Araivia อาราไอเวีย ขุมทรัพย์วิวาห์เงือก
นครอาราไอเวีย...ต่อให้เจ้าจะทรมาณข้าไปจนตายแต่จงรู้ไว้เจ้าไม่มีวันที่จะได้รับรู้ถึงนครอันลึกลับแห่งนี้เป็นแน่
ข้าไม่ยอมให้เจ้าเป็นเจ้าของชีวิตข้าเสียหรอก
ข้าไม่ยอมให้เจ้าเป็นเจ้าของชีวิตข้าเสียหรอก
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่2 หนีเที่ยว
บทที่2
หนีเที่ยว
ดูเหมือนว่าหัวหน้าองครักษ์จะรับรู้ถึงการหายตัวไปอย่างไร้วี่แววขององค์หญิงจอมแสบทั้งตำหนักจึงคราคร่ำไปด้วยทหารเช่นนี้ แต่ดูเหมือนคนถูกตามหาจะไม่รับรู้ถึงความเดือดร้อนเยี่ยงนี้
“ท่านคาอัส เราค้นทั่วพระตำหนักแล้ว แต่หาพบวี่แววขององค์รัชทายาทไม่”เงือกตนหนึ่งเอ่ยขึ้น เขาสวมชุดทหารองครักษ์ที่มีตราของพระตำหนักกุหลาบมุกประทับอยู่บนหมวก ตราที่ใครได้พบเห็นต้องเกร็งทุกครั้งไป
พระตำหนักกุหลาบมุก…สถานที่ที่เป็นที่ประทับขององค์หญิงไม่ว่าจะอยู่ในรัชสมัยใดสถานที่แห่งนี้มีระบบการรักษาความปลอดภัยดีเสียยิ่งกว่าพระตำหนักใหญ่ของราชาเงือกเสียอีกเพียงเพราะเรื่องเล่าโบราณที่ยังคงติดอยู่ในใจของชาวสมุทรทุกตน ตั้งแต่เกิดพวกเขาเรียนรู้ว่าองค์หญิงเงือกเป็นยิ่งกว่าหัวใจของพวกเขาทั้งหมด สำคัญมากจนมิอาจจะเสียไปให้ใครแม้สักคน
“อย่างพระนางน่ะ คงไม่ยอมให้องครักษ์อย่างพวกเราจับตัวไปง่ายๆหรอก อีกไม่นานพระนางคงกลับมา”เงือกหนุ่มใบหน้าเกลี้ยงเกลาเอ่ยตอบ ผมสีน้ำตาลของเขารับกับดวงตาสีดำเข้มเป็นอย่างดี “ว่าแต่ ทางพระราชวังทราบเรื่องรึยัง”
“ยังขอรับ ท่านคาอัส” เงือกองครักษ์ตนเดิมขานตอบ
“ดีแล้ว อย่าให้เรื่องนี้แพร่ออกนอกตำหนัก ต้องเก็บเป็นความลับรู้ไว้ว่ามันสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพวกเราทั้งตำหนักเสียอีก พวกเจ้าแยกย้ายไปได้แล้ว”คาอัสออกคำสั่ง ใช่ว่าเขาจะไม่กังวล แต่หากเรื่องนี้แพร่ออกไปให้แม้แต่ใครคนหนึ่งนอกตำหนักรู้เรื่องน่ากังวลยิ่งกว่าเรื่องนี้คงต้องตามรังควานเขาจนตาย ยิ่งในเวลานี้ด้วยแล้ว...ยิ่งไม่สมควรให้ใครสักคนรู้
“ขอรับ ข้าจะรับคำสั่งนี้ไปบอกเหล่าองครักษ์ทุกคนในตำหนัก”เงือกองครักษ์โค้งตัวรับคำสั่งก่อนจะเงยขึ้นมองหน้าหัวหน้าองครักษ์ที่เยาว์กว่าตนแล้วถอยออกไปให้หัวหน้าองครักษ์ได้ครุ่นคิดบางสิ่งเพียงคนเดียว
คาอัสตัดสินใจที่จะเข้าไปรออยู่ในตำหนักดีกว่าที่จะต้องมายืนรอองค์หญิงตัวแสบที่มีทีท่าว่าจะต้องเสด็จกลับมาในเวลาอันไม่สมควรเป็นแน่ แต่ทันทีที่หันหลังเขาก็รู้สึกถึงกระแสน้ำระลอกใหญ่ที่เข้ามาปะทะกับเขาจากทางด้านหลัง องครักษ์หนุ่มแสร้งว่ายไปข้างหน้าก่อนจะว่ายหลบไปข้างทาง
ใบมีดคมถูกชักออกมาจากฝัก ก่อนที่แขนแกร่งของชายหนุ่มจะรัดแขนทั้งสองของผู้บุกรุกเอาไว้ เหล็กเย็นทาบลงบนลำคอเรียวของฝ่ายตรงข้าม แต่แล้วกลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงใสจากคนตรงหน้า
“คาอัส เดี๋ยวนี้ท่านชักจะเล่นแรงเกินไปแล้วนะ”เสียงหวานใสเอ่ยทีเล่นทีจริง
“องค์หญิงริเวียร่า เพรอลล่า มกุฏราชกุมารีแห่งวาเทอราเรีย”เสียงเข้มเรียกชื่อของผู้บุกรุกเสียเต็มยศ ทำเอาคนถูกเรียกสะดุ้งต้องหันกลับมามองที่ผู้อาวุโสกว่า มีดสั้นถูกเก็บเข้าฝักดังเดิมไม่มีแม้แต่คำขอโทษที่เขากล้าอุกอาจเช่นนั้น “ทรงเสด็จที่ใดมา ไยจึงกลับมาในเวลาเช่นนี้”
“โธ่ คาอัส ข้าก็แค่อยากออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกวังเสียบ้าง ข้าไปไม่ไกลหรอก”คาอัสมองหน้านายเหนือหัวของตนด้วยสายตาที่ทำเอาคนพูดยำเกรง “จริงๆนะ ข้ามิกล้าโกหกท่านหรอก”
“พรุ่งนี้ ข้าขอสั่งกักบริเวณองค์หญิง”เสียงเข้มเน้นเสียงทุกคำพูดก่อนจะตบท้ายด้วยคำพูดที่ทำเอาคนรับคำสั่งลำบากใจกับคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับใครคนหนึ่ง “ทั้งวันและทุกวันจนกว่าจะถึงพิธีเฉลิมพระชนมายุ”
“เจ้าต้องคอยตามเสด็จองค์หญิงทุกฝีก้าว ห้ามให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว”เสียงขององครักษ์หนุ่มออกคำสั่งกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างขึงขัง แม้จะรู้ว่าสั่งไปองค์หญิงแสนซนก็คงจะมีแผนเด็ดๆหนีพ้นเขตพระราชตำหนักอยู่ดี แต่อย่างน้อยมันคงจะเป็นกำแพงชั้นดีที่จะทำให้แผนของนางสำเร็จได้ยากขึ้น
องครักษ์หนุ่มหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่แฝงไปด้วยประกายแห่งความหงุดหงิดจ้องมองเขาอยู่ทุกฝีก้าว ร่างตรงนั้นวูบไหวทันทีที่ชายหนุ่มว่ายห่างไปจากตัวพระตำหนักก่อนที่เงาของร่างนั้นจะหายไปแทบจะทันทีเช่นกัน
“เบื่อ เบื่อ เบื่อๆ คาอัสนะ วางกำลังคุ้มกันรอบพระตำหนักอย่างหนาแน่นเช่นนี้กะจะตั้งรับข้าศึกหรืออย่างไรกัน”เสียงใสตัดพ้อองครักษ์ประจำตัวเสียไม่กลัวเจ้าตัวจะได้ยิน
“โธ่ เจ้าหญิงของข้า ท่านคาอัสทำเยี่ยงนี้สิจึงจะเป็นการอันควร หากปล่อยให้ท่านหญิงเที่ยวเตร็ดเตร่ออกนอกวังอย่างที่ทรงเคยทำอยู่บ่อยๆเหมือนก่อนเห็นจะไม่ได้”เสียงของหญิงชราผู้นั่งอยู่ข้างกายเจ้าหญิงของนางมาเสียนมนานเอ่ยขึ้น หญิงชราแอบช้อนสายตามองใบหน้าง้ำงอนขององค์รัชทายาทแห่งท้องทะเลอย่างหนักใจ
“แล้วเหตุใดจึงไม่พาข้าไปเที่ยวเสียเองเลยล่ะ ไยจึงต้องให้ข้านั่งว่างในตำหนักอยู่เช่นนี้”ริเวียร่าเหน็บแหนมหัวหน้าองครักษ์อย่างฉุนเฉียว
“ถึงอย่างไรก็ไม่ได้หรอกเพคะ ยิ่งในเวลาเช่นนี้แล้วท่านยิ่งสมควรอยู่แต่ในพระตำหนักจนกว่าจะถึงวันฉลองพระชนมายุ”หญิงชราเอ่ยพูดอย่างลืมตัว นางแทบอยากจะหมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปเสียเหลือเกินหลังจากที่ได้ยินประโยคที่ตามมา
“ยิ่งในเวลาเช่นนี้แล้ว”ริเวียร่าทวนคำพูดอีกครั้งพร้อมประกายเจ้าเล่ห์ที่ส่งผ่านดวงตา “หมายความว่าอย่างไรหรือจ๊ะ ท่านป้าลูเซีย ท่านพูดว่าให้รอจนถึงวันเฉลิมพระชนมายุ ไยจึงต้องรอล่ะคะ พูดราวกับว่าหากพ้นวันเกิดครบรอบ16ปีของข้า ข้าจะออกนอกตำหนักได้ตามใจอย่างไรอย่างนั้น”
“ไม่ได้มีความนัยใดๆทั้งสิ้นหรอกเพคะ เพียงแต่...”เสียงที่ค่อยๆเบาลงของหญิงชราบ่งบอกถึงความลังเลของผู้พูด
“เพียงแต่อะไรหรือค่ะ แม่นม”เด็กสาวส่งสายตาคาดคั้นมายังลูเซียอย่างนึกสนุก
“ไม่มีอะไรหรอกเพคะ นี่ก็ดึกมากแล้วทรงรีบเข้านอนเสียเถิด พรุ่งนี้เช้าจะได้สดใส”หญิงชรากลบเกลื่อนคำพูดอย่างไม่ค่อยจะแนบเนียนนัก แต่ริเวียร่าก็ทำราวกับเชื่อสนิทใจว่าสิ่งที่แม่นมของเธอกล่าวเป็นความจริง
เวลาผ่านไปได้ชั่วยามแล้ว แต่ริเวียร่าก็ยังคงนอนไม่หลับ เธอได้แต่นอนเอามือก่ายหน้าผากพลางคิดแผนอันแยบยลเพื่อนจะได้ไปพบเพื่อนมนุษย์ในวันพรุ่งนี้ และไม่นานแผนการจากสมองอันขึ้นชื่อว่าปราดเปรื่องจากกราเยอร์นักปราชญ์แห่งท้องทะเลก็ผุดขึ้นมา ก่อนที่เด็กสาวจะผล็อยหลับไปด้วยรอยยิ้ม
“องค์รัชทายาท จะเสด็จไปที่ใดหรือ พระเจ้าค่ะ”เสียงเข้มของทหารนายหนึ่งดังขึ้น ทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง
“ข้าจะไปชมสวน จะไปเก็บดอกไม้มาจัดเล่นเสียหน่อย”เสียงใสตอบอย่างพาซื่อ ทั้งที่ในใจได้คิดการใหญ่ไว้แล้ว
“งั้นกระหม่อมจะนำเสด็จพระนางเอง”ทหารผู้นั้นกล่าวอย่างนอบน้อม แม้จะรู้ดีว่าอาจจะได้แค่หวัง
“ไม่จำเป็นหรอก สวนดอกไม้ใกล้แค่เพียงไม่กี่ก้าว อีกทั้งนางกำนัลก็ตามเสด็จมามากเกินพอแล้ว สวนดอกไม้เล็กเช่นนั้นจะไปเบียดเสียดกันเสียเปล่า”ริเวียร่าตอบอย่างทันทีพร้อมกับรัวเหตุผลซึ่งทำให้ทหารนายนั้นถึงกับอ้างเหตุใดๆที่จะตามเสด็จไม่ออก เงือกสาวมองหน้าอ้ำอึ้งของนายทหารอย่างพอใจ ก่อนจะปรายสายตาไปยังเงือกทหารนายนั้นแสร้งทำเคือง “ข้าว่ารีบไปกันเถอะ หากเลยเวลาอาทิตย์ตรงหัวกว่านี้คงได้เก็บเพียงดอกไม้เฉาเท่านั้น”
“นั่นอย่างไร ดอกสีขาวนั้นน่ะ เก็บมาให้ข้าที”เสียงหวานยืนชี้นิ้วสั่งเหล่านางกำนัลพลางคิดหาทางหลบหลีกออกนอกพระตำหนัก
“แต่มันอยู่ลึกเกินไป หม่อมฉันเกรงว่าอาจจะมีงู”เสียงพูดของนางกำนัลนางนั้นค่อยๆแผ่วเบาเมื่อเผลอสบเข้ากับสายตาอันน่าเกรงขามของนายหญิงตน
“แล้วอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรข้าก็ยืนดูให้เจ้าอยู่ตรงนี้ เร็ว ว่ายเข้าไปเก็บดอกไม้ตรงนั้นให้ข้า”ริเวียร่าพูดพลางชี้นิ้วไปยังบริเวณพุ่มไม้หนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างต้นไม้ใหญ่สองต้น
“แต่…”เสียงของนางกำนัลอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แต่เมื่อเผลอสบดวงตาสีฟ้าที่ทอประกายแข็งกร้าวแห่งความโกรธ ทำให้เงือกสาวต้องกลืนประโยคถัดไปลงลำคอ
“ตรงนั้นน่ะ เจ้าไม่เห็นหรือ”เสียงใสออกคำสั่งด้วยรอยยิ้มพร้อมๆกับที่หางปลาสีชมพูสะบัดเบาๆพาร่างของเด็กสาวถอยหลังห่างจากเหล่านางกำนัลมากขึ้น “เก็บเท่านั้นมันจะพอได้อย่างไรเล่า เก็บให้ได้มากกว่านี้ ถ้าไม่ได้จริงๆก็ว่ายเข้าไปให้ลึกกว่านี้สิ”
“ถ้าพวกเจ้าเก็บไม่ได้คนละอ้อมแขน ข้าจะอดอาหารเย็นนี้เป็นแน่”ริเวียร่าตะโกนสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพาเอานางกำนัลแต่ละตนอกสั่นขวัญแขวนไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมามองร่างของเจ้านายที่หายลับไปจากที่ตรงนั้น
..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....
องค์หญิงของเราแก่นแก้วไม่เบาเลยนะเจ้าคะ
ซุกซนได้ทุกวันอย่างนี้ แอบสงสารท่านคาอัสเลย
ว่าแต่...ริเวียร่าจะไปไหนกันนะ
ตอนที่2แล้วนะ เย้!
บอกข่าวดีคือ...วันนี้จะอัพให้ถึงบทที่3เลย เย้(อีกรอบ)!
โปรโมชั่นพิเศษ555
อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya
ปล.เรื่องนี้อัพทุกคืนวันเสาร์นะเจ้าคะ อาจจะดึกหน่อย
หนีเที่ยว
ดูเหมือนว่าหัวหน้าองครักษ์จะรับรู้ถึงการหายตัวไปอย่างไร้วี่แววขององค์หญิงจอมแสบทั้งตำหนักจึงคราคร่ำไปด้วยทหารเช่นนี้ แต่ดูเหมือนคนถูกตามหาจะไม่รับรู้ถึงความเดือดร้อนเยี่ยงนี้
“ท่านคาอัส เราค้นทั่วพระตำหนักแล้ว แต่หาพบวี่แววขององค์รัชทายาทไม่”เงือกตนหนึ่งเอ่ยขึ้น เขาสวมชุดทหารองครักษ์ที่มีตราของพระตำหนักกุหลาบมุกประทับอยู่บนหมวก ตราที่ใครได้พบเห็นต้องเกร็งทุกครั้งไป
พระตำหนักกุหลาบมุก…สถานที่ที่เป็นที่ประทับขององค์หญิงไม่ว่าจะอยู่ในรัชสมัยใดสถานที่แห่งนี้มีระบบการรักษาความปลอดภัยดีเสียยิ่งกว่าพระตำหนักใหญ่ของราชาเงือกเสียอีกเพียงเพราะเรื่องเล่าโบราณที่ยังคงติดอยู่ในใจของชาวสมุทรทุกตน ตั้งแต่เกิดพวกเขาเรียนรู้ว่าองค์หญิงเงือกเป็นยิ่งกว่าหัวใจของพวกเขาทั้งหมด สำคัญมากจนมิอาจจะเสียไปให้ใครแม้สักคน
“อย่างพระนางน่ะ คงไม่ยอมให้องครักษ์อย่างพวกเราจับตัวไปง่ายๆหรอก อีกไม่นานพระนางคงกลับมา”เงือกหนุ่มใบหน้าเกลี้ยงเกลาเอ่ยตอบ ผมสีน้ำตาลของเขารับกับดวงตาสีดำเข้มเป็นอย่างดี “ว่าแต่ ทางพระราชวังทราบเรื่องรึยัง”
“ยังขอรับ ท่านคาอัส” เงือกองครักษ์ตนเดิมขานตอบ
“ดีแล้ว อย่าให้เรื่องนี้แพร่ออกนอกตำหนัก ต้องเก็บเป็นความลับรู้ไว้ว่ามันสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพวกเราทั้งตำหนักเสียอีก พวกเจ้าแยกย้ายไปได้แล้ว”คาอัสออกคำสั่ง ใช่ว่าเขาจะไม่กังวล แต่หากเรื่องนี้แพร่ออกไปให้แม้แต่ใครคนหนึ่งนอกตำหนักรู้เรื่องน่ากังวลยิ่งกว่าเรื่องนี้คงต้องตามรังควานเขาจนตาย ยิ่งในเวลานี้ด้วยแล้ว...ยิ่งไม่สมควรให้ใครสักคนรู้
“ขอรับ ข้าจะรับคำสั่งนี้ไปบอกเหล่าองครักษ์ทุกคนในตำหนัก”เงือกองครักษ์โค้งตัวรับคำสั่งก่อนจะเงยขึ้นมองหน้าหัวหน้าองครักษ์ที่เยาว์กว่าตนแล้วถอยออกไปให้หัวหน้าองครักษ์ได้ครุ่นคิดบางสิ่งเพียงคนเดียว
คาอัสตัดสินใจที่จะเข้าไปรออยู่ในตำหนักดีกว่าที่จะต้องมายืนรอองค์หญิงตัวแสบที่มีทีท่าว่าจะต้องเสด็จกลับมาในเวลาอันไม่สมควรเป็นแน่ แต่ทันทีที่หันหลังเขาก็รู้สึกถึงกระแสน้ำระลอกใหญ่ที่เข้ามาปะทะกับเขาจากทางด้านหลัง องครักษ์หนุ่มแสร้งว่ายไปข้างหน้าก่อนจะว่ายหลบไปข้างทาง
ใบมีดคมถูกชักออกมาจากฝัก ก่อนที่แขนแกร่งของชายหนุ่มจะรัดแขนทั้งสองของผู้บุกรุกเอาไว้ เหล็กเย็นทาบลงบนลำคอเรียวของฝ่ายตรงข้าม แต่แล้วกลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงใสจากคนตรงหน้า
“คาอัส เดี๋ยวนี้ท่านชักจะเล่นแรงเกินไปแล้วนะ”เสียงหวานใสเอ่ยทีเล่นทีจริง
“องค์หญิงริเวียร่า เพรอลล่า มกุฏราชกุมารีแห่งวาเทอราเรีย”เสียงเข้มเรียกชื่อของผู้บุกรุกเสียเต็มยศ ทำเอาคนถูกเรียกสะดุ้งต้องหันกลับมามองที่ผู้อาวุโสกว่า มีดสั้นถูกเก็บเข้าฝักดังเดิมไม่มีแม้แต่คำขอโทษที่เขากล้าอุกอาจเช่นนั้น “ทรงเสด็จที่ใดมา ไยจึงกลับมาในเวลาเช่นนี้”
“โธ่ คาอัส ข้าก็แค่อยากออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกวังเสียบ้าง ข้าไปไม่ไกลหรอก”คาอัสมองหน้านายเหนือหัวของตนด้วยสายตาที่ทำเอาคนพูดยำเกรง “จริงๆนะ ข้ามิกล้าโกหกท่านหรอก”
“พรุ่งนี้ ข้าขอสั่งกักบริเวณองค์หญิง”เสียงเข้มเน้นเสียงทุกคำพูดก่อนจะตบท้ายด้วยคำพูดที่ทำเอาคนรับคำสั่งลำบากใจกับคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับใครคนหนึ่ง “ทั้งวันและทุกวันจนกว่าจะถึงพิธีเฉลิมพระชนมายุ”
“เจ้าต้องคอยตามเสด็จองค์หญิงทุกฝีก้าว ห้ามให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว”เสียงขององครักษ์หนุ่มออกคำสั่งกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างขึงขัง แม้จะรู้ว่าสั่งไปองค์หญิงแสนซนก็คงจะมีแผนเด็ดๆหนีพ้นเขตพระราชตำหนักอยู่ดี แต่อย่างน้อยมันคงจะเป็นกำแพงชั้นดีที่จะทำให้แผนของนางสำเร็จได้ยากขึ้น
องครักษ์หนุ่มหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่แฝงไปด้วยประกายแห่งความหงุดหงิดจ้องมองเขาอยู่ทุกฝีก้าว ร่างตรงนั้นวูบไหวทันทีที่ชายหนุ่มว่ายห่างไปจากตัวพระตำหนักก่อนที่เงาของร่างนั้นจะหายไปแทบจะทันทีเช่นกัน
“เบื่อ เบื่อ เบื่อๆ คาอัสนะ วางกำลังคุ้มกันรอบพระตำหนักอย่างหนาแน่นเช่นนี้กะจะตั้งรับข้าศึกหรืออย่างไรกัน”เสียงใสตัดพ้อองครักษ์ประจำตัวเสียไม่กลัวเจ้าตัวจะได้ยิน
“โธ่ เจ้าหญิงของข้า ท่านคาอัสทำเยี่ยงนี้สิจึงจะเป็นการอันควร หากปล่อยให้ท่านหญิงเที่ยวเตร็ดเตร่ออกนอกวังอย่างที่ทรงเคยทำอยู่บ่อยๆเหมือนก่อนเห็นจะไม่ได้”เสียงของหญิงชราผู้นั่งอยู่ข้างกายเจ้าหญิงของนางมาเสียนมนานเอ่ยขึ้น หญิงชราแอบช้อนสายตามองใบหน้าง้ำงอนขององค์รัชทายาทแห่งท้องทะเลอย่างหนักใจ
“แล้วเหตุใดจึงไม่พาข้าไปเที่ยวเสียเองเลยล่ะ ไยจึงต้องให้ข้านั่งว่างในตำหนักอยู่เช่นนี้”ริเวียร่าเหน็บแหนมหัวหน้าองครักษ์อย่างฉุนเฉียว
“ถึงอย่างไรก็ไม่ได้หรอกเพคะ ยิ่งในเวลาเช่นนี้แล้วท่านยิ่งสมควรอยู่แต่ในพระตำหนักจนกว่าจะถึงวันฉลองพระชนมายุ”หญิงชราเอ่ยพูดอย่างลืมตัว นางแทบอยากจะหมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปเสียเหลือเกินหลังจากที่ได้ยินประโยคที่ตามมา
“ยิ่งในเวลาเช่นนี้แล้ว”ริเวียร่าทวนคำพูดอีกครั้งพร้อมประกายเจ้าเล่ห์ที่ส่งผ่านดวงตา “หมายความว่าอย่างไรหรือจ๊ะ ท่านป้าลูเซีย ท่านพูดว่าให้รอจนถึงวันเฉลิมพระชนมายุ ไยจึงต้องรอล่ะคะ พูดราวกับว่าหากพ้นวันเกิดครบรอบ16ปีของข้า ข้าจะออกนอกตำหนักได้ตามใจอย่างไรอย่างนั้น”
“ไม่ได้มีความนัยใดๆทั้งสิ้นหรอกเพคะ เพียงแต่...”เสียงที่ค่อยๆเบาลงของหญิงชราบ่งบอกถึงความลังเลของผู้พูด
“เพียงแต่อะไรหรือค่ะ แม่นม”เด็กสาวส่งสายตาคาดคั้นมายังลูเซียอย่างนึกสนุก
“ไม่มีอะไรหรอกเพคะ นี่ก็ดึกมากแล้วทรงรีบเข้านอนเสียเถิด พรุ่งนี้เช้าจะได้สดใส”หญิงชรากลบเกลื่อนคำพูดอย่างไม่ค่อยจะแนบเนียนนัก แต่ริเวียร่าก็ทำราวกับเชื่อสนิทใจว่าสิ่งที่แม่นมของเธอกล่าวเป็นความจริง
เวลาผ่านไปได้ชั่วยามแล้ว แต่ริเวียร่าก็ยังคงนอนไม่หลับ เธอได้แต่นอนเอามือก่ายหน้าผากพลางคิดแผนอันแยบยลเพื่อนจะได้ไปพบเพื่อนมนุษย์ในวันพรุ่งนี้ และไม่นานแผนการจากสมองอันขึ้นชื่อว่าปราดเปรื่องจากกราเยอร์นักปราชญ์แห่งท้องทะเลก็ผุดขึ้นมา ก่อนที่เด็กสาวจะผล็อยหลับไปด้วยรอยยิ้ม
“องค์รัชทายาท จะเสด็จไปที่ใดหรือ พระเจ้าค่ะ”เสียงเข้มของทหารนายหนึ่งดังขึ้น ทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง
“ข้าจะไปชมสวน จะไปเก็บดอกไม้มาจัดเล่นเสียหน่อย”เสียงใสตอบอย่างพาซื่อ ทั้งที่ในใจได้คิดการใหญ่ไว้แล้ว
“งั้นกระหม่อมจะนำเสด็จพระนางเอง”ทหารผู้นั้นกล่าวอย่างนอบน้อม แม้จะรู้ดีว่าอาจจะได้แค่หวัง
“ไม่จำเป็นหรอก สวนดอกไม้ใกล้แค่เพียงไม่กี่ก้าว อีกทั้งนางกำนัลก็ตามเสด็จมามากเกินพอแล้ว สวนดอกไม้เล็กเช่นนั้นจะไปเบียดเสียดกันเสียเปล่า”ริเวียร่าตอบอย่างทันทีพร้อมกับรัวเหตุผลซึ่งทำให้ทหารนายนั้นถึงกับอ้างเหตุใดๆที่จะตามเสด็จไม่ออก เงือกสาวมองหน้าอ้ำอึ้งของนายทหารอย่างพอใจ ก่อนจะปรายสายตาไปยังเงือกทหารนายนั้นแสร้งทำเคือง “ข้าว่ารีบไปกันเถอะ หากเลยเวลาอาทิตย์ตรงหัวกว่านี้คงได้เก็บเพียงดอกไม้เฉาเท่านั้น”
“นั่นอย่างไร ดอกสีขาวนั้นน่ะ เก็บมาให้ข้าที”เสียงหวานยืนชี้นิ้วสั่งเหล่านางกำนัลพลางคิดหาทางหลบหลีกออกนอกพระตำหนัก
“แต่มันอยู่ลึกเกินไป หม่อมฉันเกรงว่าอาจจะมีงู”เสียงพูดของนางกำนัลนางนั้นค่อยๆแผ่วเบาเมื่อเผลอสบเข้ากับสายตาอันน่าเกรงขามของนายหญิงตน
“แล้วอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรข้าก็ยืนดูให้เจ้าอยู่ตรงนี้ เร็ว ว่ายเข้าไปเก็บดอกไม้ตรงนั้นให้ข้า”ริเวียร่าพูดพลางชี้นิ้วไปยังบริเวณพุ่มไม้หนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างต้นไม้ใหญ่สองต้น
“แต่…”เสียงของนางกำนัลอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แต่เมื่อเผลอสบดวงตาสีฟ้าที่ทอประกายแข็งกร้าวแห่งความโกรธ ทำให้เงือกสาวต้องกลืนประโยคถัดไปลงลำคอ
“ตรงนั้นน่ะ เจ้าไม่เห็นหรือ”เสียงใสออกคำสั่งด้วยรอยยิ้มพร้อมๆกับที่หางปลาสีชมพูสะบัดเบาๆพาร่างของเด็กสาวถอยหลังห่างจากเหล่านางกำนัลมากขึ้น “เก็บเท่านั้นมันจะพอได้อย่างไรเล่า เก็บให้ได้มากกว่านี้ ถ้าไม่ได้จริงๆก็ว่ายเข้าไปให้ลึกกว่านี้สิ”
“ถ้าพวกเจ้าเก็บไม่ได้คนละอ้อมแขน ข้าจะอดอาหารเย็นนี้เป็นแน่”ริเวียร่าตะโกนสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพาเอานางกำนัลแต่ละตนอกสั่นขวัญแขวนไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมามองร่างของเจ้านายที่หายลับไปจากที่ตรงนั้น
..... ..... ..... ........... ..... ...... .....
......................... ..... ..... ..... ..... ...... ..... .....
..... ..... ..... ............... ..... ..... ...............
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
..... ..... ..... ..... ........... ..... ..... .....
องค์หญิงของเราแก่นแก้วไม่เบาเลยนะเจ้าคะ
ซุกซนได้ทุกวันอย่างนี้ แอบสงสารท่านคาอัสเลย
ว่าแต่...ริเวียร่าจะไปไหนกันนะ
ตอนที่2แล้วนะ เย้!
บอกข่าวดีคือ...วันนี้จะอัพให้ถึงบทที่3เลย เย้(อีกรอบ)!
โปรโมชั่นพิเศษ555
อย่าลืม ติ ชม วิจารณ์ อย่างสุภาพด้วยนะคะ
แอดเฟรนด์กันมาได้เยอะๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ ^^
เฟส Maiya Corprisia
อีเมล Fairytale_maiyares@hotmail.com
เพจ Writer Maiya
ปล.เรื่องนี้อัพทุกคืนวันเสาร์นะเจ้าคะ อาจจะดึกหน่อย
MaiYA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ค. 2558, 16:52:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 พ.ค. 2558, 16:52:41 น.
จำนวนการเข้าชม : 892
<< บทที่1 แรกพบ | บทที่3 รู้จัก >> |