บทเรียน (รัก) นอกตำรา
นพมัลลี นักศึกษาฝึกสอนที่จบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน
เธอต้องมาฝึกอยู่ในโรงเรียนพิชญ์ปรีชา โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง
หญิงสาวไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตของเธอที่เคยเปลี่ยนแปลงไปมา
หาความมั่นคงในชีวิตไม่ได้มาตลอด
จะเทียบไม่ได้เลยกับการมาเป็นครูฝึกสอนที่นี่เพียงไม่กี่เดือน

นอกจากต้องรับมือกับพวกนักเรียนแสบที่เอาแต่สร้างปัญหาให้เธอ
นพมัลลียังต้องมาระแวงกับ ตุนท์ ครูที่ปรึกษาร่วมที่เอาตัวมาวอแวกับเธอไม่เลิก

แต่ไม่ว่าปัญหาจะมากมายเท่าไหร่
สิ่งเดียวที่นพมัลลีต้องทำคือการจบการศึกษาไปให้ได้

มีสิ่งล้ำค้าสิ่งหนึ่งในชีวิต...กำลังรอคอยเธออยู่

Tags: นพมัลลี ตุนท์ คมิก พิชญ์ปรีชา

ตอน: บทที่ 31 : ยินดีรับฝากตลอดชีพ

บทที่ 31

บ้านพักสองหลังสุดท้ายมีพื้นที่ว่างมากขึ้นในช่วงเปิดเทอมสอง นพมัลลีกลับจากการไปส่งมัลลิยา ธริท และมะลิเพื่อเดินทางไปอเมริกา โดยพวกเขาตั้งมั่นว่าจะย้ายไปอยู่ที่นั่นโดยไม่หวนกลับมาแผ่นดินไทยนี้อีก เพราะธริทก็ได้งานใหม่ที่นั่นแล้ว อย่างน้อยมัลลิยาก็บอกไว้ว่าทันทีที่คลอดลูก เธอจะส่งรูปกลับมา และจะติดต่อมาหาเธอหากเธอคิดถึงพวกเขา หญิงสาวเอาแต่ยิ้มไม่หุบ แม้จะเศร้าใจที่ต้องแยกจากพวกเขา

“ยิ้มไม่หุบเลยนะ” ตุนท์เอ่ยเสียงมาขัดอย่างพาลๆ

นพมัลลีเหล่มอง ‘คนขี้งอน’ ที่ยังไม่เลิกเคืองเรื่องที่เธอตัดสินใจไปเรียนต่อ ช่วงนี้เธอถึงยิ่งประจบเขาเป็นการใหญ่ แค่ไปเรียนต่อ ไม่ได้เลิกรากันเสียหน่อย

“ถึงจะห่างกันไปไกล แต่เหมือนว่าฉันกับครอบครัวจะเข้าใจกันมากขึ้นนี่คะ เราจากกันด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่ความชิงชัง ไม่ชอบขี้หน้า” หญิงสาวมองร่างเล็กที่นอนหลับสนิทตรงเบาะหลังด้วยสายตาที่อ่อนแสงลง นวมลลิ์อดทนที่จะไม่ร้องไห้ กระทั่งพ้นประตูสนามบินหญิงสาวก็ร้องไห้จ้า บอกว่าไม่อยากให้พวกเขาทั้งสามคนจากไป ทวิชเองก็ถือโอกาสบินกลับออสเตรีย หลังจากเบี้ยวงานมาพักใหญ่ และบอกว่าจะรอเธอเดินทางไปหาในวันหลัง ส่วนนพยาก็กลับไปบ้าน เริ่มต้นชีวิตวัยเกษียณอันโดดเดี่ยว นพมัลลีเคยออกปากชวนให้ท่านมาอยู่ด้วยกันแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ

‘แค่มาเยี่ยมพ่อบ้างก็พอแล้วลี พ่อเองก็อยู่ติดบ้านนั้นไปแล้ว’

ดูเหมือนปัญหาในครอบครัวที่เรื้อรังมานานจะถึงคราวผ่อนคลายลง แต่ละคนมีทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เธอกลับรู้สึกว่าเส้นทางนี้จะทำให้แต่ละคนมีความสุขกันดีที่สุดแล้ว

“นี่ตั้งใจบอกผมใช่ไหม”

นพมัลลีลงรถ และรอให้ตุนท์เปิดประตูอุ้มนวมลลิ์ที่หลับอิงไหล่ตุนท์ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ คำว่าครอบครัวที่เธอเคยคิดว่าจะไมได้สัมผัสจริงๆ วันนี้เธอกำลังได้รับรู้หลังจากขาดมันมานาน ผู้ชายตัวโตขี้งอนได้แต่มองตัดพ้อใส่เธอทุกครั้งที่มีโอกาส

“เปล่านะคะ พูดรวมๆ แต่ถ้าตุนท์จะเข้าใจแบบนั้นก็ไม่ว่ากันค่ะ ใช้กับตุนท์ได้เหมือนกัน”

คนฟังค้อนคนพูดตาคว่ำ เขารู้ว่าขัดขวางอนาคตของนพมัลลีไม่ได้ ถึงเขาจะพูดไปมากมายหลายเหตุผลก็ถูกนพมัลลีสวนกลับมา ซ้ำร้ายนับวันหญิงสาวยังมีลูกอ้อนลูกออดมาทำให้เขาใจอ่อนยวบ ได้แต่ฮึดฮัดไปเรื่อยในตอนนี้

‘ทำไมต้องไปออสเตรีย ที่ไทยก็มีให้เรียนตั้งเยอะแยะนะลี’

‘ฉันรู้ค่ะว่าที่ไทยก็มีเยอะ แต่ฉันก็อยากไปเรียนที่โน่น ฉันจะได้รู้ว่าตอนที่แม่อยู่ที่โน่นก่อนเสียท่านเป็นยังไงบ้าง ฉันอยากอยู่ในบ้านที่ลุงกับแม่เคยอยู่’

‘ตั้งสองสามปี ค่าใช้จ่ายเยอะนะ’

‘ลุงบอกว่าฉันสามารถใช้ผลงานที่ฉันเคยวาดๆ ทำเป็นพอร์ทยื่นขอทุนกับทางมหาวิทยาลัยได้ค่ะ ลุงเขาก็พอจะรู้จักผู้คนทางนั้นอยู่ ไม่น่าจะลำบากอะไร’

‘แล้วตัวเล็กล่ะ เขาไม่ลำบากเหรอ เรียนที่นั่นไม่กี่ปีเดี๋ยวก็ต้องย้ายตามกลับมาไทย’

‘ฉันอยากให้ตัวเล็กได้พัก ได้เปลี่ยนสถานที่บ้างค่ะ อยู่ที่โน่นคงเปิดโลกใบใหม่ของแกได้ ไหนจะช่วยเรื่องภาษาอีก ฉันเกริ่นๆ กับตัวเล็กไว้ เขาก็ชอบมากนะคะ บอกว่าฉันอยู่ที่ไหนก็จะตามไปอยู่ที่นั่น’

‘แล้วผมล่ะ’

‘ฉันสัญญาว่าถ้ามีเวลาจะรีบกลับมาเยี่ยมคุณนะคะ ฉันรู้ว่าคุณจะอนุญาต...ก็คุณเข้าใจฉันนี่คะ’

นพมัลลีดักทางเขาไว้เรียบร้อย ปิดประตูห้ามเถียง ตุนท์ได้แต่ยอมรับทั้งที่ไม่อยากยอมรับนัก เขาอายุสามสิบแล้ว ขืนรอนานกว่านี้หน้าตาเขาอาจไม่หล่อบาดใจ ไหนจะนพมัลลีมีโอกาสได้พบหนุ่มที่โน่นอีก เขาล่ะระแวงจริงๆ สองสามปีหายใจฟืดฟาดหลายทีก็ยังไม่ถึงสักที

“อย่างนี้คุณก็ผิดสัญญากับพวกนักเรียนที่ว่าจะอยู่ให้ครบปีสิ”

“พวกเขาจะเข้าใจฉันค่ะ หรือไม่อย่างนั้นก็ไว้ไปลงเรียนช่วงเทอมกันยา คุณจะรอฉันนานขึ้น คุณยอมใช่ไหมคะ สำหรับฉันไม่มีปัญหาอะไรเลย”

ตุนท์วางนวมลลิ์ลงบนที่นอนในห้อง ก่อนจะหันมาทำหน้านิ่งใส่คนที่คิดจะจากไปลูกเดียว ในเทอมใหม่นี้นพมัลลีตัดสินใจจะอยู่ถึงแค่ปีใหม่เท่านั้น แล้วจะบินไปเรียนต่อทันที

“ผมเหงายังไงคุณก็ไม่สนใจเลยล่ะสิ”

“สนใจสิคะ” นพมัลลีเดินมาคล้องแขนกำยำที่มีไหล่อุ่นให้เธอซบได้ตลอดเวลา “แต่ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าว่าฉันไม่คู่ควร ไม่เหมาะสมกับคุณ คุณเป็นถึงดร. เป็นทายาทของพิชญ์ปรีชา แล้วฉันล่ะ คุณแม่ลูกหนึ่งที่เรียนจบไม่ตามเกณฑ์ ฉันไม่อยากให้คุณดูไม่ดีในสายตาใคร อย่างน้อยๆ ฉันอยากเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง รวมทั้งตัวเล็ก”

“คุณไม่ควรแคร์คนนอกเลย”

“ไม่แคร์ไม่ได้ค่ะ เราอยู่ในสังคมใหญ่ ฉันเคยคิดว่าอยากอยู่ในโลกนี้อย่างไม่แคร์ใคร สุดท้ายคุณเห็นไหมว่าชีวิตฉันเป็นยังไง ยังดีที่ฉันได้มาเจอคุณ เจอแม่ของคุณ คุณกับแม่คือบุคคลที่ฉันแคร์”

“ผมต่างหากที่อยากทำให้ได้เหมือนคุณ อยากแข็งแกร่ง อดทน คุณเก่งกว่าผมนะลี บางครั้งก็ไม่ต้องไปวิ่งตามกระแสสังคมเลย คุณเก่ง หาเงินส่งตัวเองเรียนได้”

นพมัลลีพิงศีรษะกับไหล่ของตุนท์ ยิ้มทั้งที่หน้ากำลังร้อนผ่าว เธอคิดมาดีแล้วสำหรับเรื่องนี้เช่นกัน “ถ้าคุณอยากได้ความมั่นคงทางจิตใจเพิ่มขึ้น ทำไมคุณไม่ขอฉันแต่งงานล่ะคะ”

“ลี!” ตุนท์หลุดเสียงเรียกออกมาอย่างเหลือเชื่อ ยืนอึ้งไปชั่วขณะ

“ผมต้องไปดูงานที่โรงเรียนหน่อย” ตุนท์จูบขมับของนพมัลลีก่อนไป ปล่อยให้คนหลุดปากออกไปก่อนบืนคว้าง ก่อนจะรู้สึกว่าเวรกรรมมีอยู่จริง ครั้งหนึ่งเธอเคยปฏิเสธเขาด้วยเหตุผลของปัญหาในชีวิต ครั้งนี้เธอกำลังถูกตุนท์ปฏิเสธเพราะเธอดื้อจะทิ้งเขาไปในที่ที่ไกล แต่ก็ยังเห็นแก่ตัวคิดผูกมัดเขาไว้ใช่ไหม

อารมณ์ดีถูกกลบด้วยความรู้สึกย่ำแย่ ถึงจะเสียใจมากมายแค่ไหน แต่เรื่องเรียนต่อที่เธอตัดสินใจไปแล้วก็ยากจะเปลี่ยนจริงๆ



วันแรกของการเปิดเทอม นพมัลลีไม่มีการสอน หลังจากตุลารู้เรื่องที่เธอคิดจะไปเรียนต่อ จากครูประจำก็กลายเป็นเป็นครูพิเศษ ที่ทางโรงเรียนจ้างมาสอนนับเป็นชั่วโมง ไม่ต้องส่งแผนการสอนใดๆ ให้ยุ่งยากอีก หญิงสาวจึงมีเวลามายึดห้องศิลปะอันกว้างขวางที่เคยเป็นห้องเก็บของอยู่หลายปี

ดินสอสีร่างแบบไปบนแคนวาสจนเสร็จ ลงรายละเอียดจนมั่นใจว่าครบถ้วนดีแล้ว หญิงสาวจึงกลับมาสนใจกับสีน้ำมันที่วางอยู่บนโต๊ะสูงระดับเอว ซึ่งพอดีกับเธอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มีพนักพิง นพมัลลีเลือกหยิบสีไม่กี่สีออกมาก่อน บีบใส่จานสี และผสมซ้ำด้วยลินสีด เมื่อเธอเริ่มลงสีไปเรื่อยๆ หลายครั้งที่หยุดรอให้สีแห้งก่อนลงรายละเอียดซ้ำ เมื่อเธอเงยหน้ามองนาฬิกาอีกครั้งภาพบ้านหลังกะทัดรัดโอบล้อมด้วยสวนหย่อมก็จวนจะเสร็จ เหลือเพียงเกลี่ยสี เล่นเงา และเก็บรายละเอียด โดยต้องรอสีให้แห้งแล้วมาลงต่อในวันรุ่งขึ้นได้

“ถ้าพ่อของตุนท์มาเห็นเธอ เขาคงดีใจที่สิ่งที่เขารักมีคนสืบทอด”

“ท่านผอ.” ตุลากระแอมเตือน นพมัลลีจึงยิ้มแหย วางพู่กัน ยกมือทำความเคารพก่อนเปลี่ยนการเรียกขานใหม่ “ค่ะแม่”

“ฉันไม่ค่อยเห็นเธอแสดงฝีมือ วันนี้เลยตั้งใจมาดูหน่อย ตุนท์เขาบอกว่าเธออยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว”

“ค่ะ”

“กินข้าวเที่ยงหรือยัง นี่จะหกโมงเย็นอยู่แล้ว”

อีกครั้งที่นพมัลลียิ้มแหยตอบกลับมา ทุกครั้งที่เธอคร่ำเคร่งกับงานศิลปะ อะไรก็ล้วนไม่สำคัญ ขนาดนวมลลิ์ที่มานั่งวาดรูปเล่น ทานข้าวทานขนมในห้องก็ยังร้องงอแงตั้งแต่บ่ายแก่ๆ จนเธอต้องเรียกนิลุบลมาดูแล เทอมใหม่นี้นิลุบลไม่ต้องเรียนกศน.อีก แค่ลงเรียนเทอมสุดท้ายในโรงเรียนนี้ให้จบ เพราะมีใบผลการเรียนจากโรงเรียนเก่ามาเรียนต่อที่นี่แล้ว

“อย่าบอกนะว่าลืม แค่มื้อเที่ยงยังลืม อย่างนี้เธอจะไม่ให้ลูกชายฉันเป็นห่วงได้ยังไง”

“ฉันจะไม่ลืมอีกค่ะ”

“แทนตัวเองใหม่” ตุลาไม่ปล่อยผ่านง่ายๆ

นพมัลลีกลั้นยิ้ม “ลีจะไม่ลืมอีกค่ะ”

“ค่อยดูไม่ห่างเหินหน่อย” ตุลาพยักหน้ารับอย่างพอใจ พินิจรูปที่นพมัลลีวาด “รูปนี้เธอขายไหม ฉันอยากซื้อ”

“ลีตั้งใจวาดให้แม่กับตุนท์ติดไว้ที่บ้านค่ะ”

“รูปภาพสะท้อนจิตใจของผู้วาดใช่ไหม ตอนนี้ในใจของเธอถึงมีบ้านที่น่ารัก อบอุ่นถ่ายทอดออกมา”

“แต่ก่อนลีไม่เคยวาดภาพพวกนี้ให้มีชีวิต สดชื่น สดใสได้เลยนะคะ ภาพส่วนใหญ่ที่ลีเคยวาดจะหม่นๆ เสมอ” หญิงสาวขยับปากเล่าอย่างยินดี เธอยังมีภาพจากเทอมที่แล้วเรียงรายอยู่ในห้องอีกสี่ถึงห้าภาพ และบางส่วนที่เธอฝากให้ดิศไปขาย ส่วนใหญ่จะเป็นโทนหม่น ไม่ก็แฝงด้วยแง่คิดของชีวิตที่มีการเหน็บแนมสังคม คงจะมีแค่ภาพที่วาดตามคำสั่ง หรือแบบที่ลูกค้าจ้างมาเท่านั้น อารมณ์ของภาพจึงไม่ถูกเธอควบคุม

“รูปนี้มีชื่อไหม”

“’บ้าน’ ค่ะ”

หญิงกลางคนแทบไม่อยากเชื่อตัวเองเช่นกัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อนนางยังตั้งป้อมกับนพมัลลีที่ดูอย่างไรก็ไม่มีอะไรควรคู่กับลูกชาย ทั้งฐานะ หน้าตาสังคม ความรู้ กระทั่งนางเห็นถึงความรักที่ลูกชายมีต่อหญิงคนนี้ และความจริงที่นพมัลลีเผชิญมาตลอด กว่าจะเติบโตขึ้นมาได้ ผู้หญิงคนนี้น่าจะแข็งแกร่งกว่าพวกลูกผู้ดีตีนแดง เรื่องความรู้นพมัลลีไม่ได้ขี้เกียจเรียน แต่ที่จบช้าหนึ่งเพราะมีลูก และสองเพราะยึดมั่นในความถูกต้อง ไม่ยอมอ่อนข้อให้คนเลวๆ เธอจึงถูกรังแก ส่วนเรื่องเงิน ถ้าขยัน และรู้จักเก็บหน่อยทำไมจะมีไม่ได้ ในอนาคตอันใกล้นพมัลลีจะพิสูจน์ตัวเองให้ควรคู่กับตุนท์ แม้นางจะไม่เคยออกปากขอมาก่อนก็ตาม

“ฉันดีใจที่ได้พบและรู้จักเธอ เธอเองก็มาเปิดมุมมองให้คนแก่ๆ อย่างฉันไม่น้อยเลย ขอบคุณเธอมากนะ”

นพมัลลีส่ายศีรษะไม่เห็นพ้อง “เป็นลีต่างหากล่ะคะที่ต้องขอบคุณทั้งตุนท์ ทั้งแม่ ที่ทำให้ชีวิตของลีเปลี่ยนแปลงไป ลีมีความสุขกว่าแต่ก่อนมากเลยนะคะ”

ตุลาซ่อนรอยยิ้มพึงใจไว้ เฉเปลี่ยนเรื่องด้วยการเดินดูภาพในห้อง ก่อนมาหยุดยังเบื้องหน้าภาพวาดของสามีผู้ล่วงลับ นานมาแล้วที่นางไม่มีเวลามาพินิจผลงานของปราชญ์ ทั้งยังเอาเวลาไปทำโน่นนี่จนน้อยครั้งที่จะนึกถึงเขา กระทั่งวันนี้ที่ลูกชายกำลังมีความรัก นางกลับหวนนึกถึงความรักของเขา...จะว่าไป ความรักก็ทำให้เหงา และคิดถึงได้มากมายเหมือนกัน

“อยากทำอะไรย้อนวัยไหมลี”

“ย้อนวัยอะไรคะ”

“สำหรับเธออาจไม่ย้อน แต่ฉันน่ะ อยากย้อน เพราะอยากเห็นความพยายามของลูกชาย”

คนฟังแม้จะงงๆ อยู่บ้างแต่ก็ยอมปล่อยให้ตุลาพาไปทำสิ่งที่เรียกว่า ‘ย้อนวัย’ ด้วยความเต็มใจ



“ครูลีหาย!”

ตุนท์ได้ยินเสียงของพวกนักเรียนมอหกทับห้าวิ่งวุ่นกันตลอดชั้นสูงสุดของตึกสถานที่ตั้งของห้องศิลปะ เขาเดินขึ้นบันไดตึกขึ้นมาไม่ช้าไม่เร็ว มั่นใจว่าทั้งยาม และทวีที่เฝ้าตึกอยู่ด้านล่างไว้ให้จะต้องรายงานเขาทันทีหากนพมัลลีลงจากตึกไป

ตอนนี้ก็แค่ลุ้นว่านพมัลลีอยู่ที่ส่วนไหน ร่างสูงหยุดลงเบื้องหน้าห้องศิลปะที่เขาเคยมาช่วยนพมัลลีจัดห้อง ผจญฝุ่นชุดใหญ่กันตั้งแต่ต้นเทอมที่แล้วด้วยกัน ห้องนี้เป็นห้องที่นพมัลลีชอบมาขลุกตัวอยู่ และเธอสามารถอยู่ได้ตลอดทั้งวันถ้าวันนั้นไม่มีสอน แคนวาสตั้งตรงกับพู่กันและจานสีเป็นหลักฐานยืนยันว่าเจ้าของห้องเพิ่งอยู่ในไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

“ไม่ต้องตามหาแล้วล่ะทุกคน” ตุนท์ผลักประตูเข้าไปภายใน เข้าไปหยิบเก้าอี้ว่างตัวหนึ่งมาตั้งเครื่องโพรเจ็คเตอร์ที่บลินด์ถือเข้ามา และให้นพพลวางโน้ตบุ๊คส์บนเก้าอี้อีกตัว ใช้กระดานต่างจอเตรียมฉาย

“แล้วครูลีจะได้มาดูเหรอพี่ตุนท์” บลินด์ถอนหายใจเฮ้อ วันนี้ตั้งแต่พักกลางวันพวกเขาก็แทบไม่มีสมาธิจะเรียน เพราะใจกระหวัดอยากมาร่วมเป้นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ตอนเย็น ขนาดตุนท์ไล่ให้กลับบ้านตั้งแต่สี่โมงเย็น พวกเขาก็ยังหน้าด้านหน้าทนไม่สนใจ เสนอหน้าจนมาถึงที่นี่

“ยังไงก็ลองซ้อมเปิดดูก่อนก็ได้ อุตส่าห์ถ่ายมาตอนพักเที่ยง” ตุนท์ส่งแผ่นซีดีที่บรรจุข้อมูลซึ่งตัดต่อเสร็จมาไม่ถึงชั่วโมงส่งให้นยฎาเป็นคนจัดการ สมาชิกหกทับห้าเกินครึ่งห้องอยู่ในห้องนี้อย่างเงียบสงบ คนที่อยู่ใกล้ประตูก็ปิดประตูให้มืดสนิท ท้องฟ้าภายนอกในต้นเดือนพฤศจิกายนลาไปเร็วกว่าฤดูร้อนมาก ทั้งห้องจึงมืดเกือบสนิท แสงฉายจากโพรเจ็กเตอร์ก็เริ่มทำงาน ภาพเคลื่อนไหวเริ่มขึ้น

นยฎา พร้อมเพื่อนผู้หญิงในห้องโบกมือทักทายในคลิปเป็นกลุ่มแรก เด็กสาวยิ้มแย้มก่อนจะพูด “ครูลีคะ ตอนนี้ฉันมีแฟนใหม่แล้วนะคะ อ๊ะๆ แต่ว่าแฟนใหม่ฉันเขาไม่สารเลวเหมือนคนก่อน แถมยังบ้าเรียน ขนาดวันหยุดก็ยังไปเรียน ครูจะหาว่าฉันไฟแรงก็ได้ ตอนนี้ที่เดทของฉันก็คือสถานที่เรียนพิเศษค่ะ ตอนนี้เพื่อนคนไหนมีแฟนไม่น่าไว้ใจฉันจะเป็นหูเป็นตาแทนครูนะคะ” นยฎาตัวเป็นๆ ดูคลิปที่ตัวเองพูดแล้วปิดหน้าด้วยความอาย หูแว่วได้ยินเสียงตัวเองต่อ “ครูเป็นครูที่ดีมากๆ ฉันได้ยินเรื่องของครูตอนนั้น กลับมานั่งนึกแล้วยังอยากจะร้องไห้อยู่เลย ฉันไม่น่านิสัยเสียใส่ครู ครูคงเหนื่อยกับพวกเรามาก ครูอยากหาไหล่อุ่นๆ ซบเพื่อพักบ้างไหมคะ”

ภาพในคลิปตัดไปยังกลุ่มนักเรียนชาย คนที่อยู่ในห้องก็ส่งเสียงโห่ครึกครื้น หนุ่มผมบลอนด์ในจอนั่งอยู่ตรงกลางเด่น “ตอนนั้นผมอึ้งมากที่ครูลีไปอยู่ในเหตุการณ์ตะลุมบอน พยายามรั้งผมไว้ ขอบคุณที่วันนั้นครูรั้งผมไว้ได้นะครับ โชคดีที่ไม่มีใครออกไปตายเป็นเพื่อนผม” จบคำนั้นหลายมือของเพื่อนกระหน่ำตีซ้ำบนหัวบลินด์ พร้อมคำด่า และตัวจริงก็โดนเหมือนในคลิปอีกรอบ “ตอนนี้พวกเราเลิกเล่นพนันเสียเงินแล้วนะครับ” ทุกคนหยิบไพ่ออกมาโยนทิ้ง

เสียงนยฎาหลุดเข้ามาในคลิป “แล้วพวกนายพกมาโรงเรียนด้วยนี่หมายความว่าไง”

“เอามาเล่นเวลาว่าง คิดเลขเพลินๆ ฝึกสมองไม่เสียเงินไง” บลินด์แก้ตัวด้วยหน้าตายิ้มแย้ม “ตอนนี้พวกเราเข็ดแล้ว ร่างกายพ่อแม่ให้มา จะมาปล่อยให้คนอื่นกระหน่ำรุมทำร้ายด้วยคำว่าศักดิ์ศรีไม่ได้อีก พวกเรายินดีเป็นลูกคุณหนูครับ” ทุกคนในคลิปลุกขึ้นพร้อมเพรียง แล้วยกมือไหว้พลางย่ออย่างกับผู้หญิง ทุกคนในห้องศิลปะหัวเราะครืนลั่น ไม่เว้นแม้แต่บุคคลในคลิปที่กำลังดูอยู่

“ผมอยากเรียกครูว่าพี่นะครับ...มาเป็นญาติกับผมเถอะนะ พี่ลี” บลินด์ยิ้ม ชูนิ้วโป้ง แล้วตัดไปเป็นนิลุบลที่เอ่ยซาบซึ้งหลายประโยค ก่อนจะทิ้งคำเป็นนัยอย่าง “ครูเจอผู้ชายดีๆ แล้ว อย่าหันหลังให้เขานะคะ”

แล้วภาพต่อมาก็ทำให้ทุกคนในห้องยิ้มแก้มปริ ผู้ชายตัวโตกำลังอุ้มเด็กหญิงวัยย่างเจ็ดขวบ

“ตัวเล็กครับ”

“คะ...พ่อตุนท์”

“วันนี้พ่อตุนท์มาขออนุญาตตัวเล็กก่อน คนส่วนใหญ่ชอบเข้าทางพ่อแม่ แต่พ่อตุนท์เข้าทางลูกดีกว่า” ตุนท์ใช้มือข้างที่ว่างหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “ตัวเล็กว่าพ่อตุนท์จะถูกแม่ลีปฏิเสธไหม”

“แม่ลีไม่ใจร้ายค่ะ” นวมลลิ์ยื่นหน้าไปอ่านอะไรสักอย่างด้านนอก หรี่ตาจนน่าตลกและน่าเอ็นดู “ตัวเล็กอยากมีพ่อตุนท์เป็นพ่อ ขอความเห็นใจจากแม่ลีด้วยค่ะ...พ่อตุนท์ขี้ตู่!” เด็กหญิงที่อ่านโพยเสร็จหันมาโวยหน้างอ

“ตัวเล็กไม่อยากมีพ่อตุนท์เป็นพ่อเหรอครับ พ่อตุนท์อุตส่าห์คิดว่าตุ๊กตาเซ็ตใหญ่จะเอาอยู่แล้วนะ”

เด็กหญิงทำหน้าลังเล “แล้วแต่แม่ลีค่ะ ตัวเล็กลูกแม่ลี”

“ลูกพ่อตุนท์ด้วย”

“ตุ๊กตาคิตตี้ห้าตัวนะคะพ่อตุนท์” การต่อรองสดๆ เกิดขึ้น เหล่าผู้ชมหลุดขำลั่น ขณะเห็นผู้ใหญ่ในคลิปพยักหน้ารับ และเด็กหญิงรับคำว่าเป็น ‘ลูกพ่อตุนท์’ เต็มปากเต็มคำ ตุนท์ส่งกล่องกำมะหยี่ให้นวมลลิ์ถือ และพูดเชิญชวนอย่างน่ารักน่าหยิก

“แม่ลีคะ...แต่งงานกับพ่อตุนท์นะคะ”

นยฎาส่งเสียงกรี๊ดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ขนาดผู้ชมยังเขินกันจนหน้าแดง เมื่อคลิปเล่นจบนักเรียนจึงพลอยปรบมือกันอย่างพอใจในผลงานที่ ‘ทดลอง’ ฉายก่อน ทุกคนยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการขอแต่งงานของตุนท์เพราะคำพูดของเขาบอกไว้ว่า

‘พวกเธอคือความภูมิใจของครูกับครูลี ในวันนี้ถ้าเอาพวกเธอไปยืนเทียบกับตัวเองเมื่อเทอมที่แล้วดู น่าจะรู้ว่าเปลี่ยนไปมากน้อยเท่าไหร่ ก่อนที่ครูลีจะไปออสเตรีย ครูเลยอยากให้ครูลีเห็นพัฒนาการของพวกเธอ ครูลีน่าจะภูมิใจมาก...แล้วจะกรุณามากขึ้นถ้าพวกเธอจะช่วยพูดเชียร์ครูสักเล็กน้อย’

หน้าต่างด้านข้างที่แง้มอยู่เปิดออกกว้าง นพมัลลียิ้มหน้าบานอยู่ตรงระเบียงนอกหน้าต่าง ดีใจที่ยอมย้อนวัยตามคุณตุลามานั่งกินลมอยู่ตรงนี้ หูของเธอจึงได้ยินทุกบทสนทนาในคลิป น้ำตาของเธอรื้นออกมาตั้งแต่คลิปแรกที่เป็นของนยฎา ไม่ใช่แค่คลิปที่ดำเนินเป็นเรื่องราว ในหัวของเธอก็ย้อนกลับไปวันวานด้วย นึกถึงช่วงเวลาเหนื่อยยากที่ต้องรบกับนักเรียน เผชิญกับปัญหาในชีวิตอย่างเรื่องของนวมลลิ์ ตอนนี้เธอได้รับความรักจากคนที่ไม่เคยชอบหน้าเธอ ได้ลูกสาวที่แต่เดิมเคยเรียกเธอว่าน้า และยังมีผู้ชายตัวโตคนหนึ่งซึ่งไม่กี่เดือนก่อนยังเป็นคนแปลกหน้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต

“นึกว่าตุนท์ไม่อยากแต่งงานแล้ว” นพมัลลีเกือบหมดหวังไปตั้งแต่เมื่อวาน หลังตุนท์ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอนเธอหลุดเรื่องนี้ไป

ตุนท์เดินมาชิดริมหน้าต่าง สบตากับมารดาด้วยรอยยิ้มดีใจที่สุดท้ายท่านก็รับว่าที่ลูกสะใภ้ที่ท่านเคยไม่ชอบได้ในที่สุด เอื้อมคว้ามือนิ้มมากุมไว้อย่างหวงแหน “ต้องเป็นผมที่เอ่ยปากเรื่องนี้สิลี ผมอยากแต่งงานกับคุณมานานแล้ว ต่อให้ถูกปฏิเสธอีก ผมก็อยากจะขอใหม่เรื่อยๆ ถ้ายังไม่แต่งก็แค่จับมาอยู่ด้วยกันสิ้นเรื่องราว”

“นี่!” นพมมัลีถลึงตา และหยิกที่เอวคนพูดอย่างหมั่นไส้ รอยยิ้มไม่เลือนไปจากใบหน้า โชคดีที่ฟ้ามืดแล้ว เหลือเพียงแสงอ่อนจากทางเดินอาคารส่องลอดเข้ามา จึงบดบังใบหน้าสีชมพูจัดได้

“ไหนล่ะแหวน”

“ตรงนี้เลยเหรอ” ตุนท์ถามเสียงหลง มองสักขีพยานหลายสิบชีวิตในห้องแล้วขำไม่ออก

“จะตรงไหนเมื่อไหร่ ไม่สำคัญหรอกตุนท์ ตอนนี้ที่นี่เต็มไปด้วยคนที่เรารัก จริงไหมคะแม่”

ตุลามองค้อนลูกชายที่มาเขินไม่ดูเวลาเสียเลย “รีบๆ หยิบออกมา ขืนชักช้าแม่พาลีหนีอย่าหาว่าไม่เตือน”

ตุนท์รีบตะครุบมือซ้ายนพมัลลีไว้มั่น หยิบแหวนทองคำขาวกลมเกลี้ยงออกมาบรรจงสวมใส่ให้ นัยน์ตาระยับพราวของคนมีความรักทั้งสองพร่างพรายไม่แพ้แสงดาวยามราตรีคืนเดือนมืดนี้เลย

“ฝากชีวิตลีด้วยนะตุนท์”

“ยินดีรับฝากตลอดชีพครับผม”

สิ้นคำพูดเหล่านักเรียนก็กรีดร้องอย่างกับตัวเองได้แหวนบนนิ้วนางเอง

…………………………………………..

คุณ alittledog ตุนท์ต้องโดนเอาคืนบ้างค่ะ หลอกให้ลีหึงตั้งนาน ฮา

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ นายวากูร เอ๊ หรือ ปฏิกูร ฮา ใกล้เคียงกันเลย ยังปล่อยไม่ได้ค่ะ ปัญหาตานั่นยังไม่จบ

คุณ กาซะลองพลัดถิ่น ตอนนี้แถมให้หวานอีกตอนค่ะ พ่อลูกนักเรียนแท็กทีมกันมาเลย แล้วตอนหน้าจะพานายวากูรกลับมาทักทายแน่นอนค่ะ >_<

คุณ konhin เปิดใจคุยกันอะไรก็จัดการคุยกันง่ายนะคะ ^^

คุณ ผักหวาน ทำให้ลีตัดสินใจเรื่องไปเรียนต่อได้ด้วยค่ะ ฮา ต้องรอดูว่าตุนท์จะทำยังไงต่อไป

คุณ violette ทิ้งแบบมีพันธะ แต่งแล้วชิ่งเลยนะคะ ฮา

ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกไลค์ และทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แถมบทหวานๆ ให้อีกหนึ่งบท (นี่ยังไม่ใช่บทจบนะคะ ฮา)



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2558, 01:53:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2558, 01:53:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1819





<< บทที่ 30 : เรื่องความรักนี่มันเข้าใจยากจริงๆ   บทที่ 32 : ไร้สุขชั่วชีวิต >>
กาซะลองพลัดถิ่น 17 เม.ย. 2558, 04:07:48 น.
น่ารัก ความดีย่อมชนะและปกป้องคุ้มครองคนทำดีเสมอ
รอวากูรจะว่าไง


ผักหวาน 17 เม.ย. 2558, 04:36:26 น.
ยินดีกับหนูลีด้วยค่ะ ที่ในที่สุด ก็ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาได้ด้วยดี
ว่าแต่ นายวากูรสิคะ จะเอาไงกันแน่


konhin 17 เม.ย. 2558, 05:59:41 น.
กรี๊ดๆๆ อ่านๆไปนึกว่าตอนจบ หวานมากกกกกกกก แต่ยังมีอีกเรื่องที่ต้องแก้นี่นาาาาาา


violette 17 เม.ย. 2558, 21:31:57 น.
กรี๊ดๆๆๆ น่ารักกกกกก แล้วแต่งงานแล้วตุนท์จะตามไปเหรอค้าา


นักอ่านเหนียวหนึบ 18 เม.ย. 2558, 16:53:49 น.
อร๊ายยยยยย ฟิน


violette 29 เม.ย. 2558, 21:06:00 น.
รออ่านอยู่นะค้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account