อลวน ถนน หัวใจ (จบแล้ว)

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 13.อลวน ถนน หัวใจ

13.

ประดิพัทธ์ได้พักห้องที่ไกลห่างจากอินทราและโชคชัย คืนนี้เขาคงนอนในห้องที่รังสิตาเปิดไว้ให้แทนไปนอนร่วมกับสองคนเหมือนเมื่อคืนก่อน คงเป็นการเปิดโอกาสให้ ‘ไอ้หมอ’ นั่นได้ทำอะไรตามอารมณ์ แต่แค่นึกเขาก็มีอารมณ์หงุดหงิดเกิดขึ้น เด็กคนนั้นบริสุทธิ์เกินกว่าที่จะปล่อยให้เป็นเหยื่อของผู้ชายหน้าตาดี ๆ คนหนึ่ง เขาจะต้องร่วมรับผิดชอบเธอด้วยซิ มันอาจจะเป็นเพียงอารมณ์เพียงชั่ววูบของคนที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกัน

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเดินไปเปิด จึงพบอินทราที่ยิ้มหวานให้เขา ส่วนโชคชัยเองก็มีสีหน้าเรียบเฉยคล้ายมีเรื่องอะไรไม่พอใจ

“ยังไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกเหรอ” ประดิพัทธ์ถามขึ้น

“ถึงเปลี่ยนก็เป็นชุดทำนองนี้แหละ มีแต่เสื้อผ้าแบบนี้”

“ออกไปตลาดไหม ไปหาเสื้อผ้าดี ๆ ใส่กัน” สายตาของประดิพัทธ์แลเหลือบไปทางโชคชัย เมื่อสลัดคราบของคนขับรถแท็กซี่ออก เขากลายเป็นหนุ่มหล่อสมาร์ทซึ่งดูดีทีเดียว

“ไม่เอาหรอก ไม่มีเงิน แล้วอีกอย่างที่นี่ก็คงไม่มีเสื้อผ้าดีกว่าที่ฉันใส่หรอก”

“ไปเหอะ คุณรังสิตาบอกว่าจะจัดเลี้ยงให้เรา ผมได้ทานมื้อกลางวัน ผมยังรู้สึกว่า เขาเน้นที่ความหรูหรา ค่ำนี้ก็คงเหมือนกัน”

“ของผมคงไม่ต้องเอาอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว”

“ก็คุณดูดีผิดคนขับรถธรรมดาอยู่แล้ว” อดที่จะว่ากลับไปไม่ได้เหมือนกัน

โชคชัยหมุนตัวออกจากห้อง เขาไม่อยากพูดกับคนที่เห็นแก่ตัวคนนี้อีกแล้ว ชายหนุ่มยังอยากได้พูดคุยกับรังสิตาเป็นการส่วนตัว เพราะในน้ำเสียงที่หญิงสาวคุยกับเขาทางโทรศัพท์นั้นมันน่าสงสารเสียเหลือเกิน

อินทรามองตามร่างสูงสมาร์ทออกไป แล้วถอนหายใจออกมา

“เป็นอะไรของเขา” ประดิพัทธ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“ไม่รู้” อินทราตอบห้วน ๆ เช่นกัน

“ตกลงจะไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ไหม” เขาจ้องหน้าหญิงสาว

“ไปเถอะ คืนนี้ผมอยากเห็นลูกเป็ดขี้เหร่อย่างเธอได้แปลงโฉมเป็นสาวสวย”

เมื่อได้ยินในแววตาของอินทรามีประกายวูบของความหวังขึ้นมา


เมื่อรถของประดิพัทธ์แล่นเข้ามาจอดในลานซึ่งระยิบระยับด้วยแสงไฟตามต้นไม้ โชคชัยซึ่งนั่งนิ่ง ๆ อยู่ในศาลาริมสระน้ำต้องแลเหลือบตามไป การไม่ออกไปกับสองคนนั้นทำให้เขายิ่งเพิ่มความร้อนรุ่มตามระยะเวลาที่เนิ่นนาน ถ้าเขาเอารถขับมาเองคงได้ขับออกไปกินลมโฉบเฉี่ยวแก้เซ็งไปแล้ว

เมื่อรถจอดลง ในสายตาของเขา อินทราสาวสวยที่เคยอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์จนเขาชินตา บัดนี้รูปลักษณ์นั้นอันตรธานหายไปกลายเป็นสาวน้อยในชุดเสื้อกระโปรงสีขาวทรงแซกผ้าพลิ้วแนบเนื้อเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง ผมเผ้าที่เคยร่วงปรกหน้าผากกลับถูกยียุ่งมีประกายของเกร็ดเพชรติดแพรวพราว ใบหน้าที่เกลี้ยงเกลานั้นก็มีสีสันแต่งแต้มจนเป็นประกายออกมา รอยยิ้มที่ทำให้เคยรู้สึกสบายใจกลายเป็นรอยยิ้มที่เขารู้สึกว่ามันพิมพ์เข้าไปในหัวใจทีเดียว แต่ท่าทีหัวร่อต่อกระซิกกับ ‘ไอ้หมอนั่น’ กลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ด้วยนายประดิพัทธ์เองก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกายของตนให้เป็นชุดที่ดูดีมีสไตล์เพราะสูทเทียมตัวนั้นกับทรงผมซึ่งได้จัดเซ็ททำให้ความเป็นดาราของเขาส่งประกายออกมา

โชคชัยที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์เนื้อดีเสื้อกล้ามสีดำคลุมด้วยเชิ้ตสีปูนแห้งพับแขน ลุกขึ้นรีบเดินเข้าไปหา ในขณะที่อินทราก็ยืนยิ้มทำตาปรอย ๆ รอเขาอยู่เช่นกัน

“สวยไหมคุณโชคชัย”

“สวย” เขาตอบตามตรง สายตาของเขาไม่สามารถเลื่อนออกไปจากวงหน้าของหญิงสาวได้ อินทราเขินจนหน้าแดง

“ฉันก็ไม่ได้อยากแต่งอย่างนี้ แต่คุณประดิพัทธ์เขาคะยั้นคะยอ”

“พวกอ่อนไหว ใจง่ายใครแนะนำอะไรดี ๆ ก็รีบคว้าไว้ก่อน” เขาสบถออกมาอย่างลืมตัว

“ทำไมไปว่าเขาอย่างนั้น” ประดิพัทธ์ชักอารมณ์เสีย

“หิวข้าวแล้ว ได้เวลาหรือยัง” โชคชัยไถลไปเสียอีกทาง เขาออกเดินนำหน้าไปยังซุ้มชมพูเบิกฟ้าที่กั้นระหว่างตัวรีสอร์ตกับพื้นที่ของบ้านทรงสเปน

ยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นว่า ‘แขก’ อย่างเป็นทางการของท่านเจ้าของบ้านเดินมาแล้ว พวกเขายืนนิ่งปล่อยให้ผ่านไปด้วยทีท่านอบน้อม

ในความรู้สึกของโชคชัยที่ด้านหลัง คนทั้งคู่ยังหัวเราะหยอกเอินกันอย่างอารมณ์ดี เมื่อเดินเข้าไปแล้ว นมแสงก็รีบออกจากในบ้านตรงมาหา

“มากันแล้ว เรียนเชิญทางด้านหลังบ้านเลยค่ะ” นมแสงกุลีกุจอเดินนำไปในรัศมีเฉียงพอหันกลับมาคุยกันได้

“หน้าหล่อคมเข้มสูงยาวเข่าดีจริง”

“ครับ” โชคชัยพูดได้เพียงแค่นั้นพอดีกับที่อินทราสาวเท้ายาว ๆ เข้ามาเกาะที่ต้นแขน ชายหนุ่มหันไปมองด้วยใบหน้าบึ้งตึง

“เป็นไร หิวมากเลยเหรอ”

“อือ” เขาทำเสียงหงุดหงิดกลับไป

“สวยเนอะ ฉันอยากมีบ้านกลางสวนริมทะเลสาบแบบนี้บ้างจัง”

“เดี๋ยวความฝันคุณก็เป็นจริงในสักวันหรอก วันนี้ก็เป็นจริงไปอย่างหนึ่งแล้วนี่” แม้จะใส่ใจกับคำพูดเดิมของเธอ แต่น้ำเสียงที่อินทราได้ฟังนั้นสะบัด จนน่าจับเขย่าตัวเหลือเกิน


บริเวณที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับเป็นศาลาขนาดกว้าง 6 คูณ 6 เมตรสไตล์บาหลี ที่บริเวณส่วนกลางเป็นโคมไฟช่อระย้าใส่หลอดไฟหลากสีไว้ ในเสาทั้งสี่ต้นนั้นก็มีโคมไฟรูปกาบหอยซ่อนแสงสว่าง เมื่อสาวเท้าก้าวขึ้นไปข้างบน เสียงดนตรีบรรเลงเบา ๆ ที่อินทราเคยได้ยินตามร้านหนังสือ แว่วหวานเหมือนเธอหลุดเข้าสู่ในวิมานบนสรวงสรรค์ ความสุขของคนมีเงินเป็นเช่นนี้เอง หญิงสาวมองไปโดยรอบด้วยใบหน้าสดชื่น อีกสักกี่วันหนอเธอถึงจะมีอย่างนี้บ้าง

“ไง เคลิ้มเลยหรือ” โชคชัยว่าให้

“ก็ฉันไม่ใช่ลูกเศรษฐีปลอมตัวมาอย่างคุณนี่ ฉันก็ตื่นเต้นซิ”

นมแสงผายมือไปยังโต๊ะอาหารที่ปูด้วยผ้าสีชมพูหวาน บนนั้นมีแก้วน้ำผ้ากันเปื้อนและชุดช้อนส้อมมีดที่อินทราไม่รู้ว่าต้องใช้อย่างไร

“เชิญนั่งก่อนค่ะ” เมื่อทุกคนนั่งลงโดยมีอินทราอยู่ตรงกลางแล้ว นมแสงก็ถามถึงเครื่องดื่มที่ทุกคนต้องการ

เมื่อแลเหลือบไปยังโต๊ะเครื่องดื่มพบว่ามีของที่ตัวเองต้องการ อินทราจึงบอกความจริงจากใจออกไปว่า “น้ำส้ม” นมแสงจัดการรินจากเหยือกมาส่งให้ด้วยความนอบน้อม

“ของผมเป็นไวน์แล้วกันครับ” ประดิพัทธ์บอกความต้องการของตัวเอง

“ของผมน้ำเปล่า” โชคชัยขวางกลางลำขึ้นมา

เมื่อนมแสงรินเครื่องดื่มให้ทุกคน บรรยากาศตรงนั้นก็กลายเป็นอึดอัดทันที อินทรายกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มเงียบ ๆ ส่วนโชคชัยใช้สายตามองไปยังที่ไกล ๆ ประดิพัทธ์เองก็นั่งก้มหน้า ด้วยเขาเองก็รู้สึกผิดที่พา ‘ผู้หญิง’ ของนายโชคชัยออกไปแปลงโฉม ก็ต้องมีการงอนกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

แต่แม่ลูกเป็ดขี้เหร่นี่ซิ เขาไม่คิดว่า เมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้วเจ้าหล่อนจะดูดีขึ้นมาได้ขนาดนี้ รึว่าเขาจะช่วยผลักเธอเข้าสู่วงการ นายพหลเล่นด้วยแน่ แต่ก็อีกนั่นแหละ เฒ่าหัวงูอย่างนั้น แต่เด็กจะยอมรึ ถ้าเพื่ออนาคตอันสดใสล่ะ นอนด้วยสักสามสี่ครั้ง เมื่อดังแล้วก็ต่างคนต่างดำเนินชีวิตไป เหมือนกับที่รัชดาพรเคยกระทำมา

เมื่อนึกถึง เจ้าหล่อนก็เดินลงจากประตูด้านหลังบ้านมาพร้อมกับคุณวินิตรา ประดิพัทธ์ถอนหายใจออกมา อินทราสะกิดเขาทันที

“ใคร”

“พี่สะใภ้เขา อีกคนก็รัชดาพร รู้จักอยู่แล้วนี่”

“มาทำไม แล้วคืนนี้ในงานนี้มีกันกี่คน”

“ผมถึงบอกให้คุณแต่งตัวกันดี ๆ ไง” ว่าพลางตวัดสายตาไปหาคนที่แต่งตัวดีแต่ยังไม่ดีเท่าตัวเอง โชคชัยหาได้สนใจ เขายกน้ำเปล่าดื่มแล้วทำท่าให้รู้ว่าสดชื่นอย่างกวนอารมณ์

“ยินดีด้วยนะคะที่การลวงโลกครั้งนี้ล่มสลายอีกรอบ” เมื่อมานั่งร่วมโต๊ะพร้อมกับ ‘ภรรยาหลวง’ ของเจ้าของบ้านรัชดาพรก็ ‘กัด’ ประดิพัทธ์ทันที

“ครับการลวงโลกของผมส่วนใหญ่จะมีประโยชน์กับคนอื่นด้วย แต่สำหรับของคุณ พูดแค่นั้นเขาก็ปรายตามองไปหาคุณผู้หญิงของบ้านนิดหน่อย

“ขอให้คุณโชคดีเหมือนกันนะครับ”

“เดี๋ยวนี้เปลี่ยนรสนิยมแล้วหรือ” เมื่อเห็นว่าจะเพลี่ยงพล้ำรัชดาพรจำต้องเปลี่ยนหัวข้อสนทนา อินทราซึ่งถูกอีกฝ่ายปรายตามาหาจึงรู้ตัวว่าตนกำลังตกเป็นขี้ปากของเจ้าหล่อน

“โลกกลมจริง ๆ นะคะ” อินทราทักทายไปบ้าง

“อ้อ ผมยังไม่ได้แนะนำให้คุณวินิตรารู้จักเพื่อน ๆ ของผมเลยครับ เธออินทรา เป็นนักข่าวสายบันเทิงผู้รู้ตื้นลึกหนาบางว่าใครเป็นมาอย่างไร หน้าสวยแต่เน่าในขนาดไหนเธอรู้ ส่วนเขาโชคชัยครับ”

“ทำงานอะไรคะ” วินิตราสนที่รูปลักษณ์ในเบื้องต้น เพราะฉะนั้นถึงอยากรู้ว่าคนหน้าตาดี ๆ คนนี้มีชาติตระกูลเป็นอย่างไร

“ขับรถแท็กซี่ครับ” โชคชัยบอกเสียเอง

“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าขับรถแท็กซี่” รัชดาพรปรอยตามาให้อย่างหวังประโยชน์อะไรสักอย่างจากชายหนุ่ม

อินทราเบ้หน้าให้ทันที ก็หล่อนรู้นี่ว่า แม่คนนี้ ไฟแรงสูงยังอาย แล้วอีตานี่จะหลุดการจิกของเจ้าหล่อนไปไหมหนอ

“ขับรถแท็กซี่แล้วเป็นอย่างไรครับ” โชคชัยหันกลับมาเจรจาด้วยสายตากรุ้มกริ่มพอกัน

“เรื่องนี้คงต้องคุยเป็นการส่วนตัวมั้งคะ” ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็เปิดกระเป๋าควักนามบัตรส่งให้ โดยที่ไม่ได้สนใจว่าคนอื่นที่นั่งมองรู้สึกอย่างไร โชคชัยใช้ปลายนิ้วเอื้อมไปหยิบมาอย่างมีเยื่อใยเช่นกัน อินทราอยากจะหยิบนามบัตรนั้นมาฉีกทิ้งเสียแต่เจ้าหล่อนก็ทำได้เพียงนั่งหน้าบึ้ง


ในขณะที่วงสนทนาเดินไปด้วยเรื่องดินฟ้าอากาศสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอศรีสวัสดิ์ คุณวินิตราก็ทำสีหน้าให้รู้ว่า กังวลที่เจ้าของงานยังไม่ออกมาจากห้องพัก นมแสงซึ่งพอรู้ใจเจ้านายสาวจึงรีบเรียกสาวใช้มาให้ไปตาม

สาวใช้หายไปสักพัก เสี่ยสาธรก็แต่งตัวด้วยชุดสูททันสมัยเดินออกมาพร้อมกลิ่นหอมจรุงใจ เมื่อมาถึง ประดิพัทธ์กับรัชดาพรลุกขึ้นยืน อินทรากับโชคชัยก็ต้องพลอยยืนขึ้นต้อนรับไปด้วย

“ไม่เป็นไรครับ นั่งกันตามสบายเลย ออร์เดิร์ฟไม่พร่องกันเลยไม่หิวกันหรือครับ”

“รอเจ้าภาพก่อนดีกว่าค่ะ” รัชดาพรซึ่งอยู่ในชุดผ้าชีฟองลายเสือบางเฉียบเจรจาเสียเอง

“นมแสงไปดูซิว่า สิตามีปัญหาอะไรอีกทำไมถึงให้แขกรอนานได้อย่างนี้” เมื่อรู้ว่าประดิพัทธ์เป็นฝ่ายช่วยพูดให้รังสิตากลับใจ สัมพันธ์กับคนทั้งสามจึงดีขึ้น

ประดิพัทธ์แนะนำอินทราและโชคชัยให้เสี่ยสาธรรู้จักอีกรอบ

“ผมต้องขอบคุณคุณอีกครั้งนะครับ” เสี่ยสาธรพูดเป็นงานเป็นการ

“ครับ ผมก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้าเท่าที่รู้ที่เห็นเท่านั้นครับ” ประดิพัทธ์ไม่อยากจะบอกเลยว่า เขาเองก็อึดอัดกับบรรยากาศของบ้านนี้เหมือนกัน ในขณะเดียวกันเขาก็คิดว่า รังสิตาจะยอมจำนนง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ บางทีหากเจ้าหล่อนขอร้องเขาอีกสักรอบ เขาอาจจะยอมสนุกกับเธออีกครั้ง แต่เมื่อนึกถึงปัญหาที่จะตามมา เขาจำต้อง ตัดใจ

ทุกชีวิตย่อมมีทางเดินของตัวเอง


แล้วทุกคนก็ถึงกับ ‘อึ้ง’ เมื่อเห็นว่าเจ้าภาพของงานไม่ได้ออกมาด้วยชุดที่สวยพริ้ง รังสิตาเดินออกมาจากบ้านในชุดกางเกงลายพรางตัวหลวมที่ต้องใช้เข็มขัดแบบคาวบอยช่วยรั้งไว้ เธอสวมรองเท้าผ้าใบดูทะมัดทะแมง เสื้อกล้ามสีดำเผยให้เห็นต้นแขนนวลเนียน ทรงผมม้าที่เคยมัดรวบไว้ก็ปล่อยสยายให้กระจายไปตามแผ่นหลัง

คนเป็นพี่ชายถึงกับลุกขึ้นอย่างหัวเสีย

“ทำไมแต่งตัวออกมาอย่างนี้”

ไม่มีเสียงตอบจากน้องสาวซึ่งเดินเข้ามานั่งตรงที่ว่างระหว่างพี่ชายกับนายโชคชัย อินทราเห็นว่าโชคชัยเองนั้นจ้องมองหญิงสาวสุดสวยหุ่นได้รูปตาไม่กระพริบทีเดียว

“เริ่มกันเลยค่ะ แขกของสิตาคงหิวแล้ว”

เมื่อได้รับคำสั่ง สาวใช้จึงทยอยนำอาหารคาวมาขึ้นโต๊ะ อินทรานั้นตื่นตาตื่นใจกับอาหารบนโต๊ะเป็นอย่างมาก หล่อนอยากกินเนื้อสเต็กมานาน ซึ่งเท่าที่รู้มาเพื่อให้ได้บรรยากาศมันจะต้องคู่กับไวน์ชั้นดี จำนวนปี ค.ศ. ผ่านมาเนิ่นนาน ผู้เป็นเจ้าของบ้านสั่งให้สาวใช้รินไวน์ให้แล้วถามทุกคนว่า มีใครต้องการบ้าง รังสิตารีบเสนอตัว เกือบทุกคนต้องการไวน์ ดังนั้นอินทราจึงปฏิเสธน้ำส้มที่คุ้นลิ้นไปเสีย

“ทานกันเยอะ ๆ นะคะ ไม่ต้องเกรงใจ มื้อนี้ถือว่าสิตาเลี้ยงขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะคุณประดิพัทธ์” ท้ายเสียงนั้นดูจงใจต่อว่ามากกว่า พูดแค่นั้นคนเป็นเจ้าของงานก็นั่งตัดสเต็กจิ้มเข้าปากเคี้ยวไปพลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเรื่อย ๆ คล้ายกับว่าเธอนั่งอยู่คนเดียว

โชคชัยเองอยากจะชวนเจ้าหล่อนพูดคุย แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากเรื่องอะไร ประดิพัทธ์เองก็เงียบขรึมจนอินทราพลอยสงบปากสงบคำไปด้วย แม้แต่คุณรัชดาพรซึ่งน่าจะสรรหาประสบการณ์ตรงในการทำงานในวงการมาเล่าเหมือนเคย เจ้าหล่อนก็เพียงตักอาหารสไตล์ฝรั่งเข้าปากไปด้วยมาดของคนรู้ธรรมเนียมบนโต๊ะอาหารฝรั่ง

“เอาไว้งานแต่งของสิตา ผมคงได้เรียนเชิญคุณประดิพัทธ์คุณรัชดาพรมาเป็นพิธีกร ”

“ใช่ดีมากพ่อ แม่ก็คิดอยู่เหมือนกัน”

“คุณรัชดาพรคงยินดีมาให้ฟรีแน่ ๆ เลยค่ะ กันเองแบบนี้”

เมื่อได้ยินคำพูดของอินทรา รัชดาพรอยากจะถลึงตาใส่ แต่สาวเจ้าก็พูดเอาประโยชน์ของตัวเองจนได้

“น้ำมันแพงเสี่ยก็รู้ดี แต่คงจะลดให้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์จากค่าตัวที่เคยได้รับ”

“จากงานประเภทไหนครับ” ประดิพัทธ์ได้จังหวะส่งหมัดเด็ดใส่

“ก็งานพิธีกรซิคะ ค่าตัวเราเท่ากันอยู่แล้ว”

“แต่ของผมกำไรมากกว่าครับ เสื้อผ้าผมชุดเดียว ไปได้หลายงาน ของคุณ ชุดแต่ละชุดเป็นหมื่นๆ หักลบแล้วก็เหลือน้อยหน่อย”

“โอ๊ย! ฉันไม่คิดเรื่องกำไรขาดทุนหรอกค่ะ ดีใจซะอีกที่เสี่ยให้เกียรติงานยิ่งใหญ่ประจำจังหวัดแบบนี้”

“คงไม่มีการจัดงานใด ๆ หรอกค่ะ แต่งแบบหิ้วกระเป๋าเข้าไปอยู่บ้านเขาเลย ถ้าจัดงานสิตาไม่แต่ง” ดูเถอะแม่ยังมีฤทธิ์มีเดชจนได้

“ได้ที่ไหนล่ะ ทางผู้ชายเขาหน้าตาใหญ่โต” คนเป็นพี่รีบห้ามความคิดนั้น

“ปล่อยไปก่อนเถอะค่ะ น้ำเชี่ยวอย่าเพิ่งเอาเรือไปขวาง พอถึงวันงานจริง ๆ ขี้คร้านจะรีบขอไปเข้าคอร์สเจ้าสาว” อาซ้อเห็นว่าควรมีส่วนร่วมบ้างจึงต้องเอ่ยอย่างใจเย็นออกมา

“ไม่จำเป็นค่ะ ดูดีอยู่แล้ว” ทำหน้าเหยียดพลางยกแก้วไวน์กระดกจนหมด แถมยังสั่งให้สาวใช้รินเพิ่ม

“รินให้คุณโชคชัยด้วยซิ หมดแก้วไปนานแล้ว” จังหวะนั้นเองโชคชัยถึงได้มีโอกาสเปิดปากพูดกับเจ้าหล่อน

“ขอบคุณฮะ”

“คนกันเอง” ว่าแล้วเธอก็ยกแก้วขอชนกับเขา

“หมดแก้วเลยนะคะ ดื่มให้กับความพินาศของชีวิต”

“ทำไมพูดอย่างนั้นละคะ” รัชดาพรเริ่มแหย่

“เมาแล้วแน่ ๆ เลย พอเถอะ นมแสง อย่าให้เด็กรินให้อีกนะ” คนเป็นพี่สะใภ้รีบกันเรื่องไม่ดี แต่ดูเหมือนว่ายิ่งห้ามหล่อนก็เหมือนยิ่งยุ

“ดื่ม ๆ ค่ะ คุณอินทรา คุณประดิพัทธ์ชนแก้วกับฉันหน่อย ฉันดีใจนะคะที่ได้พบพวกคุณ ถ้าไม่พบพวกคุณชีวิตฉันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก พวกคุณมันตัวซวย!!”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ค. 2554, 23:21:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ค. 2554, 23:21:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1811





<< 12.อลวน ถนน หัวใจ   14. อลวน ถนน หัวใจ >>
Zephyr 14 ก.ค. 2554, 23:39:07 น.
สิตา ตอนนี้เธอไม่น่ารักเลยอ่ะ หนูอินชนะ ขาดลอย แถมยังโทษชาวบ้านเขาอีก


คิมหันตุ์ 15 ก.ค. 2554, 12:10:26 น.
สู้ต่อไปค่ะ คุณโชค อย่าโลเลเยอะนะจ๊ะ เดี๋ยวมันจะอลวน


ปูสีน้ำเงิน 15 ก.ค. 2554, 12:25:49 น.
แร๊ง...ง...ง..ง..


nutcha 16 ก.ค. 2554, 22:02:01 น.
สิตาทำตัวไม่น่ารักเลย โชคชัยยังจะชอบอีกเหรออินทราน่ารักกว่าเยอะเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account