Araivia อาราไอเวีย ขุมทรัพย์วิวาห์เงือก
นครอาราไอเวีย...ต่อให้เจ้าจะทรมาณข้าไปจนตายแต่จงรู้ไว้เจ้าไม่มีวันที่จะได้รับรู้ถึงนครอันลึกลับแห่งนี้เป็นแน่
ข้าไม่ยอมให้เจ้าเป็นเจ้าของชีวิตข้าเสียหรอก
ข้าไม่ยอมให้เจ้าเป็นเจ้าของชีวิตข้าเสียหรอก
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่1 แรกพบ
บทที่1
แรกพบ
“องค์หญิง องค์หญิง”เสียงร้องเรียกด้วยความตื่นตระหนกดังก้องตำหนักกุหลาบมุก เงือกหนุ่มเร่งสะบัดหางให้เร็วขึ้นก่อนจะพาร่างชายชาตรีนั้นไปแทบทุกซอกทุกมุมของตำหนัก แต่ก็หามีวี่แววขององค์หญิงแสนซนไม่ “ไปไหนของท่านอีกล่ะนี่”
“เย้ ในที่สุดก็ได้ออกมาเสียที” ใบหน้างดงามประดับรอยยิ้มแฝงด้วยความสุข ผมสีเงินถูกเกล้าขึ้น มีเพียงปิ่นมุกสีขาวนวลปักไว้ไม่ให้ผมที่ยาวสลวยคลายออก ตาสีฟ้าดูน่ามองสอดส่องลงมาถึงพื้นสมุทรต้องร่างของเงือกสาวหางปลาสีชมพูอ่อนสะบัดไปมาเพียงพาให้ร่างบางเร่งรุดออกห่างจากพระราชวัง
เหนือน้ำทะเลดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เหลือเพียงแสงสีส้มสาดส่องไปทั่วผืนสมุทร เงาของอะไรบางอย่างทอดอยู่บนผิวน้ำปลุกต่อมความสนใจของเงือกสาว
โลมาสีขาวว่ายฝ่ากระแสน้ำตรงมาหาผู้เป็นเพื่อนและทักทายด้วยภาษาโลมา เงือกสาวยิ้มทักทายตอบ ก่อนที่ท่วงทำนองเพลงแห่งสายน้ำจะดังก้องทั่วบริเวณนั้น แสงสีขาวเปล่งออกมาจากร่างของโลมา พร้อมกับการปรากฏร่างของเด็กสาวผมสีชมพูอ่อน ตาสีชมพูอ่อนมองมายังเงือกสาวก่อนจะเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง “ริเวียร่า เจ้าสบายดีมั้ย”
”ก็อย่างที่เห็น เอเนีย รอดมาได้ครบ32” เงือกนาม'ริเวียร่า'ยักไหล่อย่างเคยชิน
“คราวนี้มาอย่างไรอีกล่ะ เล่ามาให้ข้าฟังให้หมดเลยนะ” ‘เอเนีย’โลมาสาวในร่างมนุษย์เอ่ยถามอย่างรู้ทัน
“ก็ไม่ยากหรอก ข้าก็แค่ให้แม่นมช่วยเรียกเหล่านางรำมาแสดงให้ข้าดูเฉยๆ” ริเวียร่าเอ่ยก่อนจะพยายามเพ่งมองไปยังเงาที่อยู่เหนือร่างของตน
“ถ้าให้ข้าเดาเจ้าก็คงจะแอบขโมยชุดพวกนางมาใส่ตอนที่พวกนางเปลี่ยนชุดสิน่ะแล้วก็อาจจะเล่นตลกกับพวกนางนิดหน่อย พวกนั้นคงจะคิดว่าวิญญาณสมุทรมาหลอกพวกนางแน่เลย” เอเนียพูดพลางคิดภาพพวกนางรำที่นางกล่าวถึงกำลังวิ่งวุ่นกันจ้าละหวั่นเนื่องจากได้ยินเสียงดัดของท่านหญิงตัวแสบ ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
“อืม ก็ประมาณนั่นแหละ” ริเวียร่าตอบด้วยน้ำเสียงตอบไปที สายตาจับจ้องวัตถุเบื้องบนอย่างใคร่รู้ ทำเอาคู่สนทนาต้องหันสายตามองตามเงือกสาวหันมามองหน้าเพื่อนด้วยรอยยิ้มร่าเริง “เอเนีย ข้าคิดอะไรดีๆออกแล้วล่ะ เจ้าพร้อมจะสนุกกับข้ารึยัง”
“อะไรเนี่ย ข้ายังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ”เอเนียตอบทีเล่นทีจริง “ทำอย่างนี้ท่านพี่คาอัสไม่ว่าเอาหรอกหรือ”
“เอาเถอะน่า คาอัสไม่รู้หรอก”มือของเงือกสาวฉวยมือของเอเนียก่อนที่ร่างของทั้งสองจะทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำ
เสียงน้ำทะเลดังไปรอบตัว กลิ่นอายเค็มโชยขึ้นมาจากผืนทะเล เด็กสาวสมุทรทั้งสองจ้องมองบางอย่างที่ลอยเคว้งคว้างบนผิวน้ำ สิ่งนั้นจะไม่วิเศษเลยสำหรับชาววารีทั้งสอง หากบนนั้นไม่สิ่งมีชีวิตที่ถูกขนานนามว่า ‘มนุษย์’
“เอเนีย เจ้าเห็นอย่างที่ข้าเห็นมั้ย”ริเวียร่าเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น
“เต็มสองตาข้าเลย”เอเนียสำทับด้วยความรู้สึกเดียวกับเพื่อนสนิท “มนุษย์ชาย”
“ใช่ ข้าอยากรู้จริงๆว่า มนุษย์ชายจะหล่อกว่าเงือกสักกี่เท่ากัน”ริเวียร่าเอ่ยอย่างครุ่นคิด
“วิธีเดียว”เอเนียยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ริเวียร่า เพื่อนสนิททั้งสองมักสื่อสารกันผ่านดวงตาเสมอ เงือกสาวล่วงรู้ถึงความคิดของเอเนียเป็นอย่างดี
พลันสำเนียงกวีแห่งชาววารีก็ดังก้อง ไม่มีผู้ใดได้ยิน บทกวีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้หูสดับฟังเพียงแค่หัวใจนั้นนิ่งสงบก็สามารถได้ยินบทกลอนอันเป็นราวกับคาถาแห่งสายน้ำแล้ว
'เพียงสายฝน โหมกระหน่ำ สู่ผืนดิน
เพียงเกลียวคลื่น สะบัดดิ้น ให้สูงเชี่ยว
เพียงสายลม หวดหิน ไม่ยั้งเหนี่ยว
เพียงสายฟ้า กระหวัดเกี่ยว จากเบื้องบน'
สิ้นทำนองวารี หยาดฝนจากฟ้าก็หลั่งลงมามิขาดสาย ผืนทะเลที่เคยนิ่งสงบกลับบิดตัวขึ้นเป็นเกลียว สายลมที่เคยพัดเอื่อยเฉื่อยบัดนี้ทวีแรงขึ้น ทำเอาต้นไม้ลู่ลมเสียจนราวจะหักโค่นเอเนียไม่รอช้าที่จะดำเนินรอยต่อของแผน เด็กสาวคืนร่างเป็นโลมาสีชมพูก่อนจะดำเนินแผนการอันแยบยลต่อ
เอเนียมุดตัวลงใต้พื้นน้ำก่อนจะว่ายน้ำเข้าสู่ใต้เรือไม้ที่ตอนนี้ลอยล่องตามกระแสน้ำอย่างไร้การควบคุม แต่นี่ไม่ใช่อุปสรรคของเอเนีย กลับกลายเป็นการง่ายสำหรับเธอ เพียงใช้ครีบเล็กๆของโลมาสาว เรือลำเล็กก็พลิกคว่ำเทเอาร่างบนนั้นตกลงสู่ท้องทะเลอันเชี่ยวกราดร่างมนุษย์ลอยคออยู่กลางน้ำก่อนที่จะค่อยๆจมลงด้วยกำลังที่เหลืออันน้อยนิด เอเนียไม่รอช้ารีบว่ายเข้ามาพยุงร่างอันอ่อนล้านั้นก่อนจะว่ายเข้าสู่ชายฝั่งของเกาะร้างแถวๆนั้น
“คนอะไร หนักชะมัดเลย”เสียงบ่นของเอเนียทำเอาริเวียร่าที่ว่ายน้ำเข้าใกล้ชายฝั่งแอบอมยิ้ม ตอนนี้ท้องทะเลที่เคยแสดงความโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่กลับสงบเยือกเย็นเฉกเช่นที่ควรจะเป็นร่างมนุษย์สามร่างปรากฏชัดบนชายฝั่ง ร่างหนึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนผืนทราย อีกสองร่างเป็นของเด็กสาวที่ดูท่าทางสนอกสนใจผู้ที่หลับไม่ได้สติอยู่เป็นเอามาก
สายตาชาวมัจฉาทั้งสองจับจ้องที่ร่างของมนุษย์หนุ่ม ใบหน้าคมคายหล่อเหลายิ่งกว่าชาววารีคนไหนที่พวกเธอเคยพานพบ ผมสีทองของเขาทอแสงยามต้องแสงอาทิตย์ ร่างตรงหน้าตรึงสายตาของชาววารีทั้งสองได้เป็นอย่างดี
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้สติ ริเวียร่าเริ่มจะรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง เธอหันไปสะกิดเอเนียเบาๆ “ข้าว่าเรากลับกันเถอะ ถ้าหากเขาตื่นขึ้นมา เราจะหาทางหลุดไปไม่ได้นะ”
เอเนียพยักหน้าก่อนจะรีบเดินไปยังชายหาด เดินลึกลงไปในมหาสมุทรและกลายร่างเป็นโลมาหายไปในเกลียวคลื่น ริเวียร่าหันไปมองเด็กหนุ่มก่อนจะรีบเดินลงทะเลไป แต่ทว่า...
“แม่นาง”เสียงเรียกแสนอ่อนโยน ทำเอาริเวียร่าถึงกับสะดุ้ง เธอค่อยๆหันไปตามเสียงเรียกนั้นด้วยใจที่เต้นระทึก ก่อนจะเห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นของเด็กหนุ่ม “ขอบคุณที่ช่วยข้าเอาไว้”
“เออ อันที่จริงข้าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าหรอก ขะ ข้า...แค่เห็นเจ้ามาเกยหาดอยู่ตรงนี้เอง”ริเวียร่าพูดท่าทางหวาดกลัว
“พายุเมื่อครู่ไยจึงสงบลงรวดเร็วเช่นนี้เล่า”เด็กหนุ่มเงยหน้ามองดูท้องฟ้าสีส้มก่อนจะมองสำรวจไปรอบตัวก่อนจะมาหยุดสายตาที่ร่างของเด็กสาวพลางทำสายตาฉงน “ว่าแต่ แม่นางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ดูอย่างไรที่นี่ก็ราวกับเกาะร้าง”
“เออ ที่จริง คือ...เออ...อ้อ บ้านข้าอยู่ลึกเข้าไปในป่านู่นน่ะ”ริเวียร่าพยายามปั้นน้ำเป็นตัวให้เด็กหนุ่มฟัง
“อยู่คนเดียวนี่นะ”เด็กหนุ่มพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เด็กสาวใบหน้างดงามเช่นนี้อาศัยอยู่คนเดียวบนเกาะร้าง มันชักจะแปลกๆอยู่
“เออ...คือ...อืม ก็ใช่”ริเวียร่าตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก พยายามจะพาเด็กหนุ่มออกนอกเรื่องให้ได้ “ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรหรือ”
“ข้านามว่า พอลลักซ์ ไพราเทส”เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะย้อนถามริเวียร่าบ้าง “แล้วแม่นางล่ะ”
“แหม ชื่อเหมือนดาวคนคู่เลยนะ”เด็กสาวทำหูทวนลมไม่ได้ยินคำถาม
“ใช่ แล้วเจ้าล่ะ ชื่ออะไร”พอลลักซ์ถามซ้ำอีกครั้ง ด้วยเข้าใจว่าเด็กสาวตรงหน้าไม่ได้ยินจริงๆ
“เออ...ข้าหรอ...”ริเวียร่าอ้ำอึ้งก่อนจะเห็นเด็กหนุ่มพยักหน้า “คือ...ชื่อไรดีนะ”
“อะไรนะ”พอลลักซ์ทำหน้างง
“เออ คือ...ข้าชื่อ ริน”ริเวียร่าตอบก่อนจะทำสีหน้าโล่งอก
“ริน...ทำไมชื่อเจ้ามันสั้นนักเล่า”พอลลักซ์พูด เด็กสาวคนนี้ท่าทางแปลกเสียเหลือเกิน
“แล้วเจ้าจะให้ข้าชื่ออะไรเล่า”ริเวียร่าแสร้วทำน้ำเสียงหงุดหงิดกลับ
“เอาล่ะๆ ถือว่าข้าไม่ได้พูดประโยคนั้นแล้วกัน เจ้าพอจะช่วยนำทางข้าไปยังบ้านของเจ้าได้หรือไม่”พอลลักซ์พามหวังหว่านล้อมให้เด็กสาวตกอยู่ในกับดักคำพูดของตน “เจ้าก็เห็นว่าตอนนี้ข้าไม่มีเรือที่จะพากลับไปแล้ว หวังว่าเจ้าคงจะมีน้ำใจพอจะช่วยเหลือข้านะ”
“คือ...”ริเวียร่ามองซ้ายมองขวา ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก เด็กสาวยืนนิ่งรวบรวมสมาธิอยู่ครู่หนึ่ง
'สายน้ำ ไม่ย้อนมา
เวลา ไม่ย้อนคืน
แต่ข้า จะขอฝืน
เรียกคืน สิ่งต้องการ'
“ไหนเจ้าบอกว่าไม่มีเรือไง แล้วที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่ของเจ้าหรอกหรือ”ริเวียร่าย้อนถามก่อนจะตวัดสายตาไปยังเรือไม้ลำเล็กที่ติดอยู่ระหว่างซอกหิน
พอลลักซ์หันไปมองตามสายตาของเด็กสาวและก็ต้องประหลาดใจ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา…มันคือเรือ เรือลำเดียวกับที่เขาใช้พายมา เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อ เมื่อสักครู่มันยังไม่มีอยู่เลยนี่นา เขาหันกลับมามองเด็กสาวอย่างไม่ค่อยเชื่อสายตาตัวเอง
“ที่นี้ เจ้าก็กลับไปได้แล้วล่ะ มันเย็นมากแล้วนะ”ริเวียร่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าจะว่าอะไรข้าหรือไม่ หากข้าจะขอมาที่นี่บ่อยๆ”พอลลักซ์ถามอย่างมีความหวังพร้อมกับความคิดอันแยบยล
“ก็เอาสิ ข้าก็เหงาๆอยู่เหมือนกัน”ริเวียร่าตอบเสียงใส แต่ทันทีที่พูดประโยคนั้นออกไปเธอก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด
“งั้นวันนี้ข้าขอลา พรุ่งนี้เราคงจะได้พบกันอีก”เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะรีบลงเรือกลับไป เขาหันมาโบกมือให้เด็กสาว เธอยังคงอยู่ตรงนั้นโบกมือบาให้เขาอยู่
ทันทีที่เรือไม้ลำเล็กหายลับไปจากสายตา ริเวียร่าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบลงสู่ทะเลอันเป็นที่อาศัยที่แท้จริงของเธอ เรื่องวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว พรุ่งนี้เธอจะต้องมาตามนัด ผิดสัญญาไม่ได้เสียด้วยสิ เฮ้อ
..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....
มนุษย์คนนี้จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตริเวียร่าแค่ไหนกันนะ
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆนักเขียนและรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน^^
ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเจ้าค่ะ
ไมย่า คอร์พริเซีย...มีความฝันว่าสักวันจะแต่งนิยายจบค่ะ5555
เชื่อว่านี่ก็น่าจะเป็นความฝันของเพื่อนๆนักเขียนหลายคน
ยังไงก็ฝากนิยายเรื่อง อาราไอเวีย ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะเจ้าคะ ><
อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
ใครเจอคำผิดก็เม้นท์มาบอกกันได้ตลอดค่ะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
twitter @MaiyaCorprisia
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya
ปล.เรื่องนี้อัพทุกคืนวันเสาร์นะเจ้าคะ อาจจะดึกหน่อย
แรกพบ
“องค์หญิง องค์หญิง”เสียงร้องเรียกด้วยความตื่นตระหนกดังก้องตำหนักกุหลาบมุก เงือกหนุ่มเร่งสะบัดหางให้เร็วขึ้นก่อนจะพาร่างชายชาตรีนั้นไปแทบทุกซอกทุกมุมของตำหนัก แต่ก็หามีวี่แววขององค์หญิงแสนซนไม่ “ไปไหนของท่านอีกล่ะนี่”
“เย้ ในที่สุดก็ได้ออกมาเสียที” ใบหน้างดงามประดับรอยยิ้มแฝงด้วยความสุข ผมสีเงินถูกเกล้าขึ้น มีเพียงปิ่นมุกสีขาวนวลปักไว้ไม่ให้ผมที่ยาวสลวยคลายออก ตาสีฟ้าดูน่ามองสอดส่องลงมาถึงพื้นสมุทรต้องร่างของเงือกสาวหางปลาสีชมพูอ่อนสะบัดไปมาเพียงพาให้ร่างบางเร่งรุดออกห่างจากพระราชวัง
เหนือน้ำทะเลดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เหลือเพียงแสงสีส้มสาดส่องไปทั่วผืนสมุทร เงาของอะไรบางอย่างทอดอยู่บนผิวน้ำปลุกต่อมความสนใจของเงือกสาว
โลมาสีขาวว่ายฝ่ากระแสน้ำตรงมาหาผู้เป็นเพื่อนและทักทายด้วยภาษาโลมา เงือกสาวยิ้มทักทายตอบ ก่อนที่ท่วงทำนองเพลงแห่งสายน้ำจะดังก้องทั่วบริเวณนั้น แสงสีขาวเปล่งออกมาจากร่างของโลมา พร้อมกับการปรากฏร่างของเด็กสาวผมสีชมพูอ่อน ตาสีชมพูอ่อนมองมายังเงือกสาวก่อนจะเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง “ริเวียร่า เจ้าสบายดีมั้ย”
”ก็อย่างที่เห็น เอเนีย รอดมาได้ครบ32” เงือกนาม'ริเวียร่า'ยักไหล่อย่างเคยชิน
“คราวนี้มาอย่างไรอีกล่ะ เล่ามาให้ข้าฟังให้หมดเลยนะ” ‘เอเนีย’โลมาสาวในร่างมนุษย์เอ่ยถามอย่างรู้ทัน
“ก็ไม่ยากหรอก ข้าก็แค่ให้แม่นมช่วยเรียกเหล่านางรำมาแสดงให้ข้าดูเฉยๆ” ริเวียร่าเอ่ยก่อนจะพยายามเพ่งมองไปยังเงาที่อยู่เหนือร่างของตน
“ถ้าให้ข้าเดาเจ้าก็คงจะแอบขโมยชุดพวกนางมาใส่ตอนที่พวกนางเปลี่ยนชุดสิน่ะแล้วก็อาจจะเล่นตลกกับพวกนางนิดหน่อย พวกนั้นคงจะคิดว่าวิญญาณสมุทรมาหลอกพวกนางแน่เลย” เอเนียพูดพลางคิดภาพพวกนางรำที่นางกล่าวถึงกำลังวิ่งวุ่นกันจ้าละหวั่นเนื่องจากได้ยินเสียงดัดของท่านหญิงตัวแสบ ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
“อืม ก็ประมาณนั่นแหละ” ริเวียร่าตอบด้วยน้ำเสียงตอบไปที สายตาจับจ้องวัตถุเบื้องบนอย่างใคร่รู้ ทำเอาคู่สนทนาต้องหันสายตามองตามเงือกสาวหันมามองหน้าเพื่อนด้วยรอยยิ้มร่าเริง “เอเนีย ข้าคิดอะไรดีๆออกแล้วล่ะ เจ้าพร้อมจะสนุกกับข้ารึยัง”
“อะไรเนี่ย ข้ายังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ”เอเนียตอบทีเล่นทีจริง “ทำอย่างนี้ท่านพี่คาอัสไม่ว่าเอาหรอกหรือ”
“เอาเถอะน่า คาอัสไม่รู้หรอก”มือของเงือกสาวฉวยมือของเอเนียก่อนที่ร่างของทั้งสองจะทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำ
เสียงน้ำทะเลดังไปรอบตัว กลิ่นอายเค็มโชยขึ้นมาจากผืนทะเล เด็กสาวสมุทรทั้งสองจ้องมองบางอย่างที่ลอยเคว้งคว้างบนผิวน้ำ สิ่งนั้นจะไม่วิเศษเลยสำหรับชาววารีทั้งสอง หากบนนั้นไม่สิ่งมีชีวิตที่ถูกขนานนามว่า ‘มนุษย์’
“เอเนีย เจ้าเห็นอย่างที่ข้าเห็นมั้ย”ริเวียร่าเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น
“เต็มสองตาข้าเลย”เอเนียสำทับด้วยความรู้สึกเดียวกับเพื่อนสนิท “มนุษย์ชาย”
“ใช่ ข้าอยากรู้จริงๆว่า มนุษย์ชายจะหล่อกว่าเงือกสักกี่เท่ากัน”ริเวียร่าเอ่ยอย่างครุ่นคิด
“วิธีเดียว”เอเนียยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ริเวียร่า เพื่อนสนิททั้งสองมักสื่อสารกันผ่านดวงตาเสมอ เงือกสาวล่วงรู้ถึงความคิดของเอเนียเป็นอย่างดี
พลันสำเนียงกวีแห่งชาววารีก็ดังก้อง ไม่มีผู้ใดได้ยิน บทกวีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้หูสดับฟังเพียงแค่หัวใจนั้นนิ่งสงบก็สามารถได้ยินบทกลอนอันเป็นราวกับคาถาแห่งสายน้ำแล้ว
'เพียงสายฝน โหมกระหน่ำ สู่ผืนดิน
เพียงเกลียวคลื่น สะบัดดิ้น ให้สูงเชี่ยว
เพียงสายลม หวดหิน ไม่ยั้งเหนี่ยว
เพียงสายฟ้า กระหวัดเกี่ยว จากเบื้องบน'
สิ้นทำนองวารี หยาดฝนจากฟ้าก็หลั่งลงมามิขาดสาย ผืนทะเลที่เคยนิ่งสงบกลับบิดตัวขึ้นเป็นเกลียว สายลมที่เคยพัดเอื่อยเฉื่อยบัดนี้ทวีแรงขึ้น ทำเอาต้นไม้ลู่ลมเสียจนราวจะหักโค่นเอเนียไม่รอช้าที่จะดำเนินรอยต่อของแผน เด็กสาวคืนร่างเป็นโลมาสีชมพูก่อนจะดำเนินแผนการอันแยบยลต่อ
เอเนียมุดตัวลงใต้พื้นน้ำก่อนจะว่ายน้ำเข้าสู่ใต้เรือไม้ที่ตอนนี้ลอยล่องตามกระแสน้ำอย่างไร้การควบคุม แต่นี่ไม่ใช่อุปสรรคของเอเนีย กลับกลายเป็นการง่ายสำหรับเธอ เพียงใช้ครีบเล็กๆของโลมาสาว เรือลำเล็กก็พลิกคว่ำเทเอาร่างบนนั้นตกลงสู่ท้องทะเลอันเชี่ยวกราดร่างมนุษย์ลอยคออยู่กลางน้ำก่อนที่จะค่อยๆจมลงด้วยกำลังที่เหลืออันน้อยนิด เอเนียไม่รอช้ารีบว่ายเข้ามาพยุงร่างอันอ่อนล้านั้นก่อนจะว่ายเข้าสู่ชายฝั่งของเกาะร้างแถวๆนั้น
“คนอะไร หนักชะมัดเลย”เสียงบ่นของเอเนียทำเอาริเวียร่าที่ว่ายน้ำเข้าใกล้ชายฝั่งแอบอมยิ้ม ตอนนี้ท้องทะเลที่เคยแสดงความโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่กลับสงบเยือกเย็นเฉกเช่นที่ควรจะเป็นร่างมนุษย์สามร่างปรากฏชัดบนชายฝั่ง ร่างหนึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนผืนทราย อีกสองร่างเป็นของเด็กสาวที่ดูท่าทางสนอกสนใจผู้ที่หลับไม่ได้สติอยู่เป็นเอามาก
สายตาชาวมัจฉาทั้งสองจับจ้องที่ร่างของมนุษย์หนุ่ม ใบหน้าคมคายหล่อเหลายิ่งกว่าชาววารีคนไหนที่พวกเธอเคยพานพบ ผมสีทองของเขาทอแสงยามต้องแสงอาทิตย์ ร่างตรงหน้าตรึงสายตาของชาววารีทั้งสองได้เป็นอย่างดี
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้สติ ริเวียร่าเริ่มจะรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง เธอหันไปสะกิดเอเนียเบาๆ “ข้าว่าเรากลับกันเถอะ ถ้าหากเขาตื่นขึ้นมา เราจะหาทางหลุดไปไม่ได้นะ”
เอเนียพยักหน้าก่อนจะรีบเดินไปยังชายหาด เดินลึกลงไปในมหาสมุทรและกลายร่างเป็นโลมาหายไปในเกลียวคลื่น ริเวียร่าหันไปมองเด็กหนุ่มก่อนจะรีบเดินลงทะเลไป แต่ทว่า...
“แม่นาง”เสียงเรียกแสนอ่อนโยน ทำเอาริเวียร่าถึงกับสะดุ้ง เธอค่อยๆหันไปตามเสียงเรียกนั้นด้วยใจที่เต้นระทึก ก่อนจะเห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นของเด็กหนุ่ม “ขอบคุณที่ช่วยข้าเอาไว้”
“เออ อันที่จริงข้าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าหรอก ขะ ข้า...แค่เห็นเจ้ามาเกยหาดอยู่ตรงนี้เอง”ริเวียร่าพูดท่าทางหวาดกลัว
“พายุเมื่อครู่ไยจึงสงบลงรวดเร็วเช่นนี้เล่า”เด็กหนุ่มเงยหน้ามองดูท้องฟ้าสีส้มก่อนจะมองสำรวจไปรอบตัวก่อนจะมาหยุดสายตาที่ร่างของเด็กสาวพลางทำสายตาฉงน “ว่าแต่ แม่นางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ดูอย่างไรที่นี่ก็ราวกับเกาะร้าง”
“เออ ที่จริง คือ...เออ...อ้อ บ้านข้าอยู่ลึกเข้าไปในป่านู่นน่ะ”ริเวียร่าพยายามปั้นน้ำเป็นตัวให้เด็กหนุ่มฟัง
“อยู่คนเดียวนี่นะ”เด็กหนุ่มพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เด็กสาวใบหน้างดงามเช่นนี้อาศัยอยู่คนเดียวบนเกาะร้าง มันชักจะแปลกๆอยู่
“เออ...คือ...อืม ก็ใช่”ริเวียร่าตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก พยายามจะพาเด็กหนุ่มออกนอกเรื่องให้ได้ “ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรหรือ”
“ข้านามว่า พอลลักซ์ ไพราเทส”เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะย้อนถามริเวียร่าบ้าง “แล้วแม่นางล่ะ”
“แหม ชื่อเหมือนดาวคนคู่เลยนะ”เด็กสาวทำหูทวนลมไม่ได้ยินคำถาม
“ใช่ แล้วเจ้าล่ะ ชื่ออะไร”พอลลักซ์ถามซ้ำอีกครั้ง ด้วยเข้าใจว่าเด็กสาวตรงหน้าไม่ได้ยินจริงๆ
“เออ...ข้าหรอ...”ริเวียร่าอ้ำอึ้งก่อนจะเห็นเด็กหนุ่มพยักหน้า “คือ...ชื่อไรดีนะ”
“อะไรนะ”พอลลักซ์ทำหน้างง
“เออ คือ...ข้าชื่อ ริน”ริเวียร่าตอบก่อนจะทำสีหน้าโล่งอก
“ริน...ทำไมชื่อเจ้ามันสั้นนักเล่า”พอลลักซ์พูด เด็กสาวคนนี้ท่าทางแปลกเสียเหลือเกิน
“แล้วเจ้าจะให้ข้าชื่ออะไรเล่า”ริเวียร่าแสร้วทำน้ำเสียงหงุดหงิดกลับ
“เอาล่ะๆ ถือว่าข้าไม่ได้พูดประโยคนั้นแล้วกัน เจ้าพอจะช่วยนำทางข้าไปยังบ้านของเจ้าได้หรือไม่”พอลลักซ์พามหวังหว่านล้อมให้เด็กสาวตกอยู่ในกับดักคำพูดของตน “เจ้าก็เห็นว่าตอนนี้ข้าไม่มีเรือที่จะพากลับไปแล้ว หวังว่าเจ้าคงจะมีน้ำใจพอจะช่วยเหลือข้านะ”
“คือ...”ริเวียร่ามองซ้ายมองขวา ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก เด็กสาวยืนนิ่งรวบรวมสมาธิอยู่ครู่หนึ่ง
'สายน้ำ ไม่ย้อนมา
เวลา ไม่ย้อนคืน
แต่ข้า จะขอฝืน
เรียกคืน สิ่งต้องการ'
“ไหนเจ้าบอกว่าไม่มีเรือไง แล้วที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่ของเจ้าหรอกหรือ”ริเวียร่าย้อนถามก่อนจะตวัดสายตาไปยังเรือไม้ลำเล็กที่ติดอยู่ระหว่างซอกหิน
พอลลักซ์หันไปมองตามสายตาของเด็กสาวและก็ต้องประหลาดใจ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา…มันคือเรือ เรือลำเดียวกับที่เขาใช้พายมา เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อ เมื่อสักครู่มันยังไม่มีอยู่เลยนี่นา เขาหันกลับมามองเด็กสาวอย่างไม่ค่อยเชื่อสายตาตัวเอง
“ที่นี้ เจ้าก็กลับไปได้แล้วล่ะ มันเย็นมากแล้วนะ”ริเวียร่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าจะว่าอะไรข้าหรือไม่ หากข้าจะขอมาที่นี่บ่อยๆ”พอลลักซ์ถามอย่างมีความหวังพร้อมกับความคิดอันแยบยล
“ก็เอาสิ ข้าก็เหงาๆอยู่เหมือนกัน”ริเวียร่าตอบเสียงใส แต่ทันทีที่พูดประโยคนั้นออกไปเธอก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด
“งั้นวันนี้ข้าขอลา พรุ่งนี้เราคงจะได้พบกันอีก”เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะรีบลงเรือกลับไป เขาหันมาโบกมือให้เด็กสาว เธอยังคงอยู่ตรงนั้นโบกมือบาให้เขาอยู่
ทันทีที่เรือไม้ลำเล็กหายลับไปจากสายตา ริเวียร่าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบลงสู่ทะเลอันเป็นที่อาศัยที่แท้จริงของเธอ เรื่องวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว พรุ่งนี้เธอจะต้องมาตามนัด ผิดสัญญาไม่ได้เสียด้วยสิ เฮ้อ
..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....
มนุษย์คนนี้จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตริเวียร่าแค่ไหนกันนะ
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆนักเขียนและรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน^^
ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเจ้าค่ะ
ไมย่า คอร์พริเซีย...มีความฝันว่าสักวันจะแต่งนิยายจบค่ะ5555
เชื่อว่านี่ก็น่าจะเป็นความฝันของเพื่อนๆนักเขียนหลายคน
ยังไงก็ฝากนิยายเรื่อง อาราไอเวีย ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะเจ้าคะ ><
อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
ใครเจอคำผิดก็เม้นท์มาบอกกันได้ตลอดค่ะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
twitter @MaiyaCorprisia
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya
ปล.เรื่องนี้อัพทุกคืนวันเสาร์นะเจ้าคะ อาจจะดึกหน่อย
MaiYA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ค. 2558, 16:39:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 พ.ค. 2558, 16:39:59 น.
จำนวนการเข้าชม : 829
<< บทนำ การขับขานดินแดนในตำนาน | บทที่2 หนีเที่ยว >> |