ความลับ(รัก)ของหัวใจ
เมื่อสาวสวยนามว่าอันนา ได้บังเอิญซุ่มซ่ามชนเข้ากับหนุ่มหล่อดีกรีเดือนมหาวิทยาลัย จนทำให้เสื้อราคาเฉียดหมื่นของเขาต้องเปื้อน มีทางเดียวที่จะชดใช้ได้นั่นก็คือ ยอมมาเป็นแฟนปลอมๆของเขา เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องติดตามค่ะ ^^
Tags: #ไอ้ตัวเล็ก#

ตอน: ไอ้สารเลว

หลังจากที่คาโลประกาศออกไปว่าฉันเป็นแฟนกับเขา ฉันและเขาก็ตัวติดกันอย่างกับปาท๋องโก๋ จะอะไรซะอีกล่ะก็แฟนคลับของเขาคอยจับตาดูพวกเราตลอด ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหนจะต้องตกเป็นเป้าสายตาได้ทุกเมื่อ แต่ทุกคนอย่าคิดนะคะว่าเราจะสวีทหวานน้ำตาลเรียกพี่ มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดแม้แต่น้อย แทนที่ฉันจะได้เดินควงสวีทหวานให้ชาวบ้านเขาอิจฉา แต่ฉันต้องมารับหน้าที่เป็นเบ๊ หรือเรียกง่ายๆว่า คนใช้ของเขานั่นเอง ฉันทั้งคอยถือหนังสือ ซื้อข้าวซื้อน้ำ โอ๊ยย ฉันเดินจนน่องโป่งแล้วค่ะทุกคน คอยดูนะถ้าฉันมีเงินคืนนายเมื่อไหร่ฉันจะเอาคืน 2 เท่าเลยคอยดูนายคาโล
“นี่อันนา ถือหนังสือให้ฉันหน่อย”
“ค่า”
อดทนไว้อันนา อดทนไว้ ฉันต้องท่องไว้ในใจเพื่อระงับความโกรธไม่ให้มันระเบิดออกมา
“ไปซื้อน้ำให้ฉันด้วย”
“ค่า”
“ขึ้นไปเอางาน ที่ห้องอาจารย์ให้ฉันซิ”
“เจ้าค่า”
“แล้วก็....”
“โอ้ย นี่นาย แขนขาไม่มีหรือไงฮะ เดินไปทำเองบ้างสิ”
ฉันโวยวายหลังจากที่เขาใช้งานฉันไม่หยุด คนนะไม่ใช่หุ่นยนต์ ฉันก็เหนื่อยเป็นนะยะ
“งั้นเธอก็เอาเงินมาชดใช้ค่าเสื้อฉันสิ”
กรอดดดๆ เขาทำหน้ายียวนกวนประมาท ถ้าฉันหาเงินมาคืนนายได้เมื่อไหร่นะคาโลฉันเอาคืนนายแน่ ในทุกๆครั้งที่ฉันทำอะไรให้เขา ก็มักจะมีเสียงเสียงแซวว่าฉันเป็นแฟนที่ประเสริฐคอยเอาใจแฟนผู้เป็นที่รัก แต่ใครจะรู้ว่าฉันโดนปีศาจตนนี้บังคับ ขู่เข็ญจิตใจมากมายขนาดไหน กระซิกๆ T_T
O_O
ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วเหรอเนี่ย ฉันก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือ
“ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว ฉันไปก่อนนะ”
“แล้วฉันล่ะ”
“นั่นมันเรื่องของนาย”
“ได้ไง เธอเป็นแฟนฉันนะ ฉันอยู่ที่ไหนเธอก็ต้องอยู่ที่นั่นสิ”
ชิ!! อีตานี่ จะไม่ให้ฉันมีเวลาเป็นของตัวเองบ้างเลยหรือไง สมัยนี้สวยอย่างเดียวไม่พอต้องฉลาดด้วยนะยะ
“แฟนปลอมๆย่ะ”
“นั่นแหละ”
“แต่ฉันมีเรียน หรือนายจะไปนั่งเรียนกับฉันมั้ยล่ะ”
“ไม่ละ เธอรีบไปเรียนเถอะ”
โธ่ ทีนี้ล่ะยอมง่ายๆเลยนะ ฉันล่ะเบื่อจริงๆ พวกที่มีดีแค่ทำหน้าหล่อไปวันๆเนี่ย ฉันรีบเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋า ก่อนที่อีตานี่จะเปลี่ยนใจ ไม่ยอมให้ฉันขึ้นเรียน
“แต่เย็นนี้เธอต้องไปกินข้าวกับฉัน”
“ฉันไม่ว่าง”
“ต้องว่าง”
“อะไรของนาย ไม่มีคนคบหรือไง เพื่อนนายล่ะไปไหนกันหมด”
“เพื่อนฉันไม่อยู่ เพราะฉะนั้นเธอต้องไปกินกับฉัน”
“ไม่ นายก็ไปกินคนเดียวสิ ฉันไม่ว่าง”
“แต่ฉันไม่อยากกินข้าวคนเดียวนี่”
เอาพูดพึมพำอยู่ภายในลำคอ ถึงอย่างนั้นฉันก็ได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน แววตาและสีหน้าของเขาช่างเศร้าหมอง
“กะ...ก็ได้ แต่รีบกินรีบกลับนะ ฉันมีงานที่ต้องทำ”
แววตาของเขาเปลี่ยนเมาสดใสอีกครั้ง
“งั้นเย็นนี้เจอกันนะ ตั้งใจเรียนล่ะ”
เขาส่งยิ้มมาให้ฉัน ก่อนที่จะวิ่งหายไป
ตึกตักๆๆ หัวใจของฉันเต้นดังและรัว อะไรกันฉันเป็นอะไรไป เพียงแค่เขาส่งยิ้มมาให้หัวใจของฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ฉันเข้าไปนั่งเรียนอย่างสับสน เรียนวันนี้ไม่เข้าหัวฉันเลยแฮะ ย้อนนึกถึงแต่สีหน้าและแววตาของคาโลในตอนนั้น เพราะอะไรกันที่ทำให้ฉันไม่กล้าปฏิเสธเขา
“อันนา อันนา ไอ้อันนา”
“ฮะ แกว่าอะไรนะ”
“ฉันด่าแกเรื่องที่แกปล่อยให้ฉันรออยู่ นี่แกไม่ได้ฟังฉันเลยใช่มั้ย”
ยัยเพียวทำเสียงจิจ๊ะในลำคอ บ่งบอกว่าเธอไม่พอใจอย่างแรงที่ฉันไม่สนใจฟังเธอแม้แต่น้อย
“รอ...เฮ้ยนี่อย่าบอกนะว่าวันนั้นแกนั่งรอฉัน”
“4 ชั่วโมง”
O_O ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างแกจะมีความอดทนมากมายถึงขนาดนี้ยัยเพียว ข้าน้อยขอคารวะ
“อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่อง แกตอบฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าฉันพลาดอะไรไป แถมฉันยังได้ยินข่าวลือแปลกๆเรื่องแกกับคาโลไปจูบกันกลางโรงอาหารอีก”
“ข่าวลือเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ว่าแกกับคาโลมันยังไงกันแน่”
ฉันเล่าความจริงทั้งหมดให้ยัยเพียวฟัง รวมถึงที่หมอนั่นโคกสับฉันสารพัด
“ฮือออ พรมลิขิตอ่ะแก
“ฉันว่าเขาน่าจะเรียกว่าเวรกรรมมากกว่านะ”
“แล้วแก มีอารมณ์หวั่นไหวมั่งมั้ยวะ”
“หวั่นไหวอะไรของแกเล่า ไม่มีทางหมอนั้นไม่ใช่สเปกฉัน แกก็รู้ว่าฉันเกลียดพวกผู้ชายเจ้าชู้มากแค่ไหน ชื่อเสีย (เสียจริงๆนะ)เรื่องผู้หญิงของหมอนั่นฉันก็ได้ยินมาไม่น้อย”
ถึงแม้ว่าเขาไม่เคยทำลุ่มล่ามกับฉันก็เถอะ ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย ไว้ใจไม่ได้
“ให้มันจริงเถอะ ฉันกลัวว่าแกจะหลงรักคาโลไปแล้วนะสิ”
“ใครจะไปชอบคนพรรค์นั้น มีแต่พวกที่ตาบอดนั่นล่ะ หมอนั้นทั้งเรื่องมากเอาแต่ใจ ขี้โมโห ชอบโวยวายเป็นที่สุด”
ยัยเพียวไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรต่อ แต่กลับส่งสายตาจับผิดที่ชวนอึดอัด
“ฉันไปหาหนังสืออ่านแก้เบื่อดีกว่า”
“คิดจะหนีเพราะกลัวโดนจับได้ล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ”
“พูดมากน่า”
ฉันรีบสาวเท้าเดินออกมาทันทีขืนอยู่ตรงนั้นยัยเพียวก็คอยแต่จะจับผิด ฉันเดินมาถึงหน้าร้านขายหนังสือที่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่มากนัก เป็นร้านเล็กๆภายนอกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ส่วนภายในเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่ถูกดัดแปลงให้เหมือนสวนสาธารณะขนาดย่อมๆ ร้านนี้เป็นร้านประจำของฉันเวลาเบื่อๆหรือไม่สบายใจ ฉันก็จะมาหาหนังสืออ่านที่นี่เสมอ
“อันนา”
เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งเรียกชื่อฉัน
“แฟรงค์”
ฉันส่งยิ้มหวานให้กับเขา แฟรงค์เป็นลูกของเจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้ เรารู้จักกันได้สักระยะแล้วเขามาดูแลร้านแทนพ่อของเขา เราจึงได้รู้จักและสนิทกันพอสมควร
“มีเรื่องไม่สบายใจหรอ ถึงได้มาที่นี้น่ะ”
“ก็ไม่เชิง ฉันอยากมาหาหนังสืออ่านด้วย”
“อ่อ นึกว่าอยากเจอฉันซะอีก”
“ฮ่าๆๆ แล้วนายเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันก็สบายดี ฉันต้องถามเธอมากกว่านะ ทำไมเธอดูเหนื่อยๆเพลียๆ”
“หน้าฉันแย่ขนาดนั่นเลยเหรอ”
“ฮ่าๆๆ”
เราคุยกันเสียงดังจนเสียงลอดผ่านไปถึงข้างนอก เราสองคนคุยกันอยู่นาน ฉันมองดูนาฬิกาที่ห้อยอยู่ที่ฝาผนังของร้าน จวนใกล้ถึงเวลานัดกับคาโลแล้ว ฉันจึงเอ่ยล่ำลาแฟรงค์แล้วรีบออกจากร้านทันที
ก่อนถึงเวลานัดกับคาโล ฉันก็เตรียมขัดสีฉวีวรรณ ลองเสื้อผ้าจนหมดตู้แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่เหมาะกับฉันเลย ทั้งกระโปรง เดรส แต่เอ๊ะ!!! ฉันแค่ไปกินข้าวกับคาโลเองนะจะตื่นเต้นทำไมกัน สุดท้ายแล้วฉันก็หยิบเสื้อยืดกางเกงยีนส์มาใส่ ก่อนออกจากหอฉันไม่ลืมที่จะส่งเมสเซจบอกคาโลว่ากำลังออกไป
ตึกๆๆๆ!!
ระหว่างทางที่ฉันเดินอยู่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินตามมาตลอดทาง ทุกครั้งที่ฉันหันกลับไปมอง ก็ไม่พบเจ้าของเสียงฝีเท้านั่นแต่อย่างใด
ตึกๆๆๆ!
เสียงฝีเท้านั้นก็ยังคงเดินตามฉันมาเรื่อยๆ คงไม่ใช่ผีนะ ฉันรู้สึกกลัวมากจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
ตึกๆๆๆ! เสียงฝีเท้านั้นวิ่งตรงมาทางฉัน ฉันพยายามวิ่งหนี แต่...
ผัวะ!!!
“โอ๊ย”
ฉันร้องออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด มีคนผลักฉันจากด้านหลังจนฉันล้มลงกระแทกกับพื้นเข้าอย่างจัง
“จะรีบไปไหนละน้องสาวคนสวย ไปหาอะไรกินกับพี่ก่อนสิจ๊ะ”
ฉันเงยหน้ามองต้นเสียง ก็เห็นชายร่างใหญ่หน้าตาหื่นกราม ทรงผมเหมือนนกหัวขวานยืนมองฉันอยู่
“ไม่ ไปให้พ้นไอ้พวกขยะสังคม”
ฉันแผดเสียงด่าชายคนนั้น
“แหม๋ ปากดีจังนะน้องสาว อย่างนี้นี่มันน่าจับปล้ำทำเมียซะให้เข็ด”
พูดจบมันก็เข้ามาประชิดตัวฉันอย่างรวดเร็ว ฉันถอยกรูดออกมาจนทำให้เซล้มลง ไอ้หน้าหื่นกรามนั่นมันพยายามปลุกปล้ำฉัน แต่ฉันใช้แรงทั้งหมดพักจนมันกระเด็นไป
“ใครก็ได้ช่วยด้วย”
ฉันยันตัวลุกขึ้นวิ่งหนีและร้องให้คนช่วยแต่ถูกจับตัวไว้ทัน
เพี๊ยะ
มันตบฉันเต็มแรงจนฉันรู้สึกถึงความคาวของเลือดที่มุมปาก
“หึๆๆๆ แรงเยอะจังนะ อย่างนี้พี่ชอบ ”
สายตาของไอ้โจรนั่นยิ่งน่ากลัวกว่าครั้งก่อน มันลากฉันเข้าไปในป่าข้างทาง ฉันพยายามขัดขื่นจนสุดกำลังแต่ก็ไร้ผล ชีวิตของฉันจะจบลงตรงนี้จริงๆหรือ
“ปล่อยเธอ”
ขณะที่ฉันกำลังรู้สึกสิ้นหวัง คิดว่าจะต้องได้มาเป็นเมียของไอ้หื่นกรามนี่ คาโลก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าที่ดูหน้ากลัว เขาเดินเข้าไปจับไหล่ไอ้สารเลวที่กำลังยื้อแขนฉันอยู่ พร้อมกับตวาดเสียงใส่ด้วยความโกรธ
“ปล่อยก็โง่สิวะ เนื้อชิ้นงามอยู่ในมือแล้วแท้ๆ”
“ฉันบอกให้ปล่อยเธอไง ไอ้สารเลว”
ผัวะ! ผลัก! ตุ้บ!
คาโลปล่อยหมัดไปที่ไอ้หื่นนั่นอย่างเต็มแรงแบบไม่ยั้งจนมันลงไปนอนกองกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ฟันของมันกระเด็นหลุดออกมากองที่ปลายเท้าของฉัน
ผัวะ ผลัก !!
ไอ้หื่นนั่นลุกขึ้นมาแลกหมัดกับคาโลอยู่ชั่วครู่ มันก็ลงไปนอนจมกองเลือดอีกครั้ง
“คาโล คาโล พอแล้วล่ะ มันไม่ลุกขึ้นมาแล้ว”
ฉันเรียกสติของคาโลกลับคืนมาขืนปล่อยไว้ ไอ้หื่นนั่นได้ตายคาหมัดของคาโลแน่
“เจ็บมั้ย มันทำอะไรเธอหรือเปล่า”
คาโลเดินเข้ามาหาฉันทันทีที่ตั้งสติได้
“ไม่ มันไม่ได้ทำอะไร ตะ....แต่ฉันกลัว”
ฉันพูดเสียงสั่นเครือและร้องไห้ออกมาคาโลดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นฉันร้องไห้ แต่เขาก็โอบกอดฉันไว้เบาๆ
“เธอไม่เป็นอะไรแล้วนะฉันอยู่ตรงนี้แล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้แน่นอน ไม่ต้องกลัวนะ”

โปรดติดตามตอนต่อไป
คอมเม้นเป็นกำลังให้ด้วยนะคะ



ไอ้ตัวเล็ก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 มิ.ย. 2558, 11:39:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มิ.ย. 2558, 14:18:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 811





<< จูบแรก   ลักลอบ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account