บ้านต้นรักษ์ (จบแล้วจ้า) รีไรท์
ก้อ...กอมารุน...ราชาแห่งท้องทะเลทราย
ปะทะกับ
นีล...นัจมุน...ราชินีแห่งท้องทุ่ง
เมื่อดวงจันทร์กับดวงดาวบนฟ้าต่างแข่งกันประจันแสง...
โดยมีต้นไม้ สายน้ำ และท้องทุ่ง เป็นตัวประกัน...
หมู่บ้านอันแสนสงบร่มเย็นอย่าง 'บ้านต้นรักษ์'
กำลังจะลุกเป็นไฟ
เมื่อสิ่งที่นักลงทุนอย่างเขาต้องการ
คือสิ่งเดียวกันกับที่หญิงสาวหวงแหนยิ่งชีพ
ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาหวงแหนในสิ่งที่ไม่ใช่
กรรมสิทธิ์ของตน!
การเชือดเฉือนจึงก่อกำเนิดในยุคแห่งวัตถุนิยม
ที่นายทุนเป็นใหญ่
ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ
ระหว่าง
ราชาแห่งท้องทะเลทราย กับ ราชินีแห่งท้องทุ่ง
ที่อยู่ห่างกันราวคนละโลก ในชีวิตกันคนละแบบ
คิดอ่านกันคนละอย่าง...
เสียงเพรียกจากวันวาน จะกลับมาขับขาน
สะพานไม้หมากที่พาดข้ามฟากเชื่อมสองฝั่งคลอง
กำลังสั่นสะเทือน...เมื่อสะพานคอนกรีตจะเข้ามาแทนที่
สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้กำลังจะพัดหวนคืน
...น้ำในลำธารใสสะอาดกับน้ำมันสีดำไม่อาจเข้ากันได้ฉันใด
เธอกับเขาก็ไม่อาจเข้ากันได้ฉันนั้น...
ไม่มีใครรู้ว่าระหว่าง ดวงจันทร์ดวงใหญ่แค่ดวงเดียวที่ลอยเด่น
อยู่บนฟ้ากับดวงดาวจำนวนมากมายนับล้าน
มีความเป็นมาอย่างไร...
เว้นแต่ต้นไม้ที่ผ่านกาลเวลาโดยไม่เคยหนีหายไปไหนเท่านั้น
ที่จะไขปริศนานี้...
ต้นไม้ที่ยืนผงาดอย่างอดทนผ่านร้อนหนาว
ผ่านฤดูกาลมาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีใครเคยได้ยินเสียงบ่น
ต้นไม้ที่เหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใด...
หากทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปกลับกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ความรักความประทับใจและความผูกพันธ์ถูกบันทึกไว้ใต้ต้นไม้
หยั่งรากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในจิตใจ...
มีค่า มีความหมาย...นานเท่านาน...
ปะทะกับ
นีล...นัจมุน...ราชินีแห่งท้องทุ่ง
เมื่อดวงจันทร์กับดวงดาวบนฟ้าต่างแข่งกันประจันแสง...
โดยมีต้นไม้ สายน้ำ และท้องทุ่ง เป็นตัวประกัน...
หมู่บ้านอันแสนสงบร่มเย็นอย่าง 'บ้านต้นรักษ์'
กำลังจะลุกเป็นไฟ
เมื่อสิ่งที่นักลงทุนอย่างเขาต้องการ
คือสิ่งเดียวกันกับที่หญิงสาวหวงแหนยิ่งชีพ
ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาหวงแหนในสิ่งที่ไม่ใช่
กรรมสิทธิ์ของตน!
การเชือดเฉือนจึงก่อกำเนิดในยุคแห่งวัตถุนิยม
ที่นายทุนเป็นใหญ่
ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ
ระหว่าง
ราชาแห่งท้องทะเลทราย กับ ราชินีแห่งท้องทุ่ง
ที่อยู่ห่างกันราวคนละโลก ในชีวิตกันคนละแบบ
คิดอ่านกันคนละอย่าง...
เสียงเพรียกจากวันวาน จะกลับมาขับขาน
สะพานไม้หมากที่พาดข้ามฟากเชื่อมสองฝั่งคลอง
กำลังสั่นสะเทือน...เมื่อสะพานคอนกรีตจะเข้ามาแทนที่
สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้กำลังจะพัดหวนคืน
...น้ำในลำธารใสสะอาดกับน้ำมันสีดำไม่อาจเข้ากันได้ฉันใด
เธอกับเขาก็ไม่อาจเข้ากันได้ฉันนั้น...
ไม่มีใครรู้ว่าระหว่าง ดวงจันทร์ดวงใหญ่แค่ดวงเดียวที่ลอยเด่น
อยู่บนฟ้ากับดวงดาวจำนวนมากมายนับล้าน
มีความเป็นมาอย่างไร...
เว้นแต่ต้นไม้ที่ผ่านกาลเวลาโดยไม่เคยหนีหายไปไหนเท่านั้น
ที่จะไขปริศนานี้...
ต้นไม้ที่ยืนผงาดอย่างอดทนผ่านร้อนหนาว
ผ่านฤดูกาลมาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีใครเคยได้ยินเสียงบ่น
ต้นไม้ที่เหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใด...
หากทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปกลับกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ความรักความประทับใจและความผูกพันธ์ถูกบันทึกไว้ใต้ต้นไม้
หยั่งรากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในจิตใจ...
มีค่า มีความหมาย...นานเท่านาน...
Tags: ดราม่า รัก ต้นไม้ กอมารุน นัจมุน ก้อ นีล เชือดเฉือน แนวอนุรักษ์
ตอน: ต้นที่ 12 ถั่วงอกในคุก
นัจมุนหิ้วกระเป๋าเดินทางลงจากเรือนเพื่อมุ่งไปยังรถกระบะส่วนตัวที่จอดอยู่ใต้ถุนเรือน…
หากเพียงแค่ย่างขาออกจากประตูบ้านก็พบกับหญิงหน้ายักษ์ที่ยืนปักหลั่น
อยู่ตรงเสาเรือน 2 ตนในชุดดำปกปิดมิดชิด ยกเว้นใบหน้าเท่านั้น…
ยักษ์สองตนนี้หลุดมาจากตะเกียงไหนเนี่ย…คงไม่ใช่จากตะเกียงแก้วอะลาดินหรอกนะ…
และเมื่อได้ยินถ้อยคำของนางยักษ์ท่ีพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด
จึงทำให้รู้ว่าที่คิดไว้มันก็ดูใกล้เคียงกันอยู่ไม่น้อย…
“ท่านเชคสั่งไว้ว่าห้ามคุณออกไปไหนค่ะ…ถ้าอยากได้อะไรให้บอกพวกเรา”
นัจมุนกระตุกคิ้วมุ่น สองคนนี้กลายมาเป็นผู้ควบคุมการเคลื่อนไหวของเธอตั้งแต่เมื่อใด…
แต่เมื่อได้ยินชื่อเชคๆ ก็พอจะเข้าใจได้ในทันทีว่าใครคือเจ้าของตะเกียงแก้ว…
“ทำไมฉันจะต้องเชื่อฟังด้วย…นี่มันชีวิตฉันนะ…แผ่นดินนี้ฉันมีสิทธิ์ที่จะเดินไปไหนก็ได้
ตามความสามารถของฉัน และนี่คือสิ่งที่ฉันอยากได้จากพวกคุณสองคน…”
นัจมุนแจ้งความประสงค์ของตน อยากรู้จริงๆว่ายักษ์สองตนตรงหน้าจะเสกให้เธอได้มั้ย…
“แต่ตอนนี้คุณไร้ซึ่งความสามารถนั้นแล้ว…เพราะอีกไม่นานคุณต้อง
เข้าพิธีนิกะห์กับท่านเชค…จะหลบหนีไปไหนไม่ได้ทั้งน้ัน…”
ยักษ์ประจำเสาเรือนต้นที่หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง แล้วยักษ์ประจำเสาต้นที่สอง
ก็เอ่ยสำทับอีกทีเป็นการตอกย้ำว่า
“เราสองคนมีหน้าที่คุ้มกันเจ้าสาวของท่านเชคให้ปลอดภัย…จนกว่าท่านเชค
จะมีสิทธิ์ในตัวคุณ ซึ่งนั่นก็คือหลังจากคุณเป็นภรรยาของท่านแล้ว…
ถึงตอนนั้น ถ้าคุณไม่อยากเห็นหน้าเราสองคน เราก็จะไม่มายุ่มย่ามใจ
เว้นแต่ท่านเชคจะมีคำสั่งเพิ่มเติม…”
นัจมุนถึงกับตาค้าง กะพริบตาปริบๆ…ไม่คิดว่าเขาจะเอาจริงขนาดนี้…
นี่มันอะไรกันเนี่ย…เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอ…ทำไมมันพลิกหงายพลิกคว่ำ
ไปได้อย่างนี้หนอ…
หญิงสาวใช้นิ้วคลึงขมับที่กำลังปวดตุบๆ สงสัยไมเกรนจะกำเริบอีกแล้ว…
เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับเพราะเฝ้าคิดทั้งคืนว่าจะทำยังไงกับชีวิตดี
เพราะบ้านหลังนี้พร้อมด้วยที่ดินได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของท่านเชคผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว…
คิดไปคิดมา จึงนึกได้เพียงว่า ทางเดียวที่เธอจะเก็บรักษาที่ดินผืนนี้ไว้ได้ก็คือ
การหนีงานแต่ง หนีผู้คน…เมื่อไม่มีการแต่งงานตามเงื่อนไข
เขาก็จะไม่มีสิทธิ์ในบ้านและที่ดินผืนนี้อย่างแน่นอน…เธอก็เลยคิดว่าหนีไปตั้งหลัก
ที่ใดสักพักไม่ให้ใครค้นหาเจอ…เมื่อเรื่องสงบ ลมเปลี่ยนทิศ ฟ้าเปลี่ยนสี
คนบางคนเลิกก่อกวนชีวิตเธอเมื่อไหร่ ค่อยหวนกลับมาสานฝันต่อก็ยังไม่สาย…
แล้วนี่มันอะไรกัน เขาจะมารู้ทันความคิดเธอมากไปหน่อยแล้ว
ล้ำเส้นยังไม่พอยังคิดจะล่วงล้ำความคิดกัน อย่างนี้มันต้องเคลียร์!
“ฉันขอพบท่านเชคของคุณสองคนได้มั้ย…”
“ไม่ได้ค่ะ…ท่านเชคไม่อยู่…” ไม่อยู่อีกแล้ว…
“เขาไปไหนกัน…”
“ท่านไม่ได้บอกเอาไว้ค่ะ…” โอ้ย…อะไรกันเนี่ย
“งั้นฉันก็ไม่แคร์แล้ว…ฉันจะไป…ใครขวางทางก็ต้องมาดวลกัน…”
นัจมุนก้าวฉับๆลงไปยังด้านล่างอย่างไม่สนใจผู้ควบคุมหน้ายักษ์
เอาซี่…เป็นผู้หญิงเหมือนกัน…ขนาดผู้ชายเธอล้มได้ แล้วนี่เพศเดียวกัน ทำไมต้องกลัว…
หากพอได้ปะทะฝีมือกันจังๆ นัจมุนก็ต้องยอมรับว่าสองรุมหนึ่งช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย…
ผู้หญิงสองคนนี้ฝีมือขั้นเทพเลยก็ว่าได้…ต่างจากตำรวจสามนายที่โดนสังหารหมู่อยู่หลายเท่า…
เมื่อถูกรวบแขนทั้งสองไพล่หลังเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
หญิงหน้ายักษ์ก็บอกกับเธอว่า
“คราวนี้…คุณจะขึ้นเรือนไปดีๆหรือว่าจะให้เรามัดคุณไว้กับต้นโศกหลังเรือนใหญ่…”
‘ต้นโศก’ แค่คิดก็สยองแล้ว…
“ฉันยอมก็ได้…ปล่อยสักทีสิ…ฉันอีดอัด…” เมื่อแพ้ก็ต้องยอมรับว่าแพ้…
นัจมันเลยหิ้วกระเป๋าขึ้นเรือนไปดังเดิม…ในเมื่อใช้กำลังไม่สำเร็จ
เธอต้องระดมสมองคิดค้นแผนการ ทันใดนั้นก็ให้นึกถึงน้องชายสุดที่รัก
เพราะรายนั้นเห็นไม่กี่ขวบแต่ความคิดน่าสนอยู่ไม่น้อย
นัจมุนจึงโทรปรึกษาน้องชายทันทีด้วยความไว้วางใจ เมื่อเล่ารายละเอียดจบ
ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจมาจากปลายสายทันที
“สรุปว่าหมอกจะได้พี่เขยที่เป็นถึงเจ้าชายจริงๆหรือเนี่ย…พ่อหาสามีให้พี่นีล
ได้ดีกว่าที่แม่เคยหาให้เสียอีก…หมอกว่าแต่งๆไปเถอะ…โอกาสอย่างนี้ไม่มีมาบ่อยๆนะพี่นีล…
จะได้กินมะม่วงน้ำดอกไม้ต้นนั้นไปตลอดชีพไง”
รู้สึกผิดหวังจริงๆ…คิดว่าจะได้ไอเดียดีๆจากเจ้าน้องชายแล้วแท้ๆ
เฮ้อ…นัจมุนยกมือขึ้นคลึงขมับอีกรอบ…
“ถ้าพี่นีลไม่แต่งกับพี่บากี้…ท่านเชคผู้นี้ก็เย่ียมยอดไปเลยนะ…พี่นีลจะได้เป็นเจ้าหญิง
แล้วในอนาคตอาจจะได้เป็นถึงราชินีเลยนะ…คิดดู”
“ใครอยากเป็นราชินีแห่งท้องทะเลทรายเล่า…พี่อยากเป็นราชินีแห่งท้องทุ่งของพี่โน่น…
เข้าใจมั้ย…ไม่เอาๆ พี่ไม่แต่ง แต่งกับคนแบบนั้น นรกเห็นๆ ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ…
และเราจะต้องช่วยพ่ีคิดแผนด้วยว่าพ่ีควรทำไงดี…พี่ไม่อยากปรึกษามาลาตี
เพราะรายนั้นต้องยุให้พี่ลงจากคานแน่ๆ…ช่วยพี่คิดหน่อยนะน้องหมอกสุดหล่อ
ของพี่นีลสุดสวย” ต้องอ้อนเข้าไว้ เจ้าน้องชายแพ้ลูกอ้อนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
แต่เหมือนว่าลูกอ้อนเที่ยวนี้จะใช้ไม่ได้ผลเสียแล้ว…
“หมอกสุดหล่อคงแนะนำพี่นีลสุดสวยได้แค่ว่า…แต่งๆไปเหอะ…พ่อน่ะตาแหลมจะตาย…
หมอกเชื่อสายตาพ่อ…ว่าพ่อมองคนไม่ผิดแน่ หรือพี่นีลไม่เชื่อพ่อ…”
พอเจอเข้าอย่างนี้นัจมุนแทบไปไม่เป็น…
พ่อเธอตาแหลมน่ะใช่ แต่มีอยู่เรื่องนึงที่เธอมองยังไงพ่อก็ตาไม่แหลม
นั่นคือ…การเลือกแม่ของเจ้าหมอกมาเป็นคู่ชีวิตนี่แหล่ะ…แล้วนี่ยังจะ
เลือกใครคนนั้นมาให้เธออีก…พ่อคิดอะไรของพ่อ…
“งั้นโทรไปถามพ่อดีกว่า…ว่าทำไมครั้งนี้ตาถึงไม่แหลม…” นัจมุนเอ่ยกับน้องชายอย่างเซ็งๆ
“โธ่…พี่นีล…พี่จะอยู่บนคานไปทำไมนักหนา…ลงๆมาเถอะ…หมอกว่าถ้าพี่นีล
แต่งงานกับท่านเชคผู้นี้…พี่นีลอาจได้โชคสิบชั้นก็ได้…เผลอๆอาจได้
เป็นทั้งราชินีแห่งท้องทะเลทรายควบตำแหน่งราชินีแห่งท้องทุ่งก็ไม่แน่…”
“ฮือฮี…” นัจมุนครางในลำคอ…เพราะไอ้ที่น้องชายเอ่ยๆมามันก็พอ
จะมีทางเป็นไปได้อยู่บ้าง…ไม่บ้างหรอก…มากเลยด้วย…
มันอาจจะเป็นทางลัดนำเธอไปสู่ขุมทรัพย์แห่งท้องทุ่ง…อยู่ๆภาพทุ่งนาสีเขียวในอดีต
ก็ผุดขึ้นมาในหัวยุ่งๆของเธอ…จุดประกายความคิดบางอย่างขึ้นมา…
“เงียบอย่างนี้แสดงว่า…เห็นอะไรลางๆอย่างหมอกว่าแล้วใช่มั้ย…”
“แหม…แต่เอาตัวไปเสี่ยงแบบนี้ พ่ีว่ามันไม่ค่อยจะคุ้มเลย…”
“แต่หมอกว่าดีออก…ท่านเชคออกจะหล่อ…หมอกยังชอบเลย…หรือพี่นีลไม่ชอบ…”
หน้าตาน่ะผ่านตลอดไม่เถียง แต่ไอ้นิสัยนี่สิเกินจะรับได้…
“ใจง่ายนะ…เมื่อก่อนเชียร์พี่กับพี่บากี้อยู่เลย ไหงมาเชียร์พี่ให้ท่านเชคซะแล้วล่ะ…”
“ก็หมอกอยากมีพี่เขยเป็นอะไรที่มันดูยิ่งใหญ่อลังการณ์ขึ้นมาน่ะซี…
แต่งเถอะพี่นีล…เรื่องอื่นเราก็ค่อยๆดัดเอา…นิสัยคนดัดได้นะพี่นีล
ขนาดแมว พี่นีลยังดัดซะอยู่หมัด…เช้ืองเชื่อง…”
“นั่นมันแมว…แต่นี่คนทั้งคนเลยนะ…”
“คนฟังภาษาคนรู้เรื่องนะพี่นีล…ไม่เหมือนแมวกับต้นไม้ของพ่ีนีลหรอก”
อยากจะค้าน…แต่ก็ไม่รู้จะหาหลักฐานมายันได้ยังไง…
“ถ้าแต่งแล้วอยู่กันไม่ได้ ก็เลิก…พี่รุสมีแฟนเป็นร้อยเลิกมาเป็นพันคน ไม่เห็นจะแคร์สื่อ…”
นัจมุนหลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกภาพพี่ชายของเจ้าตัวแสบขึ้นมา…
มีร้อยเลิกพัน นี่มันจะเว่อเกินไปแล้วมั้ง
“ไอเดียนี้ค่อยน่าฟังหน่อย…”
“งั้นแต่งเลย…แต่งนะ…หมอกจะได้เตรียมตัดชุดหล่อไว้เลย…”
น้ำเสียงท่ีฟังออกว่าดูตื่นเต้นขนาดไหนของน้องชายทำให้นัจมุนถึงกับส่ายหน้าไหวๆ
“แต่ถึงไม่แต่ง…ก็หนียากแล้วล่ะ ยักษ์ในตะเกียงแก้วปักหลักไม่ยอมไปไหนเลย…เฮ้อ…”
นัจมุนถอนในยาว…เมื่อมองไปยังด้านนอก เห็นผู้คุมการเคลื่อนไหวของเธอ…
“แสดงว่าเขากลัวพี่นีลหนี…งานนี้เขาอยากได้พี่นีลเป็นเจ้าสาวมากๆ น่าภูมิใจนะพี่นีล…”
“เฮอะ…ผลประโยชน์ทั้งน้านนนน…ถ้าไม่มีเรื่องผลประโยชน์เราคิดรึว่าเขาจะอยาก
แต่งงานกับพี่…”
“พี่นีลของหมอกสวยจะตาย…เขาอาจจะติดบ่วงความสวยของพี่นีลแล้วก็ได้…”
นัจมุนสะบัดหน้าหวือ รู้สึกขนลุกซู่ทีเดียว นานน้านจะโดนน้องชายชมว่าสวย...
“คนนี้เขาไม่เคยเห็นพี่ในสายตาหรอก…เห็นเขาว่าเมียคนก่อนๆของเขาสวยหยาดฟ้ามาดิน…
งามสง่่า เริดๆทั้งนั้น…รู้เอาไว้ซะ…”
“ไม่นะไม่…หมอกได้ยินแม่พูดว่า…เมียคนก่อนๆของท่านเชคสวยสู้พี่นีลไม่ได้สักกะคนเดียว…
พี่นีลเริด พี่นีลเก่ง…พี่นีลฉลาด…สุดๆ”
“แม่เราเนี่ยนะพูดแบบนั้น…” โลกาจะวินาศ ประชาชาติกำลังจะพบกับหายนะแล้วแน่ๆ…
น้ำในทะเลเดซซี่ที่ขึ้นชื่อว่าเค็มที่สุดในโลกคงใกล้จะจีดสนิทหรือไม่ก็หวานเชื่อม
ในไม่ช้านี้เป็นแน่แท้…
“ใช่แล้ว…แม่หมอกพูดจนชาวบ้านเขายกมือขึ้นทาบอกกันหมดเลย…
หมอกเห็นกับตา ได้ยินกับหู คำน้อยไม่มีปด…”
นัจมุนยิ้มขันพลันนึกไปถึงมารดาเลี้ยงที่คงจะเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ…
นี่ก็แสดงว่าเรื่องที่เธอจะแต่งงานกับเขา พวกชาวบ้านเขารู้กันทั่วแล้วน่ะสิ ตายแล้ว ตายแน่ๆ
“หมอก…นี่คนเขารู้กันทั่วแล้วหรือ เรื่องที่พี่จะแต่งงานกับท่านเชคเขาน่ะ…
พี่ยังไม่ได้จะตัดสินใจอะไรเลยนะ…”
“จะเหลือหรือพี่นีล…พอพ่อบอกแม่ว่า ท่านเชคจะเข้าพิธีสมรสกับพี่นีลเดือนหน้า…
แม่ก็ป่าวประกาศไปทั่วท้ังแผ่นดินเลย…”
“เดือนหน้า!” นี่อย่าบอกนะว่า เธอคือคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้…
มันจะเผด็จการเกินไปแล้ว…ไหนว่าให้เวลาเธอตัดสินใจสามวัน
นี่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย…แบบนี้เขาเรียกว่าเอาถุงมาคลุมกันชัดๆ…
“งั้นเราก็รู้เรื่องนี้มาก่อนที่พี่จะโทรมาหาแล้วซิ…” เสียงหัวเราะแหะๆดังมาจากปลายสาย
“แล้วทำมาปิดนะ…อย่าให้เจอนะ…อย่าให้เจอ…” นัจมุนขู่ฟ่อๆไปตามสาย…
“ก็…พี่นีลอยากได้ที่ปรึกษา หมอกก็เป็นให้แล้วไง…”
“เฮ้อ…ที่ปรึกษาไม่เข้าท่าแบบนี้…ไม่น่าโทรไปให้เสียตังค์จริงๆ…”
“แต่พี่นีลก็รู้แล้วนี่…ว่าเขาอยากแต่งงานกับพี่นีลจริงๆ แบบว่า...ใจขาดดิ้นเลย…”
นัจมุนขนลุกทีเดียวกับประโยคล้อๆของน้องชาย ยิ่งนึกไปถึงหน้าของเขาคนนั้นแล้ว
ยิ่งขนตั้งตรงทีเดียว…
“หมอก…งั้นพี่วางสายก่อนนะ…มันมีเรื่องที่พี่ต้องไปเคลียร์…งานนี้มีเคลียร์…”
“เคลียร์กันแล้ว…ก็แต่งกันเลยนะพี่นีล…หมอกจะรอดูพี่นีลสวมชุดเจ้าสาว
ให้คาน เย้ย ให้ชาวบ้านตะลึง…” ถ้าอยู่ใกล้ๆ เธอจะเพ่นกบาลให้สักสามทีซ้อน…
“เดี๋ยวก็รู้…ว่าใครจะตะลึง!” นัจมุนวางสายน้องชายแล้วก้าวอาดๆไปยังประตูบ้าน
งานนี้ใครขวางช้างกำลังตกมันจะเหยียบให้ติดดินแน่…แล้วจะกระทืบซ้ำให้แบนทีเดียว
แต่คนที่ต้องตะลึงกลับเป็นคนพูดเสียเองเมื่อเธอเดินไปหาเขาที่บ้านผู้ดีใหม่
หากโดนนางยักษ์จากตะเกียงแก้วตามมาติดๆ ขัดขวางไม่ยอมให้เธอเข้าไป
บอกอยู่นั่นแหล่ะว่าเขาไม่อยู่ จะไม่อยู่ได้ยังไง…ก็เมื่อวานยังเห็นว่าอยู่อยู่เลย…
“ท่านไม่อยู่จริงๆครับ…” นัจมุนไม่เชื่อ พยายามจะหาเรื่องเข้าไปในบ้านให้ได้
พอโดนสองนางจับขึงเธอก็สลัดพร้อมจะสู้ยิบตา แต่เมื่อสองสาว
หมายจะจัดการเธอให้หมอบราบคาบแก้วก็มีเสียงอันทรงพลังดังขึ้น
เสียงจากคนในรถที่เพิ่งมาจอดเทียบหน้าบ้าน ฉากเดิมๆซ้ำๆซากๆ
ก็คือฉากที่เขาเดินออกมาจากรถแล้วยืนจังก้าจ้องมองมาที่เธอนิ่ง
“ห้ามใครทำให้ว่าที่เจ้าสาวของฉันมีรอยช้ำ…จับได้แต่ห้ามช้ำ ห้ามมีรอยขีดข่วน”
นางยักษ์ทั้งสองปล่อยมือเธอทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
“ฉันเคยย้ำเธอกี่ครั้งแล้วนัจมุนว่าห้ามมาเหยียบบ้านหลังนี้…แต่ดูไปแล้วเธอจะไม่เคยจำ…
หรือว่าอยากจะเข้ามาอยู่กับฉันใจจะขาดจนรอเวลาอีกสักนิดสักหน่อยไม่ไหวแล้ว…”
เขาหันมาตำหนิเธอด้วยน้ำเสียงเข้มงวด กวดขัน แววตาคมกริบไร้ซึ่งความอ่อนโยนเช่นเคย
“ก็มันเป็นที่เดียว ช่องทางเดียวที่ฉันจะติดต่อคุณได้…และฉันก็มีเรื่องที่ต้องเคลียร์กับคุณ…
หรือคุณจะให้ฉันนั่งทางใน…บอกก่อนนะว่าฉันทำแบบนั้นไม่เป็น…
และฉันไม่ชอบระบบของคุณที่มีแต่สั่งใช้กับสั่งห้าม…ไม่มีถามความเห็นกันเลยแบบนี้…
ฉันไม่ชอบ…” คนฟังลอบถอนใจ…
“งั้นเข้าไปในบ้าน…และฉันให้เวลาเธอพูดแค่ห้านาที…ถ้าอยากพูดให้นานกว่านี้…
ต้องรอหลังแต่งงานกับฉันเท่านั้น…รอได้มั้ยล่ะ…”
นัจมุนกัดฟันกรอด ก่อนจะเดินตามเขาไปในตัวบ้านโดยมีผู้คุมเดินตามไปติดๆ
“หนึ่งนาทีผ่านไปแล้ว…เมื่อไหร่เธอจะพูด…” เขาติงเมื่อเห็นเธอยังนิ่ง
ที่นิ่งเพราะกำลังพยายามรวบรวมคำพูดมากมายในหัวให้กลั่นออกมา
เป็นคำพูดในเวลาห้านาที ซึ่งมันยากมาก…และจึงได้ผลสรุปออกมาในที่สุด
“ฉันไม่แต่ง…และถ้าฉันไม่แต่ง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาผืนดินผืนนั้นไปได้…
และฉันมั่นใจว่าฉันสามารถเอาตัวรอดจากคนพวกนั้นได้โดยไม่ต้องพึ่งพา
อาศัยบารมีของคุณแต่อย่างใด…”
ก็แค่หลบไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไม่ต้องโผล่หัวออกมา จะไปยากอะไร
“ด้วยการหนีไปตลอดชีวิตอย่างนั้นหรือ…” เขาถามกลับ
“ก็ไม่เห็นเป็นไร…” คนฟังส่ายหน้าไหวๆให้กับความคิดของหญิงสาว
“ฉันคงลืมบอกอะไรเธอไป…ตอนนี้ฉันมีสิทธิ์ในที่ดินผืนนั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมันได้อีกแล้ว…พ่อเธอจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ
คราวนี้เธอก็เลือกเอาว่าจะหนีไปจนตายหรือว่าจะแต่งงานกับฉันและใช้ชีวิตอย่างสบายๆ…
หวังว่าเธอคงไม่โง่วิ่งเข้าไปหากับดักของคนพวกนั้นหรอกนะ…”
นัจมุนตาค้าง ตะลึงกับสิ่งที่ได้รับรู้ มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“โกหก…คุณโกหกฉัน…” เขาส่ายหน้า
“ฉันไม่ได้โกหก…พ่อเธอยกเธอและยกบ้านพร้อมที่ดินส่วนนั้นของท่าน
ให้กับฉันเรียบร้อยแล้ว…และเธอแทบจะไม่มีทางอื่นให้เลือกด้วย…นอกจากเป็นเมียฉัน…”
เขาจ้องมองเธอราวกับเสือที่จ้องจะตะครุบเหยื่อ
“ไม่…ฉันไม่เชื่อ…คุณเอาอะไรมาพูด…” นัจมุนไม่เชื่อว่าพ่อจะทำอะไรแบบนี้…
ปกติพ่อเป็นคนคิดอ่านรอบคอบ การกระทำแบบนี้มันไม่ใช่วิสัยของท่านแน่ๆ…
“เธอลองโทรไปถามคนที่จะทำให้เธอเชื่อได้ก็แล้วกัน…หมดเวลาห้านาทีของเธอแล้ว…
และถ้าเธออยากอยู่ต่อเวลาอีกสักนิด…ฉันจะจัดที่นอนให้เลย”
เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเหยียดปากออก แววตาเหมือนเสือร้าย…
นัจมุนเกลียดความหวั่นไหวในหัวใจท่ีลามไหลไปถึงช่องท้องยามเมื่อสบตาเขา
หญิงสาวจึงรีบหลบทันที ไม่คิดจะดึงดันมองมันให้ความหวั่นไหวที่ก่อตัวอยู่เสมอ
ทำให้เธอหลงไปติดกับดักหลุมพรางนายพรานอย่างเขาเข้า…
“ว่าไง…จะให้ฉันจัดที่นอนให้เลยมั้ย…” นัจมุนลอบกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก
ก่อนจะเอ่ยกับเขาด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดเธอถึงได้อ่อนไหวได้ถึงเพียงนี้
ตอนนี่เธอทั้งอึดอัด อัดอั้นอย่างบอกไม่ถูก ทุกอย่างมันมาจุกอยู่ตรงยอดอก...
ทำไมเขาต้องมาบีบคั้นเธอด้วย...เขาจะทำไปทำไม...อยากได้แผ่นดินที่เธอรัก
ไปทำไม...มันมีอะไรที่เขาต้องการนักหรือ จึงบีบคั้นเอากับเธอแบบนี้...
“คุณบอกว่าให้เวลาฉันสามวัน เหมือนว่าให้ฉันมีสิทธิ์เลือก มีสิทธิ์ตัดสินใจ…
แต่จริงๆแล้วคุณไม่ได้ให้อะไรฉันเลย…แม้แต่ทางเลือก
และฉันก็คงต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดขณะใช้ชีวิตกับคุณใช่มั้ย
ฉันต้องยอมรับมันให้ได้ใช่มั้ย”
คนฟังเบือนหน้าไปอีกทางอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทนมองไอ้น้ำใสๆ
ในดวงตาคู่นั้นไม่ได้ขึ้นมา ทั้งๆที่น้ำตาของผู้หญิงไม่เคยทำอะไรหัวใจของเขาได้…ไม่เคย…
“เวลาคุณอยากจะไปจากชีวิตฉันคุณก็ไป ฉันไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร…
พอจะกลับเข้ามาในชีวิตฉัน คุณก็กลับเข้ามาโดยไม่ต้องขออนุญาต…
ใช่…คุณทำได้ และฉันทำไม่ได้แบบคุณ…ไม่เคยทำได้…”
นัจมุนยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วกล่าวตัดพ้อออกไปอย่างคนที่กำลังน้อยใจจนถึงที่สุด…
เพราะในวันวาน เพียงแค่เรียกให้เขาหันกลับมามองเธออีกสักครั้ง เขาก็ไม่หันมามองสักนิด
จากไปอย่างคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน...
เด็กชายกอมารุนในวันนั้นว่าเย็นชาแล้ว เชคกอมารุนในวันนี้ยิ่งกว่าหลายเท่านัก...
“เสียงของฉันมันคงไม่สำคัญไม่ดังพอให้ใครได้ยิน…ไม่มีใครอยากฟังเสียงท่ีไร้ค่าของฉัน…
แม้แต่พ่อของฉันก็ไม่เคยคิดจะฟัง…” หญิงสาวหันหลังไม่อยากมองหน้าเขา ไม่อยากเห็น…
หากก็ยังไม่วายตัดพ้อเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
“คุณมีเวลาฟังฉันแค่ห้านาที…ให้เวลาฉันพูดเรื่องชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ไปของฉันแค่ห้านาที…
นี่หรือคนที่ฉันจะใช้ชีวิตด้วยต่อไป…”
นัจมันหันมามองเขาก่อนจะบอกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“คุกนั้นเป็นที่รักยิ่งแก่ฉันกว่าสิ่งที่คุณเรียกร้องฉันไปสู่มัน…”
กอมารุนมองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของคนที่กล้าบอกเขาว่า 'คุก' นั้น
ประเสริฐกว่าการต้องมาใช้ชีวิตคู่กับเขา…เธอยินดีจะไปอยู่ในคุกงั้นหรือ
“ได้…ถ้าเธออยากอยู่ในคุก…ฉันก็จะให้เธออยู่ในนั้นตามคำขอ...”
พูดจบเขาก็เรียกสองนางเข้ามาพร้อมกับสั่งกำชับว่า
“ห้ามให้อิสระกับนักโทษของฉันเด็ดขาด…ถึงเวลาก็ให้ข้าวให้น้ำตามปกติ
แล้วขุนให้มีน้ำหนักเพิ่มห้ากิโลให้ได้ภายในหนึ่งเดือน…ถ้าไม่ยอมกิน
ก็หาวิธียัดเข้าไปให้ได้…จะทำยังไงแบบไหนก็ได้…ฉันให้อิสระนั้นแก่เธอสองคน…"
เขากระตุกมุมปากนิดนึง เมื่อนึกถึงเมนูสำคัญในการขุนนัจมุนขึ้นมาได้
"โดยเฉพาะ เนื้อ นม ไข่ ต้องให้กินทุกมื้อ…และห้ามให้แตะต้องพวกอาหารขยะ
พวกขนมขบเคี้ยว พวกอาหารที่ไร้คุณค่าต่อสุขภาพและความงามให้ทิ้งไปให้หมด…
อย่าให้นักโทษของฉันเอาเข้าปากเด็ดขาด…”
นัจมุนตวัดสายตามองคนท่ีกำลังก้าวเข้ามาบงการชีวิตเธอทันที…
“ส่วนพวกเนื้อ นม ไข่ ทุกอย่างต้องมาจาก 'ฟาร์มจันทร์คู่ฟ้า'เท่านั้น…
โดยเฉพาะ…นมสด…ต้องบังคับให้ดื่มอย่างน้อยวันละ 2 แก้วเป็นอย่างต่ำ…
สลับทั้งนมแพะ นมวัวแล้วก็นมอูฐด้วย…รวมทั้งนมถัั่วเหลือง…ดื่มแทนน้ำได้ยิ่งดี...
แล้วทำยังไงก็ได้ให้นักโทษของฉันได้ออกแรง ออกเหงื่อทุกเช้าเย็น
ไม่ว่าจะบริหารท่าไหนก็ได้แต่ห้ามมีรอยช้ำ ห้ามมีรอยขีดข่วนเท่านั้น…”
สั่งพลางชำเลืองไปยังนักโทษที่ยืนกำหมัดแน่นทีเดียว…สีหน้าแดงก่ำอย่างบ่งบอกให้รู้ว่า
ภายในนั้นกำลังคุกรุ่นเพียงใด…
“และถ้าเธอสองคนทำไม่ได้…ฉันก็คงจ้างทำงานสำคัญอื่่นๆไม่ได้อีกต่อไป…”
สองนางหันมามองหน้ากัน นี่มันงานหินชัดๆ…ขุนโครงกระดูกตรงหน้าให้มีน้ำหนักเพิ่ม
ห้ากิโลกรัมภายในหนึ่งเดือน ดูยังไงๆก็เป็นไปได้ยากเหลือเกิน…เห็นแววตกงานอยู่รำไร…
งานดี เงินดี สวัสดิการเพียบแบบนี้ใช่หาได้ง่ายๆ…
ส่วนเจ้าของร่างโครงกระดูกถึงกับเม้มปากสนิทแน่น…เนื้อตัวสั่นด้วยความโกรธสุดขีด
“ฉันไม่ยอม…” หญิงสาวคำรามออกมาด้วยสีหน้าทมึงตึง
“นักโทษไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นหรือขัดขืนอะไรทัั้งนั้น…นี่คือกฎของคุก
และถ้าเธอไม่ทำตาม…ฉันจะเป็นคนป้อนข้าวป้อนน้ำ ป้อนนมให้เธอเอง
อยากจะให้ฉันป้อนก็ลองหือกับสองคนนี้ดู…รับรองว่าฉันมีวิธีป้อนที่วิเศษ
จนเธอคาดไม่ถึงแน่…”
“เผด็จการ!”
“เธอขอคุกฉันก็ให้คุกแล้วไง…” เขาบอกเธอจบก็หันไปบอกลูกน้องสองคนของเขาทันทีว่า
“เอานักโทษไปได้แล้ว…และหวังว่าหนึ่งเดือนผ่านไป ฉันจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
ไปในทางที่ดี…แล้วถ้านักโทษมีปัญหามากนักให้มารายงานฉันทันที!”
จบคำ สองนางก็เข้าประกบซ้ายขวานัจมุนแล้วนำเธอออกไปทันที…
กอมารุนมองร่างผอมบางพลางส่ายหน้า ก่อนจะเปรยออกมาอย่างเหลืออด
กับสภาพของนัจมุน
“ผอมอย่างกับถั่วงอก…”
ผ่านไปแค่วันเดียวก็มีรายงานความเป็นไปจากแดนนักโทษมาว่า
“นักโทษดื่มนมแล้วท้องเสียค่ะเชค…พวกเราควรทำอย่างไรดี…”
“เพราะไม่ดื่มนมเลยน่ะสิถึงเป็นแบบนั้น…ให้ดื่มต่อไป…เดี๋ยวก็เลิกท้องเสียไปเอง…”
“แต่เธอ…เอ่อ…ท้องเสียจน…เอ่อ…น่าเห็นใจนะคะ…”
คนฟังลอบถอนใจ ก่อนจะเริ่มอธิบายว่า
“จริงๆแล้วคนที่ไม่ค่อยดื่มนม ตัวแบคทีเรียที่ย่อยแล็กโทสในลำไส้จะไม่ค่อยมี
เลยย่อยได้ไม่ค่อยดี มันก็เลยขับออกมา จึงดูเหมือนว่าท้องเสีย แต่พอดื่มไปเรื่อยๆจนชิน
เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง” เพราะแรกๆที่เขาดื่มนมมักท้องเสียตลอดแต่ภายหลังเมื่อดื่มเป็นปกติ
อาการดังกล่าวก็หายไป
“นมสดมีประโยชน์มาก ทั้งต่อสุขภาพโดยรวมและผิวพรรณ...รวมไปถึงกระดูก…”
เขาอธิบายอย่างใจเย็น
“อย่าใจอ่อนกับลูกอ้อนของนักโทษเด็ดขาด…รายนี้เขาไม่ชอบดื่มนมโดยนิสัยอยู่แล้ว…
ไม้แก่ดัดยากก็จริง แต่ก็ไม่ยากเกินจะดัด…”
“ค่ะเชค…พวกเราจะพยายาม…”
“แล้วเรื่องอาหารนั้น…ช่วยทำให้เขาด้วยนะ…เพราะดูไปแล้วน่าจะไร้ฝีมือในการปรุงอาหาร…
ของดีๆอาจเสื่อมคุณภาพหมด…โดยเฉพาะผัก ต้องให้กินมากๆ…
ผักออแกนิกจากที่ฟาร์มจะส่งมาที่นี่ทุกวัน…ยังไงก็ช่วยจัดให้นักโทษเขาหน่อย…
แต่ห้ามรสจัด แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณสารอาหารขึ้นเรื่อยๆ…เพราะจริงๆเขากินเก่ง…
แต่กินน้อยจนชินเสียมากกว่า เลยทำให้ขนาดของกระเพาะหดตัวจนน่าใจหายกว่าคนปกติ”
มันถึงได้ออกมาผอมหัวโตซะขนาดนั้น...และนั่นคือข้อมูลที่เขาเพิ่งได้รับ
มาจากบิดากับน้องชายของเธอ…ว่าก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตแบบไหนมา...
และมีนิสัยการกินอย่างไร...ช่างเป็นผู้หญิงที่ไร้ความเป็นกุลสตรีที่ดีเหลือเกิน...
เขาคงจะหวังให้เธอเข้ามาช่วยจัดการเรื่องอาหารการกินและเรื่องชีวิตส่วนตัวของเขา
ลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย...
“ค่ะเชค…” ปลายสายรับคำหนักแน่น
“แล้วถ้าเป็นไปได้ ช่วยหาคนมาสอนการทำอาหารให้เขาด้วย…จะได้ไม่อดตาย
เวลาไม่มีใครทำอะไรให้กิน...” ก็ขนาดไข่เจียวยังทำให้อร่อยไม่ได้ จนน้องชาย
ถึงกับส่ายหน้า...เขาก็ไม่คิดว่านัจมุนจะทำเมนูอื่นให้อร่อยได้...
ช่างเป็นผู้หญิงที่ขาดเสน่ห์ไปเสียหมด...จนเขาแทบจะค้นหาไม่เจอด้วยซ้ำ...
“ค่ะเชค…” สั่งความเสร็จก็วางโทรศัพท์ลงก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการกับงานตรงหน้า…
เมื่อเวลาผ่านไปก็ออกมาพักสายตาตรงระเบียงบ้านหลังจากได้ทำการละหมาดเสร็จ
เห็นสามสาวกำลังวิ่งออกกำลังในสวนส้มโอ…ก่อนจะจบด้วยการว่ายน้ำในลำธารแข่งกัน
กอมารุนได้ยินเสียงหัวเราะสดใสของว่าที่เจ้าสาวมากับสายลมที่พัดต้องกาย…
เขาไม่รู้ว่าลูกน้องทั้งสองของเขาทำอย่างไรถึงเอายัยถั่วงอกอยู่…
แต่ช่างเถิด…ขอให้เธออยู่ในคุกต่อไปแบบนี้แหล่ะดีแล้ว จะหัวเราะหรือร้องไห้ก็ช่าง…
เพราะคุกของเขาคือสถานที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับถั่วงอกอย่างนัจมุนในยามนี้…
................โปรดติดตามตอนต่อไป......................
เอาพี่ก้อกับน้องนีลมาเสริฟ...รอบนี้ฉายา "ถั่วงอก" เหอๆ
เขียนตอนนี้แล้วรู้สึก อยากกินผัดถั่วงอกกับกุ้งแห้งขึ้นมา...อิอิ
คุกแบบนี้จะว่าไปก็น่าอยู่เหมือนกัน เหอๆ แบบว่าได้กินดีอยู่ดี อ้วนพีแน่ๆ ^^
พรุ่งนี้ได้กฤษ์กลับบ้านเกิด...พอจะย้ายใจหายเหมือนกันนะเนี่ย...
ถ้าไม่เห็นหัวเต่าโผล่มาหลายวันแสดงว่ายังหาทางลง เย้ย ยังลงหลักปักฐาน
ได้ไม่มั่นคงนัก หลักแน่นแล้วจะโผล่หัวมาจากกระดองค่ะ ^^
ไม่น่าจะใช้เวลานาน...แต่อาจจะยุ่งๆเท่านั้น...หายหัวหมุนแล้วจะรีบมาอัพให้กันต่อค่ะ
เพราะเต่าก็กำลังติดพันกับเรื่องนี้อยู่ แบบว่ากำลังง่วนอยู่กับมันทีเดียว
ดังนั้น...ขอส่งใบลาล่วงหน้าไว้ก่อนจ่ะ...^o^
ขอบคุณนักอ่านที่ติดตามเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกวิว ทุกไลค์ ทุกคอมเมนท์จ่ะ ^^
........ตอบเมนท์จ่ะ........
1.คุณPampam...ชอบค่ะ..."กำขี้ดีกว่ากำตด" อิอิ
แต่ให้หนูนีลเป็นขี้เลยหรือ...อิอิ...มานเหม็นน้าาาา...ฮ่าาาาา
รอดูว่าเฮียแกจะได้ตามสเปคมั้ย...เหอๆ
2.คุณปรางขวัญ....หนูนีลรู้เข้าคงปวดใจเหมือนกันค่ะ...อิอิ
3.คุณsunflower...สเปคสูงอย่างนี้ต้องเจอของจริงแท้
ไร้พลาสติกค่ะ...ถึงจะจอดสนิท ผู้ชายอย่างนี้น่าจะให้หนูนีลยิงเรือให้ทะลุ
ล่มกลางน้ำ แล้วให้ว่ายน้ำขึ้นฝั่งเอาเอง อิอิ เอาแบบสำนวนไทยเลย
ผู้ชายพายเรือ ส่วนผู้หญิงก็ยิงเรือ...อิอิ
4.คุณแว่นใส...พี่ก้อฝากมาบอกว่า กลืนน้ำลายตัวเองไม่กลัวครับ
กลัวจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหอๆ
5.คุณkonhin...ก็สองสาวที่เฮียแกว่าเริดๆน่ะ ที่ผ่านมา ไม่สามารถผลิตลูก
ให้เฮียแกได้เลยนะคะ เฮียแกเลยต้องมานอนอ้างว้างไร้ทายาทอยู่...เหอๆ
ตอนนี้ก็คงทำได้แค่นอนกอดหมอนข้างไปพลางๆ...อิอิ
ผู้หญิงที่รักสวยรักงามเอามากๆ มักไม่ค่อยอยากมีลูกให้เสียของ
หรือถ้ามีก็จะมีแค่คนสองคน ผู้ชายที่อยากมีลูกเยอะๆ คงต้องหาหน้าตาแบบบ้านๆค่ะ
เธอถึงจะยอมเสียของ...แบบว่าอ้วนเท่าตุ่มเท่าไหก็ไร้กังวล ไม่เป็นไร ศรีรับได้...
เพราะพี่สะใภ้เต่าน้า ตอนสาวๆน้า หุ่นดี๊ดีกันทู้กคน แบบว่าสเล็นเดอร์อ่ะ
แต่ว่า...ตอนนี้น้า...ไม่ขอนินทาดีฝ่า...มันบาป...ฮี่ๆๆๆ
6.คุณตุ๊งแช่...นางเอกฉายาปากปลาหมอ ส่วนพี่ก้อ น่าจะปากปลาชะโด(ค้มคม)
กัดไม่เลือกด้วย...โยว่ารอบนี้พี่ก้อแกอาจจะอยากหันมาส่องของแปลกดูก็ด้าย...
ใช่ว่าหนูนีลเธอไม่สวยน้า เธอสวยใช้ได้เลย แต่ว่ายังสวยหลบใน...อิอิ
ส่วนโยหรือคะ...เปล่าน้า...มะด้ายตกหลุมพรางชายใด
แค่ขุดหลุมฝังตัวเองเท่านั้นเอ๊ง...เหอๆๆๆ...กว่าจะผุดขึ้นมาจากหลุม
ที่กระโดดลงไปได้ สุดๆ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เรยอ่ะ...อิอิ
ความรักมักทำให้เราเห็นอะไรผิดเพี้ยนได้ ตอนรักมองมุมไหนองศาไหนก็...
ล้อหล่อ หล่อแบบ 360 องศา...แต่อย่าให้เกลียดนะ...อย่าให้เกลียด...
สายตาเราก็จะผิดเพี้ยนแบบแปรผกผันกับตอนความรักเข้าตาเลยละ...อิอิ
จากที่เคยมองเห็นเป็นเจ้าชายก็กลายเป็นซาตานไปได้ในบัดดลเหมือนตอนเพิ่งเจอ...
คือ กลับไปสู่จุดเริ่มต้น...แบบว่าสูงสุดสู่สามัญ (อันนี้เกี่ยวกันมั้ยไม่รู้) เหอๆ
เช่น ตอนเจอแรกๆ เห็นคนกลายเป็นซาตาน พอรักเข้าตา จากที่เห็นเป็นซาตาน
ก็กลายกลับเป็นเจ้าชายแสนดี๊แสนดี...พอเกลียดหรือ จากที่เห็นเป็นเจ้าชายสุดหล่อเริด
ก็กลายเป็นซาตานคูนสิบยกกำลังสอง...แบบไม่ต้องถอดสแควรูท...
ขังให้มันอยู่ในรูทตลอดกาลไปเลยนั่นแหล่ะ...เหอๆ
พ่อเต่าบอกว่า...เราต้องพยายามใช้สติมองคนให้เป็นคน แล้วจะเจอคนที่ใช่จริงๆ...
เรียกว่ารักอย่างมีสติ ^o^
7.คุณphakarat...แต่สภาพตอนนี้เหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่ากลืนไม่ลงนะคะ
เหมือนเฮียแกจะไม่ชอบกินถั่วงอก...อิอิอิ...คงต้องมาดูกันว่า คุกที่ว่า
จะสามารถเปลี่ยนถั่วงอกให้เป็นอะไร...เหอๆ
8.คุณyapapaya...เหมือนง้างๆจะตบอยู่นะคะ ถ้าไม่โดนขู่ซะก่อนคงได้โดน...
แต่ว่าน้า...พี่ก้อน้า...โดนหนูนีลตบไปหลายฉาดแล้วน้า เดี๋ยวพระเอกเต่าจะ
แก้มช้ำหมดอ่ะจิ...ยิ่งเฮียแกความจำดี๊ดีแบบนั้น...เวลาคิดบัญชีขึ้นมา
หนูนีลอาจหมดเนื้อหมดตัวก็ได้นะคะ...อิอิ หนูนีลอาจเป็นของแปลกที่ทำให้
เฮียแกอยากลองจนต้องจับถั่วงอกไปหมักดองและแช่อิ่มอยู่ในคุกสักพัก เหอๆ
ส่วนเรื่องหลงรักแม่ข้าวเปลือกค้างปีนั้นคงยากหน่อย เพราะเฮียแกใจแข็งพอๆกับปาก
แต่เรื่องที่จะหาทางกินข้าวเปลือกที่ว่านั้นไม่น่าจะยากค่ะ...เกิดเป็นไก่อย่าให้เสียชาติเกิด
ว่ากินข้าวเปลือกไม่เป็น ฮ่าๆๆๆๆ ต้องมาดูกระบวนท่าในการจิกข้าวเปลือกค้างปี
ของเฮียก้อเขาค่ะ...ว่าจะเป็นเยี่ยงไร...อิอิ
.....ขอให้มีความสุข สุขภาพดีกันถ้วนหน้านะคะ.....
"เต่าโย"
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ค. 2558, 00:06:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ค. 2558, 00:06:58 น.
จำนวนการเข้าชม : 2666
<< ต้นที่ 11 มะยมขม | ต้นที่ 13 นักโทษในเรือนใจ >> |
![](/images/icons/guest.jpg)
![](/images/icons/guest.jpg)
Pampam 22 พ.ค. 2558, 02:38:51 น.
หลังจากโดนขุนแล้วขอหนูนิลสวยๆแบบว่าพี่ก้อตลึงตาค้างน้ำลายไหลย้อยอะไรเงี๊ย
คอมเม้นท์ตอนที่แล้ว"กำขี้ดีกว่ากำตด" ไม่ได้เปรียบหนูนิลเป็นขี้น๊า เขาหมายถึงขี้มันsolidมันจับต้องได้มันเป็นของที่มีอยู่จริง แต่ตดมันมีแค่กลิ่นเป็นแค่แอร์แล้วก็มลายหายไป
พูดถึงเรื่องสเปคตอนเป็นวัยรุ่นวาดฝันแฟนไว้ต้องหล่ออย่างเทพบุตรหรือสวยอย่างนางฟ้า พออายุมากขึ้นเราก็ค่อยๆตัดออกทีละนิดๆจนว่าหยวนๆละกัน คนเขาเลยบอกว่าอย่าเลือกมาก"กำขี้ดีกว่ากำตด"
กลับมาต่อเร็วๆนะคะ
หลังจากโดนขุนแล้วขอหนูนิลสวยๆแบบว่าพี่ก้อตลึงตาค้างน้ำลายไหลย้อยอะไรเงี๊ย
คอมเม้นท์ตอนที่แล้ว"กำขี้ดีกว่ากำตด" ไม่ได้เปรียบหนูนิลเป็นขี้น๊า เขาหมายถึงขี้มันsolidมันจับต้องได้มันเป็นของที่มีอยู่จริง แต่ตดมันมีแค่กลิ่นเป็นแค่แอร์แล้วก็มลายหายไป
พูดถึงเรื่องสเปคตอนเป็นวัยรุ่นวาดฝันแฟนไว้ต้องหล่ออย่างเทพบุตรหรือสวยอย่างนางฟ้า พออายุมากขึ้นเราก็ค่อยๆตัดออกทีละนิดๆจนว่าหยวนๆละกัน คนเขาเลยบอกว่าอย่าเลือกมาก"กำขี้ดีกว่ากำตด"
กลับมาต่อเร็วๆนะคะ
![](/images/emo/huhu.gif)
![](/images/icons/29.jpg)
konhin 22 พ.ค. 2558, 05:21:27 น.
ทำเค้าติดแล้วจะหายไปไหนนนนนนนนน เอาที่สต๊อกไว้ลงก่อนเร็วๆๆ ฮ่าๆๆ
เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ
เรื่องก่อนยุยังไงนางเอกก็ไม่หือกับพระเอกซักที เอาน่า ลองเรื่องนี้อีกรอบ นางต้องทำได้
เข้าใจว่ายังไงการแต่งงานก็ต้องให้นางเอกออกปากเองว่าจะอยากได้เอ้ยยอมรับผู้ชายคนนี้เป็นสามี เข้าใจว่าอาจจะเก็บไว้ดื้อตอนนั้น
ทำเค้าติดแล้วจะหายไปไหนนนนนนนนน เอาที่สต๊อกไว้ลงก่อนเร็วๆๆ ฮ่าๆๆ
เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ
เรื่องก่อนยุยังไงนางเอกก็ไม่หือกับพระเอกซักที เอาน่า ลองเรื่องนี้อีกรอบ นางต้องทำได้
เข้าใจว่ายังไงการแต่งงานก็ต้องให้นางเอกออกปากเองว่าจะอยากได้เอ้ยยอมรับผู้ชายคนนี้เป็นสามี เข้าใจว่าอาจจะเก็บไว้ดื้อตอนนั้น
![](/images/icons/guest.jpg)
แว่นใส 22 พ.ค. 2558, 08:20:50 น.
หนึ่งเดือนนี้จะสวยให้ดูนายก้อ
หนึ่งเดือนนี้จะสวยให้ดูนายก้อ
![](/images/icons/221.jpg)
ตุ๊งแช่ 22 พ.ค. 2558, 08:37:44 น.
สมกับที่รู้จักมาแต่เด็ก รู้ทันหนูนีลจริงๆๆ เดือนเดียวขุนให้ได้
จะสำเร็จไหมนั้น
น่าสงสาร เสาสองต้น ที่ต้องคอยรับมือนาง
เจ้าชายกลายเป็นซาตาน ตรรกะนี้ จริง!! เป็นเมมโมรี่ ที่ถูกดีลีต อย่างไว ...![](/images/emo/hehehe.gif)
เดินทางปลอดภัยค่ะ การกลับไปจุดเริ่มต้น เหมือนเดินทางย้อนเวลาเลยน๊า เพียงแต่เราแก่ เอ๊ย โตขึ้น..![](/images/emo/hehehe.gif)
น่าจะมีสิ่งใหม่ๆที่ ต่อยอดได้อีก โดยเฉพาะพลอตนิยายเรื่องใหม่ๆ
แต่ๆๆๆ กรุณา แต่งเรื่องในไหดองก่อนนะ...![](/images/emo/chi.gif)
ยังคงรอหนูกีสต่อไป...
เจออีกที ทิตย์หน้าเลยยย...เก๊า...อนุญาต..
..
จะไปลั้ลล้า คือกานนน
สมกับที่รู้จักมาแต่เด็ก รู้ทันหนูนีลจริงๆๆ เดือนเดียวขุนให้ได้
![](/images/emo/aah.gif)
น่าสงสาร เสาสองต้น ที่ต้องคอยรับมือนาง
เจ้าชายกลายเป็นซาตาน ตรรกะนี้ จริง!! เป็นเมมโมรี่ ที่ถูกดีลีต อย่างไว ...
![](/images/emo/hehehe.gif)
เดินทางปลอดภัยค่ะ การกลับไปจุดเริ่มต้น เหมือนเดินทางย้อนเวลาเลยน๊า เพียงแต่เราแก่ เอ๊ย โตขึ้น..
![](/images/emo/hehehe.gif)
น่าจะมีสิ่งใหม่ๆที่ ต่อยอดได้อีก โดยเฉพาะพลอตนิยายเรื่องใหม่ๆ
แต่ๆๆๆ กรุณา แต่งเรื่องในไหดองก่อนนะ...
![](/images/emo/chi.gif)
ยังคงรอหนูกีสต่อไป...
เจออีกที ทิตย์หน้าเลยยย...เก๊า...อนุญาต..
![](/images/emo/biggrin.gif)
จะไปลั้ลล้า คือกานนน
![](/images/emo/cute.gif)
![](/images/icons/guest.jpg)
yapapaya 22 พ.ค. 2558, 12:13:00 น.
เจอถั่วงอกอีกแล้วฉายานางเอกคุณเต่าไม่พ้นของกิน ออนุมัติให้ลานะคะ แต่ว่าความ กลับบ้านเกิดมันอบอุ่นนะคะจนร้อนเลยบางเรื่องคะ อยู่ไกลกันไม่รู้ไม่เห็น พอไกล้กันรู้ทุกเรื่องบางเรื่องมันเดือดเลยคะคุณโย สู้ๆๆ
เจอถั่วงอกอีกแล้วฉายานางเอกคุณเต่าไม่พ้นของกิน ออนุมัติให้ลานะคะ แต่ว่าความ กลับบ้านเกิดมันอบอุ่นนะคะจนร้อนเลยบางเรื่องคะ อยู่ไกลกันไม่รู้ไม่เห็น พอไกล้กันรู้ทุกเรื่องบางเรื่องมันเดือดเลยคะคุณโย สู้ๆๆ
![](/images/icons/guest.jpg)
phakarat 22 พ.ค. 2558, 20:55:37 น.
สงสัยว่าอยู่ๆแม่ของน้องหมอกชมหนูนีลสวยสวยกว่าเมียสองคนของพี่ก้อซะอีก รีบกลับมาเฉลยนะคะคุณโย ขอให้เดินทางปลอดภัยค่ะ
สงสัยว่าอยู่ๆแม่ของน้องหมอกชมหนูนีลสวยสวยกว่าเมียสองคนของพี่ก้อซะอีก รีบกลับมาเฉลยนะคะคุณโย ขอให้เดินทางปลอดภัยค่ะ
![](/images/emo/cute.gif)