คืนฝนพรำ
สองหนุ่มสาวเจอกันบังเอิญในคืนฝนพรำ

หล่อนจำเขาได้เสมอ แต่เขาดันจำหล่อนสลับกับเพื่อนสนิทของหล่อนเอง

เรื่องวุ่นๆ เริ่มขึ้น เมื่อหล่อนคิดว่าเขาคือ เนื้อคู่ แต่เพื่อนของหล่อนเอง ก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน

ทุกอย่างวุ่นวายเข้าไปอีก เมื่อหล่อนไปสร้างความวุ่นวายให้กับเขา เขาเลยไม่ชอบหล่อนนัก

หล่อนคงต้องเลือกระหว่างเพื่อน และคนที่แอบชอบ

แต่จะจบลงอย่างไร เมื่อหล่อนกับเขาต้องถูกจับแตงงานกัน เพราะคำสัญญาของพ่อแม่






Tags: romantic comedy, หวานแหวว, หมอ, ทหารอากาศ

ตอน: ตอนที่ 2 : จำได้

ตอนที่ 2

หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายทั้งวัน และได้ส่งเสบียงให้ขิมดาราโดยที่ไม่มีโกโก้แก้วใหญ่ตามที่เธอต้องการ(ฉันโกหกเธอว่าร้านปิด) เสร็จแล้ว ฉันจึงกลับมาบ้านพัก เก็บบ้าน ทานอาหารเย็น และอาบน้ำ แต่ตลอดเวลาที่ฉันทำกิจวัตรทุกๆอย่างนั้น ใจฉันกลับไม่สงบเลย ฉันเอาแต่คิดว่าแผนการทุกอย่างที่ฉันได้วางเอาไว้ กลับพังลงอย่างไม่เป็นท่าตั้งแต่ไม่เริ่มด้วยซ้ำ

ตอนนี้เป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว ฉันนั่งจ้องหน้าจอมือถืออัจฉริยะ (หรือปัญญาอ่อนก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้มันทำงานอืดมาก) บนหน้าจอมีการแจ้งเตือนของ application line ว่าฉันมีเพื่อนใหม่เข้ามาในระบบจากการเซฟเบอร์มือถือแบบอัตโนมัติ ใช่แล้ว เพื่อนใหม่ที่ว่านี้คือ คุณอัศวิน นั่นเอง เขาใช้ชื่อใน line ว่า knight ตายล่ะ แล้วฉันจะทำอย่างไรต่อไปดี เพราะการแจ้งเตือนว่ามีคนเพิ่มเขาเป็นเพื่อนใน line ต้องขึ้นในมือถือของเขาเป็นแน่ แล้วเขาจะจำหน้าฉันได้ไหมเนี่ย จริงๆแล้วฉันตั้งใจว่าจะทักเขาไปก่อน แล้วค่อยเปิดตัวบอกว่าฉันคือคนที่เขาช่วยชีวิตในวันฝนตกเมื่อสัปดาห์ก่อน ฉันอยากจะขอบคุณเขา แล้วเราก็คงจะเริ่มรู้จักกัน สานสัมพันธ์กัน และเป็นแฟนกันในที่สุด แต่ตอนนี้ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้แล้ว เพราะขิมชอบเขา หรือเขาก็อาจจะชอบขิมด้วย แล้ววันนี้ฉันยังทำโกโก้รดหัวเพื่อนเขาจนชุ่มอีก เขาจ้องฉันเขม็งอย่างนั้นคงจำหน้าฉันได้เป็นแน่
ฉันค่อนข้างสับสน แต่ความรู้สึกว่าอยากคุยกับเขานั้นชนะทุกสิ่ง นิ้วฉันจึงกดพิมพ์ข้อความบนมือถืออย่างรวดเร็ว

'สวัสดีค่ะ'

แล้วก็จ้องจอมือถืออยู่อย่างนั้นไม่กล้ากดส่งไป กำลังคิว่าถ้าตัวเองทำแบบนี้แล้วได้อะไรเหรอ ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้สักนิด
ส่ง-ไม่ส่ง ส่ง-ไม่ส่ง ส่ง-ไม่ส่ง
แล้วฉันก็ง้างนิ้วโป้งขึ้นค้างไว้อย่างนั้น เอาไงดี ส่ง-ไม่ส่ง ส่ง-ไม่ส่ง ส่....กริ๊ง! แว้ก!
โทรศัพท์บ้านดังขึ้น ทำเอาฉันสะดุ้งโหยง มือถือเลยกระเด็นหลุดจากมือไปนอนคว่ำหน้าบนที่นอน โทรศัพท์บ้านพักยังแผดเสียงอยู่อย่างนั้น ฉันเลยรีบรับ

“สวัสดีค่ะ"

“ขอพูดกับหมอขิมดาราค่ะ ติดต่อมือถือไม่ได้เลยค่ะ" เสียงประชาสัมพันธ์โทรมานั่นเอง มือถือยัยขิมแบตหมดอีกล่ะสิ

“หมอขิมไม่ได้กลับบ้านพักคะ ลองโทรตามวอร์ดไหมคะ" แล้วก็วางสายกันไป

ฉันถอนใจยาว อะไรกันนักหนาวันนี้ จากนั้นจึงค่อยๆบรรจงหยิบมือถือขึ้นมาว่าจะ ส่ง-ไม่ส่ง แต่ โอ๊ย! ตายแล้ว! วันนี้ฉันตายไปกี่รอบแล้ว! ตายแน่ ตายแหงแก๋ ตายแบบไม่มีใครพบศพแน่ๆ เพราะข้อความฉันถูกกดส่งไปแล้ว สงสัยจะเป็นตอนที่กระแทกกับที่นอน เท่านั้นยังไม่พอ ในข้อความยังขึ้นว่า 'read' แล้วด้วย แม่เจ้าโว้ยยยย ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ ทำอย่างไรต่อไปดีล่ะเนี่ย

'สวัสดีครับ'

แล้วข้อความของ Knight ก็เด้งขึ้นมา พร้อมกับรูปโปรไฟล์ในชุดนักบินสีเขียวยืนยิ้มคู่กับเครื่องบิน พร้อมใส่แว่นเรย์แบน ซึ่งดูแล้ว คือ...หล่อทะลุจอมาก...

'สวัสดีครับ' อย่างนั้นเหรอ เขาสวัสดีฉันใช่ไหม กรี๊ด...

แล้วก็มีข้อความเด้งขึ้นมาอีกว่า 'เรารู้จักกันเหรอครับ'

ตายละ เขาคงจำฉันไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เขาช่วยชีวิตไว้ หรือคนที่รดน้ำดำหัวเพื่อนเขา ฉันเลยกดดูรูปโปรไฟล์ของตัวเอง เพราะไม่ได้เปลี่ยนรูปนานแล้ว พอได้ดูรูปก็เลยคิดว่าไม่รู้ว่าจะหัวเราะในความโชคดี หรือความงี่เง่าของตัวเอง ฉันใช้รูปเจ้า ปิกโก้ หมาที่บ้านเป็นโปรไฟล์น่ะสิ คุณอัศวินคงคิดว่าพวกสิบแปดมงกุฏที่ไหนมาหลอกลวงหรือเปล่าแน่เลย

'เอ่อ ประมาณนั้นค่ะ' ฉันพิมพ์ตอบสั้นๆแล้วนิ่งไป เอาล่ะสิ ฉันควรจะคุยอะไรต่อไปดี จะบอกไปเลยว่าเป็นใคร หรือหยุดแค่นี้

'ครับ' แล้วเขาก็ตอบกลับมาสั้นๆแค่นั้น

ฉันยังคงจ้องโทรศัพท์อีกเป็นเวลานาน ในใจก็อยากจะคุยต่อเหลือเกิน อีกความคิดหนึ่งก็หยุดดีกว่าเพราะหน้าขิมดาราลอยเข้ามาในจิตสำนึก แต่แหม ยัยขิมก็อาจจะพูดเล่นๆก็ได้นี่นา ยังไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลย

เอาวะ สักครั้งหนึ่งเถอะของชีวิตลูกผู้หญิง แค่ส่งข้อความขอบคุณที่ช่วยเหลือเท่านั้นเอง

'ฉันคือคนที่คุณช่วยชีวิตไว้ในคืนนั้นค่ะ ขอบคุณมากนะคะ'

ฉันส่งข้อความไปสักพัก ก็ยังไม่ได้รับการอ่าน ฉันเลยไปเข้าห้องน้ำรอ แล้วไม่ถึงอึดใจ เสียงข้อความก็ดังขึ้น ฉันนี่รีบใส่กางเกงออกมาจากห้องน้ำแทบไม่ทัน

'คืนไหนครับ' อะไรนะ ยังจำไม่ได้อีกเหรอ นี่ผ่านไปสัปดาห์เดียวเองนะ

ฉันรีบพิมพ์นิ้วรัวเลยทีเดียว 'คืนที่ฝนตก แล้วฉันปั่นจักรยานตัดหน้ารถคุณค่ะ จำได้ไหมคะ แค่จะมาขอบคุณเท่านั้น ไม่มีอะไรมากค่ะ'

โว้ย แม่คุณ พิมพ์ทีก็พิมพ์ยาวเลย ทำไมไม่ค่อยๆปล่อยคำพูดไปล่ะยะ ลืมไปแล้วเหรอว่าแม่สอนให้รักนวลสงวนตัว

ข้อความฉันถูกอ่านในทันที แล้วเขาก็ตอบกลับแทบจะทันทีเช่นกัน

'อ้อ คุณนั่นเอง ยินดีครับ แล้วคุณหายดีหรือยัง' กร๊ีด เขาจำได้ และเป็นสุภาพบุรุษมากเลย เขาจะรู้ไหมว่าหัวใจฉันแทบจะออกไปเต้นระบำนอกร่างอยู่แล้ว

ฉันมองแขนขวาของตัวเองที่มีรอยแดงถลอกจางๆ 'ไม่ได้เป็นอะไรมากคะ แล้วคุณเป็นไงบ้างคะ' ฉันกำลังจะกดส่งไป แต่ก็คิดว่า คำว่าเป็นไงบ้าง มันดูเหมือนถามทั่วไปแบบอ่อยๆ เลยลบข้อความ แล้วพิมพ์ถามใหม่

'ไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ แล้วคุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ'

คุณอัศวินตอบ 'เจ็บหน้าผากนิดหน่อย แต่หายแล้วครับ ว่าแต่คุณรู้เบอร์ผมได้ไงครับเนี่ย'

ฉันอ่านข้อความแล้วขมวดคิ้ว ซวยล่ะสิ นี่คือคำถามสำคัญเสียด้วย เอาไงดีเนี่ย ถ้าฉันเปิดเผยตัวเองไปแล้ว...เรื่องวันนี้ล่ะ แล้ว....เรื่องขิมดาราล่ะ...แล้ว...

เผ่นก่อนดีกว่า 'ฉันต้องไปนอนแล้วค่ะ ฝันดีนะคะ' กรี๊ด ชะนีอย่างฉันพูดว่าฝันดีค่ะกับผู้ชายเป็นครั้งแรก

และก่อนที่ฉันคิดว่าจบเรื่องตรงนี้ลงก่อนดีกว่า ค่อยคิดต่อไปว่าจะทำยังไง เขาก็ส่งข้อความกลับมาทันที

'อ้าว...งั้นก็ ฝันดีครับ'

ฝันดีครับ จากคุณอัศวินเนี่ยนะ! ใครก็ได้มาตบหน้าให้ฉันรู้ตัวทีว่าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม นี่ฉันกำลังอยู่กับปัจุบันขณะ ใช่ไหม หวังว่าเขาคงยังไม่มีแฟนหรอกนะ แล้วหวังว่าเขากับขิมดาราคงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว โอ๊ย ขอทีเถอะ!

เช้าวันต่อมาฉันตื่นสาย เพราะรีบนอนแล้วลืมตั้งนาฬิาปลุก จึงกุลีกุจออาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปทำงานโดยที่ไม่ลืมเช็คข้อความในมือถือว่ามีใครส่งข้อความอะไรมาหรือเปล่า ฉันเปล่าคิดเลยนะว่าคุณอัศวินจะส่งข้อความมาอรุณสวัสดิ์ฉันทำนองนี้ ฉันก็แค่เปิดดูข้อความตามปกติทุกเช้า ไม่ได้คาดหวังให้เขาส่งอะไรมาเลยจริงๆนะ ซึ่งข้อความที่พบใน line ก็มีดังนี้

เมื่อวาน
23.00 NamAoi : แกฉันโดนคนไข้ด่า

00.10 Group girly :
Mam : เวรห้องฉุกเฉินนี่โคตรเหนื่อย
Kimberly : เออเวรวอร์ด รพ. ฉันก็อย่างกับตลาดสด
NamAoi : แก คนไข้สมัยนี้เป็นไรวะ ปากจัดจังเว้ย
Kimberly : ตายแล้ว มือถือแบตหมดอีกแล้วว่ะ ซวยยย
Tippy : ยัยพริมหลับไปแล้วแหง
วันนี้
7.0 Daddy : แม่ถามว่ามีผ้าปูเตียงกี่ผืน สัปดาห์หน้าจะเอาไปให้

มีข้อความของทุกคน แต่ของคุณอัศวิน คือข้อความฝันดีสุดท้ายอันเดิม เฮ้อ...แล้วฉันจะคาดหวังทำไมเนี่ย

ฉันปิดมือถือแล้วรีบเดินเข้าไปตรวจในหอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย ทักทายพี่พยาบาลพอหอมปากหอมคอจากนั้นก็เริ่มเดินตรวจตั้งแต่เตียงแรก เจอคนไข้เดิมๆ แผลแบบเดิม จนมาถึงเตียงหนึ่งมีญาติมาเยี่ยมอยู่ คุยกันเสียงดัง ปรากฏว่าเป็นคนไข้ใหม่ เปิดประวัติอ่านดูว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ผ่าตัดไปเมื่อคืน เลยเดินเข้าไปใกล้เพื่อจะตรวจร่างกาย แต่ก็มีญาติร่างสูงของเขายืนคุยอยู่ปลายเตียง

''ขอโทษนะคะ ขอหมอเข้าไปตรวจหน่อยนะคะ" พอฉันพูดเสร็จเท่านั้นล่ะ เสียงวี้ดวิ้ว ผิวปาก หัวเราะแซวอะไรกันก็ไม่รู้รอบเตียง ฉันเลยเงยหน้ามองรอบๆ ก็พบว่ามีแต่ผู้ชายร่างสูงมายืนล้อมเตียงผู้ป่วยคนนี้เต็มไปหมด ทุกคนจ้องมาที่ฉันแล้วยิ้ม หัวเราะกันใหญ่ แล้วผู้ชายที่ฉันขอให้หลีกทางก็หันมา ขณะใส่กันแดดยี่ห้อดัง

ทำเอาฉันอึ้ง หยุดยืนนิ่ง ตัวแข็งเหมือนหิน นี่มันคุณอัศวินนี่นา เขาอยู่ในชุดลำลอง ไม่ถอดแว่น ฉันก็จำได้ เราจ้องหน้ากันพักหนึ่ง แต่ฉันว่า เป็นฉันที่จ้องเขาผ่านเลนส์ดำมากกว่านะ จากนั้นฉันก็รวบรวมสติ ทำเป็นไม่รู้จัก ไม่สนใจ แต่มือนี่สั่นแล้วเหงื่อเริ่มชุ่มฝ่ามือ เดินผ่านเขาเข้าไปตรวจคนไข้ ซึ่งก็คงเป็นเพื่อนของเขา ฉันรับรู้ได้นะ ว่าเขาจ้องฉันตลอดเวลา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที

ขณะที่ฉันเข้าไปตรวจ เพื่อนเขารอบเตียงก็กระซิบกระซาบแล้วหัวเราะคิกคักอะไรกันไม่รู้ ฉันรู้สึกหนาวๆร้อนๆ และใจเต้นแรงเพราะรู้ว่าคุณอัศวินยืนอยู่ข้างหลัง แต่ก็แสร้งยิ้มแย้ม มั่นใจ ตรวจคนไข้ต่อไป

“วันนี้เป็นไงคะ ปวดแผลมากไหม คลื่นไส้อาเจียนเปล่าคะ" ฉันถามคนไข้หนุ่มที่เปลือยท่อนบน สังเกตได้ว่ามีกล้ามแขนเป็นมัดพองาม และหน้าท้องที่มีรอยผ่าตัดถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีขาว

คนไข้หนุ่มมองฉันแล้วยิ้ม "ไม่คลื่นไส้อาเจียนครับ แผลปวดไม่มาก" พูดเสร็จก็หันไปยักคิ้ว ยิ้มทะเล้นให้เพื่อน เพื่อนๆก็ยิ่งหัวเราะคิกคักอะไรกันต่อไป ซึ่งฉันชักรู้สึกรำคาญ และประหม่าเข้าไปใหญ่ ขณะหยิบหูฟังที่คล้องคอออก แล้วเสียบที่ฟังเข้ากับหูของตัวเอง จากนั้นก็ตรวจเสียงปอดและหัวใจ เอาจริงๆนะ ฉันฟังเสียงหัวใจเขาไม่ออกเลย เพราะหัวใจฉันเต้นเร็วกว่า เมื่อรับรู้ตลอดว่า คนข้างหลังน่าจะยังยืนจ้องฉันภายใต้แวนกันแดดอยู่ ฉันไม่มีสมาธิทำงานเลย
ฉันยื่นมือขวากดหน้าท้องคนไข้เบาๆ "โอ๊ย!” คนไข้ร้องลั่น แล้วสะดุ้งตัวนิดหนึ่ง ฉันก็ตกใจเลยทีเดียว เพราะท้องเขาก็นุ่มดี ไม่น่าจะปวดได้เลย ฉันกดไกลแผลตั้งเยอะ

“ตอนหมอกด เจ็บเหรอคะ เจ็บมากไหมคะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงกังวล แต่คนไข้กลับยิ้ม

“เจ็บตอนคุณหมอกดครับ ลองกดอีกทีสิครับ" ฉันงง เอ๊ะ มันยังไงกัน เลยกดที่ท้องเขาเบาๆ อีกที ทีนี้เขาสะดุ้งแล้วร้องอีก แต่เพื่อนเขากลับหัวเราะลั่น มีแต่คนที่ยืนข้างหลังฉันเท่านั้นแหละที่นิ่ง ไม่มีเสียงอะไรออกมาเลย

“เจ็บจริงๆเปล่าคะเนี่ย ตายละ สงสัยต้องเปิดท้องดูใหม่ สักครู่นะคะ" ฉันพูด แล้วทำทีจะเดินออกจากตรงนั้น ฉันเริ่มรู้แล้วว่าผู้ชายพวกนี้กำลังแกล้งฉัน ขายหน้าชะมัด

“เดี๋ยว เพื่อนผมล้อเล่นน่ะครับ ขอโทษที" คุณอัศวินยืนกันฉันไว้ไม่ให้เดินผ่านไป ก่อนจะพูดกับฉันเสียงนิ่งๆ หน้านิ่งๆ ทำเอาฉันหน้าแดง และรู้สึกอายมากขึ้นไปอีก ทุกคนรวมถึงคนไข้หัวเราะกันไม่หยุด และมีการแซวอะไรไม่รู้ที่ฉันฟังไม่ออก ฉันหันไปมองพวกเขาด้วยใบหน้าแดงจัด ทั้งอายและโกรธ มองคุณอัศวิน แล้วเดินเลี่ยงผ่านตัวสูงใหญ่ของเขาไปโดยพลัน ขณะที่เดินออกมาฉันก็ได้ยินเสียงเพื่อนเขาพูดกันประมาณว่า

'ใช่หมอคนเมื่อคืนที่เอ็งบอกหรือเปล่าไอ้พี'

'คนละคนว่ะ แต่หน้าคล้ายกันเลย'

ฉันรีบหลบเข้าไปในเค้าน์เตอร์ห้องกระจกของพี่พยาบาล แล้วหันไปมองกลุ่มชายโฉดนั้นอีกทีหนึ่ง ฉันมองคุณอัศวินแวบเดียวแล้วหันหลังให้ทันที รู้สึกหนาวๆร้อนๆ อย่างไรไม่รู้

“อ้าวหมอตรวจเสร็จแล้วเหรอคะ" พี่กิ่งพยาบาลวัยกลางคนทักฉันขึ้น

ฉันทำหน้าหัวเสีย "ยังหรอกค่ะ โดนแซวเลยหลบเข้ามาก่อน กลุ่มนั้นเขามากันนานแล้วเหรอคะไปออกไปสักที"

พี่กิ่งรู้ทันทีว่าฉันหมายถึงกลุ่มไหน เธอชะเง้อหน้ามองผ่านไหล่ฉันไป แล้วหัวเราะเบาๆ "อ๋อกลุ่มนายทหารอากาศ เมื่อวานส่งตัวมาจาก รพ.ค่ายค่ะ เพราะหมอศัลยกรรมลาป่วย พวกเขารบกวนหมอเหรอคะ เดี๋ยวพี่ไปไล่ให้เอง"

พูดเสร็จพี่กิ่งก็เปิดประตูกระจกออกไป โดยที่ฉันห้ามไว้ไม่ทัน ตายล่ะ เดี๋ยวคุณวินคิดว่าฉันขี้ฟ้องแน่เลย

“หมดเวลาเยี่ยมแล้วนะคะ รบกวนออกไปก่อน อย่าเสียงดังรบกวนผู้อื่นด้วยค่ะ"

ไล่ทางนั้นเสร็จ ก็หันมายิ้มใจดีกับฉัน "เรียบร้อยค่ะหมอ แหมพวกนี้เห็นหมอสวยๆเป็นไม่ได้ เมื่อวานหมอขิมก็โดนแซวเหมือนกันคะ ถือว่าทำบุญนะคะหมอ พี่ไปฉีดยาคนไข้ก่อน" พี่กิ่งพูดอย่างรวดเร็ว แล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้น พร้อมๆกับที่พรรคพวกคุณวิน เดินผ่านห้องพยาบาลออกไป ทุกคนจ้องฉันเขม็งด้วยท่าทีทะเล้น ส่วนคุณวินยังคงใส่แว่นและมองฉันนิ่งๆเช่นกัน ทำเอาฉันเหมือนถูกสาป และชาไปทั้งตัว

โอ๊ย เขามีอิทธิพลต่อฉันมากไปแล้วนะ!

“อ้าวคุณวิน มาทำอะไรคะ!" เสียงดังฟังชัดของขิมดารา ดังมาแต่ไกล ก่อนที่ฉันจะได้เห็นตัวเธอ สติที่กำลังกระเจิงของฉัน กลับมารวมกันใหม่อีกครั้ง ห๊ะ ยัยขิมมาแล้ว!

คุณอัศวินและพรรคพวกที่กำลังจับกลุ่มอยู่หน้าหอผู้ป่วย ก็หันไปมองหมอสาวร่างบอบบางหน้าตาสะสวยกันเป็นตาเดียว ทุกคนดูตะลึง คุณวินก็เช่นกัน เขาปลดแว่นกันแดดราคาแพงออก แล้วส่งยิ้มเบาๆที่แทบจะทำให้ฉันละลายไปให้เพื่อนรักของฉัน
“สวัสดีครับคุณหมอ เจอกันอีกแล้วนะครับ"

แล้วขิมดาราก็ปรากฏตัวขึ้น ในชุดเดรสสีน้ำเงินที่ขับผิวขาวของเธอให้ผ่องขึ้นมาอีก ชายกระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อย กับเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด ผมออกสีน้ำตาลยาวประบ่า แต่งหน้าอ่อนๆ ดูน่ารักเป็นทีสุด หล่อนยิ้มให้เหล่าหนุ่มนักบินแบบไม่เคอะเขิน พร้อมกับส่งยิ้มกว้างและแววตาเจิดจรัสที่สุดให้คุณอัศวิน แล้วทั้งสองคนก็คุยกันเพียงสองคนโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ฉันยืนมองจากเค้าน์เตอร์พยาบาลด้วยท่าทีตะลึงสุดขีด จ้องทั้งสองคนไม่วางตา แล้วค่อยๆก้าวเดินจะออกไปโดยที่ฉันแทบไม่รู้ตัว ขาของฉันมันก้าวไปเอง และ โป๊ก!

“โอ๊ย!” ฉันร้องลั่นแล้วยกมือกุมหน้าผาก ฉันกระแทกเข้ากับประตูกระจกอย่างแรงน่ะสิ ทุกคนหันมาทางฉัน แล้วยัยขิมก็เรียกฉันเสียงดังลั่น ราวกับประกาศชื่อนางสาวไทย แต่เป็นนางสาวไทยที่ใส่ปี๊บคลุมหัวนะ ปัดโถ่เอ๊ย!

“พริม!” แล้วหล่อนก็เดินเปิดประตูเข้ามาหาฉัน ส่วนฉันก็เอนหลังพิงเคาน์เตอร์ มือกุมหน้าผาก ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด

“อ้าวเป็นอะไรล่ะเธอ นี่พริม คุณอัศวิน ที่ฉันเล่าให้ฟังเมื่อวานไงล่ะ"

ฉันรีบเปลี่ยนสีหน้าจากเหยเกเป็นเรียบเฉยทันที แต่มือยังกุมหน้าผากต่อไป แล้วฉันกับคุณอัศวินก็สบตากันจริงจัง แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน มีเพื่อนนักบินของเขามองฉันแล้วซุบซิบขำขันกันต่อไป

“อ่า..สวัสดีค่ะ..” ฉันยิ้มเจื่อนๆให้

เขาเดินเข้ามาใกล้ฉัน แล้วส่งยิ้มจางๆ แบบที่ฉันแปลไม่ออกว่า นี่คือยิ้มทักทาย หรือท้าทายกันแน่

“สวัสดีครับ...เราเคยเจอกันแล้วจริงไหม ถ้าไม่รบกวน...” แล้วเขาก็หันไปยิ้มอย่างหล่อที่สุดและกว้างที่สุดให้ขิมดารา ต่างกับที่ยิ้มให้ฉันโดยสิ้นเชิง

“...กลางวันนี้ผมขอเลี้ยงข้าวกลางวันคุณหมอได้ไหมครับ ขอบคุณเมื่อวานที่สั่งยาดีให้ผม หายปวดเลย"

แล้วก็หันมาสบตาฉัน ทำเอาฉันสะดุ้งเล็กน้อย "คุณหมอไปด้วยกันนะครับ"

ฉันไม่ได้ตอบรับ ได้แต่ยืนนิ่ง เอามือลงจากหน้าผาก มองขิมดาราทีหนึ่ง คุณอัศวินทีหนึ่ง แล้วขิมดาราก็แย่งตอบเสียงดังฟังชัด

“ยินดีค่ะ เที่ยงตรงนะคะ"






ภาพพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 เม.ย. 2558, 23:14:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 เม.ย. 2558, 23:14:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1177





<< เนื้อคู่   ตอนที่3: รอได้ >>
เดิมเดิม 15 เม.ย. 2558, 22:21:09 น.
หนูพิมพ์เจ็บตัวตลอดๆ


ภาพพิมพ์ 16 เม.ย. 2558, 21:31:13 น.
มาเม้นตลอดเลย ขอบคุณคะ รอตอนต่อไป แพพ นะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account