เงามาร (กำลังรีไรท์ค่ะ)
'วาลาดา' ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ว่าตัวเองมีสามีมีลูกแล้ว
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ
คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...
ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...
หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...
ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ
โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...
รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม
ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...
เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...
และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร
และ...
หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน
...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...
...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....
ที่สำคัญ สามีของเธอคือเพื่อนในวัยเยาว์ที่ห่างเหินกันไป
หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีใจให้เขา เขาเองก็เกลียดเธอ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือสามีของเพื่อนรักของเธอ
คำว่า "แย่งสามีเพื่อน"
กู่ก้องอยู่ในหัวและทำให้หัวใจของหญิงสาวแหลกสลาย...
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปมีอะไรกับเขาตอนไหนจนมีลูก
กับเขาได้...แต่ลูกที่มีหน้าตาผสมผสานระหว่างเธอกับเขา
อย่างลงตัวทำให้เธอดื้นไม่หลุดกับหลักฐานการกระทำ
ของตัวเอง...
ความจริงดังกล่าว...ส่งให้ดาวดวงใหม่ที่ควรจรัสแสงแรงกล้า
อยู่บนฟากฟ้ากลับถูกกระชากลงมาให้แปดเปื้อนกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ด้วยน้ำมือของใครบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเงาดำนั้น
หญิงสาวก็สุดจะคาดเดาได้...
หญิงสาวที่ควรมีความสุขไปบนหนทางอันดีงาม เส้นทางของดาว
กลับถูกดึงรั้งเข้ามาสู่เส้นทางของมาร...เมื่อถูกความมืดมน
ดุจเมฆดำเข้าครอบงำฝังจิตใจ...เปลี่ยนผู้หญิงที่เคยแสนดี
กลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจ...นั่นคือเธอที่กำลังถูกใครๆ
กล่าวขานอย่างไม่มีจบสิ้น...
ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้ นั่นก็คือ เธอต้องต่อสู้กับมันให้ชนะ ต่อสู้กับเงามารที่คอยตามรังควานชีวิตเธอทั้งชีวิตให้ย่อยยับ
โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า...เงามารที่เธอเห็นนั้นมีใครซ่อนอยู่
หลังเงานั่น...รอ...รอวัน...เพื่ออะไรบางอย่าง...
รอคอยและเฝ้าดูอยู่ข้างหลังอย่างอดทน...
ชักใยซึ่งซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างพิถึพิถัน...และล้ำลึก...
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบและรัดกุม
ช่างเป็นการรอคอยอันแสนยาวนาน รอให้เธอมีความสุขที่สุด
ประสบความสำเร็จที่สุด พอได้จังหวะเหมาะจึงเข้าโจมตี...
จนวาลาดาคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอดทนรอคอยเพื่อจองเวรเธอ
ได้นานถึงเพียงนี้...ช่างเป็นการทุ่มเทที่น่ากลัวเหลือเกิน...
เธอรู้...รู้ว่าสิ่งที่สำคัญ...คือเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ
หลังจากโดนโจมตีจนย่อยยับอับปางนี้ต่อไปอย่างไร...
นั่นคือ...สิ่งที่เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่...
และอีกอย่างที่เธอจะต้องทำคือ...หาคนที่ซ่อนอยู่หลังเงานั้น
ให้เจอ! และถามให้รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร
และ...
หวังเพียงว่า...เธอจะไม่ถูกมันครอบงำได้อีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...เธอจะได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง...
หวังเพียงว่า...ผู้ที่เธอได้ทำร้ายเอาไว้โดยไม่รู้ตัวจะให้อภัย
หวังเพียงว่า...เขาจะเข้าใจ เชื่อใจ อภัย และรักเธอ
หวังเพียงว่า...ยอดดวงใจซึ่งคือลูกน้อยจะปลอดภัย ไร้มลทิน
...ขอเพียงได้อยู่ดูแลคุ้มภายคุ้มใจคนที่รักตลอดไป...
...ขอเพียงคนที่เธอรักปลอดภัย เข้าใจ ให้อภัย
และรักเธอเท่านั้น....
Tags: ดราม่า ซุลก๊อตไนท์ วาลาดา นาดีม มาร มารร้าย ไสยศาสตร์ ญิน นุฮา อะสุเซน่า วารินทร์ อานิต้า
ตอน: บทที่ 48 หลบหน่อยพระเอกมา!
วารินทร์จูงมืออานิต้าลงเรือมาร่วมงานที่ถูกเชิญผ่านทางข้อความสั้นๆ
ที่ส่งมาทางโทรศัพท์มือถือเมื่อวานตอนค่ำ…
‘พรุ่งนี้บ่ายโมงตรง…เชิญร่วมงานวันวิวาห์มหาชน ณ เกาะรังรัก by ก๊อตซิลลา’
เขาก็เลยพาภรรยาเดินทางมายังเกาะแห่งนี้เพื่อมาดูหน้าก๊อตซิลลา
ว่ามันโผล่ขึ้นจากใต้ท้องทะเลมาทำอะไรที่เกาะแห่งนี้…
ทั้งที่ไอ้ก๊อตซิลล่ามันน่าจะตายไปแล้ว…
แต่พอจะเดินทางเข้างานดันไปเจอป้ายขนาดกลางปักไว้บนผืนทรายสีขาว
ที่เขียนเอาไว้ว่า ‘เขตปลอดผู้ร้าย’
“แล้วหน้าตาอย่างพี่รินทร์จะผ่านเซ็นเซอร์มั้ยคะ…”
อานิต้าหันมาทางสามีที่เธอติดสอยห้อยตามมาด้วย แต่พอมองเห็นบรรยากาศดีๆ
ของเกาะก็ชักเริ่มกังวลว่าคนที่มีหน้าตาอย่างผู้ร้ายเช่นเขาจะสร้างปัญหาให้เธอไหม…
และนั่นทำเอาคนที่หน้าไม่ใสแต่ใจใสแววหันมาจ้องมอง 'ยัยหนูเผือก'
ที่ภาพพจน์อย่างกับนางฟ้าตาคมกริบทีเดียว
“ถ้าพี่เข้าไปไม่ได้ แล้วทำไมไอ้ก๊อตซิลล่ามันใช้ให้พี่มา…
นั่นน่ะชื่อสัตว์ประหลาดตัวร้ายนะต้า…ถ้ามันเข้าไปได้ พี่ก็เข้าไปได้…”
ว่าแล้วก็อยากถีบป้ายนั้นให้ล้มลงไปนอนพะงาบๆจูบพื้นทรายเสียจริงๆ
ใครนะช่างเขียนมันขึ้นมาได้…อย่าให้รู้!
ไวเท่าความคิด วารินทร์ดึงป้ายนั้นขึ้นมาแล้วเดินถือเข้างานไปด้วย
ท่าทางไม่ได้แตกต่างจากวารินทร์ในอดีตที่ถูกแต่งตัวเป็นเจ้าเงาะป่า
ถือป้ายให้โรงเรียนในขบวนพาเหรด โดยได้รับการอ้อนวอนจากวาลาดา
เพราะถ้าไม่ใช่วาลาดาอ้อนวอนล่ะก็…คนอย่างเขาไม่มีทางแต่งตัวเป็นเงาะป่า
เพื่อไปเดินถือป้ายให้ใครๆเห็นแน่ๆ
และภาพนางฟ้ากับเงาะป่าที่เดินถือป้ายมาก็ตกอยู่ในสายตาของทุกคนในงาน
สร้างเสียงฮือฮาให้ไม่น้อยเมื่อป้ายนั้นใครๆก็อ่านออก
วารินทร์มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนที่เขามันใจว่าคือ…ไอ้ก๊อตซิลล่า…
มือนึงจับป้ายที่ตอนนี้คนถือมาใช้แรงปักหลักของป้ายกับพื้นทราย
อย่างกระแทกกระทั้น อีกมือเท้าสะเอวไว้
“นึกว่านายจะไม่มาซะแล้ว…” ซุลก๊อตไนท์เอ่ยทักกลั้วรอยยิ้ม
แววตาระยิบระยับเมื่อจับตาไปที่ป้ายสีแดงกับตัวคนถือ…
“ก็ว่าจะมาดูหน้ากะปอมยักษ์ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายอีกัวน่า...เห็นว่ามันขึ้นมา
จากใต้ท้องทะเลหลังจากดำน้ำมุดหายไปนานจนชาวบ้านเขานึกว่าตาย
และสูญพันธุ์ไปแล้ว”
วารินทร์บอกหมายจะยั่วอีกฝ่าย แต่มีหรือที่คนโดนยั่วจะไม่ยั่วกลับ
“นั่นมันไม่ใช่ญาติก๊อตซิลลา…ถ้านายตั้งใจจะมาตามหาญาติล่ะก็
ที่นี่ไม่มีกะปอมยักษ์และอีกัวน่าแน่…” วารินทร์ฉีกยิ้มกว้าง
“มันก็ญาติๆกันกับกิ้งก่ากลายพันธุ์นั่นแหล่ะน่า…ต่างกันก็แค่ปากมันพ่นไฟได้
พระเอกอย่างฉันก็เลยต้องมาปราบปรามสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ให้สิ้นซาก…
เพราะมันส่งข้อความไปบอกฉันว่าให้มาจัดการมันได้ที่เกาะนี่…
และฉัน...ก็มาถึงแล้ว…”
“โดยมีป้ายนี้เป็นอาวุธ?” ซุลก๊อตไนท์ยั่ววารินทร์ต่อพร้มมองอาวุธในมือผู้ปราบปราม
สัตว์ประหลาดที่ว่า
“มันคือฝีมือนายใช่มั้ยไอ้ก๊อต…ซิลลา” เขารู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า
ไอ้หมอนี่มันชอบหาเรื่องแหย่ชาวบ้าน เห็นหน้านิ่งแบบนี้มันนี่แหล่ะ
ตัวการหาเรื่องแหย่เขาได้ตลอด…แถมยังตีหน้าตายได้สนิท
เลยมีเรื่องหวุดหวิดจะขึ้นสังเวียนกับมันมาแล้วหลายรอบ…
“ที่ไหนๆก็มีป้ายเตือนกันทั้งนั้น…พระเอกอย่างนายจะไปกังวลอะไรกับป้ายนี้…”
ยังคงแหย่ไม่ได้เลิกรา ทำให้วาลาดาที่อยู่ห่างๆเดินเข้ามาห้ามทัพ
ด้วยรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้สองคนนี้ปะทะฝีปากกันนานเกินสามนาที
ย่อมต้องมีการพ่นไฟใส่กันในเวลาต่อมาแน่ๆ…
“รินทร์…ต้า…เข้ามากินน้ำก่อนสิ มาร้อนๆ…”
วารินทร์หันไปมองวาลาดาในชุดเจ้าสาวแล้วได้แต่ยิ้มหวานตอบกลับไป
“ได้ยินเสียงของวะวาแล้วค่อยยังชั่วหน่อย บรรยากาศค่อยดีขึ้น…”
ว่าพลางก็กระแทกไหล่ซุลก๊อตไนท์พร้อมกับพูดว่า
“ผู้ร้ายน่ะหลบหน่อย…เห็นมั้ยพระเอกมา…”
แล้วก็โยนป้ายผู้ร้ายในมือไปให้เจ้าของมันทันที ซุลก๊อตไนท์เกือบรับแทบไม่ทันเลยทีเดียว
“เข้าไปในงานกันเถอะนางเอกของพี่…” แล้วก็โอบเอวอานิต้าเข้างานไป
ทิ้งให้ผู้ร้ายอย่างซุลก๊อตไนท์ยื่นส่ายหน้าไหวๆ เสียงของมันช่างดังคับงาน
โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องขยายเสียงแต่อย่างใด เดินไปตรงไหนก็มีแต่
จะทำให้ผู้คนแตกต่ื่น…ด้วยสีหน้าดุดันที่ไม่ว่าจะพยายามยิ้มให้หวานสักแค่ไหน
ก็ยังหาความหวานแทบไม่เจอ…ท่าทางดูกร่างๆนั่นอีก…
ถ้าไม่ได้รู้จักเนื้อแท้กันล่ะก็…ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าวารินทร์จะเป็นพ่อนักบุญตัวจริง…
“พระเอกก็พระเอก…นอกจากพี่นุแล้วฉันคงต้องยกให้นายอีกคน”
ซุลก๊อตไนท์เปรยเหมือนใกล้จะปลงได้แล้ว มันมาคุตั้งแต่ตอนที่
เจ้าสาวเห็นหน้าเขาแล้วดันเรียกชื่อพี่นุ แถมในงานเลี้ยงก็คอยแต่จะ
เข้าไปกระแซะพี่นุตลอด ถามโน่นถามนี่อย่างสนอกสนใจ…
แต่งตัวหล่อมาแค่ไหนก็ดึงเธอเอาไว้ข้างกายไม่ได้
แล้วนี่…พอเจ้าพระเอกเรื่องเงาะป่าคนล่าสุดมาถึงงาน
คุณเธอก็รีบเสนอหน้าออกมารับพร้อมคอยบริการโน่นนี่ให้อีก…
ทั้งๆที่เขายังไม่ได้รับบริการใดๆจากคุณเธอเลย…ไม่เลยสักนิด…
เขามันก็คงเป็นแค่…กะปอมยักษ์ที่แม้กระทั่งก๊อตซิลลาก็ไม่อยากนับญาติจริงๆนั่นแหล่ะ…
วาลาดามองหาซุลก๊อตไนท์ที่อยู่ๆก็หายไปจากงานเลี้ยง
เพราะมัวแต่คอยดูแลคนอื่นๆจนลืมดูแลเขา ไม่รู้ว่าเขาได้กินอะไรไปบ้างแล้วหรือยัง…
เพราะเห็นว่ายุ่งตลอดงานเช่นกัน…
“เห็นพ่อมั้ยตาหนู…” ไม่รู้จะถามใครแล้ว เพราะถามไปก็ไม่มีใครรู้
เลยทรุดเข่าลงถามลูกชาย แล้วก็ได้คำตอบในที่สุดอย่างไม่คาดคิด
เพราะลูกชี้ไปทางหน้าหาด
“พ่อไปทางโน้นครับ…” วาลาดาเลยฝากลูกชายไว้กับน้องสาว
ที่มาร่วมงานในวันนี้ด้วย รวมทั้งสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวเธอ
ก็ต่างมากันพร้อมหน้าพร้อมตา…นั่นจึงทำให้เธอที่่ห่างหายจากทุกคน
ไปหลายเดือนมีเรื่องมากมายให้ต้องคุยและถามไถ่คนโน้นคนนี้
โดยเฉพาะรสากับพี่นัทก็แพ็คคู่เดินทางมาด้วย…นั่นเลยทำให้เธอ
เพลิดเพลินจนลืมคนสำคัญอีกคนไป…
วาลาดาจึงเดินไปตามทางที่ลูกชายชี้ไป เพราะเชื่อในแววตาช่างสังเกตของเด็กๆ…
เวลาเธอลืมของอะไรไว้บางครั้งถามลูก ลูกก็เดินไปหยิบมาให้…
ความสะเพร่าของเธอถูกเติมเต็มด้วยลูกน้อยอยู่บ่อยคร้ัง…
ก่อนไปไม่วายจัดผัดไทกุ้งสดตักใส่จานกระดาษติดมือไปด้วยพร้อมน้ำหวานในแก้ว…
และเพราะชุดที่ค่อนข้างรุ่มร่ามพอปะทะกับลมทะเลอย่างจังทำให้
กระโปรงปลิวสยายจนต้องคอยระวังของที่ถืออยู่ในมือไม่ให้หกเรี่ยราดใส่ชุด…
ซุลก๊อตไนท์ที่หลบความวุ่นวายออกมาหาที่สงบนั่งรับลมอยู่ตรงข้างๆโขดหินใหญ่
ที่มีต้นไม้รกครึ้ม…มองดูเกลียวคลื่นกำลังม้วนตัวสวยงามซัดกระทบ
กับโขดหินเล็กใหญ่ตรงเบื้องหน้า ทำให้น้ำทะเลสาดกระเซ็นเป็นละอองเล็กๆ
“อยากให้วาอยู่ด้วยมั้ยก๊อต…” เสียงนั้นดังแหวกเสียงคลื่นเข้ามา
ทำให้คนที่กำลังอินกับบรรยากาศแห่งท้องทะเลสีครามหันมามอง
หญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวที่ตอนนี้โดนลมทะเลพัดสะบัดราวกับ
ภาพนางฟ้านางสวรรค์ที่กำลังโรยตัวลงมาจากฟากฟ้า
ต่างแค่นางฟ้าตนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่เท่านั้น…
คนที่กำลังงอนๆวาลาดาอยู่เลยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินหันกลับไปยังภาพท้องทะเลต่อ
“ใครน้า…ทำให้ก๊อตต้องระเห็ดระเหมานั่งทำมิวสิควิดิโออยู่ตรงนี้ได้”
ว่าพลางยื่นจานผัดไทในมือให้เขาพร้อมแก้วน้ำหวาน
หากคนที่กำลังงอนทำเป็นไม่รับรู้สิ่งใด วาลาดาเลยก้มลงหอมแก้มเขาทั้งสองข้าง
“กินหน่อยเถอะ…กินพร้อมกันสามคนก็ได้…” ไม่วายคะยั้นคะยอเขา
ที่เหมือนจะไม่ได้ยินเสียงเธอเลย วาลาดาจึงค่อยๆหย่อนบั้นท้าย
ที่เริ่มขยายตัวจากก่อนท้องนั่งลงบนผืนทรายสะอาดข้างๆเขา
ก่อนจะยกแก้วน้ำไปจ่อที่ปากเขา ให้รู้ไปสิว่าจะใจแข็งไปได้อีกกี่นาทีกัน
หากเขากลับไม่ยอมอ้าปาก วาลาดาเลยยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเสียเอง
“อ๊าา…หวานจริงๆ…” เสียงนั้นเริ่มยั่วคนที่กำลังงอนไม่เลิก…
เสร็จแล้วก็วางแล้วลงตรงโขดหินด้านหลังที่สูงเหนือศีรษะยามนั่งลงขึ้นไปนิดหน่อย
พิงกับหินอีกก้อนเพื่อไม่ให้มันล้ม
เขามาแอบนั่งรับลงทะเลอยู่ในซอกหินที่โอบล้อมรอบด้าน มีทางออกแค่สองทางคือ
ทางน้ำกับทางที่เธอเดินเข้ามาเท่านั้น เลยทำให้กว่าเธอจะหาเขาเจอ
ก็เหนื่อยแทบแย่…
แต่ที่ตรงนี้น่านั่งจริงๆน่ันแหล่ะ…เหมือนนั่งอยู่ในบ้านโขดหินยังไงก็ไม่รู้
คนที่นั่งอยู่ข้างๆก็เหมือนจะทำตัวคล้ายโขดหินเข้าไปทุกที
…ใช่เขาคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่มักจะหาเธอเจอเวลาเธอเลือกจะปลีกตัวจากผู้คน
เธอเองก็เหมือนจะมีเรดาห์จับทิศทางเขาได้อยู่เหมือนกัน
มันบอกไม่ถูกว่าเพราะอะไรทำไมถึงหาเขาจนเจอได้แบบนี้…
วาลาดาม้วนเส้นผัดไทยด้วยซ้อมแล้วยกขึ้นจ่อปากเขาอีกเป็นการยั่วน้ำลาย
แต่ก็ไม่เป็นผล เขาไม่สนใจมัน ไม่เป็นไร เธอกินเองก็ได้
ว่าแล้วก็จับยัดเจ้าเส้นผัดไทเข้าปาก แล้วม้วนต่อนำไปจ่อที่ปากเขาอีก
โขดหินที่หายใจได้ไม่ขยับเขยื้อน เธอเลยจับยัดมันเข้าปากตัวเองไปอีกคำ
เคี้ยวตุุ้ยๆๆอย่างเอร็ดอร่อย พูดยั่วคนไม่ยอมกินไปด้วย…
“อร่อยจัง…” คราวนี้หมายจะยั่วให้สำเร็จ เลยไปนั่งตรงหน้าเขา
ป้อนเส้นผัดไทไปจ่อให้ที่ปากเขาอีก…ตั้งใจว่าถ้าคราวนี้เขาไม่ยอมกิน
เธอจะเลิกง้อ พอกันที วาลาดาจ้องตาเขานิ่งขณะป้อนของกินให้เขา
“ไม่กินก็ไม่ต้องกิน…วากินเองก็ได้…กินให้หมดนี่แหล่ะ” ว่าแล้วก็
ยัดผัดไทเข้าปากคำแล้วคำเล่า เคี้ยวๆกลืน…จนปากมันแผล็บก็ยังไม่รู้ตัว
คราวนี้เส้นเริ่มติดคอ สำลักหน้าดำหน้าแดง…
คนที่มองอยู่เลยทนมองไม่ไหว งอนต่อไปไม่รอด ต้องรีบตบหลังเธอ
ให้สำรอกเส้นออกมา…น้ำหูน้ำตาไหลทีเดียวกว่าจะรอดปลอดภัย
ซุลก๊อตไนท์หยิบแก้วน้ำส่งให้คนที่หน้าดำหน้าแดงดื่ม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่าย
ไม่ยอมยื่นมือรับเขาเลยต้องป้อนให้ วาลาดาดื่มน้ำอย่างว่าง่าย
“กินมูมมามเหมือนตาหนูแบบนี้ไงเส้นมันถึงลำเลียงไม่ทัน…”
เขาบ่นว่าเสียงขรึมทีเดียว วาลาดาเลยตีต้นแขนเขาไปอย่างเจ็บใจไม่ยั้ง…
“แล้วดูสิ…แต่งหน้ามาซะสวย ปากมันแผล็บเชียว…” ว่าพลางหยิบ
ผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดปากให้วาลาดาหลังจากที่มือนั่นหยุดตีเขาแล้ว
อยากทุบก็ทุบไป ใช่ว่าจะเจ็บเสียเมื่อไหร่กัน แรงอย่างกับมด…
“ไม่มีลิปมันประเทศไหนจะมันเท่าลิปมันยี่ห้อผัดไทแล้วล่ะ…”
วาลาดาได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับค้อนเขาตาพลิกตาคว่ำ
“คนทาก็ทาซะเกินขอบเขตของปากเชียว…” วิจารณ์เสร็จก็ส่ายหน้าไปมา
แล้วก็หยิบจานผัดไทที่เหลือขึ้นมากินด้วยความหิว
ก็เขายังไม่ได้กินอะไรเลย…ก่อนหน้านี้ก็มัวแต่ยุ่งวุ่นกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่ได้ว่างเว้น
พอเริ่มงอนเจ้าสาวก็ลืมความหิวไป พอโดนยั่วน้ำลายจากเธอแบบซึ่งๆหน้า
น้ำย่อยมันก็เริ่มกลับมาทำหน้าที่ประท้วงใหญ่…
วาลาดามองคนกินผัดไทแล้วได้แต่ส่ายหน้า
“ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง…” พูดจบก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นที่เขาใช้
เช็ดปากให้เธอเมื่อครู่ขึ้นเช็ดปากให้เขาบ้างเมื่อเขาฟาดผัดไทเธอเสียเกล้ียง
ภายในไม่กี่นาที…คนกินจุอย่างเขาผัดไทแค่นี้เอาไม่อยู่แน่ๆ
แถมน้ำหวานที่เหลือเขาก็ยกดื่มรวดเดียวหมด…
ซุลก๊อตไนท์มองคนที่พยายามเช็ดปากให้เขาด้วยแววตาเป็นประกาย
ใช่ว่าจะหายหิว แต่เขารู้แล้วว่าจะทำยังไงให้อิ่ม…
ไวเท่าความคิด สองมือใหญ่ประคองใบหน้างามผ่องผุดผาด
แล้วโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากกับกลีบกุหลาบอ่อนนุ่มตรงหน้าอย่างละเมียดละไม
หยอกเย้าด้วยการขบเปลือกปากล่างของเธอแล้วดึงก่อนจะบดเบียด
แนบชิดอีกครั้งอย่างดื่มด่ำ
วาลาดาจากที่เมื่อก่อนจูบไม่เป็นเลยก็เริ่มมีประสบการณ์จากการร่ำเรียนมาจากเขา
จึงตอบรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ…
เมื่อซุลก๊อตไนท์ผละออกมาวาลาดาจึงเอ่ยกับเขาว่า
“ต้องรอเวลาส่งตัวเข้าหอก่อนนะก๊อต…” ชายหนุ่มยิ้มบางใช้หัวแม่มือ
ไล้ไปตามริมฝีปากล่างของเธออย่างหลงใหลก่อนจะใช้หัวแม่มือกับนิ้วชี้
บีบริมฝีปากล่างของหญิงสาวเล่น…
“ก๊อตต้องกินข้าวถึงจะอิ่มรู้มั้ย…” วาลาดาบอกเขาให้เขาเลิกเล่น
อะไรที่จะเป็นการปลุกเร้าอารมณ์เธอ
“กินนางฟ้าแถวนี้ก็อิ่มได้เหมือนกัน…” เขาว่าก่อนจะก้มลงมาอีกครั้ง
วาลาดารีบหลบทันทีอย่างจังหวะ
“ไม่เอานะก๊อต…วาอายฟ้าดิน…”
“แค่จูบ…ไม่ต้องรอส่งตัวเข้าหอก็ได้นี่…” เขาว่าอย่างเอาแต่ใจ
“นะวานะ…” เริ่มส่งเสียงออดอ้อนอีกแล้ว ทีก่อนหน้านี้ล่ะทำเป็นงอน
“ไม่!” วาลาดาส่งเสียงเฉียบขาด เพราะรู้ว่าจูบเดียวไม่เคยพอ
แล้วเขาก็ชอบเถลไถล ห้ามก็ไม่ค่อยจะฟัง…
“เดี๋ยวพอเธอใกล้ๆคลอดกับตอนหลังคลอดมารวมกัน…ฉันก็คงต้อง
ถือศีลอดไปอีกหลายเดือนเลยนะ…” วาลาดาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
ออกจะเข้าใจหัวอกเขา…เพราะในการเป็นภรรยา นอกจากจะต้องเข้าใจสามีแล้ว
ยังต้องอดทนอดกลั้นอย่างมากมายด้วย...เพียงแต่...
“ตรงนี้มัน…เอิ่ม…ไม่อ่ะ…วาว่ามันไม่เหมาะสม…วาไม่ใช่นางเงือกเกยตื้น”
ซุลก๊อตไนท์ยิ้มกว้างก่อนจะปล่อยมือทั้งสองออกมาแต่โดยดี…
วาลาดาส่งยิ้มให้เขาที่เขาแสนจะเข้าใจอกเข้าใจเธอ
หากยังไม่ทันไร เขากลับโฉบริมฝีปากลงมา คราวนี้มันดูดุดัน
และแฝงความเร่าร้อนเอาไว้…
วาลาดาที่ตั้งตัวแทบไม่ทันรู้สึกอ่อนระทวยไปกับลีลาปล้นจูบของเขา
ที่เข้าจู่โจมโดยไม่รู้ตัว…ฝ่ามือที่ยันแผ่นอกเขาไว้เริ่มเปลี่ยนเป็นยกขึ้น
ประคองใบหน้าเขาแทน ตอบรับความหวานล้ำจากเขาแล้วหยอกล้อ
ลิ้นอุ่นๆนั่นอย่างน่ารัก…
“ออดอ้อนแบบนี้เนี่ย…เดี๋ยวก็ได้กลายเป็นนางเงือกเกยตื้นจริงๆนะรู้มั้ย”
ซุลก๊อตไนท์กระซิบบอกเบาๆตรงขมับของวาลาดาเมื่อเขา
แนบแก้มกับเธอขณะโอบกอดเธอเอาไว้
...ไม่อยากรังแกคนท้องกลางแจ้งให้อายฟ้าดิน…
“ลมเย็นน่านอนจัง…” วาลาดาเปรยออกมาเบาๆ
“ก็นอนสิ…นอนบนตักฉันนี่แหล่ะ…ทรายที่นี่สะอาด…”
“วากลัวว่าชุดจะเสีย…”
“ไม่เสียหรอก ทรายออกจะละเอียด ไม่เชื่อลองนอนดู…” เขาบอก
พร้อมกับรั้งศีรษะเธอให้นอนลงบนตักของเขา…แม้จะมีผ้าคลุ้มเกะกะอยู่บ้าง
หากก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
วาลาดาจึงนอนเหยียดขาโดยวางศีรษะไว้บนตักของเขา ส่วนเขาก็นั่งพิงโขดหิน
มองมาทางเธอไม่วางตา
“วาชอบที่นี่จัง…” วาลาดาบอกเขา
“ชอบก็อยู่ต่อ…”
“เขาจะให้อยู่เหรอ…”
“ทำไมจะไม่อยากให้อยู่…พี่รังเขาใจดีนะ…ยิ่งพี่สิ้นยิ่งใจดี…ฉันเอง
ก็อยากให้เธอได้อยู่พักผ่อนที่นี่จนกว่าจะคลอด…เพราะที่นี่มีทุกอย่างพรั่งพร้อม…
มีพยาบาลผู้หญิงทำคลอดด้วย…” วาลาดาช้อนตาขึ้นมองเขาพร้อมกับยิ้มกว้าง
“ต้องเป็นผู้หญิงสินะ…”
“ใช่…ครั้งก่อนที่เธอคลอดฉันก็ระบุว่าในห้องคลอดต้องมีแต่ผู้หญิงเท่านั้น…
ไม่งั้นฉันจะอาละวาดให้โรงพยาบาลแตก…”
วาลาดาแอบปลื้มเขาขึ้นมาอย่างไรก็ไม่รู้…เพราะเธอเองก็อายนะ
ถ้าจะให้ชายอื่นนอกจากเขามาล่วงรู้ความลับของจุดซ่อนเร้นในกายเธอ
“เหนื่อยม้ัย…เห็นวันนี้เดินแบกท้องทั้งวัน…” เขาถามอย่างอาทร
“หายเหนื่อยตั้งแต่ก๊อตถามแล้ว…มันหายไปเลย…”
“ถ้าเธอรู้จักจีบฉันแบบนี้ตั้งแต่ตอนมัธยมนะวา ฉันคงไม่คิดจะไป
หวั่นไหวหรือไขว้เขวกับใครให้เสียเวลาเสียความรู้สึกหรอก…”
“บ้าสิ…ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าวาเปรี้ยวขนาดจีบผู้ชาย วาได้โดนลงหวายหลังลายสิ…
พ่อบอกว่า…ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว ผู้ชายเขาถึงจะให้เกียรติ ไม่มาดูถูกเอาง่ายๆ
แม้เกียรติมันจะกินไม่ได้ แต่มันจะช่วยรักษาคุณค่าให้กับตัวเรา…”
วาลาดายิ้มบาง เมื่อนึกถึงคำสอนของพ่อกับแม่ที่เฝ้าย้ำเตือนเธอในเรื่องนี้
“พ่อบอกว่า…คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่พรหมจรรย์อย่างเดียว
แต่อยู่ที่การรักนวลสงวนตัว…เพราะผู้ชายบางคนไม่ได้ให้ค่าของพรหมจรรย์
มากไปกว่าความยากง่ายในการได้ผู้หญิงคนหนึ่งมา…
แม่ม่ายบางคนยังดูมีคุณค่าที่น่าทะนุถนอมกว่าผู้หญิงโสดอีกมากมาย”
วาลาดาลอบถอนใจ เธอเองก็เคยคิดว่า ทำไมผู้ชายชอบแย่งแม่ม่ายกัน
ทั้งๆที่มีสาวโสดครึ่งค่อนโลกรอพวกเขาอยู่
หากคำพูดพ่อในวันวานยังคงฉายชัดอยู่ในใจเสมอ…
พ่อผู้ซึ่งสอนสั่งหวังให้ลูกสาวรอดพ้นปากเสือปากจระเข้และปากเหยี่ยวปากปู…
พ่อผู้รู้จักเพศเดียวกันกับท่านเป็นอย่างดี
“เพราะมีผู้หญิงมากมายพลีความบริสุทธิ์ให้ผู้ชายโดยที่ผู้ชายไม่ได้ใส่ใจ
อยากทะนุถนอมมอบความมั่นคงให้เธอเหล่านั้นเลย เพราะเห็นเธอ
เป็นเพียงแค่ครูผู้มอบประสบการณ์…เป็นแบบฝึกหัด เป็นลานจอดรถ
เป็นเครื่องระบายความใคร่ เป็นเพียงทางผ่าน เพื่อก้าวต่อไป…
พ่อเลยบอกวาว่า ถ้าเขาไม่มาขอแต่งงาน และยังไม่ได้แต่งงานกับเขา
อย่ายอมส่งเนื้อเข้าปากเสือเด็ดขาด…”
แล้วาลาดาก็ต้องหยุดเมื่อรู้ว่าพ่อเคยเสียใจและผิดหวังกับเธอแค่ไหน…
“แต่วาก็ทำให้พ่อแม่ผิดหวังจนได้…ตอนนั้นวาคงทำตัวแย่มากเลยใช่มั้ยก๊อต…”
“ก็เธอไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้รู้สึกตัว พอๆกับฉันที่ไม่มีสติพอจะยั้งตัวเอง
ตอนนั้นรู้เพียงแต่อารมณ์มันมาเต็ม…ไม่มีอะไรจะหยุดมันได้…”
ชายหนุ่มพยายามปลอบเธอ
“ก๊อตก็เลยดูถูกวาสารพัดเลย…ต่อว่าวาได้เจ็บแสบมาก…วาจำได้หมดนะจะบอกให้”
ใครบ้างจะลืมความทรงจำอันเจ็บปวดแบบน้ันได้ เพียงแค่วางเฉยและอภัย
ทำให้ไม่ได้นำมาใส่ใจครุ่นคิดให้จิตวุ่นวายก็เท่านั้น...
“ลืมๆมันไปบ้างก็ได้นะ…ฉันเองก็พูดไปเพราะเชื่อว่าเธอทำแบบนั้น
ด้วยนิสัยและสันดานของเธอเอง ไม่คิดนี่ว่าเธอจะถูกมารครอบงำ…”
“แล้วก๊อตเชื่อวาจริงๆเมื่อไหร่ตอนไหน…” ซุลก๊อตไนท์ยิ้มกว้าง…
เขาเองมั่นใจแล้วว่านาดีมเองก็คงรู้ว่าเขาหมดความเชื่อมั่นในตัวเธอตั้งแต่ตอนไหน
เพราะมันคือวันที่เขาเชื่อหมดใจว่านาดีมไม่ใช่นางฟ้า
ไม่ใช่เจ้าหญิงผู้บอบบาง น่าทะนุถนอม ไม่ใช่ผู้หญิงแสนดี
แต่เป็นนางมารร้าย มันคือวันที่...
“วันที่ได้อ่านการ์ดใบนั้นที่เธอเอามาให้…”
นั่นคือวันแห่งการคิดบัญชีย้อนหลัง วันที่เขาเริ่มวางแผนสิ่งต่างๆ…
วันที่เขาไม่คิดจะลดละเลิกที่จะจัดการกับผู้อยู่เบื้องหลังที่เขามั่นใจว่ามีมากกว่านาดีม…
เพราะเชื่อว่านาดีมไม่สามารถคิดการณ์ใหญ่แบบนั้นได้เพียงลำพัง
ในขณะที่ยังมีอายุไม่กี่ขวบปี…
และไม่ใช่แค่วางแผนแต่เขาได้ลงมือปฏิบัติตามแผนการณ์ต่างๆมาโดยตลอด…
ไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว
มันไม่ใช่ความแค้นหรือทำเพื่อสนองความแค้น แต่เป็นเพราะเขา
ต้องการยุติความวุ่นวายทุกอย่างท่ีจะต้องมีมาเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน
เขาหวังจะตัดไฟเสียแต่มันยังไม่ลามไหม้หมดทุ่ง…
อะไรที่เคยเสียหายไปก่อนหน้านี้แม้มันจะกลับไปแก้ไขได้ยากยิ่ง
แต่เขาก็มีวิธีที่พอจะช่วยบรรเทาความเสียหายเหล่านั้นให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม…
“ฉันจึงต้องส่งการ์ดใบนั้นไปเตือนเขา…ให้เขาได้รู้ตัวไว้…
ว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรต่อจากนี้…เพราะฉันไม่ชอบลอบกัด…
แต่อยากสู้กันในแบบที่ศัตรูก็รู้ตัวว่าฉันพร้อมที่จะสู้ยิบตาทีเดียว…”
วาลาดาผุดลุกขึ้นทันทีพร้อมกับหันมาจ้องมองซุลก๊อตไนท์
“ตายแล้ว…ก๊อตส่งการ์ดน้ันไปให้ดีมหรือ…ป่านนี้เขามิต้องวิ่งเต้นกันใหญ่แล้วหรือก๊อต…
ไปทำให้ไก่ตื่นแบบนี้ ระวังจะเจอดีเข้านะ ก๊อตอย่าประมาทผู้หญิง
เพราะว่า…เวลาผู้หญิงแค้นมันน่ากลัว…เธอสามารถทำได้ทุกอย่าง…
อย่างที่ผู้ชายก็อาจคาดไม่ถึง…”
“เธอถึงต้องช่วยฉัน…เราจะต้องช่วยกันเพื่อจะได้รอดไปด้วยกันนะวา”
ซุลก๊อตไนท์บอกวาลาดา
“เพราะนาดีมจะไม่มีวันยอมหย่าให้ฉันง่ายๆ เนื่องจากใบทะเบียนนั่น
คือไพ่ใบสุดท้ายที่เธอมีในมือตอนนี้…เธอไม่มีวันทิ้งมันง่ายๆหรอก…”
“ก๊อตจะฟ้องหย่าดีมหรือ…” วาลาดาเลิกคิ้วสูง เพราะเธอไม่สนับสนุน
ให้เขาทำแบบนั้น เนื่องจากมันจะส่งผลกระทบในหลายๆด้าน
“ไม่หรอก…เพราะคนที่จะฟ้องหย่าฉันคือนาดีมต่างหาก…”
“หา!”
“และเขาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับเธอด้วย…” ซุลก๊อตไนท์เฉลยอีกนิด
“ทำไมล่ะ…วาทำไรผิดอ่ะ…” วาลาดาที่ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรผิด
ถามออกไปอย่างซื่อตรง ทำให้จอมวางแผนถึงกับยิ้มบาง
“ตามหลักกฎหมายแล้วนาดีมมีสิทธิ์ฟ้องหย่าฉันและสามารถเรียกร้องค่่าทดแทน
พร้อมค่าเสียหายทั้งจากฉันและจากเธอได้…
เพราะว่าเราสองคนไปละเมิดสิทธิอันชอบธรรมของเขาซึ่งเป็นภรรยา
ตามกฎหมายของฉัน…ยิ่งมีประจักษ์พยานว่าฉันกับเธอละเมิดสิทธิ์เขา
ด้วยการแต่งงานกันอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ มันยิ่งง่ายต่อการที่เขาจะหาเหตุ
เพื่อยื่นเรื่องฟ้องหย่าต่อฉันได้…แถมยังเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆที่เขาอยากจะเรียกร้อง
ได้อีกเป็นหางว่าว…ทั้งจากฉันและจากเธอ…”
ซุลก๊อตไนท์บอกโดยหาได้สะทกสะท้านแต่อย่างใดไม่…
“แล้วทำไมตอนที่ดีมกับก๊อตแต่งงานกันทั้งที่วามีทะเบียนสมรสอยู่ในมือขณะนั้น
วาไม่เห็นจะเรียกร้องอะไรอย่างที่ก๊อตว่ามาเลยล่ะ…วายอมง่ายไปใช่มั้ยตอนนั้นน่ะ…”
อดไม่ได้ที่จะตัดพ้อต่อว่าตัวเองขึ้นมา
“ก็เธอไม่รู้ไม่ใช่หรือ…”
“จะหาว่าวาโง่ล่ะสิ…” ชายหนุ่มฉุดยิ้มที่มุมปาก
“เธอไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์และไม่ใช่คนโลภมากอยากได้โน่นได้นี่นี่นา…
เลยไม่ได้คิดหาวิธีการให้ได้น่ันได้นี่ทั้งๆที่เธอมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้อง…
และเธอก็แสนจะเบ่ือกับความยุ่งยากวุ่นวาย…ว่าแต่ถ้าเธอรู้เธอจะไปเรียกร้อง
ให้ศาลช่วยบังคับฉันกับนาดีมให้ชดใช้ค่าเสียหายให้เธอรึเปล่าล่ะ…”
วาลาดาสะบัดหน้าหวือ…แทบไม่ต้องคิดเลย…เธอไม่ทำแน่ๆ…เพราะ…
“วาไม่ทำหรอก…เพราะความเสียหายที่วาได้รับมันประเมิณค่าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ…
เรื่องเงินวาไม่ได้เดือดร้อน ถ้าวาเดือดร้อนเรื่องเงินก็เป็นอีกเรื่องนึง…อีกอย่าง…”
วาลาดากลืนน้ำลายลงคอให้กับเหตุผลที่แท้จริงในการยอมง่ายๆของเธอในครั้งนั้น
โดยแทบจะไม่เรียกร้องสิ่งใดๆจากใครเลย
“ตอนนั้นลึกๆแล้ววารู้สึกผิดต่อดีมด้วยส่วนหนึ่ง…และต่อแม่ก๊อตด้วย
เพราะอยากได้ลูกสะใภ้อีกคนมาทำหน้าที่ศรีสะใภ้
ที่สำคัญแม่ก๊อตยังบอกว่าก๊อตต้องการให้วาหย่าให้เพื่อคืนความชอบธรรมให้ดีมไป…
วาก็เลยไม่มีเหตุผลให้ต้องนอนกอดทะเบียนสมรสนั่นต่อไป…
ไม่รู้จะเอาชนะนาดีมไปเพื่ออะไรอีก… เพราะยังไงเขาก็ชนะไปแล้วเห็นๆ…”
วาลาดาหยุดเพียงนิดก่อนจะสบตาซุลก๊อตไนท์นิ่ง
เพื่อจะบอกความในใจของเธอในตอนนั้นกับเขาอย่างซื่อตรงว่า
“และเพราะวาทำผิดมาแต่ต้น…วามาทีหลัง…วาควรถอย…
และเพราะยังรักก๊อตอยู่มากเลยยังตัดใจถอยจนสุดทางไม่ไหว…
เลยยอมๆอยู่ในสภาพแบบนั้นไป…แม้ดูทำตัวไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรีในสายตาคนอื่น
หรือแม้แต่ในสายตาตัวเองสักแค่ไหนก็ตาม…
แต่ในส่วนลึกแล้ว...วาอยากนอนกอดก๊อตมากกว่านอนกอดศักดิ์ศรีน่ะสิ…
ถ้าวาจะโง่และใจง่าย…วาก็โง่และใจง่่ายที่ตรงนี้แหล่ะ…
วายอมรับว่าวาก็แค่ผู้หญิงอ่อนแอ…ไม่ได้ใช้สมองกับเรื่องพวกนี้นักหรอก…”
ซุลก๊อตไนท์โอบศีรษะนั่นเข้ามาแนบอกเขาพร้อมกับบอกกับเธอว่า
“ฉันกับแม่รู้ดีว่าได้ทำร้ายเธอแค่ไหนในตอนนั้น…แต่เราต้องทำ
แม่ฉันเองก็เริ่มเอะใจแล้ว…ฉันเลยท้าให้แม่พิสูจน์เพื่อวัดใจนาดีม…
แม่ถึงยอมร่วมกับแผนการของฉัน…
แม่ฉันอาจเคยรังเกียจเธอนะวา แต่วันนั้น…ท่านมาบอกฉันในภายหลังว่า…
ท่านประทับใจเธอ…ค่อนข้างแน่ใจว่าเธอรักฉันจริง…แถมยังหาทางวางแผน
เพื่อไปสืบเรื่องราวในบ้านฉันอีก…แม่เลยเอาภาพนาดีมและอะไรๆที่เกี่ยวกับนาดีม
ที่ฉันเคยเก็บๆเอาไว้ในตู้ขึ้นมาวางโชว์์ยั่วตายั่วใจเธอ…เพื่อกระตุ้นด้านมืดของเธอ
ให้ออกมาแสดง แต่เธอก็ไม่แสดงมันออกมา…แม่ฉันบอกว่าเธอเอาชนะ
ด้านมืดของตัวเองได้…”
“แต่วาเสียใจมากนะก๊อต…ที่ก๊อตไม่มีรูปวาแม้แต่รูปเดียวเลย…
ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับวาเลยสักนิด…”
“ใครว่าฉันไม่มี…ฉันเก็บไว้เพียบเลย…แล้วฉันจะเอามาให้เธอดู”
คนฟังเริ่มใจชื้นขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะวกกลับไปยัง
เรื่องนาดีมต่อ เพราะเรื่องอื่นค่อยเคลียร์กันทีหลังได้อีก…เธอยังติดใจเรื่องนี้ไม่หาย
“แล้วทำไมก๊อตถึงมั่นใจว่านาดีมต้องฟ้องเราสองคน”
“ก็เพราะนาดีมมีทนายความมือดีที่เก่งเรื่องพวกนี้อยู่ในมือ…
ไอ้หมอนั่นไม่มีวันทิ้งประเด็นนี้ไปง่ายๆแน่…เขาจะได้ใช้ความสามารถ
และนาดีมก็จะมีลูกเล่นอีกมากมายงัดขึ้นมาเพื่อจะสังหารฉันกับเธอ…
พร้อมๆกับตีแผ่ให้คนในสังคมเชื่อว่าเขาถูกฉันกับเธอทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัส…
ไม่เชื่อเธอก็คอยดูฤทธิ์เดชเพื่อนคนนี้ของเธอก็แล้วกัน
ฉันมั่นใจว่า…เขาวัวไม่ไปข้างหลัง…ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่
แต่ถ้าจะให้แน่ต้องดูที่ยาย…”
ชายหนุ่มมั่นอกมั่นใจว่าเขาคาดการณ์ไว้ไม่ผิด
เพราะประตูทุกบานสำหรับนาดีมถูกปิดตายหมดแล้ว
ทางที่จะไปได้สบายๆมีทางนี้แค่ทางเดียว…และเธอจะต้องเลือกใช้เส้นทางนี้
ในการเอาตัวรอดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย…
“แล้วก๊อตจะยอมให้เขาทำแบบนั้นหรือ…”
“ก็ต้องให้เกียรติในการต่อสู้ของคนอื่นบ้าง…” เขาว่าด้วยสีหน้าเรียบๆ
ไม่ได้มีแววทุกข์กังวลอันใด
“แล้วใจก๊อตจะไม่บอกวาเลยรึไงว่ามีแผนอะไรบ้าง หรือไม่ไว้ใจวา”
ซุลก๊อตไนท์ส่ายหน้า…ยกมือประคองใบหน้าของเธอ สบตาคู่นั้นนิ่ง
“ยิ่งกว่าไว้ใจ…แต่ไม่อยากให้กังวลใจ เธอกำลังท้อง ฉันไม่อยากให้เธอเครียด
การคลอดลูกเป็นทุกข์หนักและยากลำบากมาก…ถ้าเธอเครียด ลูกจะเครียดตาม
แล้วเขาจะออกมาจากท้องเธอยากขึ้น
ดังนั้น…เธอต้องผ่อนคลาย…วางทุกอย่างไว้ในมือฉัน…อย่าไปคิดอะไรให้มาก…”
ว่าแล้วเขาก็ก้มลงประทับริมฝีปากกับจมูกปลายแหลมลงบนหน้าผากวาลาดา
“บางครั้ง...การไม่รู้ย่อมดีกว่า…และปลอดภัยกว่า…”
แล้วเขาก็วางมือลงบนหน้าท้องของเธอ ลูบเบาๆไปมา
“ฉันอยากให้ลูกมีสุขภาพกายและใจที่ดีนะวา…เพราะเขาเป็นของขวัญล้ำค่าอีกชิ้น
ที่ฉันได้รับมา…และเธอคือผู้รักษา…นี่คือภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอนะ…
เธอแบกไว้แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว...มากพอแล้วจริงๆ...”
เขายิ้มหวานละมุนก่อนจะรั้งตัวเธอเข้าไปกอด…
เมื่อกลับเข้ามาในงานอีกครั้งก็ใกล้ค่ำแล้ว…ทั้งสองเดินประคองกันมา
อย่างกะหนุงกะหนิง พาลทำเอาเจ้าของเกาะถึงกับอมยิ้มนึกถึงวันวานของตนขึ้นมา
และยังทำเอาคนอื่นๆถึงกับแซวว่าแอบไปฮันนิมูนก่อนส่งตัวเข้าห้องหอ
“ฉันกับวาเข้าหอมาเป็นปีๆแล้วรินทร์…คงจะไม่ตื่นเต้นเหมือนคู่อื่นๆ
...ใช่มั้ยครับพี่นุ…”
ไม่วายหันไปแหย่นุฮาที่ดูเหมือนจะไม่ยอมห่างกายเจ้าสาวของตัวเองเลย…
ซุลก๊อตไนท์ไม่เคยเห็นสภาพลูกผู้พี่เป็นเช่นนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
…ท่าจะอาการหนักนะเนี่ย…
“อย่าทำมาพูดดี…ฉันกับนายยังมีเรื่องที่ต้องสะสางกันอีกเพียบ…”
นุฮาไม่วายคาดโทษ
“อย่าเพิ่งใจร้อนเลยพี่นุ…ผมให้พี่ได้เอาคืนสมใจแน่ แต่ขอต่อเวลาออกไปได้มั้ย…
ให้มารหมดอิทธิฤทธิ์ซะก่อน…” นุฮาได้แต่ลอบถอนใจ
ลูกไม้แบบนี้มันเคยงัดเอามาใช้กับเขาประจำ
“ว่าแต่…นี่ก็ได้เวลาส่งตัวเข้าหอแล้วนี่ จะมัวทำอะไรกันอยู่…เข้าหอครับเข้าหอ…”
คนเคยเป็นเจ้าบ่่าวมาแล้วสี่ครั้งส่งเสียงเชิญชวนเสียดังลั่นงาน
ทำให้แขกเหรื่อถึงกับหัวเราะครืน…ไม่เว้นผู้หลักผู้ใหญ่ในงาน
ที่คืนนี้มีห้องพักสำรองเอาไว้ทุกคนแล้ว…ส่วนผู้ประสงค์จะเดินทางกลับทันที
ก็จะมีเรือรับส่งเป็นช่วงๆ…และเท่าที่สังเกตดูแล้วผู้คนเริ่มบางตาลงเหลือเพียงญาติสนิท
ไม่กี่คนเท่านั้น…
“อ้อ…รินทร์…ฉันมีของขวัญวันแต่งงานให้นายด้วย…โทษทีที่ให้ช้าไป
แต่คิดว่านายน่าจะดีใจที่ได้เห็นมัน…” ว่าแล้วก็เดินผลุบหายเข้าไป
ในบ้านพักส่วนตัวของเขาในเกาะนี้…แล้วเดินกลับมาพร้อมสิ่งที่อยู่ในมือ
ก่อนจะยื่นส่งมันให้วารินทร์
“กล้องถ่ายรูปเนี่ยนะ…” วารินทร์รู้ดีว่าเพื่อนเก่าเพ่ือนแก่อย่างซุลก๊อตไน์
ชอบสะสมกล้องถ่ายรูป แต่ไม่คิดว่ามันจะซื้อกล้องถ่ายรูปให้เขาเป็นของขวัญวันแต่งงาน
“เปิดดูอะไรๆข้างในซะก่อน…” เมื่อวารินทร์เปิดเข้าไปดูภาพที่ถูกเก็บบันทึกไว้
ในกล้องตัวนี้ โดยเฉพาะภาพวิดีโอเคลื่อนไหวที่มีเขากับนาดีมเป็นพระ-นางของเรื่อง
ที่กำลังแสดงฉากอัศจรรย์กันอยู่บนแคร่ภายในห้องที่มีแสงสลัวราง หากภาพทุกช็อต
มันกลับชัดเจน ทำเอาวารินทร์ถึงกับเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้ด้วย…
ไม่คิดเลยว่าภาพวันนั้นจะถูกบันทึกเอาไว้ด้วยซ้ำไป
เขาเงยหน้าจากภาพขึ้นมองซุลก๊อตไนท์อย่างไม่คาดคิด
“ถึงกับอึ้งไปเลยรึ…โทษทีนะที่ฉันเสียมารยาทดูมันไปแล้วด้วย…
แต่ฉันไม่ได้ก๊อปปี้มันเอาไว้ในที่ใดๆของโลกนี้…และยังไม่มีใครได้เห็นเพิ่ม
จากฉันหรือได้ก๊อปปี้มันด้วย…นายจะเก็บไว้ดูเล่นหรือจะลบไปก็ได้นะ
ฉันยกมันให้นายแล้ว…" คนพูดหยุดนิดนึงเพื่อย้ำหนักในประโยคถัดมาว่า
"ส่วนกล้องตัวนี้ถ้านายอยากคืนให้เจ้าของเขา...นาดีมคงดีใจสุดๆถ้าได้รับมัน
จากมือของนาย…และนายควรจะไปคืนเจ้าของเขาซะ…
เพราะเหมือนมันจะเป็นสาเหตุหลักๆให้เขาเข้าไปนอนอยู่ในไอซียู…”
วารินทร์จ้องซุลก๊อตไนท์นิ่งทีเดียว ไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณมันหรือตั๊นหน้ามันดี…
“ใช่ค่ะ…ต้าจำได้แล้ว…วันนั้นเหมือนเขาจะคว้าอะไรติดมือไปด้วย
ต้าไม่แน่ใจว่าใช่กล้องหรือเปล่า…” อานิต้าแทรกขึ้นมาเหมือนจะนึกได้
ทำเอาวารินทร์ถึงกับหันมามองภรรยาอย่างเอาเรื่องเลยทีเดียว
“นี่เมียนายก็ได้เห็นภาพนี้แบบสดๆเลยรึรินทร์…โธ่…เรื่องมันไม่น่าจะเศร้าขนาดนี้”
คราวนี้วารินทร์แน่ใจแล้วว่าเขาอยากตั๊นหน้ามันมากกว่าจะเอ่ยขอบคุณมัน…
ก่อนจะให้นึกสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ
“แล้วทำไมนายไม่ใช้มันต่อรองให้นาดีมหย่ากับนาย…เพราะฉันคิดว่า
นายคงอยากได้ใบหย่าจากนาดีมอยู่นะ…หลักฐานชิ้นนี้มันช่วยนายได้
อย่างไม่ต้องสงสัย…” คนถูกถามคลี่ยิ้ม
“เอาเพื่อนไปขายมันไม่เจริญหรอกน่า…” และน่ันทำให้วารินทร์
คิดได้แล้วว่่าเขาควรจะ…
“ขอบใจนายมากนะที่ช่วยเก็บมันมาให้ฉัน…” ว่าแล้วก็รีบลบภาพนั้นทันที
โดยไม่คิดจะดูซ้ำสองให้เสียลูกกะตา…
“แล้วฉันจะเอามันไปคืนเจ้าของด้วยมือฉันเอง…”
วารินทร์บอกเสียงหนักแน่น แววตานิ่งลึกยิ่งนัก…
"ใส่เกราะกันกระสุนไปด้วยน่าจะดีนะ..." ไม่วายสัพยอกวารินทร์
ทำเอาวารินทร์ได้แต่ยืนแค่นยิ้มออกมา ก่อนจะรู้โล่งใจที่ไม่มีอะไรแบบนี้
มาคอยกวนใจเขาอีกต่อไป เว้นแต่อานิต้าเท่าน้ัน...เขาไม่แน่ใจ
ว่าเธอจะซีเรียสกับอะไรแบบนี้แค่ไหน...แม้เขาจะยังไม่ได้เสียตัว
และความบริสุทธิ์ให้นาดีมก็ตาม
“อ้าวพี่นุ…ทำไมไม่พาบัวเข้าห้องหอ…มารอคู่ผมกับคู่นายรินทร์อยู่ทำไม…”
ซุลก๊อตไนท์เสร็จธุระจากวารินทร์ที่ยืนเคียงกันกับอานิต้าที่ปลีกตัวออกมา
ให้ห่างจากผู้คนเพื่อเคลียร์ธุระส่วนตัว แล้วหันกลับไปหมายจะจูงมือวาลาดา
ที่ยืนห่างออกไป ก็พบว่านุฮากับอะสุเซน่ายังไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย
“ก็ผู้ใหญ่เขาอยากให้ไปพร้อมๆกัน…” นุฮาบอกออกไปทั้งๆที่พยายาม
ซ่อนความอายเอาไว้ไม่น้อย ในชีวิตไม่เคยอายขนาดนี้มาก่อน
ไอ้ก๊อตมันช่างหาเรื่องแกล้งเขาได้ตลอดจริงๆ อย่าให้ถึงทีเขาบ้างก็แล้วกัน
“งั้นโทษทีพี่…ที่ทำให้เสียเวลาอันเป็นส่วนตัวไปหลายนาที…ไป…เข้าหอกันเถอะเรา…”
ว่่าแล้วก็ชวนกันเข้าที่พักเสียที
วารินทร์ได้แต่ส่ายหน้าให้ซุลก๊อตไนท์…เขาเชื่อแล้วว่ามันคือ 'ก๊อตซิลลา'
ที่ส่งข้อความไปหาเขาเพื่อเชิญเขามาร่วมงาน
…มันเข้าใจเอาชื่อสัตว์ประหลาดตัวนี้มาเป็นนามแฝง…ดูสมน้ำสมเนื้อดีทีเดียว
............โปรดติดตามตอนต่อไป...............
จอมโจรขโมยซีน ปะทะ กับก๊อตซิลลานะรอบนี้...ฮ่าาาา
ใครเป็นพระเอกก็รู้ๆกันอยู่...คนไม่ใช่เลยต้องหลบ...อิอิ
มาดูกันต่อว่าแผนของมารจะใช่อย่างที่ก๊อตสันนิษฐานไว้รึเปล่า...
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามค่ะ ขอบคุณทุกๆไลค์ที่กดให้กัน
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ที่เป็นกำลังใจให้เต่า...^^
มาให้เช้าตรู่ เพราะเต่่าขาสั้นปั่นช้า...อิอิ
......ตอบเมนท์จ่ะ.........
1.คุณร้อยวจี...มาต่อให้กันแล้วจ่ะ...และทิ้งให้ลุ้นต่อ อิอิ
2.คุณcoonX3...บุคคลสำคัญอย่างแขกรับเชิญกิติมศักดิ์ยังมีอีกค่ะ
บุคคลที่ว่านี้สำคัญมากทีเดียว...อิอิ
3.คุณkonhin...ก๊อตห่วงสวัสดิภาพของลูกเมียและอีกหลายชีวิตอ่ะจิ
เลยต้องพามาแต่งกันที่เกาะรังรักอ่ะค่ะ...อิอิ...
ตอนนี้มารใกล้จะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายแล้วค่ะ
ปล.ปกติโยจะอัพนิยายหลังเที่ยงคืนน่ะค่ะ นอกเสียจากว่ามันติดพันจน
ปั่นช้าเลยร่นเวลาไปเป็นในเวลาอื่นๆแทน...เฮะๆ
4.คุณพัชรี...โยย้อนอ่านคอมเม้นท์คุณพัชรีในตอนอื่นๆที่ทิ้งไว้ให้อ่านแล้วนะคะ
เลยทำให้รู้ว่า...พี่นุมีแฟนคลับแล้ว...ฮ่าๆๆๆๆ พี่นุแย่งซีนก๊อตอ่ะ...
เพราะคาแรกเตอร์พี่แกคือ อบอุ่น น่ารักนิดๆ อารมณ์ดี ซื่อตรง ใจเด็ด
ไม่เจ้าเล่ห์แสนกลเหมือนอิตาก๊อต คือนิสัยคล้ายๆหญิงวา เพียงแต่ไม่ได้
โลกสวยเหมือนวาเท่านั้นเอง...ไม่แปลกน้าาา ถ้าจะมีใครตกหลุมรักพี่นุแกบ้าง
ว่าแต่...ก๊อตล่ะคะ...วารินทร์ไรงี้ พอจะมีเศษใจเหลือไว้ให้สองหนุ่มนี้บ้างรึเปล่า ^^
5.คุณnapt...ตอนนี้โยมาให้ค้างต่ออีกนิด...ฮ่าาาา
ร้านสุดทางรักอยู่ในคานน้อย คอยรักอ่ะสิคะ...ยังไม่เห็นว่าเขาจะปิดรับสมัคร
สมาชิกน้าาาาา...มีรับสมัครสมาชิกคานอยู่ตลอดเลย...ตกจากคาน
เมื่อไหร่ก็มีบริการจัดงานแต่งให้ด้วย...อิอิอิ
6.คุณPat...นอกจากพี่นุจะชอบแย่งซีนก๊อตแล้ว...ยังมีจอมโจรขโมยซีน
อีกคนที่โผล่มาเป็นพระเอกของงานอีกค่ะ...ก็เงาะนี่น้าาาาา...อิอิอิ
เรื่องค่าตัวนี้ขอบอกค่ะว่า งบเริ่มบานแล้ว...แต่ละคนที่มาก็อยากจะเด่น
เกินหน้าเกินตาพระเอกเต่ากันทั้งน้านนนน...ต้องปาดเหงื่อให้ก๊อตกันเลย...
นี่ยังเหลืออีกสองสามท่านที่กำลังต่อรองอยู่ค่ะว่าจะยอมเข้าฉากให้มั้ย...อิอิอิ
อันนั้นเขาค่อนข้างมีระดับ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอ่ะค่ะ...อิอิ
7.คุณPampam...ยังพอมีดารามาร่วมสมทบกันอีกคับคั่ง...นั่งนับดูดีๆนะคะ
เพราะยังเหลืออีกหลายตอนกว่าจะจบ...อิอิอิ ถ้าไม่กลัวว่าคานจะหักเนี่ย
เต่าจะยกมาทั้งเรื่องเลย...ฮ่าาาาา
8.คุณmhengjhy...หายไปเลยอ่ะ...เต่าก็ว่าหายไปหนายยยย...
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาส่งเสียงให้เต่าได้รับรู้ในเรื่องนี้ด้วย...
ว่าแต่...ก๊อตล่ะคะ...ไม่มีใครอยู่ข้างก๊อตเลยหรือคะ...
โธ่...สงสารก๊อตจัง มีแต่คนเข้าข้างพี่นุ...อิอิ
9.คุณตุ๊งแช่...จอมโจรขโมยซีนมาอีกแล้วค่ะ...มาอีกแล้ว...
มาเพื่อแย่งซีนก๊อตกับพี่นุโดยเฉพาะ...เหอๆ
ว่าแต่ที่ลุ้นให้รีบส่งตัวเข้าหอนั้น คงไม่ใช่ว่ากำลังลุ้นคู่ก๊อตชิมิ
แบบว่า...คู่น้ีฟิลลิ่งมันคงไม่ใช่แล้ว เพราะคงต้องไปลุ้นว่าเมื่อไหร่จะคลอดแทน..เหอๆ
เต่ารู้น้า...ว่าลุ้นคู่พี่นุกะบัวอยู่...อิอิ
ส่วนนามสกุลมารแต่ละอันช่างหน้าเอาไปต่อท้ายนาดีมเสียนี่กระไร...
โดยเฉพาะมารซึมลึกเนี่ย...มันทำให้เต่านึกถึงแผ่นผ้าอนามัยไงก็ไม่รู้สิ
แบบว่า กันซึมเปื้อนจากด้านข้าง ทำให้ซึมลึก...เหอๆๆ
แหม...นาดีมกับผ้าอนามัยมันไม่น่าจะจิ้นไปทางเดียวกันได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ
มะกรูดต้นนั้นอายุมากไปรึเปล่า...ถ้าอายุมากไปมันก็ไม่อยากคลอดลูกแล้วนะคะ
แบบว่าคลอดไม่ไหว ไม่มีแรงเบ่งไรงี้ ต้องมะกรูดสาวๆค่ะ...อายุยังไม่มาก
รับรองว่าให้ผลดกเกินคาด...แถมหนามก็แหลมยาวสุดยอด ทิ่มตำผู้ท่ีคิด
จะไปสอยลูกมัน...นั่นก็เป็นอีกหนึ่งในการแสดงออกถึงความหวงลูกมันด้วยหนา ฮ่าๆๆๆๆ
บัวก็เป็นผู้หญิงน้าาาา...มานก็ต้องมีเขินบ้างจิ...
โดนพี่นุจีบขนาดนั้นไม่เขินได้อย่างไรไหว อิอิอิ
ปล.ถึงบ้านเต่าจะมีผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงหลายเท่า
แต่ผู้หญิงเสียงดังกว่าค่ะ...(เสียงร้องนะคะ) ^o^
เวลาตีกันทีไร ผู้หญิงเสียงดังตลอด เพราะฝั่งผู้ชายชอบแหย่ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็ขี้แย
แหม...ลงตัวมาก...คนที่ปวดหัวมิใช่ใคร
นอกจากเหล่าผู้ชมและคณะกรรมการกลาง อิอิอิ
10.คุณแว่นใส...ไปเที่ยวได้ตลอดเลยค่ะ หมอรังกับสิ้นรักไม่ว่า...
สำหรับสมาชิกคานน้อย...อิอิอิ
11.คุณคนเหงา...สองแม่ลูกรู้เอาก็วันงานแล้วค่ะ ถึงอยากจะมาก็มาไม่ทัน
หรือต่อให้มาทันก็ไม่มีทางได้เข้าเกาะค่ะ...เกาะเขามีเซ็นเซอร์มารได้น้าาาา อิอิ
ประกาศสงครามพร้อมรบแล้วค่ะ...แล้วแต่ว่าใครจะงัดอะไรออกมา...^^
12.คุณyapapaya...ตาก๊อตยังมีกองหนุนอีกใช้ได้ทีเดียวค่ะ...
ส่วนฝ่ายพญามารก็คงไม่ยอมน้อยหน้า (แหม ฟังๆดูเหมือนเรากำลังพูดเรื่อง
หนังจีนกำลังภายในเลยอ่ะ...) อิอิ
.
..........ขอให้สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้านะคะ................
"เต่าโย"

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 เม.ย. 2558, 05:30:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.ค. 2564, 15:32:57 น.
จำนวนการเข้าชม : 3611
<< บทที่ 47 วันวิวาห์มหาชน (50%) | บทพิเศษ Chapter 2 >> |

Pampam 20 เม.ย. 2558, 07:58:40 น.
ตอนนั้นยังสงสัยอยู่เลยว่าใครที่ขโมยกล้องไป ดีใจที่เป็นก๊อต ไม่อย่างนั้นวารินทร์ได้ซวยอีก
ถูกต้องแล้วค่ะลุ้นคู่พี่นุกับบัว เพราะคู่ก๊อตกับวาเขาไปไหนถึงไหนกันแล้ว
ตอนนั้นยังสงสัยอยู่เลยว่าใครที่ขโมยกล้องไป ดีใจที่เป็นก๊อต ไม่อย่างนั้นวารินทร์ได้ซวยอีก
ถูกต้องแล้วค่ะลุ้นคู่พี่นุกับบัว เพราะคู่ก๊อตกับวาเขาไปไหนถึงไหนกันแล้ว


konhin 20 เม.ย. 2558, 08:14:35 น.
โหหหห ตั้งใจจริง นะเนี่ยแผนนี้ รอดูค่ะ ว่ามารจะตกหลุมเดินตามแผนหรือเปล่า ในเมื่อวางแผนล่อ เชื่อว่าต้องมีกล้องอัดไว้ตอนพยายามเผา?? แบบว่าส่งข้อมูลผ่าน wifi ไปเก็บไว้อีกที่ ยังไงก็มีแบ็คอัพ เอาน่า เค้าเชื่ออออว่าก๊อตแผนสูง
ปล ไม่รู้ว่าจะรู้ทันได้ทุกแผนหรือเปล่า เค้าเดาได้แค่นี้
โหหหห ตั้งใจจริง นะเนี่ยแผนนี้ รอดูค่ะ ว่ามารจะตกหลุมเดินตามแผนหรือเปล่า ในเมื่อวางแผนล่อ เชื่อว่าต้องมีกล้องอัดไว้ตอนพยายามเผา?? แบบว่าส่งข้อมูลผ่าน wifi ไปเก็บไว้อีกที่ ยังไงก็มีแบ็คอัพ เอาน่า เค้าเชื่ออออว่าก๊อตแผนสูง
ปล ไม่รู้ว่าจะรู้ทันได้ทุกแผนหรือเปล่า เค้าเดาได้แค่นี้

แว่นใส 20 เม.ย. 2558, 08:19:03 น.
มีฉากหวานเป็นระยะเลยนะ
มีฉากหวานเป็นระยะเลยนะ


ตุ๊งแช่ 20 เม.ย. 2558, 09:24:32 น.
ไปถึงผ้าอนามัยได้ไง
ต้นมะกรูด ปีเดียวเองงง แก่ซะแล้ววว
ก๊อตซิลลา ก้เถอะ ยังไงก็แพ้ทาง ก๊อตวาลี่...

ต้นมะกรูด ปีเดียวเองงง แก่ซะแล้ววว

ก๊อตซิลลา ก้เถอะ ยังไงก็แพ้ทาง ก๊อตวาลี่...


yapapaya 20 เม.ย. 2558, 11:09:31 น.
พาเงาะป่ามาเข้าฉากด้วย เจอแล้วจอมโจรขโมยกล้อง ฮิฮิ หลักฐานสำคัญซะด้วย มารจะเดินตามแผนก๊อตซิล่าหรือเปล่าติดตามขมกันยาวๆ รอลุ้นกันต่อไป
พาเงาะป่ามาเข้าฉากด้วย เจอแล้วจอมโจรขโมยกล้อง ฮิฮิ หลักฐานสำคัญซะด้วย มารจะเดินตามแผนก๊อตซิล่าหรือเปล่าติดตามขมกันยาวๆ รอลุ้นกันต่อไป

coonX3 20 เม.ย. 2558, 11:40:13 น.
ฮาได้อีก มาดูต่อว่าแผนจะสำเร็จมั้ย
ฮาได้อีก มาดูต่อว่าแผนจะสำเร็จมั้ย

พัชรี 21 เม.ย. 2558, 08:37:44 น.
เจ้าเงาะวารินทร์ เราก็ชอบนะ ก็อตก็น่ารัก
แต่พี่นุน่ารักที่สุดอ่ะ เข้ากะหนูบัวจริงๆ
จริงแล้วนาดีมเป็นคนน่าสงสารนะ มีแม่เป็นแบบอย่างแบบนี้.......เราพยายามเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเท่าทึ่จะทำได้นะ เห็นชัดมากว่าลูกทำตามแบบเราทุกอย่างจริงๆ ตัวอย่างง่ายๆคือเธอจะไม่ทำอะไรเลยวันหยุด จะเป็นแบบชุดนอนชุดเที่ยวชุดเดียวกัน ซึ่งตอนเล็กๆไม่ใช่แบบนี้เลย เห็นแม่เอาแต่นอนตลอดตอนวันหยุดไง
เจ้าเงาะวารินทร์ เราก็ชอบนะ ก็อตก็น่ารัก
แต่พี่นุน่ารักที่สุดอ่ะ เข้ากะหนูบัวจริงๆ
จริงแล้วนาดีมเป็นคนน่าสงสารนะ มีแม่เป็นแบบอย่างแบบนี้.......เราพยายามเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเท่าทึ่จะทำได้นะ เห็นชัดมากว่าลูกทำตามแบบเราทุกอย่างจริงๆ ตัวอย่างง่ายๆคือเธอจะไม่ทำอะไรเลยวันหยุด จะเป็นแบบชุดนอนชุดเที่ยวชุดเดียวกัน ซึ่งตอนเล็กๆไม่ใช่แบบนี้เลย เห็นแม่เอาแต่นอนตลอดตอนวันหยุดไง


napt 21 เม.ย. 2558, 15:10:50 น.
พี่นุกลายเป็นหนุ่มขี้อายซะละ 55
ลุ้นสองคู่เลยนะ ว่าจะหวานกันอีท่าไหน คู่ก๊อตไม่ห่วงเรื่องความหวานละ 555
รอดูวิถีมาร จะจัดอะไรมาสู้
พี่นุกลายเป็นหนุ่มขี้อายซะละ 55
ลุ้นสองคู่เลยนะ ว่าจะหวานกันอีท่าไหน คู่ก๊อตไม่ห่วงเรื่องความหวานละ 555
รอดูวิถีมาร จะจัดอะไรมาสู้

หนูน้อยผู้โดดเดี่ยวคนหนึ่ง 20 ส.ค. 2565, 21:29:32 น.
แงงง ไรท์คะะ กลับมาอัพต่อได้แล้วนะคะ รอมาหลายเดือนแน้ววววว คิดถึงตาหนูจะแย่แล้วค่าไรท์ แหะๆ
แงงง ไรท์คะะ กลับมาอัพต่อได้แล้วนะคะ รอมาหลายเดือนแน้ววววว คิดถึงตาหนูจะแย่แล้วค่าไรท์ แหะๆ