เล่ห์ร้าย...ดวงใจปรารถนา
เพราะไฟปรารถนาที่ลุกโชนภายในจิตใจ ทำให้คิมหรัตน์ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้สาวน้อยอย่างชื่นชีวามาครอบครอง แม้จะรู้ดีว่ามันไม่สมควรเพราะเธออยู่ในฐานะเด็กในการอุปการะของพี่สาวตัวเอง แต่เมื่อเสียงของหัวใจเรียกร้องเกินทัดทาน เขาจึงยอมสวมบทเป็นซาตานร้ายเพื่อพิชิตใจเธอ
Tags: แนวตบจูบ...

ตอน: น้ำตาลใกล้มด 1.1

ในตอนบ่ายของวันถัดมา...
แสงแดดยามสายส่องแสงละมุน ไอแดดในช่วงบ่ายที่เริ่มคล้อยเข้าสู่ตอนเย็นไม่ร้อนอบอ้าวมากนัก ภายในบ้านอิสระกุลชัยหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่หลายสิบไร่ ซึ่งออกแบบในสไตล์สเปนแซมด้วยสไตล์โรมันตกแต่งออกมาสวยเด่นและลงตัวที่สุด สนามหญ้าเขียวขจีกว้างขวาง สระว่ายน้ำใหญ่ตั้งเด่นอยู่กลางบ้าน เนื่องจากเจ้าของบ้านทั้งสองพี่น้องเป็นลูกครึ่งไทย – สเปน ทำให้การตกแต่งบริเวณบ้านครอบคลุมไปด้วยสองเชื้อชาติ
ชื่นชีวาตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อช่วยป้านวลทำอาหารและช่วยลุงสนรดน้ำต้นไม้ ดวงตากลมโตนั่งมองดอกไม้ที่ตัวเองเคยปลูกไว้ในสมัยเด็กก่อนจะบินไปเรียนต่อยังต่างประเทศ รอยยิ้มสวยเผยยิ้มกว้างชื่นชมกับความงดงามของสวนเล็กๆ ด้วยท่าทางที่มีความสุขกับบรรยากาศร่มรื่นของบ้าน สีหน้าและแววตาบ่งบอกได้ถึงความสดใสเต็มเปี่ยมไปด้วยความสบายใจ
“คุณหนูค่ะ มาทานขนมก่อนค่ะ มาเร็ว” เสียงเอ่ยเรียกของป้านวลที่ดังแว่วมาจากในครัว เรียกสติให้ชื่นชีวาต้องหันไปมองตามปลายเสียงที่ได้ยิน
“ค่ะป้า เดี๋ยวชีวาขอล้างมือก่อนนะค่ะ” เสียงใสตอบรับอย่างเข้าใจ พร้อมทั้งเดินไปล้างมือยังก๊อกน้ำที่ติดตั้งไว้ไม่ไกลนัก ก่อนจะเดินเข้ามาในครัวซึ่งมีขนมหน้าตาแปลกที่เธอไม่เคยได้ทานมาก่อนวางอยู่ ชื่นชีวานั่งลงมองหน้าตาของขนมชิ้นพอดีคำที่มีลักษณะสีเหลืองเข้ม นุ่มฟู โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดฝอยชิ้นเล็กๆ ชื่นชีวานั่งมองอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จมูกโด่งจะก้มลงสูดดมกลิ่นหอมหวานซึ่งหน้าตาของเจ้าขนมที่ไม่คุ้นตานี้เรียกความสงสัยให้เธอต้องเอ่ยปากถามหญิงสูงวัย
“ขนมอะไรค่ะป้านวล น่าตาน่าทานจังเลย” อาจจะเป็นเพราะเธอใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเลยไม่รู้จักขนมไทยที่ป้านวลทำ
“ขนมตาลค่ะ ลองทานดูนะค่ะ” มือน้อยหยิบช้อนส้อมอันเล็กกะทัดรัด จิ้มขนมสีสวยชิ้นพอดีคำในจานส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยความเอร็ดอร่อย
“อร่อยจริงๆ ด้วยค่ะป้านวล ป้านวลนี่เก่งจริงๆ ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไรก็อร่อยถูกปากไปหมดเลย สงสัยชีวาต้องอ้วนเป็นหมูแน่ๆ เพราะโดนป้านวลเลี้ยงดูแบบนี้ทุกวัน” ชื่นชีวาพูดทั้งที่ยังเคี้ยวขนมอยู่ในปาก ก่อนจะเผยยิ้มออกมาจนแก้มปริ จนคนมองอดยิ้มตอบกับความน่ารักน่าชังของเธอเสียไม่ได้
“ค่ะ อย่าเบื่อฝีมือป้าก็แล้วกันนะค่ะ ทานเลยค่ะ ทานให้เยอะๆ เลย” ความสดใสขี้อ้อนของชื่นชีวาทำให้หญิงสูงวัยต้องเอื้อมมือมาหยิกแก้มนวลของคุณหนูคนสวยอย่างนึกมันเคี้ยวและจังหวะนั้นเอง
“ปี้น ปี้น ปี้น...” เสียงแตรรถที่ดังสนั่นจากหน้าบ้านเรียกความตื่นตัวจากคนรับใช้ให้ออกไปดูเช่นเดียวกับชื่นชีวาที่รีบวางมือจากการหยิบช้อนป้อนขนมเข้าปาก
“เสียงรถ สงสัยคุณแคทจะกลับมาแล้วล่ะค่ะ” ป้านวลพูดขึ้นเพราะรู้ดีว่าวันนี้แคททรียาจะต้องเดินทางกลับมาจากการติดต่องานที่ญี่ปุ่นในวันนี้
“เดี๋ยวชีวามาหม่ำต่อนะค่ะ ชีวาไปหาคุณแคทก่อน” พูดจบร่างสวยของชื่นชีวาก็วิ่งออกจากห้องครัวอย่างทุลักทุเลเพราะปากบางยังเคี้ยวขนมตุ้ยๆ ไม่ขาดปาก
“ค่ะ ระวังด้วยนะค่ะคุณหนูอย่าวิ่งพลีพลามสิค่ะ เดินไปก็ได้เดี๋ยวหกล้มนะค่ะ” ความน่ารักของหญิงสาวเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าของหญิงสูงวัยอย่างป้านวลได้เป็นอย่างดีไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปกี่ปีความสดใสแก่นแก้วของชื่นชีวาก็ยังเหมือนเดิม
ทันทีที่รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดสนิทหน้าอาคารทรงสเปน มีคอร์ดที่จัดเป็นสวนน้ำพุและพันธุ์ไม้ร่มรื่น ทางเดินรอบคอร์ดจัดทำเป็นช่องโค้งรับกับประตูทางเข้าของบ้านอิสระกุลชัย หญิงสาวร่างปราดเปรียวขาเรียวยาว ผิวขาวอมเหลืองบ่งบอกถึงโครงหน้าที่เหยียดไปทางชาวตะวันตกมากกว่าชาวไทย เรียวขาสวยก้าวลงจากรถ ในมือถือข้าวของพะรุงพะรังจนล้นมือ แถมด้วยข้าวของที่บรรจุอยู่ท้ายรถอีกหลายจำนวน
“คุณแคทกลับมาแล้ว ดีใจจังเลยค่ะ” หวานสาวใช้วัยแรกรุ่นเดินออกมารับเจ้านายด้วยท่าทางดีใจ
“เอานี่ไปเก็บนะหวาน” ของฝากมากมายที่แคททรียาหิ้วกลับมาฝากคนในบ้าน ความอบอุ่นของบ้านนี้คือการดูแลซึ่งกันและกันคอยเอื้อเฟื้อจุนเจือเหมือนเป็นพี่น้องกันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ทุกคนที่เข้ามาอยู่ในบ้านนี้จึงมีแต่รอยยิ้มและความสุข ไม่ว่าแคททรียาจะไปประชุมที่ไหนหรือแม้แต่ไปเปิดแฟรนไชส์ที่ต่างประเทศเธอก็จะซื้อของมาฝากบรรดาคนรับใช้อยู่เสมอ
“คุณแคทสวัสดีค่ะ” ชื่นชีวาที่ได้ยินเสียงรถแล่นมายังตัวบ้าน เลยถือโอกาสวิ่งตามร่างของหวานมาติดๆ เพราะเธอรู้ดีว่าวันนี้แคททรียาจะต้องกลับมาถึงบ้าน ร่างบางพนมมือยกขึ้นไหว้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มส่งผ่านทางแววตา ลักยิ้มสองข้างเผยรอยยิ้มกว้าง สีหน้าที่แสดงออกมาอย่างจริงใจและสุขใจเป็นที่สุดกับการได้พบเจอคนที่เธอเฝ้ารอมาหลายวัน
“ชีวา คิดถึงจังเลย มาให้พี่กอดให้หายคิดถึงหน่อยมา” ริมฝีปากบางเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกเหนื่อยก่อนจะก้าวเข้าสู่ตัวบ้านโดยไม่ลืมที่จะดึงร่างของชื่นชีวาเข้ามาสวมกอด สีหน้าของแคททรียาและชื่นชีวาตอนนี้ดูทั้งคู่มีความสุขเป็นอย่างมาก
“ชีวาก็คิดถึงคุณแคทค่ะ” ปากบางเอื้อยเอ่ยปนเสียงสะอื้นเล็กน้อยเพราะความคิดถึง
“เมื่อไหร่จะเลิกเรียกพี่ว่าคุณสักทีนะ บอกให้เรียกว่าพี่ พี่แคทเข้าใจหรือเปล่าจ๊ะ” แคททรียาคลายอ้อมกอดออกจากร่างเล็ก หลังจากกอดกันจนชื่นใจอยู่พักใหญ่พร้อมทั้งส่งสายตาเป็นเชิงขู่กับคำพูดที่ชื่นชีวาเอ่ยออกมาเพราะหญิงสาวไม่ยอมเรียกเธอว่าพี่เต็มปากเต็มคำสักที ทั้งที่ความจริงแล้วเธอต้องการให้ชื่นชีวาเรียกเธอว่าพี่เพื่อความสนิทชิดใกล้เพราะแคททรียาคิดเสมอว่าเธอรักชื่นชีวาเหมือนกับน้องสาวอีกคน
“ค่ะ พี่แคท” เสียงตอบรับเริ่มเจือปนไปด้วยน้ำเสียงสั่นเทา อ้อมกอดที่คลายออกเล็กน้อยแต่มันแฝงไปด้วยไออุ่น ความรักความห่วงใยที่มีให้เธอตลอดมา การห่างเหินทำให้ความคิดถึงยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ น้ำใสๆ ไหลลงมาอาบคลอแก้มเนียนทั้งสองข้าง
“ร้องทำไมเด็กขี้แง ร้องทำไมจ๊ะไหนบอกพี่สิ” แคททรียาพูดแทรกขึ้นทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้ากำลังสะอื้นไห้ ความผูกพันระหว่างเธอและชื่นชีวามีมากมายจนรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนที่ชื่นชีวามีโดยตลอดการเจอกันหลังจากที่ไม่ได้พบหน้ากันหลายเดือนทำให้ทั้งสองคนรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยกันมากขึ้นกว่าเก่า มือบางเอื้อมมาแตะแก้มนวลปัดหยาดน้ำตาที่ไหลเอ่อแก้มเบาๆ อย่างห่วงใย
“ชีวาคิดถึงพี่แคท คิดถึงมากด้วย” เสียงใสปนสะอื้นตอบรับพร้อมทั้งประชิดร่างเข้าสวมกอดร่างของแคททรียาแน่นขึ้นกว่าเดิมเพราะเยื่อใยบางอย่าง ชื่นชีวารู้สึกได้ถึงไออุ่นความเมตตาและความจริงใจจากผู้หญิงคนนี้ที่ทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้พบเจอกัน
“พี่ก็เหมือนกัน” แคททรียากระชับวงแขนโอบกอดน้องสาวอุปการะไว้แน่น น้ำใสเริ่มคลอคลอเอ่อขอบตาออกมาเล็กน้อยความห่างไกลทำให้เธอรู้สึกสะท้อนความคิดถึงที่มีต่อหญิงสาวในอ้อมแขน
“พี่แคทเข้าไปพักผ่อนในบ้านก่อนเถอะค่ะ กลับมาเหนื่อยๆ” หลังจากทั้งสองได้ซึมซับความคิดถึงกันพักใหญ่ ชื่นชีวาจึงยอมคลายอ้อมกอดออกจากร่างของแคททรียา ยอมให้หญิงสาวได้เป็นอิสระ
“ได้เลยจ๊ะ...” สองร่างเดินจูงมือกันเข้าไปยังตัวบ้าน ภาพการแสดงความรักของทั้งสองคนทำให้ป้านวลรู้สึกอดปลื้มใจไม่ได้กับความรักความอบอุ่นที่ทั้งสองสาวมีให้แก่กัน
“ดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อนนะค่ะมาถึงเหนื่อยๆ”
“ขอบคุณค่ะป้า” ริมฝีปากอิ่มสีชมพูอมยิ้มหวานให้กับหญิงสูงวัยที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาหลายสิบปีจนรู้ใจกันเป็นอย่างดี ก่อนจะไถ่ถามถึงเรื่องของคิมหรัตน์น้องชายเพียงคนเดียวที่เธอยังไม่เห็นหน้าเขาเลยตั้งแต่กลับมา
“แคทไม่อยู่คุณหนูเทวดาของป้าแผลงฤทธิ์บ้างหรือเปล่าค่ะ”
“โธ่ ...ไม่มีหรอกค่ะ ป้าก็เห็นคุณคิมทำแต่งาน กลับบ้านก็ดึกแทบจะทุกวัน คงจะเป็นเพราะมัวแต่เคลียร์งาน คงจะไม่มีเวลามาก่อกวนใครหรอกค่ะ วันนี้ก็ออกไปบริษัทตั้งแต่เช้าค่ะ บอกป้าว่ามีประชุมสำคัญ อาหารเช้าก็ไม่ทานเสียด้วยป้าล่ะอดเป็นห่วงไม่ได้เลยนะค่ะกลัวว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย” ป้านวลร่ายประโยคยาวเหยียด ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับแคททรียาเพื่อบ่งบอกให้รู้ว่าน้องชายของเธอทำตัวดีตลอดไม่เที่ยวเตร่เคยเถลไถลที่ไหน แถมยังขยันขึ้นทุกวัน
“ก็ดีแล้วค่ะ เจ้าน้องชายคนนี้ไม่รู้เมื่อไหร่จะรู้จักโตเสียที ชอบทำตัวเป็นเด็กอยู่ตลอดทั้งที่อายุก็ล่วงเข้าสู่วัยดึกแล้ว เพื่อนร่วมรุ่นหลายคนเขาก็แต่งงานแต่งการมีลูกทันใช้กันหมดแล้ว แต่ดูตาคิมสิค่ะป้ายังลอยชายไปมาเหมือนพ่อพวงมาลัยอยู่เลย” แคททรียายิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่อย่างน้อยน้องชายเธอไม่ทำตัวสำมะเลเทเมาเหมือนตอนที่อยู่เมืองนอกอาจจะเป็นเพราะตอนนี้วุฒิภาวะของคิมหรัตน์ที่โตขึ้นทำให้ชายหนุ่มรู้จักรับผิดชอบมากขึ้นจึงทำให้เธอเบาขึ้นมาเยอะ
“ของแบบนี้แล้วแต่บุญและก็วาสนาค่ะ ถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันหรอกค่ะเชื่อป้าเถอะค่ะ ถ้าคู่ยังไม่มาก็รอต่อไป”
“มันก็คงจะจริงนะค่ะป้า ดูอย่างแคทสิค่ะ อยู่จับคานโสดมาจนถึงป่านนี้แล้ว สงสัยเนื้อคู่แคทจะยังไม่เกิดนะค่ะ”
“ไม่จริงหรอกค่ะ คุณแคทไม่หันมองใครต่างหากล่ะค่ะ ป้าว่าคุณแคทขึ้นไปนอนพักก่อนดีกว่าค่ะ นั่งเครื่องมาเหนื่อยๆ” หลังจากพูดคุยสาระทุกข์สุขดิบกันได้พักใหญ่ สีหน้าที่ดูเหนื่อยหน่ายของแคททรียาที่ดูซีดเซียวทำให้หญิงสูงวัยอย่างป้านวลรีบแย้งให้หญิงสาวขึ้นไปพักผ่อน
“แคทก็ว่าจะขึ้นไปพักเหมือนกันคะป้า ไม่ไหวแล้วตอนนี้เริ่มจะมึน โลกเริ่มหมุนวนรอบตัวแล้ว”
“เดี๋ยวป้ายกน้ำมะตูมขึ้นไปให้นะค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ชีวาจ๊ะ ไว้คืนนี้เราค่อยคุยกันนะ พี่ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ ไม่ไหวแล้วสายตาเกเรไม่ยอมฟังจะปิดท่าเดียวเลย” แคททรียาเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้านเพื่อจะพักผ่อน คลายความเหนื่อยล้าจากงานการทำงาน การบริหารบริษัทใหญ่โตแถมยังมีแฟรนไชส์หลายพันสาขาเกือบทั่วทวีปเป็นเรื่องที่ทำให้เธอทำงานสายตัวแทบกระเด็น การบริหารจัดการคนไหนจะต้องหมั่นตรวจสอบสินค้าจนแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อน
“คะ...พี่แคท” ชื่นชีวาพยักหน้าตอบรับก่อนจะมองร่างของแคททรียาที่เดินขึ้นชั้นบนของบ้าน ก่อนจะเดินตามป้านวลเข้าไปในครัว



ชมพูทิวา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ค. 2554, 21:32:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ค. 2554, 21:32:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1580





<< โชคชะตาที่พัดพาให้มาเจอ 1.2   น้ำตาลใกล้มด 1.2 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account