อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า
ตอน: ตอนที่ 20
ตอนที่ 20
“อย่าลืมนะคะ พี่พัดต้องซื้อลูกแมวให้จันทร์นะ นะคะๆ”เสียงหวานอ้อนคนรักหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ร่างบางเขย่าแขนชายหนุ่มไปมา จนเขาต้องรีบรับปากเพราะกลัวแขนจะหลุดติดมืออีกฝ่ายไป
“จ๊ะๆ ได้ แต่ต้องให้พี่หาข้อมูลจากคุณตฤณก่อนนะ”
“จริงเหรอคะ! ขอบคุณมากค่ะ”พรายจันทร์ปล่อยแขนชายหนุ่ม ก่อนจะพนมมือขอบคุณอย่างสวยงาม
“พี่ไม่โกหกหรอกครับ แต่ขอบคุณแค่นี้เองเหรอ ไม่มีอย่างอื่น?”
“ไม่มีค่ะ”
“ใจร้าย อย่างน้อยกู๊ดไนท์ คิสก็ยังดี” พัดยศบ่นแล้วก็ต้องตาโตเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างนุ่มๆมาโดนที่แก้มของตน ชายหนุ่มหันไปมองคนจู่โจมที่วิ่งหนีเข้าบ้านไปอย่างเอ๋อๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อสายตาของตนทันเห็นอีกฝ่ายหน้าแดง แล้วขึ้นรถขับกลับบ้านของตนไปอย่างมีความสุข เช่นเดียวกับหญิงสาวที่เดินแกมวิ่งจากหน้ารั้วบ้านมาถึงหน้าบ้านของตนอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง
“แหม อารมณ์ดีจังนะ ไม่รู้ว่าบ้านนังตาลมันมีอะไรดี คุณหนูอนามัยอย่างแกถึงกลับมาเสียดึก”ตะวันฉายกอดอกเดินเอื่อยๆมาขวางหน้าน้องสาวเอาไว้ พร้อมพูดกระแทกไปยังเพื่อนของดาวเหนือที่ถือว่าเป็นคู่อาฆาตอีกคนของตะวันฉาย พรายจันทร์ถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ไปเล่นกับลูกแมว ยายดาวเขาเลี้ยงไว้ที่บ้านนั้น”
“เหอะ! ไอ้สัตว์หน้าขนโสโครก แกไปจับตัวมันมาหรือเปล่า อย่ามาโดนตัวฉันนะ ขยะแขยงแกเล่นเข้าไปได้ไง ต่ำซะไม่มี!”ตะวันฉายถอยห่างจากน้องสาวร่วมมารดาอย่างรังเกียจ ก่อนจะชะงักเมื่อพรายจันทร์สวยกลับมาทันที
“พี่ตะวันเอาอะไรมาวัดคะ ว่าสัตว์ตัวไหนสูงตัวไหนต่ำ ของแบบนี้มันวัดกันที่จิตใจ ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก มนุษย์เองก็เหมือนกันค่ะ หากหน้าตาสวย...”ร่างบางปรายตามองพี่สาว ก่อนจะต่อ
“...แต่จิตใจหยาบกระด้าง มันก็ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานหรอกค่ะ ทีหลังอย่าเอาไปพูดที่ไหนอีกนะคะ เดี๋ยวคนที่ได้ยินเขาจะมาว่าจันทร์เอาได้ว่าทีกับเด็กอนุบาลยังพูดให้รู้เรื่องได้ แต่ทำไม่กับพี่ตัวเอง...”พายจันทร์หยุดหายใจอีกครั้ง ถอยออกมาตั้งหลักเล็กน้อยพร้อมกับมองหน้าพี่สาวที่ตอนนี้ยืนมองเธอตาเขียว แล้วพูดต่อจนจบ “...กลับพูดให้รู้เรื่องไม่ได้ ขอตัวก่อนนะคะพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน”
แล้วหญิงสาวก็เดินผ่านหน้าตะวันฉายที่ยืนอึ้งก่อนจะร้องกรี๊ดพร้อมกระทืบเท้าอยู่กับที่อย่างขัดใจกับคำพูดหลอกด่าแบบเรียบของน้องสาว ร่างเพรียวมองตามหลังอีกฝ่ายไปตาขวาง
“อวดดี! ถ้าไม่ได้ฉัน แกจะมีผัวไหมนังจันทร์ นังโง่!”
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานหมั้นของยายจันทร์กับตาพัดแล้วนะคะ คุณแม่อยากจะเพิ่มอะไรในงานหรือเปล่าคะ มินจะได้จดเอาไว้กันลืม”คุณมินตราถามแม่สามีในขณะที่นั่งสนทนากันถึงเรื่องงานมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ววันนี้ โดยมีคุณบุษบาคอยเป็นลูกมือจดนู่นนี่อยู่ไม่ห่างภายในห้องสมุด ส่วนคุณชนะชัยที่ยกหน้าที่จัดงานต่างๆให้กับเหล่าสุภาพสตรีทั้งหลายของบ้านก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่เก้าอี้อีกมุมหนึ่ง
“อืม แม่อยากให้แม่บุษทำขนมหวานเพิ่มอีกซักสองอย่างน่ะ เอาเป็นพวกที่ทานง่ายๆไม่เลอะเทอะเวลาทานน่ะ เพราะแขกของแม่เขาชอบ”คุณหญิงผกามาศหันไปบอกภรรยาอีกคนของบุตรชาย ก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้ตามกฎหมายอีกคน
“ตอนนี้เรามีอาหารคาวหวานอะไรบ้างแม่มิน”
“อาหารคาวมินสั่งจากโรงแรม...”คุณมินตราเอ่ยชื่อโรงแรมและรายชื่ออาหารที่สั่งให้แม่สามีฟัง คุณหญิงผกามาศพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปทางลูกสะใถชภ้หมายเลขสองที่เอ่ยรายชื่อของหวานขึ้นมาเหมือนกัน
“ส่วนของหวานที่บุษทำก็มีขนมมงคลเก้าอย่างค่ะเป็นตัวยืน ส่วนที่คุณแม่ขอเพิ่มเข้ามาบุษว่าจะทำตะโก้ถ้วยเล็กๆพอดีคำ กับลูกชุบค่ะ ทานง่ายดี”
“อืม ก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงเดี๋ยวแม่บุษก็ดึงเอาเด็กๆไปช่วยด้วยแล้วกันเยอะขนาดนั้นทำคนเดียวไม่หมดหรอก”
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะคุณแม่ มินเองก็จะลงไปช่วยด้วย”คุณมินตราบอกก่อนจะหันไปถามเรื่องอื่นกับคุณบุษบา
“บุษแล้วเรื่องสถานที่ล่ะ ที่จดเอาไว้ได้ครบทุกอย่างไหม”
“ยังขาดเรื่องตกแต่งเท่านั้นค่ะคุณพี่ สนามหญ้าหน้าบ้านเล็กเกินไปหากคำนวณเรื่องแขกที่จะมา เกรงว่าคงจะไม่พอหากจะให้พวกเขานั่งโต๊ะจนครบทุกคน”คุณบุษบาบอกเสียงอ่อย เพราะจำนวนแขกที่ได้เชิญไปกับขนาดของสนามหญ้าที่ใช้จัดวางโต๊ะทานอาหารนั้นไม่ใหญ่พอที่จะรับแขกได้ทั้งหมดและตอนนี้ก็ยังหาทางแก้ไม่ได้
“แล้วกัน! ไอ้ที่สำคัญดันยังไม่ลงตัว จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”คุณมินตราบ่น คุณชนะชัยเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์ที่กำลังอ่านอยู่มองใบหน้าเคร่งเครียดของภรรยาเบอร์หนึ่ง หลังจากนั้นก็เลื่อนไปที่ภรรยาเบอร์ที่นั่งหน้าจ๋อย ส่วนมารดาของเขาเองก็กำลังดมยาดมอยู่ แล้วก็ต้องถอนหายใจก่อนจะพูดออกมา
“ก็ให้ยายดาวมาช่วยสิ คิดกันให้มากมายทำไม ทำงานด้านนี้อยู่ก็ให้มาช่วยๆกัน จะได้ประหยัดเงินด้วย” พอได้ยินที่คุณชนะชัยบอกดังนั้น คุณมินตรา คุณบุษบาก็ตาโตมองหน้ากันอย่างดีใจ ส่วนคุณหญิงผกามาศยังคงนั่งงง
“ยายดาวทำงานด้านไหนเหรอพ่อชนะ”
“คุณแม่ยังไม่ทราบเหรอครับ ผมนึกว่าผมกับบุษรู้เรื่องนี้เป็นคนสุดท้ายแล้วซะอีก”คุณชนะชัยพับหนังสือพิมพ์ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัยเพราเขานึกว่าภรรยาเบอร์หนึ่งของเขาจะเล่าเรื่องงานของดาวเหนือให้มารดาของเขาฟังแล้ว คุณหญิงส่ายหน้าก่อนจะหันไปค้อนคุณมินตรากับคุณบุษบาเมื่อได้ฟังเฉลย
“ก็ยายดาวน่ะเขาทำงานตกแต่งภายในอยู่บริษัทของรุ่นพี่เขามาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบน่ะครับ ผมเองก็เพิ่งทราบเมื่อเร็วๆนี้เอง”
“หึ!ร้ายนักนะแม่ตัวดีนั่น มีงานมีการเป็นมั่งคงก็ไปปริปากพูดปล่อยให้เราเขาใจว่าไม่เอาไหนอยู่ได้ตั้งนาน ลัวหล่อนไม่คิดจะบอกฉันบ้างหรือไงฮะแม่บุษ”เมื่อหลานสาวตัวดีไม่อยู่ให้เล่นงาน ท่านเลยต้องแอบเหน็บลูกสะใภ้เบอร์สองเล็กๆ
“บุษก็เพิ่งทราบพร้อมคุณชนะเหมือนกันค่ะคุณแม่ แต่คุณพี่น่ะทราบมานานแล้ว”
“อ่อ! แล้วหล่อนทำไมไม่บอกฉันบ้าง แม่มิน”เมื่อได้ฟังดังนั้นคุณหญิงผกามาศจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นงานลูกสะใภ้ใหญ่แทน คุณมินตรายิ้มแหยก่อนจะตอบ
“ก็ยายดาวขอไว้นี่คะ มินรับปากไปแล้วก็ไม่อยากเสียผู้ใหญ่ เลยต้องปิดเอาไว้”
“ย่ะ!แม่ผู้ใหญ่ แล้วนี่แม่ตัวดีอยู่บ้านรึเปล่า แม่บุษ”
“อยู่ค่ะ คุณแม่จะให้ไปเรียกไหมคะ”
“แน่ล่ะ คอยดูนะถ้าวันนี้ฉันเล่นงานยายดาวไม่ได้ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าคุณหญิง! คอยดู”คุณหญิงผกามาศหมายมั่นว่าวันนี้จะต้องเล่นงานหลานสาวตัวแสบให้ได้ แต่คนอื่นๆในห้องหันไปมองหน้ากันเองพลางคิดในใจอย่างรู้บทสรุป
‘ไม่มีทาง!’
“คุณย่าให้พี่อ้อยไปเรียกดาวมามีอะไรเหรอ”ดาวเหนือถามผู้เป็นย่าขณะนั่งพับเพียบลงที่พื้นด้านนหน้าเช่นเดียวกับพี่สาวคนรองที่ตามมาด้วย คุณหญิงมองหลานสาวทั้งสองก่อนจะสะบัดหน้าหนี ทำเอาดาวเหนือและพรายจันทร์ถึงกับงง ส่วนผู้ใหญ่ทั้งสามได้แต่แอบกลั้นหัวเราะกับท่าทางราวกับสาวๆของผู้อาวุโสของบ้าน
“คุณย่าสะบัดคอเร็วอย่างนั้นเดี๋ยวคอก็หลุดตามไปด้วยหรอก คอหลุดหมอก็ไม่รับรักษานะ มีทางเดี๋ยวเท่านั้น...”ดาวเหนือแกล้งบอกอีกฝ่ายแล้วทิ้งค้างไว้ ทำให้คุณหญิงที่จะแกล้งงอนเสียหน่อยต้องเป็นฝ่ายออกปากถามเพราะอยากรู้
“ทางไหนย่ะ”
“ก็ส่งเข้าโลงไง โอ๊ย!”ร่างโปร่งเฉลยเสร็จก็ต้องร้องลั่นเพราะโดนหยิกเข้าให้ ตามมาด้วยเสียงฟ้องคนอื่นๆของคุณหญิง
“ดู ดูมันนะ มีอย่างที่ไหนมาแช่งให้ฉันตาย เดี๋ยวเถอะทำผิดซ้ำซาก เรื่องเก่ายังไม่จบมาสร้างเรื่องใหม่ เดี๋ยวก็ตีให้หลังลายเสียดีไหม”ว่าแล้วก็ทำท่าจะเข้าไปตีจริงๆ ทำเอาหญิงสาวต้องรีบคลานหนีไปอยู่ด้านหลังพี่สาวคนสวยทันที แต่ยังไม่วายยื่นหน้าออกมาเถียง
“ไม่ดี! แล้วดาวไปก่อเรื่องอะไร ดาวออกจะเรียบร้อยนะช่วงนี้”
“เรียบร้อยมาก! เรียบร้อยเป็นผ้าขี้ริ้วน่ะสิหล่อนน่ะ เอิ๊ก! เอายาดมมาทีสิแม่มิน แม่จะเป็นลม”คุณหญิงผกามาศประชดหญิงสาวเสร็จแล้วก็ต้องร้องหายาดมประจำตัวจากลูกสะใภ้เพราะเริ่มเหนื่อยจากการเล่นงานหลานสาวคนเล็ก
“ตกลงดาวไปทำอะไรไว้ คุณย่าถึงมาหาเรื่องดาว”
“น้อยๆหน่อยแม่ตัวดี ฉันไม่ได้หาเรื่อง แต่หล่อนน่ะจะอมพะนำเรื่องงานของหล่อนไปจนฉันลงโลงเลยหรือไง ไม่คิดจะให้ฉันภูมิใจในตัวหล่อนบ้างรึ มีงานมีการทำแล้วก็ไม่บอกปล่อยให้นั่งเครียดจนหัวหงอกกลัวว่าหลานคนเล็กจะไม่ได้ดี แล้วพอจะบอกก็เลือกบอก มันน่าน้อยใจนัก”
ดาวเหนือซ่อนยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งกอดเอวย่า พร้อมพูดประจบเมื่อเห็นท่าทางน้อยใจของอีกฝ่าย สรุปก็คือย่าของเธอไม่ได้โกรธอะไร แค่น้อยใจที่ไม่ได้รู้เรื่องก่อนคนอื่นเท่านั้น
“ดาวขอโทษ ต่อไปมีอะไรดาวจะบอกคุณย่าก่อนดีไหม”
“ให้มันจริงเถอะ โดยเฉพาะเรื่องแต่งงานถ้าแกไม่มาบอกฉันก่อนอย่าหวังว่าจะได้แต่ง ฮึ!”ร่างโปร่งชะงัก ก่อนจะเลื่อนตัวกลับมานั่งเจี๋ยมเจี้ยมที่เดิมเมื่อเจอสายตาของย่า คุณชนะชัยหน้าเข้มก่อนจะถามเสียงห้วน
“แล้วนี่เมื่อไหร่จะพามาให้รู้จักล่ะ หรือจะรอจนจะแต่งงานเลย”
“ก็รอให้ผ่านงานพี่จันทร์ก่อน”หญิงสาวตอบ ก่อนจะหันขวับไปหาพี่สาวเมื่ออีกฝ่ายเสนอขึ้นมา
“ทำไมล่ะดาว พามาเปิดตัวในวันงานเลยสิจ๊ะ”
“นั่นสิลูก”คุณบุษบารีบเออออไปกับพรายจันทร์ทันทีเพราะไม่งั้นหากรอต่อไปเรื่อยคงจะอีกนาน ดาวเหนือถอนหายใจก่อนจะตอบเลี่ยงๆ
“ก็ได้ แต่ดาวต้องไปถามพี่เขาก่อนนะว่าว่างไหม งานพี่เขาเยอะ”
“ไม่ต้องหรอกพี่พัดไปถามแล้ว คุณตฤณบอกว่าว่างมาได้แน่”พรายจันทร์ตัดทางรอดของน้องสาวคนเก่งทันที สุดท้ายเมื่อไม่มีทางรอดร่างโปร่งเลยได้แต่ยอมรับชะตากรรม
“ตกลงดาวจะพาพี่เขามาวันงาน พอใจไหม?”หญิงสาวบอกอย่างประชดประชันก่อนจะหน้างงอเมื่อเสียงประสานของทุกคนดังกลับมาพร้อมกัน
“ดีมาก!”
“เอาล่ะๆ พอได้แล้ว มาเข้าเรื่องกันซักที ยายดาวย่าอยากจะขอให้เราช่วยตกแต่งสถานที่วันงานหมั้นพี่สาวเราให้หน่อยได้ไหม ย่าไม่รู้จะหาใครมาช่วยแล้วจริงๆ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขาดแต่การจัดแต่งนี่แหละ”คุณหญิงผกามาศเอ่ยขอร้องร่างโปร่งที่นั่งมองคนโน้นที คนนี้ที ก่อนจะมาหยุดลงที่เจ้าของงานตัวจริงที่มองกลับมาอย่างคาดหวัง ดาวเหนือยิ้มบางๆก่อนจะเอ่ยคำตอบ
“เพื่อพี่สาวและพี่ชายที่รัก ทำไมจะไม่ได้ล่ะ คอยดูนะ ดาวจะเนรมิตงานนี้ออกมาให้สวยที่สุด สวยกว่างานอื่นๆเลย”
“ขอบใจมากจ๊ะ น้องรัก”พรายจันทร์ยิ้มกว้างแขนเรียวกางกอดน้องสาวคนโปรดเอาไว้ ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็อมยิ้มกับภาพความรักของสองพี่น้อง
“แหม!ครอบครัวสุขสันต์กันจริงนะคะ ลืมไปรึเปล่าว่าบ้านนี้น่ะยังมีตะวันด้วยอีกคน”เสียงหวานดังกระแนะกระแหนเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามาในห้อง พรายจันทร์แอบย่นจมูก ส่วนดาวเหนือก็นั่งหน้านิ่ง คุณมินตราเห็นบรรยากาศที่กำลังดีๆเริ่มจะเสีย ก็รีบทักทายลูกสาวคนโตทันที
“ใครจะไปลืมล่ะลูก แม่เห็นว่าตะวันออกไปข้างนอก ไม่นึกว่าจะกลับมาเร็ว แล้วไปไหนมาล่ะจ๊ะ”
“ไปเอาชุดใหม่ที่จะใส่วันงานหมั้นยายจันทร์ไงคะ”ตะวันฉายเดินผ่านหน้าดาวเหนือไปนั่งข้างๆผู้เป็นย่าพลางโชว์ชุดเกาะอกเดรสยาวสีทองอร่าม แถมยังเอามาโบกไปมาตรงหน้าคู่อาฆาต
“คุณย่า งานหมั้นเนี่ยใครเด่นสุด”อยู่ๆดาวเหนือก็ถามขึ้นมา ดวงตากลมสวยมองหน้าคุณหญิงผกามาศ คุณหญิงมองหน้าหลานสาวงงๆก่อนจะตอบ
“มันก็ต้องยายจันทร์น่ะสิ ถามทำไม”
“ก็ดาวสงสัย เพราะมีใครบางคนแถวนี้อยากเด่นเกินหน้าพี่จันทร์”
“แกว่าฉันเหรอ!”ตะวันฉายลุกพรวด นิ้วเรียวชี้หน้าอีกฝ่าย ดาวเหนือเองก็ลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมกับการโจมตีจากอีกฝ่ายทันที
“ไม่ได้ว่าคุณตะวัน พูดลอยๆคุณตะวันรับทำไมล่ะ”
“ฮึ้ย!แก นังอุกกาบาต วอนมือฉันใช่ไหม”
“เอาสิ!อย่านึกว่ามีมือคนเดียวนะ”สองสาวทำท่าจะพุ่งเข้าใส่กัน แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงเฉียบขาดของคุณหญิงผกามาศดังขึ้นมาเสียก่อน
“นี่เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอกันรึไง! พอได้แล้ว ตะวันขึ้นห้องไปซะ ยายดาวก็นั่งลงซะ มีเรื่องอื่นที่ต้องทำอยู่อีกมาก อย่าทำตัวเหมือนคนไม่มีสมองเอะอะก็ใช้กำลัง ถ้ายังไม่เลิกฉันจะจับให้ไปอยู่ด้วยกันเสีย”
“คุณย่า!”ตะวันฉายกระทืบเท้าไม่พอใจ แต่ก็ต้องถอยเพราะดูจากสายตาแล้วคราวนี้คุณย่าของพวกเธอคงเอาจริง ร่างเพรียวฉวยเอาเสื้อตัวใหม่ก่อนจะเดินกระแทกกลับไป ส่วนดาวเหนือก็พนมมือไหว้ขอโทษก่อนจะลงไปนั่งตามเดิม คุณมินตรา คุณบุษบาและคุณชนะชัยมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มดูท่าสองคนนี้คงไม่มีทางคุยกันดีๆได้แน่
“เอาล่ะ ยายดาวย่าต้องการให้งานออกมา....”คุณหญิงผกามาศเริ่มเรื่องที่ค้างเอาไว้อีกครั้ง โดยไม่สนใจอย่างอื่นอีก และทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ วันแล้ววันเล่าจนถึงวันที่ทุกคนรอคอย...
พรายจันทร์มองหญิงสาวในชุดไทยจักรีสีเปลือกไข่ไก่ที่สะท้อนจากกระจกโต๊ะเครื่องแป้งตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง ดวงตาเรียวสวยทอประกายแห่งความสุขอย่างปิดไม่มิด ระหว่างที่นั่งรอให้ช่างแต่งหน้าที่มารดาจ้างมาสำรวจความเรียบร้อยของใบหน้าและทรงผมซึ่งรวบเป็นมวยไว้ด้านบนประดับด้วยปิ่นปักผมเครื่องทองอันเป็นของเก่าของคุณหญิงผกามาศ ร่างบางบีบมือของตนแน่นด้วยความตื่นเต้นเพราะวันนี้คือวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตของเธอ วันหมั้นของเธอและผู้ชายคนที่รักเขามาเกือบทั้งชีวิต...พัดยศ
“เสร็จแล้วฮ่าคุณน้อง สวยเลิศไปเลยฮ่า เจ๊รับรอง!”คุณช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองถอยออกมาดูผลงานของตนเองอย่างพอใจ ก่อนจะถอยออกไปอีกนิดเพื่อให้แม่ของว่าที่เจ้าสาวเข้ามาดูความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย คุณมินตรามองใบหน้างามของลูกสาวคนรองที่ดูมีความสุขมาก แน่นอนว่าเมื่อลูกสุขเธอเองก็สุขด้วย
“วันนี้ลูกแม่สวยที่สุด แม่ดีใจมากที่ลูกมีวันนี้”
“จันทร์ก็ดีใจค่ะ ต้องขอบคุณยายดาวที่ทำให้จันทร์กับพี่พัดมีวันนี้ ขอบคุณพ่อกับแม่ที่สอนให้ จันทร์เป็นจันทร์ทุกวันนี้ จันทร์รักแม่นะคะ”หญิงสาวกราบมารดาที่ น้ำใสๆเอ่อคลอดวงตาคู่สวย คุณมินตรายิ้มอ่อนโยนก่อนจะใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกจาใบหน้าของลูกสาว แสร้งดุ
“พอแล้ว! มาร้องโยเยเป็นเด็กๆไปได้ วันนี้เป็นวันดีนะ อย่าร้องไห้เดี๋ยวหมดสวย โดนพี่สาวเราขโมยซีนไปแม่ไม่รู้ด้วยนะ”
พรายจันทร์ย่นจมูกก่อนส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดของมารดาเพราะเธอรู้ดีว่าวันนี้คนที่จะแย่งซีนเธอไปได้ และเป็นคนเดียวที่เธอยอม ไม่ใช่ยอมเพราะกลัวอย่างตะวันฉายแต่ยอมเพราะคนๆนี้จะทำให้ตะวันฉายพ่ายแพ้ได้เท่านั้นเอง
“วันนี้พี่ตะวันต่างหากจะโดนแย่งซีน แย่งแบบเงียบๆด้วย”
“หือ ใครกันจะมากล้าแข่งกับพี่เรา ไม่กลัวโดนเฉือดด้วยคำพูดหรือไง”
“ก็ยายดาวไงคะแม่ เห็นน้าบุษบอกว่าคุณตฤณมากับยายดาวแล้ว ตอนนี้กำลังโดนคุณพ่อซักฟอกอยู่ที่บ้านเล็กน่ะค่ะ”คุณมินตราตาโต เพราะเธอมัวแต่วุ่นวายกับว่าที่เจ้าสาวเลยไม่รู้เลยว่าที่บ้านของคุณบุษบากำลังมีการซักฟอก ‘จำเลยหน้าหยก’ ที่ดอดมาจีบลูกสาวนอกไส้ของเธออย่างเงียบๆ
“แหม!ไม่รอแม่กันเลย แม่ก็อยากคุยกับตาตฤณเขาอยู่เหมือนกันนะ อยากรู้ว่ามาหลงเสน่ห์ยายดาวได้ยังไง”คุณมินตราบ่นน้อยๆ พรายจันทร์แย้มยิ้มก่อนจะคุยโอ่
“จันทร์รู้ค่ะ ยายตาลเล่าให้ฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่า....”แล้วว่าที่เจ้าสาวก็นั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับเล่าเรื่องราวความรักที่ไปรู้มาจากหนึ่งในพยานรักอย่างตรีทิพย์ให้มารดาฟังอย่างสนุกสนาน เป็นการฆ่าเวลารอให้ถึงฤกษ์มงคลของตน
“อุ๊ย! แม่ให้ไฟเขียวเลยนะคนนี้ วิธีบอกรักโรแมนติกมาก ไม่นับที่รักเดียวใจเดียวมานานนับสิบปี แถมยังมีวิธีปราบยายดาวได้ด้วย มาขแม่อไหร่จะยุน้าบุษให้ยกให้เลย”คุณมินตราบอกอย่างชอบใจภายหลังจากฟังเรื่องรักๆของดาวเหนือกับตฤณที่ดูน่ารักโรแมนติกมากๆ ก่อนที่บทสนทนาจะหยุดลงเมื่อคุณบุษบาขึ้นมาตามว่าที่เจ้าสาวให้ลงไปในงานเพราะได้เวลาแล้ว
พัดยศนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่เบื้องหน้าผู้ใหญ่ในพิธีทั้งหลาย ทั้งคุณหญิงผกามาศ ทั้งพ่อแม่ของเขาและคุณชนะชัยที่นั่งสนทนากันอยู่ ชายหนุ่มเหลือบตามองไปทางบันไดอยู่บ่อยครั้ง จนตฤณที่ถูกขอให้มาเป็นเพื่อนฝ่ายชายต้องอมยิ้ม ก่อนจะกระซิบ
“ใจเย็นครับ คุณพัดเดี๋ยวคุณจันทร์ก็มาแล้ว ไม่ต้องรีบร้อน”
“โธ่!คุณตฤณ ไม่ใช่งานคุณนี่คุณก็พูดได้ เชื่อเถอะพอถึงงานคุณนะ คุณก็นั่งไม่ติดแบบผมนี่แหละ ผมเอาหัวเป็นประกันเลย!”พัดยศกระซิบกลับอย่างดุเดือด ตฤณส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนแรงของใครบางคนที่จ้องตรงมายังเขา เมื่อมองหาก็ไปสบเขากับดวงตาคมเฉี่ยวของหญิงสาวในชุดสายเดี่ยวยามกรอมเท้าสีแดงแรงฤทธิ์โดดเด่นที่สุดของงาน ตฤณแน่ใจว่าอีกฝ่ายมองตนอยู่แน่และเมื่อลำดับได้ว่าหญิงสาวคนนี้คงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก ตะวันฉาย รัชดารักษ์ พี่สาวคนโตของคนรักของเขา ชายหนุ่มจึงค้อมศีรษะเป็นเชิงทักทายก่อนจะนั่งเฉย
ตะวันฉายมองหนุ่มแว่นในชุดเชิ้ตสีฟ้าอ่อนสวมทับด้วยสูทสีดำ กางเกงขายาวสีเดียวกัน ที่กำลังนั่งคุยกับว่าที่เจ้าบ่าวอย่างสนใจ เพราะไม่นึกฝันว่าชายในฝันของเธอจะมาปรากฎกายอยู่เบื้องหน้า ถ้ารู้ว่าพัดยศรู้จักล่ะก็เธอคงไม่ต้องเสียเวลา เสียเงินจ้างนักสืบเอกชนที่ไม่ได้เรื่องไปตามหาเขาหรอก หญิงสาวกระตุกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายรู้สึกแล้วว่าเธอมองเขาอยู่ แต่ด้วยเวลาและสถานการณ์ที่ไม่อำนวยทำให้เธอได้แต่นั่งมองต่อไป เพื่อรอเวลาที่งานบ้าๆนี่จะจบลงแล้วเธอจะได้ไปสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มทันที ร่างเพรียวขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้องสาวคนรอง ว่าที่เจ้าสาวได้ลงมาแล้วและพิธีการก็ได้ดำเนินไปตามสมควร...
---------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วค่ะ กลับมาจากอเมริกาแล้วเน้อ กลับมาสู่วิถีแห่งการเรียนปีสุดท้าย (สุดท้ายจริงๆ) หลังจากหนีไปเที่ยวมาสองเดือน อาจจะหายไปนานหน่อย เพราะติดเรื่องเรียน เนื่องจากขาดเรียนไปสองสัปดาห์งานเลยท่วมม้น ตอนนี้ก็เพลาๆลงไปบ้างเลยกลับมาแต่งต่อได้ มาตอนนี้อาจจะมีแปลกๆไปบ้างเพราะไม่ได้แต่งนานเลยติดๆขัดๆ แต่ตอนนหน้าคงดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับตอนนี้ใครที่รอเห็นพรายจันทร์สู้คนคงจะสมใจ แต่! หึหึ อย่าลืมว่าข้าพเจ้าชอบทำร้ายจิตใจตัวละคร อย่านึกว่าความสุขจะอยู่นานเพราะ ตั้งแต่ตอนหน้าไปจะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่บีบหัวใจมากที่สุดแล้ว เตรียมตัวกันให้ดี งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป เจอกันตอนหน้าค่ะ ติ+ชมได้
ป.ล. เรื่องสืบข่าวรัก ออกเป็นรูปเล่มแล้วนะคะ ใช้ชื่อว่า ข่าวร้อนซ่อนรัก ยังไงก็ฝากอุดหนุนด้วยค่ะ บายๆ
“อย่าลืมนะคะ พี่พัดต้องซื้อลูกแมวให้จันทร์นะ นะคะๆ”เสียงหวานอ้อนคนรักหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ร่างบางเขย่าแขนชายหนุ่มไปมา จนเขาต้องรีบรับปากเพราะกลัวแขนจะหลุดติดมืออีกฝ่ายไป
“จ๊ะๆ ได้ แต่ต้องให้พี่หาข้อมูลจากคุณตฤณก่อนนะ”
“จริงเหรอคะ! ขอบคุณมากค่ะ”พรายจันทร์ปล่อยแขนชายหนุ่ม ก่อนจะพนมมือขอบคุณอย่างสวยงาม
“พี่ไม่โกหกหรอกครับ แต่ขอบคุณแค่นี้เองเหรอ ไม่มีอย่างอื่น?”
“ไม่มีค่ะ”
“ใจร้าย อย่างน้อยกู๊ดไนท์ คิสก็ยังดี” พัดยศบ่นแล้วก็ต้องตาโตเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างนุ่มๆมาโดนที่แก้มของตน ชายหนุ่มหันไปมองคนจู่โจมที่วิ่งหนีเข้าบ้านไปอย่างเอ๋อๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อสายตาของตนทันเห็นอีกฝ่ายหน้าแดง แล้วขึ้นรถขับกลับบ้านของตนไปอย่างมีความสุข เช่นเดียวกับหญิงสาวที่เดินแกมวิ่งจากหน้ารั้วบ้านมาถึงหน้าบ้านของตนอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง
“แหม อารมณ์ดีจังนะ ไม่รู้ว่าบ้านนังตาลมันมีอะไรดี คุณหนูอนามัยอย่างแกถึงกลับมาเสียดึก”ตะวันฉายกอดอกเดินเอื่อยๆมาขวางหน้าน้องสาวเอาไว้ พร้อมพูดกระแทกไปยังเพื่อนของดาวเหนือที่ถือว่าเป็นคู่อาฆาตอีกคนของตะวันฉาย พรายจันทร์ถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ไปเล่นกับลูกแมว ยายดาวเขาเลี้ยงไว้ที่บ้านนั้น”
“เหอะ! ไอ้สัตว์หน้าขนโสโครก แกไปจับตัวมันมาหรือเปล่า อย่ามาโดนตัวฉันนะ ขยะแขยงแกเล่นเข้าไปได้ไง ต่ำซะไม่มี!”ตะวันฉายถอยห่างจากน้องสาวร่วมมารดาอย่างรังเกียจ ก่อนจะชะงักเมื่อพรายจันทร์สวยกลับมาทันที
“พี่ตะวันเอาอะไรมาวัดคะ ว่าสัตว์ตัวไหนสูงตัวไหนต่ำ ของแบบนี้มันวัดกันที่จิตใจ ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก มนุษย์เองก็เหมือนกันค่ะ หากหน้าตาสวย...”ร่างบางปรายตามองพี่สาว ก่อนจะต่อ
“...แต่จิตใจหยาบกระด้าง มันก็ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานหรอกค่ะ ทีหลังอย่าเอาไปพูดที่ไหนอีกนะคะ เดี๋ยวคนที่ได้ยินเขาจะมาว่าจันทร์เอาได้ว่าทีกับเด็กอนุบาลยังพูดให้รู้เรื่องได้ แต่ทำไม่กับพี่ตัวเอง...”พายจันทร์หยุดหายใจอีกครั้ง ถอยออกมาตั้งหลักเล็กน้อยพร้อมกับมองหน้าพี่สาวที่ตอนนี้ยืนมองเธอตาเขียว แล้วพูดต่อจนจบ “...กลับพูดให้รู้เรื่องไม่ได้ ขอตัวก่อนนะคะพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน”
แล้วหญิงสาวก็เดินผ่านหน้าตะวันฉายที่ยืนอึ้งก่อนจะร้องกรี๊ดพร้อมกระทืบเท้าอยู่กับที่อย่างขัดใจกับคำพูดหลอกด่าแบบเรียบของน้องสาว ร่างเพรียวมองตามหลังอีกฝ่ายไปตาขวาง
“อวดดี! ถ้าไม่ได้ฉัน แกจะมีผัวไหมนังจันทร์ นังโง่!”
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานหมั้นของยายจันทร์กับตาพัดแล้วนะคะ คุณแม่อยากจะเพิ่มอะไรในงานหรือเปล่าคะ มินจะได้จดเอาไว้กันลืม”คุณมินตราถามแม่สามีในขณะที่นั่งสนทนากันถึงเรื่องงานมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ววันนี้ โดยมีคุณบุษบาคอยเป็นลูกมือจดนู่นนี่อยู่ไม่ห่างภายในห้องสมุด ส่วนคุณชนะชัยที่ยกหน้าที่จัดงานต่างๆให้กับเหล่าสุภาพสตรีทั้งหลายของบ้านก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่เก้าอี้อีกมุมหนึ่ง
“อืม แม่อยากให้แม่บุษทำขนมหวานเพิ่มอีกซักสองอย่างน่ะ เอาเป็นพวกที่ทานง่ายๆไม่เลอะเทอะเวลาทานน่ะ เพราะแขกของแม่เขาชอบ”คุณหญิงผกามาศหันไปบอกภรรยาอีกคนของบุตรชาย ก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้ตามกฎหมายอีกคน
“ตอนนี้เรามีอาหารคาวหวานอะไรบ้างแม่มิน”
“อาหารคาวมินสั่งจากโรงแรม...”คุณมินตราเอ่ยชื่อโรงแรมและรายชื่ออาหารที่สั่งให้แม่สามีฟัง คุณหญิงผกามาศพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปทางลูกสะใถชภ้หมายเลขสองที่เอ่ยรายชื่อของหวานขึ้นมาเหมือนกัน
“ส่วนของหวานที่บุษทำก็มีขนมมงคลเก้าอย่างค่ะเป็นตัวยืน ส่วนที่คุณแม่ขอเพิ่มเข้ามาบุษว่าจะทำตะโก้ถ้วยเล็กๆพอดีคำ กับลูกชุบค่ะ ทานง่ายดี”
“อืม ก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงเดี๋ยวแม่บุษก็ดึงเอาเด็กๆไปช่วยด้วยแล้วกันเยอะขนาดนั้นทำคนเดียวไม่หมดหรอก”
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะคุณแม่ มินเองก็จะลงไปช่วยด้วย”คุณมินตราบอกก่อนจะหันไปถามเรื่องอื่นกับคุณบุษบา
“บุษแล้วเรื่องสถานที่ล่ะ ที่จดเอาไว้ได้ครบทุกอย่างไหม”
“ยังขาดเรื่องตกแต่งเท่านั้นค่ะคุณพี่ สนามหญ้าหน้าบ้านเล็กเกินไปหากคำนวณเรื่องแขกที่จะมา เกรงว่าคงจะไม่พอหากจะให้พวกเขานั่งโต๊ะจนครบทุกคน”คุณบุษบาบอกเสียงอ่อย เพราะจำนวนแขกที่ได้เชิญไปกับขนาดของสนามหญ้าที่ใช้จัดวางโต๊ะทานอาหารนั้นไม่ใหญ่พอที่จะรับแขกได้ทั้งหมดและตอนนี้ก็ยังหาทางแก้ไม่ได้
“แล้วกัน! ไอ้ที่สำคัญดันยังไม่ลงตัว จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”คุณมินตราบ่น คุณชนะชัยเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์ที่กำลังอ่านอยู่มองใบหน้าเคร่งเครียดของภรรยาเบอร์หนึ่ง หลังจากนั้นก็เลื่อนไปที่ภรรยาเบอร์ที่นั่งหน้าจ๋อย ส่วนมารดาของเขาเองก็กำลังดมยาดมอยู่ แล้วก็ต้องถอนหายใจก่อนจะพูดออกมา
“ก็ให้ยายดาวมาช่วยสิ คิดกันให้มากมายทำไม ทำงานด้านนี้อยู่ก็ให้มาช่วยๆกัน จะได้ประหยัดเงินด้วย” พอได้ยินที่คุณชนะชัยบอกดังนั้น คุณมินตรา คุณบุษบาก็ตาโตมองหน้ากันอย่างดีใจ ส่วนคุณหญิงผกามาศยังคงนั่งงง
“ยายดาวทำงานด้านไหนเหรอพ่อชนะ”
“คุณแม่ยังไม่ทราบเหรอครับ ผมนึกว่าผมกับบุษรู้เรื่องนี้เป็นคนสุดท้ายแล้วซะอีก”คุณชนะชัยพับหนังสือพิมพ์ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัยเพราเขานึกว่าภรรยาเบอร์หนึ่งของเขาจะเล่าเรื่องงานของดาวเหนือให้มารดาของเขาฟังแล้ว คุณหญิงส่ายหน้าก่อนจะหันไปค้อนคุณมินตรากับคุณบุษบาเมื่อได้ฟังเฉลย
“ก็ยายดาวน่ะเขาทำงานตกแต่งภายในอยู่บริษัทของรุ่นพี่เขามาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบน่ะครับ ผมเองก็เพิ่งทราบเมื่อเร็วๆนี้เอง”
“หึ!ร้ายนักนะแม่ตัวดีนั่น มีงานมีการเป็นมั่งคงก็ไปปริปากพูดปล่อยให้เราเขาใจว่าไม่เอาไหนอยู่ได้ตั้งนาน ลัวหล่อนไม่คิดจะบอกฉันบ้างหรือไงฮะแม่บุษ”เมื่อหลานสาวตัวดีไม่อยู่ให้เล่นงาน ท่านเลยต้องแอบเหน็บลูกสะใภ้เบอร์สองเล็กๆ
“บุษก็เพิ่งทราบพร้อมคุณชนะเหมือนกันค่ะคุณแม่ แต่คุณพี่น่ะทราบมานานแล้ว”
“อ่อ! แล้วหล่อนทำไมไม่บอกฉันบ้าง แม่มิน”เมื่อได้ฟังดังนั้นคุณหญิงผกามาศจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นงานลูกสะใภ้ใหญ่แทน คุณมินตรายิ้มแหยก่อนจะตอบ
“ก็ยายดาวขอไว้นี่คะ มินรับปากไปแล้วก็ไม่อยากเสียผู้ใหญ่ เลยต้องปิดเอาไว้”
“ย่ะ!แม่ผู้ใหญ่ แล้วนี่แม่ตัวดีอยู่บ้านรึเปล่า แม่บุษ”
“อยู่ค่ะ คุณแม่จะให้ไปเรียกไหมคะ”
“แน่ล่ะ คอยดูนะถ้าวันนี้ฉันเล่นงานยายดาวไม่ได้ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าคุณหญิง! คอยดู”คุณหญิงผกามาศหมายมั่นว่าวันนี้จะต้องเล่นงานหลานสาวตัวแสบให้ได้ แต่คนอื่นๆในห้องหันไปมองหน้ากันเองพลางคิดในใจอย่างรู้บทสรุป
‘ไม่มีทาง!’
“คุณย่าให้พี่อ้อยไปเรียกดาวมามีอะไรเหรอ”ดาวเหนือถามผู้เป็นย่าขณะนั่งพับเพียบลงที่พื้นด้านนหน้าเช่นเดียวกับพี่สาวคนรองที่ตามมาด้วย คุณหญิงมองหลานสาวทั้งสองก่อนจะสะบัดหน้าหนี ทำเอาดาวเหนือและพรายจันทร์ถึงกับงง ส่วนผู้ใหญ่ทั้งสามได้แต่แอบกลั้นหัวเราะกับท่าทางราวกับสาวๆของผู้อาวุโสของบ้าน
“คุณย่าสะบัดคอเร็วอย่างนั้นเดี๋ยวคอก็หลุดตามไปด้วยหรอก คอหลุดหมอก็ไม่รับรักษานะ มีทางเดี๋ยวเท่านั้น...”ดาวเหนือแกล้งบอกอีกฝ่ายแล้วทิ้งค้างไว้ ทำให้คุณหญิงที่จะแกล้งงอนเสียหน่อยต้องเป็นฝ่ายออกปากถามเพราะอยากรู้
“ทางไหนย่ะ”
“ก็ส่งเข้าโลงไง โอ๊ย!”ร่างโปร่งเฉลยเสร็จก็ต้องร้องลั่นเพราะโดนหยิกเข้าให้ ตามมาด้วยเสียงฟ้องคนอื่นๆของคุณหญิง
“ดู ดูมันนะ มีอย่างที่ไหนมาแช่งให้ฉันตาย เดี๋ยวเถอะทำผิดซ้ำซาก เรื่องเก่ายังไม่จบมาสร้างเรื่องใหม่ เดี๋ยวก็ตีให้หลังลายเสียดีไหม”ว่าแล้วก็ทำท่าจะเข้าไปตีจริงๆ ทำเอาหญิงสาวต้องรีบคลานหนีไปอยู่ด้านหลังพี่สาวคนสวยทันที แต่ยังไม่วายยื่นหน้าออกมาเถียง
“ไม่ดี! แล้วดาวไปก่อเรื่องอะไร ดาวออกจะเรียบร้อยนะช่วงนี้”
“เรียบร้อยมาก! เรียบร้อยเป็นผ้าขี้ริ้วน่ะสิหล่อนน่ะ เอิ๊ก! เอายาดมมาทีสิแม่มิน แม่จะเป็นลม”คุณหญิงผกามาศประชดหญิงสาวเสร็จแล้วก็ต้องร้องหายาดมประจำตัวจากลูกสะใภ้เพราะเริ่มเหนื่อยจากการเล่นงานหลานสาวคนเล็ก
“ตกลงดาวไปทำอะไรไว้ คุณย่าถึงมาหาเรื่องดาว”
“น้อยๆหน่อยแม่ตัวดี ฉันไม่ได้หาเรื่อง แต่หล่อนน่ะจะอมพะนำเรื่องงานของหล่อนไปจนฉันลงโลงเลยหรือไง ไม่คิดจะให้ฉันภูมิใจในตัวหล่อนบ้างรึ มีงานมีการทำแล้วก็ไม่บอกปล่อยให้นั่งเครียดจนหัวหงอกกลัวว่าหลานคนเล็กจะไม่ได้ดี แล้วพอจะบอกก็เลือกบอก มันน่าน้อยใจนัก”
ดาวเหนือซ่อนยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งกอดเอวย่า พร้อมพูดประจบเมื่อเห็นท่าทางน้อยใจของอีกฝ่าย สรุปก็คือย่าของเธอไม่ได้โกรธอะไร แค่น้อยใจที่ไม่ได้รู้เรื่องก่อนคนอื่นเท่านั้น
“ดาวขอโทษ ต่อไปมีอะไรดาวจะบอกคุณย่าก่อนดีไหม”
“ให้มันจริงเถอะ โดยเฉพาะเรื่องแต่งงานถ้าแกไม่มาบอกฉันก่อนอย่าหวังว่าจะได้แต่ง ฮึ!”ร่างโปร่งชะงัก ก่อนจะเลื่อนตัวกลับมานั่งเจี๋ยมเจี้ยมที่เดิมเมื่อเจอสายตาของย่า คุณชนะชัยหน้าเข้มก่อนจะถามเสียงห้วน
“แล้วนี่เมื่อไหร่จะพามาให้รู้จักล่ะ หรือจะรอจนจะแต่งงานเลย”
“ก็รอให้ผ่านงานพี่จันทร์ก่อน”หญิงสาวตอบ ก่อนจะหันขวับไปหาพี่สาวเมื่ออีกฝ่ายเสนอขึ้นมา
“ทำไมล่ะดาว พามาเปิดตัวในวันงานเลยสิจ๊ะ”
“นั่นสิลูก”คุณบุษบารีบเออออไปกับพรายจันทร์ทันทีเพราะไม่งั้นหากรอต่อไปเรื่อยคงจะอีกนาน ดาวเหนือถอนหายใจก่อนจะตอบเลี่ยงๆ
“ก็ได้ แต่ดาวต้องไปถามพี่เขาก่อนนะว่าว่างไหม งานพี่เขาเยอะ”
“ไม่ต้องหรอกพี่พัดไปถามแล้ว คุณตฤณบอกว่าว่างมาได้แน่”พรายจันทร์ตัดทางรอดของน้องสาวคนเก่งทันที สุดท้ายเมื่อไม่มีทางรอดร่างโปร่งเลยได้แต่ยอมรับชะตากรรม
“ตกลงดาวจะพาพี่เขามาวันงาน พอใจไหม?”หญิงสาวบอกอย่างประชดประชันก่อนจะหน้างงอเมื่อเสียงประสานของทุกคนดังกลับมาพร้อมกัน
“ดีมาก!”
“เอาล่ะๆ พอได้แล้ว มาเข้าเรื่องกันซักที ยายดาวย่าอยากจะขอให้เราช่วยตกแต่งสถานที่วันงานหมั้นพี่สาวเราให้หน่อยได้ไหม ย่าไม่รู้จะหาใครมาช่วยแล้วจริงๆ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขาดแต่การจัดแต่งนี่แหละ”คุณหญิงผกามาศเอ่ยขอร้องร่างโปร่งที่นั่งมองคนโน้นที คนนี้ที ก่อนจะมาหยุดลงที่เจ้าของงานตัวจริงที่มองกลับมาอย่างคาดหวัง ดาวเหนือยิ้มบางๆก่อนจะเอ่ยคำตอบ
“เพื่อพี่สาวและพี่ชายที่รัก ทำไมจะไม่ได้ล่ะ คอยดูนะ ดาวจะเนรมิตงานนี้ออกมาให้สวยที่สุด สวยกว่างานอื่นๆเลย”
“ขอบใจมากจ๊ะ น้องรัก”พรายจันทร์ยิ้มกว้างแขนเรียวกางกอดน้องสาวคนโปรดเอาไว้ ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็อมยิ้มกับภาพความรักของสองพี่น้อง
“แหม!ครอบครัวสุขสันต์กันจริงนะคะ ลืมไปรึเปล่าว่าบ้านนี้น่ะยังมีตะวันด้วยอีกคน”เสียงหวานดังกระแนะกระแหนเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามาในห้อง พรายจันทร์แอบย่นจมูก ส่วนดาวเหนือก็นั่งหน้านิ่ง คุณมินตราเห็นบรรยากาศที่กำลังดีๆเริ่มจะเสีย ก็รีบทักทายลูกสาวคนโตทันที
“ใครจะไปลืมล่ะลูก แม่เห็นว่าตะวันออกไปข้างนอก ไม่นึกว่าจะกลับมาเร็ว แล้วไปไหนมาล่ะจ๊ะ”
“ไปเอาชุดใหม่ที่จะใส่วันงานหมั้นยายจันทร์ไงคะ”ตะวันฉายเดินผ่านหน้าดาวเหนือไปนั่งข้างๆผู้เป็นย่าพลางโชว์ชุดเกาะอกเดรสยาวสีทองอร่าม แถมยังเอามาโบกไปมาตรงหน้าคู่อาฆาต
“คุณย่า งานหมั้นเนี่ยใครเด่นสุด”อยู่ๆดาวเหนือก็ถามขึ้นมา ดวงตากลมสวยมองหน้าคุณหญิงผกามาศ คุณหญิงมองหน้าหลานสาวงงๆก่อนจะตอบ
“มันก็ต้องยายจันทร์น่ะสิ ถามทำไม”
“ก็ดาวสงสัย เพราะมีใครบางคนแถวนี้อยากเด่นเกินหน้าพี่จันทร์”
“แกว่าฉันเหรอ!”ตะวันฉายลุกพรวด นิ้วเรียวชี้หน้าอีกฝ่าย ดาวเหนือเองก็ลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมกับการโจมตีจากอีกฝ่ายทันที
“ไม่ได้ว่าคุณตะวัน พูดลอยๆคุณตะวันรับทำไมล่ะ”
“ฮึ้ย!แก นังอุกกาบาต วอนมือฉันใช่ไหม”
“เอาสิ!อย่านึกว่ามีมือคนเดียวนะ”สองสาวทำท่าจะพุ่งเข้าใส่กัน แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงเฉียบขาดของคุณหญิงผกามาศดังขึ้นมาเสียก่อน
“นี่เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอกันรึไง! พอได้แล้ว ตะวันขึ้นห้องไปซะ ยายดาวก็นั่งลงซะ มีเรื่องอื่นที่ต้องทำอยู่อีกมาก อย่าทำตัวเหมือนคนไม่มีสมองเอะอะก็ใช้กำลัง ถ้ายังไม่เลิกฉันจะจับให้ไปอยู่ด้วยกันเสีย”
“คุณย่า!”ตะวันฉายกระทืบเท้าไม่พอใจ แต่ก็ต้องถอยเพราะดูจากสายตาแล้วคราวนี้คุณย่าของพวกเธอคงเอาจริง ร่างเพรียวฉวยเอาเสื้อตัวใหม่ก่อนจะเดินกระแทกกลับไป ส่วนดาวเหนือก็พนมมือไหว้ขอโทษก่อนจะลงไปนั่งตามเดิม คุณมินตรา คุณบุษบาและคุณชนะชัยมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มดูท่าสองคนนี้คงไม่มีทางคุยกันดีๆได้แน่
“เอาล่ะ ยายดาวย่าต้องการให้งานออกมา....”คุณหญิงผกามาศเริ่มเรื่องที่ค้างเอาไว้อีกครั้ง โดยไม่สนใจอย่างอื่นอีก และทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ วันแล้ววันเล่าจนถึงวันที่ทุกคนรอคอย...
พรายจันทร์มองหญิงสาวในชุดไทยจักรีสีเปลือกไข่ไก่ที่สะท้อนจากกระจกโต๊ะเครื่องแป้งตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง ดวงตาเรียวสวยทอประกายแห่งความสุขอย่างปิดไม่มิด ระหว่างที่นั่งรอให้ช่างแต่งหน้าที่มารดาจ้างมาสำรวจความเรียบร้อยของใบหน้าและทรงผมซึ่งรวบเป็นมวยไว้ด้านบนประดับด้วยปิ่นปักผมเครื่องทองอันเป็นของเก่าของคุณหญิงผกามาศ ร่างบางบีบมือของตนแน่นด้วยความตื่นเต้นเพราะวันนี้คือวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตของเธอ วันหมั้นของเธอและผู้ชายคนที่รักเขามาเกือบทั้งชีวิต...พัดยศ
“เสร็จแล้วฮ่าคุณน้อง สวยเลิศไปเลยฮ่า เจ๊รับรอง!”คุณช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองถอยออกมาดูผลงานของตนเองอย่างพอใจ ก่อนจะถอยออกไปอีกนิดเพื่อให้แม่ของว่าที่เจ้าสาวเข้ามาดูความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย คุณมินตรามองใบหน้างามของลูกสาวคนรองที่ดูมีความสุขมาก แน่นอนว่าเมื่อลูกสุขเธอเองก็สุขด้วย
“วันนี้ลูกแม่สวยที่สุด แม่ดีใจมากที่ลูกมีวันนี้”
“จันทร์ก็ดีใจค่ะ ต้องขอบคุณยายดาวที่ทำให้จันทร์กับพี่พัดมีวันนี้ ขอบคุณพ่อกับแม่ที่สอนให้ จันทร์เป็นจันทร์ทุกวันนี้ จันทร์รักแม่นะคะ”หญิงสาวกราบมารดาที่ น้ำใสๆเอ่อคลอดวงตาคู่สวย คุณมินตรายิ้มอ่อนโยนก่อนจะใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกจาใบหน้าของลูกสาว แสร้งดุ
“พอแล้ว! มาร้องโยเยเป็นเด็กๆไปได้ วันนี้เป็นวันดีนะ อย่าร้องไห้เดี๋ยวหมดสวย โดนพี่สาวเราขโมยซีนไปแม่ไม่รู้ด้วยนะ”
พรายจันทร์ย่นจมูกก่อนส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดของมารดาเพราะเธอรู้ดีว่าวันนี้คนที่จะแย่งซีนเธอไปได้ และเป็นคนเดียวที่เธอยอม ไม่ใช่ยอมเพราะกลัวอย่างตะวันฉายแต่ยอมเพราะคนๆนี้จะทำให้ตะวันฉายพ่ายแพ้ได้เท่านั้นเอง
“วันนี้พี่ตะวันต่างหากจะโดนแย่งซีน แย่งแบบเงียบๆด้วย”
“หือ ใครกันจะมากล้าแข่งกับพี่เรา ไม่กลัวโดนเฉือดด้วยคำพูดหรือไง”
“ก็ยายดาวไงคะแม่ เห็นน้าบุษบอกว่าคุณตฤณมากับยายดาวแล้ว ตอนนี้กำลังโดนคุณพ่อซักฟอกอยู่ที่บ้านเล็กน่ะค่ะ”คุณมินตราตาโต เพราะเธอมัวแต่วุ่นวายกับว่าที่เจ้าสาวเลยไม่รู้เลยว่าที่บ้านของคุณบุษบากำลังมีการซักฟอก ‘จำเลยหน้าหยก’ ที่ดอดมาจีบลูกสาวนอกไส้ของเธออย่างเงียบๆ
“แหม!ไม่รอแม่กันเลย แม่ก็อยากคุยกับตาตฤณเขาอยู่เหมือนกันนะ อยากรู้ว่ามาหลงเสน่ห์ยายดาวได้ยังไง”คุณมินตราบ่นน้อยๆ พรายจันทร์แย้มยิ้มก่อนจะคุยโอ่
“จันทร์รู้ค่ะ ยายตาลเล่าให้ฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่า....”แล้วว่าที่เจ้าสาวก็นั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับเล่าเรื่องราวความรักที่ไปรู้มาจากหนึ่งในพยานรักอย่างตรีทิพย์ให้มารดาฟังอย่างสนุกสนาน เป็นการฆ่าเวลารอให้ถึงฤกษ์มงคลของตน
“อุ๊ย! แม่ให้ไฟเขียวเลยนะคนนี้ วิธีบอกรักโรแมนติกมาก ไม่นับที่รักเดียวใจเดียวมานานนับสิบปี แถมยังมีวิธีปราบยายดาวได้ด้วย มาขแม่อไหร่จะยุน้าบุษให้ยกให้เลย”คุณมินตราบอกอย่างชอบใจภายหลังจากฟังเรื่องรักๆของดาวเหนือกับตฤณที่ดูน่ารักโรแมนติกมากๆ ก่อนที่บทสนทนาจะหยุดลงเมื่อคุณบุษบาขึ้นมาตามว่าที่เจ้าสาวให้ลงไปในงานเพราะได้เวลาแล้ว
พัดยศนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่เบื้องหน้าผู้ใหญ่ในพิธีทั้งหลาย ทั้งคุณหญิงผกามาศ ทั้งพ่อแม่ของเขาและคุณชนะชัยที่นั่งสนทนากันอยู่ ชายหนุ่มเหลือบตามองไปทางบันไดอยู่บ่อยครั้ง จนตฤณที่ถูกขอให้มาเป็นเพื่อนฝ่ายชายต้องอมยิ้ม ก่อนจะกระซิบ
“ใจเย็นครับ คุณพัดเดี๋ยวคุณจันทร์ก็มาแล้ว ไม่ต้องรีบร้อน”
“โธ่!คุณตฤณ ไม่ใช่งานคุณนี่คุณก็พูดได้ เชื่อเถอะพอถึงงานคุณนะ คุณก็นั่งไม่ติดแบบผมนี่แหละ ผมเอาหัวเป็นประกันเลย!”พัดยศกระซิบกลับอย่างดุเดือด ตฤณส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนแรงของใครบางคนที่จ้องตรงมายังเขา เมื่อมองหาก็ไปสบเขากับดวงตาคมเฉี่ยวของหญิงสาวในชุดสายเดี่ยวยามกรอมเท้าสีแดงแรงฤทธิ์โดดเด่นที่สุดของงาน ตฤณแน่ใจว่าอีกฝ่ายมองตนอยู่แน่และเมื่อลำดับได้ว่าหญิงสาวคนนี้คงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก ตะวันฉาย รัชดารักษ์ พี่สาวคนโตของคนรักของเขา ชายหนุ่มจึงค้อมศีรษะเป็นเชิงทักทายก่อนจะนั่งเฉย
ตะวันฉายมองหนุ่มแว่นในชุดเชิ้ตสีฟ้าอ่อนสวมทับด้วยสูทสีดำ กางเกงขายาวสีเดียวกัน ที่กำลังนั่งคุยกับว่าที่เจ้าบ่าวอย่างสนใจ เพราะไม่นึกฝันว่าชายในฝันของเธอจะมาปรากฎกายอยู่เบื้องหน้า ถ้ารู้ว่าพัดยศรู้จักล่ะก็เธอคงไม่ต้องเสียเวลา เสียเงินจ้างนักสืบเอกชนที่ไม่ได้เรื่องไปตามหาเขาหรอก หญิงสาวกระตุกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายรู้สึกแล้วว่าเธอมองเขาอยู่ แต่ด้วยเวลาและสถานการณ์ที่ไม่อำนวยทำให้เธอได้แต่นั่งมองต่อไป เพื่อรอเวลาที่งานบ้าๆนี่จะจบลงแล้วเธอจะได้ไปสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มทันที ร่างเพรียวขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้องสาวคนรอง ว่าที่เจ้าสาวได้ลงมาแล้วและพิธีการก็ได้ดำเนินไปตามสมควร...
---------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วค่ะ กลับมาจากอเมริกาแล้วเน้อ กลับมาสู่วิถีแห่งการเรียนปีสุดท้าย (สุดท้ายจริงๆ) หลังจากหนีไปเที่ยวมาสองเดือน อาจจะหายไปนานหน่อย เพราะติดเรื่องเรียน เนื่องจากขาดเรียนไปสองสัปดาห์งานเลยท่วมม้น ตอนนี้ก็เพลาๆลงไปบ้างเลยกลับมาแต่งต่อได้ มาตอนนี้อาจจะมีแปลกๆไปบ้างเพราะไม่ได้แต่งนานเลยติดๆขัดๆ แต่ตอนนหน้าคงดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับตอนนี้ใครที่รอเห็นพรายจันทร์สู้คนคงจะสมใจ แต่! หึหึ อย่าลืมว่าข้าพเจ้าชอบทำร้ายจิตใจตัวละคร อย่านึกว่าความสุขจะอยู่นานเพราะ ตั้งแต่ตอนหน้าไปจะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่บีบหัวใจมากที่สุดแล้ว เตรียมตัวกันให้ดี งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป เจอกันตอนหน้าค่ะ ติ+ชมได้
ป.ล. เรื่องสืบข่าวรัก ออกเป็นรูปเล่มแล้วนะคะ ใช้ชื่อว่า ข่าวร้อนซ่อนรัก ยังไงก็ฝากอุดหนุนด้วยค่ะ บายๆ
ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ค. 2554, 00:36:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ค. 2554, 00:36:16 น.
จำนวนการเข้าชม : 2316
<< ตอนที่ 19 | ตอนที่ 21 >> |
Pat 15 ก.ค. 2554, 12:58:28 น.
อย่าบีบมากนะคะ เดี๋ยวปวดใจ ^_^ หายไปนานเลย
อย่าบีบมากนะคะ เดี๋ยวปวดใจ ^_^ หายไปนานเลย
Setia 15 ก.ค. 2554, 15:06:42 น.
ตอนหน้าท่าทางยัยตะวันจะเต้นเป็นเจ้าเข้าแหงๆ
ตอนหน้าท่าทางยัยตะวันจะเต้นเป็นเจ้าเข้าแหงๆ
goldensun 22 ธ.ค. 2555, 09:01:16 น.
ตะวันโชว์ชุดสีทอง บอกว่าจะใส่วันหมั้นของจันทร์ แล้วทำไมวันจริงกลายเป็นสีแดงไปได้
ตะวันโชว์ชุดสีทอง บอกว่าจะใส่วันหมั้นของจันทร์ แล้วทำไมวันจริงกลายเป็นสีแดงไปได้