันเวลาก่อนคลอดเท่านั้นเอง…

ถึงจะไม่แต่งงานอีกรอบ เราก็ยังอยู่กินกันได้โดยไม่ผิดหลักศาสนานี่นา…
ทำไมต้องแต่งให้ยุ่งยากอีก”

ซุลก๊อตไนท์จ้องคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากวุ่นวาย
และชอบหลบหลีกความขัดแย้งกำลังหาทางมุดรูหนีอีกแล้ว

“ก็อยากประกาศให้คนรู้นี่ว่าฉันรักใคร…และอยากใช้ชีวิตคู่กับใคร
และทำใครป่องกันแน่…” ต้นประโยคมันก็ดูน่ารื่นหูชวนให้ยิ้มได้อยู่หรอก
ถ้าเขาจะไม่จบประโยคแบบนี้น่ะนะ

“แต่งครั้งแรกเธอก็ป่องนะ…ครั้งนี้แต่งทั้งป่องๆอีกสักทีจะเป็นไรไป…”
วาลาดาอดไม่ได้เลยฟาดต้นแขนนั้นไปให้หายแค้น

“แต่ในรูปแต่งงานครั้งนั้น…วาไม่ได้ป่องขนาดนี้ไม่ใช่หรือ…”
ก็เธอเคยเห็นรูปแต่งงานระหว่างเธอกับเขาที่มีไม่กี่ใบอยู่ในซอกหลืบของลิ้นชักนี่นา…

“ยิงป่องสิยิ่งดี…คนเขาจะได้รู้กันทั่วว่าเธอมีลูกกับฉันแล้วสองคน…
ฉันก็จะบอกกับทุกคนว่า ฉันดีใจที่เธอท้องอีกแล้ว เลยแต่งงานให้เธออีกรอบ
เป็นของขวัญ…ว่าฉันยินดีสุดๆที่มีลูกทีก็จัดงานแต่งงานที…เก๋ออก”

เก๋ของเขา แต่เธออายนี่

“วาอาย…”

“ไม่ต้องอายหรอกน่า…คนเขารู้กันทั่วว่าฉันแต่งงานกับเธอรอบแรกเพราะทำเธอป่อง…
รอบนี้แต่งอีกทีเป็นการแก้ลำดีมั้ย เขาว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง…”
ดูเขาพูดเข้าสิ

“คนเขาจะได้รู้กันถ้วนทั่วว่าฉันรักเธอแค่ไหนไง…ไม่ได้รักหลอกๆ
คราวนี้จะได้หายข้องใจกันสักทีว่าเธอกับดีม ใครคือหนึ่งในใจฉัน…”

“แหม…พูดเหมือนตัวเองโดนผู้หญิงรุมกันแย่งชิง จนต้องมีการ
ตัดสินว่าหญิงใดคือผู้ชนะเลยนะ…” ชายหนุ่มหัวเราะฮึๆ

“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว…เพราะเธอคือ…เดอะวินเนอร์…”
ว่าพลางชูกำปั้นให้คนชนะ วาลาดาได้แต่ส่ายหน้า

“ทำเป็นเล่นน่ะก๊อต…”

“ฉันเอาจริง…เธอก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้ฉันไม่ทำเล่นๆหรอก…จะจัดให้ยิ่งใหญ่
อลังการณ์งานสร้างเลยทีเดียว…เพราะแม่ฉันยอมเธอแล้วนะ
บอกว่าจะขอเป็นแม่งานจัดการให้ทุกอย่าง…น้องฉันก็ขอร่วมด้วย”
วาลาดาเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ก๊อตพูดจริงรึเนี่ย…” ซุลก๊อตไนท์กุมมือวาลาดาเอาไว้มั่น
ส่งสายตาบอกเธอว่า เขาจริงจังแค่ไหน

“ไม่เคยจะจริงจังอะไรเท่านี้มาก่อนในชีวิตเลยละ…เธอคือศรีสะใภ้
แห่งวรรัศมิ์สกุลแบบเต็มขั้นแล้ว…รู้ตัวรึเปล่า…”

วาลาดากะพริบตาปริบๆอย่างงงไม่หาย ซุลก๊อตไนท์โน้มใบหน้าจุมพิต
ตรงหน้าผากของเธอหนักๆแล้วบอกว่า

“เราจะคิดใหม่ทำใหม่ เริ่มต้นกันใหม่ด้วยกันนะวา…”

“แล้วดีมเขาจะยอมหย่าให้ก๊อตหรือ…” วาลาดาอดสงสัยไม่ได้ในเรื่องนี้
ว่่าถ้านาดีมรู้ว่าเขายังไม่ตาย แถมยังจัดงานแต่งงานกับเธออีก
เหตุการณ์จะอลหม่านขนาดไหน…

“เขาต้องรีบเซ็นให้ฉันทันทีที่เห็นหน้าฉันเลยล่ะวา…”

“แล้วถ้าดีมเขามีลูกไม้แบบว่าคาดไม่ถึงอะไรทำนองนี้ล่ะ…ก๊อตมีแผนสำรองไว้รึยัง…
วาไม่อยากคลอดลูกแบบฉุกเฉินในวันแต่งงานหรอกนะก๊อต…”

เพราะขนาดตุ๊กตาหมีของเธอยังโดนฟันด้วยมีดเสียยับเยินมาขนาดนี้
แล้วถ้าเป็นเธอตัวเป็นๆจะโดนขนาดไหน…

ไม่อยากจะจินตนาการให้ตัวเองจิตตกไปก่อนล่วงหน้าเลย

“แค่ได้เห็นสภาพน้องวาว่า…ก็เริ่มกลัวเพื่อนรักของตัวเองขึ้นมาแล้วล่ะสิ…”
เขาว่ายิ้มๆ

“ก็มันน่ากังวลนะก๊อต กลัวตายก็ส่วนนึง กลัวลูกมีอันตรายด้วยก็ส่วนหนึ่ง…”

“กลัวสามีจะเป็นอะไรด้วยก็ส่วนหนึ่งใช่มั้ย…” ซุลก๊อตไนท์ต่อให้เสียเลย
ทำเอาคนพูดไม่ทันจบถึงกับส่งค้อนให้ขวับๆ

“เธออย่าเพิ่งวิตกจริตไปก่อนเลย…กว่าจะถึงวันนั้น…มันยังมีอะไร
ที่เธอไม่คาดคิดอีกเยอะ…” วาลาดามองแววตาของจอมวางแผนนิ่ง

“วากลัวว่าพี่นุกำลังจะตกเป็นเป้าหมายของนาดีมน่ะสิ…ถ้าพวกเขา
ทำกับก๊อตและครอบครัวได้อย่างเลือดเย็นทั้งๆที่ทุกคนก็รักเขา
ไว้วางใจเขาเพียงเพราะต้องการกรุสมบัตินั่นจริงๆ…ไม่แคล้ว
ตอนนี้พี่นุก็คงจะกำลังโดนเพ่งเล็งอยู่แน่ๆ…” วาลาดาสันนิษฐาน
ตามข้อมูลที่รับรู้มาจากเขาตอนวันเกิดเหตุเพลิงไหม้

“นั่นแหล่ะที่ฉันต้องการ!” ซุลก๊อตไนท์พูดเสียงดังฟังชัด
แววตาเป็นประกายฉายแสงบางอย่าง

“บ้าน่ะก๊อต…ก๊อตทำกับพี่นุอย่างนี้ไม่ได้นะ…วาไม่ยอม…”
เธอจะไม่ยอมให้เขาเอาพี่นุมาเกี่ยวกับอะไรแบบนี้เด็ดขาด

เขาทำเกินไปแล้ว!

“พี่นุไม่ได้จะธรรมดาๆหรอกนะ…ไม่งั้นฉันไม่วางทุกอย่างไว้ในมือพี่เขาหรอก…
ฉันรู้ว่าพี่นุทำอะไรได้แค่ไหน…และที่ฉันให้พี่นุช่วยนั้นมันไม่มีอะไรเหนือบ่า
กว่าแรงพี่เขาหรอก…และเธอไม่ควรดูถูกคุณลุงกับคุณป้าของเธอนะวา…”

ซุลก๊อตไนท์ยิ้มในขณะที่ดวงตามีประกายบางอย่างที่วาลาดาอ่านไม่ออก

ให้ตายสิ…เธอไม่อยากให้เขาทำอะไรแบบนี้เลย…มันเสี่ยงเกินไป

“แล้วเธอจะได้เห็นว่า…เวลาวัวพันหลักมันอยู่ในสภาพแบบไหน…”
ก่อนจะเว้นช่วงแล้วหันมายิ้มให้วาลาดาเมื่อกระซิบบอกเธอว่า

“พี่นุเขามีบอดีการ์ดมือดีคอยช่วยแล้ว…เธออย่าห่วงเลย…
หน้าที่เธอคือ…เป็นเจ้าสาวแสนสวยให้ฉันเท่านั้น…”

สภาพที่เหมือนฝาชีแบบนี้มันจะไปสวยได้ยังไง…
และคำตอบราวกับได้ยินคำถามในใจของเธอก็คือ

“ตาน่าเขาอาสาจัดการชุดเจ้าสาวให้เธอแล้วนะ…ส่วนฉันมีหน้าที่
แค่วัดขนาดรอบเอวของเธอไปอัพเดตให้เขาเท่านั้น…
เพราะที่เหลือจากนี้…เราไม่ต้องเหนื่อย มีคนยอมเหนื่อยเพื่อเธอกับฉันแล้ว…”

วาลาดายอมรับหมดใจแล้วว่า ซุลก๊อตไนท์รู้จักใช้คนจริงๆ…
ก่อนจะตกใจตาค้างเมื่อเขาบอกเธอราวกับจะเปลี่ยนเรื่องว่า

“ไม่ใช่ว่านาดีมเขาเข้ากับเด็กไม่ได้หรอกวา…แต่เพราะเขาไม่ได้รักเด็ก…
โดยเฉพาะกับตาหนู…” ว่าพลางวางมือลงบนหน้้าท้องของเธอ
เพื่อเป็นการทักทายลูกในท้องของเธอที่เขามักทำเป็นประจำทุกวัน
วันละหลายๆครั้ง…

“เขาใช้ยาที่มีผลทำให้ความจำลบเลือนกับเธอ…ยาที่จิตแพทย์จะจ่าย
ให้กับคนไข้ที่มีอาการทางจิต…แต่เขาเฝ้าระวัง…เฝ้าดูแลเธออยู่อย่างใกล้ชิดมาตลอด
โดยที่ฉันไม่เคยเอะใจเพราะปักใจเชื่อว่าเขารักเธอและยังปรารถนาดีต่อเธอ
และลูกของเรา…ฉันเลยวางใจให้เขาอยู่ดูแลเธอในช่วงเดือนถือศีลอด
ที่ดีมเขาจะหยุดงานตลอดทั้งเดือน…เป็นการหยุดประจำปี…เพื่อมาดูแลเธอและลูก…”

ซุลก๊อตไนท์เปลี่ยนมาโอบบ่าวาลาดาอย่างออดอ้อน

“และถ้าฉันรู้ว่าเขาใช้ยาจำพวกนี้กับเธอ…ฉันจะไม่บังคับให้เธอให้นมลูกเด็ดขาด…”

วาลาดาตกใจก่อนจะเลิกคิ้วสูง แววตาเต็มไปด้วยคำถาม

“เพราะยาดังกล่าวจะส่งผลต่อเด็กในท้องและต่อลูกที่กินนมแม่…
ตาหนูจึงโยเยและมักมีปัญหาตลอดตั้งแต่เกิดจนเพิ่งจะมาฟื้นตัว
เมื่อตอนหลังๆที่เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานี่แหล่ะ…” วาลาดายังงงไม่หาย
หากก็ไม่วายซักต่อไปว่า

“ยาที่ว่ามันมีผลข้้างเคียงยังไงหรือก๊อต…” ซุลก๊อตไนท์เลยอธิบายว่า

“ยาพวกนี้มันจะส่งผ่านทางสารคัดหลั่ง น้ำนมมันก็คือหนึ่งในนั้น…
ระหว่างที่ท้องเธอโดนไปหนึ่งเดือนเต็มๆหรืออาจจะก่อนหน้านั้นอีกก็เป็นได้
พอหลังจากคลอดเธอก็โดนไปอีกรอบ…หนึ่งเดือนเต็มๆ…

แต่จะว่าไปแล้วยาพวกนี้ไม่ได้เป็นยาอันตราย แค่ทำให้คนที่กินลดความกังวล
ทำให้หลับ ทำให้เกิดการลืมแบบชั่วคราว ซึ่งทำให้การรับรู้ ความจำแย่ลง

ถ้ากินติดต่อเกิน 2-3 สัปดาห์มันจะทำให้เกิดการพึ่งยา
ซึ่งถ้าหยุดยาทันทีทันใดก็จะเกิดอาการขาดยา เช่น ทำให้กระสับกระส่าย กังวล
สับสน ซึ่งเขาเรียกว่า อาการถอนยา…

และทั้งหมดคืออาการของเธอในช่วงที่มารโดนล่ามในเดือนอันประเสริฐ…
และอาจจะมีบางช่วงอีกก็ได้ที่เธอทำตัวประหลาดๆด้วย...
จนคนหลายคนต่างมองว่าเธอเป็นโรคประสาทมีอาการทางจิต
ที่เหมือนจะขาดผู้ชายไม่ได้ แถมยังมีอาการคลุ้มคลั่งในบางครั้ง
จนนาดีมต้องพาเธอไปหาหมอประจำ...และฉันไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่งหรือพาเธอ
ไปพบแพทย์สักครั้ง...ไม่เคยคิดจะสนใจหรือใส่ใจ...
เพราะฉันรังเกียจและขยะแขยงเธอจริงๆนะตอนนั้นน่ะ...”

ซุลก๊อตไนท์หยุดไปนิดก่อนจะนึกถึงสภาพลูกน้อยตอนแรกเกิด

“ตาหนูตอนแรกเกิดมีสภาพไม่ต่างจากอาการถอนยาที่ว่าเลยนะ…
แถมยังร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน…ไม่หลับไม่นอน ดูกระสับกระส่าย”

“ก๊อตรู้ได้ไง…แล้วทำไมตอนนั้นก๊อตไม่ช่วยวากับลูก…”

ซุลก๊อตไนท์เองก็รู้สึกผิดไม่น้อยกับเรื่องนี้ เพียงเพราะเขาไม่คิดว่า
นาดีมจะทำอะไรแบบนี้ เพียงเพราะความไว้วางใจ ไม่เคยระแวง
ไม่เคยระแคะระคาย โทษทุกอย่างว่าเป็นเพราะความผิดของวาลาดา
ที่ทำตัวไม่ดีเองมาโดยตลอด ทำให้มองข้ามเรื่องพวกนี้ไป…

กว่าจะเริ่มสืบหา ก็หลังจากที่แน่ใจแล้วว่า นาดีมคือต้นเหตุที่ทำให้
วาลาดาอยู่ในสภาพแปลกๆจากคนเดิมที่เขาเคยรู้จักตอนสมัย
เรียนหนังสือด้วยกัน…

ยอมรับว่าเขาตอนนั้นหูเบา เชื่อที่นาดีมบอก นาดีมพูดแทบทุกอย่าง…

และเพราะความเชื่อใจนาดีม เขาถึงได้ทำร้ายวาลาดาและลูกในไส้ของตัวเอง…
ยอมให้เธอเข้ามาบงการเรื่องราวภายในครอบครัวเขา
ยอมให้นาดีมพาวาลาดาไปหาหมอแล้วไม่เคยจะใส่ใจดูรายละเอียดที่หมอบอกไว้
เกี่ยวกับอาการต่างๆของวาลาดา

เชื่อฟังแต่สิ่งที่นาดีมนำมากรอกหูโดยไม่คิดจะดูไปที่ตัวของหลักฐาน
ทางการแพทย์เลย…ไม่เคยไปพบแพทย์ผู้ทำการรักษาอาการของเธอเลยสักครั้งเดียว...

ถ้าเขาไปพบแค่เพียงสักครั้ง เขาคงได้คำตอบที่ควรจะได้มาตั้งนานแล้ว

“ฉันหูเบาที่เชื่อคำนาดีม…เชื่อภาพลวงตาพวกนั้น…”

“แล้วทำไมวาจำอะไรไม่ได้ล่ะ…จำได้แค่ตอนวันแต่งงานก๊อตเท่านั้น
เพราะถ้าเป็นแค่ยาพวกนั้น วาก็ต้องนึกอะไรออกบ้างสิ…
แต่นี่ไม่เห็นวาจะนึกอะไรขึึ้นมาได้…”

ซุลก๊อตไนท์ส่ายหน้ากับกรณีนี้ที่เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า
เหตุใดวาลาดาถึงจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่ยานั่นก็แค่ทำให้ลืมแบบชั่วคราวเท่านั้นเอง…

“มันอาจจะมีอะไรที่มากกว่านี้น่ะ…และคนที่จะบอกได้ก็คงจะเป็นนาดีม
กับแม่เขานั่นแหล่ะ…ฉันเองกว่าจะสืบเรื่องนี้จนรู้ก็ใช้เวลาไม่น้อยเหมือนกัน…
โชคดีที่เรามีหูมีตาในบ้าน เลยพอจะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆจนเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น…”

ถ้าไม่มีเด็กบัวหรืออะสุเซน่าคอยเฝ้าสอดส่องทุกอย่างภายในบ้านเขา
เขาก็คงจะงมเข็มในมหาสมุทรอยู่อีกเป็นนานแน่กว่าจะเจอ

“ใครหรือก๊อต…” วาลาดาไม่วายสงสัย

“บัวไง…”

“บัวน่ะหรือ…” หญิงสาวตาโตอย่างคาดไม่ถึง

“ใช่…เขาเป็นอดีตตำรวจสากล…แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตำรวจอยู่นะ…
นี่แหล่ะ…คนที่จะคอยเป็นแขนขาให้พี่นุ…”

“บัวเนี่ยนะก๊อต…” วาลาดาถามด้วยสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

“ใช่…บัวนั่นแหล่ะ…สายลับของคุณนายอัยรีนที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในบ้านของฉันตั้งแต่ต้น…”

เป็นอีกครั้งที่วาลาดาต้องยกมือลูบหน้าตัวเอง…

“เนียนมากเลยก๊อต…เขาทำได้เนียนมาก…” ซุลก๊อตไนท์เห็นด้วย
หากก็ไม่วายบอกว่า

“เรื่องอื่นเนียนหมด ยกเว้นเรื่องงานในหน้าที่กวาดบ้าน ถูบ้าน
จนฉันจะไล่ออกเพราะทำความสะอาดไม่ได้เรื่องตั้งหลายครั้งแล้ว…

แต่คุณนายอัยรีนบอกว่า เด็กรับใช้หายาก ให้บัวทำๆไปก่อน
หาคนใหม่ได้เมื่อไหร่ ค่อยไล่ออก…” ซุลก๊อตไนท์นึกถึงความแสบของมารดา
แล้วหัวเราะขื่นๆในลำคอก่อนจะเอ่ยออกมาว่า

“แต่ก็ไม่เคยหาคนใหม่มาให้สักที…”

“ก๊อต…วาเพลียสมองจัง…ขอไปนอนก่อนนะ…ไม่ไหวจะเรียบเรียงลำดับ
เรื่องราวพวกนี้แล้วจริงๆ…มึนมากอ่ะ...”

วาลาดายกมือแตะหน้าผากด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยังจับต้นจนปลายอะไรไม่ถูก…
แล้วสมองที่ช่วงเดือนนี้ไม่ค่อยจะไหลสักเท่าไหร่มันก็เริ่มอืด…



ขนาดออกแบบแปลนบ้านที่ซับซ้อนยังไม่ชวนให้มึนงงได้ขนาดนี้เลย...

“ได้สิ…ชวนเข้านอนแบบนี้…ฉันชอบ…” แม้จะยังมึนๆแต่เธอก็แปลนัยยะ
ในถ้อยความนี้ได้อยู่ เลยฟาดเขาเข้าให้สองที

“ห้ามเกเรนะ…ห้ามซุกซนด้วย…”

“งั้นกอดกับหอมแก้มได้ใช่มั้ย…” เมื่อไม่ได้รับคำปฏิเสธ
ซุลก๊อตไนท์เลยโอบเอววาลาดาเดินเข้าห้องไป

…แค่ได้กอดกับหอมแก้มมันก็ดีกว่าต้องนอนอ้างว้างคนเดียวในห้องเป็นไหนๆ…

ทำเอาลุงหมานที่มองทั้งสองมาจากกระท่อมถึงกับยิ้มกว้าง…
แม้ไม่ได้ยินถ้อยคำที่ทั้งสองพูดคุยกัน แต่ภาพที่ได้เห็นมันก็พอยืนยันได้ระดับหนึ่งแล้วว่า
แผนต่อไปกำลังจะเดินหน้าอย่างไม่มีสะดุด…

อดยอมรับไม่ได้ว่าซุลก๊อตไนท์นั้นวางแผนอะไรได้อย่างรัดกุม
และอ้อนเมียให้คล้อยตามแผนการของตัวเองได้เป็นเลิศ…






................โปรดติดตามตอนต่อไป.............


จากการไล่งานคอมเม้นท์นักอ่านหลายท่านทำให้พบว่า
ตอนที่แล้ว ต้องมีการสื่อสารผิดพลาดแน่ๆเลยอ่ะ...
เพราะคำว่า "เงาดำทะมึน" คำๆนี้แน่ๆเลยอ่ะ ท่ีทำให้นักอ่านเต่าตีความไปว่า
เป็น "มารดำๆ" ที่เป็น "ญิน" จริงๆไม่ใช่นะคะ...

เป็นคำเปรียบเปรยเฉยๆว่า ความมืดดำหรือความเลวร้ายกำลังจะพาดผ่าน
มาสู่ชีวิตของหนูบัว...มารร้ายในคราบญินที่เป็นลูกสมุนของพญามาร
ยังไม่มาเน้อ...

น่าจะมาพร้อมๆกับก๊อตค่ะ...เพราะตาก๊อตกะจะออกมาล่ามารโดยแท้...อิอิ
โยเลยปรับสำนวนเสียใหม่ เพื่อไม่ให้นักอ่านที่มาอ่านภายหลังเกิดความเข้าใจผิดอีก
...อิอิอิ...

และเต่าจะไม่รู้แน่ถ้าไม่ได้อ่านคอมเม้นท์ ดังนั้น ขอบคุณมากๆสำหรับ
คอมเม้นท์ของนักอ่านค่ะ

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ขอบคุณทุกๆไลค์ที่กดให้
ขอบคุณที่เข้ามาพูดคุยกัน ทุกอย่างล้วนเป็นกำลังใจให้คนเขียนหมดค่ะ


ปล.พี่นุงานเข้า...ฮ่าาาาาาา

ตอนหน้ามาลุ้นกับภารกิจลับ ภารกิจล้วง 2 กันต่อนะคะ




.......ตอบเม้นท์จ่ะ.........

1.คุณตุ๊งแช่...รอบนี้มาให้คนแรกเลยนะเนี่ย...^o^
ดีใจที่มีคนเป็นเพื่อนอยู่โยงเฝ้าบ้านแล้ว...ฮ่าาาา
วนบรรจบคบรอบ ย่างเนื้อโกเบเลยแล้วกันนะคะ
เต่าพร้อม น้ำจิ้มพร้อม เครื่องเคียงพร้อม...เหอๆๆ

2.คุณแว่นใส...มารร้ายในคราบมนุษย์ค่ะ...
น่ากลัวกว่ามารดำๆที่โดนล่ามซะอีก...อิอิ

3.คุณyapapaya...มารที่ว่านีี่คือพวกมนุษย์หรือเปล่าคะ
มารมนุษย์ใช่มั้ย(เพราะอีกมารนั้นยังโดนล่ามอยู่ค่ะ) อิอิ

4.คุณคนเหงา...ขอบคุณค่ะที่ติดตาม...และส่งเสียงมาทักทายเต่าโย ^o^

5.คุณPampam...ขอบคุณค่ะที่ส่งเสียงมายืนยันว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกัน
ในช่วงวันหยุดยาวนี้...ส่วนพ่อนาดีมจะใช่พวกพ่อค้ามนุษย์ที่บัวไล่ล่าอยู่รึเปล่า
ต้องมาดูกันค่ะ...ส่วนหนูบัว ชีวิตเธอเสี่ยงมาเยอะแล้วค่ะ เป็นตำรวจ
ที่ลุยขนาดนั้น ไม่มีภัยคงยากค่ะ...ต้องมาลุ้นกันต่อน้าาาาา

6.คุุณkonhin...5555...เค้าป่าวหลอกน้าาาาา
พี่นุแกไปจีบบัวจริงๆ ไปจีบให้มาทำงานให้ไง...ฮ่าๆๆๆ
ส่วนลึกๆแล้ว เฮียแกรู้สึกยังไง ต้องรอดูต่อไปค่ะ...
มันก็ต้องมีฟงมีฟอร์มบ้างหนา...อิอิ

ฝ่ายพญามารยังไม่ได้ส่งมารในคราบญินมาเลยหนา...
ตอนได้อ่านโยก็ว่าโยสื่อสารพลาดหรือเปล่า เลยขึ้นไปอ่านทวนดู
น่าจะต้องเป็นจุดตอนปิดตอนแน่ๆชิมิที่บอกว่าเงาดำทะมึนพาดผ่านอะไรตรงนั้น...
มันแค่คำเปรียบเปรยเองจ่ะ ว่าเรื่องเลวร้ายใกล้จะเข้ามา...
มารตัวจริงในคราบญินยังโดนล่ามอยู่ค่ะ...ยังหลุดมาไม่ได้...
ที่ก่อกวนอยู่นั้น...มารมนุษย์ล้วนๆ พวกชายชุดดำนั่นก็มนุษย์เราๆนี่เอง...
มะช่ายมารในคราบญินนี่เลยจ่ะ...อิอิอิ
โยก็เลยฉวยโอกาสนี้ปรับสำนวนเสียใหม่...ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยทำให้โย
เห็นจุดบอดค่ะ...^o^



7.คุณcoonX3...พี่นุคิดไร บัวคิดไรไม่รู้ แต่งานนี้ก๊อตเขาวางกับดักเอาไว้
ให้พี่นุแล้ว...เต็มใจไม่เต็มใจรับรองว่าพี่นุโดนจัดแน่ๆ...กว่าจะเอาคืนก๊อตได้
ก็อีกสักพักใหญ่ๆ ถึงตอนนั้นก็คงเอาคืนไม่ทันแระ...ฮ่าาาาาา

ส่วนฝ่ายมารมีเรื่องผิดกฎหมายแน่ๆค่ะงานนี้...

8.คุณน้องHabibi...จะได้เป็นคู่ตุนาหงันกันหรือไม่ เดี๋ยวได้รู้กันจ่ะ
เพราะงานนี้พี่นุก็พี่นุเถอะ...ฮ่าๆๆๆ...ส่วนทำไมนั่งเงียบมาตลอดทาง
ตอนก่อนหน้าโน้น ยังไมเคลียร์...
ปล.ช่วงเวลานี้ฝั่งตารินทร์ยังไปไม่ถึงไหนค่ะ ยังไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น
เต่าเลยรอเวลาไว้ก่อน ค่อยเปิดตัวเกมไล่ล่าระหว่างหนูกับแมว...อิอิ


9.คุณnapt...น้าเล็กน่าสงสารหรือไม่น่าสงสารมีเฉลยค่ะ...
เพราะแต่ละคนก็มีเหตุให้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ว่าจะทำอะไร
มันก็ต้องรับผลไปตามสิ่งที่ทำๆกันไว้...หนักเบาต้องมาดูกันค่ะ..อิอิ
ปล.เรื่องเที่ยวยังไม่หมดค่ะ ได้เที่ยวอีกชัวร์ๆ(ในเรื่องนี้เลย)
แต่จะเป็นตอนไหนแล้วมีไรน่าสนใจ ต้องมาดูกันต่อค่ะ...จุ๊บๆ



.....ขอให้สุขภาพพลานามัยแข็งแรงปลอดภัยกันทุกคนนะคะ.....


"เต่าโย"





yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 เม.ย. 2558, 18:25:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 เม.ย. 2558, 18:25:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 3222





<< บทที่ 42 ภารกิจลับ ภารกิจล้วง 1   บทที่ 44 นางฟ้าสลาตัน >>
coonX3 12 เม.ย. 2558, 19:12:13 น.
วาจะได้เปิดมุมมองและเลิกโทษตัวเองซักที แผนการนี้ของก๊อตหวังว่าจะราบรื่นน้า วางแผนจะแต่งงานกันแล้วจะหย่าก่อนมั้ยหรือหย่าตอนไหนเพื่อไม่ให้ดีมกลับคำได้อะ ต้องใช้แผนเหนือเมฆคลุมพื้นที่ทั้งหมด


RdoubleC 12 เม.ย. 2558, 19:35:38 น.
สงสัยจังว่าก๊อตจะจัดงายที่ไหนน้าาาา
มีการเชิญนกข่าวด้วยยยย


ร้อยวจี 12 เม.ย. 2558, 20:07:01 น.
นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว พรุ่งนี้มาอัพอีกนะคะ กำลังสนุกเลย อยากรู้ว่าก๊อตจะทำยังไงต่อ


yapapaya 12 เม.ย. 2558, 20:49:05 น.
จะจัดงานแต่งที่่ไหน ร่อนการด์บอกน้องดีมด่วน


แว่นใส 12 เม.ย. 2558, 21:13:07 น.
มาร พ่อของนาดีมหรือเปล่า คนเป็น ๆ น่ะ


คนเหงา 12 เม.ย. 2558, 21:17:39 น.
เรื่องดีๆๆ กำลังจะเกิดขึ้นแล้วใช่เปล่า


konhin 12 เม.ย. 2558, 21:46:09 น.
ยังคิดตามไม่ทัน ว่าทำไมนาดีมจะหย่าให้ นอกจากเอาเรื่องที่นาดีมพยายามฆ่ามาขู่ เพราะถ้าก๊อตกลับไป สมบัติก็กลับไปที่ก๊อตอยู่นิิ
ส่วนก๊อตตอนนี้ เข้าข่าย นั่งบนภู(ข้าวโพด)ดูเสือ(มาร)กัดกัน
พี่นุก็คงรู้ตัวดีว่าโดนใช้เป็นหมาก ก็ยังทำให้เพื่อน้อง(??) แต่เนื่องจากเค้าชอบพี่นุเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม อยากให้พี่นุได้เอาคืนแบบก๊อตทำอะไรไม่ได้บ้างอ่ะ พี่นุโดนมัดมือชกแล้ว ต้องให้นายก๊อตโดนบ้าง
เฉลยแล้วว่าวาโดนอะไร มิน่าหล่ะ วาโดนยาหยอดตาแล้ว ตาสว่างเลย



Pampam 12 เม.ย. 2558, 22:01:08 น.
นาดีมร้ายจริงๆ งานแต่งครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนอีกล่ะสิ


napt 12 เม.ย. 2558, 23:02:01 น.
มีแผนอีกแล้วววว เพลียสมองขอไปนอนด้วยคน เอ๊ยไม่ใช่ 555
พี่นุงานจะเข้าซะละ วัวจะพันหลักยังไง รอติดตามค่ะ


คิมหันตุ์ 13 เม.ย. 2558, 01:02:36 น.
แผนการรัดกุมจริงๆนะคะคุณก๊อต


พัชรี 13 เม.ย. 2558, 08:05:15 น.
Happy Songkran day ja
I hope you have a healthy and happy life, so you will keep writing your good story forever
It has been such a long time since I read your story.
You still write an awesome story as aways.
Keep up your good work ka....


ตุ๊งแช่ 13 เม.ย. 2558, 12:36:37 น.
แผนการเธอช่างล้ำลึกจริงๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account