กลรัตติกาล
เรื่องต่อ ซ่อนใจไว้ใต้ดาว ชุดเสน่หาฆาตกรรม

หลงกลิ่นจันทน์ , ซ่อนใจไว้ใต้ดาว , กลรัตติกาล
Tags: กลรัตติกาล คีตา ณิชนิตา

ตอน: บทที่ ๒๑ ผีหรือคน(๑)



บทที่ ๒๑

ผีหรือคน



งานศพวันสุดท้ายภายในวัดเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งกลุ่มที่เคยร่วมงานกับนายพลปราการ และเพื่อนพ้องในวงการของรัตติกาลเอง ด้านหน้าของเมรุมีนิตยากับรัตติกาลยืนต้อนรับแขกเหรื่อ ข้างกันนั้นมีร่างสูงใหญ่ของทนายความยืนช่วยกำกับดูแลงานด้วย เป็นภาพซึ่งดูขัดตาสำหรับอชิตะเป็นอย่างมาก นายแบบหนุ่มหันรีหันขวางมองหาเพื่อนรักในทันที เมื่อเห็นชายไทเพิ่งก้าวเข้ามาก็รีบดึงตัวไว้เสียก่อน

"ผู้ชายคนนั้นเป็นใครวะ ทำไมทำตัวเหมือนเป็นญาติฝ่ายรัตติกาลเลย" อชิตะเริ่มถามชายไทเมื่อทนความสงสัยไม่ไหว

"ทนายความของคุณปราการน่ะ" ชายไทอธิบาย ทว่าสีหน้าของอชิตะไม่เข้าใจนัก

"ฉันว่าแกต่างหากที่ควรยืนอยู่ตรงนั้น หน้าตากวนประสาทมากวะ"

"หมายถึงฉันหรือทนายความ"

"ทนายความต่างหาก"อชิตะบอก คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจว่า ชายไทจะกวนโมโหเขาไปทำไมกัน

"เขาไม่ได้กวนแต่แกต่างหากที่ไม่ชอบเขา"

"แต่มันน่าไหมละ ดูสิ ทำเหมือนเป็นอะไรกับรัตติกาลอย่างนั้นละ ตามติดแทบจะถีบแกออกมาเลย แกกลายเป็นคนอื่นไปทันทีที่นายคนนี้มา แกนี่ประกาศไปเลยสิวะ ว่าเป็นแฟนรัต มายืนปิดทองหลังพระอยู่ทำไม น่าโมโหวะ"

"ช่างเถอะ" ชายไทตอบปัด ระหว่างนั้นคนในหัวข้อสนทนากำลังเดินเข้ามาหา อชิตะเบ้ปากเล็กน้อย

"สวัสดีครับ ด็อกเตอร์" เป็นคำทักทายซึ่งคนฟังไม่ค่อยอยากทักกลับเท่าไหร่นัก ฟังดูธรรมดาแต่คนพูดดูไม่ธรรมดาเลย

"สวัสดีครับ" ชายไททักทายกลับด้วยทีท่านิ่ง อชิตะเป็นฝ่ายร้อนรนเสียเอง เหลือบเหล่มองเพื่อนอย่างไม่ชอบใจก่อนจะถอยหลังออกมาให้ทั้งคู่พูดคุยกัน ส่วนตัวเองก็เดินเลี่ยงออกไป

"ตั้งแต่วันนั้น เราก็ไม่ได้คุยกันสักทีเลยนะครับ"

"ผมก็รออยู่ คิดว่าคุณทนายจะติดต่อมาเสียอีก"

"รอผมอยู่เหรอครับ" ปุณณภพกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มๆ แน่นอนว่ามันช่างน่าหงุดหงิดมากสำหรับคนเห็น

"ครับ รอว่าคุณอยากคุยอะไรกับผมกันแน่ ถ้าเรื่องของรัตติกาลแล้วละก็...ผมทราบเรื่องดี"

"รัตติกาลกล้าพูดให้คุณฟังเหรอ ไม่น่าเชื่อ"

"เราไม่มีความลับต่อกัน เป็นเรื่องหนึ่งที่คนรักกันควรมี"

"อ้อ...แล้วเธอบอกหรือเปล่า ว่าเราลึกซึ้งกันขนาดไหน"

ชายไทยืนนิ่งจ้องหน้าทนายความของนายพลปราการอย่างที่อยากให้เห็นว่าเขาไม่สะทกสะท้านกับเรื่องที่ได้ยินเท่าไหร่นัก ฟังให้ดูเป็นเรื่องธรรมดา ให้คนอย่างปุณณภพเต้นเอง...อยากให้เขาเจ็บ อยากให้เขาร้อนรน แต่คนพูดนั่นแหละที่จะเป็นเสียเอง

"ครับ...ผมไม่ใส่ใจเรื่องเก่าๆ ในอดีตหรอกครับ ของเก่าถ้ามันไม่มีค่ามากพอให้จดจำ ก็ทิ้งมันไปเสียดีกว่า ว่าไหมครับ"

ปุณณภพยิ้มพร้อมกับจ้องด็อกเตอร์หนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาวาววับอย่างพยายามกลบเกลื่อนความโกรธภายในใจ ทนายหนุ่มชื่นชมที่ชายไทกล้าพูด ออกตัวแทนรัตติกาลขนาดนี้

"ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีผู้ชายดีๆ อยู่บนโลกนี้ด้วย ดีไปให้ตลอดนะครับ เรื่องเก่าๆ ของคุณก็ช่วยฝังกลบให้เรียบร้อยด้วย เดี๋ยวมันจะผุดขึ้นเป็นตอตอนน้ำลดอีก" ปุณณภพกล่าวสีหน้านิ่ง รอยยิ้มจากผู้ชายคนนี้ดูเสแสร้งมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง

ชายไทเข้าใจในทันทีว่าเรื่องราวซึ่งเกิดกับเขาช่วงที่ผ่านมาคงเป็นฝีมือของปุณณภพแน่ๆ ประกาศตัวให้รู้อย่างนี้ก็ดี ศัตรูในที่แจ้งย่อมไม่น่ากลัวเท่า...คนในมุมมืด



หลังเสร็จสิ้นงานศพ ชายไทยังคงเข้ามาช่วยดูแลรัตติกาลที่บ้าน หญิงสาวแม้จะมีสีหน้าดีขึ้นมาแต่ก็ยังคงมีแววตาเศร้าสร้อย ชายไทได้แต่มองอยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง การที่มีเขาอยู่อาจทำให้หญิงสาวไม่เศร้ามากเกินไป แต่สร้างความเคยชินให้เธอมีเขาข้างตัว ซึ่งมันไม่ใช่ทางแก้ไขที่ดีนัก หากนึกถึงอนาคต...ชายไทถอนหายใจออกมาเบาๆ รับรู้ถึงปัญหาในอนาคต

นิตยาเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มซึ่งกำลังนั่งมองรัตติกาลซึ่งกำลังง่วงปลูกต้นไม้อยู่ในสวน เป็นงานอดิเรกใหม่ที่เขาแนะนำให้ทำเพื่อจะได้ไม่ต้องคิดมาก เธอวางถาดน้ำเย็นไว้บนโต๊ะแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกันนั้น

“หนูรัตยังดูเศร้าๆ อยู่เลย น้าเป็นห่วงเธอมากค่ะ เธอมีแค่คุณพ่อเท่านั้นเอง พอเสียไปก็คงเคว้งนะคะ”นิตยาเอ่ยออกมาอย่างเห็นใจ ชายไทเหลือบมองแม่เลี้ยงสาวเพียงเล็กน้อย

“คุณนิดเองก็เสียสามีเหมือนกันนะครับ ควรห่วงตัวเองบ้าง เป็นห่วงแต่รัตติกาลตลอดเลย”

“ฉัน...อาจเศร้าใจ แต่ฉันมีหนูรัตค่ะ คุณปราการทิ้งหนูรัตไว้ให้ฉันดูแล ฉันก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ”

ชายไทมองสีหน้าเศร้าแต่แฝงด้วยพลังของนิตยาแล้วอดชื่นชมไม่ได้ เธอเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งและมีความพยายามเป็นอย่างมาก

“ฉันมีความคิดดีๆ แล้วละค่ะ เราจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ในบ้านดีไหมคะ เชิญคนรู้จัก เพื่อนสนิทของหนูรัตมากินข้าวกันพูดคุยกัน น่าจะทำให้หนูรัตผ่อนคลายได้บ้าง”นิตยาเสนอ ชายไทพยักหน้ารับ

“เป็นความคิดที่ดีครับ อย่างน้อย รัตติกาลก็จะไม่เหงาด้วย การอยู่กับความคิดของตัวเองมากเกินไปก็ไม่ดี อ้อ ผมสงสัยว่าตอนที่เพื่อนสนิทรัตติกาลเสีย เธอเป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ”

นิตยาเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบคำถามชายหนุ่ม “ตอนนั้นเธออาการหนักค่ะ อุบัติเหตุทำให้เธอขวัญเสีย อีกทั้งเพื่อนรักเองก็คบกันมานานแล้ว เพื่อนของหนูรัตน่ารัก เป็นคนดีช่วยเหลือเธอทุกอย่างเลย การสูญเสียครั้งนั้นทำให้เธอเป็นบ้าค่ะ”

“เธอรักธัญญามาก ถ้ารู้ว่าธัญญากับคุณรู้จักกัน เป็นพี่น้องกัน เธอคงโกรธมาก ผมเข้าใจที่คุณปิดบังเรื่องไว้ ขนาดแค่วันนั้น ผมยังโดนตบเลย” ชายไทแม้จะกล่าวออกมาอย่างนั้นแต่เขาก็ดูตลกมากกว่าจะจริงจัง

“รัต...มีปมเรื่องผู้ชายน่ะค่ะ”

“คุณนิดรู้เรื่องนี้บ้างหรือเปล่าครับ”

“เอ่อ...ถ้าเกี่ยวกับปุณณภพ ฉันรู้ค่ะ ในงานศพฉันเห็นปุณณภพไปคุยกับคุณชาย ก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันว่าคุณจะทิ้งหนูรัตหรือเปล่า”

“ทำไมผมต้องทิ้งรัตเพียงเพราะคุยกับทนายความคนนั้นด้วยละครับ”

“คือ...รอให้เธอพูดกับคุณชายเองดีกว่าค่ะ” นิตยาไม่ยอมพูดเรื่องราวที่ชายไทสงสัยนั้นเลย และเขาเองก็ไม่อยากเซ้าซี้ให้เธอลำบากใจ แม้จะรู้อยู่บ้างว่าเหตุการณ์นั้นคงเลวร้ายมากแต่เขาจะไม่ถามให้รัตติกาลเจ็บช้ำอีก

ชายไทหันกลับไปมองรัตติกาลด้วยสายตานิ่งไม่ปรากฏประกายใดๆ ออกมา ปล่อยให้ความเงียบโรยรอบบรรยากาศ สิ่งที่เขากำลังห่วงที่สุดตอนนี้ก็คงเป็นจิตใจของรัตติกาล เธอเจอเรื่องร้ายมามากมาย กระทั่งเหลือเพียงตัวคนเดียว หากไม่มีเขาอยู่...เธอจะทำเช่นไร



กลางดึกอากาศภายในห้องเย็นฉ่ำจากแอร์คอนดิชันเนอร์ไม่ได้ทำให้หญิงสาวซึ่งอยู่บนเตียงรู้สึกเย็นสบายเลยแม้แต่น้อย เธอนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง เหงื่อไหลออกมาจนเสื้อเปียกชุ่ม

ภาพซึ่งปรากฎอยู่ในฝันทำให้รัตติกาลต้องขมวดคิ้วมุ่น แววตาหวาดหวั่น เนื้อตัวสั่นเล็กน้อย หญิงแก่ในชุดเสื้อผ้าเก่าซีดสีหม่น ผมสีดอกเลาม้วนมวยไว้กลางศีรษะ ดวงตาคู่นั้นแดงวาวโรจน์เหมือนกองเพลิงเล็กๆ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวยิ่งขึ้นไปอีก

รัตติกาลจำได้ว่า หญิงแก่นี้คือ คนขายสร้อยให้กับเธอ !!!

ก่อนภาพนั้นเลือนรางหายไป เริ่มมีภาพอื่นแทรกเข้ามา เสียงหัวเราะของหญิงสาวคู่หนึ่งดังมาจากใต้ถุนบ้านเรือนไทย หญิงสาวคนหนึ่งสวยงามในชุดเสื้อผ้าฝ้าย ใบหน้าสวยไร้การแต่งแต้มเครื่องสำอาง ผมยาวปล่อยสยายยาวจนถึงกลางหลัง ส่วนอีกคนตัวเล็กกว่าแต่มีความสดสวยและสดใสมากกว่า รอยยิ้มหวานแต่งแต้มบนใบหน้าสวยซึ่งตกแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าทั้งคู่แตกต่างกันมาก

‘ทำอะไรกันอยู่’ เสียงทุ้มของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น ชายคนนั้นแต่งกายด้วยชุดธรรมดาและโบราณมากสำหรับรัตติกาล ทว่าดูจากรูปร่างใบหน้าอันคมคาย มีเสน่ห์น่ามองเหลือเกิน หญิงสาวทั้งสองหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน รอยยิ้มหวานส่งให้ชายคนนั้นทันที ภาพดุจละครเหล่านั้นเลือนหายไปพร้อมกับมีภาพใหม่เข้ามา

หญิงสาวคนเล็กผู้สะสวยถูกมัดยืนไว้ใต้ถุนเรือนไทย ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เธอจ้องชายแก่ผู้หนึ่งอย่างเคียดแค้น

‘เอ็งสำนึกไหมว่าสิ่งที่เอ็งทำมันร้ายแรงแค่ไหน’

‘ไม่! ฉันไม่ได้ทำผิด พ่อต่างหากที่ทำให้ฉันต้องเลือกทางนี้’

‘เอ็งไม่เคยโทษตัวเองเลย เอ็ง...ข้าไม่สมควรสอนคาถาอาคมให้เอ็งเลย มันเป็นดาบสองคมจริงๆ ข้า...ผิดจริงๆ’ ปลายประโยคของชายแก่มีแววตาแห่งความเสียใจอยู่ลึกๆ แต่ในมือถือไม้เรียวตวัดฟาดลงบนหลังของหญิงสาวอย่างไม่ยั้ง รัตติกาลรู้สึกเจ็บแสบขึ้นมาราวกับเป็นตัวเองที่โดนเฆี่ยน เธอเพิ่งเห็นว่ามีใครบางคน...ยืนอยู่ข้างกายชายแก่ผู้นั้น...

ยิ่งเห็น...ก็ยิ่งเจ็บปวดลึกเข้าไปในหัวใจจนแน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก พร้อมกับภาพเหล่านั้นเลือนหายไปเหลือทิ้งไว้เพียงความมืดมิด ไร้สรรพสิ่งใดๆ

" ที่ข้าเลือกเอ็งก็เพราะเอ็งเหมือนข้า จำไว้ข้าโลกนี้ไม่มีรักแท้หรอก ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว" เสียงแหบแห้งหนึ่งดังขึ้น รัตติกาลเหลียวมองหาต้นเสียง แต่กลับไม่เจอใครเลยสักคน

เธอผวาตื่นขึ้นมาบนเตียง เธอหอบหายใจแรงเหมือนเพิ่งพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ความรู้สึกเหมือนจริงมากจนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด ทรมาน ซึ่งอัดแน่นอยู่ในอก รัตติกาลยกมือขึ้นทาบอก จุดซึ่งจี้รูปพระจันทร์นั้นห้อยอยู่

นี่คืออะไร ฝันบ้าบอกอะไรกันนะ เธอเหมือนใคร...เจ้าของสร้อยอย่างนั้นหรือ!!!



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ค. 2558, 06:55:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ค. 2558, 06:55:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 1205





<< บทที่๒๐ ในอ้อมแขนอุ่น   บทที่ ๒๑ ผีหรือคน(๒) >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 22 พ.ค. 2558, 22:51:40 น.
อ่อออ นี่สินะที่บอกว่า รัดจังจะเป็นคนทำให้คุณชายต้องตาย หยึยยยย ปมเยอะแยะจุงงงง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account