{ เจ้าบ่าวจอมเถื่อน }
เจ้าบ่าวจอมเถื่อน
Tags: เจ้าบ่าวจอมเถื่อน, เขม, ขวัญกมล, เกษม, ขจีพรรณ, บุลินทร, นักเลง, สาวแว่น, หื่น, เถื่อน, ตบจูบ, คอมเมดี้

ตอน: บทที่ 2 รัก...ลับ (ครึ่งแรก)



รัก…ลับ






เจ้าของร่างสูงไม่ต่ำกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร ผิวขาว ใบหน้าคมได้รูปโดดเด่นซึ่งยืนอยู่บริเวณจุดรับผู้โดยสารขาเข้าของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังเป็นที่สนใจของทั้งสาวแท้และสาวเทียมในสนามบิน พวกเธอเหล่านั้นจับจ้องเขาไม่วางตา แม้เดินผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่วายหันกลับมามองคอแทบเคล็ด บางคนถึงขั้นหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาแอบถ่ายรูปเขาเก็บไว้ไปชื่นชมเป็นการส่วนตัวอีกด้วย

“พี่คะ” เสียงใสดังขึ้นทางด้านหลังชายหนุ่ม

รามิลหันไปมองก็เห็นเด็กสาววัยประมาณสิบแปดปียืนยิ้มเป็นมิตรอยู่ เขาเลิกคิ้วหนาขึ้นเชิงถาม อีกฝ่ายจึงรีบบอก

“เพื่อนหนูอยากรู้จักพี่น่ะค่ะ” คนพูดพยักพเยิดไปยังสาวน้อยอีกคนซึ่งยืนอยู่ไกลออกไป ก่อนยื่นกระดาษโน้ตแผ่นเล็กให้ “นี่ไอดีไลน์เพื่อนหนูค่ะ อย่าลืมแอดมานะคะ”

รามิลยิ้มขรึมและเอ่ยอย่างสุภาพ “ขอโทษด้วยครับ ผมมีแฟนแล้ว”

“ว้า จริงเหรอคะ แย่จังเลย” เธอทำหน้าเสียดายแทนเพื่อน “แต่ก็ดีแล้วละค่ะที่พี่พูดตรงๆ น่าดีใจแทนแฟนพี่ที่ได้เจอผู้ชายจริงใจแบบนี้”

เจ้าของร่างสูงค้อมศีรษะเล็กน้อยเชิงขอบคุณ ก่อนบอกอีกครั้ง “ขอโทษจริงๆครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูไปบอกเพื่อนให้นะคะว่าพี่มีแฟนแล้ว” พูดจบเด็กสาวจึงปลีกตัวไป

รามิลส่ายหน้าไปมา ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้ไม่เป็นกุลสตรีกันเลยนะ จู่ๆให้เพื่อนเดินเอาไอดีไลน์มาให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน ไม่กลัวเลยหรือไงว่าเขาจะเป็นคนไม่ดีและอาจหลอกลวงเธอได้ ถ้าเพลงพิณน้องสาวเขาเป็นแบบนี้จะสั่งสอนให้เข็ด!

แม้จะมีสาวๆมากมายแสดงออกว่าสนใจ แต่รามิลไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครมาก่อน ทุกครั้งเขาจะโกหกว่ามีแฟนแล้ว ทั้งที่จริงๆไม่มี แต่ไม่มีแฟน ไม่ได้หมายความว่าหัวใจยังว่าง

“ราม!” เสียงคุ้นเคยที่เรียกชื่อทำให้รามิลหลุดจากความคิดและหันไปมอง

ดวงตาคมของชายหนุ่มเป็นประกายจัดจ้าเมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็ก ใบหน้าใสจิ้มลิ้มซึ่งกำลังโบกมือให้และเดินเข็นรถสัมภาระตรงเข้ามาหา

“ขวัญ!” หัวใจรามิลพองโตจนคับอก

“ขอโทษที่ให้รอนานนะ เครื่องดีเลย์มากเลย แล้วนี่รามมีงานตอนบ่ายไหม เราทำให้ยุ่งยากหรือเปล่า จริงๆรามไม่ต้องมารับเราก็ได้นะ คลินิกรามกับสนามบินก็ไม่ใช่ใกล้ๆ” ขวัญกมลเอ่ยอย่างไม่สบายใจ

เพื่อนของเธอเป็นสัตวแพทย์ เปิดคลินิกเล็กๆของตัวเองอยู่ในตัวเมืองซึ่งห่างจากสนามบินพอสมควร เธอจึงไม่อยากรบกวนเขาหากไม่จำเป็นจริงๆ

“ขวัญๆ เว้นวรรคให้เราพูดบ้าง อะไรกัน มาถึงก็ทำหน้ารู้สึกผิดใส่เราเลย ขวัญไม่ได้เป็นคนทำให้เครื่องดีเลย์สักหน่อย มันเป็นเหตุสุดวิสัย เราเข้าใจ” รอยยิ้มอบอุ่นระบายอยู่ทั่วใบหน้าคมได้รูป

“ก็เราเกรงใจรามนี่นา” หญิงสาวยกมือขึ้นขยับแว่นสายตาหนาเตอะแก้เก้อ ตอนแรกน้าขจีพรรณเป็นคนจะมารับเธอเช่นปกติ แต่ท่านเพิ่งไลน์มาบอกก่อนเธอบินจากญี่ปุ่นวันนี้เองว่ารามิลอาสาจะมาแทน ตอนนั้นเวลากระชั้นชิดต้องขึ้นเครื่องแล้ว ขวัญกมลจึงไม่มีโอกาสได้ทักท้วงอะไร

“วันนี้เราว่างตลอดช่วงบ่าย ไม่ต้องห่วง”

“โอเค ถ้ารามยืนยันแบบนี้ เราก็สบายใจ เดี๋ยวไปกินข้าวที่บ้านเรานะ น้าขจีบอกว่าจะทำกับข้าวไว้รอ” ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มละไม

“ไม่ปฏิเสธครับ” รามิลขยิบตาก่อนถามต่อ “แล้วนอกจากเครื่องดีเลย์ ไฟลท์ราบรื่นดี ไม่มีปัญหาอื่นใช่ไหม”

“ไม่มี” ขวัญกมลส่ายศีรษะ

แม้หญิงสาวไม่ได้แต่งหน้า ผมสีน้ำตาลมัดรวบไว้เพียงลวกๆ แต่ก็ยังน่ามองเสมอในสายตาของรามิล เขามองเธอนิ่งอย่างเผลอไผล

“ราม!”

ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนขวัญกมลสะกิดแขน “ขวัญว่าไงนะ”

“เราถามว่ารามหิวไหม จะกินอะไรรองท้องก่อนไปกินที่บ้านเราหรือเปล่า แต่รามไม่ตอบ ใจลอยไปถึงไหนเนี่ย” เธออมยิ้ม “หรือว่าคิดถึงสาวที่ไหน นั่นแน่! แอบมีใครไม่บอกเพื่อนเลยนะ”

“เฮ้ย เปล่า ไม่มี ไม่ได้มีใครที่ไหน” รามิลปฏิเสธพัลวัน ทั้งที่ตรงข้ามกับความจริง

“โอเคๆ เราเชื่อแล้ว พูดรัวเชียว ยังกับกลัวว่าเราจะจับพิรุธได้งั้นแหละ” ขวัญกมลมองลอดแว่น แม้ปากจะบอกว่าเชื่อ แต่ยังยิ้มเย้าแหย่เพื่อนไม่หยุด

“แซวแต่คนอื่น ขวัญก็ไม่ใช่ไปแอบมีหนุ่มญี่ปุ่นไว้ไม่บอกน้าขจีนะ” เขาถามเหมือนไม่จริงจัง แต่ใจจดจ่ออยากรู้คำตอบครามครัน

“แค่เรียนกับทำงานพิเศษก็หมดวันแล้ว ไม่มีเวลาสนใจใครหรอก”

“ก็ดีแล้ว น้าขจีจะได้สบายใจ” รามิลยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายพร่างพราว

“น้าขจีไม่ได้หวงหลานสักหน่อย” ขวัญกมลถูกขจีพรรณเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชน ที่ผ่านมาขจีพรรณดูแลและอบรมเธอเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นเข้มงวดจนเกินไป ทำให้ขวัญกมลไม่รู้สึกอึดอัดหรือเก็บกด ท่านค่อนข้างให้อิสระเธอในการตัดสินใจ โดยคอยให้คำแนะนำในฐานะผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่า แล้วให้เธอไตร่ตรองเองว่าจะเลือกทางใด เรื่องแฟนก็ไม่เคยห้ามถ้าจะมี มีแต่เธอที่ไม่ยอมคบหาใคร

“ถึงไม่เคยบอกว่าหวง แต่เอาเข้าจริงอาจจะแอบหวงอยู่ก็ได้นะ”

หญิงสาวทำท่าคิด ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมแซวตัวเอง “ไม่หรอก เรามีหน้าตาเป็นอาวุธแบบนี้ ไม่มีอะไรน่าห่วงสักนิด ว่าแต่รามจะกินอะไรรองท้องไหม” ขวัญกมลวกกลับเข้าคำถามเดิมที่ค้างไว้

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปกินข้าวที่บ้านขวัญดีกว่า”

“งั้นไปเลยไหม ป่านนี้น้าขจีชะเง้อรอแล้ว”

เมื่อได้ข้อสรุป รามิลจึงเข็นรถเข็นของหญิงสาวเพื่อไปยังลานจอดรถ ระหว่างทางแอบอมยิ้มด้วยความยินดีเมื่อรู้ว่าห้าปีที่ไปเรียนต่อขวัญกมลยังไม่มีใครจริงๆ คงถึงเวลาที่เขาต้องเผยความในใจสักที ก่อนหัวใจของเธอจะหลุดลอยไปเป็นของใครอื่น!





ที่ผ่านมารามิลมีโอกาสเจอขวัญกมลแค่ปีละครั้งเมื่อหญิงสาวกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่แม้อยู่ห่างไกลคนละประเทศและพบกันน้อยแค่ไหน ความรักความห่วงใยที่เขามีให้เธอก็ไม่เคยน้อยลงเลยสักนิด มีแต่จะเพิ่มขึ้นๆทุกวัน

รามิลเคยถามตัวเองหลายครั้งว่า สิ่งที่เกิดกับเขาคือความรักจริงๆใช่ไหม ไม่ใช่เพียงความผูกพัน

เวลาห้าปีที่ห่างกันโดยเขาไม่เคยไม่คิดถึงเธอสักวันคือคำตอบอันชัดเจน

เมื่อขวัญกมลกลับมาคราวนี้ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าเต็มที่ แม้บางครั้งอดหวั่นลึกๆไม่ได้ว่า ถ้าขวัญกมลรู้ว่าเขารักเธอ แล้วไม่ได้คิดเหมือนกัน อาจคุยกันไม่สนิทใจเหมือนเดิม ที่ร้ายกว่านั้นคือสุดท้ายอาจไม่เหลือแม้ความเป็นเพื่อน

“กว่าจะตอบไลน์เสร็จ เล่นเอาปวดนิ้วไปหมด” ขวัญกมลถอนหายใจโล่งอกพลางหันไปยิ้มกว้างกับรามิลซึ่งนั่งอยู่หลังพวงมาลัย หลังไล่ตอบข้อความของเพื่อนๆและรุ่นพี่ที่ญี่ปุ่นซึ่งส่งมาถามว่าเธอถึงไทยโดยสวัสดิภาพหรือยัง แต่ก็ดีใจที่ทุกคนเป็นห่วงเธอขนาดนี้

ชายหนุ่มสบตาเพื่อนสนิทและยิ้มอ่อนโยน “ขวัญผอมลงนะ”

“จริงเหรอ” เธอก้มลงมองหน้าท้องตัวเอง “สงสัยเพราะปีสุดท้ายเรียนหนักมาก เราอดนอนแทบทุกวันเลย งั้นเดี๋ยวต้องเพิ่มน้ำหนักแล้วละ” ตอนปีแรกที่เป็นการเรียนปรับพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างสบายๆสำหรับเธอ อีกสี่ปีต่อมาระดับความยากและหนักของการเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนท้อหลายครั้ง แต่ก็กัดฟันสู้จนจบมาได้ในที่สุด

“อ้าว นึกว่าอยากผอม”

“อยากผอมสิ แต่ไม่อยากผอมเกินไป ว่าแต่รามก็หล่อขึ้นนะ” หญิงสาวยอเพื่อน เพราะเมื่อก่อนเขาผอมมาก บวกกับความสูงยิ่งทำให้เก้งก้าง แต่ตอนนี้ตัวหนาขึ้นทำให้ดูสมาร์ทและแข็งแรงกว่าเดิม

“ขอบคุณมาก เอาเท่าไหร่” รามินเอ่ยเคล้ายิ้ม

“ร้อยนึงพอ”

“เอาจริงเหรอเนี่ย?”

“โอ๊ย พูดเล่น แต่เราชมจริงๆนะ เมื่อกี้ตอนอยู่ในสนามบินไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าสาวๆจับตามองอยู่ คงอิจฉาเราที่มีหนุ่มหล่อมารับ” ทุกคนคงไม่รู้ว่าเธอกับรามิลเป็นแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น หวังว่าเธอคงไม่ได้ทำให้เขาพลาดโอกาสทำความรู้จักกับสาวๆไป

“เราไม่ได้มองใครเลย รอแต่ขวัญคนเดียว” ดวงตาสีดำจัดเป็นประกายลึกล้ำ

“รามนี่ ไม่รู้จักมองอะไรสวยๆงามๆรอบตัวบ้าง” ขวัญกมลส่ายศีรษะ เพราะแบบนี้ไง เจ้าตัวถึงไม่มีแฟนกับเขาสักที แต่จะพูดไปแล้วก็เข้าตัว เพราะเธอก็ยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเหมือนกัน

“เราไม่สนใจใครหรอก นอกจาก…”

กริ๊ง-ง-ง-ง!

ก่อนรามิลจะทันได้พูด เสียงโทรศัพท์มือถือของขวัญกมลก็กรีดเสียงร้องขึ้น เมื่อเห็นหน้าจอเป็นชื่อน้าขจีพรรณ นิ้วเรียวก็แตะหน้าจอรับสาย

“ค่ะน้าขจี”

“ถึงสนามบินแล้วเหรอลูก น้าโทร.หารามไม่ติด เจอกันหรือยัง” หญิงวัยกลางคนถามไถ่อย่างเป็นห่วง

“เจอแล้วค่ะ ตอนนี้ขวัญอยู่กับราม กำลังกลับบ้านค่ะ” ผู้เป็นหลานตอบเสียงสดใส “น้าขจีหิวหรือยังค่ะ ทานรอพวกเราได้เลยนะคะ พอดีเครื่องขวัญดีเลย์น่ะค่ะเลยมาถึงช้ากว่ากำหนด” เธอพลิกข้อมือดูนาฬิกา “อืม น่าจะอีกประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะกว่าจะถึงบ้าน”

“จ้า งั้นน้ากินก่อนเลยนะ เพราะมีแขกรออยู่ ขวัญจำลุงเกษมได้ไหม”

“ได้สิคะ ลุงเกษมเจ้าของไร่ชาแถวบ้านเรา” เมื่อเอ่ยถึงชายวัยกลางคน ขวัญกมลก็ไพล่คิดถึงใครอีกคนไปด้วย เขม…พี่ชายที่เคยวิ่งเล่นมอมแมมด้วยกันสมัยเด็ก

“ใช่ พอดีเขาเอาเค้กมาฝากน้า แล้วคุยกันเรื่องขวัญ เขาบอกไม่ได้เจอขวัญมานาน น้าเลยชวนกินข้าวด้วยกันจะได้รอเจอ แต่แบบนี้คงรอไม่ได้แล้ว เขาน่าจะต้องกลับไร่ไปทำงาน”

“ได้ค่ะ น้าขจีทานก่อนตามสบายเลยนะคะ” ขวัญกมลรู้ว่าตั้งแต่เธอไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น พ่อของเขมแวะเวียนมาหาน้าของเธอไม่ขาด แต่ดูเหมือนว่าน้าขจีพรรณจะไม่ยอมใจอ่อนสักที คงอยากทดสอบความมั่นคงของพ่อเลี้ยงเกษมล่ะมั้ง

วางสายจากผู้เป็นน้าแล้ว หญิงสาวจึงหันไปคุยกับรามิลต่อ “คลินิกรามเป็นไงบ้าง”

“ตอนนี้เรากำลังจะขยายพื้นที่เพิ่ม พอดีร้านถ่ายเอกสารห้องข้างๆจะย้ายออก เราเลยขอเจ้าของตึกเช่าต่อ เพราะจะเอามาทำเป็นโรงแรมหมากับแมว สำหรับคนที่จะไปเที่ยวแล้วไม่สะดวกเอาสัตว์เลี้ยงไปด้วย” ชายหนุ่มเล่าแผนการด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นและมีความสุข

“ดีนะ เพราะยิ่งจะทำให้เจ้าของสัตว์สบายใจ ถ้าสัตว์เป็นอะไรก็มีสัตวแพทย์ดูแลได้ทันท่วงที”

“เดี๋ยวเสร็จแล้วจะชวนขวัญไปดู” เขาอยากให้เธอเป็นส่วนหนึ่งในทุกๆความสำเร็จของชีวิต

“ได้เลย” ขวัญกมลรับปากโดยไม่ลังเล ก่อนจะชวนเพื่อนคุยต่อ ลืมประโยคที่รามิลเอ่ยค้างไว้ก่อนเสียงโทรศัพท์ดังสนิท ด้านชายหนุ่มก็ไม่ได้เอ่ยถึงอีกเช่นกัน






วันนี้ร้านดอกไม้หยุด พีชญาจึงมีโอกาสนอนอ่านนิยายอยู่บ้านโดยหยิบผลงานของนักเขียนที่เธอชื่นชอบอย่างบุลินทรมาเริ่มอ่าน

หญิงสาวนอนตากพัดลมอ่านนิยายเรื่องเล่ห์อโณทัยอย่างสบายใจจนจบเล่มตอนบ่ายสอง จึงไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ก่อนจะออกไปข้างนอก

“แม่ เดี๋ยวพีชไปหาเขมก่อนนะ จะไปกินไอติมฟรีที่ไร่มัน” เธอจูงจักรยานออกมาจากโรงรถพลางบอกแม่ที่กำลังเอาน้ำฉีดราดลานปูนหน้าบ้านเพื่อระบายความร้อนอยู่ เพราะแม้อากาศตอนเช้าจะเย็น แต่กลางวันค่อนข้างร้อน

“เออ ขี่จักรยานระวังรถหน่อยล่ะ”

“จ้า แม่จะเอาอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวขากลับพีชจะแวะตลาดด้วย”

“งั้นฝากซื้อกระเทียมกับมะนาวหน่อย เอามาเท่าครั้งก่อนนั่นแหละ”

“ได้จ้ะ” พีชญารับปากมารดาแข็งขันแล้วปั่นจักรยานออกจากบ้าน

เจ้าของร่างระหงในชุดเสื้อกล้ามสีดำคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีฟ้าและกางเกงยีนขาสั้น รวบผมขึ้นเป็นมวยไม่ให้เกะเกะใบหน้ารูปไข่ ศีรษะทุยสวมหมวกปีกกว้างสีครีมเพื่อกันแดด

ระหว่างทางถนนค่อนข้างโล่ง แต่พีชญาก็ไม่ได้ปั่นเร็วจนเกินไป หญิงสาวชมวิวสองข้างทางอย่างเพลิดเพลิน ขณะนั้นเองมีรถเก๋งสีขาวขับสวนมาด้วยความเร็วไม่มากนัก ดวงตากลมโตสะดุดกับคนขับทันใดราวกับเขามีแสงออร่าเจิดจ้าส่องกระทบตา

“หล่อ” พีชญามองเคลิ้ม รู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า “คนอะไรหล่อขนาดนี้”

ดวงตากลมใสเป็นประกายฝันเฟื่อง ขณะจักรยานแล่นไปข้างหน้า เธอเอี้ยวตัวมองตามรถเก๋งคันสวยที่ขับสวนไปจนเห็นท้ายรถซึ่งมีสติกเกอร์ติดว่า

Pet Smile Clinic โดย หมอรามิล

โทร.053-XXX-XXXX มือถือ 081-XXX-XXXX

ทันใดนั้นหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อจักรยานเสียการทรงตัว พอหันกลับมาก็ไม่สามารถควบคุมได้ทันแล้ว เพราะรถแล่นเฉไปเฉมาออกนอกถนน ไม่ถึงหนึ่งวินาทีต่อจากจากนั้น เจ้าสองล้อก็พุ่งลงทุ่งนาข้างทางพร้อมกับท้ายรถเก๋งสีขาวที่ลับตาไป

“กรี๊ด-ด-ด-ด-ด!”



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ค. 2558, 17:04:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 พ.ค. 2558, 20:42:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 2102





<< บทที่ 1 ใจนักเลง (จบตอน)   บทที่ 2 รัก...ลับ (จบตอน) >>
บุลินทร 2 พ.ค. 2558, 17:16:29 น.
คุณ lovemuay
ตอนนี้ยังไม่เจอ แต่ตอนหน้าเจอกันแน่ครับ ฮ่าๆๆ

คุณ Zia
ดูจากฝีปากของทั้งคู่แล้ว น่าจะสมน้ำสมเนื้ออยู่ครับ

คุณ ดังปัณณ์
ดปณ.ก็ได้ ฮ่าๆๆ แน่นอนไอ้เขมมันก็ได้เชื้อมาจากพ่อนี่ละ แทบจะถอดกันมาเลย แต่ตอนนี้พระเอกไม่โผล่มา เพราะมีคนหมั่นไส้ เกี่ยวมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

คุณ Zephyr
ท่าทางจะหมั่นไส้ตาเขมอีกคนนะเนี่ย เอาคนใหม่มาเปิดตัวแล้ว เฟอร์จะเชียร์ใครเลือกได้เลย

คุณ พันธุ์แตงกวา
ก็ว่าทำไมมันคุ้นๆชื่อขจีพรรณ เหมือนเคยได้ยินมาก่อน ที่แท้ชื่อเจ๊แตงนี่เอง ฮ่าๆๆๆๆๆ ได้บทเด่นเลยนะเนี่ย เป็นอีกคู่นึงของเรื่อง เดี๋ยวมาดูกันต่อครับว่าพ่อกับลูกใครจะสมหวังก่อนกัน


lovemuay 2 พ.ค. 2558, 17:23:25 น.
เรื่องนี้จะมีสามคู่มั๊ยเนี่ย...อิอิ


ดังปัณณ์ 2 พ.ค. 2558, 17:55:59 น.
555+ โอ๊ย จะแซวเรื่อง บลท. แต่ฮายายพีชชี่ นั่นมัวแต่มองหมอหมาของเก๊า ตกร่องตกคูเลย กร๊ากกกกกกกก

หมอหมา เอ๊ย หมอรามขาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อ๊ายยยยยยย บุรีริน ห่อหมอรามให้พี่ที่หนึ่ง 555+ พี่หนอนจองแล้วนะ วุ้ย! หมอขาาาาาาาา มานี่มา ปล่อยยายขวัญไปเหอะ ยายนั่นมีพระเอกแล้ว โฮะๆๆๆ

ถึงเขมี่ไม่ออก ก็ช่างมันสิยะ ตอนนี้พี่หนอนเจอหนุ่มในเป็คละ หมอรามมมมมมมมมมมมมมมมมม ชูป้ายไฟรัวๆ ติ่งหมอราม ไม่ใช่ติ่งเขมี่ย่ะ!

ปล.ดปณ. ดปณง้านเหรอ! อี๊ย์ หล่อนนี่มันชริ!


ดังปัณณ์ 2 พ.ค. 2558, 17:57:14 น.
ปล.ยังค้างคาในอารมณ์ เฮ้ย ชอบ มันฮาวะ กรี๊ดๆๆๆๆ หมอราม


พันธุ์แตงกวา 2 พ.ค. 2558, 20:00:53 น.
มากรี๊ดหมอรามด้วย ขุ่นพระ!!! พ่อคุณพ่อทูนหัว เจ้จิเอาหมาไปรักษาทุกวันเลย //หมาในปาก
ว่าแต่นักเขียนที่ชื่นชอบ อืม ขำก๊ากเลย แหม มันฉลาดขายของงงง
รอๆๆลงบ่อยๆนะ คิดถึงหมอราม


Zia 2 พ.ค. 2558, 21:30:43 น.
ชอบขวัญ น่าร้ากกกกกก

ปล ติ่งหมอรามเยอะละ เปลี่ยนพระเอกเถอะ เย่ เราก้กรี๊ดหมอรามมมม


แว่นใส 2 พ.ค. 2558, 21:37:09 น.
จะลงสนามแข่งแล้ว เลือกคู่ไหนดีนะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 2 พ.ค. 2558, 22:23:54 น.
อร๊ายยยยย เรื่องนี้มีสองคู่ กรี้ดดดด


Zephyr 3 พ.ค. 2558, 01:05:25 น.
มี่ก้อรู้ เฟอร์จะเชียร์ใคร ฮึ
เปิดซะหล่อ แสนดี เริ่ด เพอร์เฟคขนาดนี้ แต่เป็นได้แค่พระรองเกาหลีละสิ
เสียของชะมัด ปลดระวางเมื่อไร ส่งมานี่มา
ให้เจอกันแบบน่าประทับใจไม่รู้ลืมเลยนะ
เขม-ขวัญ เหม่ แค่ชื่อ หมอรามก็แพ้ละ หึ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account