ความลับ(รัก)ของหัวใจ
เมื่อสาวสวยนามว่าอันนา ได้บังเอิญซุ่มซ่ามชนเข้ากับหนุ่มหล่อดีกรีเดือนมหาวิทยาลัย จนทำให้เสื้อราคาเฉียดหมื่นของเขาต้องเปื้อน มีทางเดียวที่จะชดใช้ได้นั่นก็คือ ยอมมาเป็นแฟนปลอมๆของเขา เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องติดตามค่ะ ^^
Tags: #ไอ้ตัวเล็ก#

ตอน: ของสำคัญ



กรี๊ดดด อ๊ากกก

“คาโล นายจะให้ฉันเล่นเครื่องเล่นพวกนั่นจริงๆเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“แต่ฉันเพิ่งหายไข้เองนะ ถ้าเล่นเครื่องเล่นพวกนี้มีหวังฉันไข้ขึ้นแน่ๆ”
ฉันพูดเสียงสั่น หมอนี่ไถ่โทษด้วยการพาฉันมาเที่ยวสวนสนุก แง๊ๆๆ ฉันกลัวความสูงนะ อีตาบ้า จู่ๆคาโลเดินมาจับหน้าผากของฉัน -////-
“ก็หายแล้วนี่ ที่เธอไม่เล่นเพราะเธอกลัวใช่มั้ย”
“มะ….ไม่ใช่ซะหน่อย ฉันไม่ได้กลัว”
“ถ้าไม่กลัวก็ดี งั้นเราไปเล่นกันเลย”
ทำไมเขาเอาแต่ใจแบบนี้นะ เขาลากฉันไปต่อแถวเล่นเครื่องเล่น เครื่องแรกคือรถไฟเหินเวหาตีลังกา 3 ตลบ แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว ตีลังกา 3 ตลบ ถ้าฉันล่วงลงมามีหวังเละแน่ ฉันได้แต่ยืนขาสั่น
กรี๊ดดดดด
อ๊ากกกกก
หลังจากฉันเล่นเครื่องเล่นแรกเสร็จ สภาพของฉันก็เหมือนครึ่งคนครึ่งผีจูออน ใบหน้าของฉันซีดเซียว โอ๊ยยย ฉันคิดว่าฉันจะตายก่อนได้สามีซะแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ ดูสภาพเธอซิ ซีดเหมือนไก่ต้มเลย”
“ชิ ยังจะมาหัวเราะฉันอีก เพราะใครกันล่ะ”
ฉันส่งสายตาอำมหิตไปให้เขา แต่เขากับไม่สนใจแต่อย่างใด
“เราไปเล่นเครื่องเล่นอันนั้นกันดีกว่า”
เขาชี้ไปที่เครื่องเล่นปลาหมึกยักษ์ น่ารัก น่าเอ็นดู
“แต่ฉันว่าเราไปขึ้นบอลลูนลอยฟ้า ดูวิวที่นี่กันดีกว่า น่าสนุกดี”
“ไม่เอา ฉันอยากเล่นอันนั้นมากกว่า”
กรี๊ดดดด
ฉันกรี๊ดสุดเสียงเมื่อปลาหมึกน่ารัก น่าเอ็นดูเริ่มขยับ
“ฮู้วว มันส์สุดๆไปเลย ”
คาโลตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความมันส์ ฉันได้แต่เพียงแต่หลับตาเพราะความกลัว เครื่องเล่นหมุนอยู่นาน จนฉันรู้สึกเหมือนร่างกายจะปลิวหลุดออกจากโลกนี้ไปแล้ว ฉันคว้าแขนคาโลมากอดไว้แน่น ฉันกรี๊ดจนเส้นเสียงจะออกมาเต้นระบำอยู่แล้ว ในที่สุดเครื่องเล่นก็หยุดลง โอ้ขอบคุณท่านเทวดาที่ให้ลูกได้มีสามีก่อน
“นี่ ยัยเพี้ยน”
“อะไร”
“เธอจะซบฉันแบบนี้อีกนานมั้ย”
ฉันเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ ฉันซบไหล่เขาเหรอเนี่ย น่าอายชะมัดเลย -////-
“ไหนเธอบอกว่าไม่กลัวไง ฉันเห็นเธอกรี๊ดเหมือนโดนฆ่าตกรรมอย่างนั้นล่ะ”
“ก็...ฉันกรี๊ดเป็นเพื่อนนายไง”
“ฮ่าๆๆๆ ยัยเพี้ยนเอ้ย”
เขาเอื้อมมือมาขยี้ผมฉันเบาๆ ทำเหมือนฉันเป็นลูกแมวอย่างนั้นแหละ คาโลพาฉันไปเล่นเครื่องเล่นอีกหลายเครื่องจนหมดแรงไปตามๆกัน เรามานั่งพักกันตรงลานน้ำพุแต่สายตาของฉันก็เห็นเข้ากับป้ายขนาดยักษ์ ที่เขียนว่า บ้านนี้ผีดุ
“คาโล เราเข้าไปในนั้นกันเถอะ”
“ไม่เอาหรอก ของหลอกเด็กน่ะ”
“แต่ฉันอยากเข้าไปเล่นนี่”
คาโลสีหน้าไม่สู้ดีแต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ขอเอาแต่ใจบ้างเถอะ ฉันพยายามฉุดแขนเขาให้เข้าไปจนสำเร็จ บรรยากาศภายในวังเวงและเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก มีคราบเลือดเต็มผนังกำแพงไปหมด สองฝั่งทางเดินยังมีโครงกระดูกห้อยลงมา พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน
“อันนา ฉันว่ามันก็แค่ของหลอกเด็กนะ ออกจากที่นี่กันแถอะ”
คาโลพูดจบก็มีมือประหลาดที่โชกไปด้วยเลือดมาจับแขนของเขาไว้
อ๊ากก
คาโลร้องลั่น พร้อมกับฉุดมือฉันให้วิ่งหนีหลบไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง
“ฮ่าๆๆ คาโลนายกลัวผีเหรอเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะซิยัยเพี้ยน และอีกอย่างเธอควรจะเก็บอาการหัวเราะของเธอซะด้วย”
“แต่หน้านายเมื่อกี้มันตลกอ่ะ ฮ่าๆๆ”
“ทีฉันเห็นหน้าเธอตอนเล่นเครื่องเล่น ฉันยังไม่เอามาล้อเลยนะ”
“ฮ่าๆๆๆ ก๊ากกกก”
“นี่ยัยเพี้ยน ถ้าเธอยังไม่หยุดหัวเราะนะ เธอโดนดีแน่”
อุ๊บบ ฉันได้แต่ยืนปิดปากเงียบ ถ้าขืนหลุดหัวเราะออกไปมีหวังตายคามือคาโลแน่
“แล้วเราจะไปทางไหนต่อละเนี่ย”
เขาพยายามทุบผนังห้องเพื่อหาทางออก
“ฉันว่าเราเดินตามรอยเลือดไปดีมั้ย เผื่อจะเจอทางออกน่ะ”
“เธอก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ ยัยเพี้ยน”
O_O เหมือนฉันโดนหลอกด่ายังไงก็ไม่รู้นะ พวกเราเดินตามรอยเลือดไป ทางเดินก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ คาโลเกาะแขนฉันไว้แน่น และดันให้ฉันเดินนำหน้าแทน
“คาโล นายเห็นอะไรมั้ย”
“เห็นอะไร”
เขาถามเสียงสั่น ฉันชี้ไปที่ถังใบหนึ่งที่มีเลือดซึมออกมา
“นายเข้าไปดูสิ ในนั้นอาจมีแผนที่บอกทางออกให้เราก็ได้นะ”
“เธอคิดงั้นเหรอ แต่ฉันคิดว่ามันไม่น่ามีนะ”
“อย่าปอดแหกไปหน่อยเลยนะ ผีไม่มีในโลกหรอก”
ฉันดุเขา คาโลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ยอมทำตามที่ฉันบอกโดยดี
“ถ้าฉันช๊อคตาย ฉันจะกลายเป็นผีมาหลอกเธอ ยัยเพี้ยน”
เขาขยับเข้าไปใกล้ทีละนิดๆ เลือดที่ไหลอยู่ตามพื้นก็เพิ่มขึ้นจนท่วมทางเดิน ไฟในห้องก็ค่อยๆมืดลง ฉันมองเห็นเงาของใครบางคนเดินตรงมาทางฉัน เงานั้นเอื้อมมือมาปิดปากฉันไว้ ฉันพยายามดิ้นจนสุดแรงแต่ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด
“อาโอ อ้วยอั๋นอ้วย (คาโล ช่วยฉันด้วย)
[คาโล talk]
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆถังใบนั้น และเห็นกระดาษไปหนึ่งแปะอยู่เขียนว่า ‘หายตัว’ หลังจากนั้นไฟก็ค่อยๆสว่างขึ้น
“ยัยเพี้ยน ฉันเจออะไรก็ไม่…”
ผมเงยหน้าขึ้น และมองไปรอบๆก็ไม่เห็นอันนาแล้ว เห็นเพียงกระดาษใบหนึ่ง ที่เขียนว่า ‘เลือด’ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมตั้งสติอยู่สักพักก็เดาได้ว่าการหายตัวไปของอันนา น่าจะโดนไอ้พวกผีจับไปซ่อนและผมต้องไปหาเธอให้เจอด้วยคำใบ้พวกนี้ ผมเดินตามรอยเลือดไปเรื่อยๆ สองข้างทางมีหุ่นและโครงกระดูกน่ากลัวเต็มไปหมด
ครื้ดดด
ผมหยุดเดินทันทีที่ได้ยินเสียงผิดปกติดังมาจากทางด้านหน้า
ครื๊ดดด เสียงมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“อันนาใช่เธอหรือเปล่า”
........
“อันนา”
ผมตะโกนถามออกไปเสียงดัง แต่ไม่มีใครตอบกลับมา
O_O
ภาพตรงหน้าผมคือผู้หญิงผมยาว ใบหน้าซีดเซียวคนหนึ่งกำลังคลานมาทางผม เธอคว้าข้อเท้าผมไว้ทันก่อนที่ผมจะได้วิ่งหนีทัน ผมสะบัดขาอย่างแรงจนผีผู้หญิงกระเด็นไปไกล
อ๊ากกกก
ผมร้องลั่นและวิ่งหนีสุดชีวิต ถ้าสาวๆมาเห็นผมในตอนนี้พวกเธอคงผิดหวังกันเป็นแถวๆแน่ ผมวิ่งหนีตามทางมาเรื่อยๆ จนเจอบันไดที่จะขึ้นไปชั้น2 บรรยากาศที่วังเวงก็กลับมาอีกครั้ง บันไดแต่ละขั้นมีชิ้นส่วนของมนุษย์หล่นกระจายอยู่เต็มพื้น ทั้งลูกตา นิ้วมือ และข้อเท้า ถึงแม้มันจะเป็นเพียงของปลอมแต่ก็ทำให้ลุกขึ้นมาได้ทันที ผมฝืนใจขึ้นบันไดไปจนมาถึงขั้นสุดท้าย ก็พบกับป้ายเขียนว่า ‘ตามหา’ พร้อมกับมีสัญลักษณ์รูปกุญแจ ผมคงต้องตามหากุญแจดอกนั้นให้เจอสินะ ผมค่อยๆก้าวอย่างช้าๆเพื่อไปเปิดประตูห้องแรก บรรยากาศภายในเห็นแล้วชวนขนหัวลุก เป็นห้องนอนเก่าๆ มีรอยเลือดลากเป็นทางยาว มีโครงกระดูกที่สภาพสมบูรณ์นอนอยู่ที่เตียง ผมกวาดสายตาไปทั่วเพื่อหากุญแจแต่ก็ไม่พบ ผมจึงปิดประตูและรีบเดินไปห้องถัดไป เมื่อเปิดห้องที่2เข้าไปผมแทบอยากจะวิ่งหนีกลับหอพักให้รู้แล้วรู้รอด ในห้องมีแต่ชิ้นส่วนของมนุษย์กระจายเต็มทางเดิน มีหุ่นหญิงสาวที่โดนตัดแขนขาและผ่าท้องเอาเครื่องในไปทำอาหาร เห็นแล้วอยากจะอาเจียนออกมา สายตาผมเหลือบไปเห็นสัญลักษณ์รูปกุญแจที่อยู่ด้านหลังของชายคนหนึ่งซึ่งเนื้อตัวมอมแมม ถือใบเลื่อยขนาดใหญ่ มันจ้องผมเขม็ง
“อ๊ากกก ไอ้ผีบ้า แกจะเล่นวิ่งไล่จับหรือไงวะ”
ผมร้องเสียงหลง เมื่อไอ้ผีนั่นก็วิ่งตามผมไม่หยุด จังหวะนั่นเองตอนที่มันล้มลง ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปคว้ากุญแจ และออกจากห้องทันทีโดยไม่ลืมขังไอ้ผีนั่นไว้ในห้อง
แฮ่กๆๆๆ
ผมเดินตามทางอย่างไม่มีจุดหมาย จนในที่สุดผมก็พบกับตู้ขนาดใหญ่ที่มีกระดาษเขียนว่า ‘ของสำคัญ’ ผมคิดว่าคนที่อยู่ในนั้นน่าจะเป็นอันนา ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปไขกุญแจเพื่อเปิดประตูทันที
“อันนาๆๆ”
“คาโล”
เธอพูดเสียงสั่น
“เธอเป็นอะไรไหม”
“ไม่จ๊ะ”
“เราออกจากที่นี้กันเถอะ”
ผมกำลังมองหาทางออกจากบ้านผีดุแห่งนี้ แต่พวกผีทั้งหลายต่างมารวมตัวกันในห้องอย่างหนาแน่น และพยายามดึงเราสองคนไว้
“น้องสาวคนสวย มาอยู่กับพี่เถอะ”
ผีลุงแก่คนหนึ่ง พยายามฉุดแขนอันนาไว้
“เอ่อ ไม่เป็น….”
“ไม่ต้องหรอกลุงผีทะเล แฟนผม ผมดูแลเองได้”
ด้วยความหงุดหงิด ผมทั้งเตะ ทั้งต่อยผีพวกนั้นจนในที่สุดเราก็ออกมาได้
“ยินดีด้วยนะคะ ที่น้องๆทำภารกิจช่วยแฟนออกมาได้สำเร็จ ทางเรามีของรางวัลมาให้ด้วยคะ เป็นเสื้อคู่รักสุดเก๋ขอให้รักกันนานๆคะ”
ในขณะที่เรายืนพักเหนื่อยกันอยู่นั้น พนักงานที่คุมเครื่องเล่นบ้านพี่ดุพูดขึ้น
“เอ่อ ขอบคุณมากนะคะ”
ยัยเพี้ยนตื่นเต้นและดีใจเป็นยกใหญ่
“นี่คาโล เสื้อคู่รักนี่น่ารักจังเลยนะ ^_^”
………..
“ถ้านายไม่เอา ฉันขอนะ - -”
………..
“นี่คาโล นายเป็นอะไรไป โกรธอะไรฉันเหรอ”
“ก็เธอ……”
“ฉัน ทำไมเหรอ”
“ชั่งเถอะ กลับกันได้แล้ว ไม่สนุกแล้วล่ะ”
“นายนี่ท่าจะเพี้ยนนะ”
ผมไม่สนใจคำด่าของอันนา ก็คนมันหงุดหงิดนี่ นึกถึงหน้าไอ้ผีลุงนั่นแล้วมันยิ่งโมโห น่าฆ่าทิ้งให้กลายเป็นผีจริงๆไปซะ ตลอดทางที่ผมขับรถกลับ ไม่มีบทสนทนาใดๆ ของเรา 2 คน เหมือนกำลังเล่นเกมส์ว่าใครพูดก่อนคนนั้นแพ้
“คาโล ฉันขอบใจนะที่เข้าไปช่วยฉันออกมาจากตู้ ฉันนึกว่าจะต้องกลายเป็นศพอยู่ในนั้นซะแล้ว”
“ก็เธอเป็นของสำคัญนี่”
ผมลดเสียงพูดให้เบาลง -////-
“นายว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้ยินอ่ะ”
“ฉันบอกว่าเสื้อนั่นนะ เอามาให้ฉันด้วยตัวหนึ่ง”
“ก็นายให้ฉันแล้วนี่”
“ฉันยังไม่ได้พูดสักคำ”
“ชิ ขี้งก”
เธอทำเสียงจิจ๊ะในลำคอ
“เออนี่คาโลในบ้านผีดุน่ะ ตอนที่นายพูดกับผีลุงนั้น ว่าฉันเป็น….”
“เป็นแฟนฉันน่ะเหรอ”
“อืมใช่”
“ทำไมล่ะ”
ผมถามเธอด้วยความสงสัย
“คือ...ฉันคิดว่าเราอยู่นอกมหาลัยแล้ว นายไม่ต้องพูดแบบนั้นก็ได้ถ้านายอึดอัดใจน่ะ ไม่มีแฟนคลับตามมาหรอก”
ผมหันมองหน้าเธอ และหันกลับไปตั้งใจขับรถตามเดิม บรรยากาศในรถกลับมาเงียบดังเดิม อันนารอคำตอบจากผมอยู่นานจนเผลอหลับไป
‘ฉันไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจเลยนะ ยัยเพี้ยน’

โปรดติดตามตอนต่อไป

คอมเม้นติชมเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

*** ช่วงนี้อาจจะอัพช้าหน่อยนะคะ เนื่องจากเป็นหวัด ฮั๊ดชิ้ววว***



ไอ้ตัวเล็ก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 มิ.ย. 2558, 23:12:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 มิ.ย. 2558, 23:12:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 769





<< ลักลอบ   ตึกตักๆ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account