{ เจ้าบ่าวจอมเถื่อน }
เจ้าบ่าวจอมเถื่อน
Tags: เจ้าบ่าวจอมเถื่อน, เขม, ขวัญกมล, เกษม, ขจีพรรณ, บุลินทร, นักเลง, สาวแว่น, หื่น, เถื่อน, ตบจูบ, คอมเมดี้

ตอน: บทที่ 3 ผิดคู่หรือเปล่า (จบตอน)

เขมนั่งหัวเราะจนท้องแข็งเมื่อรู้ว่าทำไมเพื่อนถึงขี่จักรยานตกทุ่งนา พีชญามองเพื่อนหนุ่มอย่างเคืองๆ นึกแล้วเชียวว่ามันต้องขำ แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อปัญหาของเธอต้องถามจากผู้ชาย และเขมเป็นคนที่เธอไว้ใจได้มากที่สุด ยังไงก็ต้องปรึกษามัน ถึงเธอจะเป็นคนตรงไปตรงมาแค่ไหน แต่เกิดมายังไม่เคยมีแฟนและไม่เคยจีบใครมาก่อน ไม่เหมือนเขมที่คบสาวๆนับไม่ถ้วน เขาน่าจะมีคำแนะนำดีๆแน่

“ไหนว่าจะไม่ขำไง” หญิงสาวพูดจบก็ตักไอศกรีมชาไทยมาเข้าปากแก้เซ็ง บรรยากาศในร้านอาหารและเครื่องดื่มของไร่เกษมตอนนี้มีคนคึกคักพอสมควร แต่เขมพาเธอมานั่งห้องพิเศษสำหรับแขกวีไอพี ผนังห้องกรุด้วยกระจกใสเก็บเสียงอย่างดี เธอจึงเล่าวีรกรรมสุดเปิ่นได้โดยไม่ต้องกลัวคนอื่นได้ยิน

“โห ใครก็อดขำไม่ได้หรอก ขี่จักรยานตกทุ่งนาเพราะมัวมองผู้ชาย นี่ถ้าเจอปลักควายจะยิ่งขำกว่านี้อีก” เจ้าตัวเอ่ยทั้งที่หัวเราะไม่หยุด

“สะใจมากเลยเนอะ หัวเราะจนน้ำตาไหลเชียว อย่าให้แกมีเรื่องพลาดบ้างแล้วกัน” พีชญาบอกอย่างหมั่นไส้

“ไม่มีอยู่แล้ว”

“เชอะ เอาเถอะ ที่ฉันเล่าให้แกฟังก็เพราะอยากปรึกษา” หญิงสาวถือโอกาสดึงเข้าหัวข้อ และเอ่ยเสียงเป็นทางการ เพื่อให้เขมเลิกขำสักที

“ปรึกษา?” ลูกชายเจ้าของไร่เลิกคิ้วขึ้น

“ใช่ ฉันอยากจีบผู้ชายคนนั้น” หญิงสาวพูดตรงๆ เพราะมาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีเหตุผลต้องอ้อมค้อม หมอรามิลเป็นคนแรกที่ทำให้เธออยากจีบผู้ชายก่อน เพราะถ้ารอเขา ชาตินี้คงไม่มีทางสมหวัง แล้วสิ่งที่เธอทำก็ไม่น่าผิดอะไร เพราะสมัยนี้ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกัน หมอรามิลเองก็ไม่น่าใช่คนหัวโบราณ

“หมอนั่นมันเป็นใคร หล่อแสนดีมากเลยเหรอถึงทำให้แกเพ้อจนขี่จักรยานตกข้างทางได้” เขมรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ เรื่องนิสัยเขาอาจไม่ใช่คนดีนัก แต่ในตำบลเขาชุมรักมีคนหล่อกว่าเขาด้วยเหรอ

“ฉันยังไม่ได้คุยกับเขาสักคำ แต่เขาหล่อมาก-ก-ก-ก หล่อจนออร่าทะลุกระจกรถมากระแทกตาฉันเลย คิดดูแล้วกันว่าหล่อแค่ไหน แล้วก็น่าจะเป็นคนอ่อนโยนด้วย” ดวงตากลมเป็นประกายพร่างพราย

ริมฝีปากหยักของคนฟังโค้งขึ้นเล็กน้อย “หล่อกว่าฉันอีกเหรอ”

“อี๋ กล้ามากนะแก” พีชญามองเพื่อนหัวจรดเท้า “ฉันไม่เคยคิดว่าแกหล่อเลยเหอะ ดูสิ ทำผมทรงอะไรก็ไม่รู้ ถ้าตัดผมคงพอดูได้ แต่ไม่ถือว่าหล่ออยู่ดี”

“แกเห็นจนชินตามากกว่าเลยไม่รู้สึกตื่นเต้น ถ้าเมื่อกี้คนที่ขับรถเป็นฉัน แกอาจเพ้อแบบนี้ก็ได้” เขายังไม่อยากยอมรับว่ามีคนหน้าตาดีกว่า

“หลงตัวเองสุดๆ”

“พูดความจริงต่างหาก” เขมยักไหล่ “ว่าแต่แค่เขาขับรถผ่านไม่ถึงหนึ่งนาที รู้ได้ไงว่าอ่อนโยน หลงรูปจนหน้ามืดตามัวแล้วนั่น”

“โนว! เขาเป็นสัตวแพทย์ คนทำงานนี้ได้ต้องเป็นคนจิตใจดี มีเมตตา รักสัตว์ เพราะงั้นเขาเป็นคนอ่อนโยนแน่ๆ” พีชญาบอกอย่างมั่นใจ

“บางทีพวกหมอหมาอาจจะปากหมาก็ได้ ระวังเหอะ ไปจีบเขาจะโดนด่ากลับบ้านไม่ถูก ขอเตือนด้วยความหวังดี” ชายหนุ่มแกล้งขู่

“ไม่มีใครปากหมาเท่าแกแล้วละ ถ้าฉันเป็นเพื่อนกับแกได้ ฉันก็คบกับเขาได้แน่”

“ใช่ซี้ ไอ้เขมมันปากเสีย หล่อก็ไม่หล่อ” คนตัวโตทำท่างอน

“นี่ๆ หยุดเลย อย่ามาทำสะบัดสะบิ้ง มาช่วยฉันคิดดีกว่าว่าจะเริ่มทำความรู้จักเขาด้วยวิธีไหน” พีชญาเอ่ยอย่างกระตือรือร้น

“โอเคๆ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” เขมยกมือขึ้นกอดอกรอรับฟัง ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ดีจริง เขาไม่ยอมให้เธอเข้าไปยุ่งแน่ เพราะอนาคตมีแต่จะเสียใจ

“เขาชื่อรามิล เป็นหมอรักษาสัตว์ ฉันรู้แค่นี้แหละ” ถึงจะรู้แค่นี้ แต่เธอก็วาดฝันไปไกลแล้ว

“อืม…” ชายหนุ่มใช้นิ้วลูบคาง “เขาเป็นหมอสัตว์” ยังไม่ทันได้เอ่ยต่อ พีชญาก็ขัด

“หมอรักษาสัตว์ย่ะ หมอสัตว์เหมือนแกด่าเขายังไงไม่รู้”

“เออๆ เรียกว่าคุณหมอสัตว์ก็ได้”

หญิงสาวส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ “อืมๆ ตามใจ ว่าไงต่อ”

“ก็เขาเป็นหมอสัตว์ แกก็น่าจะหาเรื่องสัตว์คุยกับเขา ไม่งั้นจะดูโจ่งแจ้งเกินไปที่จู่ๆเข้าไปทำความรู้จัก อ้อ แล้วตอนคุยกัน ห้ามแสดงออกเด็ดขาดว่าแกคลั่งเขามาก เพราะยังไงผู้ชายก็ชอบจะเป็นฝ่ายเริ่มจีบก่อนมากกว่า”

“จริงเหรอ สมัยนี้ผู้หญิงจีบผู้ชายไม่น่าใช่เรื่องแปลกนะ โลกมันหมุนไปไกลแล้ว” พีชญาไม่เห็นด้วยกับที่ปรึกษาเท่าไร และไม่มั่นใจว่าจะเก็บอาการอยู่หรือเปล่า ขนาดเห็นไกลๆ ยังหวั่นไหวมากขนาดนี้ ถ้าเจอกันต่อหน้า เธอคงใจละลาย

“อ้าว ก็แกมาถามฉัน ฉันก็ตอบตามที่คิด ส่วนผู้ชายคนอื่นจะคิดยังไง ฉันไม่รู้หรอก”

“แกนี่แอบหัวโบราณเหมือนกันนะ เห็นมีสาวๆในคอลเล็กชั่นเยอะนึกว่าจะไม่สนเรื่องใครจีบใครก่อนซะอีก” หญิงสาวส่ายหน้าไปมา ก่อนถามต่อ “เออ แกว่าฉันหาหมาหรือแมวมาเลี้ยงดีไหม จะได้ดูน่ารักในสายตาคุณหมอ”

“แกคิดว่าถ้าเขาจะสนใจแก มันเป็นเพราะตัวแกหรือเพราะหมาแมวที่เลี้ยง?”

“ก็มันจะทำให้ฉันดูมีเสน่ห์มากขึ้นไง” พีชญาเหลือบตามองเพื่อน เขมไม่เคยได้ยินเรื่องน้องหมาน้องแมวสื่อรักหรือไงนะ

“ตามใจ แต่เลี้ยงแล้วเลี้ยงให้ดีด้วยนะ ไม่ใช่แค่เอามาเลี้ยงเพื่อจะจีบหมอ”

“รู้แล้วน่า ขอบใจแกมากนะที่ช่วยให้คำแนะนำ เอ้า เดี๋ยวป้อนคำนึง” มือเรียวเอื้อมไปตักไอติมชาเขียวถั่วแดงป้อนชายหนุ่มเพื่อเอาใจ เผื่อจะได้ขอความช่วยเหลือเขมในอนาคต “หน้าแกดีขึ้นเยอะแล้วนะเนี่ย แผลแห้งแล้ว เหลือแต่รอตกสะเก็ด”

เขมยักคิ้วพลางกลืนไอศกรีม “ได้ยาดีมั้ง”

เห็นดวงตาคมเป็นประกายแพรวพราว พีชญาก็รู้ทันทีว่ายาดีของอีกฝ่ายคืออะไร “นี่แน่ะ หมั่นไส้” เธอยื่นนิ้วไปจิ้มมุมปากเขมแกล้งให้เจ็บเล่น

“โอ๊ย!” เขมสูดปาก

“เจ็บเหรอ ไปขอยาดีจากสาวๆของแกอีกสิ จะได้หายเจ็บ” ขณะแหย่เพื่อนอยู่นั้น ใครคนหนึ่งก็เปิดประตูกระจกเข้ามา ก่อนเอ่ยเสียงแหลมสูง

“ยายพีช!”

พีชญาและเขมหันไปมองแทบจะพร้อมกัน แล้วก็พบธารใสยืนหน้าหงิกอยู่

“ตกลงเธอเป็นเพื่อนพี่เขมหรืออยากเป็นมากกว่าเพื่อนกันแน่!” น้ำเสียงของฝ่ายนั้นโกรธกรุ่น

“จะบ้าเหรอ ฉันกับเขมเป็นแค่เพื่อนกัน อย่ามาหาเรื่องนะ” พีชญาไม่อ่อนข้อให้ ถ้าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้าย เธอก็พร้อมป้องกันตัว

“แล้วที่ซ้อนท้ายพี่เขมไปตลาด ตามมาป้อนไอติมถึงที่นี่ แถมยังหยอกล้อกันสนุกสนานเขาเรียกว่าอะไร ไม่มีเพื่อนที่ไหนทำแบบนี้หรอก ฉันยืนดูอยู่นานและเห็นทุกอย่างหมดแล้ว” ธารใสไม่รับฟังที่อีกฝ่ายบอกแม้แต่น้อย เพราะฤทธิ์รักแรงหึงบังตา

“ก็เพื่อนแบบฉันกับเขมไง ไม่ต้องกลัวหรอกนะว่าฉันจะแย่งเขมจากเธอ ยังไงฉันกับเขมก็ไม่มีทางเป็นมากกว่าเพื่อน ส่วนภาพที่เธอเห็น ฉันไม่ขออธิบายอะไรทั้งนั้น รู้ไว้แค่ว่าฉันกับเขมไม่มีอะไรมากกว่าคำว่าเพื่อนก็พอ” พีชญาพยายามเน้นย้ำคำว่าเพื่อน

ด้านเขมซึ่งเป็นคนกลางหาช่องแทรกไม่ได้ ทว่าก็เตรียมพร้อมห้ามศึก หากมีการตบตีกันขึ้น

“ฉันจะแน่ใจได้ไงว่าเธอจะไม่แย่งพี่เขม”

“โอ๊ย เยอะจริง บอกว่าไม่แย่งก็ไม่แย่งสิ พูดไม่เข้าใจหรือไง” หญิงสาวเริ่มมีน้ำโห

“ก็ฉันอยากมั่นใจนี่ เธอพูดลอยๆแบบนี้ ไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าจะไม่ผิดคำพูด” ใบหน้าธารใสถมึงทึงอย่างพร้อมจะตบอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ

พีชญาถอนหายใจพรืด ยายธารใสนี่จะอะไรกันนักกันหนานะ

“เอาละๆ ธารกลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” เขมได้จังหวะรีบไกล่เกลี่ยเพื่อให้เรื่องจบเร็วที่สุด ถ้าปล่อยให้เกิดการทะเลาะรุนแรงในร้าน พ่อต้องไม่พอใจแน่

“พี่เขมบอกก่อนสิว่าจะไม่ทำตัวใกล้ชิดกับยายพีชอีก” ธารใสเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด ใบหน้างอง้ำแสนเอาแต่ใจ

“ฉันเป็นเพื่อนเขมนะ รู้จักกันมาเป็นสิบๆปี เธอเป็นใคร จู่ๆจะให้พวกเราอยู่ห่างกัน” ถ้าเธอเป็นเขม จะรีบบอกเลิกยายนี่ทันที คนอะไรน่ารำคาญสุดๆ

“ไอ้พีช เงียบก่อน เดี๋ยวฉันจัดการเอง” เขมกระซิบบอกหญิงสาว แต่ไม่อาจเล็ดลอดหูธารใสได้

“มีอะไรก็เคลียร์กันตรงนี้เลยพี่เขม ไม่ใช่พอธารกลับไป พี่เขมก็ไปโอ๋ยายพีชนะ” ธารใสมองพีชญาด้วยหางตาเต็มไปด้วยความชิงชัง ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่ระแวง แต่ก็พยายามคิดว่าเขมและหญิงสาวเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ แต่มาวินาทีนี้เธอชักไม่แน่ใจแล้ว เขมอาจไม่คิดอะไร แต่พีชญาไว้ใจได้ที่ไหน!

“พีช แกออกไปก่อนได้ไหม” ชายหนุ่มหันไปบอกเพื่อน

“อืม เดี๋ยวไปรอที่ห้องนอน” พีชญายังไม่วายยั่วโมโห เพราะหมั่นไส้ธารใส

“อะไรนะ! ห้องนอน?” ธารใสตวัดสายตาไปหาเขม

“ไอ้พีช”

“เออๆ เดี๋ยวไปรอข้างนอก” เมื่อเห็นแววตาปรามจากเขา พีชญาจึงพูดแก้ใหม่แล้วเดินออกไปตามคำขอร้อง

เขมเอ่ยต่อเมื่อเหลือเพียงสองคนในห้อง “ธาร พีชเป็นแค่เพื่อนพี่จริงๆ เราสองคนหยอกล้อกันแบบนี้ประจำ ไม่ใช่เพิ่งมาทำ แต่ธารไม่เคยเห็น เลยคิดว่ามันแปลก อีกอย่างธารจำข้อตกลงของเราไม่ได้แล้วเหรอ เราจะไม่ผูกมัดกัน พี่และธารต่างคนต่างอิสระ แต่นี่ธารทำเหมือนเป็นเจ้าของพี่ มันไม่ใช่แบบที่เราเคยคุยกัน”

“แต่ธารเป็นของพี่เขมแล้วนะ”

“พี่เคยบอกแล้วไงว่ายังไม่อยากหยุดอยู่กับใคร พี่ยังรักอิสระ อยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องสนใจใคร แต่ถ้าอยากสนุกกัน แล้วพอใจทั้งสองฝ่าย พี่ก็ไม่ปฏิเสธ” เขมบอกเสียงเรียบ

ธารใสรู้สึกราวหัวใจถูกบีบเค้นอย่างแรง เธอยินยอมตามข้อตกลงนั้นเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขม เป็นความสัมพันธ์ในแบบเพื่อนที่ต่างฝ่ายต่างสนุกหรือ Friend with Benefits

เขาตักตวงความสุขเมื่อร่างกายปรารถนา ขณะที่เธอเองก็ปรนเปรอเขาด้วยความเต็มใจและรู้สึกสุขสมไม่ต่างกัน แต่ยิ่งนานวัน หัวใจยิ่งหวั่นไหว ถลำลึกมากขึ้นทุกที จากตอนแรกคิดว่าจะไม่คิดเกินเลย แต่วันนี้ไม่ใช่อีกแล้ว เพราะชีวิตเธอขาดเขมไม่ได้จริงๆ เธออยากเป็นเจ้าของหัวใจเขาเพียงคนเดียว!

“ธารจำได้ แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อธารรักพี่เขมมาก” เธอรู้ว่าเขมมีความสัมพันธ์แบบนี้กับสาวๆทุกคน เขายังไม่คิดลงหลักปักฐานกับใครง่ายๆ แต่ก็แอบหวังว่าเธอจะเป็นคนที่เขาเลือกใช้ชีวิตที่เหลือด้วยในอนาคต

“งั้นก็ต้องเลิก ก่อนจะตัดใจยากกว่านี้” นั่นเป็นหนึ่งในข้อตกลงเช่นกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกกับอีกฝ่ายมากกว่าคำว่าพาร์ทเนอร์ ความสัมพันธ์จะสิ้นสุดลงทันที

“ไม่นะ ธารไม่เลิก ธารสัญญาก็ได้ว่าจะไม่มาโวยวายแบบนี้อีก พี่เขมอยากให้ธารทำอะไร ธารจะเชื่อฟังทุกอย่าง” ธารใสมองดวงตาคมอย่างอ้อนวอน

“พอเถอะธาร พี่ว่าพี่คงสนุกกับธารต่อไม่ได้แล้วละ” เขมดูออกว่าเธอไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด

“พี่เขม!”

“เลิกวันนี้ ดีกว่าปล่อยไว้แล้วเจ็บกว่าเดิมนะ”

“ไม่ ธารยังอยากมีความสุขกับพี่เขม ลืมเรื่องวันนี้ได้ไหม ธารจะไม่วุ่นวายไม่ว่าพี่เขมมีใคร”

เขมเห็นแววตาเศร้าแล้วอดสงสารไม่ได้ แต่หากเขาใจอ่อน จะกลายเป็นการให้ความหวังธารใสเปล่าๆ

แม้เวลาพบธารใส เขาจะพูดคำหวานหู แต่ทุกสิ่งก็แค่เพียงเพื่อกระตุ้นอารมณ์เท่านั้น ไม่ได้เป็นความรู้สึกจากใจ หญิงสาวเองก็รู้ เพราะข้อตกลงของการเป็น Friend with Benefits ชัดเจน ดังนั้นขณะนี้เขาจึงรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก เมื่ออีกฝ่ายคิดเรื่องความสัมพันธ์จริงจัง

“พี่ขอโทษนะธาร แต่พี่ไม่ได้รักธารจริงๆ” เขมบอกเสียงหนักแน่น เขาชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ต้องไม่ให้ความน่าสงสารของธารใสมาสั่นคลอนได้

ยังไม่ทันได้ข้อสรุป สันติก็มาเคาะประตูห้องเสียก่อน เขมพยักหน้าอนุญาต ลูกน้องหนุ่มจึงเปิดประตูเข้ามา

“มีไรวะ”

“พ่อเลี้ยงให้มาตามครับพี่เขม” คนมาใหม่รายงานฉะฉาน

“เรื่อง?”

“มีแขกมาครับ”

“แขกของข้าเหรอ? ใคร?”

“แขกของพ่อเลี้ยงครับ”

“อ้าว แล้วมาตามข้าทำไม”

“พ่อเลี้ยงอยากให้พี่เขมเจอแขกคนนั้นด้วยครับ”

“เดี๋ยวก่อนได้ไหม” เขมอยากเคลียร์กับธารใสให้ลงตัวก่อน การปล่อยค้างคาไว้ยิ่งจะทำให้ปัญหาบานปลาย

“เดี๋ยวนี้ครับ พ่อเลี้ยงให้ผมบอกพี่เขมว่า ถ้าพี่เขมไม่มาให้บอกว่า นี่เป็นคำสั่งของพ่อเลี้ยง ถ้าพี่เขมบอกว่าแป๊บนึงจริงๆ พ่อเลี้ยงให้บอกว่า เดี๋ยวนี้คือเดี๋ยวนี้ ไม่มีแป๊บนึงครับ” สันติพูดตามที่ได้รับมอบหมายมาทุกคำไม่ตกหล่น

“เออๆ ข้ายอมแพ้!"



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 พ.ค. 2558, 17:18:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 พ.ค. 2558, 17:32:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 2010





<< บทที่ 3 ผิดคู่หรือเปล่า (ครึ่งแรก)   บทที่ 4 เพียงแรกเห็นก็ปั่นป่วน (ครึ่งแรก) >>
บุลินทร 6 พ.ค. 2558, 17:26:35 น.
คุณ ดังปัณณ์
ดูท่าหมอรามจะทำคะแนนดีกว่าตาเขมนะเนี่ย ตอนนี้จะโดนเกลียดมากขึ้นกว่าเดิมรึเปล่า อุตส่าห์เป็นพระเอก ฮ่าๆๆๆ จะเอาหมามาถ่ายพยาธิรู้หรือยังว่าคลินิกหมออยู่ไหน ส่วนดราม่าขอพักโหมดนี้ไว้ก่อน จนกว่าอารมณ์จะกลับมา เดี๋ยวไปหามาอ่านตามคำแนะนำเจ้าแม่ดราม่าดังปัณณ์

คุณ lovemuay
รอปลอบใจเลยครับ เพราะขวัญไม่รักตอบคุณหมอแน่ๆ โดยเฉพาะวันแต่งงานแกคงเสียใจหนัก

คุณ Zephyr
ไปตามหาคลินิกคุณหมอให้เจอก่อน แต่เฟอร์คงไม่ทันยายพีชแน่ มัวเข้าเวร ออกเวรมาก็นอน ฮ่าๆๆ แล้วรู้ได้ไงว่ายายขวัญหลงตาเขม มั่วแล้ววว

คุณ พันธุ์แตงกวา
ฮ่าๆๆๆๆ ต้องหาลูกมาแอบอ้างแทน ไม่ไปเพื่อนๆรู้หมดว่าไม่มี ขวัญไปไร่แต่ยังไม่เจอพีชครับ แต่จะเจอใครรอลุ้นตอนหน้าน้า ว่าแต่ทำไมไม่มีใครสนใจตาเขมเลย พระเอกตกกระป๋อง ฮ่าๆ


lovemuay 6 พ.ค. 2558, 17:37:58 น.
เสนอให้ขวัญเลี้ยงน้องแมวค่ะ เลี้ยงง่ายกว่าหมาเยอะเลย ไม่ต้องพาไปเดินเลานด้วยน้าา อิอิ


Zephyr 6 พ.ค. 2558, 21:37:11 น.
ก้อเดาไง เอ้ะ มี่นี่
เดาๆๆๆๆๆๆๆ เฟอร์มิใช่นักอ่านใจนี่นา ฮึ
แต่ดีนะ รู้สึกเขมกะพีชเป็นเพื่อนกันจริงจัง อารมณ์เพื่อนวัยเด็กที่ไม่ได้กินกันเอง 555
เลี้ยงหมานะ ไซบีเรียนฮัสกี้ๆๆๆๆๆ น่าร้ากกกกก
จะได้เป็นหมาเลี้ยงยาก ต้องได้คำปรึกษาบ่อยๆไง อิอิ
รึเลี้ยงอีกัวน่า 555


พันธุ์แตงกวา 7 พ.ค. 2558, 05:14:04 น.
ให้ยายพีชเลี้ยงนกแก้วน่าจะเหมาะ นกมันคงพูดเก่งไม่เหงาหูแน่ ว่าแต่ลืมไปว่ามียายธารใสอีกคน ยายพีชมีคู่แข่งแย่งซีนแล้ว
อ๊ะ หนูขวัญมาแล้ว ตาเขมจะช็อคหยุดโลกเลยมั้ยแบบ u r so beautiful!!!


ดังปัณณ์ 7 พ.ค. 2558, 14:36:48 น.
เหอะ หมาที่ไหน เรียกโม่น้อยย่ะ โม่น้อย เรียกให้ดีๆ หน่อย เดี๊ยะๆๆๆ

อ๊าย หมั่นไส้ อยากตื้บ 5555+ กรี๊ดดดดดดดด อยากกระโดดไปงับคออิเขม หมั่นไส้มันๆๆๆๆๆๆๆ อารมณ์ส่วนตัว ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้เว้ยยยยยยยย อี๊ย์ เดี๋ยวนุ่งเขม เดี๋ยวช้านจะรอสมน้ำหน้าวันที่หล่อนโดนกรรมสนอง วะฮะฮ่า เดี๊ยะๆๆๆๆ หัดทำตัวเป็นผู้ชายไร้พันธะดีนัก เดี๊ยะๆๆ โดนปลอกคอชื่อขวัญมะไหร่ จะหัวเราะให้ฟันหัก หึ้ย หมั่นไส้มัน มันชอบแกล้ง

ป.ล. นี่หมี้ริน อย่าบอกนะว่านุ่งเขมเป็นลูกรักเธอ ชั้นนี่แบ่บ ยิ่งกว่าถอดกันมาเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account