แก้วขวัญวันรัก "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
เป็นเรื่องราวต่อยอดมาจาก แก้วขวัญวันรัก
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"
โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี
แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"
โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี
แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
Tags: แก้วกัลยา เพทาย ความรัก เดิมพัน
ตอน: ตอนที่ 7 ผู้ชายในคลิป
7
ผู้ชายในคลิป
สองสามวันมานี้แก้วกัลยาค่อนข้างวุ่นวายตั้งแต่เช้าจรดเย็น เธอไม่มีเวลาขยับตัวไปไหน และเมื่อคืนเธอยังต้องอยู่ค้างที่สปา โดยมีมิลาที่คอยอยู่เป็นเพื่อนคอยหาซื้อเสบียงและนอนเฝ้ายามเธอเรียกใช้ เมื่อคืนแก้วกัลยานั่งร่างแบบเสื้อผ้าที่ต้องเตรียมส่งไปให้เทรซที่กำลังรอแบบเสื้อจากเธอ และยังครีมสปาที่เธอกำลังวางแผนจะเปิดตลาดวางขายให้กว้างขึ้นเพราะคนเริ่มรู้จักครีมสปาของเธอแล้ว เพราะความยุ่งมากในสองสามวันนี้แก้วกัลยายังไม่มีโอกาสไปเจอกับเพทายได้แต่โทรถามสารทุกข์สุขดิบและหยอดคำหวานเรียกคะแนนจากเขา สิ่งที่น่าแปลกคือเขายอมคุยกับเธอ และหลายวันมานี้เธอไม่เห็นแม้แต่เงาของดารินทิพย์
แต่แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเช้าทำให้เธอต้องรีบเคลียร์งาน และขับรถฝ่าจราจรที่ตัดขัดในวันสุขตอนเย็น ๆ แบบนี้มาที่บริษัทวีนัส ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้าที่เธอกำลังทำงานอยู่รักจิราก็โทรมาบอกข่าวของวีนัสที่รักจิราพึ่งรู้ เกิดเรื่องใหญ่เมื่อมีมือดีปล่อยข่าวคีตภัทรออกไป ว่าแท้จริงแล้วนักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย ไม่ได้เป็นลูกในสมรสของคุณธนากรและคุณพรรณราย แต่คีตภัทรเป็นลูกที่เกิดจากเมียเก็บของคุณธนากร ปมประเด็นนี้กำลังมีการถกเถียงใหญ่โตว่าจริงเท็จอย่างไร แก้วกัลยาได้แต่คิดว่าถ้าเกิดคีตภัทรเป้นคนธรรมดาคงไม่มีใครสนแน่ว่าจะเป็นลูกเมียหลวงเมียน้อย แต่คีตภัทรเป็นคนดังใคร ๆ ก็รู้จักทำให้ข่าวของคีตภัทรดูจะกระพือโหมแรงยิ่งกว่าเปลวไฟ
ยังไม่จบเพียงเท่านั้นเมื่อมีคนตั้งตัวว่าเป็นแอนตี้วีนัส ปล่อยข่าวข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของวีนัสขึ้นมาเรื่อย ๆ หาข้อด้อยทุกอย่างมาเป็นประเด็น เมื่อเว็บหนึ่งสั่งปิดเว็บใหม่ก็ตามมา บอร์ดแอนตี้วีนัสผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ ราวดอกเห็ด ภาพลักษณ์ของวีนัสกำลังจะเสียหายอย่างรุนแรง อยู่ในขั้นวิกฤต เพทายต้องสมองแตกก่อนแน่ แก้วกัลยาจึงต้องรีบขับรถมาหาเขา และเธอมั่นใจว่าเวลาเย็นจวนจะมืดแบบนี้เพทายยังไม่ออกจากบริษัท
“คุณกลับไปก่อนนะคุณมงกุฎ” แก้วกัลยาก็วิ่งกระหือกกระหอบลงจากรถส่งกุญแจรถให้กับมงกุฎที่มาด้วยและลิฟต์เข้าไปในตึก มินตรายังนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง เพราะเจ้านายยังไม่กลับเธอจึงยังกลับไม่ได้ เมื่อหันมาเจอแก้วกัลยาเธอก็ยิ้มอย่างดีใจ
“คุณแก้ว”
“คุณเพชรล่ะ”
“ยังอยู่ด้านในค่ะ วันนี้ทั้งวันท่านประธานยังไม่ออกจากห้องเลย คุณทรงกลดมาขอพบดูเหมือนจะพูดเรื่องไม่ดีแล้วก็ออกไป ท่านประธานดูเครียดกว่าเดิมอีกนะคะ”
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” แก้วกัลยาเอ่ยและเดินเข้าไปในห้องทำงานของเพทายทันทีโดยไม่ให้มินตรารายงานเข้าไป แก้วกัลยาหยุดยืนสำรวจมองผู้ชายที่เป็นเสาหลักของวีนัส ใบหน้าเพทายเครียดขึงกว่าเมื่อวันก่อนเสียอีก เธอไม่เข้าใจว่าเพทายดวงตกหรือไง หรือดวงศัตรูเข้าแทรกถึงโดนขนาดนี้
“คุณเพชร” เขาเงยหน้าขึ้นจากโน้ตบุ๊ก มองแก้วกัลยาที่ถือกล่องอาหารเดินเข้ามาด้วย
“มินตราโทรมาบอกฉันว่าคุณเข้าบริษัทตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง จนนี้เย็นแล้วคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย พักทานอะไรสักนิดนะคะ เดี๋ยวคุณเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะแย่เอา ปัญหาตอนนี้เยอะพอแล้ว ถ้าคุณเป็นอะไรไปอีกปัญหาจะเยอะกว่าเดิมเอานะคะ” ในมือแก้วกัลยาถือกล่องอาหารมาวางลงที่โต๊ะเพทายเขาส่ายหน้า แต่แก้วกัลยาก็เปิดกล่องอาหารและลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เขา
“เลือกเอาจะกินเองหรือให้ฉันป้อน ถ้าฉันป้อน ฉันไม่ใช้มือป้อนนะคะ” เขาถอนหายใจกับความจู้จี้ของแก้วกัลยาแต่ยอมตักข้าวเข้าปากสี่ห้าคำและปิดกล่องส่งคืนให้แก้วกัลยา ตอนนี้เขากินอะไรไม่ลงกินได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว แก้วกัลยามองข้าวที่กินไม่หมด แต่ก็ดีกว่าเขาไม่กินเลย
“แขนฉันก็เดี้ยง ตามข้อตกลงคุณต้องดูแลฉันจนกว่าฉันจะตัดเฝือกออก นี่อะไรฉันต้องมาดูแลคุณแทน อย่าให้ฉันรู้นะว่าใครมันทำ ฉันจะตามไปถลกหนังหัวมัน บังอาจทำให้ฉันเสียโอกาส” แก้วกัลยาบ่น เพทายเหล่ตามองแก้วกัลยาที่บ่นไม่หยุด สุดท้ายเธอก็หันมาถามเขา
“แล้วรู้หรือยังคะว่าใครปล่อยข่าว แล้วเจ้าของเว็บบอร์ดนั่นเป็นใครถึงรู้เรื่องพวกนี้ได้”
“กระทู้เว็บบอร์ดเป็นนามแฝง ประวัติของผู้สร้างเว็บบอร์ดก็ไม่ใช่ของจริง ตามปิดเว็บหนึ่งก็มีอีกเว็บโผล่ขึ้นมา พวกเขาตั้งใจจะทำลายวีนัส”
“ฉันเข้าใจว่าการเป็นข่าวฉาวจะช่วยสร้างกระแส แต่นี่เล่นฉาวทั้งบริษัทแบบนี้ เฮ้อ ...ฉันคิดว่าคุณควรรีบจัดแถลงข่าวก่อนมันจะแย่ไปกว่านี้ อีกสามวัน ไม่สิ พรุ่งนี้เลยดีกว่า เพราะถ้าปล่อยให้นานไปบริษัทคุณจะดำดิ่งลงเหวแน่ ๆ เพราะคนจะไม่เชื่อในคุณภาพของบริษัท แล้วมองว่าวีนัสมีแต่นักร้องภาพลักษณ์แย่ ๆ” แก้วกัลยาเสนอความคิด
“คุณคิดว่าผมไม่อยากทำหรือไงแก้วกัลยา แต่ข่าวคีตะ ภีม แบร์ ข่าวพวกนี้ใหญ่ เป็นผลกระทบมากกว่าข่าวพวกขุดพฤติกรรมเก่านักร้องเสียอีก”
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อคะ” แก้วกัลยาถาม
“ผมคิดว่าต้องเคลียร์ข่าวทุกอย่าง อาจจะจัดแถลงข่าวอาทิตย์หน้า”
“ไม่ได้นะคะ ถ้ารออาทิตย์หน้ามันก็เกินกำหนดที่ตาแก่...เอ่อ...คุณทรงกลดเขาบีบคุณ คุณต้องแถลงข่าวให้เร็วที่สุดวันพรุ่งนี้ได้ยิ่งดี แถลงข่าวแก้ประเด็นรอง ๆ ไปก่อน อย่างน้อยออกไปประกาศให้ชัดเลยว่าข่าวที่เกิดขึ้นเกิดจากคนที่ไม่หวังดี ถ้าเราแถลงข่าวออกไปว่ามีผู้ไม่หวังดีกำลังหาทางเล่นงานวีนัสคนจะให้ความเห็นใจวีนัสมากกว่าซ้ำเติม และสำคัญมากคืออย่าพักงานนักร้องที่เป็นข่าวเด็ดขาด เพราะมันจะยิ่งทำให้คนมองว่ากำลังหนี ให้นักร้องที่เป็นข่าวให้ข่าวไปตามความจริง ประชาชนต้องการความจริง ถ้าตอนนี้เขาไม่ได้ทำเรื่องนั้นแบบในอดีตยังไงสังคมจะให้โอกาสมากกว่า” เพทายยิ้มออกมานิด ๆ หลังจากสิ้นคำพูดของแก้วกัลยา
รอยยิ้มนี้เป็นรอยยิ้มของเธอ ไม่ใช่รอยยิ้มที่เผื่อแผ่มาจากคนอื่นเหมือนทุกครั้ง แก้วกัลยามองเขาด้วยแววตาดีใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะได้รอยยิม้จากเขา แม้จะเป็นยิ้มที่อ่อนล้า แต่เขาก็ยิ้มให้กับเธอแล้ว รอยยิ้มจากเขาเหมือนเป็นสัญญาณดี ๆ ที่กำลังร้องเตือนว่าเธออาจจะทำสำเร็จ
“คุณมินตราเข้ามาพบผมด้วย” มินตราเปิดประตูเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าโต๊ะ
“คุณมินตราคุณโทรไปแจ้งนักข้าวแต่ละสำนักพิมพ์ว่าเราจะจัดแถลงข่าววันพรุ่งนี้ตอนบ่ายโมง แล้วเรียกตัวนักร้องทุกคนในค่าย ทีมงานทุกคนให้มาพบผมที่ห้องประชุมใหญ่วันนี้ตอนสองทุ่ม ส่วนใครที่ยังมีงานด้านนอกสั่งให้มาพบผมพรุ่งนี้เช้าตอนแปดโมงอีกครั้ง” มินตรารับคำสั่งและเดินออกไป
“เรื่องคีตะ ฉันคิดว่าปัญหาไม่ได้ใหญ่ ทำไมไม่เรียกคุณพรรณรายกับคุณธนากรออกมาเคลียร์ข่าวล่ะคะ”
“น้าพรรณรายไปปฏิบัติธรรมที่อินเดียกับแม่ผม ถ้าโทรไปตามแม่ผมต้องร้อนใจตามกลับมาแน่”
“คุณไม่อยากให้คุณน้ารู้”
“ครับ ผมพึ่งโทรไปสั่งให้แม้พร้อมปิดเงียบไว้” แก้วกัลยาพยักหน้าอย่างเห็นใจ
“ส่วนลุงธนากรผมลองให้คนติดต่อไปแล้ว แต่ท่านเลี่ยงจะพูดกับผม ฝากให้คนมาบอกแค่ว่าจะไม่ยุ่งด้วย เพราะเขาเคยออกตัวแล้วว่าจะไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวเรื่องอะไรก็แล้วแต่ของคีตะ”
“แล้วคีตะจะออกมาให้ข่าวได้ไหมคะ”
“ผมว่าคีตะก็คงไม่อยากออกมาให้ข่าว หรือพูดอะไรที่เกี่ยวกับคุณลุงธนากรแน่ครับ” แก้วกัลยาขมวดคิ้วสงสัย เธอเองก็รู้แค่ว่าคีตภัทรเป็นลูกชายคนเล็กของธนากร ธนากรเองก็ดูสนิทกับพรรณราย แต่เธอไม่เคยสังเกตว่าคีตภัทรไม่เคยออกงานร่วมกับธนากร หรือไม่เคยมีข่าวครอบครัวสุขสันต์ร่วมกันเลยระหว่างครอบครัวนี้ เฟรมภาพครอบครัวนี้ไม่เคยครบ เหมือนถ้ามีธนากรจะไม่มีคีตภัทร ถ้ามีคีตภัทรเฟรมนั้นจะไม่มีธนากร
“แสดงว่าคุณธนากรกับคีตะก็มีปัญหากันจริง ๆ สิคะ” เพทายมองแก้วกัลยาที่เอ่ยเสียงเปรย ๆ ขึ้นมา
“ขอโทษค่ะ ฉันก็แค่แปลกใจ” พรรณรายภรรยาของคุณธนากรเป็นน้องสาวของคุณพรทิพย์ เธอคิดว่าเรื่องนี้คนที่รู้เรื่องอีกคนก็ต้องเป็น เพทายนี่แหละ แต่เขาไม่พูด และเธอก็ไม่กล้าทู่ซี้จะถาม แต่ถ้าเธออยากจะรู้มันก็ไม่ยาก
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราก็แก้ปัญหารองไปก่อน ปัยหารองยุติได้ก็คงไม่มีอะไรแล้ว ส่วนปัญหาหลักฉันว่าคุณคงต้องลงจากเก้าอี้ไปดูเอง เอาอย่างนี้ไหมคะหลังวันแถลงข่าวเราไปพบภีมดีไหมคะ ข่าวของภีมส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์งานถูกยกเลิกหมดแล้ว ร้ายแรงกว่าคีตะเสียอีก” ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกได้แต่พยักหน้ารับ เขามองสีหน้าของแก้วกัลยาที่เหมือนกำลังช่วยเขาคิดวิธีแก้ปัญหา เขาพึ่งรู้ข้อดีอีกข้อของแก้วกัลยาในวันนี้แก้วกัลยาไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉลาดเรื่องความแกมโกงหรือความเจ้าเล่ห์เท่านั้น เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดในความคิด นี่คืออีกมุมที่เขาไม่เคยเห็น แก้วกัลยาไม่ใช่คนที่สวยไปวัน ๆ เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและยืนหยัดด้วยตัวเอง บางทีเขาควรจะมองผู้หญิงคนนี้ในอีกมุมบ้าง หยุดฟังเรื่องไม่ดีของเธอ เขาอาจจะได้เจออะไรดี ๆ ในตัวเธอ
“จริงสิคะ คีตะจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้นี่คะ ฉันว่านักข่าวต้องมารอหน้าห้องแล้วแน่ ๆ ปัญหารอยร้าวของครอบครัวคนกำลังสนใจ ถ้าความไม่แน่ชัดเกิดขึ้น คนฟังข่าวอาจจะเอามาตีไข่ใสสีแตกประเด็นไปอีก ทางที่ดีคุณน่าจะหาทางให้คุณธนากรออกมาให้ข่าวพร้อมกับคีตะให้ได้ เท็จจริงยังไงคนในสังคมก็คงรับฟังได้อยู่แล้ว แต่ถ้าคีตะออกมาให้ข่าวคนเดียวภาพลักษณ์ปัญหาครอบครัวแตกร้าวจะยิ่งชัด”
“เรื่องคีตะผมเตรียมการไว้แล้ว เมื่อเช้าผมให้มินตราไปเยี่ยม ดูเหมือนคีตะจะเครียดกับเรื่องนี้มากด้วย เขาออกปากมาเองว่ายังไม่พร้อมจะให้ข่าว เขาขอเวลาสักพัก”
“ไม่อยากเชื่อ ผู้ชายสมบูรณ์พร้อมแบบคีตะจะมีปัยหาครอบครัว”
“ผมคิดว่าจะเอาเรื่องที่มีคนลอบทำร้ายคีตะมาเป็นประเด็นใหม่ ให้คนจับตาเรื่องที่มีคนต้องการทำร้ายคีตะ แบบนี้อาจจะเบี่ยงประเด็นเรื่องครอบครัวได้สักพัก”
“ฉันเห็นด้วยค่ะ แฟนคลับคงจะเป็นห่วงคีตะด้วย แต่ถ้าคีตะยังทำงานก็คงต้องชนกับนักข่าว”
“ผมกำลังคิดว่าจะส่งคีตะไปเก็บตัวระหว่างนี้ งานของคีตะผมสั่งพักไปหมดแล้ว คีตะจะออกจากโรงพยาบาลตอนสองทุ่ม ผมยังคิดไม่ตกว่าจะให้คีตะฝ่ากองทัพนักข่าวมาได้ยังไง”
“ฉันมีวิธีค่ะ” เพทายหันไปมองเหมือนรอคอยคำตอบจากแก้วกัลยา
“คอยแป๊บนะคะ คนนี้รับรองว่าจะช่วยได้” แก้วกัลยาโทรหาคน ๆ หนึ่งที่จะช่วยได้
(ว่าไงแก้ว)
“ฉันมีเรื่องให้เธอช่วย คือว่า....” แก้วกัลยาเดินไปริมหน้าต่างห้องและยืนพูดสักพักก็ตัดสายไป เธอหันกลับมายิ้มให้เพทาย
“ทีนี้ก็เรียบร้อย สองสามวันนี้ให้คีตะไปพักที่บ้านฉันก่อน พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ฉันจะให้วันพาคีตะไปเก็บตัวที่ระยองทีนี้ก็เหลือแค่รีบหาทางเคลียร์ข่าว คุณช่วยไปคุยกับคุณธนากรอีกครั้งได้ไหมคะ ยังไงคุณธนากรก็เป็นพ่อ คงมีเยื่อใยกันบ้าง แล้วช่วยคุยเรื่องพักงานให้วันด้วยได้ไหมคะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของแก้วกัลยายามเอ่ยทำให้เพทายอดสงสัยไม่ได้
“ทำไมครับ”
“ฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะ เชื่อสิว่าวิธีของฉันเวิร์ก ระหว่างนี้ฉันจะหาทางติดต่อกับพวกแฟนคลับของคีตะอีกที วันนี้ฉันมีธุระ คุณอย่าลืมกินข้าวที่เหลือให้หมด ไม่ต้องห่วงถ้ามีฉันคุณไม่โดนปลดแน่ บริษัทนี้พ่อคุณสร้างเรื่องอะไรฉันจะยอมให้ว่าที่สามีฉันเสียมันไปล่ะ”
“คุณแก้ว” เขาเอ่ยเรียกเสียงดุที่แก้วกัลยาพูดออกมาได้ไม่อาย เขาเป็นผู้ชายเขายังไม่กล้าพูดแบบนี้กับใครเลย ถ้าเธอทำตัวปกติสักนิดเขาอาจจะหวั่นไหวไปแล้ว แต่แบบนี้เขาหวั่นไหวไม่ลง
“เรียกแบบนี้แสดงว่ารักใช่ไหมคะ ก่อนไปขอบอกอะไรอย่างหนึ่งนะคะ สายตาชื่นชมฉันไม่อยากได้ แต่ฉันอยากได้หัวใจ ถ้าอยากตอบแทนที่ฉันช่วยขอใจนะคะ ไม่เอาชื่นชม พอดีฉันโลภมาก ๆ” แล้วแก้วกัลยาก็เดินออกไป แต่อยู่ ๆ ก็เปิดประตูเดินกลับเข้ามาทำเอาเขาตกใจ
“ฉันลืมบอกคุณ รักที่รักของแก้วนะคะ จุ๊บ ๆ แล้วคืนนี้จะโทรมากู๊ดไนท์คิสนะคะ ถ้าไม่รับสายฉันจะขับรถไปกู๊ดไนท์...คิส...ถึงบ้านคุณนะคะ” แล้วแก้วกัลยาก็เดินออกไป การหยอกล้อให้ใบหน้าของเพทายเปลี่ยนไปมากลายเป็นความสุขของเธอไปแล้ว เพราะเวลาหน้าเขาเหลอ ตกใจ งุนงง มันทำให้เธอรู้สึกว่าเขามีชีวิตชีวากว่าสวมหน้ากากแล้วยิ้มสุภาพ ๆ ที่มันดูเสแสร้าง รวมถึงเธอชอบใบหน้าแดง ๆ ของเขาที่เขาเผลอทำออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขาไม่รู้หรอกยิ่งทำเธอก็ยิ่งชอบ เธอชอบผู้ชายขี้อายแบบเขานี่ล่ะ และเขาต้องเป็นของเธอ
แก้วกัลยานั่งมองภาพสเก็ตซ์ในมืออย่างครุ่นคิด ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว เธอพึ่งโทรไปคยกับเพทายเรื่องที่เขาเรียกประชุมนักร้องและทีมงานในบริษัทเมื่อตอนสองทุ่ม ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนที่บ้านของเธอก็ดูคึกคักขึ้นมาทันที่เมื่อในบ้านมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน นั่นคือคีตภัทรและเขากำลังเป็นพ่อครัวกิตติมาศักดิ์ให้กับสามสาวในวันนี้ โดยมีวันวิวาห์ไปช่วยเป็นลูกมือตามคำสั่งการของผู้หญิงที่ทำตัวเป็นมาเฟียของบ้าน แก้วกัลยามองภาพในมือสลับกับภาพวีดีโอในน็ตบุ๊ค จังหวะนั้นก็มีเสียงเท้าคู่หนึ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า แก้วกัลยาตวัดสายตาขึ้นมองก็เห็นว่าเป็นรักจิรา เธอทำสีหน้าแปลกใจนิด ๆ ที่เห็นรักจิรากลับมาเร็วกว่าทุกวัน
“วันนี้กลับเร็วนี่ สงสัยเจ้านายจะใจดีนะแก ปกติถ้าฟ้าไม่มืดแทบไม่เห็นหน้าแก” แก้วกัลยาหันไปเอ่ยพูดเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าจ้องหน้าจอโน็ตบุ๊คต่อ
“ไอ้สายฟ้ามัน....เอ่อ...วันนี้เค้าเคลียร์งานเสร็จเร็ว ว่าแต่ตัวดูอะไรอยู่เจ๊แก้ว” รักจิราตอบกลับไป และเดินมานั่งข้าง ๆ และมองภาพสเก็ตซ์สลับกับหน้าจอคอม ก่อนจะ
“อี๋ เจ๊แก้ว ตัวโคตรลามกเลย นั่งดูคลิปโป๊ เข้าใจนะว่าเป็นสาวโสดแต่มาอารมณ์เปลี่ยวอะไรกลางบ้าน จะดูขึ้นไปดูคนเดียวบนห้องโน่น”
โป๊ก!!!
“โอ๊ย เจ๊แก้ว” รักจิราร้องเมื่อโดนมะเหงกลูกใหญ่จากมือของญาติผู้พี่
“ฉันกำลังสืบหาความจริง คลิปนี่เป็นคลิปที่นายภีมโดยแบล็กเมล์ข้อหาข่มขืนไงล่ะ มองมุมข้าง ๆ ก็มีส่วนคล้ายอยู่หรอก แต่ห้องมันมืด ๆ ทึบ ๆ คนบ้าอะไรถ่ายคลิปเปิดไฟสลัว ๆ จะโชว์ก็เปิดไฟสว่าง ๆ ให้คนมองเห็นก็ไมได้ ข้ามเรื่องนั้นไปก่อน แต่สิ่งที่ฉันดูมันนี่ต่างหาก แกมองสิไอ้รักแกเห็นอะไรที่ต้นคอนายภีมคนนี้ไหม” รักจิรามองภาพที่แก้วกัลยาตั้งใจซูมให้เห็น ก่อนจะ
“รอยสัก”
“ใช่ และนายภีมนั่นเป็นนักร้องแบบลุคแบดบอย แต่ไม่เคยสักที่ต้นคอ ฉันเลยลองมาดูให้ชัด ๆ ฉันเอาภาพนี้ไปเทียบกับภาพภีมที่ถ่ายแบบหันหลัง ภีมมีรอยสักแค่ที่แขน แต่คอเขาไม่มี เป็นไปได้ว่าคนในคลิปอาจจะไม่ใช่ภีม”
“อาจจะเพ้นท์ก็ได้ เดี๋ยวนี้เค้าเพ้นท์กันเยอะแยะ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ”
“ถึงหลุดข้อหานี้ได้แต่ข้อหาฆาตกรรมล่ะ ภีมไม่บอกแม้แต่ว่าตอนเกิดเหตุตัวเองอยู่ที่ไหน บอกแต่ว่าตัวเองเมา คืนนั้นออกไปเที่ยว พูดจาวกไปวนมา จนไม่น่าเชื่อถือ”
“นั่นแหละที่เราต้องรู้ว่าคืนนั้นภีมไปไหนมาแม้แต่ผู้จัดการก็ไม่รู้ ฉันจะไปหาภีมวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ฉันต้องรู้ก่อนว่าไอ้ผู้ชายในคลิปมันเป็นใคร ถ้าไม่ใช่ภีม”
“รอยสักแบบนี้ส่วนใหญ่คนไม่ค่อยสักหรอก เหมือนจะเป็นรอยสักเฉพาะ ตัวว่าไหมเจ๊แก้ว” รักจิราถามและพยายามเพ่งมองรอยสักนั้นอีกครั้ง รอยสักรูปแมงป่องสองตัวที่ตัวหนึ่งหันหัวชนหางวนกันเป็นรูปวงกลม ตรงกลางเป็นตัวอักษรสักคำว่า N.C
“ใช่ ตอนนี้ฉันให้คุณมงกุฎไปตามหาแล้วว่าไอ้ร้านที่สักรอยสักนี้มันมีกี่ที่กัน คงจะรู้บ่ายนี้แหละ ก่อนจะไปหาภีมฉันว่าจะไปร้านสักร้านนี้ก่อน แกไปกับฉันไหมรัก” รักจิราทำหน้านิ่ง
“ว่าไงไอ้รัก แกอย่ามาทำลีลา”
“ไปก็ได้ แต่ต้องตอนบ่ายนะ เค้าว่างช่วงบ่าย”
“เจ้านายแกจะปล่อยแกออกมาหรอ”
“มาได้ละกันน่า ตัวล่ะ”
“พรุ่งนี้คุณเพชรมีงานแถลงข่าวช่วงบ่าย เอาอย่างนี้ เดี๋ยวห้าโมงฉันแวะไปรับแกแล้วกัน แกว่างนะ” แก้วกัลยาพยักหน้ารับคำ ด้วยตอนนี้เลือดนักสืบกำลังร้อน และเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น รักจิราหันไปมองแก้วกัลยาที่หันมามองหน้าเธอเช่นกัน
“แกนั่นแหละไป ฉันแขนใส่เฝือกอยู่แกไม่เห็นหรอ”
“ตัวอย่ามาอ้างเลย ไอ้แขนก็ไม่ได้เป็นอะไร ขอแช่งนะให้คุณเพชรจับได้ โกรธจนไม่มองหน้า” แล้วรักจิราก็เดินออกไปเปิดประตู พาคุณมงกุฎเดินเข้ามา ในมือถือซองเอกสารซองหนึ่งเดินเข้ามาด้วย
“คุณมงกุฎ” แก้วกัลยาผลุนตัวลุกขึ้น
“ดิฉันไปที่ร้านที่สักนี้มาแล้วค่ะ นี่ข้อมูลที่เราได้มา” ตอนแรกแก้วกัลยาคิดจะเดินทางไปเอง แต่ตอนนี้ข้อมูลลอยมาหาเธอแล้ว มันช่างง่ายซะยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากเสียอีก แก้วกัลยารับซองสีน้ำตาลนั้นมา รักจิราวิ่งอ้อมไปหลังโซฟาและยื่นหน้าเข้ามาดูอย่างสนใจ
“ผู้ชายในรูปชื่อ เอ็ม เป็นพนักงานในไนต์คลับแห่งหนึ่งค่ะ” คุณมงกุฎเอ่ยรายงานสิ่งที่ตนได้มา รักจิรามองเค้าโครงหน้าที่มีส่วนคล้ายกับภีมะอยู่ ถ้ามองข้าง ๆ เขาเหมือนภีมะมาก แต่ถ้ามองตรง ๆ ก็ไม่เหมือนเลยซะทีเดียว แถมจากรูปที่แอบถ่ายทั้งด้านหน้าแฃะด้านหลังหลัง เมื่อซูมแล้วยังเห็นรอยสักลายเดียวกับในคลิปด้วย
“โห ไปหามาได้ไงนะไอ้คนจ้างเนี่ย ถ้าเกิดมองผ่าน ๆ ก็คล้ายอยู่นะ แต่จ้องไปก็ไม่เหมือนซะทีเดียว แต่ถ้าจ่างมาถ่ายคลิปหลี่ไฟแถมถ่ายมุมข้างสลัว ๆ คนเห็นคลิปก็คงมองว่าเป็นภีม”
“รอยสักนี่เป็นรอยสักเฉพาะหรือเปล่าคุณมงกุฎ”
“รอยสักนี้เป็นรอยสักของพนักงานของร้านไนต์คลับ เป็นร้านโฮสคลับแห่งหนึ่งในย่านสาทร พนักงานทุกคนจะมีรอยสักนี้เมื่อเข้ามาทำงาน โดยทางร้านจะติดต่อร้านสักร้านหนึ่งโดยเฉพาะให้พนักงานมาสัก นายเอ็มคนนี้ทำงานเป็นโฮสคลับ พึ่งจะทำงานได้สามเดือน คาดว่าอาจจะโดนว่าจ้างให้มาสร้างคลิปปลอมนั่นค่ะ เพราะนายคนนี้เหมือนจะเป็นหนี้พนันบอลด้วย มีเหตุจูงใจพอจะให้ทำงานนี้ได้”
“คุณมงกุฎไปได้ข้อมูลมายังไงคะ เขายอมให้ง่าย ๆ หรอคะ”
“อย่าทำโลกสวยนะรัก บางทีเงินก็ซื้อได้ทุกอย่าง กับคนบางคนจรรยาบรรณวิชาชีพก็ไม่มีหรอก ยิ่งมีเงินก้อนใหญ่ล่อตาล่อใจแบบนี้” แก้วกัลยาบอก และอ่านข้อมูลของเอกฤทธิ์ หรือนายเอ็ม
“แล้วไอ้หมอนี่ยังทำงานอยู่ไหม”
“จากที่สืบมา นายเอ็มคนนี้ลาหยุดมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว บางทีอาจจะเก็บตัวเพราะกลัวคนจับได้”
“แล้วต้นตอของคลิป”
“เหมือนจะหลุดมาจากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แถว ๆ ไนต์คลับค่ะ ลองให้คนไปตรวจสอบคนปล่อยคลิปก็คือนายเอ็มค่ะ” แก้วกัลยาพยักหน้าและมองหน้ารักจิรา สายเลือดนักสืบกำลังเดือดพล่าน แก้วกัลยามองรายละเอียดข้อมูลทั้งหมด คุณมงกุฎยังทำงานได้ดีไม่เคยเปลี่ยน
“ที่อยู่ของไอ้หมอนี่ล่ะเจ๊แก้ว” แก้วกัลยาหยิบกระดาษอีกแผ่นออกมา ซึ่งมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านและที่อยู่ปัจจุบันของเอกฤทธิ์
“เจ๊แก้ว” รักจิราเอ่ย แก้วกัลยาหันไปมองหน้ารักจิราอีกครั้ง
“ขอบคุณมากนะคะคุณมงกุฎ เดี๋ยวจากนี้ฉันจัดการเอง” มงกุฎมองอย่างไม่แน่ใจ คิดในใจว่าควรปล่อยสองสาวไปไหม ถ้าเกิดอันตรายขึ้นคุณสุนทรฆ่าเธอแน่
“เอ่อ...”
“พรุ่งนี้ฉันให้คุณหยุดวันหนึ่ง แล้วพรุ่งนี้ตอนเที่ยงตรงให้มิลาไปพบแมทแทนฉันด้วยนะคะ บอกว่าฉันไม่ว่างไปคุยด้วยแล้ว ให้มิลาอยู่กับแมท แมทเองเขาต้องการผู้ช่วยและระบุมาเองว่าอยากให้มิลาไปเป็นผู้ช่วย”
“จะดีหรอคะ มิลาดูกลัว ๆ คุณแมท เดี๋ยวดิฉันโทรไปเองจะดีกว่านะคะ คุณแมทจะได้ไม่เสียเวลามาด้วย มิลาท่าทางกลัว ๆ จะไปอยู่กับคุณแมทธิวมีหวังร้องไห้กลับบ้านแน่ค่ะ”
“ไม่ค่ะ มิลานี่แหละเหมาะสุดแล้ว ราชสีห์อย่างนายแมท ต้องเจอหนูอย่างมิลา คุณมงกุฎกลับพักเถอะค่ะ ใช้งานคุณมงกุฎมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวอากงจะมาว่าฉันอีก ว่าใช้งานคุณมงกุฎจนคุณมงกุฎไม่กล้าทิ้งแก้วไปหาความสุขใส่ตัว ทุกวันนี้อากงบ่นฉันจนแก้วหูชาแล้วค่ะ วันนี้ไปพักเถอะค่ะ ฉันจัดการที่เหลือได้” มงกุฎรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอเดาได้ว่าแก้วกัลยาคิดจะทำอะไร
...ติดตามตอนต่อไป...
ฝากติดตามเป็นกำลีงใจด้วยค่ะ
พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 มิ.ย. 2558, 19:03:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มิ.ย. 2558, 18:07:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 859
<< ตอนที่ 6 ผู้มาเยี่ยมเยียน | ตอนที่ 8 แฟนเก่าของเพทาย >> |