บ้านต้นรักษ์ (จบแล้วจ้า) รีไรท์
ก้อ...กอมารุน...ราชาแห่งท้องทะเลทราย
ปะทะกับ
นีล...นัจมุน...ราชินีแห่งท้องทุ่ง
เมื่อดวงจันทร์กับดวงดาวบนฟ้าต่างแข่งกันประจันแสง...
โดยมีต้นไม้ สายน้ำ และท้องทุ่ง เป็นตัวประกัน...
หมู่บ้านอันแสนสงบร่มเย็นอย่าง 'บ้านต้นรักษ์'
กำลังจะลุกเป็นไฟ
เมื่อสิ่งที่นักลงทุนอย่างเขาต้องการ
คือสิ่งเดียวกันกับที่หญิงสาวหวงแหนยิ่งชีพ
ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาหวงแหนในสิ่งที่ไม่ใช่
กรรมสิทธิ์ของตน!
การเชือดเฉือนจึงก่อกำเนิดในยุคแห่งวัตถุนิยม
ที่นายทุนเป็นใหญ่
ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ
ระหว่าง
ราชาแห่งท้องทะเลทราย กับ ราชินีแห่งท้องทุ่ง
ที่อยู่ห่างกันราวคนละโลก ในชีวิตกันคนละแบบ
คิดอ่านกันคนละอย่าง...
เสียงเพรียกจากวันวาน จะกลับมาขับขาน
สะพานไม้หมากที่พาดข้ามฟากเชื่อมสองฝั่งคลอง
กำลังสั่นสะเทือน...เมื่อสะพานคอนกรีตจะเข้ามาแทนที่
สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้กำลังจะพัดหวนคืน
...น้ำในลำธารใสสะอาดกับน้ำมันสีดำไม่อาจเข้ากันได้ฉันใด
เธอกับเขาก็ไม่อาจเข้ากันได้ฉันนั้น...
ไม่มีใครรู้ว่าระหว่าง ดวงจันทร์ดวงใหญ่แค่ดวงเดียวที่ลอยเด่น
อยู่บนฟ้ากับดวงดาวจำนวนมากมายนับล้าน
มีความเป็นมาอย่างไร...
เว้นแต่ต้นไม้ที่ผ่านกาลเวลาโดยไม่เคยหนีหายไปไหนเท่านั้น
ที่จะไขปริศนานี้...
ต้นไม้ที่ยืนผงาดอย่างอดทนผ่านร้อนหนาว
ผ่านฤดูกาลมาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีใครเคยได้ยินเสียงบ่น
ต้นไม้ที่เหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใด...
หากทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปกลับกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ความรักความประทับใจและความผูกพันธ์ถูกบันทึกไว้ใต้ต้นไม้
หยั่งรากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในจิตใจ...
มีค่า มีความหมาย...นานเท่านาน...
ปะทะกับ
นีล...นัจมุน...ราชินีแห่งท้องทุ่ง
เมื่อดวงจันทร์กับดวงดาวบนฟ้าต่างแข่งกันประจันแสง...
โดยมีต้นไม้ สายน้ำ และท้องทุ่ง เป็นตัวประกัน...
หมู่บ้านอันแสนสงบร่มเย็นอย่าง 'บ้านต้นรักษ์'
กำลังจะลุกเป็นไฟ
เมื่อสิ่งที่นักลงทุนอย่างเขาต้องการ
คือสิ่งเดียวกันกับที่หญิงสาวหวงแหนยิ่งชีพ
ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาหวงแหนในสิ่งที่ไม่ใช่
กรรมสิทธิ์ของตน!
การเชือดเฉือนจึงก่อกำเนิดในยุคแห่งวัตถุนิยม
ที่นายทุนเป็นใหญ่
ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ
ระหว่าง
ราชาแห่งท้องทะเลทราย กับ ราชินีแห่งท้องทุ่ง
ที่อยู่ห่างกันราวคนละโลก ในชีวิตกันคนละแบบ
คิดอ่านกันคนละอย่าง...
เสียงเพรียกจากวันวาน จะกลับมาขับขาน
สะพานไม้หมากที่พาดข้ามฟากเชื่อมสองฝั่งคลอง
กำลังสั่นสะเทือน...เมื่อสะพานคอนกรีตจะเข้ามาแทนที่
สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้กำลังจะพัดหวนคืน
...น้ำในลำธารใสสะอาดกับน้ำมันสีดำไม่อาจเข้ากันได้ฉันใด
เธอกับเขาก็ไม่อาจเข้ากันได้ฉันนั้น...
ไม่มีใครรู้ว่าระหว่าง ดวงจันทร์ดวงใหญ่แค่ดวงเดียวที่ลอยเด่น
อยู่บนฟ้ากับดวงดาวจำนวนมากมายนับล้าน
มีความเป็นมาอย่างไร...
เว้นแต่ต้นไม้ที่ผ่านกาลเวลาโดยไม่เคยหนีหายไปไหนเท่านั้น
ที่จะไขปริศนานี้...
ต้นไม้ที่ยืนผงาดอย่างอดทนผ่านร้อนหนาว
ผ่านฤดูกาลมาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีใครเคยได้ยินเสียงบ่น
ต้นไม้ที่เหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใด...
หากทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปกลับกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ความรักความประทับใจและความผูกพันธ์ถูกบันทึกไว้ใต้ต้นไม้
หยั่งรากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในจิตใจ...
มีค่า มีความหมาย...นานเท่านาน...
Tags: ดราม่า รัก ต้นไม้ กอมารุน นัจมุน ก้อ นีล เชือดเฉือน แนวอนุรักษ์
ตอน: ต้นที่ 11 มะยมขม
วันถัดมา นัจมุนก็พบว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมายืนอยู่ตรงชานเรือน
หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูมองลงไปยังคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าบันได
“มาทำไม…” น้ำเสียงนั้นบ่งบอกเจตนารมย์ได้อย่างชัดเจนว่าไม่ยินดีต้อนรับเขา
คนที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนไปจนถึงข้อศอกลายหมากรุก
กับกางเกงยีนส์สีเข้มสวมหมวกคาวบอยเชิดหน้าขึ้นมองเจ้าของเรือน
โดยหารู้ไม่ว่าเรือนดังกล่าว บัดนี้หาใช่ของตัวเองแล้ว…
เพราะยังไม่ได้รับคำสั่งให้ย้ายออกจากบิดา เธอจึงยังคงอยู่เรือนหลังนี้ต่อไป…
“จะลงจากเรือนมานั่งคุยข้างล่างกับฉันดีๆ หรือว่าอยากให้ฉันขึ้นเรือน
ไปคุยกับเธอเลือกเอา…แต่เธอคงไม่อยากให้ชาวบ้านเขาคิดว่า
ฉันขึ้นไปทำอะไรบนเรือนกับเธอหรอกใช่มั้ย…”
เหมือนจะให้ตัวเลือก แต่สุดท้ายเขาก็บังคับให้เธอลงไปคุยกับเขาอยู่ดีนั่่นแหล่ะ…
จะมาพูดให้เลือกทำไมให้เมื่อยตุ้ม...พวกเผด็จการ...
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน…คุณกลับไปเถอะ…เพราะถ้านั่นมันเป็นที่ของคุณ…
ฉันมันจะไปมีสิทธิ์ทำอะไรเจ้าของที่ได้…”
“ฉันไม่ได้มาพูดเรื่องนั้น…ลงมา…ถ้าไม่อยากให้ฉันบุกขึ้นไป…
คราวนี้ได้ฉาวไปทั่วคุ้งน้ำแน่…อยากลงจากคานแบบมีศักดิ์ศรี
หรือว่าอยากลงมาแบบมีกลิ่นคาวติดตัว…เลือกเอา…”
บอกให้เลือกอีกแล้ว...และสรุปว่าเธอเลือกได้มั้ย…
เหมือนจะให้เลือกแล้วก็ไม่เห็นว่าจะเลือกได้…
หญิงสาวเลยเดินลงจากเรือนด้วยชุดที่ปกปิดมิดชิดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
โดยมีเขาเดินนำไปยังม้านั่งใต้ต้นมะยมที่กำลังออกลูกดกผลอวบขาวอมเหลืองจางๆ…
หญิงสาวขึ้นไปยืนบนม้านั่งเพื่อเอื้อมไปคว้าช่อมะยมบนต้นมาสองช่อ
แล้วจึงค่อยย่อตัวนั่งลงตรงตำแหน่งตรงข้ามกับอีกคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
อย่างไม่มีเกรงใจหรือให้การเคารพนบนอบแต่อย่างใด…
“มีอะไรก็ว่ามา…ขอแบบเนื้อๆนะคุณ…เพราะฉันไม่ได้ว่างมานั่งฟังคุณทั้งวัน…”
ว่าพลางยัดมะยมเข้าปากเคี้ยวเล่นโดยไม่ปรากฏสีหน้าที่แสดงออกถึง
รสชาติอันแสนเปรี้ยวเข็ดฟันแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธอกำลังกินผลไม้รสหวาน
ขนาดคนมองยังรู้สึกเปรี้ยวแทนจนน้ำลายสอด้วยซ้ำ
“สกปรก…” เขาว่า ทำเอาคนที่กำลังกินผลมะยมถึงกับถลึงตาใส่
“สกปรกตรงไหนไม่ทราบ…”
“ทำไมไม่รู้จักล้างก่อนกิน มันมีฝุ่นติดอยู่ หรือว่านอกจากชอบใช้ชีวิตเตะฝุ่นไปวันๆแล้ว
ยังชอบกินฝุ่นด้วย…”
คราวนี้คนที่กำลังกินมะยมอย่างเอร็ดอร่อยถึงกับเม้มปาก
มองคนที่เหน็บเธอเรื่องการใช้ชีวิตด้วยแววตาไม่พอใจขึ้นมา…
ก็เพราะใครที่ทำให้เด็กๆที่อยากจะมาฝึกเพลงยุทธ กระบวนท่าต่างๆ
ที่ใช้ในการป้องกันตัวกับเธอผวาไม่กล้าย่างกรายมาแถวนี้...เพราะใคร!
กำลังจะได้งานใหม่แล้วแท้ๆ เพราะใคร!
ใครทำให้ชาวบ้านนึกประหวั่น เรื่องสังหารหมู่ในวันนั้นขึ้นมา เพราะใคร!
แล้วถ้าบอกถ้าเตือนกันดีๆโดยไม่ต้องมีการเหน็บให้เจ็บจี๊ดๆแถมมาด้วย
มันก็คงพอน่าเชื่อฟังน่าขอบคุณอยู่หรอก…แต่ไอ้แบบนี้มันก็ไม่ไหวหรอกนะ…
มันสร้างความระคายเคืองเบื้องหูอยู่ไม่น้อย นัจมุนเลยออกอาการทันที
เหมือนคนที่โดนยาสั่ง...เลยปากดีพูดไวอย่างเคย...
“ฝุ่นเหรอ…อืม…มันก็อร่อยดีนะ…แต่ไม่แน่ใจว่าระหว่างฝุ่นกับหิน
อะไรจะอร่อยกว่ากัน…” คนโดนตอกกลับว่ากินหินเป็นอาหาร
ถึงกับจ้องปากที่กำลังเค้ียวมะยมอย่างไม่สะทกสะท้านกับคำเตือนของเขานิ่ง
ไอ้ปากเจ่อๆนั่นมันน่าจะโดนจูบลงทัณฑ์จากเขาสักทีสองทีจะได้เข็ดหลาบ
“อ้อ…ดูเหมือนคุณจะชอบกินดินด้วยนี่…เห็นดินที่ไหนเป็นไม่ได้ ต้องซื้อหามากิน…
ฉันมันไม่มีที่ดินมากมายเหมือนคุณก็เลยได้กินแค่เศษฝุ่นของดินแทน…แบบนี้ไงล่ะ…”
ว่าแล้วก็ส่งผลมะยมสองลูกเข้าปากไปพร้อมๆกัน…
“ปากเธอนี่มันน่าจับไปถูด้วยสบู่จริงๆ…”
“เฮอะ…ถ้าปากฉันสมควรเอาไปถูสบู่ ปากคุณก็คงต้องพึ่งพาโซดาไฟ
พวกไฮเตอร์สำหรับผ้าขาวให้ช่วยล้างทำความสะอาดให้แล้วละ…
ว่าแต่…เคยพาปากเข้าศูนย์ซ่อมบ้างรึยังเนี่ย…”
หญิงสาวสวนกลับไปอย่างเท่าเทียมกัน…แรงมาก็แรงไป…ร้ายมาก็ร้ายตอบ…
“ขอให้ปากเก่งแบบนี้ให้ตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน…” กอมารุนจ้องปาก
ที่เถียงคำไม่ตกฟากของอีกฝ่ายอย่่างคาดโทษ…
อีกไม่นานหรอกเขาจะทำให้ปากน่าจูบนี้แหล่ะได้รู้จักคำว่า...หวานจนหยดสุดท้าย...
และเผ็ดร้อนจนทนไม่ไหว
“ไม่ใช่แค่ปากหรอกที่เก่ง…” หญิงสาวเชิดหน้าใส่ คิดจะมาข่มกัน
อย่าหวังว่าคนอย่างเธอจะยอมก้มหัวให้…
“แล้วฉันจะพิสูจน์ดูว่าไอ้ที่ว่าเก่งนักเก่งหนาจะสักแค่ไหนกัน…”
แววตาคนพูดเป็นประกายวิบวับ คนฟังรับคำท้านั่นอย่างไม่หวั่นไหวทันที
ด้วยไม่รู้นัยยะแอบแฝงของถ้อยคำอีกฝ่าย
“ข้องใจก็เข้ามา คนอย่างนัจมุนไม่กลัวใครอยู่แล้ว…”
คนฟังกระตุกมุมปากคนไม่กลัวใครตรงหน้า…ที่อาจหาญท้าทายคนอย่างเขา
...แล้วจะได้รู้กันนัจมุน...ฉันจะสอนบทเรียนให้เธอได้รู้ว่าอะไรควร
และไม่ควรท้าทายผู้ชาย
“เข้าเรื่องเถอะ…อย่าเพิ่งออกทะเลเลย…” ผู้มาเยือนเกริ่นถึงสาเหตุ
แห่งการมาในครั้งนี้ทันที เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด
กับผู้หญิงที่ดีแต่ตีฟองน้ำลายอย่างไร้สาระแบบนี้...แถมยังชอบชวนทะเลาะ
ให้เป็นเรื่องเป็นราวจนน่ารำคาญและชวนให้ปวดหัวสิ้นดี...
“ส่วนเธออยากจะกินฝุ่นมันก็เรื่องของเธอ ท้องไส้ของเธอ…”
พูดแล้วก็ได้แต่ลอบถอนใจ…ใช่ว่าเขาจะไม่หนักใจในเรื่องนี้
หากเมื่อรับปากไปแล้ว เขาก็ต้องทำให้ได้อย่างที่ตกปากรับคำไป
“ฉันให้เธอเลือกเอา…มีสามทางที่เธอต้องเลือก…” หญิงสาวกระตุกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมฉันต้องเลือกในสิ่งที่คุณเสนอด้วย…นี่มันชีวิตฉัน ฉันหาทาง
เลือกให้กับตัวเองได้โดยไม่ต้องรอการตัดสินใจของใครหรือรอทางเลือกจากใคร…”
หญิงสาวโต้กลับอย่างไม่ชอบใจนัก ปกติก็ไม่ชอบให้คนพรรค์นี้เข้ามายุ่งเกี่ยว
วุ่นวายในชีวิต ยิ่งเข้ามาบงการด้วยแล้ว…อย่าหวัง
“แต่เธอต้องเลือก…เพราะถ้าเธอไม่เลือก เดี๋ยวก็จะมีคนเลือกให้เธอ
โดยที่เธอไม่ต้องเลือกเองด้วยซ้ำ…จำใส่หัวสมองเท่ามดของเธอเอาไว้”
‘สมองเท่ามด’ ไอ้วลีแบบนี้นี่มันคุ้นๆอยู่นะ อ่า...จำได้แล้ว...
“และขอให้ตั้งใจฟังให้ดีๆ ไม่ต้องพูดจนกว่าฉันจะอนุญาต…”
เขาชี้ไปยังปากของเธอที่กำลังจะอ้า ทำเอาเจ้าของปากถึงกับหุบปากทันทีโดยอัตโนมัติ
“ทางเลือกแรกก็คือ…แต่งงานกับฉันซะ…” คนฟังถึงกับตาโต พอจะอ้าปาก
เขาก็ยกนิ้วขึ้นส่ายไปมาว่ายังไม่ได้เวลาที่เธอจะพูด
หญิงสาวจึงรอฟังเขาต่อไปด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนกระหน่ำออกมานอกเบ้า
...นี่เขายังไม่เลิกคิดเรื่องนี้อีกหรือ วันก่อนเธอแค่คิดว่าเขาหมายจะยั่วเธอเล่นเท่านั้น
“ถ้าเธอไม่แต่งงานกับฉัน…เธอก็คงต้องได้เป็นเมียของลูกเลี้ยงของพ่อเธอ…
ซึ่งทางนี้มันก็ดูโอเคดีอยู่นะ เพราะได้ข่าวว่าลูกเลี้ยงของพ่อเธอเขายังโสด
ไม่ได้เป็นพ่อม่ายเหมือนฉัน…เธออาจจะชอบไก่แจ้มากกว่าไก่พันธุ์อื่น”
ผู้ชายแบบนั้นน่ะหรือที่เธอจะชอบ…ไม่มีทาง…ขนาดคลำไปไม่มีหางยังกินเรียบ…
เจ้าชู้ยิ่งกว่าไก่แจ้ที่เธอเคยเลี้ยงซะอีก...
ถึงไม่ใช่พ่อม่ายแล้วมันต่างอะไรกับพ่อม่าย…ในเมื่อมีเมียนับร้อย ประวัติโชกโชน…
พวกกินไม่เลือกแบบนั้นไม่รู้ว่าได้รับเชื้อโรคแถมมาด้วยหรือเปล่า…
ผู้ชายที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อก่อนบรรจุใส่กล่องแบบนั้น…เธอไม่เคยคิดจะบริโภค…
และไม่คิดจะแตะต้องด้วย…มันต้องผ่านมาตรฐานที่ศาสนาวางไว้ถึงจะปลอดภัย…
คิดแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับไก่แจ้หางกุดพันธุ์นั้น...
“ส่วนอีกทางนึง…ซึ่งฉันต้องขอบอกว่า…มันก็มีดีตรงที่ได้เป็นเมียผู้ทรงอิทธิพลน่ะนะ…
เธอคงรู้จักท่านแสนยา เขาดูอยากจะได้เธอไปเป็นอนุใจจะขาด…
ถ้าเธอหลุดจากฉันหรือลูกเลี้ยงของพ่อเธอไปได้ก็คงต้องเสร็จท่านแสนยาผู้นี้
อย่างมิต้องสงสัย…ซึ่งไก่พันธุ์นี้แม้จะเป็นพันธุ์ดี ออกศึกครั้งใดไม่เคยพ่ายแพ้
แต่อาจจะแก่หนังเหนียวเคี้ยวยากไปหน่อยนะนัจมุน...
แต่ข้าวเปลือกค้างปีอย่างเธอก็คงจะพอทำใจได้อยู่...ฉันรู้”
กามารุนหยุดเพื่อดูปฏิกิริยาของอีกฝ่ายหลังจากทำการดิสเครดิตคู่แข่งไปแล้ว
ส่วนนัจมุนเม้มปากสนิท โกรธเขาจนหน้าดำหน้าแดงที่โดนเขาหาว่าเธอ
เป็น 'ข้าวเปลือกค้างปี'
"ไก่สมัยนี้เขาไม่กินข้าวเปลือกแล้ว..." หญิงสาวโต้กลับอย่างเคืองๆ
เรื่องอะไรเขามาหาว่าเธอเป็นอาหารของไก่พันธุ์นั้นด้วย...
"ก็นั่นมันไก่สมัยก่อนท่ียังหลงเหลืออยู่ เป็นไก่พันธุ์โบราณ...กับข้าวเปลือกค้างปี
มันก็เหมาะสมกันดีมิใช่หรือ..."
“ไม่เอา...ทำไมฉันต้องเลือกอะไรพวกน้ีด้วย…ไม่เลือกได้มั้ย…เพราะทาง
ที่ฉันเลือกมาตลอดคือ…สาวโสด…ฉันไม่ต้องการใช้ชีวิตคู่กับใคร
ไม่ว่าจะกับผู้หญิงหรือผู้ชาย…ฉันตัดสินใจเลือกทางนี้ตั้งแต่แม่เสียชีวิตไปแล้ว…”
เพราะพบเห็นแต่ชีวิตคู่ที่พังไม่เป็นท่าของใครต่อใครมามากต่อมาก
จนเธอขยาดไม่อยากเฉียดใกล้กับมัน…ไม่อยากเข้าไปติดบ่วงนั่น
ให้ชีวิตต้องวุ่นวายไปมากกว่านี้…
เธอชอบความสงบ และนี่คือทางสงบของเธอ ปลีกวิเวกมาใช้ชีวิตแบบสาวโสด...
ไม่ต้องข้องแวะกับผู้ชาย...แม้ลึกๆจะยังใฝ่ฝันถึงผู้ชายที่แสนดีคนนั้น
ที่ไม่รู้ว่าจะมีวันได้เจอหรือไม่ก็ตาม...หากมันก็แค่ความฝันที่ค่อยๆลางเลือน
ไปกับความเป็นจริงที่พบเจอ...
เจ้าชายในนิทานไม่มีจริงหรอก...ที่เห็นๆมีก็แบบเจ้าชายตรงหน้านี้แหล่ะ...
เจ้าชายที่เธอแทบสำลักทุกครั้งที่ได้ปะทะคารมกัน...นี่แหล่ะเจ้าชายในชีวิตจริง!
“อย่างที่ฉันบอกไปตอนต้น…ถ้าเธอไม่เลือก ก็จะมีคนเลือกให้เธอเอง
เลือกเอาสักทางนึงในสามทางนี้…”
นุจมุนก้มหน้ามองมะยมในมือนิ่งก่อนจะจับมันคลึงไปมา
“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าอะไรในตัวเธอที่ทำให้สองคนนั่นอยากได้ตัวเธอนักหนา…
เพราะสำหรับฉันแล้ว…เธอไม่ได้มีอะไรสะดุดตาเลยสักนิด นอกจากปาก
ที่ดูจะขยับไม่หยุด และที่ฉันคิดจะแต่งงานกับเธอ ก็ไม่ได้เกิดจากความพิศวาสอะไร
อย่างที่เธอพยายามจะคิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะ…โปรดทำความเข้าใจให้ถูกต้องด้วย”
คนที่ถูกกล่าวหาถึงกับช้อนตาขึ้นมองเขาแล้วอยากจะปามะยมใส่หน้านั่นเหลือกำลัง
เจ้าชายในนิทานเขาแกว่งดาบฟาดฟันศัตรูเพื่อช่วยเจ้าหญิงออกมาจากหอคอย...
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าชายตรงหน้าจะแกว่งปากหาเร่ืองเธอที่รออยู่บนคาน...
“ยังไงฉันก็ไม่แต่ง ไม่เลือกอะไรที่คุณว่ามาทั้งนั้น…”
“เธอเองน่าจะรู้นะว่า…คนอย่างท่านแสนยา ถ้าอยากได้สิ่งใด
เขาก็ย่อมต้องหาทางเพื่อให้ได้มา…ไม่ทางใดก็ทางนึง…และผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอ
จะไปต่อกรอะไรกับคนพรรค์นั้นได้…”
นัจมุนลอบกลืนน้ำลายลงคอ เพราะสิ่งที่คนตรงหน้าพูดมามันคือความจริงที่เธอรู้ดี
คนในสังคมก็ย่อมรู้ดี มีดาราสาวสวยมากมายต้องสังเวย
ให้กับกิเลสตัณหาของชายแก่คราวพ่อคราวปู่ผู้นี้…
“หรือเธออยากจะไปเป็นเมียพี่ชายคนนั้นของเธอก็ได้นะ…แต่ก็อย่างที่ใครๆรู้…
ผู้ชายที่กินไม่เลือกแบบนั้น…เธอคงต้องเตรียมใจเผื่อๆเอาไว้บ้าง
สำหรับการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์…”
เขาพูดได้ตรงจุดที่เธอกำลังกังวลอยู่พอดี...เธอขยาดลูกเลี้ยงของพ่อ
จนแทบไม่อยากเฉียดใกล้รัศมีเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเคยคิดจะหาทางปล้ำเธอ
หลายต่อหลายครั้ง...โชคดีที่รอดมาได้...
“ได้ข่าวว่ามันจะเคลมเธอมาตลอดไม่ใช่รึไง…เสน่ห์เธอคงมัดใจมันจนงานเข้าแบบนี้…
ไม่ไหวเหมือนกันนะ…เอาเถิด…ลางเนื้อชอบลางยา
สำนวนไทยนี้แม่ฉันเคยพูดให้ฟังออกบ่อยตอนฉันหัดเรียนภาษาไทยจากท่าน…”
นัจมุนมองคนพูดนิ่ง…แววตาเหมือนคนไร้ทางไป ไม่รู้จะไปทางไหนดี
ทำเอาชายหนุ่มถึงกับลอบถอนใจเมื่อได้มองให้ลึกเข้าไปในแววตาสุกสกาว
ที่เหมือนมีดวงดาวระยิบระยับคู่นั้น...
“แล้วการแต่งงานกับคุณล่ะ…”
“เธอควรจะรู้ว่าฉันก็คือผู้ชายธรรมดาคนนึง…และที่สำคัญตัวเลือกของฉัน
มีแต่สินค้าที่เป็นที่น่าสนใจของตลาดบนทั้งนั้น…”
นัจมุนมองคนที่คงเห็นว่าเธอเป็นสินค้าตลาดล่าง ราคาถูกๆสินะ
เขาเคยคิดจะมองผู้หญิงให้เป็นอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง...
ตรรกะแบบนี้เธอไม่ปลื้มเลยสักนิด...นี่แหล่ะที่ทำให้เขาติดลบในสายตาเธอ
“ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อเธอมีบุญคุณต่อฉัน…เธอคิดว่าคนอย่างฉัน
จะยอมแต่งงานกับเธอมั้ยนัจมุน…ในเมื่อฉันมีตัวเลือกที่ดีกว่าเธอ
ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าที่รอให้ฉันเดินเข้าไปเลือกมาเป็นคู่ชีวิต…
ถึงฉันจะเป็นพ่อม่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครเอา…
และฉันไม่เคยถูกยัดเยียด ทุกอย่างฉันมีอิสระในการเลือกมาโดยตลอด…
ยกเว้นเธอ…เธอเท่านั้น…” นัจมุนเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
เธอเชื่อว่าคนอย่างเขาต้องได้รับข้อเสนอท่ีคุ้มค่าต่อการลงทุนไม่น้อย
เขาถึงได้ยอมฝืนใจและลงทุนขอเธอแต่งงานแบบนี้
“พ่อฉันยกที่ดินผืนนี้ให้คุณแล้วใช่มั้ย…” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียง
ที่พยายามซ่อนความปวดร้าวเอาไว้ให้ลึกสุดใจ
“ฉลาดขึ้นมาแล้วนี่…” หญิงสาวได้แต่มองมะยมในมือนิ่งพลางคลึงมัน
ไปมาในขณะที่หัวใจเริ่มตีบตัน ก่อนจะปวดหนึบแล้วเปลี่ยนเป็นเจ็บลึกในวินาทีต่อมา
“เพื่อแลกกับการที่คุณยอมแต่งงานกับฉัน?” หญิงสาวถามย้ำเพื่อขอคำยืนยัน
“ใช่…” ปากที่กำลังเคี้ยวมะยมอยู่ถึงกับหยุดชะงักก่อนจะคายทุกอย่างในปากออกทันที
เพราะเหมือนว่ามะยมที่แสนอร่อยในตอนแรกบัดนี้ได้กลายเป็น 'มะยมขม'ไปแล้ว...
มือที่กำผลมะยมอยู่ก็ถึงกับวางผลมะยมทั้งหมดไว้ไม่ยอมแตะต้องมันอีก
“ฉันต้องทำยังไงถึงจะได้มันคืนมา…” นัจมุนถามเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แววตาหลุบต่ำมองไปยังผลมะยมนิ่ง
“อะไรที่เป็นของฉันแล้ว…ฉันก็ไม่คิดจะยกมันให้ใครหรอกนะ…นอกจากว่าฉัน
จะเบื่อมันแล้วเท่านั้น” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขา พยายามข่มใจไม่ให้ทำร้ายเขา
“แต่เธอสบายใจได้…ถ้าเราแต่งงานกันแล้วอยู่กันไม่รอดจริงๆ ฉันจ่ายให้เธอไม่อั้นแน่ๆ…
เธอจะสบายไปตลอดชีวิตโดยไม่ต้องทำมาหากินเลยก็ยังได้…เพราะฉันไม่คิดจะ
เอาเปรียบผู้หญิง…เมียคนก่อนๆที่ฉันหย่าก็กลายเป็นเศรษฐีนีเนื้อหอมกันทั้งนั้น…
ไอ้จะมาเดินเตะฝุ่นหรือกินฝุ่น ฉันคงไม่ใจดำทำแบบนั้นแน่…”
“สมบัติคุณฉันไม่ต้องการ…ฉันต้องการที่ดินผืนนี้เท่านั้น…บอกฉันมา
ว่าฉันต้องทำยังไงถึงจะได้มันคืนมา…”
“เธอจะไม่มีวันได้มัน…เพราะฉันจะไม่มีวันยกมันให้กับเธอไม่ว่าจะกรณีใดๆทั้งนั้น…”
เสียงยืนยันหนักแน่นนั้นทำให้นัจมุนถึงกับรู้สึกใจหายวาบ…
ความหวังที่เกือบดับตอนที่รู้ว่าที่ดินผืนนี้บิดายกมันให้กับเขา
หากวินาทีนี้ความหวังที่จะได้มันคืนมาเป็นศูนย์ พ่อยกมันให้เขาได้ยังไง!
“ในตัวเธอไม่มีอะไรที่ฉันต้องการ…มันไม่ได้มีมูลค่ามากพอจะเอามาแลกกับที่ดินผืนนี้…
ฉันยอมสูญเสียอิสรภาพเพื่อมัน…และฉันไม่คิดว่าอิสรภาพของฉัน
จะมีค่าเท่ากับชีวิตทั้งชีวิตของเธอ…”
นัจมุนเงื้อมือหมายจะฟาดปากเสียๆที่คงไม่เคยได้รับการซ่อมของเขา
หากอีกฝ่ายกลับตอกกลับมาอย่างที่ทำให้เธอต้องหยุดการกระทำลง
“คราวนี้...ถ้าเธอตบฉัน…ฉันรับรองได้เลยว่าเธอจะโดนมิใช่น้อย…
และถ้าฉันจูบเธอไม่หวานขึ้นมา เธอจะมาโทษว่าฉันจูบไม่เป็นสับปะรดไม่ได้นะ
เพราะลีลาการจูบของฉันมันขึ้นอยู่กับอารมณ์…”
หญิงสาวกำหมัดแน่น กัดกรามจนขึ้นเป็นสันนูน
“สำหรับฉัน…คุณมันก็ไม่ได้แตกต่างจากตัวเลือกอีกสองตัวเลือกนั่นเลย
และฉันยอมตายถ้าต้องตายทั้งเป็น…”
“ถ้าเธอฆ่าตัวตาย เธอได้เจอนรกของพระเจ้าที่หนักหนาสาหัสกว่านรก
ทั้งหมดมารวมกันแน่ๆนัจมุน…อย่าโง่…” เขาเตือนหญิงสาวกรายๆ
“ฉันไม่มีวันคิดจะฆ่าตัวตายหรอก…คุณไม่ต้องกังวล…
เพราะฉันรู้แล้วว่า…ผู้ชายดีๆตายไปจากโลกนี้หมดแล้ว…”
หญิงสาวลุกขึ้นยืน หากกลับได้ยินเสียงบางอย่างเรียกให้เธอเดินไปยังทิศทางนั้น…
นัจมุนก้มลงหยิบผลฝรั่งที่ตกจากต้นขึ้นมาไว้ในมือ
เห็นผิวภายนอกของผลฝรั่งสวยงามน่ากิน มุมปากหญิงสาวยกขึ้น
แล้วเดินกลับมายังม้านั่ง วางผลฝรั่งนั่นตรงหน้าของเจ้าของที่ดินผืนนี้…พร้อมกับพูดว่า
“เมื่อก่อนฉันต้องลองเสี่ยงกัดดูถึงจะรู้ว่าข้างในมันเน่าหรือไม่…
แต่ตอนนี้ฉันโตพอจะรู้โดยไม่ต้องลองกัดดูแล้วว่า…ฝรั่งผลนี้มันเน่าใน”
พูดจบก็หันหลังเดินกลับขึ้นเรือน…หากเมื่อยืนอยู่หน้าประตู
คนที่เฝ้ามองทุกย่างก้าวของเธอมาตลอดตะโกนบอกว่า
“ฉันให้เวลาเธอสามวัน แล้วจะกลับมาเอาคำตอบ…”
นัจมุนหันมามองคนที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งใต้ต้นมะยมแล้วเปิดประตูเข้าบ้านไป
ก่อนจะปิดมันลงทันที จากนั้นก็ตามด้วยหน้าต่างทุกบานในบ้าน
ชายหนุ่มมองหน้าต่างที่ปิดสนิทลงแล้วได้แต่ลอบถอนใจ
ก้มมองผลฝรั่งตรงหน้าก่อนจะเหลือบไปมองผลมะยมที่ถูกทิ้งไว้อย่างไม่ใส่ใจ
ตั้งแต่คนที่เด็ดมันมารู้ว่าผืนดินนี้ไม่ใช่ของตนอีกแล้ว
กอมารุนหยิบมันขึ้นมาแล้วส่งเข้าปากเคี้ยวดูก็พบว่ามันไม่ได้เปรี้ยวจัด
เพราะอย่างน้อยมันก็ยังซ่อนความหวานเอาไว้
ไม่แปลกท่ีนัจมุนจะกินเล่นได้หน้าตาเฉยราวกับไม่เปรี้ยว
แถมยังกินอย่างเพลิดเพลินจนเขานึกสงสัยว่าทำไมเธอถึงชอบมะยมต้นนี้นัก…
กินไปก็นั่งมองบ้านหลังเก่าที่ดูทรุดโทรมลงมากแล้วตามกาลเวลา…
จนแทบจะหาความสวยงามไม่เจอ…
หากคนที่อยู่ข้างในนั้นดูจะไม่ได้รังเกียจรังงอนกับสภาพของมันเลย…
ราวกับไม่อนาทรร้อนใจกับความไม่โสภาของสิ่งก่อสร้างดังกล่าว
ทั้งๆที่เธอเป็นถึงสถาปนิกควบวิศวกรโยธาที่มีฝีมือด้วยซ้ำ…
หากเธอกลับไม่คิดที่จะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงมันเลย…
เธอมีดีเขารู้...อย่างน้อยก็มีความสามารถและมีสติปัญญา มีความเพียรพยายาม
เพียงแต่สิ่งเหล่านั้นเขาเองก็มีอยู่แล้ว...
ที่สำคัญ เขาไม่ชอบผู้หญิงที่มีสีผิวแบบนัจมุน แม้ปัจจุบันจะไม่สามารถเห็นมันได้
เพราะมันอยู่ใต้ร่มผ้าของเธอทั้งหมด หากเขาก็ยังพอจะจำได้ว่า
เด็กหญิงนัจมุนมีสีผิวเป็นแบบไหน...
เธอจึงไม่ใช่ผู้หญิงในสเปคของเขา อย่างเขาต้องผู้หญิงที่มีผิวสีเดียวกันกับเขา
หรือไม่ก็ต้องขาวกว่า แล้วต้องขาวแบบอมชมพู ไม่ใช่ขาวซีดเหมือนศพ
ปากนิด จมูกหน่อย ดวงตาโตสุกใส ดูไร้เดียงสา แก้มป่องๆ คางแหลมๆ
ใบหน้าเรียวงามได้รูปสวย ผมต้องเงางามสลวยแล้วก็ต้องผมยาวเท่านั้น
เขาไม่ชอบผู้หญิงผมสั้น
ส่วนรูปร่างก็ต้องแบบบาง สมส่วน เรียวขาก็ต้องเรียวสวย
แบบขาโก่งเขาไม่คิดจะแล ยิ่งขาลายยิ่งแล้วใหญ่...
ทีี่สำคัญ...ไม่ผอมกะหร่องกะแหร่งเหมือนโครงกระดูกหรือซากฟอสซิลเดินได้
แบบนัจมุน...
ซึ่งผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมดังกล่าวก็คืออดีตภรรยาทั้งสองของเขา
ที่ได้หย่าร้างกันไปแล้ว หากก็เป็นภรรยาที่ให้ความสุขกับเขาได้อย่างเต็มที่
แม้จะเติมไม่เต็มทั้งหมด แต่เขาก็พอใจในระดับนึง...
นั่นเพราะว่าอดีตภรรยาทั้งสองของเขานั้นไร้ที่ติ สวยและสง่างาม มีความเป็น
กุลสตรีที่เพียบพร้อม เรื่องการบ้านการเรือนไม่มีขาดตกบกพร่อง...
แต่ก็เหมือนจะขาดบางอย่างไป ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร!
แล้วนัจมุนเล่า...ไม่เห็นว่าเธอจะมีอะไรเทียบเคียงกับอดีตภรรยาของเขาได้เลย
แม้หน้าตาจะดูดี แต่หน้าตาสไตล์คมเข้มแบบนี้ไม่ใช่แนวของเขา...
ว่าที่แม่ของลูกเขา เขาต้องคัดเลือกที่หน้าตาก่อน แล้วค่อยตามด้วยบุคลิก นิสัยใจคอ
เพราะไม่อยากมีลูกออกมาหน้าตาประหลาดให้ชาวบ้านเขาล้อกัน...
มันจะทำให้เด็กมีปม...เขาไม่อยากให้ลูกเกิดมามีปม...
ดังนั้น...แม่พันธุ์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ส่วนไอ้เรื่องความรักเขาไม่ใส่ใจ
อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันไปเอง ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็แค่เลิกรากันไปก็จบ!
แล้วนัจมุนมีอะไรพอจะมาเป็นแม่ของลูกเขาได้บ้าง...เท่าที่เห็นๆ
ก็ไม่น่าจะมี...นิสัยหลายอย่างไม่ผ่าน หน้าตาก็ไม่ผ่าน
สติปัญญาอาจจะพอให้ผ่านได้...แต่ไอ้ปากปลาหมอแบบนั้นเขาให้ติดลบ
เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงพูดมาก พูดจาไร้สาระ มันน่ารำคาญที่สุด...
สรุปคือ...เขาคงต้องแต่งงานกับเธอตามที่ได้รับปากไว้กับผู้มีพระคุณ
นึกเสียว่าช่วยเหลือผู้หญิงคนนึงให้ไม่ต้องไปเป็นเมียน้อยคนแก่คราวปู่
แต่คงจะให้มาเป็นแม่ของลูกเขาไม่ได้แน่...เพราะเธอไม่ผ่านมาตรฐาน...
..........โปรดติดตามตอนต่อไป................
สเปคเมียของเฮียแกยาวและเยอะมากกกกกก...ดีที่ว่าหล่อเลือกได้
ไม่งั้นล่ะก็...คานลอยมาเห็นๆ...เหอๆๆ
ึคนนึงต้องการเปลือกสวยๆ
ส่วนอีกคนต้องการเนื้อในดีๆ..
ต้องมาดูกันค่ะว่า...ใครจะได้ใครจะเสีย...หรือว่ามีแต่ได้เสียกัน...อิอิอิ
(เก๊าว่าน่าจะเป็งอย่างหลังน้าาาา) ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามค่ะ
ขอบคุณไลค์ที่กดให้กัน ขอบคุณคอมเมนท์ที่แวะเวียนเข้ามาพูดคุย
ไม่ให้บรรยากาศวังเวงค่ะ...^^
.......ตอบเมนท์จ่ะ.........
1.คุณkonhin...งานนี้นางเอกน่าฉงฉานที่ฉุด...ส่วนปมพระเอกก็หินเหมือนกันค่ะ...
น่าจะหินกว่าของนางเอก...มันเลยส่งผลทำให้พระเอกค่อนไปทางนิสัยเสีย อิอิ
2.คุณPampam...พี่ก้อดูเหมือนจะสนุกอยู่คนเดียวนะคะ หนูนีลหาได้สนุกด้วย
เลยหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้ตลอด...เรื่องนี้ตัวละครค่อนข้างขาดๆเกินๆค่ะ...
ไม่ค่อยเต็ม เหอๆ แบบว่าหาความพอดีไม่ค่อยจะได้...ส่วนเรื่องที่สงสัย
เต่าคงต้องปล่อยให้สงสัยไปก่อน...ค่อยมาคลี่ปมให้เรื่อยๆค่ะ...เฮะๆ
เพราะพี่ก้อแกวางแผนของแกมานานหลายปีแล้ว...ส่วนคู่แข่งพระเอกเต่านั้น
ฝีมือใช้ได้เลย...ใครก็ไม่รู้ ต้องมาดูค่ะ ยังเปิดตัวละครไม่หมด
เรื่องนี้ตัวละครก็คับแน่น เย้ย คับคั่งเหมือนกัน...^^
3.คุณตุ๊งแช่...ค่ะ ประมาณว่าเธอไม่ใช่...ไม่เลย...แต่ก็กะจะง้าบอยู่
คนที่เรากาหัวเอาไว้เยอะๆ แบบว่า อันนี้ไม่ผ่าน อันนั้นไม่ได้เรื่อง...
ส่วนตรงนี้ก็รั่ว ไม่ไหวๆ...แต่แปลกนะคะ พอรักเขาเมื่อไหร่(ซึ่งก็หาไม่เจออีก
ว่ารักเข้าไปได้ไง ตอนไหนหว่า หาที่มาที่ไปไม่ได้)
จากไอ้ที่เคยๆกาหัวไว้ มันกลับไม่สำคัญเลย...รับได้หมดขึ้นมา...อิอิอิ
คนอื่นเป็นมั้ยไม่รู้ แต่เต่าและคนรอบๆข้างมักเป็นกัน คือ คนที่เรามักหาข้อตำหนิ
ได้เรื่อยๆ หามาว่าเขาให้เจ็บๆได้ตลอด ติได้ติดี ล้อได้ไม่เลิก แหย่ได้แหย่
ซึ่งคนๆนั้นแหล่ะ คือ คนที่ใช่ในท้ายที่สุด เหอๆ
4.คุณแว่นใส...เห็นเฮียก้อแกว่าจะเอาไปปลูกปาล์ม...อิอิ จริงแค่ไหนต้องมาดูกันค่ะ
แต่ที่แน่ๆ นางเอกของขึ้นเลย...อิอิ ยิ่งได้รู้ความจริงของเหตุผลที่ต้องแต่งงาน
มันก็น่าจะเจ็บลึกอยู่ไม่น้อย...ชีวิตนัจมุนเหมือนโดนผู้ชายล้อมไว้หมดแล้ว เหอๆ
มันทำให้โยนึกถึงสาวงามมากมายในอดีตค่ะ...ชีวิตพวกนางไม่ค่อยสงบ...
5.คุณyapapaya...ยังไม่ทันได้เชือดกันเลยนะคะ อันนี้แค่ลับฝีปากกันเท่านั้น
ยังไม่ถึงเวลาพาขึ้นเขียง...อิอิ นางเอกน่าจะเป็นแชมป์วอลเล่บอลมาก่อนแน่เลย
แบบว่า ลูกตบสลาตัน...ชนิดที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว...อิอิ...
สามทีซ้อนเนี่ย เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหนูนีลค่ะ เหอๆ
6.คุณphakarat...เรื่องนี้อะไรๆก็จะมาลงที่นางเอกหมดค่ะ...
เหมือนเป็นกระโถนท้องพระโรง เฮะๆ เป็นตัวดูดปัญหาก็ว่าได้ค่ะ...
และปัญหาชิ้นใหญ่ก็คือ พระเอกนั่นเลย...เหอๆ
.....ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้านะคะ........
"เต่าโย"
yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ค. 2558, 00:10:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ค. 2558, 00:10:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 2173
<< ต้นที่10 ต้นเสม็ด | ต้นที่ 12 ถั่วงอกในคุก >> |
Pampam 21 พ.ค. 2558, 03:10:51 น.
พี่ก้อเป็นประเภทหล่อเลือกได้แถมรวยอีกต่างหาก แต่เคยได้ยินไหมคะว่า"กำขี้ดีกว่ากำตด" คนเราแก่ลงทุกวัน สเปคเมียยาวเหยียดอย่างนี้มันก็มีแต่หาที่ดีๆคงไม่ง่ายนะจ๊ะ
พี่ก้อเป็นประเภทหล่อเลือกได้แถมรวยอีกต่างหาก แต่เคยได้ยินไหมคะว่า"กำขี้ดีกว่ากำตด" คนเราแก่ลงทุกวัน สเปคเมียยาวเหยียดอย่างนี้มันก็มีแต่หาที่ดีๆคงไม่ง่ายนะจ๊ะ
sunflower 21 พ.ค. 2558, 07:44:57 น.
สเปคเฮียแต่ละอย่างนี่ เอิ่ม
สเปคเฮียแต่ละอย่างนี่ เอิ่ม
แว่นใส 21 พ.ค. 2558, 08:18:49 น.
เดี๋ยวได้มีการกลืนน้ำลายตัวเองแน่นอนนายก้อ ระวังสาวเจ้าเอาคืนอีกหลายเท่าเมื่อถึงเวลานั้นนะ
เดี๋ยวได้มีการกลืนน้ำลายตัวเองแน่นอนนายก้อ ระวังสาวเจ้าเอาคืนอีกหลายเท่าเมื่อถึงเวลานั้นนะ
konhin 21 พ.ค. 2558, 08:57:02 น.
รอดูว่าสาวๆที่เฮียอยากได้เค้าอยากมีลูกให้เสียความงามภายนอกมั้ย
รอดูว่าสาวๆที่เฮียอยากได้เค้าอยากมีลูกให้เสียความงามภายนอกมั้ย
ตุ๊งแช่ 21 พ.ค. 2558, 09:17:15 น.
สเปคเดิมๆเบื่อแล้วละสิ พี่ก้อ มีมาสองแล้วนี่ ..เลยต้องฉีกสเปคมาหาหนูนีล แต่ ข้ออ้างเรื่องบุญคุณบังหน้าป่าว
รอบนี้นางเอก ฉายาปากปลาหมอ... แล้วพี่ก้อล่ะ...
เอ๊ะ เกลียดอะไรได้อย่างนั้น แสดงว่า คุณโยมีตกหลุมพรางไปแล้วรึ ...ฮี่ๆๆ
สเปคเดิมๆเบื่อแล้วละสิ พี่ก้อ มีมาสองแล้วนี่ ..เลยต้องฉีกสเปคมาหาหนูนีล แต่ ข้ออ้างเรื่องบุญคุณบังหน้าป่าว
รอบนี้นางเอก ฉายาปากปลาหมอ... แล้วพี่ก้อล่ะ...
เอ๊ะ เกลียดอะไรได้อย่างนั้น แสดงว่า คุณโยมีตกหลุมพรางไปแล้วรึ ...ฮี่ๆๆ
phakarat 21 พ.ค. 2558, 20:35:07 น.
หึหึ พี่ก้อต้องตกหลุมดำแน่ประมาณว่ากลืนน้ำลายตัวเองถ้าอนาคตเกิดหวงน้องนีลขึ้นมาละก็จิหัวเราะให้ลั่นเลย
หึหึ พี่ก้อต้องตกหลุมดำแน่ประมาณว่ากลืนน้ำลายตัวเองถ้าอนาคตเกิดหวงน้องนีลขึ้นมาละก็จิหัวเราะให้ลั่นเลย
yapapaya 21 พ.ค. 2558, 22:32:15 น.
ปากนายก้อน่าตบอีกซักฉาดจริงๆหนูนีล รอบนี้นายก้อชนะขาดอีกแล้ว แต่เอิ่มสเปคพี่แกเต็มร้อยจริงๆ รอบนี้หลุดสเปคอย่างแรง อย่าหลงรักแม่ข้าวเปลือกค้างปีละกันเด๊๋ยวมีเฮแน่ๆ
ปากนายก้อน่าตบอีกซักฉาดจริงๆหนูนีล รอบนี้นายก้อชนะขาดอีกแล้ว แต่เอิ่มสเปคพี่แกเต็มร้อยจริงๆ รอบนี้หลุดสเปคอย่างแรง อย่าหลงรักแม่ข้าวเปลือกค้างปีละกันเด๊๋ยวมีเฮแน่ๆ