{ เจ้าบ่าวจอมเถื่อน }
เจ้าบ่าวจอมเถื่อน
Tags: เจ้าบ่าวจอมเถื่อน, เขม, ขวัญกมล, เกษม, ขจีพรรณ, บุลินทร, นักเลง, สาวแว่น, หื่น, เถื่อน, ตบจูบ, คอมเมดี้

ตอน: บทที่ 3 ผิดคู่หรือเปล่า (ครึ่งแรก)



ผิดคู่หรือเปล่า






รถเก๋งสีขาวแล่นเข้าจอดเทียบหน้ารั้วบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนหลังสีฟ้าอ่อน ขวัญกมลเปิดประตูลงจากรถและเตรียมตัวขนสัมภาระเข้าบ้านโดยมีรามิลตามลงมาช่วยเหลือ ขณะนั้นขจีพรรณซึ่งได้ยินเสียงรถก็ก้าวเท้ายาวๆออกจากบ้านมาหาหลานสาวสุดที่รัก

“ยายขวัญ!”

“น้าขจี!”

หญิงวัยกลางคนเปิดประตูรั้วออก ก่อนต่างฝ่ายจะต่างกอดกันกลมด้วยความคิดถึง รามิลยืนมองภาพนั้นแล้วอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ นี่คงเป็นภาพแทนคำตอบของคำกล่าวที่ว่า บ้านจะเป็นบ้าน และการกลับบ้านจะมีความหมาย เมื่อมีคนที่เรารักและรักเรารออยู่ ไม่เช่นนั้นมันก็เป็นแค่สิ่งปลูกสร้างสำหรับอยู่อาศัยหลังจากใช้ชีวิตในแต่ละวันเท่านั้น

“ได้กลับมาอยู่บ้านเราสักทีนะลูก”

“ค่ะ ต่อไปขวัญจะไม่ไปไหนไกลอีกแล้ว”

การไปเรียนญี่ปุ่นคือความฝันของขวัญกมล เพราะเจ้าตัวหลงใหลในเสน่ห์ของประเทศนี้และติดการ์ตูนญี่ปุ่นโดยเฉพาะโดราเอมอน ขจีพรรณเองก็สนับสนุนเต็มที่ เพราะคิดว่าให้หลานไปตอนตัวเองยังแข็งแรง ดีกว่าไปตอนแก่กว่านี้ซึ่งจะไม่มีใครคอยดูแล

ขวัญกมลสัญญาว่าเมื่อเรียนจบจะหางานทำใกล้บ้าน เพื่อจะได้อยู่กับผู้เป็นน้า วันนี้เธอทำตามคำมั่นของตัวเองแล้วโดยการกลับบ้านทันทีหลังรับปริญญา และหวังอย่างยิ่งว่าจะได้งานที่ไร่ชาเกษมตามวางแผน

“ขอบคุณรามมากนะลูกที่ช่วยไปรับขวัญ” ขจีพรรณบอกอย่างซึ้งใจ

“ยินดีครับ” ชายหนุ่มค้อมศีรษะนอบน้อม

รามิลเป็นลูกชายของเพื่อนเธอ เขารู้จักขวัญกมลตอนงานเลี้ยงรุ่นของขจีพรรณซึ่งธีมงานคือ ‘คนอวดลูก’ นั่นหมายความว่าแต่ละคนต้องพาลูกไปด้วย เธอที่ไม่มีลูกเลยต้องพาหลานสาวไปแทน

วันนั้นทั้งสองแค่ทักทายและพูดคุยกันไม่กี่คำ แต่มีเหตุให้เจอกันอีกเมื่อขวัญกมลบังเอิญเจอลูกสุนัขบาดเจ็บมานอนอยู่หน้ารั้วบ้าน ตอนนั้นเด็กสาวที่อยู่ในวัย ๑๖ ทำอะไรไม่ถูก เพราะเป็นคนแพ้เลือด พอเห็นลูกสุนัขสีขาวมีเลือดท่วมตัวจึงสติกระเจิงและเกือบจะเป็นลม ขจีพรรณเดินออกไปเห็นเข้าพอดีและนึกได้ว่าลูกชายเพื่อนเพิ่งเข้าเรียนสัตวแพทย์จึงลองโทร.ปรึกษา

รามิลอาสาพาลูกหมาไปส่งยังคลินิกของรุ่นพี่ซึ่งเขาทำงานพาร์ทไทม์อยู่โดยมีขวัญกมลไปด้วยในฐานะเจ้าของจำเป็น กว่าลูกหมาตัวนั้นจะหาย เด็กสาวต้องไปๆมาๆระหว่างบ้านกับคลินิกหลายครั้ง ทำให้ได้มีโอกาสพูดคุยกับรามิลบ่อยๆ ขวัญกมลและเด็กหนุ่มคุยถูกคอจนกลายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก่อนจะสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน

แม้ตอนนี้รามิลจะอายุเท่าขวัญกมล แต่ก็มีกิจการคลินิกรักษาสัตว์ที่มั่นคงแล้ว เพราะเขาเข้าเรียนเร็วและระบบของโรงเรียนนานาชาติที่เรียนอยู่ทำให้สามารถสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี โดยขณะนั้นขวัญกมลเพิ่งขึ้นม.๔

หลังจากช่วยกันขนกระเป๋าเดินทางของขวัญกมลเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็มานั่งล้อมวงรับประทานอาหารซึ่งขจีพรรณเตรียมไว้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นขาหมูพะโล้สูตรเฉพาะที่ลองผิดลองถูกเอง ผัดกุ้งใส่หน่อไม้ฝรั่ง และแกงฮังเล

“ลุงเกษมเพิ่งกลับไปก่อนขวัญมาถึงแค่ห้านาทีเอง เสียดายไม่ได้เจอกัน” หญิงวัยกลางคนว่า

“อ้าว เหรอคะ คลาดกันนิดเดียว แต่ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก็ได้เจอกันที่ไร่แน่นอนตอนขวัญไปสมัครงาน”

“น้าก็บอกเขาไปแบบนั้นแหละ”

“ขวัญจะไปสมัครงานที่ไร่ชาเหรอ” รามิลถามขึ้นบ้าง

“นี่นั่งรถมาด้วยกันยังไม่ได้คุยเรื่องนี้อีกเหรอจ๊ะ” ขจีพรรณยิ้มละไม

“ยังค่ะ มัวแต่คุยเรื่องตอนขวัญอยู่ญี่ปุ่นยาวจนถึงบ้านเลย” ขวัญกมลตอบแทนและหัวเราะเบาๆ เขาถามคำ เธอตอบห้านาที แบบนี้ไงถึงไม่ได้คุยเรื่องอื่นเลย

“ตำแหน่งการตลาดเหรอ” สัตวแพทย์หนุ่มหันไปถามเพื่อน เพราะเขากำลังคิดจะชวนเธอไปทำงานฝ่ายการตลาดให้กับ Pet Smile Clinic และโรงแรมสัตว์อยู่พอดี เขาไม่น่าชะล่าใจรอจนเธอกลับมาเลย น่าจะบอกตั้งแต่หนึ่งปีก่อนเรียนจบ จะได้จองตัวขวัญกมลไว้

“ใช่ แต่ยังไม่รู้นะว่ามีตำแหน่งว่างไหม”

“ลุงเกษมบอกว่าสำหรับขวัญว่างเสมอ น้าก็ไม่รู้นะว่าพูดเล่นพูดจริง” ขจีพรรณว่าพลางยิ้มพลาง

“แต่ถ้าที่นั่นไม่มีตำแหน่งว่าง ขวัญไปทำงานกับเราได้นะ ที่คลินิกกำลังรับฝ่ายการตลาดอยู่เหมือนกัน” รามิลได้โอกาสเสนอตำแหน่ง

“ขอบคุณมากๆเลยราม” ขวัญกมลบอกอย่างซาบซึ้ง “แต่ยังไงเราขอลองไปสมัครที่ไร่เกษมก่อนนะ เพราะใกล้บ้านสุดแล้ว” เธอไม่กลัวใครจะนินทาว่าอุตส่าห์ไปเรียนไกลถึงญี่ปุ่น แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นมาทำงานแถวบ้าน เพราะงานที่ไร่เกษมไม่ใช่ไก่กาและเธอจะแสดงความสามารถให้ดีที่สุด ให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนว่าการทำงานของเธอทำให้ทางไร่มีกำไรมากขึ้นแค่ไหน

“ได้ แค่ขวัญเก็บไว้พิจารณา เราก็ดีใจแล้วละ” สัตวแพทย์หนุ่มยิ้มนุ่มนวล ก่อนตักขาหมูติดมันใส่จานให้หญิงสาวอย่างเอาใจใส่ “เห็นบอกว่าอยากเพิ่มน้ำหนัก กินเยอะๆเลยนะ”

“หืม ถ้ารามตักขาหมูติดมันให้สาวคนอื่น มีหวังคะแนนติดลบแน่” ขวัญกมลแซว

“ก็เรารู้จักขวัญดีไงล่ะ เลยไม่กลัวคะแนนจะติดลบ” คราวนี้รามิลยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างบุ๋มลงไปเป็นลักยิ้มน่ารัก

ขวัญกมลอดยิ้มตามไม่ได้ เธอคงตกหลุมรักเขาไปแล้ว ถ้าหากว่า…

“จีบหลานน้าเหรอเนี่ยราม” ขจีพรรณเอ่ยขึ้นขัดจังหวะความคิดหลานสาวโดยไม่รู้ตัว

“รามนี่นะจะจีบขวัญ ไม่หรอกค่ะ เขาหล่อออร่ากระจายขนาดนี้ จะมาสนใจอะไรขวัญ” หญิงสาวเอ่ยพลางหัวเราะ

“แหม หลานน้าไม่ได้ขี้เหร่สักหน่อย แค่ไม่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวแค่นั้นเอง แล้วแว่นเนี่ยบดบังความสวยของเราไปเยอะเลยรู้ไหม” หญิงวัยกลางคนเอื้อมมือไปขยับแว่นตาหนาเตอะอย่างอยากจะถอดเขวี้ยงทิ้ง

“ก็ขวัญไม่ชอบใส่คอนแทคเลนส์นี่คะ มันรู้สึกไม่สบายเหมือนมีอะไรอยู่ในลูกตาตลอด” ขวัญกมลแกล้งทำหน้ายุ่ง

“ขวัญเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว ผู้ชายไม่ได้มองแต่ภายนอกทุกคนหรอก”

“สำหรับรามอาจจะใช่ แต่บางคนคงไม่ใช่”

“พูดเหมือนประชดใครเลยนะขวัญ” ขจีพรรณหรี่ตามองหลานสาว

“เปล่าค่ะ ขวัญจะประชดใครล่ะคะน้าขจี” พร้อมกับพูด ขวัญกมลเอื้อมมือไปตักแกงฮังเลใส่จานให้ผู้เป็นน้า “ทานเยอะๆนะคะ” จากนั้นก็ตักให้รามิลบ้าง “รามก็กินเยอะๆเหมือนกัน จะได้ไม่กลับไปผอมกะหร่องอีก”

“โอเค เราจะกินเยอะๆเพื่อขวัญ” สัตวแพทย์หนุ่มยิ้มขอบคุณ แม้เขาไม่ได้ตอบคำถามน้าขจีพรรณว่ากำลังจีบหลานของท่านหรือเปล่า แต่การกระทำของเขาน่าจะเป็นคำตอบได้

“อืม น้าขจีคะ คิดไปคิดมา ขวัญว่าขวัญไปสวัสดีลุงเกษมที่ไร่หน่อยดีกว่าจะได้ไม่เสียมารยาท ท่านอุตส่าห์มารอเจอขวัญตั้งนาน” จู่ๆขวัญกมลก็ตัดสินใจได้

“ก็ดีนะลูก” ขจีพรรณพยักหน้าเห็นด้วย

“ให้เราพาไปไหมขวัญ” รามิลอาสาแข็งขัน

“ไม่เป็นไร วันนี้รบกวนรามมากแล้ว เดี๋ยวเราปั่นจักรยานไปเองดีกว่า ขอบใจมากนะเพื่อน” หญิงสาวมองเขาด้วยความซาบซึ้ง

คำว่า ‘เพื่อน’ ทิ่มแทงใจรามิลจนเจ็บแปลบ ขวัญกมลพูดราวจะตอกย้ำว่าเขาไม่อาจเป็นได้มากกว่าเพื่อนเธอ แต่เขาจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่!



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ค. 2558, 17:29:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2558, 17:29:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1895





<< บทที่ 2 รัก...ลับ (จบตอน)   บทที่ 3 ผิดคู่หรือเปล่า (จบตอน) >>
บุลินทร 4 พ.ค. 2558, 17:44:23 น.
คุณ ดังปัณณ์
นั่นสิ เขียนแนวนี้ทีไรลื่นไหลตลอด ดราม่านี่กว่าจะบิวท์ได้ แต่ก็เป็นแนวที่ท้าทายดี ต้องเขียนให้จบให้ได้เรื่องพี่เร เขมี่โดนมองข้าม น่าสงสารจริง ตอนนี้ให้หมอรามมาบ้างแล้วกัน เอาเขมี่ไปเก็บตามคำขอ แต่แค่หนึ่งตอนนะ ตอนหน้าก็มาแล้ว ฮ่าๆๆๆ

คุณ พันธุ์แตงกวา
ก๊าก หมายความว่ายายพีชเป็น...รึ ฮ่าๆๆๆ เอามาจากแท็กในทวิตเตอร์ที่เขาฮิตกันครับ ตอนนี้ยายพีชกำลังวางแผนว่าจะจีบคุณหมอยังไง แต่จะสำเร็จมั้ยต้องรอดูกันครับ

คุณ Zephyr
แซวต่างหาก เฟอร์ต้องชอบแนวหมอๆอยู่แล้ว แต่เอาน่า ให้โอกาสนายเขมหน่อยนะ เผื่อจะทำตัวดีขึ้น (คนเขียนไม่เกี่ยว)

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ
ฮ่าๆๆๆ สงสัยอ่านเร็วนะครับ ตอนที่แล้วลงยาวมากนะ (แถได้อีก) เดี๋ยวตอนหน้าจะมาแบบยาวๆชดเชยน้า


ดังปัณณ์ 4 พ.ค. 2558, 18:14:49 น.
โถ หมอรามขา ฉงฉาน ยายขวัญมีตาหามีแววไม่ ดีแล้ว แบร่! หมอขามาทางนี้เค้าไม่เห็นไม่เป็นไร แม่ยกพร้อมให้ซบปลอบใจ โถๆๆๆ งี้ละซิ ยายขวัญถึงได้ตกกระไดพลอยโจน

หมอหมา เอ๊ย หมอรามขาาาาาา หนอนจิเอาโมโม่น้อยที่บ้านไปให้ถ่ายพยาธิให้ ว่าแต่...ค่าตั๋วไปหาหมอรามนี่คงแพงกว่าค่ารักษาแหง = =" ไม่เป็นระ เดี๋ยวไปหาหมอหมาหล่อๆ เริ่ดๆ แถวบ้านก็ได้ฮ่ะ!

ป.ล. หมี้รินพี่หนอนว่าแล้ว อ่านป้าทมเยอะๆ ในฝัน คู่กรรม คำมั่นสัญญา รับร้อง พี่หนอนรับรอง หมี้รินจิเขียนมาม่าได้ไหลลื่นยิ่งนัก อิพี่นี่อ่านในฝันไปน้ำตาไหลพรากกกก คำมั่นสัญญานี่ยิ่งไม่กล้าเปิดอ่านอีก เพราะเปิดทีไร พี่ตะเตือนไต TT^TT


lovemuay 4 พ.ค. 2558, 19:48:00 น.
พี่หมอรามิลไม่ต้องเสียใจน้าา มีสาวคอยจะดามใจอยู่แล้ว อิอิ


Zephyr 4 พ.ค. 2558, 19:51:05 น.
งั้นมี่เอารามมาให้เฟอร์มา
ยกให้ยายขวัญเสียของนะ
เปิดมาก้อรู้นางหลงเขมมาตั้งนาน
ฮึ เอามานี่เลย จองๆๆๆๆๆๆๆ


พันธุ์แตงกวา 4 พ.ค. 2558, 20:55:57 น.
อิงานคนอวดลูกนี่ขอร้องละ ขำมากกกกก ใครจัดนี่แบ่บเคืองเลยนะ
ว่าแต่ยายขวัญเพิ่งลงเครื่องมาจะปั่นจักรยานไปไร่อีก ระวังเจอยายพีชนะเธอ ยายนั่นน่ากั๊ว
หมอรามจ๋า กลับไปพักเถอะ เดี๋ยวเจ้นวดให้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account