นางร้ายอ้อนรัก เปลี่ยนชื่อเป็น เล่ห์พิศวาสซาตาน
เดี๋ยวมาลงให้ค่ะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

นรินรับฟังเรื่องราวทั้งหมดจากน้องชาย เขากุมศีรษะและทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาหนานุ่มภายในห้องผู้โดยสารของสนามบินเบอร์ลิน
“ให้ตายฉันอยากจะไปถึงเมืองไทยเดี๋ยวนี้เลยหากฉันหายตัวไปได้ นายเคนแกนะไม่ทันยัยพายไข่แล้วล่ะ เป็นพี่มันเสียเปล่า เรื่องที่แกเล่ามาทั้งหมดจากประสบการณ์ที่ฉันเลี้ยงยัยพายไข่มาตั้งแต่เล็กจนโตก็รู้แล้วว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล ว่าแต่ทำไมนายไม่คิดจะโทรมาปรึกษาพี่ก่อนจะตัดสินใจช่วยยัยพายไข่แบบผิดๆ ”

“ก็ผมเห็นว่าพี่กำลังเจรจาธุรกิจที่สำคัญมากกับบริษัทของเรา ผมจึงไม่อยากรบกวนพี่ แล้วที่สำคัญผมก็รู้สึกผิดด้วยที่ไม่เคยช่วยพี่นรินดูแลน้องสาวคนนี้เลย” เคนให้เหตุผล

“ที่พี่บอกว่ามันชอบมาพากลเป็นเพราะอะแกไรรู้ไหม”


“เพราะอะไรครับพี่นริน”

“ก็เพราะว่าพี่รู้แล้วน่ะสิว่ายัยพายไข่ท้อง แล้วก็รู้ด้วยว่าท้องกับใครพี่เพียงแต่ต้องการให้แกไปตามยัยพายไข่ไม่ให้หนีเตลิดไปเท่านั้น ไม่ใช่ให้ไปช่วยน้องสร้างปัญหาให้ชาวบ้านเขาแบบนี้ ตายล่ะ...แล้วแกบอกว่าไปพาแฟนของผู้ชายที่ชื่อนาวีมาซ่อนเอาไว้ด้วย งานนี้แหละแกซวยแน่ไอ้เจ้าเคนเอ๊ย”



เคนเงียบไปพักหนึ่งเขายังอึ้งกับคำบอกเล่าของนริน “หมายความว่ายังไงพี่ นายนาวีไม่ใช่พ่อลูกในท้องของยัยพายไข่หรือครับ ซวยจริงๆด้วย…แล้วกระท้อนล่ะ”


“กระท้อนเหรอ” นรินฟังชื่อแล้วคิดไปถึงน้องสาวของพลอยเพื่อนสนิทของเขานั่นเองและกระท้อนคนนั้นเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของพายไข่


“แกพูดใหม่สิว่าผู้หญิงที่แกพามาชื่ออะไรนะ” นรินรู้สึกสงสัยบางอย่าง คนสมัยนี้จะมีสักกี่คนที่ชื่อกระท้อน ถ้าเป็น เชอร์รี แตงโม แอปเปิ้ล ก็ว่าไปอย่าง ขออย่าให้เป็นแบบที่สังหรณ์ใจเลยเพราะถ้าเป็นแบบนั้น พลอยคงโกรธเขาแน่ๆ นรินเองก็ไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนสนิท


“กระท้อนครับพี่”

“กระท้อนเหรอ...แล้วชื่อจริงล่ะ”



“ชื่อจริงเหรอครับ ผมเพิ่งรู้เมื่อสักครู่เหมือนกัน เดี๋ยวขอดูที่บัตรประชาชนอีกทีเพื่อความแน่ใจก่อนนะครับ” เคนหยิบบัตรประชาชนของหญิงสาวขึ้นมา “พันธิตา ประสิทธิเลิศ”


“ให้ตายไอ้เจ้าเคนแกก่อเรื่องใหญ่พอๆกับยัยพายไข่แล้วรู้ไหม” นรินขึ้นเสียงสูงเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปมาราวกับหนูติดจั่น เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดขึ้นที่หน้าผากแม้ว่าภายในห้องพักผู้โดยสารอากาศจะเย็นจนเกือบหนาวก็ตาม

“ทำไม ครับพี่นริน” เคนขมวดคิ้ว

“ก็ถ้ากระท้อนที่แกพูด ชื่อนี้ นามสกุลนี้จริงๆล่ะก็ เธอก็เป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทฉัน คุณพลอยญาวี ที่ทำไร่ปลอดสารพิษ ติดกับไร่สับปะรดของเราที่กาญจนบุรียังไงล่ะ”

“คุณพลอยญาวี” หญิงสาวสวยที่พี่ชายเขาเคยตกหลุมรักเมื่อสมัยหนุ่มๆ จนกระทั่งบัดนี้พี่นรินก็ยังไม่ยอมมีครอบครัว เขาเริ่มนึกออกถึงแม้จะไม่ได้สนิทกับคุณพลอยและครอบครัวของเธอ แต่ก็พอจำได้ว่าเธอมีน้องสาวตัวอ๊วน อ้วน ชื่อยัยกระท้อนยักษ์เหมือนกัน เคนถลึงตาขึ้นราวกับคนตกใจสุดขีด

“ตายโหง..จริงเหรอพี่ที่แท้ที่อยู่กับผมนี่ก็คือยัยกระท้อนยักษ์ ขนมชั้นคนนั้นเอง” เรื่องเดียวที่เคนจำได้เกี่ยวกับเด็กหญิงกระท้อนที่เขาเคยพบตอนเด็ก คือเธอกินเก่ง และชอบใส่ชุดหลากสีราวกับผ้าผูกศาลพระภูมิเขาเลยเรียกเธอว่ายัยขนมชั้นเดินได้

“เออล่ะสิ ไม่รู้ว่าใครจะตายบ้างงานนี้แต่ที่แน่ๆ แกนั่นแหละต้องตาย” นรินพูดปนหัวเราะเบาๆ
“แล้วทำไงดีล่ะพี่ ไม่เห็นยัยพายไข่บอกผมเลยว่ายัยกระท้อนเป็นน้องสาวของเพื่อนพี่นริน”

“ยัยพายไข่มันจะบอกทำไม ก็มันเห็นว่าพี่ชายคนรองของมันกินหญ้าแทนข้าว มันตั้งใจจะหลอกแกนะสิ”นรินหัวเราะเสียงดังขึ้น

แต่เคนไม่นึกขำสักนิด “พี่ว่าผมโง่จนโดนน้องหลอกใช้ใช่ไหมครับ” เคนน้ำเสียงอ่อยๆ

“แล้วแกว่ายัยกระท้อนเป็นเมียของนายนาวี ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะฉันนะเคยเจอกระท้อนหลายครั้งแล้วก่อนเดินทางมานี่ก็ยังได้พบกัน เดี๋ยวนี้ยิ่งโตก็ยิ่งสวยไม่ได้ขี้เหร่เหมือนตอนเด็กๆ แต่พี่สาวเขามาบ่นว่ากลุ้มใจกลัวน้องจะเป็นทอมเป็นดี้ไเพราะไม่ยอมมีแฟนสักทีทั้งที่มีผู้ชายมาชอบตั้งหลายคน”

“จริงเหรอครับพี่นริน” เคนแอบดีใจอยู่ลึกๆ “แต่ว่าเธอบอกผมด้วยตัวเองว่าเธอกับนายนาวีเป็นเออ..เอ่อ ลึกซึ้งกันแล้ว”



“เรื่องนั้นฉันไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไรกระท้อนถึงไปหรอกแกแบบนั้นต้องรอให้ฉันกลับถึงเมืองไทยและสอบสวนเรื่องนี้เสียก่อน”

“ให้ตายพี่นริน งานนี้ผมซวยจริง” ชายหนุ่มถอนใจเฮือกใหญ่


“ซวยแน่ๆ แกรีบเอาน้องสาวคุณพลอยไปส่งบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นแกต้องเจอข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องทางบ้านเขากับพี่สาวของเขาฉันจะช่วยโทรไปเคลียร์ให้อีกแรง” นรินรีบสั่งการ

“พี่นริน และที่พี่บอกว่ายัยกระท้อนจอมโหดนี่ยังไม่มีแฟนจริงรึเปล่าครับ” เคนอ้อมแอ้มถาม

นรินรู้สึกแปลกใจในคำถามของน้องชายมันชักจะยังไงอยู่ “เคน...พี่ลืมไปสนิทเลยว่าแกเอาเขามาอยู่ที่บ้านสวนสองต่อสอง แกไปทำอะไรเขาบ้างรึเปล่า”

เคนอึกอัก... “เอ่อ...คือว่าจะไปทำอะไรเขาได้ล่ะครับพี่ยัยนั่นต่างหากที่เป็นฝ่ายทำผม”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว เรื่องยัยพายไข่ตัวดียังชำระไม่เสร็จความ แกก็หาเรื่องมาให้พี่อีกคน แกนี่มันก็เป็นคนฉลาดมาตั้งแต่เด็กจบจากเมืองนอกเมืองนา จนมานั่งเก้าอี้ผู้บริหารแต่ทำไมถึงโดนยัยพายไข่หลอกเอาได้”

เคนไม่เถียงเขารู้ว่าที่พี่ชายต่อว่ามันเป็นเรื่องจริง “ตกลงครับพี่ผมผิดเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้ผมคงต้องหาหญ้ามากินแทนข้าว”

“เอาล่ะครับพี่นริน ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วผมจะรีบจัดการพาเธอไปส่งพร้อมกับสารภาพผิดกับครอบครัวของเธอเอง”
“ดีแล้วที่แกคิดได้แบบนั้น แต่ว่าเอาลูกสาวเขามาตั้งหลายวัน เกิดทางบ้านเขาไม่ยอมจะให้แกรับผิดชอบลูกสาวเขาแกจะทำยังไง”

“ก็ดีสิครับ แอบชอบอยู่พอดี..” เคนพูดอย่างลืมตัวแต่ทว่าเมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

“พูดใหม่สิ...แกชอบเขาเหรอ”

“เปล่าครับ ชอบอะไรกันยัยนี่ร้ายเกินผู้หญิงธรรมดาผมชอบไม่ลงหรอกพี่นริน สเป๊กผมต้องอ่อนหวาน เรียบร้อย”

“ให้มันจริงเถอะ....แค่นี้ก่อนนะ ได้เวลาเตรียมตัวขึ้นเครื่องแล้วพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ พี่คงจะถึงกรุงเทพฯ แล้วจะโทรหานาย”

“ครับ”
จากนั้นสัญญาณก็ขาดหายไป

“บ้าฉิบ ทำไมเรื่องมันกลับกายเป็นแบบนี้ไปได้นะ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ” แต่ชายหนุ่มกลับมีรอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปากอย่างเจ้าเล่ห์ “งานนี้มีเอาคืน โทษฐานที่เธอเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ยัยกระท้อนจอมแสบ”

พันธิตาหรือกระท้อน กำลังดูสูตรการทำขนมชนิดหนึ่งในนิตยสารซึ่งเธอเป็นคนชอบทำอาหารทั้งของหวานของคาว แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อไฟในห้องเกิดติดๆดับๆอยู่หลายครั้ง

“เอ๊ะ...หรือว่าไฟฟ้าตก อย่างว่าที่นี่มันต่างจังหวัดนี่นา” หญิงสาววางหนังสือลงและค่อยๆเปลี่ยนอริยบทจากการนอนมาเป็นการนั่งพับเพียบและกราบงามๆที่หมอนสามครั้งก่อนจะเริ่มสวดมนต์คาถาที่พอจะจำได้


“กระท้อนไม่ได้กลัวผีนะคะ แต่กระท้อนก็ไม่ปรารถนาจะเห็นผี สิ่งศักด์สิทธิ์ทั้งหลายเจ้าขาคุ้มครองกระท้อนด้วยนะคะ” จากนั้นไฟฟ้าก็ติดๆดับอยู่อย่างนั้น “สงสัยสิ่งศักด์สิทธิ์จะไม่ได้ยินคำอ้อนวอนของกระท้อน”
“นอนดีกว่า” หญิงสาวรีบคลุมโปงแต่แล้ว หูของเธอกลับได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำไปรอบๆบ้านและกิ่งไม้ใบไม้แห้งดังกรอบแกรบๆ แต่ยังไม่เท่าเสียงเคาะที่หน้าต่างเบาๆ จากนั้นก็เคาะเรื่อยไปตามผนังห้องดังขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นบ้านไม้ทำให้เธอได้ยินอย่างถนัด เพียงแค่นั้นหญิงสาวก็ขนลุกตั้งชัน

“ไม่ไหวแล้วนะเจ้าคะ เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือนกระท้อนทำอะไรผิดก็มาบอกในฝันดีๆก็ได้ ทำแบบนี้กระท้อนกลัว” หญิงสาวรีบลุกจากที่นอน คิดจะไปเคาะเรียกคนข้างห้องแต่อีกใจก็คิดว่านายคิมน่ากลัวไม่แพ้ผีไม่เอาดีกว่า

ให้ตายเถอะ ไฟติดๆดับๆอีกแล้ว หญิงสาวบอกกับตัวว่าตอนนี้แอร์ในห้องที่ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ยี่สิบห้าองศาทำให้เธอหนาวราวกับว่าอุณหภูมิติดลบ

“ทนไม่ไหวแล้วถ้าเป็นคนกระท้อนสู้ตาย แต่ถ้าเป็นผีกระท้อนไม่สู้” จากนั้นกระท้อนก็วิ่งลงจากเตียง พร้อมยกสองมืออุดหู และไปเคาะข้างห้องร้องเรียกให้เจ้าของบ้านเปิดประตู

“คุณเคน ๆๆ นายเคน”แต่ทว่าเขากลับไม่ได้ล็อคประตู “ ฉันจะเข้าไปแล้วนะ” หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องไม่มีเขาอยู่ในห้อง ยิ่งสร้างความกลัวให้เธอมากขึ้นไปอีก เขาหายไปไหนของเขา หญิงสาวคิดไปต่างๆนาๆ ทันใดนั้นไฟทั้งบ้านก็ดับพรึบลงอีกครั้ง

กรี๊ดๆๆๆๆๆ

กระท้อนกรีดร้องเสียงดังเพราะความกลัวคิดว่าเจอดีเข้าแล้ว และที่สำคัญหญิงสาวรู้สึกเย็นวาบไปทั่วหลังเมื่อมือเย็นๆ กดลงมาที่บ่าของเธอเอาไว้แน่นจนหญิงสาวขยับกายไม่ได้ เพราะสองเท้ามันก้าวไม่ออกนี่ถ้ากำลังปวดฉี่เธออาจจะฉี่ราดก็ได้กระท้อนคิด

กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

“กระท้อนกลัวแล้วค่ะ อย่าทำอะไรกระท้อนเลย” หญิงสาวเสียงสั่นเครือ

“ หุ หุ หุ กรี๊ดเสียงดังแบบนี้ มาให้ผีทะเลกัดคอเสียดีๆ หุ หุ หุ”

หญิงสาวหยุดกรี๊ดทันที ผีที่ไหนจะพูดแบบนี้ แล้วผีทะเลมันมีด้วยเหรอ “ผีทะเล” ความกลัวเริ่มเปลี่ยนเป็นความโกรธเพราะหญิงสาวรู้แล้วว่าผีทะเลที่ว่ามันต้องเป็นนายเคนแหงๆ นี่เธอเสียรู้เขาจนได้

“ให้ตาย ไอ้คนบ้า” กระท้อนกระทืบเท้าแรงๆ ไปบนฝ่าเท้าของเจ้าผีทะเล”

“ผีบ้ากาม ตัณหากลับล่ะไม่ว่า”


เคนร้องโอดโอยก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังสาเหตุที่ไฟติดๆดับๆ เพราะเขาโยกคัตเอาท์ขึ้นลงเพื่อแกล้งเธอเท่านั้น

“คุณนี่มันแสนรู้ หูกระดิกดีจริงๆนะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆจากนั้นก็เดินมาขวางประตูไว้กลัวแม่หนูที่มาติดกับดักจะหนีออกจากห้อง

“ปล่อยฉันนะฉันจะกลับห้อง”

“ตัวหอมจัง ไม่คิดมาก่อนเลยว่าโตขึ้นคุณจะสวยแบบนี้ ผมจำคุณไม่ได้เลยหากพี่นรินไม่บอกว่าคุณเป็นน้องสาวคุณพลอย แล้วเราสองคนก็เคยเจอกันมาก่อน”
“จะปล่อยไม่ปล่อย” หญิงสาวเริ่มโมโห

“ไม่ปล่อย” ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวอย่างรวดเร็วแล้วจับไปโยนเล่นเบาๆบนเตียงของเขา ก่อนทีเคนจะกระโดดขึ้นเตียงทิ้งน้ำหนักนอนลงข้างๆเธอ

“นายมันคนโกหก ชอบหลอกลวง สนุกนักหรือไงมาหรอกว่าเป็นผี ขอให้นายโดนผีหรอกจริงๆเถอะสาธุ”

เคนเอื้อมมือไปจุดตะเกียงเจ้าพายุซึ่งเป็นแบบคลาสิกทำเลียนแบบของโบราณ ที่โต๊ะข้างๆเตียงทำให้ในห้องสว่างขึ้นจนเห็นใบหน้าของหญิงสาว เขารู้สึกว่าแสงของตะเกียงทำให้ห้องนี้ดูโรแมนติกมากยิ่งขึ้น

“ผมไม่ทำแบบนี้คุณจะยอมออกมาจากห้องเหรอ”

กระท้อนลุกขึ้นจากเตียงเตรียมจะเดินออกไปจากห้อง แต่ทว่าเคนไวกว่ารีบวิ่งไปที่ประตูขวางเอาไว้เท่านั้นยังไม่พอล็อคห้องจนเรียบร้อย

“ทำอะไรของคุณ” กระท้อนแหวใส่เสียงดัง

“คุยกันไม่รู้เรื่องคืนนี้ห้ามออกจากห้องผมเด็ดขาดแม่จอมโกหก ผมรู้เรื่องหมดแล้ว ว่าคุณไม่ได้มีอาชีพเป็นกระเป๋ารถเมล์จริงๆ แต่เป็นนักศึกษาปริญญาโท แล้วคุณก็ไม่ใช่แฟนนายนาวีแบบที่โกหก ที่สำคัญคุณกับผมเราก็เคยรู้จักกันทำไมคุณไม่บอกว่าคุณเป็นใคร ปล่อยให้ผมเข้าใจผิดจนเกิดเรื่อง”

“ก็นายไม่ได้ถาม แล้วทำไมฉันต้องบอก”กระท้อนลอยหน้าลอยตาเถียง

“ดีล่ะ เคนย่างสามขุมเข้ามาใกล้หญิงสาว” กระท้อนไม่เคยกลัวใคร แต่อยู่กับผู้ชายในห้องสองต่อสองเธอก็ไม่มั่นใจนักจึงได้แต่ถอยหนีจนร่างบางประชิดอยู่ที่เตียง

“จะทำอะไร” น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจ

เคนหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอวกระท้อนเอาไว้แล้วจัดการจับเธอถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น

“ผมแค่อยากถอดเสื้อผ้าคุณออกบ้าง ไม่อึดอัดเหรอใส่ต้องสี่ห้าชั้น”

หญิงสาวถีบเข้าที่บั้นเอวของเคนจนอีกฝ่ายร้องโอดโอย เขาฟาดฝ่ามือมาที่เรียวขาของเธอ “นี่แนะ ใช้เท้าถีบผู้ชายแบบนี้ไม่น่ารักเลย”

“มาตีฉันทำไม”


“ก็คุณมันเกเร ใครบอกผมจะปล้ำคุณผมแค่เห็นว่าคุณทำตัวตลกดีสงสัยจะกลัวผมเข้าไปปล้ำถึงได้ใส่เสื้อผ้าต้องสี่ห้าชั้น ถอดออกเดี๋ยวนี้เลยถ้าไม่อยากให้ผมถอดให้ แล้วถ้าคุณทำร้ายร่างกายผมอีกทีคราวนี้ผมจะจับคุณแก้ผ้าจริงๆไม่เชื่อก็ลองดูสิ”

กระท้อนชั่งใจ ถ้าเชื่อก็กลัวสิ “ไม่ถอด เรื่องของฉัน” หญิงสาวลุกพรวดขึ้นจากเตียงแต่ชายหนุ่มดึงมือเธอจนร่างบางล้มลงมาทับตัวเขา

“พี่นรินบอกให้ผมพาคุณไปส่งบ้าน แต่ผมไม่อยากพาคุณไปส่งแล้วล่ะสิ”ฝ่ามือเขาเกาะกุมสะโพกงามเอาไว้จากนั้นพลิกร่างบางให้ลงมานอนข้างๆ

“ปล่อยฉันนะ คุณจะทำอะไร”

“เรื่องอะไรจะปล่อยให้โง่ ยิ่งผมรู้ว่าคุณไม่ใช่แฟนของนายนาวีแล้วผมยิ่งไม่ยอมปล่อย บอกผมหน่อยสิว่าคุณมีแฟนหรือยัง”ชายหนุ่มปล้ำกับเสื้อผ้าหลายชั้นที่หญิงสาวสวมไว้ในขณะที่กระท้อนเองก็พยายามขัดขวางแต่ความแข็งแรงกว่าทำให้เคนได้เปรียบเพียงไม่นานหญิงสาวก็เหลือเพียงชุดนอนชุดเดียวเท่านั้น

“ถอดออกแล้วเย็นสบายกว่าเยอะใช่ไหม”

หญิงสาวเบือนหน้าหนีตอนนี้เธอเหลือแค่ชุดนอนตัวเดียว

“ในเมื่อรู้ความจริงแล้วนายก็ควรพาฉันไปส่งบ้านได้แล้ว”

เคนไล้ฝ่ามือไปตามเรียวแขนของหญิงสาว แต่แล้วกับถูกฝ่ามือพิฆาตของกระท้อนฟาดที่ต้นแขนของเขาอย่างแรง

“มีอะไรก็รีบพูดมาอย่ามาฉวยโอกาสแบบนี้ฉันไม่ชอบ”

หึ หึ “ผมแค่เห็นว่าคุณขนลุกก็เลยช่วยลูบให้มันลง ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยๆไม่วายยกมือไปจับปอยผมของหญิงสาวทัดเข้าข้างหู

กระท้อนถลึงตาใส่ทันที “ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่ามายุ่มย่าม หรือลวนลามทางสายตาก็ไม่ได้”

“ก็ได้ ผมจะพาคุณไปส่งบ้านจะขอโทษพ่อแม่คุณ แต่ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าคุณโกหกผมทำไมว่าคุณเป็นเมียไอ้หมอนั่น”

“ก็ได้....ก็เพราะฉันชอบนาวี แอบหลงรักเขาแล้วมีอะไรไหม ”คำตอบของหญิงสาวสร้างคาวมไม่พอใจใหชายหนุ่มอย่างมาก เขาแอบงอนอยู่ในใจ

“เพิ่งรู้...ว่าคุณมีรสนิยมชอบผู้ชายหน้าตี๋ๆ จืดๆ”น้ำเสียงประชดประชัน

“ใช่ค่ะ นาวีเขาตี๋ฉันเลยชอบ รู้ไหมผูชายหน้าตาแบบไหนที่ฉันไม่ชอบที่สุด ออกแนวเกลียดด้วยซ้ำ” เคนลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องหญิงสาวเขาไม่ตอบเพราะรู้ตัวดีว่าเธอคงหมายถึงเขาอย่างแน่นอน

หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นมานั่งและยื่นหน้าไปใกล้ๆเขาผมสลวยที่สระใหม่กลิ่นของมันหอมฟุ้งจนเคนเผลอสูดหายใจเข้าไปลึกๆ “หน้าแบบคุณยังไงล่ะ” กระท้อนเหยียดยิ้ม

แต่ทันใดนั้นเอวบางกับถูกอ้อมแขนแข็งแรงกระชับเข้าหาร่างแกร่ง ริมฝีปากร้อนผ่าวระบายอารมณ์บนริมฝีปากนุ่มสีชมพู

“ แต่ผู้ชายหน้าตาแบบผมอาจจะมีดีมากกว่าที่คุณเห็นก็ได้ อยากรู้ไหมว่ามีอะไรดี”
+++++++++++++++++++++++++++++++++


พลอยรับโทรศัพท์ของนรินหน้าตาเธอเครียดจัดจนสามีของเธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าเธอเป็นอะไร

“คุณนรินคะ จะไม่ให้โกรธพลอยคงทำไม่ได้ ทางที่ดีคุณนรินบอกพ่อน้องชายตัวดีของคุณให้พายัยกระท้อนมาส่งบ้านด่วนที่สุดเลยนะคะ ถ้าอย่างนั้นพลอยจะตามไปถึงจันทบุรี”

“ครับคุณพลอยเรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผมอยากจะบอกว่าที่นายเคนทำไปทั้งหมดเพราะมันเข้าใจผิดและรักน้องแบบผิดๆเท่านั้นเอง” นรินพยายามแก้ต่างให้น้องชาย

“แต่น้องพลอยเป็นฝ่ายเสียหายนะคะ ถ้ากระท้อนเป็นอะไรไปนายนเรนธรน้องชายคุณนรินจะต้องรับผิดชอบ” พลอยขู่ก่อนจะตัดสายอย่างหัวเสีย

“เป็นอะไรไปคุณ แล้วเมื่อครู่คุณคุยกับนรินไม่ใช่เหรอครับ มีอะไรกัน”

“รู้ตัวการแล้วค่ะ ว่ายัยกระท้อนหายไปกับใคร”

วาโยมีสีหน้าสงสัย “นายเคน น้องชายคุณนริน”

“น้องชายอย่างนั้นเหรอ” วาโยพยายามนึก

“คือน้องชายคุณนริน เขาจะอยู่ที่จันทบุรีเขาแทบจะไม่ได้ขึ้นไปที่กาญจนบุรีเลย คุณอาจจะไม่เคยเห็นหรือเห็นก็ไม่รู้ว่าเป็นน้องคุณนริน

“จริงหรือพลอย” คุณยุวดียืนอยู่ด้านหลังพลอย นางไม่แน่ใจว่าจะดีใจหรือเสียใจที่ได้ยินข่าวบุตรสาวคนเล็ก

“คุณแม่” พลอยหันกลับมาหามารดา

“เรื่องมันเป็นมายังไง เล่ามาให้แม่ฟังสิว่าทำไมน้องชายคุณนรินถึงมาพาตัวยัยกระท้อนไป”

พลอยจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้ฟังมาจากนรินให้คนเป็นแม่ฟัง เมื่อคุณยุวดีฟังเรื่องราวทั้งหมดถึงจะนึกโกรธเคืองอยู่บ้าง แต่คนที่พากระท้อนไปเป็นน้องชายของนรินก็ยังดีกว่าเป็นพวกผู้ร้ายถ้าเป็นอย่างนั้นไม่รู้บุตรสาวนางจะกลับมาในสภาพแบบไหน

“แล้วนายเคนคนนี้เขาเป็นคนยังไงกันพลอย เล่าให้แม่ฟังสิ”

หญิงสาวขมวดคิ้ว “พลอยสนิทกับนรินก็จริงแต่น้องชายคนรองของเขาพลอยแทบจะไม่รู้จักเลย แต่เท่าที่คุณนรินเคยเล่าให้ฟังน้องชายเขาคนนี้ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เสียแต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะรักน้องสาวแบบผิดๆ หรือไม่ก็โดนยัยพายไข่ตีไข่ใส่สีจนเข้าใจอะไรผิด เพราะยัยไข่คนนี่ร้ายมาก”
“แต่ถึงจะเป็นการเข้าใจผิดกันยังไง กระท้อนก็เป็นฝ่ายเสียหายแม่คงปล่อยให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆไม่ได้”
+++++++++++++++++++++++++++


“ไม่นะ พายไข่ไม่กลับ” พายไข่กรีดร้องเมื่อนาวีพยายามจะดันร่างเธอให้ออกไปจากห้องเขาเพราะนึกรังเกียจนิสัยของเธอเขายอมให้เธออยู่ที่นี่ด้วยหลายวันเพราะเห็นว่าไม่สบาย แต่ตอนนี้นาวีรู้แล้วว่าพี่ชายของพายไข่เป็นคนจับตัวกระท้อนไปจากคำบอกเล่าของคุณยุวดีที่โทรศัพท์มาส่งข่าว สองคนพี่น้องคงร่วมมือกันวางแผน

“ผมเห็นว่าคุณท้องอยู่เลยไม่อยากจะทำอะไรรุนแรง ทางที่ดีคุณรีบกลับไปเถอะแล้วอย่ามาที่นี่อีก แล้วช่วยบอกพี่ชายคุณด้วยให้พากระท้อนกลับมาส่งด่วนไม่อย่างนั้นผมจะไปตามเธอด้วยตัวเอง”

“ทำไมคะ ใครต่อใครก็ห่วงมันรักมัน นังกระท้อนมันดีกว่าพายไข่ตรงไหน พายไข่มีเงิน หน้าตาก็สวยไม่ได้แพ้นังกระท้อนเลยแล้วคุณยังต้องการอะไรอีก”

“ก็เพราะผมไม่ได้ต้องการเงินของคุณ อีกอย่างถ้าผมจะรักผู้หญิงสักคนผมไม่ได้มองเพียงหน้าตา เพราะความสวยภายนอกมันแค่ฉาบฉวย แต่ภายในเน่าเฟะ” นาวีเหยียดยิ้ม “ผมก็ไม่ต้องการ”

ปัง!


นาวีปิดห้องเสียงดังปล่อยให้หญิงสาวกรีดร้องและทุบประตูอยู่แบบนั้น
+++++++++++++++++++++++++++




อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ค. 2554, 16:46:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ค. 2554, 08:00:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 4213





<< ตอนที่ 8   ตอนที่ 10 >>
maplezaa 18 ก.ค. 2554, 17:03:04 น.
นายเคนขนาดรุ้ว่าตัวเองกินหญ้าน่ะเนีั้ย ยังหาข้ออ้างในการขังกระท้อนอีก หมั่้นไส้อ่ะ

สำน้ำหน้ายัยไข่เน่า


anOO 18 ก.ค. 2554, 17:18:09 น.
ตกลงนายเคน กับนายคิมเนี้ยคนเดียวกันป่าวค่ะ
เห็นชื่อมันสลับกันหลายที่


zeen 18 ก.ค. 2554, 18:58:53 น.
จะได้ไปส่งกันดีๆ ไหมเนี่ย รอตอนต่อไปค่า


lovemuay 18 ก.ค. 2554, 19:54:57 น.
รู้ความจริงตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ตกหลุมกระท้อนหวานไปซะแล้ว อิอิ


หมู้หมู 18 ก.ค. 2554, 23:03:00 น.
โทษทีนะคะ แต่ไม่อยากให้ติด "หลอก" กับ "หรอก" มันคนละความหมายกันนะ บรรทัดบนๆ ที่เคนคุยกับพี่ชาย น่าจะเป็น "หลอก" มากกว่าคะ (อ่านแล้วงง)


หมู้หมู 18 ก.ค. 2554, 23:09:43 น.
แหม.. ตานาวี ได้ใจจริง


กาซะลองพลัดถิ่น 19 ก.ค. 2554, 01:12:42 น.
แหม งานนี้เคนยอมกินหญ้าแทนข้าวแน่ ๆ ว่าแต่แม่ยุวดีมีแผนอะไรในใจหรือปล่าวเอ่ย


อัปสรา 19 ก.ค. 2554, 08:02:28 น.
คุณ anOO คุณ หมู้หมู ขอบคุณค่ะที่บอกตอนรีไรต์จะได้น้อยลงค่ะ


XaWarZd 19 ก.ค. 2554, 10:07:30 น.
โหย หลอกกันเล่นนี่นา ตอนหน้าใครจะเป็นฝ่ายจมดินเนี่ย


kaero 19 ก.ค. 2554, 15:33:20 น.
ตายแน่ๆๆนายเคน โดนจัดหนัก


ปูสีน้ำเงิน 20 ก.ค. 2554, 19:25:06 น.
โดนด่าซะขนาดนั้นกลายเป็นพายไข่เน่าเลย


plalawan 21 ก.ค. 2554, 09:35:52 น.
แหมรู้ตัวว่าเข้าใจผิดแล้วยังทำมึนนะพี่เคน


omelet 7 ส.ค. 2554, 14:37:09 น.
ในที่สุดนาวีก็ฉลาด เย้ๆๆ


nuchababluesky 25 ส.ค. 2554, 20:18:53 น.
พี่นรินพูดได้โดนใจจริงเลย ที่บอกว่าเคนกินหญ้าแทนข้าวอ่ะ
เคนหลอกง่ายจริงๆนะแหละ หรือเพราะรักน้องมากเกินไปก็ไม่รู้
แต่คนที่เลิกกินหญ้าแล้ว น่าจะเป็นนาวีนะ อิอิ เริ่มฉลาดล่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account