กำราบรักจอมเผด็จการ
'กฎของเราคือห้ามรัก' ชัคไม่คิดว่าจะพาอันนามาสู่อันตราย ร่วมมือกันเพื่อหาคนร้ายคือทางออกเดียวที่เธอจะออกไปจากวังวนของมาเฟียอย่างเขาได้
Tags: ความรัก อดีต ซาบซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 4 ครึ่งแรก

อันนาปิดประตูแล้วก็เดินเร็วๆ กลับมามองอาการที่เริ่มจะดีขึ้นของชัคเพราะคิ้วไม่ขมวด หน้าตาไม่เหมือนใกล้ตาย ริมฝีปากไม่เม้มจนเกือบเป็นเส้นตรง แต่ก็ยังไม่ปกติอยู่ดี
“ให้ฉันโทรเรียกหมอให้ดีกว่าไหม หน้าคุณซีดมาก ป่วยเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ไปตามคนมาช่วยดีกว่านะ”
“อย่า...อีกเดี๋ยวก็จะดีขึ้น”
“จริงๆ นะ”
ชัคพยักหน้า เขาควรเปิดลิ้นชักแล้วหยิบปืนออกมา ทว่าบางอย่างในดวงตาของอันนาทำให้ยังไม่ทำแบบนั้น ร่างเพรียวเดินมายืนข้างหลังเก้าอี้ ชั่งใจก่อนยื่นมือไปจับมือที่เย็นชืดของเขามาแล้วนวดเบาๆ เผื่อว่าพอมืออุ่นเลือดจะไหลเวียนดี
“อย่าหลับตาสิคุณ”
“ผมยังไม่ตายหรอกน่า เงียบๆ หน่อยได้ไหม สักนาที” เขาถอนใจยาวๆ ยังต้องการเวลา ภาพของแม่ที่มาหากลายเป็นฝันร้ายในคืนนี้
อันนานวดมือทั้งสองข้างของชัคไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าอาจเป็นเพราะอาการเกร็งหรืออะไรสักอย่างก็ได้ เธอเคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้เวลาทำงานหนักไม่มีเวลาพักผ่อน ชัคลืมตามองความระแวงยังเต็มเปี่ยม ทว่าความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้นเมื่อผ้าเช็ดหน้าสีขาวในมือเล็กค่อยๆ ซับเหงื่อให้อย่างเบามือ เขาคิดถูกแล้วที่ไม่ได้ทำบางอย่างลงไป
หน้าซีดเซียวกลับมาซับสีเลือด มือเย็นเริ่มอุ่นแล้ว ความทรมานจากความเจ็บปวดบางอย่างหายไป แต่ถ้าไม่รักษาคงเป็นอีกอยู่ดี อันนาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แทนที่จะไปจากที่นี่แล้วทิ้งคนใจร้ายไว้เบื้องหลังกลับมาช่วยเขาทั้งๆ ที่เป็นตัวอันตราย
“ดีขึ้นไหมน่ะคุณ เงินก็มีตั้งเยอะแยะทำไมไม่ดูแลตัวเอง ป่วยก็น่าจะไปหาหมอ”
“เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่” น้ำเสียงของชัคเรียบเรื่อยจนคนฟังไม่แน่ใจว่ากำลังไม่พอใจหรือว่าแค่ถามกันแน่
อันนาคว้ากระเป๋ามาคล้องไหล่ถ้าคุยกันมากกว่านี้คงกลายเป็นทะเลาะ เธอช่วยเขาเพราะอยากช่วย ไม่ใช่เพราะอยากได้ของคืนอย่างเดียว เห็นว่าหน้าซีดใกล้ตายเมื่อครู่ไม่อยากมีเรื่องเพิ่ม วันหลังค่อยมาใหม่
“เดี๋ยว...” ชัคมีเรื่องจะถาม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เจ้าของห้องมองมายัง ‘แขก’ ที่ไม่ค่อยได้รับเกียรติเท่าไหร่ แน่ล่ะใครล็อกประตูก็ต้องเป็นคนไปเปิดอยู่แล้ว พนักงานคนเดิมนั่นเอง
“มีอะไรหรือเปล่า”
“คุณลิลลามาค่ะ”
ร่างสูงลุกขึ้นแล้วเดินเร็วๆ มาหาพร้อมกับคว้าข้อมือของอันนาไว้ เลยถูกมองตาเขียวใส่ แถมยังสะบัดมืออย่างกับรังเกียจ แต่หลุดเสียที่ไหน
“ทำอะไรน่ะคุณ”
เขาดึงให้เดินตามมาด้วยกันแล้วลงบันไดอีกฝั่ง ถึงจะเดินไม่เร็วอะไร แต่ไม่ได้หยุดทักทายใครต่อใครที่มองมา อย่างกับว่าชื่อของลิลลาน่ากลัวจนต้องหนี ว่าแต่ลิลลาคนเดียวกับที่เธอรู้จักหรือเปล่า ราวกับรู้ว่าคิดอะไร คนเดินหน้านิ่วหันมาแล้วขมวดคิ้วใส่ ทั้งๆ ที่เขานั่นแหละทำให้เธอลำบากใจอีกแล้ว
“ผมมีธุระต้องไปข้างนอก เป็นทางผ่านหอพักของคุณพอดี”
“ฉันไม่ไปไหนกับคุณเด็ดขาด ไม่ๆๆๆ”
ร่างเล็กกว่าขืนตัวไม่ยอมเดินตามมา เห็นหรอกว่าอีกนิดเดียวก็ถึงรถของเขาที่มีคนรอเปิดประตูให้อยู่แล้ว ถามกันสักคำไหมว่าอยากไปด้วยหรือเปล่า
“ไม่เคยมีคำว่าไม่สำหรับผมเสียด้วยสิ” เขาปรายตามองหัวเราะต่ำๆ ในลำคอ
“ถ้างั้นฉันยิ่งไม่ไปกับคุณ”
“แล้วกัน น่าเสียดาย สร้อยเส้นนั้นคงถูกทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาคืนนี้แหละ รถของผมจะขับไปทางนั้นพอดี”
อันนาหยุดขืนตัวมองตามาเฟียน้ำเมาอย่างค้นหา บางทีเขาอาจจะพูดเล่น แต่ดวงตาคู่นั้นไม่มีอะไรที่ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองได้เลย
“ไม่ได้นะ...”
ชัคปล่อยข้อมือของอันนาแล้วเข้าไปในนั่งรถ หันมามองเจ้าของสร้อยอีกครั้ง ให้เวลาอีกชั่วอึดใจเท่านั้น
คนถูกบังคับทางอ้อมจำใจเข้ามานั่งด้วย แต่มองคนข้างๆ อย่างไม่เป็นมิตร ราวกับสมใจแล้วเมื่อเสียงทุ้มสั่งให้รถเคลื่อนออกไป กระเป๋าสะพายเปิดออก มือเย็นเฉียบสอดเข้าไปแล้วหยิบสนับมือไว้ ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มากก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลย
“ต่อไปนี้ ผมจะส่งคนติดตามคุณยิ่งกว่าเงาตามตัว คุณทำอะไรที่ไหน กับใคร คิดอะไร ผมต้องรู้ทั้งหมด ตอนแรกก็ว่าจะให้สร้อยแล้วต่างคนต่างไป แต่ตอนนี้คงไม่ได้เมื่อคุณรู้ความลับของผมแล้ว”
ช่างเป็นคำพูดที่แสนสำนึกในบุญคุณจนอยากตะโกนใส่หูของชัคดังๆ ให้หูหนวกไปได้ยิ่งดี อันนาถอนใจยาวมองผู้ชายที่หลุดกรอบจากคำว่ามนุษย์ธรรมดาๆ ไปไกล
“ไร้เหตุผล ทำคุณบูชาโทษ อุตส่าห์ช่วย ชาวนากับงูเห่า”
สายตาคมตวัดผ่าน เรียวปากแยกออกราวกับยิ้มเยาะ “ถ้าผมเป็นงูจริงๆ ก็ไม่กัดคุณหรอก”
ฟังแล้วใช่ว่าจะรู้สึกดีขึ้น อันนายอมเสียฟอร์มหันไปมองหน้าต่างแทน เส้นทางที่เห็นยังพอเบาใจได้ว่าไม่ได้ถูกพาไปที่อื่น
“รับไปสิอยากได้คืนไม่ใช่หรือ”
อันนาหันมาก็เห็นสร้อยท้องคำขาวที่คล้องล็อคเก็ตไว้อยู่บนฝ่ามือใหญ่ของชัค ความดีใจเผยออกมาเป็นรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะที่รักษาสัญญา ฉันถามคุณสักข้อได้ไหม”
“ตอนนี้หน้าตาของผมพร้อมจะตอบคำถามของคุณหรือไง ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นในห้องนั้น ถ้าคุณเอาไปบอกใคร สิ่งที่คุณคิดว่าผมจะทำ ผมก็จะทำแบบนั้น”
พอเริ่มจะรู้สึกดีด้วยก็หายวับ อันนาเขยิบห่างเขาเท่าที่เบาะหลังจะมีพื้นที่ให้ห่างจากใครได้
“ถ้าขู่ได้แล้วคงไม่ตายแล้วล่ะ นั่นถึงหอฉันแล้ว”
โชคดีเป็นล้นพ้นที่ไม่ต้องนั่งนานไปกว่านี้ รถยังไม่ทันจอดสนิทด้วยซ้ำ อันนาก็เปิดประตูกำลังจะยื่นขาออกไป แต่แขนกลับถูกจับไว้ เธอใจหายแว๊บมองไปรอบๆ พร้อมตะโกนสุดเสียง ทว่าบางอย่างที่เรียบลื่นมันได้วางลงบนฝ่ามือ พอเห็นค่อยเบาใจ
“รับเงินของคุณคืนไป”
มือบางสะบัดออก เงินปลิวลงไปอยู่บนเบาะอย่างสวยงาม การชนะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คงพอทำให้ใครสักคนได้รู้เสียบ้างว่า ‘ไม่’ อาจไม่น่าฟัง แต่ใครๆ ก็ต้องได้รับคำนี้เสมอ
“ต่อไปนี้ไม่ว่าคุณจะทำอะไรที่เป็นการทำร้ายฉัน ฉันจะทวงบุญคุณจากเรื่องนี้”
มือหนายังไม่ยอมปล่อย ต่อให้อันนาดึงเท่าไหร่ก็ไร้ความหมาย เสียงหัวเราะต่ำกังวาน ชัคมองเงินสลับกับใบหน้าถือดีทั้งๆ ที่มือสั่น
“เด็กบ้า!”
อันนากระชากข้อมือคราวนี้ชัคยอมปล่อยอย่างง่ายดาย เธอรีบเดินไปเข่าสั่นระริกจนชนกันเองเกือบล้ม เมื่อเข้ามาในหอพักแล้วมอง รถสีดำมันปลาบคันใหญ่ก็ขับออกไปพอดี ความกลัวทำให้หมดแรงจนเดินต่อไม่ไหว ได้ตอนเอาหลังพิงผนังแล้วถอนใจยาวๆ
“เป็นอะไรหรือน้ำ แล้วใครมาส่ง วินไม่ทันเห็น”
ราวกับได้ยินเสียงสวรรค์เมื่อเงยหน้าแล้วพบว่าเป็นนาวินที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใส่แว่นตาทั้งที่มืดแล้ว อันนาหัวเราะออกมาเบาๆ ความกลัวหายไปในพริบตา
“คนรู้จักน่ะ เป็นทางผ่านเลยมาส่ง แล้ววินล่ะ มาหาน้ำมีอะไรหรือเปล่า”
นาวินยิ้มกว้างคุ้มค่าที่อุตส่าห์นั่งรอเพื่อนมาเกือบชั่วโมง “มาช่วยน้ำเก็บของไงล่ะ มีอะไรให้ช่วยอีกไหมแล้วสร้อยหาเจอหรือยัง”
“ขอบใจมากจ้า น้ำเจอสร้อยแล้วล่ะ ส่วนในห้องก็เหลือแต่ของกระจุกกระจิกอีกนิดเดียวเอง น้ำเก็บเองได้ วินมีถ่ายแบบวันนี้ทั้งวันไม่ใช่หรือ น่าจะเหนื่อย ไปพักดีกว่านะ”
“แล้วแต่น้ำ รอให้น้ำขึ้นลิฟต์ไปก่อน แล้ววินจะกลับ”
อันนาพยักหน้าแล้วเข้าไปในลิฟต์ที่เพื่อนชายกดให้ ยกมือลาก่อนบานลิฟต์จะปิดลง นาวินยืนรอจนกระทั่งไฟแดงบอกว่าอันนาไปถึงชั้น 6 แล้วจึงก้าวออกมาจากตึก เดินไปหยุดที่รถซึ่งผู้จัดการส่วนตัวรอจนหลับไป เมื่อเห็นแสงไฟรำไรจากระเบียงห้องของเพื่อนแล้วถึงเข้าไปในรถอย่างสบายใจ

การย้ายหอพักไม่วุ่นวายยุ่งยากเมื่อธีรากับนาวินหาคนมาช่วยรวมทั้งรถอีกสองคัน ป้าอรกับทุกคนที่ร้านก็มาช่วยกัน อันนาขอเลี้ยงอาหารกลางวันทุกคนเป็นการขอบคุณ ก่อนที่แยกย้ายกันกลับ เหลือแต่ธีราที่ยังอยู่ช่วยเก็บของเข้าชั้นวางและตู้เสื้อผ้า ส่วนนาวินต้องกลับไปทำงานต่อ ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่ก็ยังมา
เฟอร์นิเจอร์ในห้องใหม่เป็นแบบบิวท์อินจึงสะดวก อันนานำเสื้อผ้าใส่ไม้แขวนเพื่อเก็บเข้าตู้ ธีราอยู่ในห้องที่กั้นไว้สำหรับเป็นครัวเล็กๆ จานชามต่างๆ จัดเรียงไว้รอใช้รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า สองสาวนั่งกินอาหารที่ซื้อมาตั้งแต่กลางวันพลางดูละครช่วงเย็น พออิ่มก็ลงพักเอาแรง หมอนใบเล็กส่งมาแล้วนอนลงใกล้ๆ กัน ช่างเงียบสงบ ชีวิตใหม่อีกบทกำลังเริ่มขึ้นแล้ว
“น้ำคิดว่าอีตาคุณชัคจะส่งคนมาตามจริงๆ ไหม”
เสียงถอนใจเบาๆ มาก่อนคำตอบที่ยังแฝงความกังวล “ไม่รู้สิ เขาอาจจะแค่ขู่ก็ได้ ไม่มีเรื่องอะไรต้องเกี่ยวข้องกันแล้วนี่”
“บางทีเขาอาจพูดจริงก็ได้นะ แค่หายใจไม่ออก หน้ามืดตาลาย มันเป็นความลับอะไรนักหนาเนอะ”
“พวกมีศัตรูเยอะละมั้งกลัวใครมาตามเช็คบิล ช่างเถอะ อยากตามก็ตาม น้ำคงบอกมดคนเดียวเนี่ยแหละ” หญิงสาวหัวเราะปลงชีวิต การร้องไห้ไม่ใช่การแก้ปัญหา การยิ้มสู้ทั้งที่กลัวแทบตายคงน่าภูมิใจกว่า
ธีรากลับไปแล้ว อันนาว่างๆ เลยเปิดโน้ตบุ๊กหางานทำเป็นเรื่องเป็นราว ทรานสคริปท์ 7 เทอมสามารถหางานได้แล้ว อีกไม่เกินเดือนเกรดคงออกครบ เธอมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน การเรียนในรั้วมหา’ลัยได้จบลงแล้ว

รูปถ่ายตลอดทั้งวันกำลังถูกเปิดในแทบเลตตรงหน้าของชัค คำสั่งติดตามยังไม่ถูกยกเลิก มีบางอย่างที่เธอไม่สมควรรู้ เพียงแต่ความสงสัยจากเรื่องหนึ่งกลายเป็นอีกเรื่อง ในโลกนี้มีคนชื่ออันนามากมาย แต่อันนาคนนี้ทำให้เขาคิดถึงใครอีกคนได้อย่างประหลาด
“คุณอันนาย้ายหอพักไปแล้วครับ” ชาญรายงาน “ตอนนี้คุณชัคไม่ได้สงสัยว่าเธอจงใจใส่ร้ายแล้วทำไมยังให้ตามความเคลื่อนไหวต่อไปอีกล่ะครับ”
เมื่อคืนชาญไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็จริง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ความลับของเขา หนึ่งในนั้นมีชาญรวมอยู่ด้วย “เพราะอันนารู้ความลับของผมแล้วน่ะสิ แล้วแก้ไขเสียใหม่ ผมหมดข้อสงสัยเรื่องที่แจ้งเบาะแสแล้วก็จริง แต่ยังไม่วางใจ คิดดูสิ ถ้าทางนั้นรู้ว่า หรือแม้แต่คนใกล้ตัวของผมรู้ คงระส่ำระส่ายกันน่าดู ไปๆ มาๆ ผมจะถูกหาว่ามีอาการทางจิตแทนน่ะสิ”
“แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณชัคคิดก็น่าจะเสนอค่าปิดปาก”
รอยยิ้มเหยียดจากชัคทำให้ชาญรู้ว่าคิดง่ายไป เงินปิดบังความลับได้เท่าๆ กับฆ่าคน
“การปิดความลับด้วยเงินไม่ยั่งยืนเท่าทำให้คนคนนั้นมาเป็นพวกเดียวกันกับเรานะชาญ”
“ผมดูท่าแล้วคุณอันนาคงไม่มาเป็นพวกเดียวกับเราง่ายๆ หรอกครับ” ถ้าอยากเข้ามาสืบความลับอย่างคนก่อนๆ คงเข้ามาตีสนิทหว่านเสน่ห์อย่าง... ชาญส่ายหน้า มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก
“คอยดูต่อไปแล้วกัน”
ชัคหัวเราะเริ่มสนุกกับเกมใหม่ที่อาจมาจากเพื่อนเก่า คู่ต่อสู้ในธุรกิจหรือเป็นโชคชะตาก็สุดแล้วแต่ ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวนานอะไร ตอนนี้เขาก็แค่รอ บทเรียนมีแล้วและจะไม่ตกหลุมพรางของใครอีก

แล้วจะมา up ต่อนะคะ



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 มิ.ย. 2558, 09:22:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 มิ.ย. 2558, 09:22:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1211





<< ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง    ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง >>
Zia 13 มิ.ย. 2558, 11:51:03 น.
รอนะคะ


แว่นใส 13 มิ.ย. 2558, 15:21:31 น.
ระแวงนางเอกเรามากไปนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account