แก้วขวัญวันรัก "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
เป็นเรื่องราวต่อยอดมาจาก แก้วขวัญวันรัก
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"

โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"

แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี

แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
Tags: แก้วกัลยา เพทาย ความรัก เดิมพัน

ตอน: ตอนที่ 2 พรหมไม่ลิขิตแก้วลิขิตเอง


2
พรหมไม่ลิขิตแก้วลิขิตเอง


หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

แก้วกัลยามองรูปกรอบใหญ่ของเพทายที่เธอนำไปอัดใส่กรอบมาแขวนไว้ที่ผนังตั้งแต่ปีก่อน ข้าง ๆ เป็นกรอบรูปของเธอ เธอมักจะนั่งมองรูปเขาทุกครั้งที่ท้อกับการวิ่งตาม แก้วกัลยาค้นพับว่าการนั่งมองรูปเขาสร้างพลังให้เธอเดินหน้าต่อได้ แก้วกัลยาไม่ใช่คนโรคจิต แม้การกระทำของเธอจะใกล้เคียงกับโรคจิตไปบ้าง แก้วกัลยาตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องได้คุณเพทายคนนี้มาเป็นแฟน เธอไม่มีทางยกคุณเพทายให้ใคร แต่แผนเธอกลับล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่มทุกครั้ง เธอก้าวเข้ามาเขาหนึ่งก้าว เขากลับถอยหนีเธอสิบก้าว แรก ๆ ที่เธอไปพบเขาเขาก็ยอมพบเธอ แต่พอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์เขาสั่งห้ามไม่ให้เธอเข้าพบไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายแค่ไหน เธอจึงวางแผนใหม่ด้วยการเข้าทางคุณพรทิพย์ คุณพรทิพย์ที่มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับแม่ของเธอตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เธอจึงใช้ความสัมพันธ์นี้มาเข้าใกล้สนิทชิดเชื้อพรทิพย์ เธอสาบานได้ว่าตอนแรกเธอก็คิดแค่จะใช้คุณพรทิพย์เป็นสะพาน แต่คุณพรทิพย์เอ็นดูเธอมากราวกับเธอเป็นลูกหลาน จนเธอละอายใจ และต้องเปลี่ยนแผนใหม่ ยังไงเสียไม่ได้ด้วยเล่ห์เธอก็ต้องเอาด้วยกล แต่กลของเธอจะต้องดีพอกับเกมรักครั้งนี้

“ฉันไม่สนหรอกนะคุณเพชร ฉันไม่มีวันปล่อยคุณให้ใคร” แก้วกัลยามองรูปของเขาและพูดด้วยสายตามั่นคง และมั่นใจ พลางหันไปมองปฏิทินที่ตอนนี้มีปากกาสีแดงขีดฆ่าวันทิ้งนับถอยหลัง เธอมีเวลาอีกสิบเอ็ดเดือน เธอจะทำให้อากงรู้ว่าชีวิตเธอลิขิตเองได้ และเธอจะได้พบรักที่ดีได้โดยไม่ต้องให้ใครหาให้

“ฉันจะลองอีกสักตั้ง เกิดมาชีวิตฉันไม่เคยง้อใครเลยนะคุณเพชร ผู้ชายก็มีให้ใช้เหลือเฟือ แต่ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าคุณกับฉันใครจะแน่กว่ากัน ฉันไม่ยอมแพ้คุณหรอก ยิ่งคุณยากฉันก็ยิ่งอยากได้ ก็ได้เมื่อพรหมไม่ลิขิตให้ฉัน ฉันจะลิขิตเอง แล้วเจอกันคุณเพทาย” แก้วกัลยาเอ่ยและเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีขาวที่ดูสุภาพขึ้น แก้วกัลยาเดินลงมาจากห้องและมองบ้านที่เงียบผิดปกติ ไม่มีกลิ่นหอม ๆ ของข้าวต้มเช่นทุกวัน เพราะขวัญชีวันไม่อยู่ ขวัญชีวันเป็นแม่ครัวประจำบ้าน พวกเธอจ้างแม่บ้านแค่มาคอยทำความสะอาดและซักผ้าทุก ๆ สองวันจากบริษัท ดังนั้นอาหารจึงให้แม่ครัวใหญ่อย่างขวัญชีวันเป็นผู้ทำ ลูกมือก็คือวันวิวาห์หรือไม่ก็รักจิราที่เวียนลงมาช่วย แต่สามเดือนนี้คงจะอดชิมฝีมือของขวัญชีวัน ทำไมอะไร ๆ ช่วงนี้ดูแย่ไปหมดนะ

“วัน” วันวิวาห์เงยหน้าข้นจากโต๊ะ หน้าโต๊ะมีเพียงขนมปังปิ้งที่วางอยู่ แก้วกัลยาปลายตามองไปที่รักจิราที่พึ่งกลับจากเกาะดาราเมื่อคืน กลับมาคนเดียว ส่วนขวัญชีวันเห็นว่าเป็นผู้โชคดีได้ไปทำงานร่วมกับเชฟคนโปรด แก้วกัลยามองใบหน้าที่ดูเครียด ๆ พิกลของรักจิรา เธอเดินไปชงชามาหนึ่งแก้วและเดินกลับมานั่งข้างวันวิวาห์

“มันเป็นอะไรของมัน ใครเอายาฆ่าแมลงให้มันกินหรือเปล่า”

“ไม่รู้สิ ตอนเช้าตื่นมาเห็นยืนปิ้งขนมปังแล้วก็เหม่อมานั่งไม่ยอมกินอะไรแบบนี้ แก้วว่าอาการแบบนี้เหมือนเคยเห็นมาก่อนไหม” วันวิวาห์ถามอาการนิ่งเงียบ เหม่อลอยของน้องสาว น้องสาวของพวกเธอไม่ใช่คนที่เงียบปาก มักจะสร้างเสียงหัวเราะด้วยการชวนคุย หรือไม่ก็ทะเลาะกับแก้วกัลยา บ้านจึงไม่เคยเงียบ แต่วันนี้แปลก

“อ่อ อาการแบบนี้มันเหมือนตอนบอกเลิกไอ้...”

เพล้ง!!!

รักจิราสะดุ้งเมื่อแก้วกาแฟถูกมือของเธอปัดตกแตก วันวิวาห์และแก้วกัลยาผวาลุกขึ้นยืน เมื่อรักจิราทำท่าจะเดินเข้าไปเก็บเศษแก้ว แต่วันวิวาห์ไวกว่า

“ไม่ต้อง เดี๋ยวเจ๊เก็บเอง ท่าทางลอย ๆ แบบนี้เดี๋ยวแก้วจะบาดเอาซะก่อน” รักจิราพยักหน้าและคว้าหยิบกระเป๋าจะเดินออกไปแต่แก้วกัลยายังอดข้องใจไม่ได้ว่าน้องเป็นอะไร

“เดี๋ยว ไอ้รัก วันนี้ผีเข้าหรือไง วันนี้หน้าเหมือนเจอภารกิจระดับชาติ แกเป็นอะไรหรือเปล่า ถึงฉันจะไม่ใช่ตั่วเจ้ที่ดีแต่แกก็บอกฉันได้นะ แล้วขวัญเป็นยังไงบ้าง” แก้วกัลยาเป็นผู้ถามถึงความผิดปกติ แต่รักจิราไม่ตอบ เพียงมองตาเธอเหมือนอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด ดูแล้วชวนอึดอัดใจที่สุด

“เจ๊ขวัญสบายดีเค้าพึ่งโทรคุยกับเจ๊ขวัญเมื่อเช้า เค้ายืมรถหน่อยนะวันนี้ไปสายไม่ได้” แก้วกัลยาขมวดคิ้วแต่เมื่อน้องไม่อยากตอบ จึงยื่นกุญแจรถของตัวเองให้กับรักจิรา รักจิราผงกหน้าเล็กน้อยและเดินออกไป

“อาการไม่ค่อยดีนะ” วันวิวาห์พูด “ว่าแต่ วันนี้แต่งตัวแบบนี้จะไปไหน” คำว่าแต่งตัวแบบนี้ทำให้แก้วกัลยายืนขึ้นกางแขนก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดที่สุภาพที่สุดอย่างที่ยากจะได้เห็น

“วัด” สีหน้าของวันวิวาห์ดูจะแปลกใจเอามาก ๆ

“วัดหรอ ไปทำไม ปกติไม่เห็นเคยเข้า” แก้วกัลยามองวันวิวาห์ โชคดีที่วันวิวาห์เป็นคนที่พูดอะไรตามความคิดของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเธอจะคิดว่าวันวิวาห์ตั้งใจกระแนะกระแหนะเธอ

“เมื่อวานฉันไปหาน้าทิพย์” วันวิวาห์ทำหน้าสงสัย

“คุณพรทิพย์แม่ของคุณเพชรอ่ะนะ”

“ใช่” ปกติแก้วกัลยาจะเจอพรทิพย์ที่สปาบ่อยอยู่แล้ว แต่เธอรู้ว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นวันสำคัญของครอบครัวเพทาย เธอจึงไปพบพรทิพย์มาเมื่อสองสามวันก่อนเอ่ยถึงเรื่องทำบุญ ทำให้พรทิพย์เอ่ยชวนเธอไปวัดด้วยกันวันนี้

“อย่าบอกนะว่านี่คือแผน หลอกใช้แม่คุณเพชร”

“รุนแรงไป ตอนแรกก็คิดจะทำ แต่รู้สึกละอายใจขึ้นมาก่อนสิ ยอมรับมารอย่างฉันแพ้คนดีแบบคุณน้าเขา แต่การที่จะเข้าถึงตัวคุณเพชรได้ โดยที่คุณเพชรไม่หนีก็ต้องเข้าทางน้าทิพย์ ใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณเพชรรักน้าทิพย์มาก น้าทิพย์ว่ายังไงคุณเพชรก็ว่าตามนั้นไม่เคยขัด และนี่จะเป็นโอกาสทองของฉัน แผนของฉันมันเริ่มจากนี้ต่างหากล่ะ ไม่ต้องหลอกใช้ใคร และคุณเพชรจะไม่มีทางปฏิเสธได้ คอยดูนะความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม” แก้วกัลยายิ้มอย่างมั่นใจมาก ก่อนจะหันไปมองวันวิวาห์ที่มีสีหน้าวิตกกังวลกับความมั่นใจของลูกพี่ลูกน้องคนนี้

“นี่ไปด้วยกันนะวัน วันนี้เป็นวันครบรอบสี่ปีที่คุณไพฑูรย์พ่อคุณเพชรท่านเสีย ไปวัดคนเดียวมันไม่ชิน ไปด้วยกันนะวัน” แก้วกัลยาเอ่ยชวน ตอนแรกคิดจะชวนรักจิรา แต่รักจิราก็ออกไปแล้ว ดังนั้นช้อยส์สุดท้ายของเธอคือวันวิวาห์

“วัน...”

“อย่าปฏิเสธนะ ไปเป็นเพื่อนกันนะ ไปเป็นกำลังใจให้ฉัน เผื่อเวลาเจอคุณเพชรแล้วประหม่า เธอจะได้ช่วยฉัน” วันวิวาห์รู้สึกอยากหัวเราะ แก้วกัลยาเนี่ยนะจะประหม่า มีแต่จะทำให้คนอื่นเขาประหม่าเสียมากกว่า

“ไปนะวัน อีกอย่างถือว่าไปทำบุญให้มัมกับแด๊ดฉันด้วยไง” แก้วกัลยาเอ่ยถึงบุพการีตน

“วันนี้ว่างไม่ใช่หรอ ฉันถามคุณพยาบาลผู้ช่วยเธอแล้ว เขาบอกฉันว่าเธอเข้าเวรช่วงบ่าย ดังนั้นไปนะ” สุดท้ายวันวิวาห์ก็ต้องตกปากรับคำอย่างเลี้ยงไม่ได้




แก้วกัลยามองมิลาที่หอบอาหารคาวหวานเดินตรงมาหาเธอ และเมื่อมาถึงก็ส่งตะกร้าสานที่มีอาหารคาวหวานให้กับแก้วกัลยา แก้วกัลยาตรวจข้าวของอย่างพอใจ เธอสั่งงานมิลาสองสามอย่างก็ปล่อยมิลาให้กลับไป แก้วกัลยาหยิบกระจกในกระเป๋าออกมาสำรวจความพร้อมก่อนจะเดินนำวันวิวาห์ไปในศาลา วันทำบุญวันนี้ตรงกับวันพระทำให้ภายในศาลาดูมีคนหนาตา มีหลายครอบครัวพากันมาทำบุญตอนเช้าดูเป็นครอบครัวอบอุ่น

“อยู่นั่นไงตามมาวัน” แก้วกัลยามองหาเป้าหมายเจอก็รับเดินเข้าไปหาคุณพรทิพย์ที่กำลังนั่งจัดแจงของใส่จานชาม คุณพรทิพย์ที่หันไปเห็นแก้วกัลยากำลังเดินมาหาเธอก็ส่งยิ้มพิมพ์ใจกลับไปให้ แก้วกัลยาเดินมานั่งที่ข้างขวามือของคุณพรทิพย์ยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อมจนผุ้ใหญ่รู้สึกเอ็นดู

“สวัสดีค่ะน้าทิพย์ น้าทิพย์คะนี่วันวิวาห์ ลูกพี่ลูกน้องที่แก้วเคยเล่าให้ฟังค่ะ” พรทิพย์มองวันวิวาห์อย่างเอ็นดู วันวิวาห์สวยไร้ที่ติดดั่งปติมากรรมอย่างที่แก้วกัลยาบอกไว้ เสียดายใบหน้าสวยสง่านั้นฉาบไว้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย วันวิวาห์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่มองเธออยู่ ส่งรอยยิ้มเล็ก ๆ กลับไปให้แทนความโอบอ้อมอารีที่ส่งผ่านมาทางแววตา

“แล้วคุณเพชรไม่มาด้วยหรอคะ” แก้วกัลยาเอ่ยถามหาเป้าหมายของวันนี้

“มาจ๊ะ แต่ตอนนี้ไปรับหนูดาหวัน” ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มหุบยิ้มในทันที แต่วันวิวาห์ที่นั่งอยู่ใกล้สะกิดแขนเรียกสติที่หลุดลอยของแก้วกัลยาให้ลอยกับมา แก้วกัลยายิ้มอีกครั้ง

“รักกันจังนะคะคุณเพชรกับคุณดาหวัน”

“จ๊ะ พี่ชายหนูดาหวันเป็นเพื่อนกับตาเพชร หนูดาหวันติดสอบห้อยตามไปไหนมาไหนด้วยกันกับสองหนุ่มบ่อย ๆ จนพี่ชายหนุดาหวันเสีย สองคนนี้ก็ยิ่งตัวติดกัน นั่นไงพูดถึงก็มาเลย” แก้วกัลยาหันไปมองเพทายที่เดินเคียงข้างมาพร้อมกับดารินทิพย์แม้จะไม่ได้จูงมือกันประเจิดประเจ้อ แต่แก้วกัลยาก็ไม่วายทำหน้าไม่พอใจให้ เธอหันหน้าหนีทันที วันวิวาห์มองทั้งสองที่เดินเข้ามา เพทายเธอเคยเห็นในรูปที่แขวนอยู่ในห้องแก้วกัลยา ในรูปเขาหล่อ มาดแมนมาก ตัวจริงนั้นหล่อยิ่งกว่า เขาเหมือนคุณชายที่มีความสุภาพ สุขุม ดูอบอุ่นอย่างที่แก้วกัลยาบรรยายไว้ ส่วนดารินทิพย์ที่อยู่ในวงสนทนาของแก้วกัลยากับรักจิราเสมอเธอพึ่งเคยพบเป็นครั้งแรก ดารินทิพย์เป็นสาวน้อยสวยหวานอายุน่าจะอ่อนกว่ารักจิราไม่เกินสองปี หน้าตาน่ารัก กิริยาดูนุ่มนิ่มดั่งกุลสตรีไทย ก็ไม่แปลกที่เพทายจะชอบ น่ารัก น่าทะนุถนอมเสียขนาดนี้ พอหันกลับมามองญาติผู้พี่ของตัวเอง ช่างต่างราวฟ้ากับเหว แม้แก้วกัลยาจะสวย แต่สวยแบบโฉบเฉี่ยว ส่วนแบบผู้หญิงแกร่งที่สามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรับความทะนุถนอมจากใคร เป็นสาวมั่นสมัยใหม่อย่างแท้จริง ในขณะที่ดารินทิพย์ดูน่ารักบอบบางน่าทะนุถนอม เธอไม่อยากพูดตัดความหวังแก้วกัลยา แต่ดูก็รู้เกมรักครั้งนี้แก้วกัลยามีเปอร์เซนแพ้สูงมาก

“กว่าจะมากันนะคู่หวาน” คุณพรทิพย์เอ่ย ดารินทิพย์ยกมือขึ้นไหว้ด้วยท่าทีที่นอบน้อม กิริยาที่อ่อนหวานนั่นทำให้แก้วกัลยาเริ่มโมโห จึงหันไปมองวันวิวาห์แทน

“พอดีแม่ลืมบอกเพชรไปว่าแม่ชวยหนูแก้วมาด้วย” เพทายหันมองคนที่นั่งอยู่ข้างมารดาด้วยแววตาแปลกใจ เขาคิดมาตลอดว่าผู้หญิงคนนี้ร้าย คำบอกเล่า ประสบการณ์ที่พบเจอ จนตอนนี้เขาขอเปลี่ยนคำว่าผู้หญิงตรงหน้าร้ายมาก เข้าทางเขาไม่ได้ ก็ไปเข้าทางแม่ เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ แก้วกัลยาหน้าตาก็สวย ผู้ชายก็ติดตามเป็นเกลียว แต่ทำไมต้องมาตามเขาด้วย ยิ่งเธอขยับเข้ามาเขาก็ยิ่งถอยหนี กิตติศัพท์ของเธอมันกระจายในวงกว้างทำให้ไม่เป็นที่น่าไว้ใจ

“สวัสดีค่ะ คุณเพทาย คงไม่รังเกียจนะคะถ้าฉันจะมาด้วย” แก้วกัลยาเอ่ยและมองเพทายที่มองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย มีผู้ชายไม่มากที่ทนทานสายตาพิฆาตใจชายของเธอได้ และเขาก็คือคนที่ทนทานมันได้แถมไม่มีท่าทีสนใจ เขาทำให้แก้วกัลยารู้สึกท้าทาย

“สวัสดีค่ะคุณดารินทิพย์ เราเคยเจอกันตามงานหลายครั้งแต่ไม่เคยมีโอกาสได้คุยกันเลย วันนี้เป็นวันดี ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” แก้วกัลยาตวัดตามองดารินทิพย์ ดารินทิพย์ยิ้มหวาน ๆ ส่งมาให้ทำให้รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้น ดูแล้วมันแสยะยิ้มมากกว่า แก้วกัลยาถอนสายตากลับไปมองเพทายอีกครั้ง สายตาเยิ้มหวานของแก้วกัลยาทำให้เพทายรู้สึกขนลุก และเสียวสันหลังแปลก ๆ เขาจึงหันหน้าหนีหันไปกระซิบกระซาบกับดารินทิพย์แทน แก้วกัลยามองภาพบาดตาอย่างอิจฉา แทบอยากจะลุกออกจากศาลา วันวิวาห์สะกิดแขนให้แก้วกัลยาหันกลับมาเพราะพระกำลังจะสวดมนต์แล้ว แก้วกัลยายอมถอนสายตากลับทั้งที่จิตใจกำลังร้อนลุ่มเป็นไฟ เสียงบทสวดมนตร์ลอยผ่านหูไปเพราะใจของเธอกำลังจดจ่ออยู่ที่คู่รักทั้งสอง การทำบุญเสร็จสิ้นลง แก้วกัลยาเดินถือถ้วยน้ำที่กรวดอุทิศส่วนกุศลมาเทลงใต้ต้นไม้ วันวิวาห์มองใบหน้าของคนที่มาทำบุญแต่สีหน้าคล้ายกับมาฆ่าคนของแก้วกัลยา วันวิวาห์หยิบผ้าเช็ดหน้าของตนส่งให้แก้วกัลยาอย่างรู้งาน แก้วกัลยารับผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมา ผู้หญิงอย่างแก้วกัลยาไม่มีทางร้องไห้เพียงเพราเรื่องแค่นี้ เรื่องเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาจึงติดทิ้งได้ แต่แก้วกัลยานำผ้าเช็ดหน้ามาเพื่อสิ่งนี้

“อี๊ด!!!” แก้วกัลยากัดผ้าเช็ดหน้าและกรีดร้องอย่างโมโห

“น่าโมโห น่าโมโห น่าโมโหที่สุด เอานี่กุญแจ” แก้วกัลยาส่งกุญแจรถให้กับวันวิวาห์ วันวิวาห์มองอย่างงง ๆ และไม่เข้าใจว่าแก้วกัลยายื่นกุญแจให้เธอทำไม

“เธอกลับบ้านไปก่อนวัน ฉันจะอยู่ต่อ”

“อ้าว” วันวิวาห์ร้องทันที อยากให้มาเธอก็มา พออยากให้กลับเธอก็ต้องกลับ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของแก้วกัลยาก็ไม่อยากขัดใจอะไรอีกจึงรับกุญแจและกลับไปที่รถ ส่วนแก้วกัลยาเดินกลับเข้ามาในศาลาและนั่งลงข้าง ๆ พรทิพย์

“อ้าวแล้วหนูวันล่ะจ๊ะ”

“ที่โรงพยาบาลมีเคสด่วนค่ะ เลยต้องรีบไปโรงพยาบาล แก้วกะว่าจะอยู่เป็นเพื่อนน้าทิพย์ก่อน”

“หรอจ๊ะ หนูวันกลับไปแล้วแบบนี้ แล้วหนูแก้วจะกลับยังไงล่ะจ๊ะ” พรทิพย์ถาม เพราะรู้ว่าทั้งสองมาด้วยกัน ถ้าวันวิวาห์กลับไปก่อน แก้วกัลยาจะกลับอย่างไร

“เดี๋ยวแก้วจะนั่งแท็กซี่ไปที่ร้านค่ะ แก้วต้องแวะไปทำธุระต่อที่สปา รอให้ทำบุญเสร็จก่อนค่อยกลับทีเดียวค่ะ” แก้วกัลยาตอบ คุณพรทิพย์มองด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ที่แก้วกัลยาต้องกลับบ้านคนเดียว

“เดี๋ยวน้าต้องแวะไปธุระ เอาอย่างนี้ ตาเพชรเดี๋ยวไปส่งหนูแก้วที่ร้านหน่อยสิ ยังไงเราก็แวะไปส่งหนูดาหวันอยู่แล้วไม่ใช่หรอ” เพทายมีท่าทีอึกอัก เขามองออกว่านี่มันตั้งใจชัด ๆ รอยยิ้มของแก้วกัลยาทำให้เขาไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่ เขาหันมองดารินทิพย์

“ไม่เป็นไรค่ะไปด้วยกันก็ได้ พี่เพชรแวะไปส่งดาแล้วค่อยเลยไปส่งคุณแก้วก็ได้นี่คะ”

“คุณดาหวันนี่น่ารักจังเลยนะคะ แบบนี้ใคร ๆ ก็รัก ใคร ๆ ก็หลงแย่เลย” ดารินทิพย์ยิ้มส่งมาให้กับแก้วกัลยา รอยยิ้มที่ใสซื่อและจริงใจสุด ๆ จนเธอเหมือนมารร้ายไปเลย เพทายพยักหน้าตกลงเมื่อดารินทิพย์อนุญาต แก้วกัลยารู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตงิด ๆ แม่บ้านอีกคนสองช่วยกันเก็บของไปไว้ที่รถ นั่นหมายความว่าจะได้กลับบ้านแล้ว แก้วกัลยาลุกขึ้นเดินตามไปส่งคุณพรทิพย์ขึ้นรถ พอรถคุณพรทิพย์ขึ้นรถอีกคันออกไป แก้วกัลยาก็เดินนำดารินทิพย์ไปที่รถ เพทายเดินไปเปิดประตูรถให้ดารินทิพย์ แต่แก้วกัลยาที่เดินมาถึงก่อนตัดหน้าขึ้นไปนั่งข้างคนขับแทนว่าที่แฟนเขาซะอย่างนั้น เพทายมองกิริยาของแก้วกัลยาอย่างไม่ชอบใจ ซึ่งแก้วกัลยาดูออกว่าเขาไม่พอใจเธอ แต่คำว่าแล้วไงกลับผุดขึ้นมาในความคิด ปกติเขาก็ไม่ชอบหน้าเธออยู่แล้ว ไม่ชอบอีกนิดจะเป็นไรไป เธอไม่ยอมให้สองคนนั่งด้านหน้าด้วยกันหรอก บาดตา บาดใจเธอตั้งแต่ในศาลาแล้ว จะมาบาดตาเธอบนรถอีก เธอไม่ยอม ดารินทิพย์ยิ้มให้กับเพทาย

“ไม่เป็นไรค่ะพี่เพชร ยังไงดาก็ต้องลงก่อนอยู่แล้ว” แล้วดารินทิพย์ก็เปิดประตูไปนั่งที่เบาะหลัง เพทายถอนหายใจและเดินอ้อมไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับ สารถีหนุ่มไม่สนใจแก้วกัลยา เลือกที่จะพูดกับคนที่นั่งอยู่เบาะหลังมากกว่า

“น้องดาอยากซื้ออะไรอีกไหมครับ” เขาเอ่ยถาม ดารินทิพย์ส่ายหน้า

“ไม่ดีกว่าค่ะ วันนี้มีลูกค้าจะเข้ามาติดต่อให้ดาไปจัดดอกไม้ในงานแต่ง เดี๋ยวไปไม่ทันนัดค่ะ” ดารินทิพย์ตอบ ดารินทิพย์เป็นเจ้าของร้านจัดดอกไม้ที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มไฮโซเข้ามาอุดหนุนกันไม่ให้ขาดแม้จะเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ แต่เพทายก็ชอบส่งดอกไม้มาให้เธอประจำดอกไม้ที่ให้เธอก็สั่งจากร้านชื่อดังอีกร้านหนึ่ง ดารินทิพย์เองก็ไม่ได้ห้ามเมื่อเขาให้เธอก็พร้อมจะรับไว้
“คุณดาหวันเปิดร้านจัดดอกไม้หรอคะ” แก้วกัลยาถามทั้งที่ก็รู้อยู่แล้ว เพราะเธอสืบประวัติของเพทาย เธอก็ต้องสืบประวัติขู่แข่งความรักของเธออย่างดารินทิพย์อยู่แล้ว เธอรู้อีกด้วยว่าดารินทิพย์คือผู้หญิงที่อยู่ในกรอบความต้องการของเขา เขาอยากได้ผู้หญิงที่เหมือนกับแม่คืออ่อนหวาน เรียบร้อย อ่อนโยน และเป็นช้างเท้าหลัง ซึ่งเธอไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่เขาต้องการเธอรู้ดี แต่เธอต้องการเป็นภรรยาไม่ใช่แม่เขาเสียหน่อย

“ค่ะ เป็นเป็นร้านเล็ก ๆ เองค่ะ”

“เอาไว้ว่าง ๆ ฉันจะแวะไปอุดหนุนบ้างนะคะ” ดารินทิพย์พยักหน้า

“ได้สิค่ะ ดาจะจัดให้พิเศษเลยค่ะ ดารู้มาว่าคุณแก้วเป็นดีไซเนอร์ดีจังเลยนะคะ ได้ทำงานกับเสื้อผ้า ดาก็เคยอยากเรียน แต่ดาไม่มีหัวในทางศิลปะคงไม่น่ารอด”

“ถ้าตั้งใจต้องทำได้ค่ะ ตัวฉันเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก แต่อาศัยความมุ่งมั่นสูง ถ้าฉันมุ่งมั่นอะไรมาก ๆ ของที่ฉันอยากได้ สิ่งที่ฉันอยากทำจะต้องมาอยู่ในมือฉันแน่นอนค่ะ” แก้วกัลยาพูดและมองไปที่เพทาย เขาทำเป็นไม่ได้ยินและหันไปคุยกับดารินทิพย์ต่อซะอย่างนั้น

“น้องดาครับ พรุ่งนี้ไปทานข้าวที่บ้านกับพี่นะครับ”

“พรุ่งนี้ดามีนัดทานข้าวกับคุณลุง ขอโทษนะคะพี่เพชร” เพทายพยักหน้าและยิ้มให้กับดารินทิพย์ แก้วกัลยามองอย่างอิจฉาตาร้อนในที่สุดรถก็จอดลงที่หน้าร้านจัดดอกไม้ของดารินทิพย์ สุภาพบุรุษอย่างเพทายเดินไปเปิดประตูให้และเดินเข้าไปส่ง แก้วกัลยามองและกำมือแน่น

“แค่มาส่งที่ทำงานทำยังกับว่าจะลาตาย” แก้วกัลยาเอ่ยและเธอมองเห็นสุจิราคู่ปรับเก่าของแก้วกัลยาเดินออกมารับเพื่อนที่หน้าร้าน และสุจิราก็มองมาที่รถเหมือนมองเห็นใครอีกคนนั่งอยู่บนรถ แก้วกัลยารู้ว่าสุจิรากำลังเพ่งมองมาก็จงใจลดหน้าต่างลงให้สุจิราเห็นและยักคิ้วอย่างเยาะเย้ย สุจิราชักสีหน้าใส่เธอทันที เธอมองออกว่าสุจิราคิดจะตีท้ายครัวดารินทิพย์อยู่ แต่ยังไม่ได้โอกาส ดวงตาฉายชัดขนาดนั้นใครโง่มองไม่ออก ถ้าจะโง่ก็คงจะมีแค่ดารินทิพย์เท่านั้นแหละ แก้วกัลยารีบกดปิดหน้าต่างเมื่อเพทายเดินกลับมา

“ฉันหิวข้าว เราไปทานข้าวกันนะคะ”

“ผมไม่ว่าง”

“ฉันรู้นะคะวันนี้คุณไม่มีประชุมอะไร วันนี้อย่างมากก็กลับไปนั่งเซ็นเอกสารในห้องไม่มีเรื่องด่วนแน่นอน ช่วยไปทานข้าวเป็นเพื่อนฉันมันไม่ตายหรอกค่ะ ไปนะคะ” แก้วกัลยาไม่พูดเปล่ายังถือโอกาสถือมือเขามาจับ เพทายชักมือออก แต่แก้วกัลยากลับจับมือเขาไว้แน่นอย่างไม่ยอม

“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้ คุณ....”

“แก้วกัลยาค่ะ ฉันชื่อแก้วกัลยา แต่ฉันอนุญาตให้คุณเรียกที่รักก็ได้นะคะ กรณีพิเศษ ปกติฉันไม่ให้ใครเรียกแบบนี้นะคะ ฉันให้คุณเรียกคนแรก” เพทายหน้าตึงขึ้นมาทันที เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอผู้หญิงที่รุกเขาหนักขนาดนี้ อย่างมากถ้าเขาปรายตามองก็คงยอมปล่อยแล้ว แต่นี่ไม่สนใจสายตาของเขาและยังมองสบตาประกายวิบวับให้เขาต่อ

“ครับคุณแก้วกัลยา ปล่อยมือผมด้วย ผมมี...”

“คุณยังไม่มี คุณบอกว่าคุณเป็นพี่น้องกัน ตราบใดที่คุณยังไม่ใช้คำว่าแฟน ถึงคุณจะใช้แล้ว แต่ถ้าคุณยังไม่มีภรรยา ไม่แต่งงาน ฉันถือว่าคุณโสดสำหรับฉัน”

“คุณ...” เขาพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาว่าผู้หญิงคนนี้ เขาเองแม้จะไม่ชอบอ่านข่าวซุบซิบแต่ก็พอได้ยินมาบ้างว่าแก้วกัลยาเป็นผู้หญิงที่มีผู้ชายตามติดเกลียว แต่ทำไมเธอไม่ไปหาผู้ชายพวกนั้นมายุ่งอะไรกับชีวิตเขา

“แก้วกัลยาค่ะ” แก้วกัลยายิ้ม “เราไปกินข้าวกันดีกว่า เมื่อเช้าฉันออกมายังไม่ได้กินอะไรเลย ข้างหน้ามีร้านอาหารร้านโปรดของฉันด้วยก่อนจะถึงร้าน แวะร้านนั้นก็ได้ค่ะ” เพทายขมวดคิ้วหนักว่าเดิม นี่เธอไม่คิดจะถามเขาหน่อยหรือไงว่าเขาอยากไปไหม
“ผมไม่ไป ถ้าคุณจะไปผมจะไปส่ง”

“ไม่ค่ะ คุณต้องไปกินเป็นเพื่อนฉันสิคะ คุณจะปล่อยให้สาว ๆ สวย ๆ อย่างฉันไปกินคนเดียวได้ยังไงกัน เอาเป็นว่าตกลงนะคะ” ไม่พูดเปล่ามือยังกดโทรศัพท์ เหมือนกำลังจะโทรหาใครสักคน

“ฮัลโหลน้าทิพย์หรอคะ แก้วหิวข้าวม๊ากมาก แต่สารถีสุดหล่อที่น้าทิพย์ให้มาส่งสิคะไม่ยอมไปส่ง แล้วยังให้แก้วไปกินข้าวคนเดียว แล้วแก้วจะกลับยังไงล่ะคะ... คุณเพชร คุณแม่จะคุยด้วยค่ะ” เพทายมองแก้วกัลยา และมองโทรศัพท์ที่เธอโทรออกจริง ๆ เขาจึงรับโทรศัพท์มาคุยต่อ

“ครับ ครับแม่ ได้ครับ ครับ” แล้วสุดท้ายเขาก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ และมองแก้วกัลยาด้วยสายตาไม่พอใจ เขาไม่เข้าใจว่าแม่เขาหลงอะไรแก้วกัลยาหนักหนา นับตั้งแต่สนิทสนมกันเมื่อปีก่อนแม่ของเขาก็เอาแต่บอกว่าหนูแก้วดีอย่างนั้น หนุแก้วดีอย่างนี้ หนูแก้วน่ารักอย่างนั้น หนูแก้วน่ารักอย่างนี้ แม้แต่ตอนนี้ข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ยังมองว่าแค่พวกสร้างกระแสใส่ร้ายแก้วกัลยา เขาอยากรู้ว่าแก้วกัลยาวางยาอะไรแม่เขากันแน่ถึงทำให้แม่เขาทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้

“ตกลงว่าโอเค นะคะ แต่ถ้าไม่โอก็คงต้องโอแล้วล่ะค่ะ เพราะนี่คุณน้าสั่ง” เขารู้สึกอยากจะจับผู้หญิงน่าโมโหคนนี้โยนลงรถ ทางที่ดีเขาต้องรีบจัดการปัญหานี้ให้เร็วที่สุด มันอาจจะถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับดารินทิพย์แล้ว

“ถึงแล้ว ร้านนั้นค่ะ” เขาเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถด้านหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพทายเปิดประตูและเดินลิ่ว ๆ เข้าร้านไปโดยไม่รอแก้วกัลยาสักนิด แก้วกัลยายิ้มอย่างพอใจและเดินลงจากรถตามไปอย่างไม่รีบ ดวงตาสวยกวาดมองไปรอบ ๆ ลานจอดรถและยิ้มทันทีที่เห็นคนที่ยืนทำลับ ๆ ล่อ ๆ ในมือถือกล้องคอยเตรียมแอบถ่าย

“ฉันจองคุณแล้ว คุณก็ต้องเป็นของฉัน...คุณเพชร” แก้วกัลยาเดินตรงไปนั่งโต๊ะที่เพทายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว แก้วกัลยาสั่งอาหารเสร็จสรรพก็นั่งเท้าคางมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาเคลิ้ม ๆและมันทำให้เขาเริ่มอึดอัดทำอะไรไม่ถูก

“เลิกมองผมสักทีคุณ...”

“แก้วกัลยาค่ะ”

“ครับคุณแก้วกัลยา คุณหิวไม่ใช่หรอครับ ผมมีธุระต่อจะทานอะไรก็ทาน”

“เปลี่ยนมาสั่งคุณเพชรที่นึงได้ไหมคะ คุณเพชรหน้ากินกว่าอาหารเยอะเลย” เพทายกำมือแน่น พยายามหายใจเข้าหายใจออก เพื่อระงับสติของตัวเองที่กำลังจะแตก เขาทำงานต่อให้เรื่องยุ่งจนเครียดแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยรู้สึกเหมือนสมองจะแตกแบบนี้
“คุณไม่อายบ้างหรือไง คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณ...”

“แก้วกัลยาค่ะ”

“ผมจำได้”เขาเอ่ยกลับไปทันที เมื่อผู้หญิงคนนี้ทั้งแทะโลมทั้งกวนโมโหเขา เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน ไม่เคยทำร้ายน้ำใจผู้หญิงด้วย บางทีเขาอาจต้องพูดกับเธอตรง ๆ ให้เธอรู้ ดีกว่าปล่อยให้เธอก้าวล้ำเส้นเข้ามามากกว่านี้

“ก็ฉันกลัวคุณจำไม่ได้นี่ค่ะ นาน ๆ เราจะเจอกันที ฉันไปบริษัทคุณก็ไม่ให้ฉันเข้าพบ ฉันเลยต้องย้ำบ่อย ๆ คุณจะได้ไม่ลืมฉัน แต่ ไม่เอาดีกว่า ต่อไปนี้ฉันจะเรียกคุณว่าที่รักดีไหมคะ เราจะได้สนิทกันยิ่งขึ้น ฉันกับแม่คุณเราก็สนิทกันม้ากมาก คุณแม่คุณก็ชอบฉันม้ากมาก อีกหน่อยฉันอาจจะเลื่อนฐานะ เรียกที่รักไว้ล่วงหน้าดีกว่า”

“คุณฝันอยู่เหรอ คุณ...”

“แก้วกัลยาค่ะ” เพทายกำมือแน่น ผู้หญิงคนนี้ทำให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านอย่างถึงที่สุด อารมณ์ที่ว่าก็คืออารมณ์โกรธ โกรธแทบบ้า โกรธและทำอะไรไม่ได้อีกต่างหาก มันยิ่งทำให้หงุดหงิด ถ้าเขาเลือกได้วันนั้นเมื่อสามปีก่อนถ้าเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะบ้าขนาดนี้ เขาจะปล่อยให้เธอจมน้ำตาย ไม่มีวันกระโดดลงไปช่วยให้เธอมาตามปั่นป่วนในชีวิตเขาหรอก ชีวิตเขาไม่เคยทำอะไร หรือตัดสินใจอะไรที่ผิดพลาด แต่แก้วกัลยาคือความผิดพลาดที่สุด

“ครับ คุณแก้วกัลยา คุณเป็นผู้หญิง คุณควรจะสำรวมมากกว่านี้ แล้วผมก็ไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ ผมบอกตรง ๆ เลยนะครับ ผมไม่ชอบคุณ คงไม่มีวันชอบด้วย คุณเลิกยุ่งกับผมเถอะ คุณก็สวย มีผู้ชายดี ๆ อีกเยอะ ที่อยากเป็นแฟนกับคุณ ทำแบบนี้คุณจะดูไม่ดีในสายตาของผู้ชาย โดยเฉพาะผม” แก้วกัลยายังคงนั่งยิ้มมองเขาพูดไม่สะทดสะท้าน นี่เขาคุยกับคนโรคจิตอยู่หรือเปล่า

“ขอบคุณค่ะที่ชมฉัน คุณชมฉัน ฉันรู้สึกดีกว่าผู้ชายร้อย ๆ คนมาชมฉันว่าสวยเสียอีก”

“คุณ...”

“แก้วกัลยาค่ะ”เขาพยายามทำใจให้เย็นกว่าเก่า เขาไม่เคยอยู่กับใครแล้วต้องใช้ความอดทนมากขนาดนี้

“คุณไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยหรอคุณแก้วกัลยา คุณไม่ใช่คนโง่ ผมรู้ ผมมองออก คุณน่าจะเข้าใจสิ่งที่ผมบอก คุณตามผมมาครึ่งปีแล้วนะ ถ้าผมจะชอบคุณผมชอบไปนานแล้วไม่รอให้คุณมาตามฉันถึงตอนนี้หรอก ผมไม่อยากให้คุณเสียเวลาไปมากกว่านี้ ทางที่ดีเลิกยุ่งกับผมเถอะ” แก้วกัลยานิ่ง รอยยิ้มที่ยิ้มกริ่มหายไปแล้ว เขาเองก็ไม่อยากพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิงหรอก แต่ถ้าเขาไม่พูดแรง ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็จะไม่หยุด และตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังจะมาดึงแม่เขาเข้าไปยุ่ง เขาไม่อยากให้แม่ของเขาไปยุ่งกับผู้หญิงแปลก ๆ คนนี้ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะของเขาดังขึ้น ขณะที่เขากำลังจะหยิบ แก้วกัลยาก็คว้าหยิบโทรศัพท์มือถือของเขา และลุกเดินออกไปทันที

“คุณแก้ว นั่นมันโทรศัพท์ผมผมขอตัวนะ” เขารีบเดินตามออกไป เบอร์ที่โทรมาเขาเห็นว่ามันเป็นเบอร์ดารินทิพย์ แก้วกัลยาเดินเร็วขึ้น เพทายที่เดินตามมาจนทันดึงตัวแก้วกัลยาไว้ แก้วกัลยาถลาเข้าไปกอดเขาไว้ในทันที เพทายสะดุ้งจะผละตัวแก้วกัลยาออก แต่แก้วกัลยากลับกอดเขาไว้แน่น

“ปล่อยผม และคืนโทรศัพท์มาได้แล้ว ผมไม่ตลกนะ คืนมา”

“ไม่ค่ะ ฉันจะบอกให้นะคะ ถ้าฉันแก้วกัลยาบอกว่าอยากได้ก็จะเอามาให้ได้ ต่อให้คุณด่าฉันแรงกว่านี้ ฉันก็ไม่หนีหรอก คุณจะเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว เพราะฉันเลือกคุณแล้ว เลือกคุณตั้งแต่วันที่ฉันลืมตามาเห็นคุณในวันที่คุณช่วยฉัน จากนี้ชีวิตคุณเป็นของฉัน ฉันไม่ยกคุณให้ใคร คุณจะหนีฉันได้ก็ต่อเมื่อคุณตกลงแต่งงานกับคุณดาหวันเท่านั้น แต่ฉันว่าถ้าคุณอยากแต่ง คุณคงไม่ให้สถานะคุณดาหวันแค่คนที่กำลังศึกษาดูใจหรอก คุณเองก็ยังไม่มั่นใจ ฉันมองออกนะคะว่าคุณเองก็ไม่ได้รักอะไรคุณดาหวันเธอหรอก อย่าหลอกความรู้สึกของตัวเองเลย เขาว่ากันว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ และฉันมองหัวใจคุณผ่านดวงตาตอนนี้อยู่ แล้วอย่าพยายามหนีฉันด้วยกันไปคบกับน้องดา อย่าพยายามทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิง ฉันบอกเลยนะคะไม่ว่าคุณจะพูดอะไรก็แล้วแต่แต่ให้รู้ไว้ต่อให้ฉันต้องตามคุณอีกสิบปี ยี่สิบปี ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอก ยิ่งคุณหนี ฉันก็ยิ่งตาม วันนี้ฉันมีธุระด่วน ไปก่อนนะคะ...ที่รัก” ไม่พูดเปล่าแก้วกัลยายังหอมแก้มเขาตบท้ายและเดินหนีไป ซึ่งมีรถคันหนึ่งมาจอดรับเธออยู่แล้ว แก้วกัลยาเปิดประตูรถและหันมายิ้มโบกมือให้เขาอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นรถไป ส่วนเพทายยืนนิ่งค้าง ชีวิตเขาไม่สงบอีกแล้ว อย่างที่เขาคิดมันผิดเสียที่ไหน ผู้หญิงคนนั้นคือหายนะ คือความผิดพลาดของเขา และเหมือนจะนึกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นถือโทรศัพท์เขาไปด้วย





“นี่แก้วไปทำอะไรคุณเพชรเขา เขาเหมือนจะช็อคไปนะ” วันวิวาห์เอ่ยถาม แก้วกัลยาส่งไลน์ไปให้วันวิวาห์ก่อนที่จะโทรหาคุณพรทิพย์จากนั้นวันวิวาห์ก็ตามสัญญาณจีพีเอสมา โชคดีที่เธอยังไม่กลับบ้านเลือกที่จะนั่งรออยู่ในร้านขนมไม่ไกลจากวัดมากนัก

“ไม่มีอะไร คอยดูแล้วกันวัน ฉันจะทำให้เขามาคุกเข่าตรงหน้าฉัน ขอความรักจากฉันให้ได้ ผู้ชายคนนั้นท้าทายฉันมาก แล้วจะได้รู้ฤทธิ์ของฉัน แก้วกัลยา...” แก้วกัลยามองโทรศัพท์ที่ยังกรีดร้องดังไม่หยุด

“นังเด็กนี่ก็อีกคน เป็นแค่สโนว์ไวท์คิดจะมาสู้รัศมีของแม่มดอย่างฉันหรอ คิดผิดแล้ว” วันวิวาห์ยิ้ม

“แต่สุดท้ายสโนว์ไว้กับเจ้าชายเขาก็รักกันนะ” เหมือนแก้วกัลยาจะนึกขึ้นได้

“แล้วไง...นั่นมันในนิทาน แต่ในชีวิตจริง แม่มดอย่างฉันนี่แหละจะเอาเจ้าชายมาครอง ฉันนี่แหละจะสร้างตำนานรักบทใหม่ ลิขิตบทเองให้เจ้าชายคู่กับแม่มดใจร้ายอย่างฉัน คอยดูแล้วกันนะวัน”



....ติดตามตอนต่อไป...



ตอนหน้าเจ๊แก้วจะทำอะไรต้องมาติดตามกัน
เนื้อเรื่องจะทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ อย่าพลาดที่จัติดตามกันนะคะ
ฝากคอมเม้นส์เป็นกำลังใจให่กันต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ




พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ค. 2558, 13:49:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มิ.ย. 2558, 12:51:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 884





<< ตอนที่ 1 แก้วกัลยา มารร้ายอสรพิษ   ตอนที่ 3 ผู้หญิงเจ้าแผนการ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account