กุหลาบซ่อนกลิ่น (จบแล้ว)
นางเอกโตมาในไซด์งานก่อสร้าง ที่นั่นทำให้เธอรู้ว่า การแสดงตัวว่าเป็นหญิงเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นนางเอกจึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง จนใคร ๆ มองว่าเป็นทอม แต่แท้จริงแล้ว เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีรัก..และรักของเธอก็เป็นรักที่มีเวลามาเป็นตัวกำหนด....


Tags: โรแมนติก..

ตอน: 28.คุยเรื่องของเราดีกว่า

28.
พอกุสมาขึ้นมานั่งบนรถสูรย์ก็เคลื่อนรถไปข้างหน้าแต่ถึงกระนั้นสูรย์ก็หันมามองกุสุมาอยู่บ่อย ๆ จนกุสุมาที่อยู่ในชุดพิเศษรู้สึกเขินเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งชุดนี้ ทำให้ป้าพรรณถึงกับร้องโอ้โฮออกมา นอกจากนั้นก็ยังซักไซ้ถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้แต่งตัวแบบนี้ แน่นอนว่ากุสุมาไหวไหล่ยิ้มๆ และแม่บังเอิญก็เป็นคนบอกกับป้าพรรณว่า กุสุมาจะไปทานข้าวเย็นกับพ่อแม่ของคุณสูรย์ คุณสูรย์ก็คือเจ้าของร้านอาหารว่าที่คู่หมั้นของกุสุมา แน่นอนว่า ป้าพรรณตาลุกวาว แม้จะเห็นว่าเป็นความริษยา แต่อึดใจ ป้าพรรณก็มีน้ำตาคลอหน่วยตา แสดงความยินดีโดยพูดสั้น ๆ ว่า ‘ไอ้ม่ามันวาสนาดี’

ใช่ จะว่าเธอวาสนาดีก็ได้ เพราะเกิดมา แม้พ่อแม่จะลำบาก หนีงานไร่มาทำงานก่อสร้างจนกระทั่งพ่อพลัดตกจากนั่งร้านมาเสียชีวิต แต่ว่าพอโตมาหน่อย เธอได้พ่อเลี้ยง เลี้ยงดูอย่างดี ดีกว่าพ่อแท้ ๆ บางคนเลี้ยงลูกของตนเสียอีก ได้เรียนหนังสือโรงเรียนเอกชน ตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนกระทั่งจบชั้นระดับใบประกาศวิชาชีพหรือชั้น ปวส. ระหว่างนั้นก็มีอยู่มีกินไม่ได้น้อยหน้าใครนัก แม้มันจะไม่ดีที่สุด แต่ว่าเด็กในย่านเดียวกันต่างก็อิจฉากุสุมาเพราะมีบ้านอยู่อาศัย พ่อเลี้ยงมีกิจการ แม่เองก็มีรายได้ทุกวัน ไหนจะจู่ ๆ ย่าก็ยังมายกที่ให้อีกห้าสิบไร่ และตอนนี้ คุณสูรย์เจ้าของร้านอาหารมีเงินหมุนเวียนต่อวันต่อเดือนไม่น้อยมาตกหลุมรักเข้าให้อีก และที่สำคัญ เขาขอเธอแต่งงานชนิดสายฟ้าแลบอีกด้วย

กุสุมาหันหน้าไปข้างถนน เพราะไม่อยากให้สูรย์เห็นใบหน้าที่มีแป้งตลับพร้อมกับมีการระบายสีพอให้หน้าสว่างขึ้นมา ส่วนผมสั้นที่เคยปรกหน้าผากบัดนี้ก็ได้รับการไดร์และเซ็ททำให้ดูเป็นผู้หญิงแบบผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นกัน และที่สำคัญ ชุดที่เธอสวมใสในวันนี้ เธอทำอย่างที่ถมยมแนะนำ นั่นก็คือไปร้านขายเสื้อผ้าที่หน้าปากซอย แล้วก็บอกกับคนขายว่า คอนเซ็ปคือเป็นผู้หญิงที่ดูทะมัดทะแมง เจ้าของร้านเลือกชุดมาให้เธอลองหลายต่อหลายชุด จนกระทั่งเธอต้องใช้เทคนิค มิกแอนด์แมท นั่นก็คือ กางเกงยีนส์ขาเดฟตัวเก่ง กับเสื้อเชิ้ตคอลึกแขนพองผ้ากรุยกรายเอวมีเชือกรูดได้สีชมพูอ่อน ๆ นอกจากนั้น เจ้าของร้านยังแนะนำรองเท้าหุ้มข้อสีขาวแทนรองเท้าผ้าใบที่ใส่เป็นประจำ..

เมื่อกลับถึงบ้าน กุสุมาที่ทำผมและแต่งหน้ามาจากร้านใกล้ๆ กับร้านผ้าเรียบร้อยก็รีบวิ่งขึ้นบ้าน โดยไม่ได้สนใจสีหน้าประหลาดใจของพ่อกับแม่ และอึดใจแม่ก็ตามขึ้นไปคุยด้วย กุสุมาจำต้องบอกความจริงด้วยความเขินอาย แต่ชีวิตมันต้องเดินไปข้างหน้า เธอจะเป็นไอ้ม่าของพ่อแม่ ของเพื่อน ๆ ในรั้ววิทยาลัยไม่ได้อีกต่อไป..

“มองจังเลยม่าอายนะ”

“อ้าว ก็แต่งมาให้มองไม่ใช่เหรอ ถ้าฉันทำเป็นไม่สนใจ..ก็จะมางอนฉันอีก”

“รู้ใจผู้หญิงเสียจริง” น้ำเสียงเริ่มรวน สูรย์ไหวไหล่ ยิ้ม ๆ กับถนนข้างหน้า ก่อนจะเล่าเรื่องที่คิดว่า กุสุมาจะต้องหันมาหาเขาอย่างแน่นอน

“ม่า รู้เรื่องไอ้ซ้งหรือยัง”

“มีอะไรเหรอ” กุสุมาหูผึ่งทีเดียว

“มันไปตกหลุมรักเด็กคนหนึ่งในร้าน เธอทายสิว่าใคร”

“เด็กในร้าน..โอ้ววว เป็นสิบ ๆ คนเลยนะ..ทายไม่ถูกหรอก แต่ว่า ทำไมเปลี่ยนใจไปรักเด็กได้..”

“รักคนรุ่นเดียวกันแล้ว เขาไม่เล่นด้วย ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเด็ก...เหมือนฉัน”

“ม่าเป็นตัวแทนเขางั้นซิ”

“เรานี่ขี้หึงไม่เบาเลยนะ”

“หึงอะไร ม่าก็พูดไปตามเนื้อผ้า คุณสูรย์พูดเองนะว่าคนรุ่นเดียวกันไม่สน ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเด็ก..”

“ไม่เอา ไม่ทะเลาะกันให้เสียฤกษ์..ไอ้ซ้งน่ะมันจะแต่งงานกับกิ๊บซี่”

“ฮะ จริงเหรอ เป็นไปได้อย่างไร”

“ฉันยังอยากแต่งงานกับเราเลย มันคงจะเลียนแบบมั้ง..” ว่าแล้วสูรย์ก็หัวเราะสีหน้าภาคภูมิใจกับการที่จะมีเมียเด็กกว่าสิบปีเป็นอย่างยิ่ง

“ตลกตายละ..”

“น่าตลกไหมละ ตามจีบคุณธัญรัตน์อยู่ตั้งนาน บทจะเปลี่ยนใจก็เปลี่ยนง่าย ๆ”

“สันดานผู้ชาย..”

“ไม่เอา ไม่ทะเลาะกัน..มาคุยเรื่องของเราดีกว่า”

“ม่าตื่นเต้น” กุสุมายอมรับตรง ๆ แถมใบหน้าที่หันไปหาสูรย์ก็บอกให้รู้ว่าเธอประหม่ากับการที่จะไปบ้านของเขาในวันนี้

“สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึก ๆ ทำใจดี ๆ ไม่มีอะไรหรอก..”

“ทำไมจะไม่มี อย่ามากล่อมซะให้ยากเลย”

“ดื้อจริง ๆ เลยนะ นับวันก็ยิ่งดื้อ”

“นี่แหละตัวตนที่แท้จริงของม่า ที่ม่ายังไม่ตกลงแต่งงานในเร็ววันนี้ เพราะม่าอยากให้คุณสูรย์เห็นว่า ม่าก็มีข้อเสียอยู่ไม่น้อย”

“ฉันก็มีข้อเสียอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน”

“อาทิเช่น”

“นึกก่อน..แล้วของเราละมีอะไรบ้าง”

“ดื้อด้านชอบทำตัวเหมือนแมว..”

“แต่แมวตีแล้วไม่บาปนะ..”

“แม่บอกว่า ตีแมวก็เหมือนตีเณร บาปเท่านั้นเลย”

“เหรอ..ถ้าจูบแมวละ จะได้บุญไหม”

กุสุมาหน้าแดงซ่านขึ้นมา พอเขาพูดว่าจะจูบแมว ตากับจมูกเขามันเหมือนมาจูบเธอไปแล้วจริง ๆ กุสุมาหันหน้าออกไปข้างทาง อมยิ้ม แล้วก็สูดลมหายใจเข้าปอด ส่วนสูรย์เอง ขณะขับรถจะทำอะไรได้ นอกจาก พูดเบา ๆ ว่า “ต่อให้อีกห้าปีฉันก็จะรอเธอ...”


มาม่าฝีมือของถมยาที่ใส่ทั้งผัก หมู และไข่ไก่อร่อยอยู่ไม่น้อย แต่ว่าเมื่อกินกันหมดหม้อที่ทำไว้ ถมยาก็ชวนอรพิมออกไปหาขนมกินกันข้างนอก แรกทีเดียวอรพิมจะปฏิเสธ แต่ว่าถมยาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกอรพิมจึงตอบตกลง..

และเมื่อนั่งอยู่บนรถเรียบร้อย อรพิมก็แปลกใจที่จู่ ๆ เพลงที่ถมยาเปิดจากเครื่องเล่นซีดีในรถของเธอนั้นเป็นเพลงที่ร้องว่า ‘ยอมรับว่าตั้งใจมาหลอกถ้อยคำที่บอกล้วนแต่หลอกล้วนแต่ลวงฯ’ อรพิมนั่งฟังไปเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงร้านขนมที่ชื่อ Tanya bekery อรพิมหันมามองหน้าถมยา

“พามาที่นี่ทำไม”

“อ้าว.. ก็ไหน ๆ คุณกับคุณสูรย์ก็ต่างคนต่างไปแล้ว..มาประกาศให้อดีตคู่แข่งของคุณเขารู้หน่อยไม่ได้รึว่า คุณมีคนใหม่แล้ว ทางนั้นเขาจะได้มองคนใหม่บ้าง”

“ช่วยเพื่อนน่าดูเลยนะ” อรพิมพอเดาเรื่องที่เขาจะบอกเธอได้ และเมื่อรู้ว่า ทั้งหมดนั้นเกิดจากการตั้งใจมาหลอก อรพิมก็ถอนหายใจแรง ๆ ก่อนจะสูดลมเข้าใจสร้างพลังให้หัวใจเพื่อต่อสู้กับจิตใจของคน

อรพิมเดินตามถมยาเข้าไปในร้าน กวาดสายตาไปรอบ ๆ ร้าน ซึ่งยามค่ำแบบนี้ ร้านที่นี้มีคนอยู่ไม่น้อยทีเดียว เพราะว่านอกจากกาแฟและเบเกอรี่แล้ว ที่นี่ยังขายอาหารจานด่วน ประเภทมักกะโรนี สปาเก็ตตี้ ด้วย..

ถมยาเองนั้น พอผลักประตูเข้ามา สายตาของเขาก็ไปสะดุดให้กับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาคุ้น ๆ ถมยาพยายามครุ่นคิดว่า เคยเจอหมอนี่ที่ไหน แต่ว่าก็คิดไม่ออก จนกระทั่งเวลาผ่านไป เขาทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะพอจะมองเห็นผู้ชายคนนั้น โดยมีอรพิมนั่งลงตรงกันข้ามโดยสีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด..

และขณะที่ดูเมนูอาหาร อรพิมก็หันไปหาต้นเสียงที่เพิ่งผลักประตูเข้ามา..

“ต๊าย นังอรพิม คาหนังคาเขาเลย”

อรพิมค้อนให้เพื่อนสาวที่เคยคาบข่าวเรื่องสูรย์กับกุสุมามาให้ และล่าสุดเจ้าหล่อนก็แอบเห็นเขากับถมยาไปดูหนังด้วยกัน..

“เห็นฉัน ทำหน้าดีใจหน่อยสิ”

“ผัวแกไปไหน ทำไมถึงปล่อยให้แกมาเพ่นพ่าน”

คนต้องตอบดึงเก้าอี้ไปชิดกับถมยาแล้วทรุดตัวลงนั่ง เท่านั้นยังไม่พอ ยังแสร้งก้มไปดูเมนูที่อยู่ในมือของถมยาด้วย..

“มากไปแล้วแก”

“เหรอ โทษที ลืมตัว..ชื่ออะไรคะ หน้าตาดีจังเลย”

อรพิมค้อนให้เพื่อน ถมยาเองก็เขินอยู่ไม่น้อยที่จู่ ๆ ถูกสาวสวยเปรี้ยวจี๊ดจีบเอาหน้าตาเฉย

“ถามก็ไม่ตอบ..”

“ถมยาครับ”

“ถมยา ชื่อโบราณได้ใจจริง ๆ”

“ผัวแกชื่อเพราะตายละ”

“ผัวฉันนะ ชื่อเพราะ ลีลาก็ใช่เล่น..ว่าแต่ว่า แกสองคนคบหากันแบบไหน”

อรพิมเลิกคิ้วปั้นหน้าว่าไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนถมยายิ้มที่มุมปากแล้วก็ตอบสั้น ๆ ว่า

“เราเป็นแฟนกันครับ”

“ดีมากกกกกก โอเคฉันไม่กวนแกแล้ว ไปสั่งขนมก่อน ผัวฉันรออยู่นานแล้ว ฉันนะไม่อยากจะบอกเล้ย ผู้ชายสมัยนี้ ให้มีเวลาเป็นตัวของเองมาก ๆ ไม่ได้หรอก แม่ง จ้องแต่จะมีกิ๊ก..ถมยาจ๊ะ รับเพื่อนของเราเป็นแฟนแล้ว ห้ามเอามาส่งคืนนะจ๊ะ..โอเคป่ะ”

“ครับ...”

เพื่อนที่ไม่ได้รับเชิญเดินออกไปยังชั้นขนมที่วางรอให้ลูกค้าเลือก โดยที่คนทั้งคู่ยังนั่งมองตากันอยู่อย่างนั้น เนิ่นนานที่อรพิมนิ่งเงียบ
สุดท้ายถมยาก็เอ่ยทำลายความเงียบว่า

“เรื่องที่ผมจะบอก มันเป็นเรื่องที่คุณอาจจะโกรธและเกลียดผมก็ได้”

“ฉันพอเดาออกแล้ว..”

“เดาว่า”

“นายมาจีบฉันเพราะต้องการกันฉันให้พ้นจากพี่สูรย์ เพื่อที่ไอ้ม่าเพื่อนนายจะได้ไม่มีมารหัวใจ ใช่ป่ะ”

“ครับ..คุณนี่เก่งจัง”

“ขอรางวัลหน่อยได้ไหม”

ถมยาพยักหน้า และเขาก็คาดไม่ถึงว่า อรพิมจะให้รางวัลโดยการลุกขึ้นยืนแล้วง้างมือตบหน้าเขาจนหน้าหันทีเดียว..

“โอ้ยยยย..”ถมยาครวญครางโดยที่คนทั้งร้านหันมามองแทบจะเป็นตาเดียวกัน..

“แล้วถ้านายทำให้ฉันเสียใจอีกครั้ง นายจะเจอหนักกว่านี้..”

“น่าจะให้ตั้งตัวหน่อยก็ไม่ได้”

อรพิมเชิดหน้า ก่อนจะลุกจากโต๊ะออกไปสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ เลือกอาหารจนกระทั่งกะว่าถมยาหายเจ็บหน้า อรพิมก็เรียกถมยาให้ออกมาช่วยถือถาด ระหว่างที่ถมยาไปยืนรออยู่ข้าง ๆ ที่ประตูร้าน เจ้าของร้านที่เป็นคู่ปรับกันมาก่อนก็ผลักประตูเข้ามา เมื่อพบว่าอรพิมมากับหนุ่มน้อยซึ่งธัญรัตน์ดูออกว่า น่าจะเป็นคู่ควงคนใหม่ ริมฝีปากของธัญรัตน์ก็กระตุกเพียงนิด..

“น้องพิมนี่เก่งจังเลย..พี่เพิ่งได้ข่าวว่า วันนี้สูรย์พากุสุมาเข้าบ้าน ตอนแรกพี่คิดว่าน้องจะไปดักตบเจ้าหล่อนที่บ้านสูรย์ หรือไม่ก็นอนร้องห่มร้องไห้..แต่ที่ไหนได้ หาคนดามหัวใจได้แล้ว แถมดูเด็กกว่าด้วย”

อรพิมเบ้หน้าใจนั้นเดือดปุด ๆ แต่ก็นึกหาถ้อยคำเอาคืนไม่ได้ และจังหวะนั้น พนักงานที่เคาน์เตอร์ก็จัดขนมกับเครื่องดื่มเสร็จพอดี ถมยาจะคว้าถาดแต่ก็ต้องชะงัก

“อ้อ ไหน ๆ น้องพิมก็ให้เกียรติพาคู่รักมาที่ร้านพี่ วันนี้พี่ขอเลี้ยงแล้วกันนะ”

“ขอบคุณค่ะ แต่จะร่วมโต๊ะด้วยกันไหม ฉลองความผิดหวังด้วยกัน”

“ใครว่าพี่ผิดหวัง พี่บายก่อนที่จะสูรย์จะติดบ่วงนังเด็กนั่นแล้ว..นั่นไง ของพี่” ธัญรัตน์ปรายตาไปหาหนุ่มหน้าตี๋แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าดูก็รู้ว่าใช้ของแพงซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะริมกระจกแถมตรงหน้ายังมีแล็ปท็อปบ่งบอกให้รู้ว่างานที่ทำนั้นอินเตอร์เป็นอย่างมาก..

“ใครเหรอคะ..หน้าตา” อรพิมเป้ปาก เพราะถ้าวัดหน้าตากับพี่ซ้งซึ่งจัดว่าขี้เหร่แล้ว ผู้ชายที่ถูกแนะนำว่าเป็นแฟนของธัญรัตน์นั้นหล่อกว่าพี่ซ้งนิดเดียว ถ้าไม่ได้เสื้อผ้าและออฟชั่นช่วยก็คงดูไม่ได้พอ ๆ กัน

“บอกไป น้องพิมไม่รู้จักหรอก แต่เอาเป็นว่า รวยไม่ใช่เล่นแล้วกัน..”

“เปลี่ยนรสนิยมเร็วดีเหมือนกัน”

“ก็ยังเหลือความรวยไว้..เรื่องกัดก้อนเกลือกินหรือจะมาเกาะเรากินน่ะ พี่ไม่ชอบหรอก..” สายตาของธัญรัตน์ดูแคลนถมยาอยู่ไม่น้อย อรพิมรู้สึกเดือดดาลขึ้นมา แต่ว่าธัญรัตน์ก็คิดด่า ต่อปากต่อคำไปก็มีแต่จะเพาะศัตรู หญิงสาวจึงเอ่ยว่า “พี่ขอตัวก่อนนะ..ตามสบายเลย อยากกินอะไรอีกก็บอกน้อง ๆ ได้เลย พี่เลี้ยงเต็มที่..”

ธัญรัตน์เดินไปหาแฟนของเจ้าหล่อน โดยที่ถมยายังพยายามครุ่นคิดว่า เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ที่ไหน?

“นี่ต้องให้ฉันไปส่งที่หอพักไหม” อรพิมเอ่ยปากถามถมยาซึ่งไปนั่งเป็นผู้โดยสาร

“ตอนนี้คุณพิมพร้อมจะเป็นแฟนกับผมหรือยัง”

“ยัง..”

“เพราะผมมันจนใช่ไหม”

“เราอายุต่างกันมากนะถมยา ฉันแก่กว่านายกี่ปี”

“ถ้าคุณพิมเรียกผมว่า ถมยา แล้วแทนตัวเองว่า พิม เราก็ไม่มีช่องว่างแล้วนะ”

อรพิมหันมามองหน้าเด็กหนุ่มสายตาของเขาดูจริงใจ แต่ว่าอรพิมก็ยังไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา ต้องอยู่ในสถานะของคำว่า “แฟน” เพราะคำ ๆ นี้ มันจะผูกมัดเธอไว้กับเขา แต่ลึก ๆ เธอก็ไม่อยากให้เขาจากไปในขณะที่เธอรู้สึกว่าตัวเองต้องการใครสักคนที่จะทำให้ชีวิตไม่เหมือนคนจมน้ำแบบนี้

ดังนั้นมันน่าจะมีข้อตกลงที่ทำให้เธอไม่อึดอัดและไม่รู้สึกว่า ชีวิตกำลังจะถูกผูกมัดจากผู้ชายแบบเขา..

“เอาตรง ๆ เลยนะถมยา..เรื่องฐานะของเธอก็ด้วย เรื่องการศึกษา วัยวุฒิ อย่างไรถมยาก็ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตของฉัน บอกตรง ๆ อีกเหมือนกัน ที่ฉันหลงรักพี่สูรย์ ฉันก็ปรารถนาความสะดวกสบายเป็นคุณนายมีเงินใช้ตามประสาผู้หญิง ซึ่ง ทุก ๆ คนย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง..สำหรับถมยา..”
ถมยาดีใจอยู่ไม่น้อยที่อรพิมเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานเขาแล้วก็มีถ้อยคำปะเหลาะ ถ้าเป็นแบบนี้ อย่างไรเสีย วันหนึ่งข้างหน้า ‘อรพิม’ ก็หนีถมยาไม่พ้นแน่ ๆ

“สำหรับถมยากับฉัน ก่อนอื่นฉันต้องบอกตรง ๆ ว่าฉันก็หวั่นไหวกับขนมจีบของเธอตามประสาคนไม่เคยมีใครมารัก แต่ถ้าจะให้ยอมรับเป็นแฟนนั่นก็หมายถึงอนาคต หลาย ๆ วันมานี้ ที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันได้ฟังแนวคิดของเธอ ฉันก็ดีใจที่เธอคิดก้าวหน้า เอาเป็นว่า ระหว่างนี้ เราดู ๆ กันไปก่อนได้ไหม..อีกสักหกเดือนหรือปีหนึ่ง เธอค่อยถามฉันใหม่ เราค่อยคุยเรื่องนี้กันใหม่...โอเคป่ะ”

ถมยาส่ายหน้า...

“ก็ตามใจ”

“ตอนนี้คุณน่ารักขึ้นอีกเป็นกองเลยรู้ไหม..”

“ฉันซีเรียสนะ”

“ก็ยิ่งสวยขึ้น...” สายตาของถมยากรุ้มกริ่มจนอรพิมรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผะผ่าว..และอรพิมก็ต้องรีบตัดสัญญาณหัวใจโดยการเข้าเกียร์แล้วขับรถมุ่งตรงไปข้างหน้า..


“จะพาผมไปไหน”

“บอกทางมา จะส่งกลับหอ”

“ไม่ต้องหรอก..ไม่ต้อง ๆ ..ดึกแล้วครับ กลับบ้านคุณเถอะ ผมจะนั่งรถไปเป็นเพื่อน คุณเข้าบ้านแล้วผมจะนั่งแท็กซี่กลับ..”

อรพิมหันมามองหน้าเขา ถมยายิ้มนิด ๆ ดวงตาแพรวพราวจนอรพิมต้องครุ่นคิดว่า ที่ขอเวลาเขาไว้หกเดือนหรือปีหนึ่ง มันจะนานเกินไปหรือเปล่า?

พอลูกสาวลงจากรถแล้วเดินตัวลอย ๆ เข้าบ้าน แม่บังเอิญที่รอลุ้นรอให้ลูกสาวเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้นนี้พร้อมกับพ่อบุญโชคก็รีบกวักมือให้ลูกสาวเดินมาหา

“เป็นอย่างไรบ้างม่า”

กุสุมาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น..แล้วก็ใช้ศีรษะได้รูปแบบไปกับขาของแม่..

“แม่..บ้านเขาอบอุ่นจังเลย..”

“เล่าสิ”

“พอม่าไปถึง พ่อกับแม่เขา พี่สาวพี่เขย หลานอีกสองคนชายกับหญิง คนชงคนใช้ ก็กุลีกุจอออกมาต้อนรับ ตั้งขบวนรอ ทำอย่างกับม่าเป็นเจ้าหญิงอย่างนั้น ม่าก้าวขาแทบไม่ออกเลย ยังไม่รู้เลยว่า เดินเข้าไปในบ้านอย่างไร เหมือนเดินบนกลีบกุหลาบเลยแม่”

“หลังจากนั้นละ”

“หลังจากนั้น ก็ถามสารทุกข์สุขดิบกัน..พ่อกับแม่คุณสูรย์ใจดีมาก ๆ ม่านี่เขินตลอดเลย พี่สาวคุณสูรย์ก็เหลือเกิน ชมแต่ว่าคุณสูรย์ตาถึง นี่ก็นัดม่าไปซื้อของใช้แบบผู้หญิง จะสอนม่าแต่งหน้าทำผมอีก ม่าทำอะไรไม่ถูกเลยแม่ กับข้าวก็อร่อยมาก รูปถ่ายนี่เป็นกล่อง ๆ เลยดูไม่หวาดไม่ไหว”

“สรุปว่า ไม่ไปออสเตรเลียแล้วใช่ไหม”

“ไป..ม่าขอพ่อกับแม่คุณสูรย์ไว้สองสามปี ม่าต้องไปแม่ ม่ายังเด็กเหลือเกิน”

“ทำไมคิดมากจัง ม่าเอ้ย” นายบุญโชคซึ่งเป็นคนพูดน้อยแย้งเข้ามา

“ไม่รู้เหมือนกันสิพ่อ..แต่ว่า เล่นตัวหน่อย ๆ ก็ดีนะ พิสูจน์ใจคนได้..” ว่าแล้วกุสุมาก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะสปริงตัวลุกขึ้น..

“ม่าขอตัวก่อนนะ” ว่าแล้วกุสุมาก็หอมแก้มแม่หนึ่งที แล้ววันพิเศษ ๆ แบบนี้กุสุมาก็เลยขยับไปหอมแก้มพ่อเลี้ยงอีกหนึ่งที..

แต่พอปิดประตูห้องเรียบร้อย กุสุมาก็ร้อ‘เยสสสสสสสสสสสสสสส’ เสียงดังอย่างสะใจ..และขณะกระโดดโลดเต้นไปตามทำนองเพลงที่อยู่ในความรู้สึก..โทรศัพท์ของกุสุมาก็ดังขึ้น หญิงสาวกรากเข้าไปรับทันที เพราะหน้าจอไม่โชว์เบอร์แบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้าอ้อย

“ม่า..น้าเอ่อ น้ามีข่าว..เอ่อ..”

กุสุมานิ่วหน้า สัญชาตญาณมันบอกว่า เป็นเรื่องไม่ดีแน่ ๆ

“มีอะไรหรือน้า เอ่อ คือสงกรานต์นี้น้าไม่ได้กลับบ้านนะ..คือหมอตรวจพบว่า แฟนน้าเขา เอ่อเป็นมะเร็งที่ตับน่ะ..ม่า น้า ..”

“เรื่องที่จะช่วยให้ม่าไปอยู่ที่นั่นใช่ไหมน้า”

“อืม..น้า..กลัวว่าเราเสียใจ...โกรธน้า”

กุสุมาอยากจะร้องไห้ตามประสาคนที่ฝันไว้สูง แต่ว่าความทุกข์ของน้าอ้อยในเวลานี้คงจะมากกว่า ไหนจะเรื่องของอ๊อดซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ ซึ่งน้าอ้อยอยากให้ไปอยู่ด้วยกันมาก ๆ ก็อาจจะมีปัญหาตามไปด้วย กุสุมากระพริบตาถี่ ๆ กลืนก้อนสะอื้นลงคอ แล้วก็แข็งใจพูดไปว่า..

“ม่าเสียใจ แต่ม้าไม่โกรธน้าหรอก..น้าสบายใจเถอะ เรื่องนี้แม่ ยาย อ๊อดยังไม่รู้ใช่ไหม”

“ยัง น้าบอกเราคนแรก..หมอเพิ่งตรวจเจอวันก่อนนี้เอง ...รอให้เรื่องวุ่น ๆ นี้ผ่านไปก่อนนะ ตอนนี้ม่าเรียนที่เมืองไทยยังทันไหม”

“ยังทัน ส่วนไอ้อ๊อด ก็คงไม่ได้ไปด้วยใช่ไหม..ม่าจะได้คุยกับมันเรื่องที่เรียนต่อที่เมืองไทยไปเลย ตอนนี้ยังไม่สาย..”

“มันจะเข้าใจน้าไหมนะ”

“ก็น้าบอกมันก่อน คืนนี้เลยก็ได้ พรุ่งนี้เดี๋ยวม่าจะโทรไปคุยกับมันอีกที..ถ้ามันไม่เข้าใจ ม่าจะไปพูดให้มันเข้าใจเอง..ถ้ามันหาที่เรียนที่นครสวรรค์ไม่ได้ เดี๋ยวให้มันมาอยู่ที่นี่ เรียนต่อที่นี่ไปก่อน เผื่ออะไร ๆ มันดีขึ้นก็ค่อยว่ากัน..น้าทำใจให้สบายเถอะนะ ตัดเรื่องม่าไปได้เลย”

“ขอบใจนะม่า ..”

“แล้วน้าละ น้าสบายดีนะ ดูแลสุขภาพด้วย ไปอยู่ไกลจากญาติพี่น้องแบบนั้น ถ้าไม่ไหว ก็กลับบ้านเรานะน้า กลับมาอยู่ด้วยกัน...” และยังไม่ทันที่กุสุมาจะพูดอะไรได้ยืดยาวกว่านั้น กุสุมาก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของน้าอ้อย และด้วยสายใยของความเป็นญาติกุสุมาก็จึงมีน้ำหูน้ำตาตามไปด้วย..




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ค. 2554, 14:40:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ค. 2554, 16:59:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 2927





<< 27 พี่ก็ชักอยากรู้จักไอ้ม่านี่แล้วสิ   29.“โถ นึกว่าเรื่องอะไร..” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 14 ก.ค. 2554, 14:41:46 น.
ประกาศ ๆๆๆๆ สำหรับแฟน แสนสุข จาก ดอกรักริมธาร ตอนนี้มีหนังสือขายในงานหนังสือเด็ก แล้วครับ..ส่วนบนแผงหนังสือชั้นนำ ต้องรออีกสักพักนะครับ..จุ๊บ ๆ


sai 14 ก.ค. 2554, 15:30:18 น.
ดูท่าคุณสูรย์ ไม่ต้องรอแล้วมั้งเนี่ยยยย

แต่ชอบความคิดม่าจังเลยอ่ะ

ปล.ทำไมสีโทนเวบเปลี่ยนไปหว่า??? หรือว่าเปลี่นนานแล้วเราเพิ่งสังเกตอ่ะ


sai 14 ก.ค. 2554, 15:33:15 น.
รู้แล้วคุณเฟืองเปลี่ยนเองได้นี่เอง แอบเหวอไปแปบนึงเลย


Zephyr 14 ก.ค. 2554, 20:10:00 น.
คุณสูรยืคงดีใจแย่เลย


nutcha 14 ก.ค. 2554, 20:26:24 น.
รอไอ้ม่าตั้งกะวันจันทร์วันนี้ได้อ่านแล้วดีใจจัง


nutcha 14 ก.ค. 2554, 20:26:32 น.
รอไอ้ม่าตั้งกะวันจันทร์วันนี้ได้อ่านแล้วดีใจจัง


nutcha 14 ก.ค. 2554, 20:26:38 น.
รอไอ้ม่าตั้งกะวันจันทร์วันนี้ได้อ่านแล้วดีใจจัง


nutcha 14 ก.ค. 2554, 20:26:43 น.
รอไอ้ม่าตั้งกะวันจันทร์วันนี้ได้อ่านแล้วดีใจจัง


nutcha 14 ก.ค. 2554, 20:26:47 น.
รอไอ้ม่าตั้งกะวันจันทร์วันนี้ได้อ่านแล้วดีใจจัง


มะดัน 14 ก.ค. 2554, 22:08:44 น.
ม่ามาแล้วววววว


คุณแม่ลูกสอง 15 ก.ค. 2554, 06:03:31 น.
ในที่สุดม่าก็มาแล้ว เย้...


ปอยอะนะ 15 ก.ค. 2554, 09:26:25 น.
เรื่องหวานตามสีเวปเชียว
แปลกตาไปแต่ก็ชอบ


คิมหันตุ์ 15 ก.ค. 2554, 12:15:30 น.
ทำไงดีน๊อ...ไม่ได้ไปเมืองนอกแล้ว


boonja 16 ก.ค. 2554, 01:51:38 น.
ม่า ม่า ม่า...คิดถึงม่ากับคุณสูรย์ค่ะ คุณสูรย์รู้คงดีใจแน่ๆๆเลย


เจ้าชายน้อย 16 ก.ค. 2554, 14:51:14 น.
ไอ้ม่าเอ๊ย ต้องแต่งแล้วล่ะคราวนี้ อิอิ


namzuza 16 ก.ค. 2554, 15:23:49 น.
ยินดีด้วยกับคุณสูรย์ แต่เสียใจกับม่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account