นางร้ายอ้อนรัก เปลี่ยนชื่อเป็น เล่ห์พิศวาสซาตาน
เดี๋ยวมาลงให้ค่ะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 8
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
ขอแจ้งข่าวเรื่องพายุรัก ซาตานร้ายหน่อยค่ะ คงจำกันได้เรื่องของพลอยญาวี พี่สาวกระท้อน กับเจ้า
ของไร่ผักผลไม้ปลอดสารพิษนายวาโยนั่นเอง หลังจากที่อัปสรารีไรต์ใหม่แล้วส่งไปให้สำนักพิมพ์วีนัสพลัส
2010(ในเครืออักษรศาสตร์) พิจรณาซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่อัปสราเพิ่งเคยส่งงานครั้งแรก ผลแจ้งกลับมาแล้ว
ค่ะว่าผ่าน แต่ว่าจะออกเมื่อไหร่อัปสราจะมาอัพเดทข่าวอีกครั้งค่ะ แต่อีกไม่นาน อ้อมกอดคนเถื่อน กับ สนพ.
อินเลิฟก็คงจะใกล้วางแผงในอีกไม่นานนี้ค่ะ
++++++++++++++++
ตอนที่ 8
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กระท้อนเตรียมวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแต่ไม่เร็วเท่ากับเคนที่ดึงร่างเธอมาประชิด
“จะไปไหน ในเมื่อผ้าเช็ดตัวคุณอยู่นี่ยังไงผมก็เห็นไปแล้วไม่ต้องวิ่งไปหลบหรอก” เคนชู ผ้าเช็ดตัวสีขาว
หญิงสาวหัวใจเต้นละส่ำอะไรกันเขาเข้ามาในห้องนี้ได้อย่างไร แล้วทำไมเขากับเธอจะต้องเจอกันในสภาพแบบนี้อยู่เรื่อยเลย
“เอามานี่” กระท้อนกระชากผ้าในมือมาอย่างรวดเร็วไม่ถึงสิบวินาทีหญิงสาวก็พ้นจากสภาพเปลือยกายแต่ก็ยังล่อแหลมอยู่ดีในเมื่อผ้าขนหนูผืนน้อยก็ปิดบังได้เฉพาะส่วนสำคัญเท่านั้นแต่แขนขายาวเรียวกับหุ่นเพรียวๆของเธอมันช่างชวนให้เลือดกำเดาของใครบางคนไหลออกมาเสียจริง
“ออกไปนะ คุณเข้ามาในห้องฉันทำไมกัน”
เขายิ้มเจ้าเล่ห์ติดอกติดใจกับเธอเสียเหลือเกินมือแขงแรงเลื่อนต่ำลงไปคลึงถึงสะโพกกลมมนอย่างลืมตัวแต่ต้องสะดุ้งพร้อมกับอาการหน้าชา
เพี้ยะ! “ลามก”
“ผมยังไม่ทันทำอะไรคุณเลยตบผมอีกแล้ว”
“ไม่ได้ทำเหรอแล้วไอ้มือปลาหมึกของคุณตอนนี้มันอยู่ที่ตรงไหนล่ะ”
“จริงด้วยสิ.....ผมแค่วางผิดที่ไปหน่อย” เคนรีบปล่อยมือทั้งที่เสียดาย “ผมไม่ได้ลามกนะ แต่เรียกคุณตั้งนานสองนานคุณก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ผมสักที ก็เลยต้องไขกุญแจเข้ามาดู ใครจะไปรู้ว่าคุณมีนิสัยชอบนุ่งลมห่มฟ้าเดินออกมาจากห้องน้ำเนื้อตัวเปล่าๆ เล่นทำผมขนลุกไปทั้งตัวเลย....เพราะว่า...ต้องไปหายาหยอดตากลัวภาพสยดสยองมันจะติดตาจนนอนไม่หลับน่ะ” เคนหัวเราะเสียงดังกลบเกลื่อนความตื่นเต้น
“จริงเหรอ แต่ที่ฉันเห็นมันไม่ใช่นะ” กระท้อนมองหุ่นกำยำของเคนไล่ต่ำลงเรื่อยๆ อย่างใจกล้าที่จริงเธอรู้สึกทั้งเขินทั้งอายแต่มาดูถูกกันแบบนี้โดยมันไม่เป็นความจริงหญิงสาวยอมไม่ได้เด็ดขาด
ตากลมโตก็เลยมองจ้องมันให้ชัดๆ ไปเลย
“มองอะไรน่ะ” เขาถลึงตาใส่แล้วดุเธอ “เป็นสาวเป็นแส้ทำอะไรน่าเกลียด”
เคนก้มต่ำลงมองตามสายตาของหญิงสาวปากบอกว่ารูปร่างเธอน่าเกลียดแต่บางส่วนน่ะสิมันคัดค้านกับคำพูด เพราะมันแสดงความพอใจอย่างแข็งขันออกมาจนเด่นชัด
“ไหนบอกว่ารูปร่างฉันน่าเกลียด แล้วทำไมมันเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ”
“เป็นแบบไหน มันก็เอ่อ...เป็นแบบนี้ของมันมาตั้งนานแล้วก็ผมน่ะ....มันระดับเทพจะให้ราบเรียบมองไม่เห็นได้ยังไง” เคนเถียงไปอย่างข้างๆคูๆ ก่อนจะหันหลังให้กระท้อนเพราะความ “อย่าคิดนะว่าจะได้แอ่มของผมง่ายๆ” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังกว่าเดิมกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มี
“ลงไปสิวะไอ้ลูกพ่อ...จะมาเสนอหน้าอะไรกันตอนนี้” เขาบอกกับตัวเอง
กระท้อนนึกหมั่นไสร้ในความถือดีของเขามือเรียวแกล้งลูบไล้ไปที่แผ่นหลังของเขาเบาๆ “ แน่ใจเหรอคะคุณเคนขา”ถือโอกาสทำเสียงเลียนแบบแอนนี่เสียเลย “ว่าคุณไม่รู้สึกอะไรกับฉันจริงๆ” ฝ่ามือเย็นจากการอาบน้ำมาใหม่ไล่ไปถึงลำคอแถมเธอยังใจร้ายเบียดร่างเข้าไปกอดเขาชนิดที่ว่าชายหนุ่มถึงกับขนแขนลุกชูชัน
“หันมามองฉันสิคะ” เธอดึงเขาให้หันหน้ามาเผชิญกับเธอ
“อย่ามายั่วผมมันไม่ได้ผล” เสียงนั้นจงใจที่จะดุ แต่มือของเขากอดเอวบางไว้แน่น
“คุณตกหลุมรักฉันแล้วใช่ไหมคะ ” ใบหน้าสวยยิ้มหวานให้ กลิ่นกายเธอช่างหอมจนเขาอยากจะก้มลงไปสูดดมเดี๋ยวนี้แต่พยายามบังคับตัวเองเอาไว้
“ไม่มีทาง” เคนเสียงแข็ง
“แน่ใจเหรอ” หญิงสาวทำใจกล้าจากนั้นค่อยๆเอื้อมมือไปแกะกระดุมจากเม็ดบนออกทีละเม็ด จากนั้นต่อด้วยเม็ดที่สอง และเม็ดที่สามตามลำดับ
เคนกุมมือของกระท้อนเอาไว้ “ถ้าจะแกล้งปั่นหัวผมบอกไว้เลยว่ายาก ทำไม่สำเร็จหรอก อย่ามายั่วกันดีกว่า”
“แน่ใจเหรอคะ ว่าจะไม่สำเร็จ” หญิงสาวย้อนถามพร้อมกอดคอของเขาเอาไว้ นัยน์ตาหวานท้าทายเพราะอยากเอาชนะ
เธอมั่นใจว่าเขาคงไม่มีอารมณ์ขนาดทีจะปลุกปล้ำเธอได้หรอกเพราะเมื่อสักครู่ที่แอบฟังเขาน่าจะถูกยัยแอนนี่รีดพิษไปจนหมดตัวแล้ว
“จะปล่อยผมได้หรือยัง”เคนกุมมือของเธอที่คล้องคอเขาเอาไว้อย่างหลวมๆ
“ไม่ได้ ตอบมาก่อนสิว่าแอบคิดอะไรกับฉันอยู่หรือเปล่า”
“คุณนี่มันยังไงพอผมเข้าใกล้ก็ทำเป็นหนี พอผมเดินหนีคุณก็กระโจนใส่ ดีล่ะถ้าอย่างนั้นคืนนี้ไม่รอดมือผมแน่”
เคนอุ้มร่างบางลอยลิ่วขึ้นไปบนเตียงจากนั้นเขาล้มลงไปนอนเคียงข้างเธอ “ดีล่ะยั่วนักผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียด้วย เอาล่ะตอนนี้ผมพร้อมแล้ว” เคนแกล้งทำทีจะปล้ำยิ่งสาวแต่แล้วทั้งแขนขาเธอก็ฟาดใส่ตัวเขาไม่ยั้ง
“ไม่เอานะ ปล่อยฉัน กลับไปหาคู่ขาของคุณเถอะ คนอะไรหื่นได้ตลอดเวลา” หญิงสาวร้องโวยวาย ที่จริงคิดจะยั่วเขาเพื่อเอาชนะแต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายเริ่มเสียเปรียบ เคนอมยิ้ม “หึงผมเหรอ เมื่อสักครู่แสดงแอบฟังผมอยู่ล่ะสิ”
หญิงสาวส่ายหน้า “ ใครจะทำแบบนั้น”
“ก็คุณยังไงล่ะ ถ้าไม่แอบฟังแล้วจะรู้เหรอว่าเมื่อสักครู่ผมทำอะไรอยู่กับแอนนี่”
ร่างบางที่นอนแน่นิ่งอยู่บนที่นอนสปริงรู้แล้วว่าไม่น่าไปกระตุกหนวดเสือเล่น “กลับห้องคุณไปได้แล้ว”
“ห้องนี้ก็ห้องของผมเหมือนกัน คืนนี้ผมไม่อยากนอนห้องนั้นแต่อยากจะนอนห้องนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับเป็นเรื่องปกติ
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวยัยแอนนี่ แม่นางแบบคู่ขาคุณคงจะต้องมาเคาะห้องเรียกทั้งคืน”
“ไม่หรอกเพราะเธอกลับไปแล้ว คืนนี้จะมีแค่คุณกับผมสองคน” หูตาของเขาแวววาวกวาดมองเรือนร่างสมส่วนไปทั่ว แต่หญิงสาวก็ไม่ปล่อยให้เขาได้มองนานเมื่อเธอใช้สองนิ้วจิ้มไปที่ตาเขาแต่ทว่าเคนหลบได้ทัน
“ร้ายนัก คุณนี่ผมเผลอไม่ได้เชียว” เขารวบมือสองข้างของเธอเอาไว้เหนือศีรษะตาสองคู่ประสานกัน กระท้อนรีบเบนสายตามองไปทางอื่น “คุณนี่มันขาวดีจริงๆ ขนาดรักแร้ยังทั้งขาวทั้งเนียน” อีตาบ้าชมอะไรไม่ชมมาชมรักแร้หญิงสาวคิดอยู่ในใจ
“คุณคงไม่คิดจะรังแกฉันใช่ไหมคะ”
เคนเงียบ เขาอมยิ้มแต่ไม่ตอบหญิงสาวรู้สึกใจคอไม่ดี
แต่แล้วก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปเสียงบีบแตรดังลั่นก็ทำลายความสงบ
“ใครกันนะ บีบแตรแบบไม่มีมารยาทเอาเสียเลย รอผมก่อนนะจะมาจัดการกับคุณที่หลัง” เคนลุกขึ้นอย่างหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ หญิงสาวหยิบได้หมอนข้างรีบปามันไล่หลังเขาในทันที
“อย่าคิดนะว่าจะเข้ามาได้ง่ายๆอีก เป็นครั้งที่สอง” กระท้อนรีบวิ่งไปปิดประตูจากนั้นลงกลอนจนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางไขกุญแจเข้ามาได้ ยกเว้นจะพังประตู
ปี๊นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงแตดังสนั่นเคนยกมือขึ้นอุดหูและรีบลงไปดูว่าเป็นใครแต่รถเก๋งสีแดงคันนี้เขาจำได้ดี
“แอนนี่! เป็นอะไรของเขาหรือว่าลืมอะไร” หญิงสาวก้าวลงมาจากรถทันที เธอขับรถออกไปแล้วแต่ยังรู้สึกเสียหน้าอับอายที่ถูกปฏิเสธไม่หายจึงต้องขับรถกลับมาอีกครั้ง
“เคน แอนนี่ลืมไปค่ะ” หญิงสาวมีท่าทางเกรี้ยวกราดแต่เคนคิดว่าเธอคงจะโกรธเขาที่ถูกปฏิเสธจึงพยายามข่มใจไม่โกรธ และเข้าใจความรู้สึกของเธอ
“ลืมอะไรเหรอครับ”
เพี้ยะ!
“แอนนี่ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยครับ” ใบหน้าคมฉายวายโกรธเล็กน้อยก่อนจะข่มใจดับไฟในอารมณ์ของตน
“คุณดูถูกฉัน คุณไม่รู้หรอกว่าฉันเสียใจแค่ไหนที่ถูกคุณปฏิเสธ” หญิงสาวแบมือ ท่าทางเปลี่ยนไป
“อะไรกันครับ”
“ค่าเสียเวลาของฉันในวันนี้”
“ตกลง” เคนหยิบกระเป๋าสตางค์สีดำที่ทำจากหนังแท้แบรนด์ของมันไม่ใช่คนธรรมดาจะมีไว้ครอบครองได้เขาหยิบธนบัตรสีเทาจำนวนหนึ่งขึ้นมา
“ขอบคุณ” แอนนี่กระชากธนบัตรไปอย่างหัวเสีย “ตกลงคุณมันแมนจริงหรือเปล่า”
เคนเงียบเขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียง วันนี้ทำให้เขาได้เห็นธาตุแท้ของเธอและอารมณ์รุนแรงที่ซ่อนไว้หลังใบหน้าสวยๆ ดีนะที่เขาไม่เคยคิดจะเอาเธอมาเป็นแฟน ที่จริงเขาแมนเต็มร้อย และก็มีความต้องการในเรื่องนั้นอย่างเหลือเฟือเชียวล่ะ แต่ทว่าเขาเลือกที่จะใช้มันกับผู้หญิงบางคนเท่านั้น “ฉันไปล่ะ แล้ววันหลังไม่ต้องโทรตามแอนนี่อีกนะคะหากเรียกมาแล้วไม่คิดจะทำอะไร” หญิงสาวกระฟัดกระเฟียดและก้าวฉับๆขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
+++++++++++++++++++++++
ปัง!
“นี่เปิดเดี๋ยวนี้นะผมบอกให้เปิดเรายังคุยกันไม่ทันจบเลย”
เคนทุบประตูอยู่นานแต่คนในห้องไม่ยอมเปิดประตูให้ แถมนอนอ่านนิตยสารอย่างเพลิดเพลินสบายใจ แต่เหงื่อกับซึมผุดตามร่างกายเป็นเพราะหญิงสาวสวมเสื้อกางเกงเอาไว้ถึงสามชั้นตั้งใจว่าหากเขาเข้ามาได้จริงๆด้วยวิธีไหนก็ตามเธอก็ยังมีปราการปกป้องอยู่หลายชั้น
“จ้างให้ฉันก็ไม่เปิด เรื่องอะไรจะเปิด” กระท้อนย่นจมูก
“ไม่เปิดก็ไม่เป็นไร อย่าออกมาจากห้องนะคอยดูจะอยู่ในนั้นได้นานสักแค่ไหนเชียว”
เคนเดินกลับไปที่ห้องอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ทำไมเขาต้องโกรธด้วยที่เธอไม่ยอมเปิดประตูให้
“นึกว่าง้ออยากจะคุยด้วยนักรึไง” เคนเข่นเขี้ยวและเดินปึงปังกลับไปที่ห้อง
จากนั้นหญิงสาวข้างห้องก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูห้อง ดังปัง
“สมน้ำหน้า เชอะปากบอกว่าไม่แต่อยู่ใกล้เราทีไรเป็นต้องแต๊ะอั๋งทุกที” กระท้อนเหยียดยิ้ม +++++++++++++++++++++
ภายในห้องชายหนุ่มกำลังค้นหาของบางอย่างที่เขาซุกซ่อนเอาไว้ เคนยกที่นอนขึ้นและเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
“ ขอดูชื่อจริงหน่อยสิยัยกระท้อนชื่อจริงชื่ออะไร ”
เขาพลิกกระเป๋าสตางค์สีชมพูลายคิตตี้ “ดูสิโตแล้วยังใช้กระเป๋าลายแบบนี้อีก” เคนแอบยิ้มและเปิดกระเป๋าออกดูในกระเป๋ามีเงินไม่ถึงร้อย เพราะกระท้อนต้องการลงไปสัมผัสชีวิตของสาวกระเป๋ารถเมล์
“ยัยกระเป๋ารถเมล์ถังแตก มีเงินไม่ถึงร้อย” เคนส่ายศีรษะและคิดว่าหากเธอยอมเลิกกับนายนาวีจริงๆเขาอยากให้เงินเธอสักก้อนบางทีชีวิตเธออาจจะดีขึ้นกว่านี้ไม่ต้องลำบากเป็นกระเป๋ารเมล์ซึ่งเขามองว่ามันไม่เหมาะกับสาวสวยอย่างเธอ หรือว่าถ้าหากบางอย่างมันเป็นไปแบบที่คิดคนอย่างเขาจะเลี้ยงผู้หญิงสักคนก็คงไม่ได้ลำบากอะไรนี่นา
เมื่อเขามองถัดไปบัตรประชาชนของเธอมีชื่อว่า นางสาวพันธิตา ประสิทธิเลิศ นามสกุลนี้เคนรู้สึกคุ้นๆแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาเช็คบัตรต่อไปว่าเธอมีบัตรอะไรบ้าง
บัตรสมาชิกของห้างดัง บัตรส่วนลดไอศกรีมเซเวนเซ่น บัตรสมาชิกส่วนลดพิซซ่า บัตรสมาชิกส่วนลดร้านโดนัทชื่อดัง
เคนนั่งขำจนท้องแข็ง “คนอะไรพัวพันแต่เรื่องกิน ไม่น่าจะหนีโรคอ้วนได้เลย” เขายังหยิบบัตรดูไปเรื่อยๆจนกระทั่งใบสุดท้าย บัตรนักศึกษาปริญญาโท ของสถาบันรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่บัตรมีรูปของเธออยู่ด้วย “เฮ้ย! ตาฝาดหรือเปล่าเนี่ยกระเป๋ารถเมล์ เรียนปริญญาโท” แต่เคนบอกตัวเองว่าเขาตาไม่ฝาดแน่ๆบัตรนักศึกษาแบบนี้คงไม่มีใครมาทำกันเล่นๆ
เคนรีบหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วโทรหาน้องสาวตัวการของปัญหาทั้งหมดทันที แต่ว่าไม่สามารถติดต่อพายไข่ได้เลย
พายไข่มองโทรศัพท์มือถือที่เธอตั้งระบบสั่นเอาไว้
“พี่เคนนี่ โทรมาทำอะไรกันนักกันหนาเรื่องอะไรพายไข่จะรับให้เสียเวลา มีปัญหาอะไรก็แก้เอาเองสิ”พายไข่เบ้ริมฝีปากจากนั้นสอดโทรศัพท์เอาไว้ที่ใต้หมอนเสียอย่างนั้น
นาวีเดินมาพร้อมถาดอาหารและยา
“ทานข้าวสักหน่อยเถอะคุณ อย่างน้อยคุณไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะห่วงลูกในท้องของคุณบ้างนะครับ ถ้าคุณหายดีแล้วผมจะได้ไปทำธุระของผมบ้าง กระท้อนหายไปตั้งหลายวันแล้วผมเป็นห่วงเธอมากตามข่าวกับตำรวจก็ยังไม่ได้ความเลย”
“พายไข่ทานไม่ลงหรอกค่ะ มันปวดหัว คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ทำไมมันถึงได้ทรมานแบบนี้คะนาวีขา” หญิงสาวแสร้งสำออยทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรไป แต่ยิ่งเห็นเขาดีกับเธอพายไข่ก็ยิ่งเล่นบทคนป่วยให้หนักขึ้น
เคนหงุดหงิดที่โทรหาน้องสาวเท่าไหร่ก็ไม่ติด “ทำอะไรอยู่นะพายไข่ ปวดหัวกับน้องสาวคนนี้จริงๆ เคนตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงเขาคิดจะล้มตัวลงนอนแต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเคนรีบคว้าขึ้นมาแต่เบอร์ที่โชว์ขึ้นมาไม่ใช่เบอร์น้องสาวตัวแสบ กลับเป็นเบอร์พี่ชายคนโต
“พี่นริน โทรมาก็ดีเหมือนกันคงจะหายยุ่งแล้วเป็นไงเป็นกัน เพื่อบางทีพี่นรินจะพอรู้เรื่องอะไรบ้าง” “สวัสดีครับพี่นริน”
เสียงของนรินดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “เคน พี่มีข่าวดีจะบอกตกลงมิสเตอร์โรเจอร์ เขาจะร่วมทุนกับเรา” “ยินดีด้วยครับพี่นรินที่พี่ทำสำเร็จ แต่ว่าตอนนี้ผมมีเรื่องกลุ้มใจอยากจะปรึกษาพี่นรินครับ”
“เรื่องอะไรเหรอ อย่าบอกนะว่านายยังจัดการกับยัยพายไข่ไม่สำเร็จ” นรินหัวเราะน้องชายคงปวดหัวอย่างที่เขาเคยปวดหัวมาก่อน
“ใช่ครับ แล้วดูเหมือนมันจะยุ่งกว่าเดิมด้วยสิครับ”
นรินรับรู้ได้ดีถึงความกลัดกลุ้มของน้องชายที่ส่งผ่านมาทางกระแสเสียง “ยุ่งยังไงลองเล่ามาซิ เพื่อพี่จะช่วยนายได้บ้างพรุ่งนี้พี่ก็จะเดินทางกลับประเทศไทยแล้วล่ะ”
“พี่ตั้งใจฟังนะครับ เรื่องมันเป็นแบบนี้”
จากนั้นเคนก็ค่อยๆเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นรินฟังอย่างช้าๆ ++++++++++++++++++++++++++
ขอแจ้งข่าวเรื่องพายุรัก ซาตานร้ายหน่อยค่ะ คงจำกันได้เรื่องของพลอยญาวี พี่สาวกระท้อน กับเจ้า
ของไร่ผักผลไม้ปลอดสารพิษนายวาโยนั่นเอง หลังจากที่อัปสรารีไรต์ใหม่แล้วส่งไปให้สำนักพิมพ์วีนัสพลัส
2010(ในเครืออักษรศาสตร์) พิจรณาซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่อัปสราเพิ่งเคยส่งงานครั้งแรก ผลแจ้งกลับมาแล้ว
ค่ะว่าผ่าน แต่ว่าจะออกเมื่อไหร่อัปสราจะมาอัพเดทข่าวอีกครั้งค่ะ แต่อีกไม่นาน อ้อมกอดคนเถื่อน กับ สนพ.
อินเลิฟก็คงจะใกล้วางแผงในอีกไม่นานนี้ค่ะ
++++++++++++++++
ตอนที่ 8
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กระท้อนเตรียมวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแต่ไม่เร็วเท่ากับเคนที่ดึงร่างเธอมาประชิด
“จะไปไหน ในเมื่อผ้าเช็ดตัวคุณอยู่นี่ยังไงผมก็เห็นไปแล้วไม่ต้องวิ่งไปหลบหรอก” เคนชู ผ้าเช็ดตัวสีขาว
หญิงสาวหัวใจเต้นละส่ำอะไรกันเขาเข้ามาในห้องนี้ได้อย่างไร แล้วทำไมเขากับเธอจะต้องเจอกันในสภาพแบบนี้อยู่เรื่อยเลย
“เอามานี่” กระท้อนกระชากผ้าในมือมาอย่างรวดเร็วไม่ถึงสิบวินาทีหญิงสาวก็พ้นจากสภาพเปลือยกายแต่ก็ยังล่อแหลมอยู่ดีในเมื่อผ้าขนหนูผืนน้อยก็ปิดบังได้เฉพาะส่วนสำคัญเท่านั้นแต่แขนขายาวเรียวกับหุ่นเพรียวๆของเธอมันช่างชวนให้เลือดกำเดาของใครบางคนไหลออกมาเสียจริง
“ออกไปนะ คุณเข้ามาในห้องฉันทำไมกัน”
เขายิ้มเจ้าเล่ห์ติดอกติดใจกับเธอเสียเหลือเกินมือแขงแรงเลื่อนต่ำลงไปคลึงถึงสะโพกกลมมนอย่างลืมตัวแต่ต้องสะดุ้งพร้อมกับอาการหน้าชา
เพี้ยะ! “ลามก”
“ผมยังไม่ทันทำอะไรคุณเลยตบผมอีกแล้ว”
“ไม่ได้ทำเหรอแล้วไอ้มือปลาหมึกของคุณตอนนี้มันอยู่ที่ตรงไหนล่ะ”
“จริงด้วยสิ.....ผมแค่วางผิดที่ไปหน่อย” เคนรีบปล่อยมือทั้งที่เสียดาย “ผมไม่ได้ลามกนะ แต่เรียกคุณตั้งนานสองนานคุณก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ผมสักที ก็เลยต้องไขกุญแจเข้ามาดู ใครจะไปรู้ว่าคุณมีนิสัยชอบนุ่งลมห่มฟ้าเดินออกมาจากห้องน้ำเนื้อตัวเปล่าๆ เล่นทำผมขนลุกไปทั้งตัวเลย....เพราะว่า...ต้องไปหายาหยอดตากลัวภาพสยดสยองมันจะติดตาจนนอนไม่หลับน่ะ” เคนหัวเราะเสียงดังกลบเกลื่อนความตื่นเต้น
“จริงเหรอ แต่ที่ฉันเห็นมันไม่ใช่นะ” กระท้อนมองหุ่นกำยำของเคนไล่ต่ำลงเรื่อยๆ อย่างใจกล้าที่จริงเธอรู้สึกทั้งเขินทั้งอายแต่มาดูถูกกันแบบนี้โดยมันไม่เป็นความจริงหญิงสาวยอมไม่ได้เด็ดขาด
ตากลมโตก็เลยมองจ้องมันให้ชัดๆ ไปเลย
“มองอะไรน่ะ” เขาถลึงตาใส่แล้วดุเธอ “เป็นสาวเป็นแส้ทำอะไรน่าเกลียด”
เคนก้มต่ำลงมองตามสายตาของหญิงสาวปากบอกว่ารูปร่างเธอน่าเกลียดแต่บางส่วนน่ะสิมันคัดค้านกับคำพูด เพราะมันแสดงความพอใจอย่างแข็งขันออกมาจนเด่นชัด
“ไหนบอกว่ารูปร่างฉันน่าเกลียด แล้วทำไมมันเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ”
“เป็นแบบไหน มันก็เอ่อ...เป็นแบบนี้ของมันมาตั้งนานแล้วก็ผมน่ะ....มันระดับเทพจะให้ราบเรียบมองไม่เห็นได้ยังไง” เคนเถียงไปอย่างข้างๆคูๆ ก่อนจะหันหลังให้กระท้อนเพราะความ “อย่าคิดนะว่าจะได้แอ่มของผมง่ายๆ” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังกว่าเดิมกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มี
“ลงไปสิวะไอ้ลูกพ่อ...จะมาเสนอหน้าอะไรกันตอนนี้” เขาบอกกับตัวเอง
กระท้อนนึกหมั่นไสร้ในความถือดีของเขามือเรียวแกล้งลูบไล้ไปที่แผ่นหลังของเขาเบาๆ “ แน่ใจเหรอคะคุณเคนขา”ถือโอกาสทำเสียงเลียนแบบแอนนี่เสียเลย “ว่าคุณไม่รู้สึกอะไรกับฉันจริงๆ” ฝ่ามือเย็นจากการอาบน้ำมาใหม่ไล่ไปถึงลำคอแถมเธอยังใจร้ายเบียดร่างเข้าไปกอดเขาชนิดที่ว่าชายหนุ่มถึงกับขนแขนลุกชูชัน
“หันมามองฉันสิคะ” เธอดึงเขาให้หันหน้ามาเผชิญกับเธอ
“อย่ามายั่วผมมันไม่ได้ผล” เสียงนั้นจงใจที่จะดุ แต่มือของเขากอดเอวบางไว้แน่น
“คุณตกหลุมรักฉันแล้วใช่ไหมคะ ” ใบหน้าสวยยิ้มหวานให้ กลิ่นกายเธอช่างหอมจนเขาอยากจะก้มลงไปสูดดมเดี๋ยวนี้แต่พยายามบังคับตัวเองเอาไว้
“ไม่มีทาง” เคนเสียงแข็ง
“แน่ใจเหรอ” หญิงสาวทำใจกล้าจากนั้นค่อยๆเอื้อมมือไปแกะกระดุมจากเม็ดบนออกทีละเม็ด จากนั้นต่อด้วยเม็ดที่สอง และเม็ดที่สามตามลำดับ
เคนกุมมือของกระท้อนเอาไว้ “ถ้าจะแกล้งปั่นหัวผมบอกไว้เลยว่ายาก ทำไม่สำเร็จหรอก อย่ามายั่วกันดีกว่า”
“แน่ใจเหรอคะ ว่าจะไม่สำเร็จ” หญิงสาวย้อนถามพร้อมกอดคอของเขาเอาไว้ นัยน์ตาหวานท้าทายเพราะอยากเอาชนะ
เธอมั่นใจว่าเขาคงไม่มีอารมณ์ขนาดทีจะปลุกปล้ำเธอได้หรอกเพราะเมื่อสักครู่ที่แอบฟังเขาน่าจะถูกยัยแอนนี่รีดพิษไปจนหมดตัวแล้ว
“จะปล่อยผมได้หรือยัง”เคนกุมมือของเธอที่คล้องคอเขาเอาไว้อย่างหลวมๆ
“ไม่ได้ ตอบมาก่อนสิว่าแอบคิดอะไรกับฉันอยู่หรือเปล่า”
“คุณนี่มันยังไงพอผมเข้าใกล้ก็ทำเป็นหนี พอผมเดินหนีคุณก็กระโจนใส่ ดีล่ะถ้าอย่างนั้นคืนนี้ไม่รอดมือผมแน่”
เคนอุ้มร่างบางลอยลิ่วขึ้นไปบนเตียงจากนั้นเขาล้มลงไปนอนเคียงข้างเธอ “ดีล่ะยั่วนักผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียด้วย เอาล่ะตอนนี้ผมพร้อมแล้ว” เคนแกล้งทำทีจะปล้ำยิ่งสาวแต่แล้วทั้งแขนขาเธอก็ฟาดใส่ตัวเขาไม่ยั้ง
“ไม่เอานะ ปล่อยฉัน กลับไปหาคู่ขาของคุณเถอะ คนอะไรหื่นได้ตลอดเวลา” หญิงสาวร้องโวยวาย ที่จริงคิดจะยั่วเขาเพื่อเอาชนะแต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายเริ่มเสียเปรียบ เคนอมยิ้ม “หึงผมเหรอ เมื่อสักครู่แสดงแอบฟังผมอยู่ล่ะสิ”
หญิงสาวส่ายหน้า “ ใครจะทำแบบนั้น”
“ก็คุณยังไงล่ะ ถ้าไม่แอบฟังแล้วจะรู้เหรอว่าเมื่อสักครู่ผมทำอะไรอยู่กับแอนนี่”
ร่างบางที่นอนแน่นิ่งอยู่บนที่นอนสปริงรู้แล้วว่าไม่น่าไปกระตุกหนวดเสือเล่น “กลับห้องคุณไปได้แล้ว”
“ห้องนี้ก็ห้องของผมเหมือนกัน คืนนี้ผมไม่อยากนอนห้องนั้นแต่อยากจะนอนห้องนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับเป็นเรื่องปกติ
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวยัยแอนนี่ แม่นางแบบคู่ขาคุณคงจะต้องมาเคาะห้องเรียกทั้งคืน”
“ไม่หรอกเพราะเธอกลับไปแล้ว คืนนี้จะมีแค่คุณกับผมสองคน” หูตาของเขาแวววาวกวาดมองเรือนร่างสมส่วนไปทั่ว แต่หญิงสาวก็ไม่ปล่อยให้เขาได้มองนานเมื่อเธอใช้สองนิ้วจิ้มไปที่ตาเขาแต่ทว่าเคนหลบได้ทัน
“ร้ายนัก คุณนี่ผมเผลอไม่ได้เชียว” เขารวบมือสองข้างของเธอเอาไว้เหนือศีรษะตาสองคู่ประสานกัน กระท้อนรีบเบนสายตามองไปทางอื่น “คุณนี่มันขาวดีจริงๆ ขนาดรักแร้ยังทั้งขาวทั้งเนียน” อีตาบ้าชมอะไรไม่ชมมาชมรักแร้หญิงสาวคิดอยู่ในใจ
“คุณคงไม่คิดจะรังแกฉันใช่ไหมคะ”
เคนเงียบ เขาอมยิ้มแต่ไม่ตอบหญิงสาวรู้สึกใจคอไม่ดี
แต่แล้วก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปเสียงบีบแตรดังลั่นก็ทำลายความสงบ
“ใครกันนะ บีบแตรแบบไม่มีมารยาทเอาเสียเลย รอผมก่อนนะจะมาจัดการกับคุณที่หลัง” เคนลุกขึ้นอย่างหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ หญิงสาวหยิบได้หมอนข้างรีบปามันไล่หลังเขาในทันที
“อย่าคิดนะว่าจะเข้ามาได้ง่ายๆอีก เป็นครั้งที่สอง” กระท้อนรีบวิ่งไปปิดประตูจากนั้นลงกลอนจนมั่นใจว่าเขาไม่มีทางไขกุญแจเข้ามาได้ ยกเว้นจะพังประตู
ปี๊นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงแตดังสนั่นเคนยกมือขึ้นอุดหูและรีบลงไปดูว่าเป็นใครแต่รถเก๋งสีแดงคันนี้เขาจำได้ดี
“แอนนี่! เป็นอะไรของเขาหรือว่าลืมอะไร” หญิงสาวก้าวลงมาจากรถทันที เธอขับรถออกไปแล้วแต่ยังรู้สึกเสียหน้าอับอายที่ถูกปฏิเสธไม่หายจึงต้องขับรถกลับมาอีกครั้ง
“เคน แอนนี่ลืมไปค่ะ” หญิงสาวมีท่าทางเกรี้ยวกราดแต่เคนคิดว่าเธอคงจะโกรธเขาที่ถูกปฏิเสธจึงพยายามข่มใจไม่โกรธ และเข้าใจความรู้สึกของเธอ
“ลืมอะไรเหรอครับ”
เพี้ยะ!
“แอนนี่ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยครับ” ใบหน้าคมฉายวายโกรธเล็กน้อยก่อนจะข่มใจดับไฟในอารมณ์ของตน
“คุณดูถูกฉัน คุณไม่รู้หรอกว่าฉันเสียใจแค่ไหนที่ถูกคุณปฏิเสธ” หญิงสาวแบมือ ท่าทางเปลี่ยนไป
“อะไรกันครับ”
“ค่าเสียเวลาของฉันในวันนี้”
“ตกลง” เคนหยิบกระเป๋าสตางค์สีดำที่ทำจากหนังแท้แบรนด์ของมันไม่ใช่คนธรรมดาจะมีไว้ครอบครองได้เขาหยิบธนบัตรสีเทาจำนวนหนึ่งขึ้นมา
“ขอบคุณ” แอนนี่กระชากธนบัตรไปอย่างหัวเสีย “ตกลงคุณมันแมนจริงหรือเปล่า”
เคนเงียบเขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียง วันนี้ทำให้เขาได้เห็นธาตุแท้ของเธอและอารมณ์รุนแรงที่ซ่อนไว้หลังใบหน้าสวยๆ ดีนะที่เขาไม่เคยคิดจะเอาเธอมาเป็นแฟน ที่จริงเขาแมนเต็มร้อย และก็มีความต้องการในเรื่องนั้นอย่างเหลือเฟือเชียวล่ะ แต่ทว่าเขาเลือกที่จะใช้มันกับผู้หญิงบางคนเท่านั้น “ฉันไปล่ะ แล้ววันหลังไม่ต้องโทรตามแอนนี่อีกนะคะหากเรียกมาแล้วไม่คิดจะทำอะไร” หญิงสาวกระฟัดกระเฟียดและก้าวฉับๆขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
+++++++++++++++++++++++
ปัง!
“นี่เปิดเดี๋ยวนี้นะผมบอกให้เปิดเรายังคุยกันไม่ทันจบเลย”
เคนทุบประตูอยู่นานแต่คนในห้องไม่ยอมเปิดประตูให้ แถมนอนอ่านนิตยสารอย่างเพลิดเพลินสบายใจ แต่เหงื่อกับซึมผุดตามร่างกายเป็นเพราะหญิงสาวสวมเสื้อกางเกงเอาไว้ถึงสามชั้นตั้งใจว่าหากเขาเข้ามาได้จริงๆด้วยวิธีไหนก็ตามเธอก็ยังมีปราการปกป้องอยู่หลายชั้น
“จ้างให้ฉันก็ไม่เปิด เรื่องอะไรจะเปิด” กระท้อนย่นจมูก
“ไม่เปิดก็ไม่เป็นไร อย่าออกมาจากห้องนะคอยดูจะอยู่ในนั้นได้นานสักแค่ไหนเชียว”
เคนเดินกลับไปที่ห้องอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ทำไมเขาต้องโกรธด้วยที่เธอไม่ยอมเปิดประตูให้
“นึกว่าง้ออยากจะคุยด้วยนักรึไง” เคนเข่นเขี้ยวและเดินปึงปังกลับไปที่ห้อง
จากนั้นหญิงสาวข้างห้องก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูห้อง ดังปัง
“สมน้ำหน้า เชอะปากบอกว่าไม่แต่อยู่ใกล้เราทีไรเป็นต้องแต๊ะอั๋งทุกที” กระท้อนเหยียดยิ้ม +++++++++++++++++++++
ภายในห้องชายหนุ่มกำลังค้นหาของบางอย่างที่เขาซุกซ่อนเอาไว้ เคนยกที่นอนขึ้นและเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
“ ขอดูชื่อจริงหน่อยสิยัยกระท้อนชื่อจริงชื่ออะไร ”
เขาพลิกกระเป๋าสตางค์สีชมพูลายคิตตี้ “ดูสิโตแล้วยังใช้กระเป๋าลายแบบนี้อีก” เคนแอบยิ้มและเปิดกระเป๋าออกดูในกระเป๋ามีเงินไม่ถึงร้อย เพราะกระท้อนต้องการลงไปสัมผัสชีวิตของสาวกระเป๋ารถเมล์
“ยัยกระเป๋ารถเมล์ถังแตก มีเงินไม่ถึงร้อย” เคนส่ายศีรษะและคิดว่าหากเธอยอมเลิกกับนายนาวีจริงๆเขาอยากให้เงินเธอสักก้อนบางทีชีวิตเธออาจจะดีขึ้นกว่านี้ไม่ต้องลำบากเป็นกระเป๋ารเมล์ซึ่งเขามองว่ามันไม่เหมาะกับสาวสวยอย่างเธอ หรือว่าถ้าหากบางอย่างมันเป็นไปแบบที่คิดคนอย่างเขาจะเลี้ยงผู้หญิงสักคนก็คงไม่ได้ลำบากอะไรนี่นา
เมื่อเขามองถัดไปบัตรประชาชนของเธอมีชื่อว่า นางสาวพันธิตา ประสิทธิเลิศ นามสกุลนี้เคนรู้สึกคุ้นๆแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาเช็คบัตรต่อไปว่าเธอมีบัตรอะไรบ้าง
บัตรสมาชิกของห้างดัง บัตรส่วนลดไอศกรีมเซเวนเซ่น บัตรสมาชิกส่วนลดพิซซ่า บัตรสมาชิกส่วนลดร้านโดนัทชื่อดัง
เคนนั่งขำจนท้องแข็ง “คนอะไรพัวพันแต่เรื่องกิน ไม่น่าจะหนีโรคอ้วนได้เลย” เขายังหยิบบัตรดูไปเรื่อยๆจนกระทั่งใบสุดท้าย บัตรนักศึกษาปริญญาโท ของสถาบันรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่บัตรมีรูปของเธออยู่ด้วย “เฮ้ย! ตาฝาดหรือเปล่าเนี่ยกระเป๋ารถเมล์ เรียนปริญญาโท” แต่เคนบอกตัวเองว่าเขาตาไม่ฝาดแน่ๆบัตรนักศึกษาแบบนี้คงไม่มีใครมาทำกันเล่นๆ
เคนรีบหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วโทรหาน้องสาวตัวการของปัญหาทั้งหมดทันที แต่ว่าไม่สามารถติดต่อพายไข่ได้เลย
พายไข่มองโทรศัพท์มือถือที่เธอตั้งระบบสั่นเอาไว้
“พี่เคนนี่ โทรมาทำอะไรกันนักกันหนาเรื่องอะไรพายไข่จะรับให้เสียเวลา มีปัญหาอะไรก็แก้เอาเองสิ”พายไข่เบ้ริมฝีปากจากนั้นสอดโทรศัพท์เอาไว้ที่ใต้หมอนเสียอย่างนั้น
นาวีเดินมาพร้อมถาดอาหารและยา
“ทานข้าวสักหน่อยเถอะคุณ อย่างน้อยคุณไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะห่วงลูกในท้องของคุณบ้างนะครับ ถ้าคุณหายดีแล้วผมจะได้ไปทำธุระของผมบ้าง กระท้อนหายไปตั้งหลายวันแล้วผมเป็นห่วงเธอมากตามข่าวกับตำรวจก็ยังไม่ได้ความเลย”
“พายไข่ทานไม่ลงหรอกค่ะ มันปวดหัว คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ทำไมมันถึงได้ทรมานแบบนี้คะนาวีขา” หญิงสาวแสร้งสำออยทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรไป แต่ยิ่งเห็นเขาดีกับเธอพายไข่ก็ยิ่งเล่นบทคนป่วยให้หนักขึ้น
เคนหงุดหงิดที่โทรหาน้องสาวเท่าไหร่ก็ไม่ติด “ทำอะไรอยู่นะพายไข่ ปวดหัวกับน้องสาวคนนี้จริงๆ เคนตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงเขาคิดจะล้มตัวลงนอนแต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเคนรีบคว้าขึ้นมาแต่เบอร์ที่โชว์ขึ้นมาไม่ใช่เบอร์น้องสาวตัวแสบ กลับเป็นเบอร์พี่ชายคนโต
“พี่นริน โทรมาก็ดีเหมือนกันคงจะหายยุ่งแล้วเป็นไงเป็นกัน เพื่อบางทีพี่นรินจะพอรู้เรื่องอะไรบ้าง” “สวัสดีครับพี่นริน”
เสียงของนรินดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “เคน พี่มีข่าวดีจะบอกตกลงมิสเตอร์โรเจอร์ เขาจะร่วมทุนกับเรา” “ยินดีด้วยครับพี่นรินที่พี่ทำสำเร็จ แต่ว่าตอนนี้ผมมีเรื่องกลุ้มใจอยากจะปรึกษาพี่นรินครับ”
“เรื่องอะไรเหรอ อย่าบอกนะว่านายยังจัดการกับยัยพายไข่ไม่สำเร็จ” นรินหัวเราะน้องชายคงปวดหัวอย่างที่เขาเคยปวดหัวมาก่อน
“ใช่ครับ แล้วดูเหมือนมันจะยุ่งกว่าเดิมด้วยสิครับ”
นรินรับรู้ได้ดีถึงความกลัดกลุ้มของน้องชายที่ส่งผ่านมาทางกระแสเสียง “ยุ่งยังไงลองเล่ามาซิ เพื่อพี่จะช่วยนายได้บ้างพรุ่งนี้พี่ก็จะเดินทางกลับประเทศไทยแล้วล่ะ”
“พี่ตั้งใจฟังนะครับ เรื่องมันเป็นแบบนี้”
จากนั้นเคนก็ค่อยๆเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นรินฟังอย่างช้าๆ ++++++++++++++++++++++++++
อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.ค. 2554, 16:12:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ค. 2554, 08:14:21 น.
จำนวนการเข้าชม : 6192
<< ตอนที่ 7 | ตอนที่ 9 >> |
dedy 13 ก.ค. 2554, 16:49:52 น.
เขียนทั้งสามพล็อตเลยได้ไหมคะ หุหุ ถ้าให้เลือกพล็อตเดียวก้อเทคะแนนให้พล็อตที่หนึ่งมากกว่าพล็อตอื่นนิดนึงค่ะ
เขียนทั้งสามพล็อตเลยได้ไหมคะ หุหุ ถ้าให้เลือกพล็อตเดียวก้อเทคะแนนให้พล็อตที่หนึ่งมากกว่าพล็อตอื่นนิดนึงค่ะ
kaero 13 ก.ค. 2554, 16:54:30 น.
ยินดีด้วยจ้า ขอให้ยอดขายพุ่งกระฉูดดดด
ยินดีด้วยจ้า ขอให้ยอดขายพุ่งกระฉูดดดด
อัปสรา 13 ก.ค. 2554, 16:57:03 น.
- ขอบคุณค่ะ dedyขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำคุณ
- คุณ kaero สาธุๆๆๆ ขอให้เป็นเช่นนั้นนะคะ
- ขอบคุณค่ะ dedyขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำคุณ
- คุณ kaero สาธุๆๆๆ ขอให้เป็นเช่นนั้นนะคะ
kaero 13 ก.ค. 2554, 17:03:18 น.
กบชอบเรืองที่ 1 กับ 3 อะ
กบชอบเรืองที่ 1 กับ 3 อะ
อัปสรา 13 ก.ค. 2554, 17:04:03 น.
ขอบคุณค่ะคุณกบสำหรับความเห็น
ขอบคุณค่ะคุณกบสำหรับความเห็น
anOO 13 ก.ค. 2554, 17:15:32 น.
โอชอบเรื่องที่ 1 กับ 3 ค่ะ
เรียงลำดับเลยได้ไหม 1 3 2 ค่ะ
ว่าแต่เรื่องที่ 2 พระเอกชื่ออิทธิเดช หรือ อธิเดช แน่ค่ะ
โอชอบเรื่องที่ 1 กับ 3 ค่ะ
เรียงลำดับเลยได้ไหม 1 3 2 ค่ะ
ว่าแต่เรื่องที่ 2 พระเอกชื่ออิทธิเดช หรือ อธิเดช แน่ค่ะ
lovemuay 13 ก.ค. 2554, 20:18:18 น.
ชอบทุกพล๊อตนะคะ แต่ถ้าให้เลือกชอบพล็อตแรกมากที่สุดค่ะ
เอ! พล๊อตที่ 2 เหมือนเคยอ่านแล้วเลยค่ะ แต่เพิ่งลงไปไม่กี่ตอนใช่มั๊ยคะ?
ชอบทุกพล๊อตนะคะ แต่ถ้าให้เลือกชอบพล็อตแรกมากที่สุดค่ะ
เอ! พล๊อตที่ 2 เหมือนเคยอ่านแล้วเลยค่ะ แต่เพิ่งลงไปไม่กี่ตอนใช่มั๊ยคะ?
ann 13 ก.ค. 2554, 20:42:45 น.
คุณอัปสราคะ อ้อมกอดคนเถื่อน ชื่อเก่าชื่อไรคะ เริ่มสับสนแล้ว นิยายเยอะจัด 555+
คุณอัปสราคะ อ้อมกอดคนเถื่อน ชื่อเก่าชื่อไรคะ เริ่มสับสนแล้ว นิยายเยอะจัด 555+
อัปสรา 13 ก.ค. 2554, 21:12:09 น.
ขอบคุณนะคะทั้งคุณ an00 และคุณ lovemuay
คุณ ann อ้อมกอดคนเถื่อน ชื่อ พิศวาสรักจอมใจซานตานค่ะ
อยากชมปกก็คลิกไปตามลิงค์นี้ได้ค่ะ
http://www.inlove-book.com
ขอบคุณนะคะทั้งคุณ an00 และคุณ lovemuay
คุณ ann อ้อมกอดคนเถื่อน ชื่อ พิศวาสรักจอมใจซานตานค่ะ
อยากชมปกก็คลิกไปตามลิงค์นี้ได้ค่ะ
http://www.inlove-book.com
หมู้หมู 13 ก.ค. 2554, 21:12:31 น.
เรื่องแรก เลยค่ะ^^
เรื่องแรก เลยค่ะ^^
ปูสีน้ำเงิน 13 ก.ค. 2554, 23:46:15 น.
รู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องที่ 2 เคยลงให้อ่านแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าให้ปูเลือกก็ขอเป็นเรื่องที่ 1 ก่อนแล้วต่อด้วยเรื่องที่ 3 และ 2 ตามนี้นะ
รู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องที่ 2 เคยลงให้อ่านแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าให้ปูเลือกก็ขอเป็นเรื่องที่ 1 ก่อนแล้วต่อด้วยเรื่องที่ 3 และ 2 ตามนี้นะ
maplezaa 14 ก.ค. 2554, 00:34:20 น.
เชียร์พล็อตเรื่องที่ 1 ค๊าาาให้คะแนนมากสุด 55555
รอตอนต่อไปน่ะค่ะ คราวนี้เคนอาจจะรู้ความจริงเรื่องยัยพายเน่าสักที
เชียร์พล็อตเรื่องที่ 1 ค๊าาาให้คะแนนมากสุด 55555
รอตอนต่อไปน่ะค่ะ คราวนี้เคนอาจจะรู้ความจริงเรื่องยัยพายเน่าสักที
XaWarZd 14 ก.ค. 2554, 02:25:36 น.
พล็อตที่สองเหมือนเคยอ่านมาก่อนอ่ะ
พล็อตที่สองเหมือนเคยอ่านมาก่อนอ่ะ
หมอนทอง 14 ก.ค. 2554, 07:08:59 น.
ไม่ว่าพล็อตไหนก็ตามรออ่านค่า
ไม่ว่าพล็อตไหนก็ตามรออ่านค่า
myray 14 ก.ค. 2554, 07:48:57 น.
เรื่องไหนก็ได้ อ่านแล้วโอเคทั้งนั้นเร้ยยยย
เรื่องไหนก็ได้ อ่านแล้วโอเคทั้งนั้นเร้ยยยย
อัปสรา 14 ก.ค. 2554, 07:58:48 น.
-คุณ หมู้หมู อัปสรารับทราบค่ะ
-คุณปูสีน้ำเงิน จำเก่ง จำแม่นจริง เรื่องที่สองเคยลงไปหน่อยค่ะแต่เขียนแล้วมันยังไม่พอใจก็เลยยังค้างไว้
-คุณ maplezaa ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น ส่วนมากคนเชียร์เรื่องที่หนึ่งเยอะเนอะ
-คุณ XaWarzd แอบจำแม่นอีกคนนะเราอ่ะ...อิอิ
-คุณหมอนทอง ขอให้จริงนะตัวเองต้องรออ่านนะ
-คุณ myaray ขอบคุณค่ะ จริงๆคิดพล็อตไว้อีกเพียบเลย
-คุณ หมู้หมู อัปสรารับทราบค่ะ
-คุณปูสีน้ำเงิน จำเก่ง จำแม่นจริง เรื่องที่สองเคยลงไปหน่อยค่ะแต่เขียนแล้วมันยังไม่พอใจก็เลยยังค้างไว้
-คุณ maplezaa ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น ส่วนมากคนเชียร์เรื่องที่หนึ่งเยอะเนอะ
-คุณ XaWarzd แอบจำแม่นอีกคนนะเราอ่ะ...อิอิ
-คุณหมอนทอง ขอให้จริงนะตัวเองต้องรออ่านนะ
-คุณ myaray ขอบคุณค่ะ จริงๆคิดพล็อตไว้อีกเพียบเลย
kaze 14 ก.ค. 2554, 22:24:03 น.
หนึ่ง เพราะดูแปลกใหม่กว่าพล็อตอื่น ๆ
หนึ่ง เพราะดูแปลกใหม่กว่าพล็อตอื่น ๆ
Pat 14 ก.ค. 2554, 22:36:51 น.
เรื่องที่1ค่ะ
เรื่องที่1ค่ะ
omelet 7 ส.ค. 2554, 14:23:17 น.
นาวีอย่าบื้อๆ
นาวีอย่าบื้อๆ
nuchababluesky 25 ส.ค. 2554, 20:06:41 น.
ถึงเคนจะยังจำกระท้อนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วล่ะว่ากระท้อนกำลังเรียนโทอยู่
ฮ่าฮ่า แอนเธอทำได้ดีมากๆๆ น่าสงสารเคนเนอะโดนตบหน้าบ่อยจัง
ขอให้ยอดขายหนังสือถล่มทลายนะค่ะ
ถึงเคนจะยังจำกระท้อนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วล่ะว่ากระท้อนกำลังเรียนโทอยู่
ฮ่าฮ่า แอนเธอทำได้ดีมากๆๆ น่าสงสารเคนเนอะโดนตบหน้าบ่อยจัง
ขอให้ยอดขายหนังสือถล่มทลายนะค่ะ