บ้านต้นรักษ์ (จบแล้วจ้า) รีไรท์
ก้อ...กอมารุน...ราชาแห่งท้องทะเลทราย
ปะทะกับ
นีล...นัจมุน...ราชินีแห่งท้องทุ่ง
เมื่อดวงจันทร์กับดวงดาวบนฟ้าต่างแข่งกันประจันแสง...
โดยมีต้นไม้ สายน้ำ และท้องทุ่ง เป็นตัวประกัน...
หมู่บ้านอันแสนสงบร่มเย็นอย่าง 'บ้านต้นรักษ์'
กำลังจะลุกเป็นไฟ
เมื่อสิ่งที่นักลงทุนอย่างเขาต้องการ
คือสิ่งเดียวกันกับที่หญิงสาวหวงแหนยิ่งชีพ
ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาหวงแหนในสิ่งที่ไม่ใช่
กรรมสิทธิ์ของตน!
การเชือดเฉือนจึงก่อกำเนิดในยุคแห่งวัตถุนิยม
ที่นายทุนเป็นใหญ่
ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ
ระหว่าง
ราชาแห่งท้องทะเลทราย กับ ราชินีแห่งท้องทุ่ง
ที่อยู่ห่างกันราวคนละโลก ในชีวิตกันคนละแบบ
คิดอ่านกันคนละอย่าง...
เสียงเพรียกจากวันวาน จะกลับมาขับขาน
สะพานไม้หมากที่พาดข้ามฟากเชื่อมสองฝั่งคลอง
กำลังสั่นสะเทือน...เมื่อสะพานคอนกรีตจะเข้ามาแทนที่
สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้กำลังจะพัดหวนคืน
...น้ำในลำธารใสสะอาดกับน้ำมันสีดำไม่อาจเข้ากันได้ฉันใด
เธอกับเขาก็ไม่อาจเข้ากันได้ฉันนั้น...
ไม่มีใครรู้ว่าระหว่าง ดวงจันทร์ดวงใหญ่แค่ดวงเดียวที่ลอยเด่น
อยู่บนฟ้ากับดวงดาวจำนวนมากมายนับล้าน
มีความเป็นมาอย่างไร...
เว้นแต่ต้นไม้ที่ผ่านกาลเวลาโดยไม่เคยหนีหายไปไหนเท่านั้น
ที่จะไขปริศนานี้...
ต้นไม้ที่ยืนผงาดอย่างอดทนผ่านร้อนหนาว
ผ่านฤดูกาลมาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีใครเคยได้ยินเสียงบ่น
ต้นไม้ที่เหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใด...
หากทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปกลับกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ความรักความประทับใจและความผูกพันธ์ถูกบันทึกไว้ใต้ต้นไม้
หยั่งรากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในจิตใจ...
มีค่า มีความหมาย...นานเท่านาน...
ปะทะกับ
นีล...นัจมุน...ราชินีแห่งท้องทุ่ง
เมื่อดวงจันทร์กับดวงดาวบนฟ้าต่างแข่งกันประจันแสง...
โดยมีต้นไม้ สายน้ำ และท้องทุ่ง เป็นตัวประกัน...
หมู่บ้านอันแสนสงบร่มเย็นอย่าง 'บ้านต้นรักษ์'
กำลังจะลุกเป็นไฟ
เมื่อสิ่งที่นักลงทุนอย่างเขาต้องการ
คือสิ่งเดียวกันกับที่หญิงสาวหวงแหนยิ่งชีพ
ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาหวงแหนในสิ่งที่ไม่ใช่
กรรมสิทธิ์ของตน!
การเชือดเฉือนจึงก่อกำเนิดในยุคแห่งวัตถุนิยม
ที่นายทุนเป็นใหญ่
ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ
ระหว่าง
ราชาแห่งท้องทะเลทราย กับ ราชินีแห่งท้องทุ่ง
ที่อยู่ห่างกันราวคนละโลก ในชีวิตกันคนละแบบ
คิดอ่านกันคนละอย่าง...
เสียงเพรียกจากวันวาน จะกลับมาขับขาน
สะพานไม้หมากที่พาดข้ามฟากเชื่อมสองฝั่งคลอง
กำลังสั่นสะเทือน...เมื่อสะพานคอนกรีตจะเข้ามาแทนที่
สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้กำลังจะพัดหวนคืน
...น้ำในลำธารใสสะอาดกับน้ำมันสีดำไม่อาจเข้ากันได้ฉันใด
เธอกับเขาก็ไม่อาจเข้ากันได้ฉันนั้น...
ไม่มีใครรู้ว่าระหว่าง ดวงจันทร์ดวงใหญ่แค่ดวงเดียวที่ลอยเด่น
อยู่บนฟ้ากับดวงดาวจำนวนมากมายนับล้าน
มีความเป็นมาอย่างไร...
เว้นแต่ต้นไม้ที่ผ่านกาลเวลาโดยไม่เคยหนีหายไปไหนเท่านั้น
ที่จะไขปริศนานี้...
ต้นไม้ที่ยืนผงาดอย่างอดทนผ่านร้อนหนาว
ผ่านฤดูกาลมาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีใครเคยได้ยินเสียงบ่น
ต้นไม้ที่เหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใด...
หากทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปกลับกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ความรักความประทับใจและความผูกพันธ์ถูกบันทึกไว้ใต้ต้นไม้
หยั่งรากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในจิตใจ...
มีค่า มีความหมาย...นานเท่านาน...
Tags: ดราม่า รัก ต้นไม้ กอมารุน นัจมุน ก้อ นีล เชือดเฉือน แนวอนุรักษ์
ตอน: ต้นที่ 9 ต้นตอข้อต่อรอง
ณ ห้องสวีท (Suite)กว้างขวางและมีขนาดใหญ่ มีห้องนั่งเล่นในตัว
ของโรงแรมหรูในตัวจังหวัด ที่บ้านต้นรักษ์เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดดังกล่าว
“คุณอามีอะไรรึเปล่าครับ…ถึงเรียกให้ผมหามา…ที่นี่...”
เจ้าของสถานที่ออกจะเกรงใจอยู่ไม่น้อยที่เรียกให้คนระดับนี้เป็นฝ่ายมาหาตน…
แต่เพราะความรู้สึกที่มีต่อคนตรงหน้าที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
หรือแตกต่างไปจากคนที่เฝ้าเลี้ยงดูมาอยู่หลายปี…จนเผลอแทนตัวเอง
อย่างที่เคยใช้พูดแทนในวันวานออกไป
“พ่อ…เอ่อ…อามีเรื่องอยากจะขอร้องก้อ…”
ว่าพลางหันไปทางลูกสาวที่นั่งหน้านิ่ง บ่งบอกว่าไม่ได้พอใจนักกับการที่บิดา
นัดเธอมาเจอกับเขาที่นี่…คนที่เข้ามาเพื่อตักตวงสมบัติสำคัญของผืนแผ่นดิน…
คนที่ทำตัวน่ารังเกียจ…และเป็นภัยต่อเหล่าต้นไม้และต้นข้าว...
เขาเป็นคนคว้านซื้อที่ดินจากเจ้าของเดิมในบ้านต้นรักษ์ด้วยราคาสูงเกินอัตราปกติ
ไปจนเกือบหมดแล้ว...โดยเฉพาะที่ที่เธอปรารถนาเขาก็ฉกมันตัดหน้าเธอไป...
และเธอต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นอะไรกับ ศุภิกา ชลันธนาบริรักษ์ภักดีกุล
ผู้หญิงที่มีนามสกุลยาวๆนั่น...ผู้ที่เป็นเจ้าของสิทธิ์ตามกฎหมายในที่ดินเหล่านั้น...
“ว่ามาเถอะครับ…ถ้าผมพอจะช่วยเหลืออาได้ผมก็ยินดี…”
สำหรับผู้มีพระคุณแล้ว ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเขาก็พร้อมจะทำให้
"นั่งลงก่อนเถอะ...เราอาจมีเรื่องต้องคุยกันยาว..." ชายหนุ่มเลือกนั่ง
อีกฟากนึงของที่นั่งที่นัจมุนนั่งอยู่ก่อนแล้ว...
ชายกลางวัยนั่งชั่งใจอยู่ครู่นึงก่อนจะเอ่ยขึ้นราวกับตัดสินใจได้แล้วว่า
“อา…อาอยากให้ก้อแต่งงานกับนีล…”
สองคนที่ได้ยินถึงกับหันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย
ก่อนจะเป็นฝ่ายหญิงที่มองเมินไปอีกทางเมื่อได้สติ
“ทำไมต้องแต่งครับ…”
“อาอยากฝากนีลให้ก้อดูแลปกป้องแทนอา…อาคงไม่ได้ขอร้องก้อมากเกินไปใช่มั้ย…”
คนเป็นลูกสาวนั่งนิ่งฟังบิดาเอ่ยราวกับจะยกเธอให้เขา
…พยายามเก็บอาการเอาไว้อย่างที่สุด ไม่ให้หลุดคำพูดบางอย่างที่ไม่ดีออกไป
ในตอนนี้ ตอนที่อารมณ์กำลังเดือดปุดๆ
“มีวิธีมากมายที่ผมจะดูแลลูกสาวอา แต่ทำไมต้องเป็นวิธีนี้…”
“มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด…และเสียหายน้อยที่สุด…”
“คุณอาคงไม่คิดว่าคนอย่างผมจะแต่งงานกับใครง่ายๆโดยไม่คิด
และไตร่ตรองอะไรเลยนะครับ…” ว่าพลางชำเลืองสายตาไปยังอีกคน
ที่ยังคงไม่มีปากเสียง ทั้งที่ปกติจะใช้ปากก่อนสมองจะทันได้คิดแทบทุกครั้ง...
นับว่าครั้งนี้มาแปลก...
“ถึงผมจะเป็นพ่อม่าย เคยแต่งงานมีเมียมาแล้วสองคน…และมีปัญหาว่าเมียฟ้องหย่า…
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า…ผมจะมักง่ายกับเรื่องพวกนี้…และ…”
คนพูดหันไปมองคนที่กำลังถูกยัดเยียดให้เขาแว้บเดียวเป็นครั้งที่สอง
แล้วหันกลับไปมองหน้าบุคคลที่เขาให้การเคารพ…
“อาคงรู้ว่าเมียผมแต่ละคนนั้นทั้งสวยและสง่างามชนิดที่หาตัวจับยากกันทั้งนั้น…”
นัจมุนเงยหน้าขึ้นมองคนที่เหมือนกำลังสบประมาทและดูถูกเธอทันทีด้วยสีหน้าท่าทาง
ไม่พอใจสุดขีด…เม้มปากสนิทเพื่อไม่ให้อะไรๆมันหลุดวิ่งออกไปทำลายคนอื่นในตอนนี้…
ไม่...มันยังไม่ถึงเวลาของเธอ...
“และผมไม่คิดว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนโดยไม่คิดจะแตะต้องแน่ๆ
แบบที่แต่งกันแต่ในนามนั้น…อาเลิกคิดไปได้เลย เพราะคนอย่างผม
ไม่เคยคิดจะแต่งงานในลักษณะนั้นมาก่อนและจะไม่ทำด้วย…เมียก็คือเมียครับอา…
ไม่ได้มีเอาไว้บูชาบนหิ้ง หรือเอาไว้มองดูเฉยๆ…”
นัจมุนได้ฟังถึงกับกำหมัดแน่น
“ถือว่าอาขอร้องก็ได้นะก้อ…”
“ผมว่าอาให้ผมทดแทนบุญคุณอาด้วยวิธีอ่ืนเถอะครับ…เพราะวิธีนี้ผมไม่ถนัด…
และไม่คิดว่าจะแต่งงานกับท่อนไม้ได้…”
คนโดนกล่าวหาว่าเป็น 'ท่อนไม้' ยิ่งนิ่งแข็งท่ือเข้าไปอีกโข…
เฝ้าข่มใจไม่ให้ลุกขึ้นโวยวายอย่างคนเสียสติ…ทั้งๆที่แทบจะจับสติไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
“และมันก็อดคิดไม่ได้ว่า ผู้หญิงอายุขนาดน้ีแล้ว แต่ทำไมถึงได้ยังกอดความโสดอยู่…
มันทำให้ผมหวั่นใจครับว่าลูกสาวอาจะมีบางอย่างที่ผู้ชายรับไม่ได้…
จึงได้ไม่เป็นที่ต้องการของท้องตลาด...ก็เลยยังค้างสต๊อกอยู่จนถึงตอนนี้…”
นัจมุนเงยหน้าขึ้นมองคนพูดด้วยแววตาที่เหมือนมีลูกไฟลุกโชนอยู่ในนั้น
…เขาหาว่าเธอเป็นสินค้าที่ขายไม่ออก เป็นสินค้า 'ค้างสต๊อก' อย่างนั้นใช่มั้ย
ไอ้พ่อค้าหน้าเลือด ใจทมิฬหินชาติ!!!
“และผมขอโทษที่ต้องพูดตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อมว่า…ผมไม่มั่นใจว่าลูกสาวของอา
จะให้ความสุขผมได้เต็มที่…อาก็รู้ว่าผมกับลูกสาวอาเราเข้ากันไม่ได้เหมือนน้ำมันกับน้ำ…
อาเองก็เป็นผู้ชาย น่าจะเข้าใจผู้ชายด้วยกัน…
และผมเสียใจที่ต้องบอกอาตามตรงว่าผมรับข้อเสนอนี้ของอาไม่ได้จริงๆครับ…
ให้ผมทำอย่างอื่นให้อาน่าจะดีกว่า…อย่างเรื่องธุรกิจผมยินดีสนับสนุนอาเต็มที่...
แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้...ผมขอผ่าน...”
ชายกลางคนถึงกับลอบถอนใจและยิ่งหนักใจเข้าไปอีก
เมื่อลูกสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับประกาศเจตนารมย์ของตนว่า
“นีลเองก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกันจ่ะพ่อ…เพราะนีลตั้งใจไว้แล้วว่า
นีลจะดูแลรักษาตัวเองไปจนแก่ตายและจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนใดได้แตะต้องนีล…
นีลไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดที่พ่อจะต้องไปอ้อนวอนใครให้มาดูแล…
นีลโตแล้ว…ไม่ใช่เด็กหญิงนัจมุนที่อ่อนแอขี้แยคนนั้นอีกต่อไปแล้ว…
และจะไม่ขอแต่งงานใช้ชีวิตคู่กับใครทั้งนั้น…นีลพอใจที่จะกอดความโสดไปจนตายจ่ะพ่อ…”
นัจมุนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นโดยไม่คิดจะหันไปมองคู่กรณีแม้แต่น้อย
แค่ต้องมาหายใจร่วมห้องกันแบบนี้เธอก็แสนจะอึดอัดอยู่แล้ว
ถ้าต้องให้มองใบหน้านั้นเธอคงกระอักเลือดตายไปซะก่อนแน่ๆ
“นีลขอตัวก่อนนะจ๊ะ…พอดีมีต้นไม้อีกมากมายรอการดูแลจากนีลอยู่
นีลคงไม่มีเวลามากพอท่ีจะไปทำหน้าที่ภรรยาให้ใครได้แน่ๆจ๊ะ…
ดูแลตัวเองด้วยนะจ๊ะ…แล้วนีลจะแวะไปหาที่บ้านจ่ะ…”
พูดจบคนเป็นลูกก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่ใส่ใจว่าใครจะคิดเห็นเป็นอย่างไร…
เพราะสุดที่จะทนนั่งฟังวาจาหยาบคายไร้ซึ่งการให้เกียรติเธอแบบนั้นได้อีกต่อไป
…ผู้ชายแบบนั้นก็สมควรแล้วที่เมียจะฟ้องหย่า!
อย่่าว่าแต่แต่งงานด้วยเลย แค่จะนั่งหายใจร่วมกันเธอยังไม่อยากอยู่ให้นาน
ไปมากกว่านี้ด้วยซ้ำ…
เมื่อลับร่่างนั้นไป ชายต่างวัยจึงหันมามองหน้ากันอีกครั้ง
“ก้อ…อารู้ว่าก้อไม่พอใจลูกสาวอาหลายอย่าง…และอาก็รู้ว่าอาขอก้อมากไปจริงๆ…
แต่อาไม่เหลือใครที่พอจะไว้วางใจฝากนีลไว้ได้อีกแล้ว…เวลาของอามีไม่มากแล้ว…
และสำหรับอา…ไม่มีอะไรที่จะมีค่าและสำคัญมากไปกว่านีล…กับหมอก
และอาก็เช่ือว่า...ไม่ว่ายังไง...นีลจะไม่มีวันทิ้งน้อง...”
คนฟังถึงกับแปลกใจในประโยคนั้นจนต้องถามออกไปตามตรงว่า
“อาเป็นอะไร ทำไมถึงพูดแปลกๆ…” คนฟังลอบถอนใจก่อนจะสารภาพออกไปว่า
“อาเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย…หมอบอกว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน…
ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอกก้อ…อาไม่เคยบอกใคร…แม้แต่นีลก็ยังไม่รู้”
คนฟังถึงกับใจหายวูบ ก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้านิ่งนาน…
“ผมจะดูแลลูกสาวอาให้…แต่ไม่รับปากว่าจะแต่งงานด้วย…
อาก็รู้ว่าเรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นขายของ…ผมไม่เคยเล่นๆกับเรื่องนี้"
คนฟังพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“อารู้…อาเข้าใจ…แต่ถ้าอาไม่อยู่แล้ว…นีลอาจเป็นอันตราย…อาไม่ไว้ใจลูกเลี้ยงของอา…
อาก็เลยสนับสนุนให้นีลไปเรียนในต่างแดน...ไปให้ไกลๆ…"
สุดท้ายจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวส่วนตัวในครอบครัวเขา รวมทั้งปัญหาต่างๆ
ให้อีกฝ่ายฟังอย่างเปลือยความรู้สึกออกมาทั้งหมด...โดยมีหลายปัญหา
ที่นัจมุนเองก็ไม่เคยได้ล่วงรู้มาก่อน...และเขาก็ไม่อยากให้รับรู้...
ผู้ที่เขาเลือกจึงเป็นผู้ที่เขาจะมอบความไว้วางใจนี้เอาไว้...ความไว้วางใจ
ที่มาพร้อมกับภาระหนัก...
เพราะในอดีตตอนที่ลูกสาวของเขากำลังย่างเข้าสู่วัยแรกสาว ก็เกือบจะโดน
ลูกเลี้ยงของเขาเข้าปลุกปล้ำถึงในห้องส่วนตัว...
หลังจากนั้น เขาจึงตัดสินใจส่งลูกไปเรียนโรงเรียนสตรีล้วน ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ
เพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม...แล้วเลือกจะเป็นฝ่ายไปเย่ียมลูกสาวเอง แทนที่จะให้ลูกสาว
กลับมาพักที่บ้าน...ชีวิตนัจมุนเลยใช้ชีวิตอยู่แต่ในโรงเรียนแห่งนั้นมาโดยตลอด
จนกระทั่งจบม.หก...แล้วได้ทุนไปเรียนต่อยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศมุสลิม
โดยกฎหมายเรื่องการล่วงประเวณีนั้นมีโทษรุนแรง เขาจึงเบาใจลงไปได้มากทีเดียว
ที่ลูกสาวเลือกไปเรียนต่อที่นั่น...
"ซ้ำยังมีผู้ใหญ่คนนึงที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในประเทศนี้เกิดเตะตาต้องใจกับลูกสาวอา
เขาต้องการตัวนีลไปเป็นอนุฯ…เคยมาทาบทามกับอา แต่ตอนนั้นอาเลี่ยงๆไปว่า
นีลยังเรียนหนังสืออยู่…พอนีลเรียนจบ อาเลยขอเขาให้นีลได้สนุกกับงาน
ท่ีเขาทำอยู่อีกสักหน่อย…เขาเกรงใจอาอยู่บ้างเลยไม่ได้ผลีผลามหรือหักหาญน้ำใจกัน…"
คนพูดถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะหนักใจกับปัญหานี้มาเนิ่นนาน...
และเหมือนทางโน้นจะรู้แล้วว่าที่ผ่านมาเขาพยายามบ่ายเบี่ยง...และกำลังหาทาง
เลี่ยงอยู่ตลอดเวลา...ซึ่งนัจมุนยังไม่รู้ในเรื่องนี้เลย...เขาไม่เคยบอก
ลูกสาวของเขาอาจไม่เคยรู้ตัวว่ารูปร่างหน้าตาของตนเองนั้นเป็นที่พึงปรารถนา
และดึงดูดเพศตรงข้าม ถ้าเพียงแค่มีเนื้อมีหนังมากกว่านี้ และเปิดเผยรูปร่าง
มากกว่าที่เป็นอยู่...ลูกสาวของเขาอาจจะไม่ปลอดภัยจากสายตาบรรดาพวกผู้ชาย...
เพราะยิ่งโตนัจมุนก็ยิ่งสวยผุดผาดขึ้นเรื่อยๆ...โดยเฉพาะในเวลานี้...
ที่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่งเต็มที่...ไม่ต่างจากมารดาของลูก
ที่เมื่อก่อนหนุ่มๆในหมู่บ้านต่างคอยตามเกี้ยวพาราสีและหวุดหวิดจะโดนฉุด
อยู่หลายคราว จนในที่สุด แม่ของลูกก็ยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับเขา
ซึ่งตอนนั้น พวกนักเลงในหมู่บ้านไม่กล้าหือ...ปิดฉากความวุ่นวายไปเสียได้...
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีมารมาผจญ...
ความสวยจึงเป็นภัยชนิดนึงท่ีน่าสะพรึงกลัวอยู่ไม่น้อย...
"อาไม่เห็นว่าจะมีใครที่พอจะช่วยลูกสาวอาได้นอกจากก้อจริงๆ…
อาไม่อยากให้นีลไปตกนรกขุมนั้น ไม่อยากเห็นลูกสาวของอาต้องไปเป็น
เมียน้อยเมียเก็บของใครโดยเฉพาะคนแก่คราวพ่อ…ก้อจะหาว่าอาเห็นแก่ตัวก็ได้
ที่ทวงบุญคุณเอากับก้อแบบนี้…และอาไม่ได้มองว่านีลเป็นสิ่งไร้ค่าที่จะยกให้ใครง่ายๆ”
น้ำเสียงของชายกลางวัยดูอ่อนระโหยโรยแรง แววตาดูอ่อนล้า
ราวกับไฟชีวิตที่ใกล้มอดเต็มที
“แต่…ผมไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนนะครับอา…”
“ก้อต้องการอะไร…” คนฟังกระตุกมุมปากก่อนจะบอกว่า
“โฉนดที่ดินของอาที่บ้านต้นรักษ์ครับ…” คนฟังถึงกับเบิกตากว้าง
“แต่อายกมันให้นีลไปแล้ว…”
“นั่นมันเป็นเรื่องของอานะครับว่าอาจะจัดการยังไง…
เพราะถ้าผมได้โฉนดที่ดินตรงนั้นเมื่อไหร่ ผมก็ยินดีทำตามข้อเสนอของอา
ตอนนี้ผมเองก็โสด ไร้พันธะใดๆ…ถ้าลูกสาวอาแต่งงานกับผม
ก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเมียน้อยเมียเก็บใครอย่างแน่นอน…
แต่จะตกนรกรึเปล่า ผมไม่กล้ายืนยันหรอกนะครับ…
เพราะผมก็ไม่ใช่ผู้ชายแสนดีหรือโรแมนติกเลย...ที่สำคัญผมมีงานในความรับผิดชอบ
อยู่ไม่น้อย จนไม่ค่อยมีเวลาให้กับเมีย...ไม่งั้นเมียคงไม่ฟ้องหย่าผมหรอกครับ”
“แต่ก้อแน่ใจนะว่าจะไม่ทิ้งๆขว้างๆลูกสาวอา…”
“ผมจะพยายามครับอา…แต่ถ้าอาไม่มั่นใจ ก็ไม่เป็นไรนะครับ…
ผมให้สิทธิ์อาในการตัดสินใจ เพราะเรื่องอนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอน
ผมไม่อาจรับปากอาในสิ่งที่ผมเองก็ยังมองไม่เห็นได้...”
ชายกลางคนสบตาคนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเก็บมาเลี้ยงนิ่ง
“อาขอแค่ก้ออย่าปล่อยให้ลูกสาวอาตกอยู่ในกำมือของคนพวกนั้นนก็พอ…
อาขอแค่นี้ได้มั้ยก้อ…”
“ครับ…ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้ลูกสาวอาไปตกอยู่ในกำมือของคนพวกนั้น…
แต่คงรับปากว่าจะทำให้ลูกสาวอามีความสุขไม่ได้ เพราะอาก็เห็นว่าผมกับลูกสาวอา
เราไม่ได้รักใคร่ใยดีต่อกัน…” ก่อนจะลอบถอนใจเมื่อเอ่ยออกไปว่า
“บางที…การที่อายกลูกสาวอาให้ผม…มันอาจจะทำให้ลูกสาวของอา
ตกนรกทั้งเป็นไม่ต่างกันก็ได้…ผมเป็นยังไงอาก็น่าจะรู้…”
“อาคิดว่าอารู้…ถ้าก้อรับปากอาว่าจะดูแลปกป้องนีลให้ปลอดภัยจากคนพวกนั้น…
อาก็จะจัดการเรื่องที่ดินตรงนั้นให้…”
“อาไว้ใจคนผิดแล้วล่ะ…ผมเป็นนักธุรกิจครับอา…ไม่ใช่นักบุญ”
คนพูดยิ้มบางก่อนจะโน้มศีรษะลงต่ำ
“ผมคงต้องขอตัวนะครับ…มีเรื่องที่ต้องสะสางอีกมากจริงๆ…”
พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้องไป…หากต้องหยุดชะงักเพียงนิด
เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากผู้มีพระคุณของเขา
“อามั่นใจในตัวนัจมุน…” คนฟังกระตุกมุมปากเพียงนิดก่อนจะเดินจากไปอย่างมั่นคง…
เมื่อรู้ว่าอีกไม่นาน เขาต้องเข้าพิธีสมรสเป็นครั้งที่สามอย่างมิต้องสงสัย…
โดยไม่คิดว่า…เจ้าสาวคนที่สามจะเป็นนัจมุน…
ผู้หญิงท่ีอยู่นอกสายตาของเขามาโดยตลอด…
อย่างน้อยเขาก็ได้ทดแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณไปพร้อมๆกับ
ได้ที่ดินผืนนั้นมาไว้ในกำมือเสียที…นับว่ามีแต่ได้กับได้…
..........โปรดติดตามตอนต่อไป............
เอามาเสริฟให้ติดๆจ่ะ...รสชาติเป็นอย่างไรบอกกันบ้างนะคะ...
เรื่องนี้น่าจะมีการรวบรวมฉายาที่พระเอกตั้งให้นางเอกเป็นการเฉพาะกิจ
เพราะล่าสุุดก็...ท่อนไม้ กับ สินค้าค้างสต๊อก ตอนก่อนหน้ามี ยัยเมฆดำ
และอีกมากมาย...มีมาทุกตอนหรือแทบจะทุกฉาก เหอๆ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกวิว ทุกไลค์ ทุกคอมเมนท์จ่ะ ^^
...........ตอบเมนท์จ่ะ............
1.คุณแว่นใส....นั่นน่ะสิคะ...ใครฆ่าเจ้าดาวลูกไก่...ฆ่าทำมายยยย
ไก่มันผิดอารายยยย...ฆ่าได้ตรงจังหวะเจ้าของมันกลับมาเห็นเลยนะนั่น
เก๊าไม่เฉลยก่อนน้าาา...รอฆาตกรมารายงานตัวเอง...อิอิ
2.คุณPampam...ตอนวางพล๊อตเรื่องนี้แล้วแอบๆคิดว่า เต่าจะโดนนักอ่าน
ยำจนเละมั้ย...อิอิ...แต่ยังไงๆก็ต้องเดินหน้าต่อ ใจแข็งเข้าไว้ เฮะๆๆ
ดีใจค่ะที่เข้ามาส่งเสียงทักทายกันในเรื่องนี้...^o^
หมู่บ้านนี้มีอะไรในก่อไผ่ใช้ได้เลยค่ะ...หนูนีลเป็นตัวปัญหาของแท้...
เรื่องนี้ก็มีปริศนาให้คิดกันเล่นๆเช่นเคย...เฮะๆ...พระเอกเรื่องนี้ก็แบบ
หวานหลบในซะด้วย...เหอๆ แต่สบายใจได้เช่นเคยค่ะว่า...ต่อให้มาม่ายังไง
หรือขมปี๋ขนาดไหน เต่าก็หาน้ำตาลมาเสริฟให้นักอ่านล้างท้องจนได้ในที่สุดนา...^^
แต่กว่าจะได้ดื่มน้ำผึ้งตะวัน (แบบว่ามันน่าจะหวานกว่าน้ำผึ้งพระจันทร์นิดนึง)นั้น
จะเป็นไง ต้องติดตามดูค่ะ...
3.คุณตุ๊งแช่...พ่ีก้อบกพร่องต่อหน้าที่พระเอกอย่างแรงค่ะ...อิอิอิ
อย่างนี้ต้องส่งพระรองมารับหน้าที่แทน...ฮ่าาาาาา
4.คุณปรางขวัญ...ร้องดังๆแล้วพี่ก้อจะมาช่วยขย่ำกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เหอๆ
ใกล้จะได้ขย่ำแล้วจริงๆนะเนี่ย...อิอิ...พ่อหนูนีลดันยื่นเนื้อเข้้าปากเสือซะงั้น...
แล้วเสือตัวนี้ กินจุหรือเปล่าก็ไม่รู้...เหอๆ
5.คุณyapapaya...ต่อไปก็คงไม่ต้องร้องแปดหลอดให้มาช่วยแล้ว
แต่อาจจะต้องร้องแปดหลอดเรื่องอื่นค่ะ อะจึ๋ยๆๆ อิอิอิ
แล้วใครเล่าจะช่วยได้...เหอๆ
.......ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้านะคะ......
"เต่าโย"

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 พ.ค. 2558, 00:25:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ค. 2558, 00:25:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 2409
<< ต้นที่ 8 มะม่วงยาใจ | ต้นที่10 ต้นเสม็ด >> |

ปรางขวัญ 19 พ.ค. 2558, 01:25:33 น.
พี่ก้อนี่ขยันสร้างความน่าหมั่นไส้จริงๆ ว่าแต่ทำไมพี่ก้อถึงอยากได้บ้านต้นรักษ์จัง
พี่ก้อนี่ขยันสร้างความน่าหมั่นไส้จริงๆ ว่าแต่ทำไมพี่ก้อถึงอยากได้บ้านต้นรักษ์จัง

sunflower 19 พ.ค. 2558, 08:06:16 น.
หมั่นไส้ตาก้อมากกกก
หมั่นไส้ตาก้อมากกกก

konhin 19 พ.ค. 2558, 08:15:12 น.
หมู่บ้านนี้ต้องมีทองฝังอยู่แน่ๆ พี่ก้อถึงอยากได้ซะขนาดนี้
พ่อนางเอกเปลี่ยนไปมากๆ ตอนเด็กๆดูรักลูก แต่ตอนลูกโตดันแต่งงานใหม่แล้วพาปัญหาเข้ามาพร้อมกับผลักลูกออกจากอก สิ่งที่ทำไม่ได้แก้ปัญหาแต่สร้างปมให้ลูกรู้สึกขาด ไม่ไหวๆๆ
หมู่บ้านนี้ต้องมีทองฝังอยู่แน่ๆ พี่ก้อถึงอยากได้ซะขนาดนี้
พ่อนางเอกเปลี่ยนไปมากๆ ตอนเด็กๆดูรักลูก แต่ตอนลูกโตดันแต่งงานใหม่แล้วพาปัญหาเข้ามาพร้อมกับผลักลูกออกจากอก สิ่งที่ทำไม่ได้แก้ปัญหาแต่สร้างปมให้ลูกรู้สึกขาด ไม่ไหวๆๆ

แว่นใส 19 พ.ค. 2558, 08:53:48 น.
นายก้อต้องการที่ดินไปทำไมมากมายนะ
นายก้อต้องการที่ดินไปทำไมมากมายนะ



yapapaya 19 พ.ค. 2558, 11:52:17 น.
มันมีอะไรในกอไผ่แน่ๆพี่ก้อถึงต้องการครอบครองที่ดินบ้านต้นรักษ์ซะขนาดนี้ ที่ถือครองอยู่ก็จะหมดบ้านต้นรักษ์แล้ว รอชมกันต่อไปท่านผู้ชม
มันมีอะไรในกอไผ่แน่ๆพี่ก้อถึงต้องการครอบครองที่ดินบ้านต้นรักษ์ซะขนาดนี้ ที่ถือครองอยู่ก็จะหมดบ้านต้นรักษ์แล้ว รอชมกันต่อไปท่านผู้ชม