อลวน ถนน หัวใจ (จบแล้ว)

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 12.อลวน ถนน หัวใจ

12.

“ว่าไงนะแม่ ตำรวจบอกว่าจะให้ประกันตัวเหรอ ทำไมไม่จับมันติดคุกดัดสันดานกันนะ เด็กเปรตพวกนี้ แม่จะว่าหนูใจดำหนูก็ยอมล่ะ จะให้ช่วยหาเงินไปประกันตัวเหรอ ตอนนี้อยู่ในป่า มีสัญญาณซิ เป็นบางที่ เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้วเป็นหย่อม ๆ เงินพอมี แต่หนูออกไปโอนให้แม่ตอนนี้ไม่ได้ ไม่รู้ ให้มันนอนในคุกรอไปก่อน” น้ำเสียงและสีหน้าของอินทรานั้นบอกให้รู้ว่ากำลังเครียด

โชคชัยที่มีหนังสือพิมพ์อยู่ในมือซึ่งข่าวในนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กซิ่งมอเตอร์ไซค์บนถนนแล้วถูกตำรวจจับ ซึ่งเป็นปัจจุบันเรียกว่า ‘เด็กแว้นต์’ เขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกก่อกวนหรือเรื่องราวของพวกเด็กนิสัยแย่ ๆ จะมาอยู่ใกล้ชิดตัวเขาได้มากถึงเพียงนี้ ในวัยเรียนการเกเรของเขาก็เพียงโดดเรียนไปเล่นเกมส์บ้างก็เท่านั้น หรือช่วงที่เรียนก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนให้เต็มที่เหมือนคนที่เขามีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน

“มองอะไร” อินทราแว๊ดกลับมาให้

“อารมณ์เสียเรื่องอะไร”

“ปวดหัว น้องเวร ใฝ่ต่ำ”

“เขายังเด็กอยู่”

“สิบเจ็ดสิบแปดแล้วเด็กที่ไหน ถ้ามันมีเมียก็เป็นพ่อคนได้แล้ว นึกแล้วเครียด”

“แล้วแม่ของคุณ จะเอาเงินที่ไหนไปประกันน้อง”

“แค่สองพันเดี๋ยวก็คงหาได้หรอก กลับไปฉันถึงจะเบิกเงินไปใช้ให้” พูดจบอินทราก็ลุกออกไปเดินให้อารมณ์ขุ่นนั้นหลุดไปจากจิตใจ โชคชัยวางหนังสือพิมพ์ไว้ที่บนโต๊ะ แล้วเดินตามหญิงสาวออกไปข้างนอก

“อยากกลับบ้านไหม”

“ไม่อยาก ไม่เคยอยากกลับเลย อยากไปให้พ้น เบื่อทุกอย่างที่นั่น” ใบหน้าของคนพูดแดงขึ้นมาด้วยความคับแค้นใจ

“คุณไม่รู้หรอกว่าการเกิดมาเป็นลูกคนจนนั้นมันลำบากอย่างไร มันเก็บความอยากไว้มากน้อยเพียงไหน รู้ไหมฉันเกือบจะขายตัวหาเงินมากี่ครั้งแล้ว รู้ไหม” เมื่อได้ระบายแล้วหญิงสาวในมาดทอมบอยก็ระบายโดยไม่ยั้ง ไม่สนว่าใครเป็นคนฟัง

“พวกไอ้เฒ่าหัวงูมันคิดจะซื้อฉันมากี่ครั้ง จริง ๆ ฉันไม่ได้อยากแต่งตัวอย่างนี้ ทำผมทรงนี้ ฉันอยากสวย ฉันอยากเป็นผู้หญิงปกติเหมือนคนอื่น แต่ฉันทำไม่ได้ มันเป็นภัย เพราะฉันมันจน ฉันมันจน ความจนทำให้บางทีฉันกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแต่คำว่าเงิน เพื่อนฝูงฉันไม่มี เพราะฉันต้องทำงาน ฉันเหนื่อย ฉันเบื่อ ๆ ๆ ๆ อยากตาย อยากไปให้พ้น ๆ”

พูดไปน้ำตาหญิงสาวก็ไหลทะลักออกมา รีเซฟชั่นที่อยู่ในเคาน์เตอร์ถึงกับเดินออกมาสังเกต โชคชัยก้มหัวให้ ทำนองที่ว่า ไม่มีอะไร แล้วชายหนุ่มก็เข้าไปประชิดตัวหญิงสาว

“เบา ๆ สงบสติอารมณ์เถอะนะ ตอนนี้คุณมีผมเป็นเพื่อนแล้วไง มีปัญหาอะไรปรึกษาผมได้ ผมยินดีช่วย เงียบก่อน”

น้ำเสียงของเขานั้นอ่อนโยน จนอินทราอยากเดินเข้าไปกอดให้หายหนาวในหัวใจ แต่เธอก็ทำได้เพียงมองเขาแล้วก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น เมื่อร้องไห้จนหนำใจแล้ว อินทราก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม

“ฉันนี่มันบ้าแน่ ๆ เลย ฉันมาระบายกับคุณ แล้วคุณมาเกี่ยวอะไรกับชีวิตฉันด้วย”

“ตอนโน้นอาจจะไม่เกี่ยว แต่ตอนนี้ผมขอเกี่ยวด้วยแล้วกัน นะมีเรื่องอะไรเดือดร้อน หาทางออกไม่ได้ก็บอกผม”

ยังไม่ทันที่โชคชัยจะพูดความในใจจบ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

“คุณหนูอยู่ไหน”

เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นใครโชคชัยจึงเลี่ยงเดินไปอีกมุมหนึ่งของสวน

“มีอะไรหรือครับ”

“คุณพ่อโทรมาหาด่าผมยกใหญ่แล้ว”

“แล้วลุงบอกท่านไปว่าอย่างไร”

“บอกว่าออกไปไหนกับเพื่อนไม่รู้”

“แล้วคุณพ่อรู้ได้อย่างไรว่าผมอยู่กับลุง”

“ท่านสุ่มเดาครับ ไอ้ผมเองก็โกหกไม่เก่ง ก็เลยรับสารภาพไป คุณหนูดูแลตัวเองให้ดีนะครับ”

“ครับ ไม่ต้องห่วง แล้วตอนนี้ลุงอยู่ที่ไหน อยู่บนโรงพัก ไปทำอะไรที่นั่น”

ปลายสายอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ

“พาผู้โดยสารมาส่งครับ”

“ลุง เดี๋ยวผมรบกวนอะไรหน่อยนะ เดี๋ยวผมจะโทรกลับไปหาอีกทีแล้วกัน” เขาตัดสัญญาณก่อนจะเดินกลับมาหาหญิงสาวที่นั่งมองใบไม้ใบหญ้าอย่างเหม่อลอย

“ขอเบอร์โทรศัพท์แม่ของคุณหน่อยซิ”

“จะเอาไปทำอะไร” อินทราเงยหน้ามองคนที่สูงราวร้อยแปดสิบเซนติเมตร

“จะให้คนเอาเงินไปประกันน้องชายคุณไง ผมมันลูกอกตัญญู ผมก็ไม่อยากเห็นใครมีนิสัยเหมือนฉัน แต่เงินนี้ผมไม่ได้ให้ฟรีนะ ออกไปเจอตู้เอทีเอ็ม แล้วค่อยถอนออกมาใช้คืน”

อินทราจำนนด้วยเหตุผลของเขา หญิงสาวก้มหน้ามองแป้นโทรศัพท์ใช้นิ้วมือไล่ดูหมายเลขของแม่ก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ขโมยไม่อยากได้ไปให้เขา


“ชีวิตคุณเคยทำอะไรผิดพลาดบ้างไหม” เมื่อจัดการธุระให้อินทราเสร็จเรียบร้อยแล้ว โชคชัยก็ถือโอกาสนั่งข้าง ๆ แล้วชวนคุย

“เคย เยอะแยะมากมาย เคยเถียงแม่ฉอด ๆ แบบนี้ถือว่าผิดพลาดไหม” อินทราถามเขา เขาพยักหน้า

“นอกจากนั้นก็เคยลักขโมยของคนอื่นกินเหมือนกัน แต่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาสนุกแบบเด็ก ๆ แล้วคุณล่ะ เคยทำผิดพลาดไหม”

“ความผิดของผมนะหรือ ดื้อด้านไง พ่อบอกอะไรก็ไม่ค่อยฟัง เอาแต่ใจตัวเอง เอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ”

“แต่คุณก็ไม่ได้เสียคน”

“ก็ถือว่ายังเอาดีไม่ได้เลย บางทีผมคงจะสุขสบายไปก็เลยไม่รู้จะเอาอยากได้ใคร่ดีอะไร” เมื่อเขาเปิดเผยตัวตนมาบ้างอินทราจึงถือโอกาสซักถามต่อ

“มาขับแท็กซี่เพื่อหาแรงบันดาลใจใช่ไหม”

“ประมาณนั้น อยากรู้เหมือนกันว่าคนเราถ้าอยู่ในภาวะที่ต้องหาเช้ากินค่ำมันจะเป็นอย่างไร”

“ก็เห็นแล้ว แต่คุณยังไม่ซาบซึ้งจริง ๆ พอมีปัญหาคุณก็ยังใช้เงินเข้าช่วย คุณโชคชัย คนจนเขาไม่มีเงิน ปัญหาเกิด เขาก็ใช้ปัญญาเท่าที่มีอยู่ถูไถเอาชีวิตรอดกันไป จนบางที กลายเป็นคนตอแหลโดยไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน ตอนเรียนมัธยมฉันไม่มีเงินซื้อหนังสือเรียน ฉันก็ตอแหลกับเพื่อนกับครูไปว่าลืมหนังสือบ้างล่ะ ยอมรับผิดให้ครูตีบ้างล่ะ”

พูดถึงตรงนี้น้ำเสียงของหญิงสาวสั่นเครือจนโชคชัยรู้สึกสงสาร และความสงสารนั้นทำให้ชายหนุ่มใช้มือขว้างขวาโอบไปที่ศีรษะทุย ๆ ของเธอแล้วลูบปลอบให้กำลังใจ


แล้วภาพที่โชคชัยกำลังกอดอินทราในที่ไกลจากสายตาของรังสิตานั้นทำให้หญิงสาวพยายามจ้องจนตาค้าง

“คุณพัทลุกขึ้นมาดูนี่หน่อยฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม” รังสิตาหาพยานช่วยกันยืนยัน ประดิพัทธ์มองตามไปทางสายตาของรังสิตา เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่า เขาได้รู้จักกับหนุ่มสาวใจง่ายสองคนนี้ด้วย

“เขาเป็นแฟนกันเหรอ”

“ไม่รู้ซิ” คำตอบนั้นมาจากใจที่เริ่มขุ่นของเขาเหมือนกัน ยายเด็กคนนี้อย่างไร พูดว่ายังไม่มีแฟนแล้วทำไมถึงได้ยอมให้ไอ้หมอนั้นกอดแล้วใช้มือลูบศีรษะ

เขาถอนหายใจออกมา

“คุณอินทราทำงานอะไรหรือคะ”

“นักข่าวสายบันเทิงฝึกหัด ส่วนผู้ชายขับแท็กซี่อย่างที่คุณเห็น”

“หน้าตาไม่น่ามาขับแท็กซี่เลยนะคะ” รังสิตาบอกความรู้สึกตัวเองออกไป

“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” ประดิพัทธ์หมุนตัวกลับเข้าหาทะเลสาบอีกรอบ นี่กลายเป็นว่าอุบัติเหตุคราวนี้ทำให้ คนสองคนมาเจอกันแล้วรักกันอย่างนั้นหรือ คนสองคนเพิ่งได้พบกันบนรถแค่นั้นหรือ แต่ทำไมกล้าที่จะโอบกอด แล้วเขาก็นึกถึงตอนที่หญิงสาวกระโดดกอดเขาด้วยท่าทีหวาดกลัวจนสั่นงันงก แถมเมื่อคืนเธอก็ยังนอนหันหน้ามาทางเขาก่อนจะสบตาบอกความในใจ

‘เฮ้อ! ผู้หญิงคนนี้ ต้องบอกว่าผู้หญิงสมัยนี้อ่านยากเสียจริง’

“ตกลงคืนนี้ คุณค้างที่นี่สักคืนนะคะ เดี๋ยวสิตาจะให้นมแสงออกไปเปิดห้องให้คุณ พักฟรีค่ะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายถือว่าเป็นแขกของสิตา”

“พี่ชายคุณไม่อุ้มผมไปฆ่าหรอกรึ”

“ไม่หรอกค่ะ ก็ทำท่าไปอย่างนั้นเอง คนอยากดังนะคะ จะว่าไป เขาก็เกรงคุณเหมือนกัน หากคุณมีเงินให้เขาหรือเอามาหนุนตรงนี้แทนที่ได้ เขาก็เลือกคุณ”

“อย่าพูดเลยครับ เรื่องไกลตัว”

เมื่อได้ยินรังสิตาหน้างอขึ้นมาอีก

“ผมกับพวกนั้นจะกลับกรุงเทพฯ ได้เมื่อไหร่ คุณต้องสรุปให้ผมได้นะคุณรังสิตา ผมก็ต้องทำงาน พวกเขาก็ต้องทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัวเหมือนกัน โดยเฉพาะเด็กนั่น บ้านอยู่กลางสลัมนะครับ”

“คุณไม่อยากช่วย คุณก็กลับไปเลยก็ได้” รังสิตาเสียงขุ่นขึ้นมาทันที

“ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วย แต่ผมรู้สึกว่าเรื่องมันบานปลายออกไปจนผมควบคุมอะไรไม่ได้เลยก็เท่านั้น ผมคนทำงานนะครับ ผมอยากให้งานมันออก งานมันก้าวหน้าขึ้นไป หากเรายังยืนคุยแล้วหาข้อสรุปไม่ได้แบบนี้ก็เท่ากับว่าเรายังไม่ได้ทำงาน”

เมื่อฟังเหตุผลของเขา รังสิตามีสีหน้าสลดลง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเธอใช่ไหม เป็นเพราะเธอดื้อดึงกับพี่ชายตัวเองใช่ไหม เมื่อปัญหามันหาทางออกที่ดีไม่ได้ ดังนั้นเธอก็ต้องยอมจำนนอย่างที่พี่ชายพี่สะใภ้ต้องการใช่ไหม

“โอเคค่ะ ฉันจะออกไปบอกพี่ชายฉันว่าฉันยอมเขาทุกอย่าง คืนนี้ ฉันเรียนเชิญพวกคุณทั้งสามคนเลี้ยงที่สนามด้านหลังบ้านเป็นกรณีพิเศษแล้วกัน”

พูดจบแล้วหญิงสาวก็วางโทรศัพท์มือถือของเขาไว้บนโต๊ะ ประดิพัทธ์อยากจะพูดให้เธอเดินกลับมา แต่พูดไปแล้วจะแก้ไขอะไรได้


เมื่อหญิงสาวหายไปสักพัก คุณแม่บ้าน หรือนมแสงของหญิงสาวก็เดินกลับเข้ามาหาเขาพร้อมด้วยใบหน้าสดชื่นคล้ายกับว่าเรื่องทั้งหมดยุติลงแล้ว

“ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยพูดจนดำเป็นขาว”

“ผมก็ไม่ได้พูดอะไรแค่พูดตามความเป็นจริงเท่านั้น”

“งั้นเรียนเชิญไปที่รีสอร์ตก่อนค่ะ ดิฉันโทรสั่งให้เปิดห้องให้คุณแล้ว คืนนี้ คุณรังสิตาบอกว่าจะเลี้ยงต้อนรับพวกคุณทั้งสามคนที่ด้านหลังบ้านฝั่งติดทะเลสาบ อย่างไรจะโทรตามอีกทีนะคะ”

“ครับ”

เขาเดินกลับออกมาจากรั้วบ้านทรงสเปนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขาผลักเธอให้เข้าไปหาปัญหาที่เธอต้องการหนีอย่างนั้นหรือ


“คุณประดิพัทธ์เป็นอย่างไรบ้าง” อินทรารีบเดินมาหาเมื่อเห็นว่าเขามุ่งเดินไปหาที่ทั้งสองคนอยู่พอดี

“ตกลงเธอยอมแต่งงานกับคนที่พี่ชายเธอหาให้แล้ว”

สีหน้าของโชคชัยเปลี่ยนสีในทันที

“แล้วคุณไปพูดอย่างไรเธอถึงได้”

“ผมก็พูดในเรื่องที่เธอน่าจะเข้าใจตั้งนานแล้วก็เท่านั้น” เขาอยากจะเล่าแต่เขาก็จำไม่ได้ว่าไปพูดจี้ใจดำเธอ
ในประโยคไหน

อินทราถอนหายใจออกมาบ้าง

“จะได้กลับบ้านกันเสียที”

“คืนนี้เธอให้พวกเราค้างที่นี่ แล้วจะมีการจัดเลี้ยงต้อนรับ”

“เพื่ออะไรหรือคะ”

“อย่างน้อยเราก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งสามวัน แล้วจะเพิ่มอีกคืนเป็นไรไป” ประดิพัทธ์บอกความในใจ

“จริง ๆ ผมก็ไม่ได้มีอะไรที่สนุก ๆ และตื่นเต้น ๆ แบบนี้มานานแล้วนะ ยินดีที่ได้รู้จักพวกคุณ มีข่าวดีอะไรก็ส่งข่าวหาผมได้นะครับ หรือมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยเหลือก็บอกกัน”

อินทรารีบควักกระเป๋าหยิบบัตรเครดิตของเขาคืนให้พร้อมกับเงินอีกห้าพันบาท

“แล้วจ่ายค่าที่พักไปหรือยัง”

“คุณโชคชัยเขาใช้บัตรเครดิตเขาจ่ายไปแล้ว”

คนได้ยินมีสีหน้าแปลกใจ คนขับรถแท็กซี่ใช้บัตรเครดิตด้วยหรือ

“ถามจริง ๆ คุณสองคนรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า”

“เปล่า เพิ่งรู้จักกันเมื่อวันก่อน วันเดียวกันกับคุณ” อินทราบอกความจริง

“มีอะไรหรือคะ”

“ไม่มีหรอก ดีนะสนิทกันเร็วดี”

“แล้วคุณโชคชัยจ่ายเงินสดค่าห้องไปเท่าไหร่”

“สองพันห้า” อินทรารีบตอบแทน

ประดิพัทธ์ยื่นแบงก์พันให้โชคชัยสามใบ

“ไม่ต้องทอนใช่ปะ” อินทรารีบถาม

“รักษาผลประโยชน์กันเสียจริง โอเค”


“ว่าไงนะ ลูกชายหายตัวไปอย่างนั้นหรือ รู้ไหมว่ากว่าผมจะเกลี้ยกล่อมน้องสาวผมได้นี่ผมใช้เวลานานแค่ไหน แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี ตอนนี้เธอยอมแล้ว ผมก็อยากรีบจับแต่งซะให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป จะได้หมดกังวล”

“ผมก็พยายามพลิกแผ่นดินตามหาอยู่ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเป็นทองแผ่นเดียวกับคุณหรอกนะ เพราะตรงนั้นมันผลประโยชน์ของตระกูลผมทั้งนั้น”

ท้ายประโยคทำให้คนทางนี้ยื่นหน้ายุ่ง ๆ ใส่โทรศัพท์มือถือ โธ่เอ๊ย! ที่แท้ก็เห็นแก่เงินเหมือนกัน แบบนี้ซิน่าลูกชายมันถึงได้วิ่งหนี

“อย่างไรพ่อเลี้ยงตามตัวลูกชายกลับได้เมื่อไหร่ โทรหาผมนัดหมายกันอีกที ผมเองคนใจร้อนครับ อยากทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันโดยเร็ว”

“ก็เพราะคุณมันใจร้อนอย่างนี้ซิ หนี้สินมันถึงได้รุงรัง ใจเย็น ๆ ครับใจเย็น ๆ ผมรับรองว่าลูกชายผมแต่งงานกับหนูสิตาแน่ มันหนีไปโดยที่ไม่ทันได้ฟังหรอกว่า ผู้หญิงหน้าตาเป็นอย่างไร หนูสิตาเธอน่ารัก ใครเห็นแล้วไม่รักก็เป็นกระเทยแล้ว”

“หรือว่าลูกชายพ่อเลี้ยงเป็นกระเทย” คนทางนี้หลุดคำถามที่คนอีกฝั่งฟังแล้วชะงักทีเดียว

“โอ๊ย! ลูกชายคนเดียวของผมผู้ชายทั้งแท่ง ผมพามันไปขึ้นครูตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนเรียนมัธยมมันก็เคยพาผู้หญิงมานอนที่บ้านตั้งหลายคน ผู้ชายทั้งแท่ง ผมยืนยันได้”

“ค่อยหายใจคล่องท้องหน่อย ถ้าเป็นกระเทย น้องสาวผมก็ชีช้ำตายห่านะซี่ ครับ ๆ แค่นี้นะครับ สวัสดีครับ”

กดปิดสัญญาณพร้อมกับระบายลมหายใจออกมา

“ได้ความว่าอย่างไรบ้างคะ” นมแสงอดอยากรู้ความคืบหน้าไม่ได้จึงรีบถามออกไป

“ทางโน้นก็มีปัญหาเหมือนเรา ผู้ชายหนีการแต่งงาน กำหนดวันกำหนดงานก็เลยยังไม่แน่นอน อย่างไรช่วงนี้ ยายสิตาก็ต้องอยู่ในสายตาเราไปก่อน โทรศัพท์ให้ใช้ของนมแสงได้เท่านั้น ส่วนสถานที่ก็คงต้องกักไว้แค่ในรีสอร์ตเหมือนเดิม”

“แล้วงานเลี้ยงคืนนี้ที่บอกว่าจะขอเลี้ยงเพื่อน ๆ”

“ก็ขอที่สวนหลังบ้าน ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่เราก็อย่าให้คลาดสายตาแล้วกัน ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น”

“แต่แสงได้ยินมากับหูนะคะ พ่อดารานั่นพูดให้สติ คุณหนูของเราจึงยอม แสดงว่าคงไม่พาหนีแน่นอนค่ะ สิ้นพยศแน่นอน”

“ให้มันจริงเถอะ ขอบใจนมแสงมากนะครับ อย่างไรฝากดูแลคุณรัชดาพรนั่นด้วย คืนนี้เธอจะพักค้างที่นี่กับเราสักคืนเหมือนกัน ส่วนทีมงานจะกลับกันเลย”

“ให้นอนที่ไหนคะ ที่ห้องพักพิเศษในเรือนสเปนนี่หรือเปล่า”

“แสงก็รู้ใจผมอยู่แล้วจะถามทำไมล่ะ”


แม้ปากจะบอกว่าจำนน แต่แท้จริงในใจของรังสิตานั้นหาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่ออยู่ในห้องส่วนตัว ความหวาดกลัวก็กลับเข้าสู่ใจของหญิงสาวอีกครั้ง เธอจะไม่ยอมแต่งงานกับลูกชายพ่อเลี้ยงชาวเชียงใหม่เด็ดขาด เธอจะต้องแต่งงานกับคนที่เธอรัก และเขาคนนั้นต้องรักเธอด้วย

เธอไม่มีทางจำนนต่อวิธีการคลุมถุงชนแบบนี้

ร่างระหงเดินกลับไปกลับมาแล้วก็ครุ่นคิด หมากเกมส์นี้เธอแพ้ไม่ได้เหมือนกัน ให้มันรู้ไป ถ้าไม่เต็มใจช่วย พวกเขาก็ต้องตกบันไดพลอยโจนช่วยเธอ ไม่ใช่ว่าเธอใจดำ แต่ว่าพวกเขาดันพลัดหลงเข้ามาเพื่อให้เธอมีความหวังทำไมล่ะ เพราะฉะนั้นพวกเขาก็ต้องมีความทุกข์ด้วยเช่นกัน

เมื่อสายตามองออกไปยังนอกหน้าต่าง รังสิตาจึงได้เห็นว่า เธอจะพาคนอีกสามคนไปหาเรื่องสนุกตื่นเต้นได้อย่างไร



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ค. 2554, 20:20:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ค. 2554, 20:20:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1965





<< 11.อลวน ถนน หัวใจ   13.อลวน ถนน หัวใจ >>
Zephyr 12 ก.ค. 2554, 21:19:32 น.
ชักอยากให้คุณโชคคู่หนูอินแระ นมแสงกะท่านสส นี่มีไรกันป่าวเนี่ย แปลกๆอ่ะ


คิมหันตุ์ 12 ก.ค. 2554, 23:39:49 น.
เริ่มต้นอลวนมาก. ไม่ไหวแล้ว


nutcha 13 ก.ค. 2554, 09:14:03 น.
อินทราน่ารักดีอยากให้คู่กับโชคชัยจัง


ปูสีน้ำเงิน 14 ก.ค. 2554, 01:55:00 น.
ใจปูน่ะอยากให้คุณโชคคู่กับยัยอิน แต่ว่ากลัวพลิคโผอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account