บ่วงรักฝังแค้น
เมื่อความรักกลายเป็นความอาฆาตแค้น และตามจองเวรเขาและเธอไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ว่าภพชาติไหนจะขอตามจองล้างจองผลาญไม่ให้เหลือสิ้น ความรักและความแค้น
จากอดีตชาติติดตามเป็นเงาตามตัว เขาและเธอจะทำเช่นไรเพื่อหยุดความแค้นนี้ลงได้
Tags: บ่วง,รัก,ฝัง,แค้น

ตอน: ตอนที่ 12 ทายาทวังเทพรัตน์

ตอนที่ 12 ทายาทวังเทพรัตน์
คฤหาสน์เดชวโรดม
ภายในห้องทำงานส่วนตัว

“ว่าไงนะ!ชาติที่แล้วพี่นะเหรอคือหม่อมเจ้าบดินทร์ธร อิศรา”มหาเศรษฐีหนุ่มอุทานจนเสียงหลง ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เขาได้ยินจากการบอกเล่าของน้องชายฝาแฝดจะเป็นเรื่องจริง

“พี่งงไปหมดแล้วเจตน์ พี่ไม่คิดเลยว่าพวกเรามีเชื้อสายราชนิกูลจริงๆ นึกว่าแค่เป็นญาติเกี่ยวข้องกับวังอิศราเท่านั้น”อลันเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ผมบอกพี่ชายได้ในสิ่งที่ผมได้รู้มา แต่ขอให้พี่ชายเชื่อผมเถอะที่ผมหายไปเพราะท่านพระภูมิที่คอยดูแลรักษาวังจันทรา ท่านนำผมให้ล่วงรู้อดีตชาติของเราทั้งสองคน พี่ชายกับผมเคยเกิดเป็นพี่น้องฝาแฝดมาแล้วเมื่อชาติที่แล้ว เป็นราชนิกูลผู้สูงศักดิ์ด้วยกันทั้งคู่และเป็นต้นตระกูลจากวังอิศรา ที่ใช้นามสกุลอิศราในปัจจุบันนี่แหละพี่ชาย”เจตน์เอ่ยบอก

“ถ้าเช่นนั้นวังจันทราก็ต้องเกี่ยวข้องกับเราสองคนด้วยอย่างนั้นใช่ไหม เพราะพี่มีความรู้สึกว่า พี่คุ้นๆ อย่างไงชอบกล”อลันเอ่ยบอกน้องชาย

“พี่ชายเป็นคนสร้างวังจันทราเพื่อใช้เป็นเรือนหอ และผมเป็นคอยดูแลการสร้างวังจันทรานี้ด้วยตัวเอง”

สิ้นเสียงบอกเล่าของเจตน์ ร่างสูงที่กำลังนั่งไขว่ห้างจิบบรั่นดีอย่างสบายอารมณ์ ถึงกับลุกขึ้นยืนโดยพลันเมื่อได้ยินน้องชายฝาแฝดเอ่ยบอกเช่นนั้นออกมา

“วังจันทราพี่เป็นคนสร้างเพื่อใช้เป็นเรือนหอ แต่วังจันทราเป็นของท่านหญิงมณีไม่ใช่เหรอวะเจตน์ หรือว่า....”อลันเอ่ยได้เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มก็หยุดพูดลงทันใด

“ก็พี่ชายคือหม่อมเจ้าบดินทร์ธร อิศรา หม่อมเจ้าหญิงมณีภัสสร สุริยารังษีคือคู่อภิเษกของพี่ชายที่จะแต่งงานด้วยเมื่อชาติที่แล้ว พี่ชายสร้างวังจันทราเพื่อใช้เป็นเรือนหอและมอบให้กับท่านหญิงเป็นของขวัญวันอภิเษก แต่ทั้งผมและพี่ชายและท่านหญิงมณี ได้สิ้นชีวิตลงไปก่อน”เจตน์เอ่ยบอกในสิ่งที่พี่ชายฝาแฝดของเขาควรได้รับรู้

คำบอกเล่าของเจตน์สร้างความดีใจระคนสงสัยไปในคราวเดียวกันให้กับชายหนุ่มจนบอกไม่ถูก เขาเพิ่งล่วงรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเพราะอะไรเขาถึงตกหลุมรักภาพถ่ายของท่านหญิงมณีชนิดถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักอะไรสักอย่างของท่านหญิงมณีแม้แต่น้อยก่อนจะได้ยินเสียงของน้องชายฝาแฝดเอ่ยสำทับขึ้น

“แต่ตอนนี้มีเรื่องด่วนมากที่สุดเลย พี่ชายต้องหาทางเอาวังจันทรากลับคืนมาให้ได้ ตอนนี้วังจันทราถูกเปลี่ยนมือไปทางวังเทพรัตน์ถือกรรมสิทธิ์แล้ว พวกนั้นจะรื้อวังจันทราและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ขืนปล่อยให้รื้อวังมีหวังต้องมีเรื่องร้ายๆ ตามมาไม่หยุดแน่นอนพี่ชาย”

“เรื่องร้ายๆ จะเกิดขึ้นถ้ารื้อวังอย่างนั้นเชียวเหรอวะ”มหาเศรษฐีหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัย คิ้วเข้มเรียงตัวได้รูปสวยขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“วังจันทรามีวิญญาณที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตพยาบาทอยู่ที่นั่น ดวงวิญญาณนั้นเขาเป็นคนที่เราสองคนรู้จักดีในชาติที่แล้ว พี่ชายเคยบอกว่าจะนำทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนให้กับท่านหญิงมณี วังจันทราเป็นของพี่ชายที่สร้างขึ้นเพื่อจะมอบให้กับท่านหญิง พี่ชายต้องซื้อวังจันทรากลับคืนมาจากทางเทพรัตน์ให้ได้นะพี่ชาย

ก่อนที่จะสายเกินไป อย่างน้อยหากวังจันทราได้กลับคืนมาอยู่กับพี่ชาย การรื้อวังหรือจะทำอะไรเกี่ยวกับวังเราสามารถปรึกษาหารือกัน และจะได้หาวิธีทำให้ดวงวิญญาณที่อยู่ในนั้นไปอยู่ในที่ซึ่งเขาควรจะไป”ประโยคสุดท้ายเจตน์เอ่ยบอกเสียงแผ่วเบา

“ท่าทางแกเหมือนมีบางเรื่องที่ยังไม่ได้บอกพี่อีกเยอะใช่ไหมเจตน์ ”ชายหนุ่มเอ่ยถามกลับไปตามที่เขาสังเกตเห็นจากดวงวิญญาณน้องชายฝาแฝด ก่อนจะเอ่ยสำทับขึ้น

“พี่จะไม่เซ้าซี้ให้แกเล่าให้ฟัง เพราะบางอย่างแกคงจะบอกพี่ไม่ได้ แต่สิ่งที่แกบอกพี่ชายของแกเชื่อในสิ่งที่พูด แม้จะไม่รู้รายละเอียดมากไปกว่านี้ก็ตาม เพียงแต่ว่าวิญญาณที่อยู่ในวังจันทราน่ากลัวมากขนาดนั้นเลยเหรอวะ ถึงขนาดจะสามารถทำอะไรคนเป็นๆอย่างเราได้จริงๆเหรอ พี่คิดว่ายังไงซะผีก็สู้คนอย่างเราไม่ได้หรอกนะ”ชายหนุ่มเอ่ยบอกน้องชายกลับไป

“แต่วิญญาณบางดวงไม่ใช่จะเหมือนกับผมเสมอไปนะพี่ชาย ยิ่งเป็นวิญญาณที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตและพยาบาทด้วยแล้ว น่ากลัวมากที่สุดยิ่งตายไปนานมากเท่าไรยิ่งมีอิทธิฤทธิ์สามารถทำอะไรมากกว่าที่เราจะคาดเดา วิญญาณดวงนี้ตายไปเกือบสองร้อยปีแล้ว เฮี้ยนและดุ แต่ที่เธอเป็นแบบนั้นก็เพราะผมเป็นต้นเหตุ”เจตน์เอ่ยบอก

“นี่ทำไปทำมาทั้งพี่และแกต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านหญิง และวิญญาณที่อยู่ในวังจันทราเข้ามาเกี่ยวข้องกับเราทั้งสองคนด้านไหนวะเจตน์”พี่ชายเอ่ยถามตรงไปตรงมา

“เกี่ยวข้องเพราะผมรักเธอเมื่อชาติที่แล้ว แต่เธอไม่รักผมเลยคนที่เธอรักคือพี่ชาย แต่พี่ชายรักท่านหญิงมณีคนเดียว และที่สำคัญท่านหญิงมณีต้องสิ้นพระชนม์ไม่ได้แต่งงานกับพี่ชายก็เพราะวิญญาณที่อยู่ในวังจันทรานี่แหละ”เจตน์เอ่ยบอกความจริง

“หา!”ชายหนุ่มอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น พร้อมเอ่ยสำทับขึ้น

“ท่านหญิงสิ้นพระชนม์ก็เพราะฝีมือของวิญญาณที่อยู่ในวังจันทรา”มหาเศรษฐีหนุ่มเอ่ยถามเสียงเข้มกลับไป

“ถูกต้องแล้วพี่ชาย ท่านหญิงมณีทรงถูกลอบปลงพระชนม์ ไม่ใช่อุบัติเหตุเรือล่มจนพลัดตกลงไปในแม่น้ำอย่างที่เข้าใจกันเมื่อร้อยกว่าปีก่อน แต่เพราะท่านหญิงถูกวางแผนลวงไปฆ่ากลางแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นวิธีที่จะฆ่าท่านหญิงได้ง่ายที่สุดเพราะท่านหญิงว่ายน้ำไม่เป็น”

“ทำกันขนาดนั้นเลยเหรอ”มหาเศรษฐีหนุ่มพูดพลางขบกรามเข้าหากันจนแน่นได้ยินอย่างชัดเจน

“พี่อยากรู้ว่าคนที่ฆ่าท่านหญิงมันทำแบบนั้นทำไมวะเจตน์”อลันเอ่ยถามกลับไปด้วยความอยากรู้อย่างยิ่งยวด

“เธอเป็นพระสหายสนิทของท่านหญิงที่ทรงสนิทที่สุดและทรงรักเชื่อใจพระสหายมาก แต่เพราะความรักนี้แหละทำให้ท่านหญิงมณีถูกลอบปลงพระชนม์ สาเหตุเพราะผิดหวังที่พี่ชายแต่งงานกับท่านหญิงมณีและปฏิเสธความรักของเธอที่มีให้กับท่านชาย แต่ถึงกระนั้นแม้ท่านหญิงจะทรงจากไปแล้วก็ตามพี่ชายก็ไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนอีกเลย ยิ่งพี่ชายตรอมใจจนตายตามไปอีกคน ก็ยังทำให้คลุ้มคลั่งมากขึ้นไปอีก”เจตน์เอ่ยพร้อมก้มหน้านิ่งเมื่อนึกถึงการกระทำของตัวเองเมื่อชาติที่แล้วแต่ก็ไม่ปริปากเล่าเรื่องให้พี่ชายฟัง

อลันทอดสายตามองใบหน้าของน้องชายฝาแฝดที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เขาพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างออกจึงเอ่ยสำทับขึ้น

“และสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวกลายมาเป็นแบบนั้น แกเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดอย่างที่เคยบอกพี่ใช่ไหม เรื่องที่แกทำกับเขามันถึงขนาดต้องตามอาฆาตพยาบาท ถึงขนาดตายไปแล้วก็ไม่เลิกจองเวรกันเลยอย่างนั้นเหรอ”อลันเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย

“มันซับซ้อนมากพี่ชาย เรื่องบางเรื่องมันเกินที่เราจะหยั่งรู้ในจิตใจใครได้ บางคนก็อโหสิกรรมให้กับทุกคน แม้ว่าคนเหล่านั้นจะฆ่าเราหรือทำให้เราต้องเป็นทุกข์และลำบาก แต่บางคนเพราะความผิดหวังในรักที่ไม่สมหวัง ผิดหวังกับสิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้ว่าควรจะเป็น ก็ผูกใจเจ็บอาฆาตจองเวร โทษคนที่ทำให้ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งเรื่องแบบนี้มันเกินกำลังที่เราจะควบคุมได้พี่ชาย”เจตน์เอ่ยบอก

“ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!”เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานทำลายการสนทนาระหว่างสองพี่น้องขึ้นทันใด พร้อมด้วยร่างของแม๊กซ์ คนสนิทที่คอยอารักขามหาเศรษฐีหนุ่มก้าวเข้ามาภายในห้อง

“งานศพของคุณเข็มชาติ ดำเนินการเรียบร้อยแล้วครับนายท่าน สวดพระอธิธรรมศพเป็นเวลา 7 วัน และเก็บไว้ 100 วัน ตามที่นายท่านสั่งทุกประการครับ ส่วนแฟ้มนี้ทางสายข่าวของเราได้ไปสืบค้นข้อมูลของคุณมารตี และคนที่คุณมารตีไปมาหาสู่บ่อยที่สุดครับ”แม๊กซ์พูดพร้อมยื่นแฟ้มเอกสารตรงหน้าส่งให้มหาเศรษฐีหนุ่ม

อลันรับแฟ้มจากคนสนิทนำมาอ่านอย่างรวดเร็ว รายงานตรงหน้ามีหลายหน้ากระดาษเพราะระบุที่มาที่ไปอย่างละเอียด ก่อนจะเงยใบหน้าอันหล่อเหลาขึ้นเมื่อเขาอ่านพบบางอย่างในแฟ้มตรงหน้า

“วรรณวิษา เทพรัตน์ คือทายาทคนปัจจุบันของวังเทพรัตน์อย่างนั้นเหรอ คนๆนี้นะเหรอที่มารตีเรียกว่า “คุณท่าน”และไปมาหาสู่ ชักจะยังไงซะแล้วเจตน์” ชายหนุ่มรำพึงอยู่ภายในใจพร้อมหันกลับไปมองร่างโปร่งแสงของน้องชายฝาแฝดที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้รับแขกภายในห้องทำงานของเขา ก่อนจะได้ยินเสียงของแม๊กซ์เอ่ยขึ้น

“ทางเราได้ทำการตรวจสอบคนที่ชื่อวรรณวิษา เทพรัตน์ แล้วครับนายท่าน พบว่าเธอกำลังเข้ารับการรักษาตัวเพราะอุบัติเหตุข้อเท้าหัก อยู่โรงพยาบาลในเครือ AMS และคนที่เป็นเจ้าของไข้และส่งเธอเข้ารับการรักษาคือนายท่านเองครับ”

คำกล่าวรายงานจากปากคนสนิทของเขาทำให้มหาเศรษฐีหนุ่ม ยืนนิ่งไปโดยพลันไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้นแม้กระทั่งน้องชายฝาแฝดของเขายังต้องนั่งอึ้งเช่นเดียวกัน

“โลกทำไมหมุนกลมอย่างนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละทีนี้”เจตน์รำพึงออกมาเบาๆ พร้อมมองใบหน้าพี่ชายฝาแฝดที่ยังคงยืนนิ่งคล้ายกำลังใช้ความคิดทบทวนความทรงจำของเขาอยู่

“จำได้แล้ว...ผู้หญิงคนนั้นเองที่ฉันเดินชนจนข้อเท้าเธอหัก ไม่คิดว่าที่แท้เธอจะเป็นวรรณวิษา เทพรัตน์ ทายาทคนปัจจุบันจากวังเทพรัตน์นี่เอง โลกกลมเป็นบ้าเลยวะ”ชายหนุ่มรำพึงออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามคนสนิทอีกครั้ง

“แล้วเรื่องวังจันทราที่ให้ไปสืบล่ะตอนนี้เป็นอย่างไงบ้าง”

“ตอนนี้วังจันทราถูกโอนมาเป็นของคุณวรรณวิษา เทพรัตน์ เรียบร้อยแล้วครับ คนของเราสืบทราบมาว่าทางวังเทพรัตน์ จะรื้อวังจันทราบางส่วนลงและบางส่วนจะบูรณะปรับปรุงพร้อมทำการก่อสร้างเพิ่มเติมให้เป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาวสไตล์ล้านนา ให้ใหญ่ที่สุดของทางภาคเหนือ แต่วังเทพรัตน์ยังไม่มีเงินทุนมากพอที่จะทำโครงการนี้ครับ เห็นว่ากำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพราะต้องใช้เงินทุนหลายพันล้านบาทเลยทีเดียว”แม๊กซ์กล่าวรายงานอย่างละเอียด

มหาเศรษฐีหนุ่มยืนฟังรายงานจากคนสนิทด้วยความพึงพอใจ และจากสถานการณ์ของวังเทพรัตน์ดังกล่าวเขาพอจะล่วงรู้แล้วว่าเขาจะต้องลงมือทำอะไรต่อไปดี

“ถ้าเช่นนั้นนายไปจัดการเรื่องแหล่งเงินทุนให้กับวังเทพรัตน์ให้บรรลุเป้าหมายของเขาซะ ให้ธนาคารในเครือ AMS ของเราจากทางอเมริการ่วมมือกับธนาคารของทางประเทศไทยที่วังเทพรัตน์ติดต่อใช้บริการธุรกรรมทางการเงินอยู่ ปล่อยสินเชื่อเงินกู้ให้กับวังเทพรัตน์ตามที่เขาต้องการ เขาอยากได้วงเงินเท่าไรก็ปล่อยให้มากที่สุดตามความต้องการของเขา นายคงรู้ดีว่าจะต้องทำอย่างไงให้แนบเนียน”มหาเศรษฐีหนุ่มเอ่ยสั่งงานคนสนิทของเขา ชายหนุ่มกำลังเริ่มแผนการของเขาทันทีโดยไม่รอช้าเลยทีเดียว ก่อนจะได้ยินเสียงของแม๊กซ์เอ่ยสำทับขึ้น

“แต่จะเป็นการดีหรือครับนายท่าน แหล่งข่าวของเราแจ้งมาว่า ทายาทคนปัจจุบันของเทพรัตน์ ใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายและมีแนวโน้มว่าจะเข้าบ่อนพนันเป็นงานอดิเรก เล่นพนันเสียวันละเป็นล้านๆ หากเราให้ธนาคารในเครือ AMS ของเราปล่อยเงินกู้มากมายขนาดนั้น นอกจากการก่อสร้างของโรงแรมไม่เสร็จแล้ว ลูกหนี้รายนี้อาจจะเป็นหนี้สูญก็ได้นะครับนายท่าน”แม๊กซ์แสดงความคิดเห็นของเขา

“เรื่องนั้นฉันรับผิดชอบเอง นายไปจัดการตามที่ฉันสั่งก็แล้วกัน จัดการทำให้วังจันทราตกมาอยู่ในกรรมสิทธิ์ของฉันโดยผ่านทางธนาคาร AMS ของเราให้เร็วที่สุด”มหาเศรษฐีหนุ่มเอ่ยบอกลูกน้องคนสนิท ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“มีอีกเรื่องนายให้คนของเราไปสืบหาผู้หญิงตามภาพถ่ายนี้ ขอรายงานประวัติอย่างละเอียด คนที่มีชื่อและนามสกุลเหมือนกันอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่คนที่มีหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงในรูปถ่ายนี้มีเพียงคนเดียวแน่นอน เคสนี้ฉันขอด่วนเลยนะแม๊กซ์”ชายหนุ่มพูดพร้อม ยื่นภาพถ่ายหญิงสาวแสนสวยในชุดนักศึกษาให้กับลูกน้องคนสนิทตรงหน้า

“ผมจะรีบจัดการตามที่นายท่านสั่งให้เร็วที่สุดครับ มีอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้รายงาน ตอนนี้คุณมารตีกำลังเดินทางไปเยี่ยมคุณวรรณวิษา เทพรัตน์ ที่โรงพยาบาล AMS ของเราแล้วครับ นักสืบของเราที่ส่งไปสะกดรอยรายงานข่าวมาทุกระยะ”

อลันพยักหน้าขึ้นลงเป็นสัญญาณรับรู้เมื่อลูกน้องคนสนิท รายงานความเคลื่อนไหวของมารตีให้เขาได้รับทราบ พร้อมหันกลับไปมองร่างโปร่งแสงของน้องชายฝาแฝดที่กำลังนั่งมองเขาอยู่เช่นกัน

“นายคงจะรู้นะว่าพี่คิดอะไรอยู่”ชายหนุ่มเอ่ยถามน้องชายกลับไป

“ผมพอจะรู้แล้วว่าพี่ชายจะคิดทำอะไรต่อไป แม้ว่าจะไม่ค่อยถนัดเรื่องทำธุรกิจก็ตามที่เถอะ เพียงแต่มันจะคุ้มกันหรือเปล่าเท่านั้น”เจตน์เอ่ยตอบกลับไปตามความคิดเห็นของเขา

“สำหรับเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจเป็นหน้าที่ของพี่เอง วังจันทราจะต้องกลับมาอยู่กับพี่ให้ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ก็คือเราจะสามารถทำให้วังจันทราไม่ต้องถูกรื้อได้อย่างไง เพราะตอนนี้เราไม่รู้ว่าทางวังเทพรัตน์กำลังลงมือทำอะไรกับวังจันทราบ้าง”ชายหนุ่มเอ่ยบอกน้องชายฝาแฝด คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด

“ผมคิดว่าพี่ชายน่าจะเริ่มต้นจากมารตีก่อนเป็นอันดับแรกดีไหม เสนอตัวเลขงามๆ หลอกล่อเธอคงรีบคว้าโอกาสที่พี่ชายเสนอให้ทันที”เจตน์เสนอความคิดเห็นก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อพี่ชายของเขาส่ายหน้าไปมาพร้อมยกนิ้วชี้ส่ายไปมาเป็นสัญลักษณ์ปฏิเสธความคิดเห็นของเขา

“พี่มีวิธีที่ดีกว่านั้นไอ้น้องชาย ในเมื่อมารตีเอาโฉนดวังจันทราไปมอบให้กับคนที่ชื่อวรรณวิษา คนนี้ต่างหากที่เราจะต้องเดินหมากเดี๋ยวพี่จัดการเอง และตอนนี้เราต้องไปเยี่ยมไข้คนป่วยสักหน่อยกันแล้วไอ้น้องชาย”อลันเอ่ยบอกน้องชายฝาแฝด พร้อมก้าวเดินออกไปจากห้องทำงานส่วนตัวของเขาทันที

“อ้าวพูดปุ๊ปไปปั๊บเลย รอผมด้วยพี่ชาย ไปด้วย!”เจตน์ตะโกนบอกตามหลังพร้อมร่างโปร่งแสงค่อยๆเลือนหายไปทันที

โรงพยาบาลในเครือ AMS

ร่างสูงใหญ่ของอลัน แอนเดอร์สัน หรือในบทบาทของเจตน์ เดชวโรดม เดินถือดอกไม้ช่อใหญ่ซึ่งเขาสั่งให้ร้านดอกไม้จัดอย่างสวยงามเพื่อนำมาเยี่ยมคนป่วยสำคัญ ซึ่งเขากำลังวางแผนบางอย่างอยู่ภายในใจว่าจะเล่นเกมกับทายาทคนปัจจุบันจากวังเทพรัตน์ ดวงตาสีนิลกาฬที่แสนชวนฝัน ฉายแววบางอย่างที่ยากเกินกว่าจะอ่านความคิดของเขาได้ ร่างสูงเดินทางมาเยี่ยมคนป่วยเพียงลำพัง โดยไม่มีคนคอยอารักขาเดินตามคุ้มกันชายหนุ่มแต่อย่างใด ด้วยเกรงจะเอิกเกริกจนเกินไป แต่แท้จริงแล้วหน่วยคุ้มกันของเขากระจายอยู่ทุกจุดภายในโรงพยาบาลของเขานั่นเอง

ลิฟต์สำหรับใช้โดยสารของทางโรงพยาบาลมีสองฝั่งด้วยกัน ฝั่งซ้ายมือของทุกตัวให้บริการสำหรับผู้มาใช้บริการของโรงพยาบาล ฝั่งขวามือตัวที่1ถึง 3 สำหรับให้บริการเช่นเดียวกัน มีเพียงตัวที่4 เท่านั้นมีไว้สำหรับผู้บริหาร มหาเศรษฐีหนุ่ม เดินไปกดลิฟต์ฝั่งทางขวามือ ตัวด้านไหนสุดซึ่งใช้สำหรับผู้บริหารและรองรับแขกคนสำคัญของทางโรงพยาบาล เพื่อขึ้นไปชั้นบนสุดซึ่งเป็นที่พักของคนไข้ระดับสำคัญของทางโรงพยาบาล ซึ่งเขาเป็นคนสั่งด้วยตนเองทั้งหมด เมื่อครั้งที่นำทายาทของวังเทพรัตน์มารักษาที่โรงพยาบาลของเขา ก่อนจะก้าวเข้าไปภายในลิฟต์พร้อมเอื้อมมือกดลิฟต์เพื่อให้ประตูปิดลง ทันใดนั้นเอง

ขณะที่กำลังรอให้ประตูลิฟต์ปิดลง ประตูลิฟต์ฝั่งทางซ้ายมือฝั่งตรงกันข้ามก็ค่อยๆ เปิดออก พร้อมร่างของหญิงสาวในชุดนักศึกษาร่างอรชรอ้อนแอ่น ค่อยๆ ก้าวออกมาจากลิฟต์ จังหวะนั้นเองที่ดวงตาสีนิลกาฬของมหาเศรษฐีหนุ่มซึ่งกำลังทอดสายตามองลิฟต์ฝั่งตรงกันข้ามอยู่ในขณะนั้น ถึงกับตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นมาทันใดเมื่อเห็นหญิงสาวร่างอรชรตรงหน้าที่เดินออกมาจากลิฟต์ตัวดังกล่าวเต็มสองตาของเขา พร้อมๆ กับประตูลิฟต์ที่เขากำลังใช้บริการค่อยๆ ปิดลง

“ท่านหญิง!”อลันรำพึงเสียงแผ่วเบา ด้วยความตกตะลึงที่ได้เห็นหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนกับท่านหญิงมณีเจ้าของหัวใจของเขาอย่างไม่คาดคิด ครั้นเมื่อรู้สึกตัวอลันรีบกดลิฟต์ให้กลับลงไปข้างล่างอย่างเร่งด่วน

“ได้โปรดเถอะ!ลงไปสักที ช่วยลงไปเร็วๆหน่อยได้ไหม”ชายหนุ่มกดลิฟต์วุ่นวายด้วยความใจร้อนผสมกับความตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุด

ทว่าลิฟต์เจ้ากรรมไม่ยอดหยุดจอดให้กับเขาเลย ยังคงตรงดิ่งขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดจนได้

“โธ่เว้ย! ไม่ได้ดั่งใจเลยวะไอ้ลิฟต์บ้า!”ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมรีบกดลิฟต์ให้ลงไปชั้นล่างสุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

ทันทีที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่ของมหาเศรษฐีหนุ่มรีบวิ่งออกจากลิฟต์ทันที ดวงตาชวนฝันมองหาร่างหญิงสาวอรชรซึ่งเขาจดจำได้เป็นอย่างดีไปทั่วบริเวณชั้นล่างของอาคาร ก่อนจะรีบวิ่งออกไปด้านนอกของตัวอาคารทันที

“ไปไหนแล้ว!ไปไหน!ท่านหญิงหายไปไหน”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความผิดหวัง เมื่อพยายามมองหาเท่าไรก็ไม่เห็นสักที

“พี่ชายกำลังหาอะไร”เสียงดวงวิญญาณของน้องชายฝาแฝด เอ่ยขึ้นข้างๆ เขาพร้อมปรากฏกายยืนอยู่ข้างๆ กายเขา

“พี่เจอท่านหญิงแล้วเจตน์ พี่เห็นท่านหญิงเดินออกมาจากลิฟต์ของทางโรงพยาบาล ตอนพี่ขึ้นกดลิฟต์ฝั่งตรงกันข้ามขึ้นไปหอผู้ป่วย แต่พอกดลิฟต์ตามลงมาไม่เห็นแล้ว หายไปแล้ว...หายไปอีกแล้ว”ชายหนุ่มเอ่ยตอบน้องชายฝาแฝดด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด จนดวงวิญญาณของเจตน์สามารถรับรู้ความรู้สึกของพี่ชายได้

“อีกไม่นานหรอกพี่ชาย ท่านหญิงกับพี่ชายต้องได้พบกันอย่างแน่นอน เอาแบบนี้สิพี่ให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ทุกที่ของโรงพยาบาลดีไหม เราจะได้รู้ว่าท่านหญิงมาทำอะไรที่โรงพยาบาลนี้ เริ่มต้นจากลิฟต์โดยสารตัวที่พี่ชายได้พบกับท่านหญิง”เจตน์แสดงความคิดเห็น และนั่นทำให้พี่ชายของเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าทันที

“ใช่แล้ว!พี่ขอบใจนายมากไอ้น้องชาย ไปกันเถอะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมหันหลังกลับเข้าประตูโรงพยาบาลทันที เป้าหมายของเขาคือระบบรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลในเครือ AMS ของเขา

ภายในห้องรับรอง

มหาเศรษฐีหนุ่ม กำลังนั่งรอคอยไฟล์บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดจากลิฟต์ตัวที่เขาพบกับท่านหญิงมณีด้วยความบังเอิญ เขาตื่นเต้นจนเห็นได้ชัด สองมือประสานเข้าหากันพร้อมบีบเข้าออกเป็นระยะๆ เพื่อให้คลายความตื่นเต้นลงไปได้บ้าง แต่ถึงกระนั้นจังหวะการของหัวใจเขาก็ยังคงเต้นแรงจนเขายังรู้สึกได้เลยทีเดียว

“พี่ชายตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ”ดวงวิญญาณของเจตน์ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆเอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาพี่ชายของเขาซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

“พี่ตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก บอกตรงๆ ทำอย่างไงก็หยุดไม่ได้จริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร”อลันเอ่ยบอกน้องชายฝาแฝดตามความรู้สึกที่แท้จริง

“นี่ถ้าเกิดได้เห็นท่านหญิงตัวเป็นๆ จริงๆ ขึ้นมาละก็ พี่ชายมิต้องหัวใจวายไปก่อนเหรอ”เจตน์รำพึงอยู่ภายในใจ พลางหันไปมองทางประตูเมื่อคนภายนอกเปิดเข้ามา พร้อมเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาล

“ไฟล์บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดที่ท่านต้องการได้เรียบร้อยแล้ว อัพโหลดข้อมูลตามที่ท่านสั่งให้ทั้งหมดแล้ว”เจ้าหน้าที่พูดพร้อม กดปุ่มเปิดทีวีที่ติดอยู่กับผนังห้องเพื่อเปิดภาพจากกล้องวงจรปิด

ภาพจากกล้องวงจรปิด ย้อนกลับไปตั้งแต่วินาทีแรกที่อลันได้พบกับหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนท่านหญิงมณีของเขาด้วยความบังเอิญ ภาพจากกล้องวงจรปิดได้ย้อนกลับไปเรื่อยๆ ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวมาทำอะไรในโรงพยาบาล จนกระทั่งเหตุการณ์ในภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้มหาเศรษฐีหนุ่ม คิ้วขมวดเข้าหากันทันทีด้วยความประหลาดใจ

“ห้องพิเศษสำหรับดูแลผู้ป่วยคนสำคัญมีกี่ห้องในโรงพยาบาลนี้”ชายหนุ่มเอ่ยถามเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลขึ้นมาทันใด

“มีทั้งหมด 15 ห้องค่ะท่าน”เจ้าหน้าที่สาวเอ่ยตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

“ห้องพิเศษของผู้ป่วยที่ผมเป็นเจ้าของไข้และดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด อยู่ห้องที่เท่าไร”ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง
มหาเศรษฐีหนุ่มจับจ้องอยู่หน้าจอทีวีเขม็งเมื่อภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพร่างหญิงสาวสวยร่างหนึ่งที่เขาได้มีโอกาสเห็นอีกครั้ง และมันแทบจะทำให้หัวใจของเขาหยุดเต้นไปเลยทีเดียว

“เราไม่ได้ตาฝาด และก็ไม่ได้ฝันแต่มันเป็นความจริง เธอคือมณีภัสสร สุริยารังษี ที่ฉันกำลังตามหา เธอมีชีวิตจริงๆ ด้วย”ชายหนุ่มรำพึงออกมาเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปถามเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลอีกครั้งด้วยความร้อนใจ

“คุณหาข้อมูลให้ผมเจอหรือยัง ผมต้องการด่วน”

“รับทราบค่ะท่าน”เจ้าหน้าที่สาวเอ่ยพร้อมตรวจแฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือของเธออย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินมหาเศรษฐีหนุ่มเอ่ยถามสิ่งที่เขาต้องการอยากรู้อีกครั้ง ก่อนจะตอบกลับไปด้วยความรวดเร็ว

“ ห้องหมายเลข 151015 ค่ะ”

อลัน แอนเดอร์สันถึงกับยืนนิ่งไปโดยพลันเมื่อได้ยินหมายเลขห้องพักคนป่วยซึ่งทายาทจากวังเทพรัตน์ พักรักษาตัวอยู่ในห้องนั้น และภาพจากกล้องวงจรปิดที่เขากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ บ่งชี้อย่างชัดเจนเลยว่า หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนกับท่านหญิงมณีของเขาเข้าไปและกลับออกมาจากห้องพิเศษหมายเลขดังกล่าว

“อะไรกันเนี่ย!นี่มันเกิดอะไรขึ้น...ท่านหญิงกับทายาทจากวังเทพรัตน์เกี่ยวพันอะไรกัน”ชายหนุ่มรำพึงออกมาเบาๆ กับสิ่งที่เขาได้เห็นเต็มสองตา

“โอโห!ทำไมโลกมันถึงได้กลมขนาดนี้ไปได้ ทำไปทำไมท่านหญิงหนีไม่พ้นจากวังเทพรัตน์จริงๆเลย”ดวงวิญญาณของเจตน์เอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจไม่แพ้กัน ก่อนจะได้ยินกระแสจิตจากพี่ชายของเขาดังขึ้น

“ไปกันเถอะเจตน์ อย่างไงวันนี้พี่กับแกจะต้องรู้อะไรมากไปกว่านี้ให้ได้”อลันเอ่ยบอกน้องชายพร้อมก้าวเดินออกจากห้องรับรองตรงไปหาเป้าหมายของเขาทันที

ห้องพักวีไอพี หมายเลข 151015

ร่างบางของทายาทจากวังเทพรัตน์ กำลังนั่งพิจารณาแบบแปลนการก่อสร้างภายนอกและแบบการตกแต่งภายใน ซึ่งเธอว่าจ้างให้บริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นผู้ออกแบบงานทั้งหมด เธอพิจารณารายละเอียดด้วยความสนใจ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไรก็ตาม

“น้ำส้มคั้นค่ะ มารตีคั้นเองกับมือเลยนะค่ะ หวานชื่นใจมากเลยค่ะ”เสียงหญิงสาวเอ่ยพร้อมยื่นแก้วน้ำส้มคั้นให้กับร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงคนป่วย

โฉมงามยื่นมือรับแก้วน้ำส้มคั้นยกขึ้นจิบเพื่อชิมรสชาติ และทันทีที่ปลายลิ้มสัมผัสกับน้ำสีเหลืองนวลตรงหน้า

“พรืดดดด”หญิงสาวถึงกับพ่นน้ำดังกล่าวออกมาทันที

“นี่น้ำส้มคั้นอย่างนั้นเหรอนังมารตี!ทั้งจืดทั้งจางไม่หวานเหมือนอย่างที่แกพูด รสชาติเหมือนน้ำล้างตีนชัดๆ ไปซื้อตามตลาดสดที่แกชอบเดินล่ะสิ!เอาไปทิ้งหรือจะเอาไปทำอะไรก็เอาไปเลยนะ เอาออกไป!”หญิงสาวเอ่ยพร้อมกระแทกแก้วน้ำส้มลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างแรง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ แกจะไสหัวไปไหนก็ไปเลยไป ฉันเห็นแกแล้วรำคาญลูกตานังมารตี ถ้าฉันจะเรียกใช้แกอีกเมื่อไรก็ค่อยมาถ้าไม่ได้เรียกก็อย่าสะเออะเอาหน้าเน่าๆ ของแกมาหาฉัน”หญิงสาวเอ่ยอย่างรำคาญใจ

“ทำอย่างกับว่าตัวแกสวยตายละนังผู้ดีโบท็อกซ์ ถ้าไม่ฉีดหน้าไม่พึ่งศัลยกรรมเสริมนั้นเสริมนี่ขึ้นมา แกมันก็นังหน้าปลวกอย่างกับอะไรดี โธ่!อีเวรพูดด่าว่าคนอื่นแต่ไม่รู้จักดูหนังหน้าเก่าๆ ของแกตั้งแต่เกิดบ้างเลย แกมีดีก็แค่เกิดมามีชาติตระกูลก็เท่านั้น”มารตีก่นด่าหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของเธออยู่ภายในใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อบานประตูที่กำลังถูกเปิดออก

“เจตน์!”มารตีรำพึงเรียกชื่อแขกผู้มาเยือนออกมาเบาๆ ไม่คาดคิดว่าลูกเลี้ยงของเธอจะมาที่นี้ แต่มิทันจะกล่าวสิ่งใดเสียงผู้เป็นนายสาวของเธอดังแทรกขึ้นมาทันที

“คุณนั่นเอง!ฉันนึกว่าคุณหนีไปซะแล้วไม่มารับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้”หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานอย่างฉอเลาะ พร้อมทำท่าทีกระเง้ากระงอดทันทีที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายซึ่งเธอถวิลหาอยู่ตลอด

อลันยิ้มเหยียดมุมปากออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวของทายาทสาวจากวังเทพรัตน์ สิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่ผิดโผแม้แต่น้อย เพราะท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าแสดงออกได้อย่างชัดเจนว่า เธอก็ไม่แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่ได้ใกล้ชิดเขาและหลงใหลในตัวเขาทันทีที่ได้เห็นหน้า

“ผมต้องขอโทษที่ทำให้คุณเจ็บจนต้องรักษาตัวนานเป็นเดือน และเพิ่งหาเวลาว่างมาเยี่ยมคุณได้ในวันนี้ พอดีช่วงสองสามวันก่อนผมงานยุ่งมากไปหน่อยครับ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษานะครับผมรับผิดชอบทุกอย่างรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่คุณต้องการ แล้วก็นี่ครับดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ อย่างคุณ”ชายหนุ่มเอ่ยพลางยื่นดอกกุกลาบสีขาวช่อมหึมาส่งให้กับหญิงสาว

“โอโห!สวยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะคุณรู้ได้อย่างไงว่า ษาชอบดอกกุหลาบขาว”หญิงสาวพูดพร้อมก้มลงสูดกลิ่นหอมของดอกกุหลาบตรงหน้าอย่างชื่นใจ พลางตุ๊ดตู่เข้าข้างตัวเอง

“แสดงว่าต้องไปสืบรู้มาแน่ๆ เลยว่าเราชอบดอกกุหลาบขาว ถึงได้หาอะไรที่ตรงใจเรามาให้”หญิงสาวรำพึงเข้าข้างตัวเองเป็นที่สุด ก่อนจะยื่นช่อกุหลาบส่งให้มารตีที่กำลังยืนหลบสายตาลูกเลี้ยงของเธออยู่ในขณะนั้น

“มารตีจ๊ะช่วยเอาไปจัดใส่แจกันมาให้ฉันด้วยนะจ๊ะ”หญิงสาวเอ่ยอย่างไพเราะผิดจากนิสัยของเธออย่างสิ้นเชิง ทำเอาคนที่เคยถูกจิกหัวใช้เบ้ปากออกมาทันที

“หวะ!อีผู้ดีตอแหล ต่อหน้าผู้ชายพูดจาเพราะซะจนกูอยากจะอาเจียน คงคิดจะหาผู้ชายมาทำผัวอีกละสิ อีหม่อมหน้าปลวก”มารตีก่นด่าอยู่ภายในใจก่อนจะรีบรับช่อดอกไม้จากมือเจ้านายของเธออย่างระมัดระวังเป็นที่สุด

“โอโหพี่ชาย!ทายาทจากวังเทพรัตน์คนนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ สวยมากก็จริงแต่เขาคิดเข้าข้างตัวเองเป็นบ้าเลย เขาคิดว่าพี่ชายชอบเขาก็เลยไปหาของที่เขาถูกใจมาให้ ท่าทางจะหลงเสน่ห์พี่ชายเข้าให้แล้ว ขนาดมารตียังรับไม่ได้ ด่าเจ้านายตัวเองในใจว่าตอแหล หน้าปลวกด้วยนะพี่ชาย”ดวงวิญญาณของเจตน์เอ่ยบอกพี่ชายฝาแฝดของเขา

“อย่างนั้นเหรอ สองคนนี้ไม่แตกต่างกันหรอก ไม่งั้นจะมาเป็นเจ้านายกับบ่าวคอยรับใช้กันได้อย่างไงจริงไหม”อลันเอ่ยตอบน้องชายทางกระแสจิต ก่อนจะเอ่ยแทรกขึ้น

“ไม่คิดว่าจะเจอคุณมารตีที่นี่ รู้จักกันเหรอครับถึงมาเยี่ยมอาการบาดเจ็บของคุณ....เออ...คุณษาจะเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่าครับ ถ้าคุณษาจะให้เกียรติแนะนำตัวให้ผมได้รู้จักหญิงสาวแสนสวยอย่างคุณ”ชายหนุ่มหยอดคำหวานของเขาออกไปทันที พร้อมทอดสายตาชวนฝันของเขาจ้องมองใบหน้าสวยทายาทของวังเทพรัตน์ตาไม่กะพริบ

หม่อมคนงามถึงกับสะเทิ้นสะท้านดวงตาที่แสนจะชวนฝันตรงหน้าเมื่อถูกเขาจ้องมองตาไม่กะพริบ เช่นนั้น แม้จะรู้สึกเอะใจที่เขาทักทายกับมารตีราวกับว่ารู้จักกันแต่เธอก็ลืมเลือนจนหมดสิ้น

“ทำไมจะไม่ได้ค่ะตรงกันข้ามดิฉันยินดีมากต่างหาก ดิฉันชื่อวรรณวิษา เทพรัตน์ ทายาทรุ่นปัจจุบันเจ้าของวังเทพรัตน์ค่ะ เรียกดิฉันสั้นๆ ว่าษาก็ได้ค่ะ”หญิงสาวเอ่ยอย่างภาคภูมิใจในชาติกำเนิดของตนเป็นที่สุด ก่อนจะเอ่ยถามกลับไปในสิ่งที่เธอสงสัยเมื่อครู่ที่ผ่านมาพลางปรายหางตามองไปยังร่างของมารตี

“เมื่อกี้คุณทักทายคนรับใช้ของฉันเหมือนรู้จัก ขอโทษนะค่ะคนรับใช้ของดิฉันไปทำอะไรเป็นการเสียมารยาทกับคุณหรือเปล่า บอกษาได้เลยค่ะเดี๋ยวษาจัดการให้”หญิงสาวเอ่ยสอบถามกลับไป

โฉมงามพูดพร้อมชายหางตามองไปที่ร่างมารตีคล้ายไม่พอใจที่ชายหนุ่มที่เธอพึงพอใจ รู้จักทาสรับใช้ของเธอด้วยเกรงว่าหนุ่มหล่อตรงหน้าจะไปตกหลุมเสน่ห์ผู้หญิงที่มีจริตและเจนโลกมามากมายแบบนั้น

“จุ๊!จุ๊!จุ๊!ผมเพิ่งจะรู้ว่าคุณมารตีเป็นคนรับใช้ของคุณ แสดงว่าเป็นคนเก่าแก่ของคุณเลยใช่ไหมครับ”อลันเอ่ยหลอกล่อให้หญิงสาวตอบคำถาม

“ใช่ค่ะ!ท่านพ่อของฉันเป็นคนอุปการะเลี้ยงดูครอบครัวของมารตีทั้งครอบครัว และส่งเสียให้การศึกษาและหาหลักประกันที่ดีในชีวิตให้กับเขา ว่าแต่คุณพูดเหมือนรู้จักคนรับใช้ของดิฉันมานาน แล้วรู้จักกันได้อย่างไงค่ะ ดิฉันอยากรู้”

ประโยคสุดท้ายคุณเธอเอ่ยถามเสียงเข้มแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งยวด ที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าซักถามคล้ายอยากรู้อยากเห็นเรื่องเกี่ยวกับทาสรับใช้เธอ พลางหันกลับไปมองคู่กรณีที่กำลังถูกเอ่ยถึงด้วยสายตาเอาเรื่องกำลังก้มหน้างุดเลยทีเดียว

“โธ่อีโง่!โดนไอ้เจตน์มันหลอกถามเข้าให้แล้ว แม่งมันโง่เกินกว่าที่คิดไว้ซะอีก สมองตื้นๆแบบนี้จะมีปัญญาเอาตัวรอดได้อย่างไงถ้าไม่มีฉันคอยช่วยเหลือแก ปล่อยให้มันแสดงความโง่ซะให้พอ”มารตีรำพึงด่าอยู่ภายในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงของลูกเลี้ยงเธอเอ่ยขึ้น

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมขอตอบทีหลังนะครับ พอดีผมเห็นคนมาเยี่ยมคุณษาแล้วเพิ่งจะกลับไป คุณษาทำงานขณะที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วยเหรอครับ ผมเกรงว่าสุขภาพคุณจะฟื้นตัวช้า ทางที่ดีหายดีแล้วค่อยทำงานจะดีกว่านะครับ”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมเอื้อมมือไปเก็บเอกสารทุกอย่างที่กองอยู่ตรงหน้าตักของเจ้าหล่อน พลางหันกลับไปมองใบหน้าของหญิงสาว

“ผมห่วงสุขภาพของคุณจริงๆ นะครับคุณเชื่อผมเถอะ ถ้าหากคุณจะให้ผมช่วยอะไรก็บอกได้นะ ผมยินดีที่จะช่วยอย่างเต็มที่เลย ผมช่วยเก็บให้นะครับ”มหาเศรษฐีหนุ่มเริ่มหว่านเสน่ห์หล่อขั้นเทพของเขาทันที มีหรือที่ผู้หญิงคนไหนจะต้านทานเสน่ห์อันชวนฝันของเขาเอาไว้ได้

โฉมงามสะเทินสะท้านสายตาของชายหนุ่มอย่างยิ่งยวด ไม่สามารถปริปากทัดทานเขาได้เลย ปล่อยให้เขาเก็บแบบแปลนและรายละเอียดตรงหน้าตักของเธออย่างว่าง่าย

“ผมจะเก็บไว้ให้คุณษานะครับ ขืนทิ้งแบบแปลนไว้ที่นี่คุณษาก็จะไม่ยอมพักอีก พอคุณหายดีแล้วผมจะส่งคืนให้ถึงบ้านคุณษาด้วยตัวของผมเองหรือจะไปรับคืนที่บ้านของผมก็ได้นะครับ”อลันเอ่ยบอกหญิงสาวตรงหน้าที่แสดงท่าทีเขินอายเป็นที่สุด จนแม้แต่มารตีก็ไม่สามารถทนมองได้ จนต้องเอ่ยขัดขึ้น

“มารตีขอตัวเอาช่อดอกไม้ไปจัดใส่แจกันให้ก่อนนะค่ะ”เธอเอ่ยพร้อมรีบล่าถอยออกจากห้องดังกล่าวนั้นทันทีพลางรำพึงอยู่ภายในใจ

“เรื่องอะไรที่กูจะอยู่รอให้นังผู้ดีโรคจิตมันจิกด่า พอใอ้เจตน์มันกลับมันก็ต้องหาเรื่องมาลงที่กู หน็อยว่าแต่คนอื่นบ้าผู้ชาย ทีตัวมันเองก็ไม่แตกต่างเหมือนกันละวะ พอไอ้เจตน์มันแสดงท่าทางเอาอกใจเข้าหน่อยก็คงคิดว่ามันหลงเสน่ห์มึงละสิ”มารตีก่นด่าอยู่ภายในใจพร้อมหันกลับมามองที่เตียงคนป่วยอีกครั้งและต้องประสานสายตาที่แสนจะคมกริบของเจตน์ที่กำลังมองมาที่เธอเข้าให้พอดี

แม่หม้ายสาวหลบสายตาของลูกเลี้ยงทันที ไม่กล้าประสานสายตาด้วย รีบก้าวเดินออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็วพร้อมๆกับเสียงหวานของหม่อมคนงามเอ่ยแทรกขึ้น

“ษาต้องขอบคุณมากเลยค่ะที่เป็นห่วง อันที่จริงก็ไม่อยากทำหรอกค่ะแต่ไม่ทำก็ไม่ได้ เอาไว้ษาหายดีแล้วค่อยว่ากันอีกทีตามที่คุณบอกก็ได้ค่ะ”

“ดีมากครับคนดี ผมรู้สึกเป็นห่วงคุณอย่างไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก ถ้าอย่างไงบอกผมได้นะผมสามารถช่วยเหลือคุณได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามจะเป็นธุรกิจแบบไหน ทำอย่างไร จะลงทุนอย่างไงหรือแม้แต่หาแหล่งเงินทุนเพื่อนำมาลงทุนในธุรกิจผมสามารถช่วยคุณษาได้ เป็นการตอบแทนที่ผมทำให้คุณษาต้องเจ็บตัวถึงขนาดนี้”อลันพูดพร้อมทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ เตียงคนไข้พร้อมส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันชวนฝันของเขาส่งให้กับหญิงสาว เขารู้ตัวดีว่าเวลาที่เขายิ้มเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนต้องหลงใหลเขาทุกคน

ทายาทจากวังเทพรัตน์ถึงกับนิ่งงันไปทันทีเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าส่งยิ้มให้กับเธอ เล่นเอาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทั้งประหม่า ทั้งเขินอายอย่างยิ่งยวดไม่เคยปรากฏกับเธอมาก่อนในชีวิตเลย และยิ่งล่วงรู้ว่าผู้ชายตรงหน้ามีความสามารถช่วยเหลือเธอได้ถึงขนาดนั้น เธอจึงตัดสินใจไม่รีรอที่จะเอ่ยในสิ่งที่ตรงกับใจของมหาเศรษฐีหนุ่มออกมา

“ษาต้องขอบคุณมากค่ะที่จะช่วยเหลือธุรกิจของษาเป็นการตอบแทน พอดีษาเพิ่งได้ที่ดินมาประมาณหนึ่งร้อยไร่อยู่ที่เชียงใหม่ และมีวังเก่าโบราณคร่ำครึตั้งอยู่บนที่ดินผืนนั้น ษาอยากเนรมิตที่ดินพื้นนั้นให้เป็นโรงแรมระดับห้าดาวและรีสอรท์หรูที่ใหญ่ที่สุดของทางภาคเหนือ แต่ติดตรงที่ว่าธนาคารไม่สามารถปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ลงทุนโครงการของษาได้ เพราะเขาบอกว่างบประมาณสูงเกินไปให้ษาทำแผนการเงินเข้าไปใหม่ค่ะ และนี่แหละค่ะที่ษากำลังกลุ้มใจมากเลยไม่รู้ว่าจะไปหาธนาคารที่ไหนที่สามารถอนุมัติโครงการของษาได้”

มหาเศรษฐีหนุ่มนั่งฟังหญิงสาวตรงหน้าเล่ารายละเอียดแผนงานด้วยความใจเย็น เขาต้องต้อนปลาให้ติดเบ็ดทันทีและเหยื่อที่เขาลงทุนมาล่อจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงตรงหน้าไม่สามารถปฏิเสธได้อย่างแน่นอน

“สำหรับเงินทุนจากธนาคารคุณษาไม่ต้องกังวล เพราะผมรู้จักแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา สามารถสานฝันโครงการของคุณษาได้อย่างแน่นอน เพียงแต่คุณต้องเตรียมหลักประกันให้เพียงพอกับการขอสินเชื่อก้อนมหาศาลครั้งนี้ให้ได้”ชายหนุ่มเอ่ยบอก

“ไม่มีปัญหาค่ะทรัพย์สินทุกอย่างของวังเทพรัตน์ ษาจะเอามาเป็นหลักประกันให้เพียงพอกับการขอกู้เพื่อโครงการของษาจะสำเร็จลุล่วงให้ได้”หม่อมโฉมงามรับปากอย่างแข็งขัน

“แล้วคุณษาต้องการงบลงทุนมากแค่ไหนครับ”ชายหนุ่มเอ่ยถามยอดตัวเลขที่หญิงสาวต้องการ

“ษาต้องการขอสินเชื่อในการลงทุนประมาณแปดพันล้านบาทค่ะ”หญิงสาวพูดพร้อมสังเกตใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถามเสียงอ่อยๆ

“ไม่ทราบว่างบลงทุนจะสูงมากไปไหมค่ะ”

มหาเศรษฐีหนุ่มคาดเดาตัวเลขคร่าวๆของเจ้าหล่อนเอาไว้ในใจประมาณห้าพันล้านบาทก็เพียงพอแล้วเหลือไว้ทำอะไรอีกมากเสียไปด้วยซ้ำแต่สิ่งที่เจ้าหล่อนขอตัวเลขเกินมาอีกสามพันล้านบาทนี่สิ มันเกินความจำเป็นไปไกลอย่างมากมาย

“งบลงทุนแปดพันล้านบาทก็สูงมากจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ถ้าหลักประกันเพียงพอที่จะทำให้ธนาคารไว้วางใจ ผมคิดว่าคุณษากับผมคงต้องคุยเรื่องธุรกิจกันยาวแล้วละครับ และจากนี้ไปเราทั้งสองคนต้องมีเวลาไปมาหาสู่กันให้มากขึ้น เพื่อปรึกษาธุรกิจโครงการยักษ์ใหญ่นี้ให้สำเร็จนะครับ”ชายหนุ่มเปิดช่องทางให้เจ้าหล่อนเข้าหาเขาได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

“ษาก็คิดไว้แบบนั้นเหมือนกันค่ะ ว่าแต่โครงการษาจะมีแนวโน้มได้รับการอนุมัติหรือค่ะ”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้

“ไม่มีปัญหาหรอกครับเรื่องอนุมัติ ผมมีความสามารถที่จะจัดการให้คุณษาได้อย่างแน่นอน”ชายหนุ่มเอ่ยตอบกลับไป ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่เขาต้องการถามจากผู้หญิงตรงหน้ามากที่สุด

“แล้วแขกที่มาเยี่ยมคุณอย่าบอกนะครับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารมาหาคุณถึงโรงพยาบาล”ชายหนุ่มเอ่ยคำถามที่เขาต้องการรู้ทันที

“อ๋อไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นบริษัทที่ออกแบบการก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ททั้งภายนอกและภายในให้กับษา พอดีบริษัทฯ ที่ษาจ้างเขาออกแบบเสร็จแล้วก็เลยมาส่งแบบให้ษา ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ธนาคารหรอกค่ะ”หญิงสาวเอ่ยบอกตามความเป็นจริง

“อย่างนั้นเหรอครับ...อืมมฝีมือดีนะผมเห็นคร่าวๆ ยังมองแล้วสวยเลย ผมชักสนใจแล้วมีนามบัตรเหลือให้ผมสักใบไหม เผื่อผมจะเรียกใช้บริการบ้าง”ชายหนุ่มเอ่ยถามในสิ่งที่เขาต้องการออกมาทันที

“อืมมม...เขาให้ษาไว้ตั้งนานแล้วค่ะ แต่ษาเอาไว้ในห้องทำงานที่วัง จำชื่อบริษัทได้แต่จำเบอร์โทรไม่ได้ ตอนที่บริษัทฯ มาส่งแบบก็ไม่ได้เป็นคนเอาไว้เอง พอดีษาหลับคนรับใช้ของษารับงานไว้แทนค่ะ แต่คิดว่านามบัตรน่าจะอยู่ในกระเป๋าที่ใส่แบบแปลนมาด้วยนะค่ะ อ๋อนี่ไงค่ะ”หญิงสาวพูดพร้อมจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าใส่แบบแปลนที่เจ้าหล่อนวางอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย ก่อนจะได้ยินเสียงมหาเศรษฐีหนุ่มร้องห้าม

“คุณษาไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมหยิบเอง”อลัน พูดพลางก้มลงเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าทันที พร้อมเปิดกระเป๋าเพื่อมองหาในสิ่งที่เขาต้องการ

นามบัตรซึ่งทำจากกระดาษอย่างดี ถูกแนบมาพร้อมกับจดหมายนำส่งแบบแปลนเพื่อให้คนว่าจ้างพิจารณางานที่นำเสนอ
“มีนามบัตรมาด้วยไหมค่ะ”หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น

อลันพยักหน้าขึ้นลงเป็นสัญญาณรับรู้ในสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยถามเขา ก่อนจะตัดบทสนทนาเมื่อคิดว่าสมควรแก่เวลาที่เขาต้องรีบกลับไปทำอย่างอื่นที่สำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับเขา

“ขอบคุณคุณษามากครับ ที่อุตสาห์ให้รายละเอียดกับผม พอดีผมมีประชุมช่วงเย็นกับผู้บริหารต้องขอตัวกลับก่อนแล้วจะขออนุญาตมาเยี่ยมคุณษาอีกนะครับ หวังว่าคงไม่รังเกียจ”ชายหนุ่มหว่านเสน่ห์อีกรอบ

“ไม่รังเกียจเลยค่ะตรงกันข้ามยินดีมากเสียด้วยซ้ำที่คุณมาเยี่ยม แต่คุณจะไม่แนะนำตัวให้ฉันรู้จักคุณบ้างเหรอค่ะ อีกอย่างฉันก็อยากรู้ว่าคุณรู้จักกับคนรับใช้ของฉันได้อย่างไง”หญิงสาวเอ่ยถามในสิ่งที่เธอสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง

“คือผมไม่อยากปิดบังอะไรกับคุณษาหรอกครับ ที่ผมทักทายคุณมารตีก็เพราะคุณมารตีกับผมรู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดี เพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงของผมเอง ผมชื่อเจตน์ เดชวโรดม ทายาทจากวังอิศราคนปัจจุบันครับ และนี่ครับนามบัตรของผม มีอะไรให้ผมช่วยโทรหาผมนะครับ ผมยินดีช่วยเต็มที่ถ้าคนๆนั้นเป็นคุณษา”ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำตัวอย่างเต็มยศเลยทีเดียว พลางยื่นนามบัตรส่วนตัวของเขาให้กับทายาทสาวจากวังเทพรัตน์ดย่างจงใจมอบให้เธอ พร้อมกับเสียงดวงวิญญาณของเจตน์เอ่ยแทรกขึ้น

“พี่ชายเอาอย่างนั้นเลยเหรอจะไม่เป็นการประกาศศึกอย่างชัดเจนไปหน่อยเหรอ”เจตน์ส่งกระแสจิตเอ่ยถามพี่ชายของเขากลับไป เมื่อได้ยินพี่ชายฝาแฝดเอ่ยแนะนำตัวเช่นนั้น

“ถึงแม้จะไม่แนะนำตัวว่าเป็นทายาทจากวังอิศรา แต่ฉันเชื่อวะว่าแม่คนนี้รู้อยู่แก่ใจว่าเดชวโรดมของเราคือทายาทจากวังอิศราแน่นอน ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรเลย”อลันเอ่ยตอบน้องชายของเขาทางกระแสจิต

คำตอบของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าที่แสนชวนฝันตรงหน้าเล่นเอาทายาทจากวังเทพรัตน์ ถึงกับนิ่งงันไปเลยทีเดียว ไม่คาดคิดว่าผู้ชายเจ้าของใบหน้าและเรือนร่างที่แสนชวนฝันจะกลายเป็นบุคคลที่เธอตามรังควาญมาตลอดและล่าสุดเพิ่งจะออกคำสั่งกับมารตีให้ฆ่าเจตน์ เดชวโรดม ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเดชวโรดมและเป็นทายาทคนปัจจุบันของวังอิศรา

“อะไรกันเนี่ย!ผู้ชายคนนี้คือเจตน์ เดชวโรดม ที่ฉันเพิ่งสั่งให้นังมารตีไปฆ่าอย่างนั้นเหรอ ทำไมต้องเป็นเขา ทำไมต้องเป็นเขาด้วย”หญิงสาวรำพึงรำพันอยู่ภายในใจเธอมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายเอ่ยทักขึ้น

“คุณษาไม่สบายหรือเปล่าครับ หน้าซีดเชียว”อลันพูดพร้อมยกมือของเขาพลางใช้ฝ่ามือลูบไล้ใบหน้าหญิงสาวไปมาเบาๆ เป็นการปลอบประโลมเพราะเขารู้ดีว่าคำตอบของเขาทำให้เจ้าหล่อนตกใจอยู่มิใช่น้อย

“เออ...ไม่...ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ฉันรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาเฉยๆ”หญิงสาวเอ่ยตอบแผ่วเบา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขาพร้อมเอ่ยสำทับขึ้น

“คุณ...เออ...คุณเจตน์จะมาเยี่ยมษาอีกไหมค่ะ”เจ้าหล่อนพูดพร้อมจ้องมองหน้าของเขาตาไม่กะพริบ

“มาแน่นอนครับ อย่าลืมสิว่าเรามีธุรกิจที่ต้องคุยกันยาวเลยนะ เราคงต้องรู้จักกันให้มากกว่านี้และไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องธุรกิจเสมอไป”มหาเศรษฐีหนุ่มเอ่ยคำตอบที่ทำให้เจ้าหล่อนตรงหน้ามโนไปไกล

ใบหน้าสวยจากการทำศัลยกรรมตกแต่งมาเป็นอย่างดี ปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของเธอทันที ในยามนี้ความคิดของเธอกำลังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผู้ชายตรงหน้าทำให้เธอพึงพอใจและเธอหลงใหลในรูปโฉมของเขาอย่างเหลือล้นและที่สำคัญเขามีประโยชน์เกินกว่าที่เธอคิดเอาไว้มากมายยิ่งนัก

เพราะฉะนั้นเรื่องที่เคยคิดจะทำลายและทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ทายาทของวังอิศราให้ย่อยยับ แปรเปลี่ยนเพื่อหาประโยชน์และแสวงหาความสุขใส่ตัวเป็นการดีที่สุด เพราะประโยชน์ที่จะได้รับมากกว่าที่จะทำลาย หากได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่เมื่อไร การทำลายไม่ยากเลยที่จะทำในวันข้างหน้า

“หวังว่าษากับคุณเจตน์เราคงมีสัมพันธ์ภาพที่ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้นะค่ะ”หญิงสาวเอ่ยเป็นนัยกับชายหนุ่มตรงหน้า

“แน่นอนครับคุณษา”มหาเศรษฐีหนุ่มไม่พูดเปล่า เขายกมือของหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะกดริมฝีปากอุ่นจัดของเขาลงบนหลังมือของเธอเพื่อสร้างความปั่นปวนใจทิ้งไว้ให้อย่างไม่รู้ลืม และการกระทำดังกล่าวบังเกิดผลจริงๆ แม่โฉมงามแทบอยากกระโดดรัดคอของเขาซุกหน้าแนบอยู่กับแผ่นอกของเขาด้วยความรัญจวนใจยิ่งนัก

ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมส่งยิ้มให้กับหญิงสาวก่อนจะหันหลังกลับพร้อมแบบแปลนอาคารที่เขาอาสาจะเก็บรักษาให้กับเจ้าหล่อน พร้อมก้าวเดินออกจากห้องดังกล่าวทันทีพร้อมเสียงของดวงวิญญาณน้องชายฝาแฝดเอ่ยถามไล่หลังตามมาติดๆ

“พี่ชายจะเอาแบบแปลนมาทำไม แล้วที่ทำเมื่อกี้พี่ชายตกหลุมเสน่ห์ทายาทจากวังเทพรัตน์แล้วเหรอ”

“ในชีวิตนี้ฉันรักท่านหญิงมณีคนเดียว ที่แกเห็นเมื่อกี้เขาเรียกว่าวิธีหลอกผู้หญิงให้หลงรักและที่ทำทุกอย่างก็เผื่อเอาวัง
จันทรากลับคืนมาและทำให้ฉันได้พบกับท่านหญิงอีกครั้ง”อลันเอ่ยตอบน้องชายฝาแฝดทางกระแสจิตกลับไป

“พี่ชายส่งคนไปสืบแล้วไม่ใช่เหรอ จะลงทุนหว่านเสน่ห์ไปอีกทำไมเดี๋ยวก็มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นอีกนะพี่ชาย ผู้หญิงน่ากลัวมากนะ”เจตน์เอ่ยเตือนพี่ชายฝาแฝดของเขา

“แกสบายใจได้เจ้าเจตน์ ฉันระมัดระวังตัวของฉันเสมอ จะคิดอะไรจะทำอะไรผ่านการคิดและชั่งใจมาแล้วเป็นอย่างดี และตอนนี้ฉันได้ที่อยู่ของท่านหญิงมาแล้ว”

“หา!ได้มาแล้วเหรอ...ท่านหญิงอยู่ที่ไหนเหรอพี่ชาย”เจตน์ร้องถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
“แบบแปลนที่อยู่ในมือพี่นี้แหละ มีนามบัตรของบริษัทฯ แนบมาด้วย ให้คนของเราเข้าไปสืบในบริษัทฯนี้เลย ส่วนแบบแปลนเราจะต้องใช้ในการประเมินวงเงินในการขอสินเชื่ออยู่แล้ว ยังไงก็ต้องเอามาอยู่ดี”มหาเศรษฐีหนุ่มเอ่ยบอกน้องชายฝาแฝดด้วยความดีใจอย่างที่สุด กับสิ่งที่เขาเพิ่งได้ข้อมูลมา

การติดตามหาของท่านหญิงมณี ผู้หญิงที่เขารักที่สุดตั้งแต่ชาติที่แล้ว จนถึงภพชาตินี้ใกล้จะเป็นความจริงเข้ามาแล้วต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหาเขาก็จะต้องตามหาท่านหญิงมณีของเขาให้พบจนได้และเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านหญิงมณีอยู่เคียงข้างกายเขาชั่วนิจนิรันดร์



มณีภัสสร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 มิ.ย. 2558, 00:41:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 มิ.ย. 2558, 00:41:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 895





<< ตอนที่ 11 เสียงเพรียกหา   ตอนที่ 13 ปลดปล่อยผีร้าย >>
เคสิยาห์ 8 มิ.ย. 2558, 07:48:23 น.
สนุกสนาน น่าติดตาม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account