บ้านต้นรักษ์ (จบแล้วจ้า) รีไรท์
ก้อ...กอมารุน...ราชาแห่งท้องทะเลทราย

ปะทะกับ

นีล...นัจมุน...ราชินีแห่งท้องทุ่ง


เมื่อดวงจันทร์กับดวงดาวบนฟ้าต่างแข่งกันประจันแสง...
โดยมีต้นไม้ สายน้ำ และท้องทุ่ง เป็นตัวประกัน...

หมู่บ้านอันแสนสงบร่มเย็นอย่าง 'บ้านต้นรักษ์'
กำลังจะลุกเป็นไฟ

เมื่อสิ่งที่นักลงทุนอย่างเขาต้องการ
คือสิ่งเดียวกันกับที่หญิงสาวหวงแหนยิ่งชีพ
ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาหวงแหนในสิ่งที่ไม่ใช่
กรรมสิทธิ์ของตน!

การเชือดเฉือนจึงก่อกำเนิดในยุคแห่งวัตถุนิยม
ที่นายทุนเป็นใหญ่

ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ

ระหว่าง

ราชาแห่งท้องทะเลทราย กับ ราชินีแห่งท้องทุ่ง

ที่อยู่ห่างกันราวคนละโลก ในชีวิตกันคนละแบบ
คิดอ่านกันคนละอย่าง...

เสียงเพรียกจากวันวาน จะกลับมาขับขาน
สะพานไม้หมากที่พาดข้ามฟากเชื่อมสองฝั่งคลอง
กำลังสั่นสะเทือน...เมื่อสะพานคอนกรีตจะเข้ามาแทนที่

สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นไม้กำลังจะพัดหวนคืน

...น้ำในลำธารใสสะอาดกับน้ำมันสีดำไม่อาจเข้ากันได้ฉันใด
เธอกับเขาก็ไม่อาจเข้ากันได้ฉันนั้น...

ไม่มีใครรู้ว่าระหว่าง ดวงจันทร์ดวงใหญ่แค่ดวงเดียวที่ลอยเด่น
อยู่บนฟ้ากับดวงดาวจำนวนมากมายนับล้าน
มีความเป็นมาอย่างไร...
เว้นแต่ต้นไม้ที่ผ่านกาลเวลาโดยไม่เคยหนีหายไปไหนเท่านั้น
ที่จะไขปริศนานี้...

ต้นไม้ที่ยืนผงาดอย่างอดทนผ่านร้อนหนาว
ผ่านฤดูกาลมาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีใครเคยได้ยินเสียงบ่น
ต้นไม้ที่เหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใด...

หากทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปกลับกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ความรักความประทับใจและความผูกพันธ์ถูกบันทึกไว้ใต้ต้นไม้
หยั่งรากลึกลงในดิน หยั่งลึกลงในจิตใจ...
มีค่า มีความหมาย...นานเท่านาน...


Tags: ดราม่า รัก ต้นไม้ กอมารุน นัจมุน ก้อ นีล เชือดเฉือน แนวอนุรักษ์

ตอน: บทที่ 14 ต้นเพลิง


ท้ายที่สุด ชายหนุ่มผู้มาเยือนจึงได้รับการต้อนรับจากเจ้าของเรือนใหญ่
ด้วยการเข้าพักอาศัยด้วยเป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง

นัจมุนโล่งใจที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พี่บากี้ของเธอเข้าใจอะไรโดยง่าย
ไม่เหมือนคนบางคนที่ไม่เคยจะทำความเข้าใจคนอ่ืนบ้างเลย…

คืนนั้น เจ้าน้องชายของนัจมุนจึงมีโอกาสได้นอนกับพี่สาว…

“หมอกอยู่กับพี่ต่อได้มั้ย…”

“โหย…แม่คงไม่ยอมแน่ๆ…ถ้าพี่บากี้กลับไปคนเดียวน่ะ…”

“น่าจะอยู่เป็นเพื่อนกัน…”

“ก็อยากอยู่นะพี่นีล…แต่ไม่อยากมีเรื่องกับแม่ พี่นีลก็รู้ว่าแม่น่ะเจ้าอารมณ์จะตาย
หมอกไม่ค่อยอยากขัดใจเท่าไหร่…ว่าแต่ เจ้าเจ็ดเจี๊ยบหายไปไหน
ทำไมหมอกไม่เห็นมันเลย…” นัจมุนถึงกับ
พูดไม่ออกเมื่อโดนน้องชายซักถามเรื่องกรณีของเจ้าลูกเจี๊ยบทั้งเจ็ดตัวขึ้นมา

“เอ่อ…มัน…มันตายแล้ว…” หญิงสาวตัดสินใจสารภาพไปตามตรง
ไม่ค่อยถนัดพูดปดเท่าไหร่ เพราะถึงโกหกได้ในตอนแรกแต่สุดท้ายก็มักถูกจับได้อยู่ดี
เลยไม่อยากโกหกให้เสียเครดิตนัก

“หา…ทำไมล่ะพี่นีล…” นัจมุนเลยเปิดปากเล่าน้องชายหมดเปลือก

“เฮ้อ…แสดงว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยจริงๆ…กลับบ้านเราเถอะพี่นีล…”

“อย่างกับที่นั่นจะปลอดภัยกับพี่นักนี่…” เธอไม่เคยคิดจะกลับไปพักที่บ้านนั่นแน่ๆ
ถ้าจะกลับกรุงเทพฯก็คงไปอยู่คอนโด และเธอก็ยังไม่อยากกลับไปนอนตึก…

“แต่อีกไม่กี่วันพี่นีลก็แต่งงานแล้ว…คงไม่มีอะไรแล้วเนอะ…ท่านเชคดูมีอิทธิพลไม่น้อยเลย…
ดูสิ…ยังทำให้พี่บากี้ยอมไปนอนด้วยได้…แสดงว่าเขาหวงพี่นีลเอามากๆเลยนะเนี่ย…”

ไม่วายหยอกเย้าพี่สาว ทว่า รอบนี้นัจมุนไม่ได้สนุกด้วย หญิงสาวหน้าตึง
แล้วตะแคงหันไปอีกทางทันที จนเจ้าน้องชายต้องสะกิดหลัง

“พี่นีลกับท่านเชคทะเลาะกันหรือ…”

“ก็ไม่เคยไม่ทะเลาะกันสักวัน…เห็นหน้าเป็นทะเลาะกันทุกทีนั่นแหล่ะ”

“ก็พี่นีลไม่ยอมลงให้เขา…หมอกว่าถ้าพี่นีลยอมลงให้นะ เขาก็คงยอมให้พ่ีนีลเหมือนกัน…
ผู้ชายน่ะศักดิ์ศรีรุนแรง…ฆ่าได้หยามไม่ได้”

“งั้นก็ฝันไปเถอะ…คนแบบนั้น…พี่ไม่มีวันยอมลงให้ง่ายๆแน่…
มีแต่คนเอาใจเขากันทั้งนั้น…ไม่มีใครกล้าขัดใจสักคน…” ยิ่งคิดยิ่งแค้น

“พี่ง่วงแล้ว…ขอนอนก่อนนะ…” นัจมุนตัดบททันทีเพราะไม่อยาก
คุยเรื่องของคนที่ทำให้เธอคับข้องหมองใจ…


เช้าวันใหม่ได้เริ่มขึ้น หนุ่มผู้มาเยือนก้าวลงมาจากห้องนอน…ก็พบกับ
เจ้าของเรือนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงห้องโถงของบ้าน
จนอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายดูจะตั้งใจมานั่งรอเขาอยู่ตรงนี้

“ทานข้าวเช้าด้วยกันสิครับ…” เจ้าของเรือนเอ่ยชวนแขกที่มาพัก
ด้วยน้ำเสียงและท่าทางสุภาพ

“เอ่อ…” คนเป็นแขกได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ เพราะตั้งใจว่าจะไปร่วมรับประทาน
อาหารเช้ากับสองพี่น้องที่เรือนโน้น หากเมื่อเห็นว่าเจ้าของเรือนใหญ่อุตส่าห์ชวน
จึงไม่อยากให้เสียน้ำใจ เลยอยู่นั่งทานอาหารเช้าด้วยกันเพียงสองคน
กับท่านเชคผู้ที่ดูจะไม่ได้ถือตัวอย่างที่คิดไว้…เพียงแต่มักสงวนท่าทีและเก็บความรู้สึก
เอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง…

ในตอนแรกต่างฝ่ายต่างเงียบ จนท้ายที่สุดผู้เป็นแขกจึงเป็นฝ่าย
ชวนอีกฝ่ายพูดคุยด้วยเมื่อรับประทานอาหารเช้าจวนจะเสร็จแล้ว

“ผมต้องขออภัยเชคด้วยที่มารบกวน…”

“ไม่เป็นไรครับ…ผมยินดี…แขกของนัจมุนก็เหมือนแขกของผม”
ถ้อยคำนั้นเหมือนแฝงนัยยะบางอย่างที่คนฟังฟังแล้วรู้สึกเหมือนมันเป็น
ประโยคแสดงความเป็นเจ้าของ...

“เอ่อ…จริงๆ…ผมกับน้องนีลเรารู้จักกันมาตั้งแต่น้องนีลยังเล็กๆน่ะครับ
เรียกว่าทั้งรักทั้งผูกพันกัน…เลยอดห่วงไม่ได้ เห็นมาอยู่ที่นี่เลยแวะมาดูให้รู้ให้เห็นน่ะครับ…

น้องนีลเขาเป็นคนที่ถ้าจะทำอะไรแล้วเดินหน้าลูกเดียวครับ เห็นอย่างนั้นแต่ดื้อเงียบมาก
ไม่มีใครสนับสนุนให้มาอยู่ที่นี่ แต่ก็ดื้อจะมาอยู่ให้ได้…”

น้ำเสียงคนพูดดูเอื้อเอ็นดูบุคคลที่สามเมื่อยามเอ่ยถึงอยู่ไม่น้อย

“ครับ…” เจ้าของบ้านตอบรับสั้นๆ พลางยกกาแฟขึ้นจิบหลังฟาดข้าวต้มไปสองชาม

“ผมไม่อยากให้เชคคิดมากกับการมาของผม…ถึงผมจะรักน้องนีล
แต่ผมก็ให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของน้องนีลนะครับ…
เพราะเหนือกว่าการได้ครอบครองคือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขกับสิ่งที่เขาเลือก…”

พูดพลางมองสีหน้าท่าทางของเจ้าของบ้านที่ยังคงนั่งจิบกาแฟด้วยท่าทางเรียบเรื่อย
ไม่แสดงออกว่ารู้สึกอย่างไรออกมา…

“ในเมื่อน้องนีลเลือกเชค…ผมก็ต้องยอมรับ…และผมก็หวังว่าเชคจะดูแลปกป้องน้องนีล
ได้ดีกว่าผม…และทำให้เขามีความสุขได้มากกว่าผม…
เพราะสำหรับน้องนีล…ผมก็คงเป็นได้แค่พี่ชายที่เขาโหยหาอยากมีมาตลอด…”
พูดแล้วก็วางช้อนลงพร้อมยกน้ำขึ้นดื่ม

“ขอบคุณครับสำหรับที่พักสบายๆและอาหารอร่อยๆ…ผมคงต้องขอตัวไปเดินเล่น
ชมบรรยากาศดีๆในยามเช้าหน่อยนะครับ นานๆจะได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์แบบนี้”

ชายหนุ่มยิ้มบางก่อนจะลุกขึ้น หากก็ยังคงทิ้งท้ายถ้อยคำนึงที่เขาอยากบอกอีกฝ่าย
ที่เขาเชื่อแน่ว่า ไม่ได้ด้านชาไร้ความรู้สึกอย่างที่แสดงออกมา

“เชคอาจคิดว่าเชคโชคดีที่จะได้ทำหน้าที่ดูแลน้องนีลในฐานะสามี
แต่ผมเช่ือว่าผมโชคดีกว่า…ตรงที่สถานะพ่ีชายของผมสำหรับน้องนีล
จะไม่มีวันเปลี่ยนเป็นอื่น…มันมั่นคงยิ่งกว่าสถานะใดๆ…เพราะมันไม่มีวันเลิกรา”

ชายหนุ่มผู้เป็นแขกกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นแววตาวูบไหวชั่วเสี้ยววินาที
จากเจ้าของเรือน และเริ่มสงสัยกับอะไรบางอย่างที่น้องสาวของเขาเคยสันนิษฐานเอาไว้
จึงลองหยั่งเชิงอีกฝ่ายดู

“เหมือนที่พี่ก้อพ่ีชายที่น้องนีลเขารักอย่างมั่นคง…ซ้ำยังเอ่ยถึงและระลึกถึงอยู่ตลอด
ผมก็ได้แต่หวังว่าเชคจะไม่ใช่คนๆเดียวกับเงาของพี่ชายในอดีตของน้องนีล…
เพราะถ้าใช่…ผมมั่นใจว่าสักวันผมจะสามารถเอาชนะเงาไอ้พี่ก้อในความทรงจำ
ของน้องนีลได้แน่ๆ…” พูดจบก็ผละจากไป

หากต้องชะงักขาเอาไว้เมื่อได้ยินถ้อยคำจากคนที่นั่งเงียบและตีหน้าตายมาตลอดว่า

“ไม่มีพี่ชายที่ไหนอยากจูบน้องสาวตัวเองหรอก…และผมไม่เคยอยากเป็นพี่ชายของนัจมุน…
เมื่อก่อนอาจเพราะรำคาญ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะรำคาญ…
ถ้าคุณอยากเป็นแค่พี่ชายของเธอจริงๆ…นั่นมันก็สิทธิ์ของคุณ…
แต่ผมเป็นพี่ชายให้นัจมุนไม่ได้…”

คนฟังกระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง…เม่ือเขาได้รับคำยืนยันแล้วว่า
ทำไมนัจมุนถึงได้ยอมแต่งงานกับเชคผู้นี้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วขนาดนี้…
โดยเฉพาะสาเหตุหลักที่เชคผู้นี้ยอมแต่งงานกับนัจมุน…

ในเมื่อข้อสันนิษฐานของเขาเป็นจริง!


แล้ววันที่แสนยุ่งยากวุ่นวายของนัจมุนก็ย่างเข้ามาอีกวันเมื่ออยู่ๆ
ร่างของพี่ชายเจ้าหมอกลงมาจากรถแล้วก้าวอาดๆมายังเธอที่กำลังยืนมองว่าแขกที่ไหน
มาเยี่ยมเธอในวันนี้ ร่างสูงโปร่ง ท่าทางดี บุคลิกสง่าผ่าเผย ใบหน้าขาวคม
พิมพ์นิยมที่สาวๆสมัยนี้ชื่นชอบ…และยากจะปฏิเสธ ซึ่งอยู่ในชุดลำลอง
หากก็ยังคงเนี้ยบ เฉียบ ในแบบฉบับคุณชายเจ้าสำอางอยู่นั่นเอง

“กลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้เลยน้องนีล…” ไม่พูดพร่ำทำเพลงมากมาย
คนมาใหม่ก็ก้าวพรวดเดียวถึงตัวเธอและหมายจะคว้าข้อมือของเธอ
หากนัจมุนหลบเลี่ยงได้ทัน ก้าวถอยหลังออกไปให้ห่างจากตัวอันตราย
ที่ทั้งมือไว ใจร้อน เอาแต่ใจตัวเองอย่างหาที่เปรียบมิได้…

“ไม่ค่ะ…แล้วพี่รุสมาทำไมที่นี่…” เสียงดังๆของนัจมุนทำให้เจ้าน้องชาย
กับชายหนุ่มอีกคนที่กำลังเก็บผลฝรั่งอยู่หันมาดูก็พบว่านัจมุนกำลังเผชิญหน้าอยู่กับใคร

ทั้งสองรีบก้าวเข้ามาหา โดยมีชายหนุ่มขึ้นมายืนกั้นกลางระหว่างคนทั้งสองทันที
หมายจะกางปีกปกป้องนัจมุนอย่างที่เคยทำมาตลอด

“นายมาทำไมที่นี่…”

“แล้วนายล่ะบากี้…มาทำไม…” อีกฝ่ายสวนกลับทันทีอย่างไม่พอใจ
กับท่าทีของฝ่ายตรงข้าม

“หลีกไป ฉันจะพาน้องนีลกลับกรุงเทพฯกับฉัน…และจะไม่มีการแต่งงานบ้าบออะไรนั่น
เกิดขึ้น…” เสียงอันทรงพลังของผู้มาใหม่ดังขึ้นอย่างไม่กริ่งเกรงต่อสิ่งใดหรือใครผู้ใด

ตอนที่ได้รู้ข่าวนี้เขาแทบนั่งไม่ติด และเหมือนเขาจะรู้เป็นคนสุดท้ายด้วยซ้ำ

“นีลไม่กลับค่ะพี่รุส…ได้โปรดอย่ามาเบ่งที่นี่นะคะ นีลไม่ชอบ…”
นัจมุนมองคนมาใหม่ด้วยแววตาไม่ชอบใจกับนิสัยชอบวางอำนาจของเขา

…ชีวิตเธอนี่เจอแต่ผู้ชายบ้าอำนาจทั้งนั้น…

“น้องนีลจะต้องแต่งงานกับพี่เท่านั้น…คนอื่นไม่มีสิทธิ์มาแย่งน้องนีลไปจากพี่…
ไม่ว่ามันจะใหญ่มาจากไหน มันก็ไม่มีสิทธิ์…”

“พี่รุสมีผู้หญิงตั้งมากมาย เลือกเอาสักคนสิคะ ทำไมต้องเป็นนีลด้วย
นีลไม่ได้อยากแต่งงานกับพี่รุสสักหน่อย พี่รุสก็รู้ดี…”

“พี่ก็แค่ควงผู้หญิงพวกนั้นเล่นๆ ไม่ได้คิดจะจริงจังอย่างน้องนีล…
น้องนีลก็รู้ว่าที่พี่ไม่ยอมแต่งงานไปกับใครก็เพราะเก็บใจเอาไว้รอน้องนีล
รอให้น้องนีลพร้อม…แล้วพี่สัญญาว่าจะเลิกกับผู้หญิงทุกคน
จะมีแค่น้องนีลคนเดียวเท่านั้น…พี่รักน้องนีลคนเดียวนะครับ…”

“ขอบคุณค่ะที่รักนีล…แต่นีลไม่ได้รักพี่รุสแบบนั้น…นีลแต่งงานกับพี่ไม่ได้หรอกค่ะ…”

“แล้วทำไมกับไอ้เชคนั่นน้องนีลถึงแต่งได้…มันมีดีอะไร…มันก็แค่พ่อม่ายเมียทิ้ง…
น้องนีลไม่คิดบ้างหรือว่าทำไมมันถึงโดนเมียทิ้งถึงสองครั้งสองคราว…
และไม่ได้ทิ้งแบบธรรมดาซะด้วย แต่ถึงกับฟ้องหย่า” คนพูดเหมือนจะรู้เรื่องราว
ในเชิงลึกของบุคคลที่สามที่เอ่ยถึงอยู่มากทีเดียว

“กรุณาให้เกียรติคนที่พี่พูดถึงด้วย…เพราะถ้าไม่ นีลจะไม่เกรงใจพี่แล้วนะคะ…”

“นี่น้องนีลปกป้องมันหรือ…เพราะอะไรน้องนีล…น้องนีลรักมันใช่มั้ย
แล้วไปรักมันตอนไหน ทำไมถึงได้ตัดสินใจรวดเร็วแบบนี้ทั้งๆที่น้องนีลไม่เคยมีแฟน
ไม่เคยมีใจให้ใครมาก่อน...แต่กับมันทำไมถึงยอม!”

ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มผลักมารที่ขวางกั้นเขากับหญิงสาวออกไปจนอีกฝ่ายกระเด็น
แล้วรีบคว้าข้อมือของนัจมุนแล้วลากไปยังตัวรถของตนที่จอดอยู่ทันที

เขาจะไม่มีวันยอมสูญเสียเธอคนที่เขารอมาตลอดไปให้ใครเป็นแน่...
นัจมุนเป็นของเขา และต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
ถ้าใครอยากได้ก็ต้องข้ามศพเขาไปก่อน

“หยุดนะพี่รุส…ปล่อยมือพี่นีลเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นหมอกจะฟ้องแม่…ว่าพี่รุสมารังแกพี่นีล
ถึงที่นี่...” รุสลันหันไปมองเจ้าน้องชายด้วยแววตาคมดุ

“อย่ามายุ่งเรื่องพี่นะหมอก…”

“แต่นั่นน่ะพี่สาวหมอกนะ…”

“ใช่…แล้วต่อไปก็จะเป็นพี่สะใภ้ของเราอีกตำแหน่งด้วย…ไม่ดีใจรึไง”

นัจมุนพยายามแกะมือนั่นโดยไม่อยากจะใช้กำลังตราบเท่าที่ยังพอจะไกล่เกลี่ยกันได้
เนื่องจากไม่อยากมีปัญหากับแม่เลี้ยงในภายหลัง จึงได้แต่ยื้อยุดฉุดไม่ให้อีกฝ่าย
ลากเธอขึ้นรถคันนั้นได้

“หยุดนะรุส…” บากี้เข้าไปกระชากอีกฝ่ายออกจากนัจมุน อย่างที่เคยปกป้องหญิงสาว
มาตัั้งแต่เด็กยามที่โดนคนตรงหน้าคิดจะรังแก

“อย่ามายุ่งนะ…อยากได้ตัวน้องนีลอยู่เหมือนกันล่ะสิ…ถึงได้วิ่งแจ้นมาหาเขาถึงที่นี่…
แต่อย่าหวัง…น้องนีลต้องเป็นของฉันเท่านั้น…ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เอาน้องนีลไป…
ไปกับพี่เดี๋ยวนี้น้องนีล…น้องนีลอยากได้อะไรพี่จะหามาให้น้องนีลทุกอย่าง...”

หากไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเจอเข้ากับลูกน้องคนสนิทของเชคกอมารุน
ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์เข้าขวางทางไว้

“ปล่อยตัวว่าที่เจ้าสาวของเชคเดี๋ยวนี้…”

“ไม่โว้ย…ถ้าอยากให้ปล่อยนักก็ไปตามเชคของพวกแกมา…มันหลบหัวอยู่ที่ไหนล่ะ
ไอ้ขี้ขลาด…ขี้ขโมย…นี่ถึงกับให้คนมาเฝ้าเลยรึ”

“หยุดนะพี่รุส ไม่งั้นนีลจะไม่เกรงใจพี่แล้วจริงๆ…นีลบอกว่านีลไม่ไปไหนกับพี่ทั้งนั้น…
และจะไม่มีการแต่งงานระหว่างพี่กับนีลอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน…”

นัจมุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง


“ทำไมล่ะน้องนีล…หรือเพราะน้องนีลเสร็จไอ้เชคนั่นแล้วใช่มั้ย…ฮึ ต้องใช่แน่ๆ”

นัจมุนมองหน้าคนพูดอย่างกับจะฉีกทึ้งใบหน้านั้น
แล้วควักลูกกะตาของเขาออกมาให้ได้

“เพราะอย่างนี้ใช่มั้ย…น้องนีลถึงได้อยากมาอยู่ไอ้บ้านสัปรังเคหลังนี้นัก
ทั้งๆที่มันไม่ได้จะน่าอยู่ที่ตรงไหน ก็แค่บ้านผุๆพังๆ
แต่เพราะไอ้บ้านข้างๆหลังใหญ่โตหลังนั้นมันมีไอ้เชคนั่นอยู่ใช่มั้ย…
น้องนีลถึงได้ปฏิเสธชีวิตสบายๆในกรุงเทพฯมาอยู่ที่นี่แทน…

นี่ใช่มั้ยเหตุผลที่น้องนีลรีบแต่งงานกับมัน…หรือเพราะว่าท้องกับมันแล้ว
บอกพี่มานะน้องนีล…ว่ามันข่มเหงน้องนีลใช่มั้ย…”

นัจมุนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธอย่างที่ไม่เคยโกรธใครเท่านี้มาก่อน…
จึงใช้มืออีกข้างที่ว่างกำหมัดแล้วฟาดปากเสียๆของคนตรงหน้าไปเต็มๆ
ทำเอาเลือดกลบปากของอีกฝ่าย ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่ก้าวเข้ามาหมายจะชกซ้ำ
อีกฝ่ายที่หมิ่นเกียรติของนัจมุนถึงกับหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของหญิงสาว…

“พี่ไม่ให้เกียรตินีล นีลเข้าใจและซึ้งใจมานานแล้ว แต่พ่ีไม่ควรจาบจ้วงล่วงเกินเขา…
อย่าคิดว่าคนอื่นต้องเหมือนพี่หมดทุกคนสิ…เพราะตั้งแต่นีลเจอเขาจนกระทั่งตอนนี้
แม้แต่ปลายเล็บเขาก็ไม่เคยแตะต้องให้นีลต้องมัวหมอง...คนที่เขาสั่งให้มาคอยดูแล
ให้ความปลอดภัยกับนีลก็เป็นเพศเดียวกับนีล...”

“ก็เลยประทับใจมัน...งั้นก็แสดงว่าน้องนีลรักมันใช่มั้ย…บอกพ่ีมาว่าน้องนีลรักมันใช่มั้ย…”

เสียงของรุสลันดังลั่นด้วยความขุ่นโกรธ…มือที่จับข้อมือนัจมุนกระชับแน่นยิ่งกว่าเดิม
ทำเอาเจ้าของข้อมือถึงกับมีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ หากไม่ได้ร้องออกมา…

“ปล่อยมือน้องนีลเดี๋ยวนี้นะรุส…นายมันบ้าไปแล้ว…” นัจมุนหันไปทาง
พี่บากี้ของเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ

“อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังกับนาย…”

“คิดว่าฉันกลัวนายรึไงบากี้…ถ้าอยากมีเรื่องนักก็เข้ามา…”

ชายหนุ่มยอมปล่อยข้อมือนัจมุนแล้วกวักมือท้าประลองกับคู่กรณีมาตั้งแต่ครั้งยังเยาวัย
ที่มักจะเข้ามาขัดขวางเขากับนัจมุนได้เสมอ…

“อย่ามีอะไรกันเลยค่ะ นีลขอร้อง…” นัจมุนเข้าขวางระหว่างคนทั้งสอง
ที่กำลังจะมีเรื่องชกต่อยกัน และเธอเริ่มอายชาวบ้านที่สัญจรผ่านมาทางนี้แล้วด้วย…

จากที่คิดว่าชีวิตจะสงบเมื่อกลับมาอยู่ที่นี่ ทุกอย่างกลับตาลปัตรจนเธอแทบตั้งรับไม่ทัน…

“ผมว่าคุณกลับไปเถอะครับ…เพราะถ้าคุณไม่ยอมกลับไปดีๆ เห็นทีพวกเรา
คงต้องลากคุณกลับไป…” เสียงลูกน้องคนสนิทของเชคกอมารุนเอ่ยขึ้น
ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ส่วนสองนางที่เฝ้าดูแลเธอเดินเข้ามาหานัจมุนประกบซ้ายขวา
เพื่อไม่ให้ใครแตะต้องว่าที่เจ้าสาวของเจ้านายได้อีกต่อไป…

“เล่นรุมกันนี่…ไหนล่ะเจ้านายพวกแก มันหดหัวอยู่ที่ไหน ถ้าอยากได้นัจมุนก็ออกมา
ไม่ใช่แอบลักกินขโมยกินเขาแบบนี้…นิสัยเหมือนพ่อมันไม่มีผิด…พวกแมวขโมย…”

นัจมุนบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้ยินถ้อยคำแบบนั้นจากปากของพ่ีชายต่างสายเลือด
ตรงหน้า แต่เธอทนรับฟังวาจาของเขาไม่ไหวจริงๆ จึงยกมือขึ้นฟาดแก้มขาวๆนั่นอีกครั้ง
ชายหนุ่มจับแก้มตัวเองแล้วจ้องนัจมุนที่มีนางยักษ์สองตนประกบอยู่นิ่ง…

“มันจะมากไปแล้วนะพี่รุส…ถ้าพี่มาที่นี่แล้วทำตัวเหมือนอันธพาลแบบนี้
ก็กลับไปซะเถอะค่ะ…แล้วก็ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก นีลไม่ต้อนรับพี่”

“ฮึ…เจ็บแทนมันหรือน้องนีล…ทำไมล่ะ…ทนฟังกำพืดที่แท้จริงของมันไม่ได้ขึ้นมารึไง…
มันน่ะไม่ได้สูงส่งอย่างท่ีใครเขาเทิดทูนมันหรอก…แล้วอย่าคิดว่าแต่งงานไปกับมัน
แล้วจะมีความสุขอย่างที่ฝันไว้นะน้องนีล…มันหล่อมันรวยก็จริงแต่ไอ้หมอนี่
มันไม่เคยรักใครหรอก…มันทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของมันทั้งนั้น…
พอมันเบื่อมันก็จะสลัดทิ้งแล้วหาใหม่มาเย้ย พ่อมันเป็นยังไง ลูกมันก็เป็นอย่างนั้น…”

นัจมุนเม้มปากสนิท…รู้สึกปวดหนึบเหมือนโดนคำพูดนั้นเสียดแทงหัวใจ
เพราะเธอรู้ดีกว่าใครว่าเขาแต่งงานกับเธอเพื่อสิ่งใด…

“นั่นมันก็เรื่องของนีล…พี่รุสไม่เกี่ยว…กลับไปเถอะค่ะ เพราะยังไงๆนีลก็ไม่กลับ
ไปกับพี่รุสแน่…แล้วพี่รุสก็ไม่ควรล่วงเกินผู้อื่นแบบน้ีด้วย
เพราะนอกจากมันจะไม่น่าฟังแล้ว มันยังทำให้คนอื่นหมดศรัทธาในตัวพี่รุสไปด้วย…”

นัจมุนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ภายใจจะปั่นป่วนแค่ไหนก็ตาม…

“หมอกเองก็ไม่ยกพี่นีลให้พี่รุสหรอก พี่รุสไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย…”
รุสลันหันไปมองเจ้าน้องชายอย่างขุ่นเคือง

“เป็นเด็กอย่ามาแทรกเวลาผู้ใหญ่เขาพูดกัน…พ่อไม่สอนรึไง…”

แทนจะตำหนิแม่แท้ๆของตนเอง กลับเลือกที่จะตำหนิพ่อเลี้ยงแทน
กลายเป็นการตีวัวกระทบคราด…นัจมุนถึงกับเม้มปากด้วยความเจ็บใจ

“ถ้าน้องนีลไม่กลับไปกับพี่ก็อย่าหวังว่าพี่จะกลับ…พี่ไม่ยอมให้น้องนีล
แต่งงานกับไอ้เชคนั่นเด็ดขาด…มันจะพาน้องนีลลงนรก รู้เอาไว้ซะ…”

“แล้วการแต่งงานกับพี่รุสมันแตกต่างกันที่ตรงไหนคะ…”

“ยังไงพี่ก็รักน้องนีล รักมาตลอด…และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อน้องนีล...
แต่ไอ้หมอนั่นมันไม่ได้รักน้องนีลจริงๆหรอก มันแค่หลอกใช้น้องนีลเท่านั้น…”

“ทำไมฉันต้องหลอกใช้นัจมุน…ในเมื่อไม่ต้องหลอก นัจมุนก็ยอมฉันอยู่แล้ว…”

เสียงนั้นดังแทรกบทสนทนาขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่ที่ยืนหน้านิ่ง
แววตาสงบก่อนจะก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างๆนัจมุนโดยที่ร่างผู้ควบคุมของนัจมุนยอมหลีกทางให้

“เธอเต็มใจแต่งงานกับฉัน…ใช่มั้ยนัจมุน” เขาหันมาถามนัจมุนด้วยแววตาหวานซึ้ง
ทำเอาหญิงสาวถึงกับประหลาดใจ แล้วหัวใจน้อยๆกระตุกถี่ยิบ รู้สึกแปลกๆภายในช่องท้อง
ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรกันแน่

“เอ่อ…ค่ะ…นีลเต็มใจแต่งงานกับเขา…” หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับตอบออกไปทันที
ราวกับตกอยู่ในมนต์เสน่ห์บางอย่างท่ีทำให้เธอเผลอหลุดปากออกไปเช่นนั้น
ส่งผลให้กอมารุนถึงกับกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วยความสมใจ

“เข้าใจอย่างนี้แล้วก็กลับไปซะ…ว่าที่เจ้าสาวฉันเขาจะได้พักผ่อน…
ยิ่งใกล้วันงานยิ่งต้องพักผ่อน…แล้วอย่าคิดท่ีจะแอบมาขโมยว่าที่เจ้าสาวของฉันเด็ดขาด…”

“แกนั่นแหล่ะไอ้ก้อที่มาขโมยน้องนีลไปจากฉัน…” รุสลันเรียกอีกฝ่ายอย่างคนที่รู้จักกันดี

“ถามเจ้าตัวเขาสิ…ว่าฉันขโมยหรือว่าเขาเต็มใจ…แต่เมื่อกี้เขาก็ยืนยันออกไปแล้วไม่ใช่หรือ…
นายนี่ความจำไม่ได้เรื่องเอาซะเลยนะรุสลัน ชลันธนาบริรักษ์ภักดีกุล…”

กอมารุนเอ่ยทั้งชื่อทั้งนามสกุลของอีกฝ่ายอย่างแฝงไว้ด้วยนัยยะสำคัญ
จนคนฟังถึงกับกัดฟันกรอด

“บอกพ่อนายด้วยว่าฉัน…กอมารุน บินอัสมา อัลฟารุก ฝากสลามไปถึงท่าน…
และ 'ประเทศเดบารีอัน' ยินดีให้การต้อนรับท่านและภรรยาของท่านเสมอ…”

รุสลันถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้านัจมุนที่ยืนนิ่งงันราวกับไม่รู้เร่ืองรู้ราวอันใด…
ชายหนุ่มเลยฉวยโอกาสนั้นปั่นหัวหญิงสาวทันที

“รู้สึกเหมือนว่าว่าที่เจ้าสาวของแกจะยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแกนะ…
เธอจะรับได้หรือ ถ้ารู้ว่าแกมัน…ก็แค่…ทายาทจอมปลอม…ไร้ฐานันดรใดๆ…ฮีๆๆๆ…”

นัจมุนหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆทันที เธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย
นอกจากที่มาลาตีเคยบอก ยิ่งเรื่องในเชิงลึก เธอยิ่งไม่เคยรับรู้ และเขาไม่เคยบอกเธอ
ไม่เคยเล่า และคงไม่คิดจะเล่า…

“วันนี้…ฉันยอมให้แก…แต่อย่าหวังว่าแกจะได้น้องนีลไปง่ายๆ…
เพราะฉันจองน้องนีลมาตั้งแต่เด็ก…คนมาทีหลังอย่างแก ไม่มีสิทธิ์” กอมารุนกระตุกยิ้ม

“จองเอาไว้ตอนเขากี่ขวบล่ะ…”

“ทำไมฉันต้องตอบ…”

“ฉันก็แค่อยากให้แน่ใจว่านายจองไว้ตอนไหน…”

“แปดขวบ…”

“งั้นก็อย่ามาอ้างสิทธิ์ว่ามาก่อนฉัน…เพราะนัจมุนรู้ดีว่าระหว่างฉันกับนาย…ใครมาก่อนกัน…
ถ้าอยากรู้ก็ถามเขาดูสิ…”

นัจมุนมองสองหนุ่มสลับกันอย่างไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่…
หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ตรงใจกลางพายุที่พัดจนหัวเธอหมุนคว้าง
ไม่ต่างจากเศษฝุ่นที่กำลังปลิวว่อนอย่างไร้ทิศทาง…

“บอกเขาไปนัจมุน ว่าเธอรู้จักกับฉันตอนกี่ขวบ…”

“สะ…สะ…สี่ขวบค่ะ…” หญิงสาวตอบออกไปตามตรงเมื่อสบตาคม
ที่จ้องมาไม่วางตาของกอมารุน เขาทำให้เธอเริ่มกลัว…กลัวการอยู่ใกล้ๆกับเขา

“สี่ขวบ? เป็นไปไม่ได้…” รุสลันสะบัดหน้าอย่างไม่เชื่อ เขาไม่มีทางเชื่อ

“ยืนยันเขาไปนัจมุนว่า…เธอรักฉันแค่ไหน…และร้องหาฉันขนาดไหน…
บอกเขาไปว่าพี่ก้อที่เธอร้องหามาตลอดน่ะคือฉันเอง…”

หญิงสาวถึงกับสะอึกกับสิ่งที่เขาพูดแกมบังคับให้เธอต้องตอบและยืนยันออกไป
อย่างที่ใจเขาปรารถนา แต่เธอทำไม่ได้ อย่างน้อยเธอก็อายเหมือนกัน
หากต้องมาพูดประกาศอะไรแบบนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย

หญิงสาวจึงก้มหน้ามองพื้นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้า

“จริงหรือน้องนีล ที่ไอ้พี่ก้อของน้องนีลน่ะคือมัน…” เสียงของรุสลัน
ตะคอกถามหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมพูด

“บอกเขาไปสิ…เขาจะได้รู้สักทีว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิ์ในตัวเธอ…”

กอมารุนเอ่ยขึ้นบ้าง นัจมุนกล้ำกลืนก้อนบางอย่างลงไปจนจุกอยู่ตรงยอดอก…
ยิ่งเมื่อถูกรบเร้าจากทั้งสองฝ่ายก็เฝ้าพยายามหาตัวช่วยหากก็ไร้ผู้ใด

เธออยากมุดดินหนีไปเสียให้พ้นๆจากตรงนี้…

ทำไมพวกเขาต้องกดดันบีบคั้นเธอด้วย…แล้วเขาเล่า เขาจะรู้บ้างมั้ยว่ามันเป็นคำถาม
ที่เธอไม่อยากตอบ

“บอกพี่สิน้องนีลว่าใช่มันรึเปล่า…” หญิงสาวที่ถูกกดดันถึงกับเม้มปาก
สะกดความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ แล้วจึงค่อยๆเอื้อนเอ่ยถ้อยคำ
ที่ไม่อยากเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงจึงไม่มั่นคง
ซ้ำยังสั่นด้วยอารมณ์ภายในที่กำลังปั่นป่วน

“ไม่ค่ะ…พี่ก้อของนีลตายไปนานแล้ว…ตายไปเมื่อยี่สิบสี่ปีก่อน…”

พูดจบหญิงสาวก็หันหลังวิ่งขึ้นเรือนไป…เพราะไม่อยากยืนอยู่ตรงนั้น…

ไม่อยากได้ยินเสียงใด ไม่อยากอยู่ใกล้เขา…ไม่อยากเห็นแววตาของเขา
แววตาที่คอยหลอกหลอนเธอ…ทำให้เธอสับสน…

“วันนี้แกรอด...แต่อย่าคิดว่าแกจะชนะฉันได้นะไอ้ก้อ...อย่าคิด…”
รุสลันชี้หน้ากอมารุนแล้วเดินไปยังรถยนต์ที่ขับมา

“หมอกไปดูพี่สาวเราหน่อย…”

“ครับพี่บากี้…” เด็กชายตัวน้อยรับคำแล้วขึ้นเรือนไปหาพี่สาว
ทำให้สองหนุ่มหันมาเผชิญหน้ากัน

“ผมชักไม่เห็นด้วยกับการที่เชคจะแต่งงานกับน้องนีลซะแล้วสิ…
เพราะเท่าที่ดู น้องนีลแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเชคเลยด้วยซ้ำ…
เชคกำลังหลอกเธอให้แต่งงานด้วยใช่มั้ย…”

“ผมไม่จำเป็นต้องหลอก…และเธอก็ไม่จำเป็นต้องรู้…ว่าผมเป็นใคร…
เพราะที่เธอต้องรู้ก็คือผมเป็นสามีของเธอเท่านั้น…แค่นี้ที่ผมอยากให้เธอรู้…
และนัจมุนต้องแต่งงานกับผมเท่านั้น!”

พูดจบกอมารุนก็เดินไปยังเรือนใหญ่ของตน…ลูกน้องคนสนิทของเขาจึงเดินตามไป
ทิ้งให้สองนางผู้ควบคุมนัจมุนได้แต่ยืนลอบถอนใจอย่างเหนื่อยล้า
กับปัญหาความขัดแย้งภายในของคนที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์...

ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่ถูกทิ้งไว้ตรงนั้นก็รู้สึกไม่ได้แตกต่างกัน...เขาเริ่มเห็น
เค้าลางความยุ่งยากที่กำลังพัดผ่านเข้าสู่ชีวิตของนัจมุน และเขายังหาทาง
เพื่อจะช่วยดึงเธอให้หลุดออกมาจากความวุ่นวายดัังกล่าวไม่ได้...

ได้แต่หวังว่า...เชคกอมารุนจะรักนัจมุนด้วยใจบริสุทธิ์...




............โปรดติดตามตอนต่อไป....................


หมดในสต๊อกแล้ว...แฮะๆๆๆ ที่เหลือคงต้องด้นกันสดๆค่ะ...^^
เลยขอเอาที่มีในสต๊อกมาให้อ่านกันเลยแบบติดๆ...^^

ตอนนี้เริ่มเผยปมและปูมหลังของพี่ก้อเขาค่ะ...

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตาม ขอบคุณทุกวิว ทุกไลค์ ทุกคอมเมนท์จ่ะ




........ตอบเมนท์จ่ะ.........


1.คุณPampam...เห็นเค้าความยุ่งยากพัดผ่านเข้ามาแล้วค่ะ...
นางเอกมีศึกรอบด้าน ไม่แพ้กับพระเอก...อิอิ อย่าเพิ่งงับหัวพี่ก้อน้า
เดี๋ยวหนูนีลจะไม่่มีตัวช่วย เหอๆ


2.คุณkonhin...เป็นธรรมดาของสตรีเพศค่ะ ย่อมต้องมีอ่อนแอ
ยิ่งความหวั่นไหวเข้ารุมเร้า ยิ่งอ่อนปวกเปียก...แต่สงครามยังไม่จบ
อย่าเพิ่งนับหยดน้ำตาน้าาาา....ฮ่าาาาาาา
น้ำตาผู้หญิงเป็นอาวุธได้จริงๆค่ะ แต่ไม่สามารถใช้ได้กับผู้ชายทุกคน...เฮะๆ
เรื่องนี้พระเอกเต่าก็มีปมมีปูมหลังเหมือนกันน้าาา...แบบว่าซับซ้อนนิดนึง ^^

ปล.สำหรับเรื่องของหัวใจ แพ้ชนะเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลยนาาาา...อิอิ
เราอาจจะไม่ได้แพ้หรือชนะอีกฝ่าย เนื่องจากเรามักจะพ่ายแพ้ให้แก่ความรัก...
พ่ายแพ้ให้กับหัวใจของเรานี่แหล่ะค่ะ...

แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องงาน เรื่องอุดมการณ์ หนูนีลเธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่ค่ะ
ต้องรอดูเธอต่อไป...^^

3.คุณแว่นใส...รักรึว่าแค่หวงเฉยๆก็ไม่รู้นะคะ มันช่างหามาตรวัดยากแท้หนอ...
อิอิอิ...

4.คุณyapapaya....พี่ก้อเขามีเหตุผลของเขาค่ะ...ผู้ชายมักไม่ค่อยพูดพร่ำทำเพลง
อยากทำอะไรก็ทำ...มักเป็นแบบนี้เรื่อยเลย...เหอๆ...อีกอย่างพี่ก้อแกค่อนข้าง
ปากหนักค่ะ...หนักแน่ๆ ขนาดตอนเด็กๆใครถามอะไรก็ไม่ตอบ...อิอิ

ว่าแต่ 800 กิโลกว่าๆนั้น ขับขึ้นหรือลงไปทางทิศไหนของกรุงเทพฯหรือคะ...อิอิ

(เผลอๆ เราอาจอยู่กันคนละทิศก็ได้นา) อิอิ ของเต่า 800 กว่าๆก็เจอทะเลแว้ว...


5.คุณphakarat...แสดงว่ามีคนชอบผัดถั่วงอกเหมือนกับหนูนีลแล้ววววว...อิอิ
ความสวยของน้องนีลนั้นพี่ก้อแกทำเมินมาตลอดอ่ะจิ...เลยมองไม่เห็นเหมือนที่
หนุ่มอื่นเขาเห็นกัน...ปล่อยให้เฮียแกหัวฟัดหัวเหวี่ยงต่อปายยยยย เหอๆ...
ตอนหน้ามีลุ้นค่ะ...ขอบคุณนักอ่านด้วยเช่นกันค่ะ ที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้เต่า
โดยตลอด...จุ๊บๆ ^^


6.คุณปรางขวัญ...น่าจะทั้งหวงและห่วงด้วยน่ะค่ะ...เหมือนจะเริ่มทำเกิน
เจตนารมย์เดิมไปแล้วด้วย...ตอนนี้ทำตัวเหมือนเด็กที่กำลังแย่งของเล่นกันไม่มีผิด...
แถมยังเบ่งใส่กัน พยายามเกทับกัน...เพื่อข่มขวัญศัตรูหัวใจกันและเพื่อต้องการ
เอาชนะคะคานกันแบบไม่มีนึกถึงความรู้สึกของคนกลาง...เหอๆ...

เพราะผู้หญิงบางคน ไม่ได้รู้สึกดีที่ถูกแย่งชิงเหมือนตัวเองเป็นแค่สิ่งของที่ไร้ชีวิต...
ว่ามั้ยคะ...^^



.....ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้านะคะ.......


"เต่าโย"







yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2558, 05:57:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2558, 05:57:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 2331





<< ต้นที่ 13 นักโทษในเรือนใจ   ต้นที่ 15 วะลีมะตุนนิกะห์ >>
konhin 24 พ.ค. 2558, 06:50:21 น.
ไม่ไหวๆ ผู้ชายเรื่องนี้เข้าใจยากกกกกกกกกก เชค รุส หรือ พ่อนางเอก ปกปิดอะไรกันไว้เนี่ยยย
นางเอกกลายเป็นสิ่งของให้ผู้ชายเกทับกันแล้วพยายามแย่งชิง คือว่า เสียใจแทนอ่ะ


แว่นใส 24 พ.ค. 2558, 08:39:49 น.
มีเรื่องอะไรกับนายรุสมาก่อนแน่เลย


Pampam 24 พ.ค. 2558, 09:42:12 น.
ความวุ่นวายมากับนายรุส


sunflower 24 พ.ค. 2558, 13:45:41 น.
ระหว่าง รุส กับ พี่ก้อ มีความลับอะไรกันนะ


sunflower 24 พ.ค. 2558, 13:45:42 น.
ระหว่าง รุส กับ พี่ก้อ มีความลับอะไรกันนะ


yapapaya 24 พ.ค. 2558, 16:33:07 น.
ความลับของหนุ่มๆมันคืออะไร อยากรู้จริงๆ 800 กิโลกว่าๆขับลงจากกรุงเทพ ถ้าเจอทะเลแสดงว่าทิศทางเดียวกันแน่นอนคะคุณโย ของเราทะเลฝั่งตะวันตกค้า


ปรางขวัญ 24 พ.ค. 2558, 21:15:22 น.
นาทีนี้สงสารนู๋นีลที่สุด โดนใครต่อใครบังคับ พี่บากี้เสียอีกที่ดูเข้าใจนู๋นีลที่สุด
รีบมาอัพไวๆนะคะคุณเต่า

ปล.คุณเต่าต้องลงมาอีกหน่อยค่ะ ของปรางเนี่ย 950 กม.ฝั่งตะวันออกจ้า มาเที่ยวได้นะคะ


phakarat 24 พ.ค. 2558, 23:44:11 น.
พี่ก้อบอกว่านีลไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเขาคือใครรู้ว่าเป็นสามีก็พอ โหใจร้ายอ่ะหรือไม่อยากให้นีลไม่สบายใจถ้ารู้ภูมิหลังของพี่ก้อเดาใจไม่ถูกเลย. เเล้วยังมีนามสกุลที่ยาวนั่นอีกอีรุงตุงนังไปหมดสรุปพี่ก้อเป็นใครกันแน่สงสัยยยยยย


ตุ๊งแช่ 25 พ.ค. 2558, 08:32:04 น.
อารายกานนนน ....เริ่มมีดราม่าแระ ..

ภูมิหลัง ไม่ธรรมดาซะแล้ว..แต่ละคน...

หนูนีลจะเอาตัวรอดไหม..สู้ๆๆน๊า...คนเขียนยิ่งใจร้ายกะนางเอกตลอด......แต่จะใจดีกับพระเอกเป็นพิเศษ..

เขากลับมาแว้วว...


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account