ฤดูกาลรักที่กลางใจ ตอน พรรษกับวันวิสาข์
เพราะเจ็บปวดจากความรัก...เขาจึงลืม
เพราะเป็นรักแรกและรักเดียว...เธอจึงจำ
เพราะเป็นรักแรกและรักเดียว...เธอจึงจำ
Tags: พรรษ วันวิสาข์ เจ้าขา ความทรงจำที่ถูกลืม
ตอน: ตอนที่ 24
บทที่ 24
สูญ
แวบแรกที่วันวิสาข์เห็นหน้าคนที่เธอตั้งใจหนีเขามา หัวใจที่ยังคงกระหวัดหาทำให้เผลอร่ำร้องถึงคนที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่จริง แต่เมื่อนึกขึ้นได้รอยยิ้มเยาะแกมหม่นก็ผุดขึ้นบนใบหน้าอ่อนเยาว์
ไม่ใช่! เขาไม่ใช่สูญ ไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไรแม้แต่ความทรงจำคนนั้น คนที่กำลังอยู่ต่อหน้าเธอในตอนนี้คือพรรษต่างหาก พรรษ สุวรรณอังกูร คนที่มีพร้อมทุกอย่างแต่ไม่มีแม้แต่เงาของเธออยู่ในหัวใจ
พรรษพูดไม่ออก ตื้อไปทั้งอกกับความดีใจที่ได้เจอคนที่เขาทั้งห่วงหาและคิดถึง หากการได้เห็นว่าวันวิสาข์ซูบผอมลงไปกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อในดวงตาของเธอไร้แววสดใสเป็นประกายเหมือนที่ผ่านมา หัวใจก็เหมือนถูกบีบจากมือยักษ์ที่มองไม่เห็น พรรษหายใจแทบไม่ออกจนพานปวดใจเมื่อมองไม่เห็นแววตื่นเต้นยินดีสักนิดกับการได้เจอกันในดวงตาของวันวิสาข์
การได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง คงทำให้เธอเสียใจมากกว่า
ข้อสรุปที่ให้กับตัวเองไม่ต่างจากการเพิ่มความปวดร้าวให้กับก้อนเนื้อในอกข้างซ้าย แต่ถึงเป็นอย่างนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะการปล่อยวันวิสาข์ไปเท่ากับเขาทำให้ตัวเองต้องตายทั้งเป็น
เขาอยู่ไม่ได้หากไม่มีเธอ
พรรษยิ้ม หากรอยยิ้มครั้งนี้ไม่ได้ช่วยให้ใบหน้าคมสันแลดูกระจ่างมีชีวิตชีวาเหมือนในอดีต เพราะความขมขื่นที่สะท้อนออกมาทางแววตานั้นถ่ายทอดความรู้สึกของเขาได้ดียิ่งกว่าคำพูดใด ๆ
ที่ผ่านมาเขาอยู่มาได้โดยไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกใบนี้ยังมีผู้หญิงคนนี้ แต่หลังจากเธอก้าวเข้ามาประกาศตัวตนในโลกใบเล็กของเขา พรรษยังเคยนึกแปลกใจว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขาอยู่มาได้อย่างไรโดยไม่มีผู้หญิงที่ชื่อวันวิสาข์
เธอเป็นหัวใจของเขา และหัวใจดวงนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะหามาทดแทนกันได้ง่าย ๆ
ชลธีสะท้อนใจขณะเฝ้ามองการสื่อสารกันทางแววตาระหว่างพรรษกับวันวิสาข์ วินาทีนั้นชายหนุ่มรับรู้อย่างชัดเจนถึงคำว่าคนนอกที่บิดาเคยบอกไว้ ก่อนนึกโทษตัวเองกับความสะเพร่าเมื่อนึกได้ว่าเขาไม่ทันปิดล็อกประตูตอนที่เข้ามาเพราะความห่วงกังวลคนไม่สบาย และอาจด้วยเหตุนี้เช่นกันจึงทำให้เขาพลาดถูกพรรษลอบตามมาจนถึงที่นี่
ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่รู้ว่าพรรษให้คนคอยสะกดรอยและติดตามความเคลื่อนไหว แต่เพราะครั้งนี้เขาห่วงวันวิสาข์มากเกินไปจนลืมระมัดระวังตัว
ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นการยื่นมือมาช่วยของโชคชะตา หลังจากเฝ้ามองมาแล้วเห็นว่าเขายังไม่ยอมตัดสินใจสักที
ชายหนุ่มนึกอย่างเศร้าใจ ก่อนยอมหักใจเมื่อคิดว่าคงถึงเวลาที่เขาต้องไปจากเธอแล้วจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือวันข้างหน้า หัวใจของเธอก็ไม่มีวันเป็นของเขา...ไม่มีวัน
หลังจากฝืนยิ้มออกมา เจ้าตัวก็หันไปบอกชายหนุ่มอีกคนด้วยคำพูดที่แฝงนัยชัดเจน
“ถ้าอย่างนั้น ผมฝากเจ้าขาด้วยนะครับ”
พรรษเองก็รู้ดีถึงนัยในคำพูดของชลธี แวบหนึ่งชายหนุ่มอดนึกเห็นใจอีกฝ่ายไม่ได้ และอาจด้วยความรู้สึกนั้นที่ทำให้ตอบรับกลับไปอย่างหนักแน่น
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลเจ้าขาให้ดีเท่ากับดูแลชีวิตของตัวผมเอง”
คนได้รับคำยืนยันยิ้มออกราวกับเบาใจก่อนก้าวเดินจากไปด้วยฝีเท้ามั่นคง ไม่รู้สึกสักนิดถึงความพ่ายแพ้ตรงกันข้ามกลับรู้สึกถึงชัยชนะอีกต่างหาก
ถึงพ่ายแพ้เรื่องความรัก แต่เขาก็ยินดีต่อการเอาชนะหัวใจของตัวเอง
วันวิสาข์พูดไม่ออกยามเฝ้ามองชลธีเดินจากไป เขาเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่แสนดีบนโลกกว้างใหญ่ใบนี้ที่มีแต่ความโหดร้ายให้กับชีวิต ดังนั้นเธอจึงเจ็บปวดเช่นกันที่รู้ว่าตัวเองตอบแทนความรักของเขาด้วยการมอบความเจ็บปวดให้ไป
แต่ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน หัวใจของเธอก็ไม่มีที่ว่างสำหรับเขา...ไม่มีจริง ๆ
“เจ้าขา”
เสียงเรียกของพรรษทำให้วันวิสาข์ต้องละสายตาจากคนแสนดีแล้วหันมามองคนแสนร้าย ด้วยแววตาที่สะท้อนถึงความรู้สึกแตกต่างด้วยเช่นกัน
แม้รู้สึกใจหายแต่น่าแปลกที่พรรษกลับรู้สึกปวดใจในขณะเดียวกันกับแววตาว่างเปล่าเย็นชาของหญิงสาวราวกับผู้เป็นเจ้าของไร้ซึ่งสิ่งที่เรียกกันว่าหัวใจ
เมื่อเห็นวันวิสาข์หันหลังแล้วทำท่าจะเดินหนี พรรษก็รีบปราดเข้าไปดึงมือเธอเอาไว้
“ปล่อย!”
น้ำเสียงหมางเมินและแววตาเย็นชาของวันวิสาข์ยามหันกลับมามองยิ่งทำให้พรรษปวดใจ กระนั้นชายหนุ่มก็ไม่อาจทำตาม
“ผม...ปล่อยคุณไปไม่ได้จริง ๆ เจ้าขา”
วันวิสาข์อึ้งเมื่อจับได้ถึงกระแสบางอย่างในคำพูดของพรรษ แม้แปลบใจไม่น้อยกับคำพูดและน้ำเสียงแปร่งปร่าของเขาที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอก็ไม่คิดว่ายังมีอะไรต้องพูดกับเขาอีก
พรรษออกแรงกระชับมือแน่นเข้าเมื่อวันวิสาข์แสดงออกถึงความพยายามจะหนีไปจากเขาด้วยการสะบัดมือ
“ผมขอโทษ”
วันวิสาข์ชะงักกับน้ำเสียงเว้าวอนอย่างที่เธอไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างพรรษจะใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใครเป็น หากการชะงักของเธอเหมือนเปิดโอกาสให้พรรษรุกคืบ
“ผมเพิ่งรู้...ว่าคุณเสียใจกับการที่สูญหายตัวไปมากแค่ไหน ผม...ขอโทษ...ที่เคยเข้าใจบ้า ๆ คิดไปเองว่าคุณร่วมมือกับคุณจันทราในตอนที่ท่านให้คนมาจับตัวสูญไป”
ความจริงที่เพิ่งรู้ทำให้วันวิสาข์ตกใจไม่น้อย ไม่อยากเชื่อว่ายายของเธอจะทำเรื่องแบบนั้นลงไปหากเมื่อลองทบทวนถึงคำตอบที่ท่านให้กับเธอในตอนที่ไปถามหาสูญ รวมถึงครั้งสุดท้ายที่ท่านถึงกับใช้แผนสกปรกเพื่อให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ วันวิสาข์ก็จำใจต้องยอมรับ
ไม่แปลกถ้าท่านจะทำแบบนั้นกับ ‘สูญ’ ผู้ชายที่ไร้หัวนอนปลายเท้า
นี่น่ะเหรอเรื่องที่ทำให้เขาเข้าใจผิดเธอมาตลอด
หญิงสาวบอกกับตัวเองอย่างขมขื่น ยิ่งนึกถึงความเป็นจริงยามมองชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้า วันวิสาข์ก็ขมไปทั้งใจ
ถ้ารู้ว่า ‘สูญ’ คนนั้นเป็นคนเดียวกับ ‘พรรษ’ คนที่ท่านทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นหลานเขย คุณจันทราจะเจ็บใจและแค้นใจมากแค่ไหนกัน
ความปวดใจกับมุมมองที่พรรษเคยมีต่อเธอทำให้วันวิสาข์ไม่นึกอยากถามด้วยซ้ำว่าเขาไปรู้เรื่องที่เธอเคยหลบไปร้องไห้ให้กับสูญมาจากไหน เพราะสิ่งที่กำลังรู้สึกคือความช้ำใจในขณะที่บอกกับตัวเองอย่างเจ็บปวด
นี่เหรอคนที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอ
ถึงพรรษเคยปรารถนาให้วันวิสาข์ยิ้มให้กับเขาอีกครั้งและครั้งนี้เขาก็ได้สมใจ แต่ชายหนุ่มพบว่ารอยยิ้มของเธอบาดหัวใจของเขาเหลือเกินเมื่อมันตามมาด้วยถ้อยคำเชือดเฉือน
“ไม่ต้องขอโทษ เพราะไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้คุณจะคิดยังไง มันไม่สำคัญกับฉันอีกแล้ว”
“เจ้าขา...”
พรรษครางเรียกชื่อคนในหัวใจอย่างเจ็บปวด เมื่อเห็นร่องรอยสะเทือนใจในดวงตาวาววับของเธอ ความเจ็บปวดทำให้มือที่เกาะกุมหญิงสาวร่วงผล็อย และวันวิสาข์ก็ไม่รีรอเลยเมื่อทำท่าจะขยับตัวเดินหนี
วินาทีที่เห็นหัวใจกำลังปลิวหาย พรรษก็คิดอะไรไม่ออกนอกจากรั้งเธอเอาไว้
“ผมรักคุณ”
วันวิสาข์หยุดจริง ๆ เพราะรู้สึกเหมือนไร้เรี่ยวแรงกะทันหัน ในขณะที่พรรษเริ่มมีกำลังใจขึ้นเมื่อก้าวเข้าไปหาคนที่ตอนนี้กำลังหันหลังให้
“ผมรักคุณเจ้าขา ยกโทษให้ผมนะ”
ลมหายใจหญิงสาวชะงักพร้อมกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่งกับน้ำเสียงเว้าวอนงอนง้อ วูบหนึ่งความทรงจำจากอดีตเมื่อครั้งเธอยังมี ‘สูญ’ ผุดขึ้นมา ความสุขและเศร้าคละเคล้าในหัวใจยามนึกถึงหลายครั้งหลายหนที่ ‘สูญ’ เคยกระเซ้าเย้าแหย่จนทำให้เธอนึกโมโห แต่หลังจากนั้น ‘สูญ’ ก็คอยงอนง้อขอคืนดีด้วยคำพูดและการกระทำที่ทำให้เธอไม่เคยลืม
ดอกไม้ข้างทางถึงไม่มีค่าแต่มีความหมายต่อหัวใจเมื่อ ‘สูญ’ เก็บมากับมือแล้วนำมายื่นให้เธอเพื่อขอคืนดี รอยยิ้มกระจ่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งเหมือนเช่นความอบอุ่นในดวงตาสีน้ำตาลไหม้ สามารถละลายหัวใจของเธอได้เสมอจนเธอไม่เคยโกรธเขาได้จริง ๆ จัง ๆ เสียที
แต่ ‘สูญ’ กับ ‘พรรษ’ ก็แตกต่างกันเหลือเกินจนเธออยากหลอกตัวเองด้วยซ้ำว่าเขาไม่ใช่คนเดียวกัน
“บอกผมสิเจ้าขา...บอกมา...ว่าคุณจะเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น!”
วันวิสาข์แสบหัวตาเมื่อถ้อยคำที่บ่งบอกถึงความเห็นแก่ตัวของเขาผุดขึ้นมาจากวันวาน หัวใจเจ็บปวดจนเหมือนกำลังมีเลือดไหลรินเมื่อนึกถึงตอนเขาดึงดันครอบครองเธอโดยอาศัยประสบการณ์และความช่ำชอง
“แล้ว...ผู้หญิงคนนั้น...คนที่คุณรักและแต่งงานด้วยล่ะ คุณเอาเธอไปไว้ที่ไหน”
พรรษสะอึกเพราะลืมสนิทถึงคำโกหกของตัวเอง เพิ่งรู้และประจักษ์ในหัวใจว่าที่ผ่านมาเขาทำร้ายเธอมากมายเพียงไหนก็ในยามนี้ที่ทุกคำพูดทุกการกระทำของเขากำลังย้อนกลับมาทิ่มแทงหัวใจตัวเอง
“เธอยังอยู่ในหัวใจของผมเสมอ เพราะเธอ...เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ผมรักและแต่งงานด้วย”
ถึงตอนนี้วันวิสาข์ก็น้ำตาซึม คำพูดของพรรษไม่ต่างจากแส้ที่โบยลงมาอย่างไม่ปราณี ความเจ็บปวดผลักดันให้หญิงสาวมีเรี่ยวแรงจนสามารถขยับตัวจะเดินหนีอีกครั้ง หากต้องชะงักกับคำพูดที่ได้ยินต่อมา
“และผู้หญิงที่ผมรักและแต่งงานด้วยก็มีแค่คุณเพียงคนเดียวเจ้าขา...คุณคนเดียวเท่านั้น”
ความสับสนและไม่เข้าใจทำให้วันวิสาข์หันกลับไปอย่างลืมตัว โดยไม่รู้เลยว่าพรรษแทบหายใจไม่ออกเมื่อเห็นประกายน้ำในดวงตาของเธอ
“หมายความว่ายังไง...” ความไม่อยากเชื่อผุดขึ้นแวบหนึ่งก่อนตั้งคำถามด้วยหัวใจที่รวดร้าวและหยาดน้ำที่เอ่อคลอมากกว่าเดิม “ที่ผ่านมา...คุณโกหกอย่างนั้นเหรอ”
“ผม...ขอโทษ”
พรรษเจ็บปวดจริง ๆ กับน้ำตาของวันวิสาข์ที่แม้เพียงเอ่อคลอแต่ก็ทำร้ายหัวใจเขาได้อย่างมากมาย ยังจำได้ดีเรื่องที่ชลธีเล่าให้ฟัง ตั้งแต่วัยเด็กวันวิสาข์ไม่ใช่คนร้องไห้ออกมาง่าย ๆ แต่เป็นเพราะเขาน้ำตาของเธอจึงหยาดหยดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า
วันวิสาข์อยากปิดหูเมื่อคำขอโทษของพรรษยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด วินาทีนั้นความชิงชัง ขมขื่น และปวดร้าวจนสุดทานทนผลักดันให้เธอปัดมือของพรรษที่กำลังจะเอื้อมมาซับน้ำตา ก่อนผลักชายหนุ่มให้พ้นทางแล้ววิ่งเตลิดเข้าไปในห้องนอนด้วยท่าทางราวกับกำลังจะหนีจากเงื้อมมือของปิศาจร้ายที่ไล่คุกคามอยู่ทางด้านหลัง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนสำหรับวันวิสาข์ที่เอาแต่จมอยู่กับความเจ็บปวดในหัวใจท่ามกลางเตียงนอนที่เธอซุกตัวลงมาราวกับจะหวังให้ปลอบประโลมหัวใจที่กำลังอ่อนแอ เมื่อรู้สึกตัวอีกทีแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างหญิงสาวก็พบว่าตอนนี้ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก
หญิงสาวยิ้มด้วยความรู้สึกขมปร่ายามนึกเปรียบเทียบหยาดฝนตอนนี้ก็ไม่ต่างกับหยาดน้ำตาของเธอ หลังยกมือขึ้นป้ายน้ำตาบนหน้าวันวิสาข์ก็ลุกขึ้นเมื่อเพิ่งนึกออกถึงเสื้อผ้าที่เธอตากเอาไว้หลังบ้าน หากเมื่อเท้าแตะพื้นอาการมึนงงและเวียนศีรษะที่เป็นมาร่วมสามวันก็เข้าจู่โจมอีกครั้งส่งผลให้ร่างเล็กต้องถลาไปนั่งปลายเตียงอีกครั้ง กระทั่งเมื่อรู้สึกดีขึ้นเจ้าตัวจึงฝืนลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าประตูห้อง
ร่างสูงที่ปักหลักรออยู่ข้างนอกห้องคือภาพแรกที่เข้าสู่สายตาเมื่อวันวิสาข์เปิดประตูห้องนอนออกไป หญิงสาวนิ่งงันไปครู่เพราะคิดไม่ถึงด้วยนึกเอาเองว่าอีกฝ่ายคงกลับไปนานแล้ว
พรรษเสียดใจวูบเมื่อสิ่งแรกที่เห็นหลังประตูห้องเปิดออกมาคือท่าทีนิ่งงันราวคาดไม่ถึงของคนที่เขาห่วงหา ก่อนจะตามด้วยอาการเม้มปากแน่นราวกับไม่ชอบใจ จนทำให้เขาต้องเอ่ย
“ผมจะพาคุณไปหาหมอ”
ชายหนุ่มยังไม่ลืมคำตอบโต้ระหว่างชลธีกับวันวิสาข์ที่เขาเข้ามาทันได้ยิน หลังจากก่อนหน้านั้นขับรถตามชลธีมาตั้งแต่ออกมาจากอยุธยานับตั้งแต่วินาทีที่คนที่เขาว่าจ้างแจ้งให้รู้ว่าอีกฝ่ายขับรถออกมาจากบ้าน ยังจำได้ดีถึงความตื่นเต้นยินดีของตัวเองเมื่อรู้ว่ากำลังจะได้พบคนที่ทำให้เขาแทบกินไม่ได้และนอนไม่หลับ
วันวิสาข์ยังคงเม้มปากแน่นไม่พูดสักคำยามเดินผ่านพรรษไปราวกับชายหนุ่มเป็นเพียงอากาศธาตุ ในขณะที่คนถูกทำเสมือนไม่มีตัวตนก็หน้าสลดลงไม่ต่างจากหัวใจที่หดตัวกับปฏิกิริยาเย็นชาที่ได้รับ กระนั้นก็ไม่พูดอะไรเช่นกันยามเดินตามไปเงียบ ๆ
เมื่อเห็นเสื้อผ้าบนราวตากซึ่งตอนนี้ชุ่มโชกไปด้วยน้ำฝนซึ่งก่อนหน้าเพราะต้องการให้ถูกแสงแดดหญิงสาวจึงเข็นราวตากผ้าแบบมีล้อเลื่อนออกไปให้พ้นจากกันสาดหลังคาไวนิล หลังจากถอนหายใจออกมาวันวิสาข์ก็ทำท่าจะเดินออกไปดึงราวตากผ้ามาไว้ด้านใน แต่ไม่ทันคนที่ตามมาข้างหลังซึ่งชิงเดินตัดหน้าเธอออกไปก่อน
พรรษไม่ได้หวังว่าวันวิสาข์จะนึกซาบซึ้งกับการที่เขาอาสาตัวออกไปตากฝนแทนเธอเพื่อนำราวตากผ้ากลับมาไว้ข้างใน แต่การที่เธอหันหลังให้แล้วทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเหมือนมองไม่เห็นเขาหรือไม่เขาก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเลย มันทำให้พรรษเจ็บปวดหัวใจนแทบทนไม่ได้
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหมเจ้าขา”
คำบอกที่ใกล้เคียงกับการอ้อนวอนนั้นส่งผลให้วันวิสาข์ชะงักเพราะจับได้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงที่ได้ยิน กระนั้นเพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ทำท่าจะก้าวต่อไป
พรรษเหน็บหนาวถึงขั้วหัวใจเมื่อความเย็นชาของวันวิสาข์ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากหิมะที่กำลังกัดกร่อนเขาทีละเล็กทีละน้อย ความเจ็บปวดนั้นมากพอที่จะผลักดันให้เขาปราดไปดักหน้าแม้รู้ว่าเสี่ยงกับความเจ็บในหัวใจมากขึ้นกับสายตาว่างเปล่าและเย็นชาของเธอ
วันวิสาข์ซ่อนความปวดร้าวไว้ในหัวใจเมื่อเห็นชัดถึงแววตาที่สะท้อนความในใจของพรรษ ทำไมเธอจะไม่เข้าใจถึงความเจ็บปวดและขมขื่นที่เขากำลังเผชิญ เพราะนั่นก็เป็นความรู้สึกของเธอด้วยเช่นกันนับตั้งแต่วันที่เขากลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้งด้วยชื่อของ พรรษ สุวรรณอังกูร
“ได้โปรด...ผมยินดีให้คุณทำโทษทุกอย่าง ขอแค่...อย่าทำเย็นชาแบบนี้ อย่า...” ชายหนุ่มต้องหยุดพูดเมื่อก้อนแข็ง ๆ ที่เกิดจากความขมขื่นกำลังแล่นมาอุดที่กลางลำคอ ต้องใช้เวลาอีกครู่กว่าจะเปล่งเสียงแปร่งปร่าจากความสะเทือนใจออกไปได้อีกครั้ง “อย่าทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ไม่มีความหมาย...ในสายตาของคุณแบบนี้...ได้ไหม”
น้ำตาของคนฟังเริ่มไหลย้อนเข้าไปในหัวใจในทีละหยดกับน้ำเสียงพร่าสั่นของอีกฝ่ายที่เหมือนจะบอกว่าตัวคนพูดกำลังจะหมดแรงและหมดลมหายใจไปทีละน้อยต่อหน้าต่อหน้าของเธอ
“เจ็บปวดมากเลยใช่ไหม เวลาถูกใครสักคนทำเหมือนเราไม่มีค่าและไม่มีความหมายในสายตา”
พรรษชะงักกับน้ำเสียงสั่น ๆ ของวันวิสาข์ แม้ในดวงตาของเธอไม่มีน้ำตาหยาดหยดออกมาให้เห็น แต่เขากลับรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่กำลังกลั่นตัวเป็นเม็ดน้ำตาและค่อย ๆ ไหลรินอยู่ภายในหัวใจของเธอ และการรับรู้นั้นทำให้ชายหนุ่มต้องบังคับตัวเองให้ยืนนิ่งขณะรับฟังความในใจของหญิงสาว ทั้งที่ปรารถนาสุดหัวใจจะดึงเธอเข้ามากอดแล้วพร่ำบอกให้รู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหนที่เคยทำร้ายหัวใจของเธอ...นางฟ้าของเขา
“มันเจ็บมากเลยสินะ เวลาที่ความพยายามขอร้องของเราไม่เคยเข้าหูของเขาเลย เพราะเขา...เอาแต่ดึงดันจะทำทุกอย่างตามใจตัวเอง โดยไม่นึกถึงหัวใจของคนที่ถูกกระทำเลยสักนิด”
ถึงตอนนี้พรรษก็เสียดร้าวไปทั้งหัวใจ ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ดีว่าวันวิสาข์กำลังนึกถึงตอนที่เธอพยายามอ้อนวอนในคืนแต่งงาน แต่นอกจากไม่รับฟังแล้วเขายังดึงดันทำตามความต้องการของตัวเองโดยไม่คิดหรือไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าวันวิสาข์จะเสียใจหรือเจ็บปวดแค่ไหนกับการเอาแต่ใจของเขา
ขอโทษ
พรรษได้แต่พร่ำบอกท่ามกลางความเสียใจและสำนึกผิด ในขณะที่ปากเหมือนถูกปิดจากรอยเจ็บร้าวและสะเทือนใจในดวงตาของวันวิสาข์
“ไม่ต้องขอโทษ ถ้านั่นคือสิ่งเดียวที่คุณคิดว่าจะชดใช้ให้กับฉันได้เพราะ...ฉันไม่ต้องการ แต่ถ้าคุณคิดว่าจะทำตามความต้องการของฉันเพื่อเป็นการไถ่โทษ ฉันก็ยินดีรับเอาไว้เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการจากคุณก็คือ...”
วินาทีนั้น พรรษรู้ได้ก่อนที่จะได้ยินคำพูดเสียอีก แววตาของวันวิสาข์ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะถูกควักหัวใจออกไป ท่ามกลางความตีบตันในลำคอและความรู้สึกที่เหมือนกำลังขาดอากาศหายใจไปทุกขณะ คำพูดของวันวิสาข์ไม่ต่างจากการลงมีดมาปักที่กลางหัวใจของเขา
“อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ พานายพรรษมางอนง้อขอคืนดีค่ะ ^^
ตอนนี้ อาจเศร้านิดหน่อยค่ะ เพราะนายพรรษอยู่ในโหมดสำนึกผิดแต่เจ้าขาก็ไม่ใจอ่อนง่าย ๆ
ไว้หลังจากนี้มาดูกันค่ะว่านายคนนี้จะงัดวิธีไหนมาง้อสาว ^^
ส่วนเรื่องนี้ เหลือไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วค่ะ ทำให้ใจหายหน่อย ๆ เหมือนกันเพราะเหมือนคลุกคลีกับสามหนุ่มสามฤดูมานาน
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และทุก LIKE ที่มอบเป็นกำลังใจให้กันเสมอมาค่ะ
konhin : อ่านคอมเม้นท์แล้วเข้าใจเลยค่ะว่าทำไมถึงยังไม่อยากให้เจ้าขาท้องตอนนี้...โดยเฉพาะคอมเม้นท์บรรทัดสุดท้ายทำเอาหัวเราะ ใจดีจังตามใจคนเขียนด้วยอ่ะ (แล้วคนเขียนก็ชอบเอาแต่ใจตัวเองด้วยสิ ฮ่า ๆๆ) แต่เรื่องท้องหรือไม่ท้องเนี่ยขอให้คำตอบเป็นตอนหน้านะคะ ^^
ปอยอะนะ : อยากส่งรูปหน้ายิ้มไปให้บ้างแต่ทำไม่ได้ งั้นขอส่งเป็นรอยยิ้มแทนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^__^
ปิ่นนลิน : คร้า เจอกันแล้ว ^^
Zephyr : โห...ให้เจ้าขาอาหารเป็นพิษดีกว่ามีลูกตอนนี้หรือคะ อืม..แต่เข้าใจเหตุผลเลยค่ะว่าควรจัดการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองไม่ใช่มีเรื่องลูกเป็นเงื่อนไขหรือตัวช่วย แต่จะท้องหรือไม่ท้องไว้รอผลตอนหน้านะคะ ว่าแต่ไป ๆ มา ๆ ผู้ชายแสนดีอย่างพี่ชลก็จะได้รับแจกของขวัญด้วยหรือคะ เค้าออกจะน่าสงสารน๊า..เก็บของขวัญไว้แจกให้พันวลีดีกว่าค่ะ โฮะ ๆๆๆๆ
นักอ่านเหนียวหนึบ : โอเครคร้า...เห็นแก่ที่บอกว่า มีแต่นางฟ้าาาาาาา พันวลีก็เลยปิดตำราไม่ท่องคาถามนต์ดำใส่ อ๊ะ..อ๊ะ หมายถึงว่าเตรียมท่องใส่นายพรรษนะคะ ไม่ใช่คนอ่านน่ารัก ๆ อย่างคุณนักอ่านเหนียวหนึบ โฮะ ๆๆๆๆ (ดีนะที่ทัน เฮ้อออ)
ผักหวาน : คร้า...ตามเจ้าขาเจอแล้ว ง้อแล้ว แต่จะสำเร็จหรือเปล่านี่สิคะ ^^
หมูบูลิน : ใช่ค่ะ คุณพรรษตามเจ้าขาเจอแล้ว พยายามง้อด้วย..ส่วนเรื่องป่วยเพราะตัวเล็กหรือเปล่า พันวลีขอให้คำตอบตอนหน้านะคะ (หุ หุ มีการอุบไว้ก่อนด้วย) ^^
สูญ
แวบแรกที่วันวิสาข์เห็นหน้าคนที่เธอตั้งใจหนีเขามา หัวใจที่ยังคงกระหวัดหาทำให้เผลอร่ำร้องถึงคนที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่จริง แต่เมื่อนึกขึ้นได้รอยยิ้มเยาะแกมหม่นก็ผุดขึ้นบนใบหน้าอ่อนเยาว์
ไม่ใช่! เขาไม่ใช่สูญ ไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไรแม้แต่ความทรงจำคนนั้น คนที่กำลังอยู่ต่อหน้าเธอในตอนนี้คือพรรษต่างหาก พรรษ สุวรรณอังกูร คนที่มีพร้อมทุกอย่างแต่ไม่มีแม้แต่เงาของเธออยู่ในหัวใจ
พรรษพูดไม่ออก ตื้อไปทั้งอกกับความดีใจที่ได้เจอคนที่เขาทั้งห่วงหาและคิดถึง หากการได้เห็นว่าวันวิสาข์ซูบผอมลงไปกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อในดวงตาของเธอไร้แววสดใสเป็นประกายเหมือนที่ผ่านมา หัวใจก็เหมือนถูกบีบจากมือยักษ์ที่มองไม่เห็น พรรษหายใจแทบไม่ออกจนพานปวดใจเมื่อมองไม่เห็นแววตื่นเต้นยินดีสักนิดกับการได้เจอกันในดวงตาของวันวิสาข์
การได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง คงทำให้เธอเสียใจมากกว่า
ข้อสรุปที่ให้กับตัวเองไม่ต่างจากการเพิ่มความปวดร้าวให้กับก้อนเนื้อในอกข้างซ้าย แต่ถึงเป็นอย่างนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะการปล่อยวันวิสาข์ไปเท่ากับเขาทำให้ตัวเองต้องตายทั้งเป็น
เขาอยู่ไม่ได้หากไม่มีเธอ
พรรษยิ้ม หากรอยยิ้มครั้งนี้ไม่ได้ช่วยให้ใบหน้าคมสันแลดูกระจ่างมีชีวิตชีวาเหมือนในอดีต เพราะความขมขื่นที่สะท้อนออกมาทางแววตานั้นถ่ายทอดความรู้สึกของเขาได้ดียิ่งกว่าคำพูดใด ๆ
ที่ผ่านมาเขาอยู่มาได้โดยไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกใบนี้ยังมีผู้หญิงคนนี้ แต่หลังจากเธอก้าวเข้ามาประกาศตัวตนในโลกใบเล็กของเขา พรรษยังเคยนึกแปลกใจว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขาอยู่มาได้อย่างไรโดยไม่มีผู้หญิงที่ชื่อวันวิสาข์
เธอเป็นหัวใจของเขา และหัวใจดวงนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะหามาทดแทนกันได้ง่าย ๆ
ชลธีสะท้อนใจขณะเฝ้ามองการสื่อสารกันทางแววตาระหว่างพรรษกับวันวิสาข์ วินาทีนั้นชายหนุ่มรับรู้อย่างชัดเจนถึงคำว่าคนนอกที่บิดาเคยบอกไว้ ก่อนนึกโทษตัวเองกับความสะเพร่าเมื่อนึกได้ว่าเขาไม่ทันปิดล็อกประตูตอนที่เข้ามาเพราะความห่วงกังวลคนไม่สบาย และอาจด้วยเหตุนี้เช่นกันจึงทำให้เขาพลาดถูกพรรษลอบตามมาจนถึงที่นี่
ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่รู้ว่าพรรษให้คนคอยสะกดรอยและติดตามความเคลื่อนไหว แต่เพราะครั้งนี้เขาห่วงวันวิสาข์มากเกินไปจนลืมระมัดระวังตัว
ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นการยื่นมือมาช่วยของโชคชะตา หลังจากเฝ้ามองมาแล้วเห็นว่าเขายังไม่ยอมตัดสินใจสักที
ชายหนุ่มนึกอย่างเศร้าใจ ก่อนยอมหักใจเมื่อคิดว่าคงถึงเวลาที่เขาต้องไปจากเธอแล้วจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือวันข้างหน้า หัวใจของเธอก็ไม่มีวันเป็นของเขา...ไม่มีวัน
หลังจากฝืนยิ้มออกมา เจ้าตัวก็หันไปบอกชายหนุ่มอีกคนด้วยคำพูดที่แฝงนัยชัดเจน
“ถ้าอย่างนั้น ผมฝากเจ้าขาด้วยนะครับ”
พรรษเองก็รู้ดีถึงนัยในคำพูดของชลธี แวบหนึ่งชายหนุ่มอดนึกเห็นใจอีกฝ่ายไม่ได้ และอาจด้วยความรู้สึกนั้นที่ทำให้ตอบรับกลับไปอย่างหนักแน่น
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลเจ้าขาให้ดีเท่ากับดูแลชีวิตของตัวผมเอง”
คนได้รับคำยืนยันยิ้มออกราวกับเบาใจก่อนก้าวเดินจากไปด้วยฝีเท้ามั่นคง ไม่รู้สึกสักนิดถึงความพ่ายแพ้ตรงกันข้ามกลับรู้สึกถึงชัยชนะอีกต่างหาก
ถึงพ่ายแพ้เรื่องความรัก แต่เขาก็ยินดีต่อการเอาชนะหัวใจของตัวเอง
วันวิสาข์พูดไม่ออกยามเฝ้ามองชลธีเดินจากไป เขาเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่แสนดีบนโลกกว้างใหญ่ใบนี้ที่มีแต่ความโหดร้ายให้กับชีวิต ดังนั้นเธอจึงเจ็บปวดเช่นกันที่รู้ว่าตัวเองตอบแทนความรักของเขาด้วยการมอบความเจ็บปวดให้ไป
แต่ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน หัวใจของเธอก็ไม่มีที่ว่างสำหรับเขา...ไม่มีจริง ๆ
“เจ้าขา”
เสียงเรียกของพรรษทำให้วันวิสาข์ต้องละสายตาจากคนแสนดีแล้วหันมามองคนแสนร้าย ด้วยแววตาที่สะท้อนถึงความรู้สึกแตกต่างด้วยเช่นกัน
แม้รู้สึกใจหายแต่น่าแปลกที่พรรษกลับรู้สึกปวดใจในขณะเดียวกันกับแววตาว่างเปล่าเย็นชาของหญิงสาวราวกับผู้เป็นเจ้าของไร้ซึ่งสิ่งที่เรียกกันว่าหัวใจ
เมื่อเห็นวันวิสาข์หันหลังแล้วทำท่าจะเดินหนี พรรษก็รีบปราดเข้าไปดึงมือเธอเอาไว้
“ปล่อย!”
น้ำเสียงหมางเมินและแววตาเย็นชาของวันวิสาข์ยามหันกลับมามองยิ่งทำให้พรรษปวดใจ กระนั้นชายหนุ่มก็ไม่อาจทำตาม
“ผม...ปล่อยคุณไปไม่ได้จริง ๆ เจ้าขา”
วันวิสาข์อึ้งเมื่อจับได้ถึงกระแสบางอย่างในคำพูดของพรรษ แม้แปลบใจไม่น้อยกับคำพูดและน้ำเสียงแปร่งปร่าของเขาที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอก็ไม่คิดว่ายังมีอะไรต้องพูดกับเขาอีก
พรรษออกแรงกระชับมือแน่นเข้าเมื่อวันวิสาข์แสดงออกถึงความพยายามจะหนีไปจากเขาด้วยการสะบัดมือ
“ผมขอโทษ”
วันวิสาข์ชะงักกับน้ำเสียงเว้าวอนอย่างที่เธอไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างพรรษจะใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใครเป็น หากการชะงักของเธอเหมือนเปิดโอกาสให้พรรษรุกคืบ
“ผมเพิ่งรู้...ว่าคุณเสียใจกับการที่สูญหายตัวไปมากแค่ไหน ผม...ขอโทษ...ที่เคยเข้าใจบ้า ๆ คิดไปเองว่าคุณร่วมมือกับคุณจันทราในตอนที่ท่านให้คนมาจับตัวสูญไป”
ความจริงที่เพิ่งรู้ทำให้วันวิสาข์ตกใจไม่น้อย ไม่อยากเชื่อว่ายายของเธอจะทำเรื่องแบบนั้นลงไปหากเมื่อลองทบทวนถึงคำตอบที่ท่านให้กับเธอในตอนที่ไปถามหาสูญ รวมถึงครั้งสุดท้ายที่ท่านถึงกับใช้แผนสกปรกเพื่อให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ วันวิสาข์ก็จำใจต้องยอมรับ
ไม่แปลกถ้าท่านจะทำแบบนั้นกับ ‘สูญ’ ผู้ชายที่ไร้หัวนอนปลายเท้า
นี่น่ะเหรอเรื่องที่ทำให้เขาเข้าใจผิดเธอมาตลอด
หญิงสาวบอกกับตัวเองอย่างขมขื่น ยิ่งนึกถึงความเป็นจริงยามมองชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้า วันวิสาข์ก็ขมไปทั้งใจ
ถ้ารู้ว่า ‘สูญ’ คนนั้นเป็นคนเดียวกับ ‘พรรษ’ คนที่ท่านทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นหลานเขย คุณจันทราจะเจ็บใจและแค้นใจมากแค่ไหนกัน
ความปวดใจกับมุมมองที่พรรษเคยมีต่อเธอทำให้วันวิสาข์ไม่นึกอยากถามด้วยซ้ำว่าเขาไปรู้เรื่องที่เธอเคยหลบไปร้องไห้ให้กับสูญมาจากไหน เพราะสิ่งที่กำลังรู้สึกคือความช้ำใจในขณะที่บอกกับตัวเองอย่างเจ็บปวด
นี่เหรอคนที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอ
ถึงพรรษเคยปรารถนาให้วันวิสาข์ยิ้มให้กับเขาอีกครั้งและครั้งนี้เขาก็ได้สมใจ แต่ชายหนุ่มพบว่ารอยยิ้มของเธอบาดหัวใจของเขาเหลือเกินเมื่อมันตามมาด้วยถ้อยคำเชือดเฉือน
“ไม่ต้องขอโทษ เพราะไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้คุณจะคิดยังไง มันไม่สำคัญกับฉันอีกแล้ว”
“เจ้าขา...”
พรรษครางเรียกชื่อคนในหัวใจอย่างเจ็บปวด เมื่อเห็นร่องรอยสะเทือนใจในดวงตาวาววับของเธอ ความเจ็บปวดทำให้มือที่เกาะกุมหญิงสาวร่วงผล็อย และวันวิสาข์ก็ไม่รีรอเลยเมื่อทำท่าจะขยับตัวเดินหนี
วินาทีที่เห็นหัวใจกำลังปลิวหาย พรรษก็คิดอะไรไม่ออกนอกจากรั้งเธอเอาไว้
“ผมรักคุณ”
วันวิสาข์หยุดจริง ๆ เพราะรู้สึกเหมือนไร้เรี่ยวแรงกะทันหัน ในขณะที่พรรษเริ่มมีกำลังใจขึ้นเมื่อก้าวเข้าไปหาคนที่ตอนนี้กำลังหันหลังให้
“ผมรักคุณเจ้าขา ยกโทษให้ผมนะ”
ลมหายใจหญิงสาวชะงักพร้อมกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่งกับน้ำเสียงเว้าวอนงอนง้อ วูบหนึ่งความทรงจำจากอดีตเมื่อครั้งเธอยังมี ‘สูญ’ ผุดขึ้นมา ความสุขและเศร้าคละเคล้าในหัวใจยามนึกถึงหลายครั้งหลายหนที่ ‘สูญ’ เคยกระเซ้าเย้าแหย่จนทำให้เธอนึกโมโห แต่หลังจากนั้น ‘สูญ’ ก็คอยงอนง้อขอคืนดีด้วยคำพูดและการกระทำที่ทำให้เธอไม่เคยลืม
ดอกไม้ข้างทางถึงไม่มีค่าแต่มีความหมายต่อหัวใจเมื่อ ‘สูญ’ เก็บมากับมือแล้วนำมายื่นให้เธอเพื่อขอคืนดี รอยยิ้มกระจ่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งเหมือนเช่นความอบอุ่นในดวงตาสีน้ำตาลไหม้ สามารถละลายหัวใจของเธอได้เสมอจนเธอไม่เคยโกรธเขาได้จริง ๆ จัง ๆ เสียที
แต่ ‘สูญ’ กับ ‘พรรษ’ ก็แตกต่างกันเหลือเกินจนเธออยากหลอกตัวเองด้วยซ้ำว่าเขาไม่ใช่คนเดียวกัน
“บอกผมสิเจ้าขา...บอกมา...ว่าคุณจะเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น!”
วันวิสาข์แสบหัวตาเมื่อถ้อยคำที่บ่งบอกถึงความเห็นแก่ตัวของเขาผุดขึ้นมาจากวันวาน หัวใจเจ็บปวดจนเหมือนกำลังมีเลือดไหลรินเมื่อนึกถึงตอนเขาดึงดันครอบครองเธอโดยอาศัยประสบการณ์และความช่ำชอง
“แล้ว...ผู้หญิงคนนั้น...คนที่คุณรักและแต่งงานด้วยล่ะ คุณเอาเธอไปไว้ที่ไหน”
พรรษสะอึกเพราะลืมสนิทถึงคำโกหกของตัวเอง เพิ่งรู้และประจักษ์ในหัวใจว่าที่ผ่านมาเขาทำร้ายเธอมากมายเพียงไหนก็ในยามนี้ที่ทุกคำพูดทุกการกระทำของเขากำลังย้อนกลับมาทิ่มแทงหัวใจตัวเอง
“เธอยังอยู่ในหัวใจของผมเสมอ เพราะเธอ...เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ผมรักและแต่งงานด้วย”
ถึงตอนนี้วันวิสาข์ก็น้ำตาซึม คำพูดของพรรษไม่ต่างจากแส้ที่โบยลงมาอย่างไม่ปราณี ความเจ็บปวดผลักดันให้หญิงสาวมีเรี่ยวแรงจนสามารถขยับตัวจะเดินหนีอีกครั้ง หากต้องชะงักกับคำพูดที่ได้ยินต่อมา
“และผู้หญิงที่ผมรักและแต่งงานด้วยก็มีแค่คุณเพียงคนเดียวเจ้าขา...คุณคนเดียวเท่านั้น”
ความสับสนและไม่เข้าใจทำให้วันวิสาข์หันกลับไปอย่างลืมตัว โดยไม่รู้เลยว่าพรรษแทบหายใจไม่ออกเมื่อเห็นประกายน้ำในดวงตาของเธอ
“หมายความว่ายังไง...” ความไม่อยากเชื่อผุดขึ้นแวบหนึ่งก่อนตั้งคำถามด้วยหัวใจที่รวดร้าวและหยาดน้ำที่เอ่อคลอมากกว่าเดิม “ที่ผ่านมา...คุณโกหกอย่างนั้นเหรอ”
“ผม...ขอโทษ”
พรรษเจ็บปวดจริง ๆ กับน้ำตาของวันวิสาข์ที่แม้เพียงเอ่อคลอแต่ก็ทำร้ายหัวใจเขาได้อย่างมากมาย ยังจำได้ดีเรื่องที่ชลธีเล่าให้ฟัง ตั้งแต่วัยเด็กวันวิสาข์ไม่ใช่คนร้องไห้ออกมาง่าย ๆ แต่เป็นเพราะเขาน้ำตาของเธอจึงหยาดหยดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า
วันวิสาข์อยากปิดหูเมื่อคำขอโทษของพรรษยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด วินาทีนั้นความชิงชัง ขมขื่น และปวดร้าวจนสุดทานทนผลักดันให้เธอปัดมือของพรรษที่กำลังจะเอื้อมมาซับน้ำตา ก่อนผลักชายหนุ่มให้พ้นทางแล้ววิ่งเตลิดเข้าไปในห้องนอนด้วยท่าทางราวกับกำลังจะหนีจากเงื้อมมือของปิศาจร้ายที่ไล่คุกคามอยู่ทางด้านหลัง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนสำหรับวันวิสาข์ที่เอาแต่จมอยู่กับความเจ็บปวดในหัวใจท่ามกลางเตียงนอนที่เธอซุกตัวลงมาราวกับจะหวังให้ปลอบประโลมหัวใจที่กำลังอ่อนแอ เมื่อรู้สึกตัวอีกทีแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างหญิงสาวก็พบว่าตอนนี้ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก
หญิงสาวยิ้มด้วยความรู้สึกขมปร่ายามนึกเปรียบเทียบหยาดฝนตอนนี้ก็ไม่ต่างกับหยาดน้ำตาของเธอ หลังยกมือขึ้นป้ายน้ำตาบนหน้าวันวิสาข์ก็ลุกขึ้นเมื่อเพิ่งนึกออกถึงเสื้อผ้าที่เธอตากเอาไว้หลังบ้าน หากเมื่อเท้าแตะพื้นอาการมึนงงและเวียนศีรษะที่เป็นมาร่วมสามวันก็เข้าจู่โจมอีกครั้งส่งผลให้ร่างเล็กต้องถลาไปนั่งปลายเตียงอีกครั้ง กระทั่งเมื่อรู้สึกดีขึ้นเจ้าตัวจึงฝืนลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าประตูห้อง
ร่างสูงที่ปักหลักรออยู่ข้างนอกห้องคือภาพแรกที่เข้าสู่สายตาเมื่อวันวิสาข์เปิดประตูห้องนอนออกไป หญิงสาวนิ่งงันไปครู่เพราะคิดไม่ถึงด้วยนึกเอาเองว่าอีกฝ่ายคงกลับไปนานแล้ว
พรรษเสียดใจวูบเมื่อสิ่งแรกที่เห็นหลังประตูห้องเปิดออกมาคือท่าทีนิ่งงันราวคาดไม่ถึงของคนที่เขาห่วงหา ก่อนจะตามด้วยอาการเม้มปากแน่นราวกับไม่ชอบใจ จนทำให้เขาต้องเอ่ย
“ผมจะพาคุณไปหาหมอ”
ชายหนุ่มยังไม่ลืมคำตอบโต้ระหว่างชลธีกับวันวิสาข์ที่เขาเข้ามาทันได้ยิน หลังจากก่อนหน้านั้นขับรถตามชลธีมาตั้งแต่ออกมาจากอยุธยานับตั้งแต่วินาทีที่คนที่เขาว่าจ้างแจ้งให้รู้ว่าอีกฝ่ายขับรถออกมาจากบ้าน ยังจำได้ดีถึงความตื่นเต้นยินดีของตัวเองเมื่อรู้ว่ากำลังจะได้พบคนที่ทำให้เขาแทบกินไม่ได้และนอนไม่หลับ
วันวิสาข์ยังคงเม้มปากแน่นไม่พูดสักคำยามเดินผ่านพรรษไปราวกับชายหนุ่มเป็นเพียงอากาศธาตุ ในขณะที่คนถูกทำเสมือนไม่มีตัวตนก็หน้าสลดลงไม่ต่างจากหัวใจที่หดตัวกับปฏิกิริยาเย็นชาที่ได้รับ กระนั้นก็ไม่พูดอะไรเช่นกันยามเดินตามไปเงียบ ๆ
เมื่อเห็นเสื้อผ้าบนราวตากซึ่งตอนนี้ชุ่มโชกไปด้วยน้ำฝนซึ่งก่อนหน้าเพราะต้องการให้ถูกแสงแดดหญิงสาวจึงเข็นราวตากผ้าแบบมีล้อเลื่อนออกไปให้พ้นจากกันสาดหลังคาไวนิล หลังจากถอนหายใจออกมาวันวิสาข์ก็ทำท่าจะเดินออกไปดึงราวตากผ้ามาไว้ด้านใน แต่ไม่ทันคนที่ตามมาข้างหลังซึ่งชิงเดินตัดหน้าเธอออกไปก่อน
พรรษไม่ได้หวังว่าวันวิสาข์จะนึกซาบซึ้งกับการที่เขาอาสาตัวออกไปตากฝนแทนเธอเพื่อนำราวตากผ้ากลับมาไว้ข้างใน แต่การที่เธอหันหลังให้แล้วทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเหมือนมองไม่เห็นเขาหรือไม่เขาก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเลย มันทำให้พรรษเจ็บปวดหัวใจนแทบทนไม่ได้
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหมเจ้าขา”
คำบอกที่ใกล้เคียงกับการอ้อนวอนนั้นส่งผลให้วันวิสาข์ชะงักเพราะจับได้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงที่ได้ยิน กระนั้นเพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ทำท่าจะก้าวต่อไป
พรรษเหน็บหนาวถึงขั้วหัวใจเมื่อความเย็นชาของวันวิสาข์ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากหิมะที่กำลังกัดกร่อนเขาทีละเล็กทีละน้อย ความเจ็บปวดนั้นมากพอที่จะผลักดันให้เขาปราดไปดักหน้าแม้รู้ว่าเสี่ยงกับความเจ็บในหัวใจมากขึ้นกับสายตาว่างเปล่าและเย็นชาของเธอ
วันวิสาข์ซ่อนความปวดร้าวไว้ในหัวใจเมื่อเห็นชัดถึงแววตาที่สะท้อนความในใจของพรรษ ทำไมเธอจะไม่เข้าใจถึงความเจ็บปวดและขมขื่นที่เขากำลังเผชิญ เพราะนั่นก็เป็นความรู้สึกของเธอด้วยเช่นกันนับตั้งแต่วันที่เขากลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้งด้วยชื่อของ พรรษ สุวรรณอังกูร
“ได้โปรด...ผมยินดีให้คุณทำโทษทุกอย่าง ขอแค่...อย่าทำเย็นชาแบบนี้ อย่า...” ชายหนุ่มต้องหยุดพูดเมื่อก้อนแข็ง ๆ ที่เกิดจากความขมขื่นกำลังแล่นมาอุดที่กลางลำคอ ต้องใช้เวลาอีกครู่กว่าจะเปล่งเสียงแปร่งปร่าจากความสะเทือนใจออกไปได้อีกครั้ง “อย่าทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ไม่มีความหมาย...ในสายตาของคุณแบบนี้...ได้ไหม”
น้ำตาของคนฟังเริ่มไหลย้อนเข้าไปในหัวใจในทีละหยดกับน้ำเสียงพร่าสั่นของอีกฝ่ายที่เหมือนจะบอกว่าตัวคนพูดกำลังจะหมดแรงและหมดลมหายใจไปทีละน้อยต่อหน้าต่อหน้าของเธอ
“เจ็บปวดมากเลยใช่ไหม เวลาถูกใครสักคนทำเหมือนเราไม่มีค่าและไม่มีความหมายในสายตา”
พรรษชะงักกับน้ำเสียงสั่น ๆ ของวันวิสาข์ แม้ในดวงตาของเธอไม่มีน้ำตาหยาดหยดออกมาให้เห็น แต่เขากลับรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่กำลังกลั่นตัวเป็นเม็ดน้ำตาและค่อย ๆ ไหลรินอยู่ภายในหัวใจของเธอ และการรับรู้นั้นทำให้ชายหนุ่มต้องบังคับตัวเองให้ยืนนิ่งขณะรับฟังความในใจของหญิงสาว ทั้งที่ปรารถนาสุดหัวใจจะดึงเธอเข้ามากอดแล้วพร่ำบอกให้รู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหนที่เคยทำร้ายหัวใจของเธอ...นางฟ้าของเขา
“มันเจ็บมากเลยสินะ เวลาที่ความพยายามขอร้องของเราไม่เคยเข้าหูของเขาเลย เพราะเขา...เอาแต่ดึงดันจะทำทุกอย่างตามใจตัวเอง โดยไม่นึกถึงหัวใจของคนที่ถูกกระทำเลยสักนิด”
ถึงตอนนี้พรรษก็เสียดร้าวไปทั้งหัวใจ ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ดีว่าวันวิสาข์กำลังนึกถึงตอนที่เธอพยายามอ้อนวอนในคืนแต่งงาน แต่นอกจากไม่รับฟังแล้วเขายังดึงดันทำตามความต้องการของตัวเองโดยไม่คิดหรือไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าวันวิสาข์จะเสียใจหรือเจ็บปวดแค่ไหนกับการเอาแต่ใจของเขา
ขอโทษ
พรรษได้แต่พร่ำบอกท่ามกลางความเสียใจและสำนึกผิด ในขณะที่ปากเหมือนถูกปิดจากรอยเจ็บร้าวและสะเทือนใจในดวงตาของวันวิสาข์
“ไม่ต้องขอโทษ ถ้านั่นคือสิ่งเดียวที่คุณคิดว่าจะชดใช้ให้กับฉันได้เพราะ...ฉันไม่ต้องการ แต่ถ้าคุณคิดว่าจะทำตามความต้องการของฉันเพื่อเป็นการไถ่โทษ ฉันก็ยินดีรับเอาไว้เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการจากคุณก็คือ...”
วินาทีนั้น พรรษรู้ได้ก่อนที่จะได้ยินคำพูดเสียอีก แววตาของวันวิสาข์ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะถูกควักหัวใจออกไป ท่ามกลางความตีบตันในลำคอและความรู้สึกที่เหมือนกำลังขาดอากาศหายใจไปทุกขณะ คำพูดของวันวิสาข์ไม่ต่างจากการลงมีดมาปักที่กลางหัวใจของเขา
“อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ พานายพรรษมางอนง้อขอคืนดีค่ะ ^^
ตอนนี้ อาจเศร้านิดหน่อยค่ะ เพราะนายพรรษอยู่ในโหมดสำนึกผิดแต่เจ้าขาก็ไม่ใจอ่อนง่าย ๆ
ไว้หลังจากนี้มาดูกันค่ะว่านายคนนี้จะงัดวิธีไหนมาง้อสาว ^^
ส่วนเรื่องนี้ เหลือไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วค่ะ ทำให้ใจหายหน่อย ๆ เหมือนกันเพราะเหมือนคลุกคลีกับสามหนุ่มสามฤดูมานาน
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และทุก LIKE ที่มอบเป็นกำลังใจให้กันเสมอมาค่ะ
konhin : อ่านคอมเม้นท์แล้วเข้าใจเลยค่ะว่าทำไมถึงยังไม่อยากให้เจ้าขาท้องตอนนี้...โดยเฉพาะคอมเม้นท์บรรทัดสุดท้ายทำเอาหัวเราะ ใจดีจังตามใจคนเขียนด้วยอ่ะ (แล้วคนเขียนก็ชอบเอาแต่ใจตัวเองด้วยสิ ฮ่า ๆๆ) แต่เรื่องท้องหรือไม่ท้องเนี่ยขอให้คำตอบเป็นตอนหน้านะคะ ^^
ปอยอะนะ : อยากส่งรูปหน้ายิ้มไปให้บ้างแต่ทำไม่ได้ งั้นขอส่งเป็นรอยยิ้มแทนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^__^
ปิ่นนลิน : คร้า เจอกันแล้ว ^^
Zephyr : โห...ให้เจ้าขาอาหารเป็นพิษดีกว่ามีลูกตอนนี้หรือคะ อืม..แต่เข้าใจเหตุผลเลยค่ะว่าควรจัดการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองไม่ใช่มีเรื่องลูกเป็นเงื่อนไขหรือตัวช่วย แต่จะท้องหรือไม่ท้องไว้รอผลตอนหน้านะคะ ว่าแต่ไป ๆ มา ๆ ผู้ชายแสนดีอย่างพี่ชลก็จะได้รับแจกของขวัญด้วยหรือคะ เค้าออกจะน่าสงสารน๊า..เก็บของขวัญไว้แจกให้พันวลีดีกว่าค่ะ โฮะ ๆๆๆๆ
นักอ่านเหนียวหนึบ : โอเครคร้า...เห็นแก่ที่บอกว่า มีแต่นางฟ้าาาาาาา พันวลีก็เลยปิดตำราไม่ท่องคาถามนต์ดำใส่ อ๊ะ..อ๊ะ หมายถึงว่าเตรียมท่องใส่นายพรรษนะคะ ไม่ใช่คนอ่านน่ารัก ๆ อย่างคุณนักอ่านเหนียวหนึบ โฮะ ๆๆๆๆ (ดีนะที่ทัน เฮ้อออ)
ผักหวาน : คร้า...ตามเจ้าขาเจอแล้ว ง้อแล้ว แต่จะสำเร็จหรือเปล่านี่สิคะ ^^
หมูบูลิน : ใช่ค่ะ คุณพรรษตามเจ้าขาเจอแล้ว พยายามง้อด้วย..ส่วนเรื่องป่วยเพราะตัวเล็กหรือเปล่า พันวลีขอให้คำตอบตอนหน้านะคะ (หุ หุ มีการอุบไว้ก่อนด้วย) ^^
พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 พ.ค. 2558, 07:52:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 พ.ค. 2558, 08:21:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 1661
<< ตอนที่ 23 | ตอนที่ 25 - ตอนจบบริบูรณ์ >> |
konhin 10 พ.ค. 2558, 11:41:00 น.
คนที่ทำร้ายคนอื่นแล้วมาสำนึกผิด มักจะใช้เหตุผลว่าตัวเองก็เจ็บเหมือนกัน
แต่
คนกระทำกับคนถูกกระทำ เจ็บไม่เท่ากันหรอก จนกว่าคนกระทำจะกลายเป็นคนถูกกระทำซะเอง
เจ้าขาสู้ๆ ในเมื่อคุณหมอไม่อยู่เป็นตัวช่วยแล้ว ถ้าไม่อยากเจอก็หนีเองเลยค่ะ ทีนี้รับรองว่าไม่มีเบาะแส ถ้าก่อนไป ตีหัวตัวการให้สลบเหมือดก่อน (อยากเห็นอ่ะ ซาดิสไปป่ะ??) เผื่อจะได้นายสูญกลับมาไง เอ๊ะ น่าสนใจ แล้วตอนจบเอาแบบเกาหลี เพราะถูกตีหัวหลายรอบเลยเป็นเลือดคั่งในสมองความจำเสื่อมถาวร หนักๆกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ฮ่าๆๆ
ปล อยากให้ขำ จริงๆนะ
คนที่ทำร้ายคนอื่นแล้วมาสำนึกผิด มักจะใช้เหตุผลว่าตัวเองก็เจ็บเหมือนกัน
แต่
คนกระทำกับคนถูกกระทำ เจ็บไม่เท่ากันหรอก จนกว่าคนกระทำจะกลายเป็นคนถูกกระทำซะเอง
เจ้าขาสู้ๆ ในเมื่อคุณหมอไม่อยู่เป็นตัวช่วยแล้ว ถ้าไม่อยากเจอก็หนีเองเลยค่ะ ทีนี้รับรองว่าไม่มีเบาะแส ถ้าก่อนไป ตีหัวตัวการให้สลบเหมือดก่อน (อยากเห็นอ่ะ ซาดิสไปป่ะ??) เผื่อจะได้นายสูญกลับมาไง เอ๊ะ น่าสนใจ แล้วตอนจบเอาแบบเกาหลี เพราะถูกตีหัวหลายรอบเลยเป็นเลือดคั่งในสมองความจำเสื่อมถาวร หนักๆกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ฮ่าๆๆ
ปล อยากให้ขำ จริงๆนะ
ปิ่นนลิน 10 พ.ค. 2558, 15:07:16 น.
สงสารทั้งพรรษ และเจ้าขานะ ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี
เจ้าขาก็เจ็บปวดมาเยอะจากการที่พรรษใจร้าย
แต่ที่พรรษใจร้ายก็เพราะความเข้าใจผิด
งานนี้พรรษต้องสู้ๆหน่อยนะ แค่สำนึกผิดมันไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายยอมใจอ่อนได้เสมอไป
นี่ปิ่นแอบคิดว่า ... เพราะเจ้าขายังรักสูญอยู่ การทำใจยอมรับว่า สูญ คือ พรรษ น่าจะเป็นปัญหาอีกอย่างของเจ้าขา
สูญที่ไม่มีอะไรผูกมัด ไม่ว่าจะสังคม ครอบครัว ทำให้เจ้าขาไว้ใจ เชื่อใจได้มากกว่า พรรษ น้องชายพี่ซันจริงๆ
พรรษต้องทำคะแนนสู้กับ นายสูญ แล้วละ ฮึ้บๆ
สงสารทั้งพรรษ และเจ้าขานะ ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี
เจ้าขาก็เจ็บปวดมาเยอะจากการที่พรรษใจร้าย
แต่ที่พรรษใจร้ายก็เพราะความเข้าใจผิด
งานนี้พรรษต้องสู้ๆหน่อยนะ แค่สำนึกผิดมันไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายยอมใจอ่อนได้เสมอไป
นี่ปิ่นแอบคิดว่า ... เพราะเจ้าขายังรักสูญอยู่ การทำใจยอมรับว่า สูญ คือ พรรษ น่าจะเป็นปัญหาอีกอย่างของเจ้าขา
สูญที่ไม่มีอะไรผูกมัด ไม่ว่าจะสังคม ครอบครัว ทำให้เจ้าขาไว้ใจ เชื่อใจได้มากกว่า พรรษ น้องชายพี่ซันจริงๆ
พรรษต้องทำคะแนนสู้กับ นายสูญ แล้วละ ฮึ้บๆ
กาซะลองพลัดถิ่น 10 พ.ค. 2558, 17:38:56 น.
เจ้าขา ต้องมีเหตุผลด้วยนะ การที่พรรษ ร้ายเพราะข้าใจผิด คนที่น่าจะโกรธแบบไม่น่าให้อภัยเลยคือ ยายแก่นั้น แต่ก็นะเขาก็มีบุญคุณล้นหัวเหมือนกันจะว่าไป ...........และตัวเองก็ถูกทำให้เข้าใจผิดสูญด้วยไม่ใช่เหรอ ......ถึงตอนนี้ได้รุ้ความจริงกันแล้ว อยากจะโกรธต่ออยากทำร้ายหัวใจตัวเองก็ทำไปเลย ....จะว่าผิดไหม ก็ผิดด้วยกันทั้งหมดนั้นแหละ
เจ้าขา ต้องมีเหตุผลด้วยนะ การที่พรรษ ร้ายเพราะข้าใจผิด คนที่น่าจะโกรธแบบไม่น่าให้อภัยเลยคือ ยายแก่นั้น แต่ก็นะเขาก็มีบุญคุณล้นหัวเหมือนกันจะว่าไป ...........และตัวเองก็ถูกทำให้เข้าใจผิดสูญด้วยไม่ใช่เหรอ ......ถึงตอนนี้ได้รุ้ความจริงกันแล้ว อยากจะโกรธต่ออยากทำร้ายหัวใจตัวเองก็ทำไปเลย ....จะว่าผิดไหม ก็ผิดด้วยกันทั้งหมดนั้นแหละ
Zephyr 10 พ.ค. 2558, 21:43:04 น.
อืม จริงๆก็แอบสะใจเล็กๆกะการเอาคืนของเจ้าขานะ
อีกใจก็แบบ จะทรมานกันไปเพื่ออะไรกันคะ
เจ็บคู่สองคน กะ หันหน้าหากัน คุยกันให้เข้าใจ
จะได้สุขคู่ไม่ดีกว่าเรอะ
เฮ่ออออ เอาพอหอมปากหอมคอละกัน
อีกเรื่อง เค้ารู้สึกเหมือนนางมิได้รักพรรษ
แต่นางรักสูญเสีย ถึงจะคนเดียวกัน
แต่คนละใจ ซึ่งตอนนี้พยายามรวมใจอยู่ถ้าเป็นงั้นจริงก็แอบสงสารพี่เรน จิ้ดนึง ที่ต้องมานั่งหึงตัวเองในอดีต
อืม จริงๆก็แอบสะใจเล็กๆกะการเอาคืนของเจ้าขานะ
อีกใจก็แบบ จะทรมานกันไปเพื่ออะไรกันคะ
เจ็บคู่สองคน กะ หันหน้าหากัน คุยกันให้เข้าใจ
จะได้สุขคู่ไม่ดีกว่าเรอะ
เฮ่ออออ เอาพอหอมปากหอมคอละกัน
อีกเรื่อง เค้ารู้สึกเหมือนนางมิได้รักพรรษ
แต่นางรักสูญเสีย ถึงจะคนเดียวกัน
แต่คนละใจ ซึ่งตอนนี้พยายามรวมใจอยู่ถ้าเป็นงั้นจริงก็แอบสงสารพี่เรน จิ้ดนึง ที่ต้องมานั่งหึงตัวเองในอดีต
นักอ่านเหนียวหนึบ 10 พ.ค. 2558, 23:45:01 น.
นี่คือเศร้านิดหน่อย?????? อะเค๊ หน่อยเดียวววววเลยยยย คอขมปร่าาาา
นี่คือเศร้านิดหน่อย?????? อะเค๊ หน่อยเดียวววววเลยยยย คอขมปร่าาาา