Rainbow University สายรุ้งรักปักหัวใจนายต่างชาติ(1)
มหาวิทยาลัยสายรุ้งหรือRainbow University เป็นมหาลัยเอกชนชื่อดังของเมืองไทยที่ใครๆก็ต่างอยากมาเรียนกันทั้งนั้น เพราะที่นี่ผลิตบัณฑิตอย่างมีคุณภาพ และจะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆเกินหยั่งถึง
ทำไมนะทำไม คนอย่างฉันจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย อาจารย์นะอาจารย์ก็รู้อยู่ล้วว่าฉันน่ะมันเป็นคนที่มีความสามารถ(แน่ะ ชมตัวเองด้วย) ยังจะมาท้าทายฉันด้วยการให้โจทย์การแสดงวัฒนธรรมต่างประเทศ แถมยังต้องให้ไปหาคู่แสดงเองอีก ฉันเลยต้องไปพึ่งนักศึกษาที่เป็นเด็กแลกเปลี่ยนมาจากจีนอยู่คณะอื่น ปี3 ยังไม่พออีกนะฉันยังจะต้องมาแข่งกับยัยดาวคณะเน่านี่อีกด้วย เฮ้อ....ชีวิตหน๋อ...ชีวิต
ปล.บ่นโดย ยัยสุพรรณิการ์ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ สาขานาฏศิลป์ ปี 2
Tags: รัก ฮาๆ ฟินๆจิกหมอนขาด

ตอน: ตอนที่ 3 คู่แท้

สนามฟุตบอล เป็นที่สุดท้ายที่ฉันจะย่างก้าวเข้ามาเหยียบ และอีกอย่างใครเค้าจะมาเล่นบอลกันตอนที่ฝนพึ่งหยุดตกแบบนี้ แฉะจะตาย ลื่นอีกด้วย
รองเท้าผ้าใบสีขาวที่ฉันใส่มาเรียนทุกวัน ตอนนี้สภาพไม่ต่างจากพื้นเท่าไหร่ มอมแมมมีแต่โคลน เป็นไอ้คนที่ฉันมาตามหาแท้ๆเลย รองเท้าที่สุดแสนจะขาวของฉันเลยต้องเป็นแบบนี้ (มาขอให้เขาช่วยแล้วยังจะลามปามอีก)
“ขอโทษนะคะ ฉันจะหา หลี จื่อเฉิงได้ที่ไหน” ดันมีคนมานั่งเล่นแถวนี้พอดีถามซะเลยละกัน
“น่าจะอยู่ในโรงยิมนะ” อะไรนะนี่ฉันอุตส่าห์มาหาที่สนามบอลแล้ว ยังจะให้ฉันไปที่โรงยิมอีกเหรอ ฉันเหนื่อยแล้วนะ จะให้เดิมอ้อมสนามไปที่โรงยิมอีกเหรอไง คนอะไรจะตามหาได้ยากขนาดนี้เนี่ย

สุดท้ายฉันก็ต้องหอบสังขารมาที่โรงยิมจนได้ ก็มันไม่มีทางเลือกแล้วนี่ เอ๊ะ...นั่นคนนี่ลองไปถามเค้าดีกว่า นี่ถ้าบอกอีกว่าให้ไปหาที่สนามบาส วันนี้ฉันคงขอบายก่อนนะเหนื่อยเวอร์
“ขอโทษนะคะฉันมาหาใครคนหนึ่ง...” สตั้นสัก 10 วิได้ไหม ทำไมวันนี้ฉันเจอแต่คนหล่อๆเนี่ย แต่คนนี้หล่อพิเศษกว่าคนอื่นหน่อย หน้านี่หว๊านหวานกว่าผู้หญิงอีก ผิวขาว สูงสัก 177 ซม.ได้ ปากหยักได้รูป นัยย์ตาน่ารักน่าเอ็นดู ดูบางมุมก็สวย บางมุมก็โคตรหล่อ คนอะไรมันจะครบถ้วนขนาดนี้ คิดดูเถอะขนาดฉันที่ว่าเป็นคนไม่ค่อยสนผู้ชายยังต้องเคลิ้มขนาดนี้เลย ว่าแต่ฉันจะเคลิ้มนานไปแล้วนะ ไม่ได้ ไม่ได้ เดี๋ยวเสียเชิงกุลสตรีหมด(จากที่แต่เดิมก็ไม่มีอยู่แล้ว)
“หาใครครับ” เสียงนี่สุขุมเชียวนะพ่อคุณ ฟังแล้วขอเคลิ้มอีกรอบ
“ละ...ละ...หลี จื่อเฉิง ค่ะ” เก็บเอาไว้ เก็บเอาไว้นะ อย่าให้หลุดเด็ดขาด
“คุณเป็นอะไรกับเค้าเหรอครับ” หา! ทำไมถามแบบนั้นล่ะ แหม ฉันดูเหมือนเป็นอะไรกับใครงั้นเหรอ
“เปล่าค่ะ ฉันแค่มีธุระจะคุยกับเค้าเรื่องสำคัญมากกกก” สำคัญจริงๆนะ แต่ถ้าให้คุยกับพ่อหนุ่มนี่ก่อนก็โออยู่นะ
“เรื่องอะไรครับ ผมรู้ได้ไหม” ด้ายยยยสิ เอ้ย! ไม่ได้ นายเป็นใครเนี่ยถึงอยากมารู้เนี่ย
“ว่าแต่คุณเป็นใครเหรอคะ เพื่อนของ พี่จื่อเฉิงเหรอ”
“^^+ พี่!” เขาดูขำนิดหน่อยตอนที่ฉันใช่สรรพนามนี้กับหลี จื่อเฉิง
“O_o?” ฉันเริ่มรู้สึกตะหงิกใจขึ้นมาหน่อยๆซะแล้วสิ หมายความว่าไงวะ หรือว่า...ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า คนตรงหน้าฉันคือ หลี จื่อเฉิง ชายคนจีนที่ฉันตามหาอย่างเหน็ดเหนื่อย
“คุณนั่นเอง ใช่ไหมคะ จื่อเฉิง” เค้าระเบิดหัวเราะ ออกมาเฉยเลย หมดกันความหล่อ น่าเกลียดอะผู้ชายคนนี้ นี่ฉันไม่ได้โง่ซะหน่อย หลอกฉันได้ไม่นานหรอก
“ ^O^ อ้าว...คราวนี้ไม่เรียกพี่แล้วเหรอ” ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเค้านะ นี่ขนาดพึ่งเจอกันครั้งแรกเอง ฉันขอถอนคำพูดที่พึ่งชมว่าเค้าดูดีออกให้หมดเลย ต่อไปนี้ฉันจะไม่ดูคนที่หน้าตาอีก ให้ตายสิ!!!
“-_-++ สนุกมากไหมคะพี่ โทษทีนะคะ ที่ฉันโง่ได้แป๊บเดียว” ฉันเลยส่งสายตาอาฆาตใส่เค้า ไม่งั้นก็คงไม่หุบปากหัวเราะแน่นอน
“โอเค...มีเรื่องอะไรครับน้อง” เข้าเรื่องก็ดีแล้ว จะได้จบๆไปซะที (ยังไม่ได้เริ่มเลยจะจบแล้วเหรอ)
“ฉันอยากได้พี่มาเป็นคู่แสดงในงานวันครบรอบมหาลัย ช่วยฉันหน่อยนะคะ” เค้ามองหน้าฉันแบบว่า...ฉันเป็นมนุษย์ที่แปลกมากที่สุดที่เคยเจอมาเลย
“ฉันได้หัวข้อการแสดงนาฏศิลป์ของจีนเลยต้องขอให้คุณช่วย” จะเอาไงแน่เนี่ยฉัน จะพี่หรือจะคุณ เฮ้ยยยงงตัวเอง
“ทำไมผมต้องช่วยคุณล่ะ” ไอ้นี่ก็อีกคนหนึ่งจะน้องหรือจะคุณ
งานงอกแล้วสิ ไม่ได้คิดคำตอบมาด้วย แล้วทำไมต้องเป็นเค้าล่ะ ฉันเองก็ไม่รู้หรอก อาจเป็นเพราะว่าเค้ารู้วัฒนธรรมของบ้านเค้ามั้ง แต่หมอนี่เป็นลูกครึ่งนะ จะรู้หมดเหรอ
“...” ไม่มีคำตอบจากสาวไทยคนสวยอย่างฉัน
“เอางี้...ถ้าคุณตอบผมได้แล้วผมจะยอมเป็นคู่แสดงของคุณ แต่ต้องเป็นคำตอบที่ถูกใจผมนะ” อะไรนะหาคำตอบมาตอบงั้นเหรอ แค่ฉันยืนคิดตรงนี้ยังคิดไม่ออกเลย แล้วจะไปเอาอะไรมาตอบเนี่ย อีตาบ้าก็เดินไปนุ่นแล้ว เอาไงดีเนี่ย
“ถ้าฉันตอบไม่ได้ล่ะ ให้ฉันทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ!!” ฉันต้องตะโกนถาม เพราะฉันกับเค้าอยู่ไกลกันมากกกกกก
“.....” คำตอบที่ได้มา ชื่นใจจังเลย นี่ไม่ได้ยินหรือว่าไม่ได้ฟังกัน หา!!! ตอบที

ครอบ ครอบ
เบื่อโว้ย คิดอะไรก็ไม่ออก ฉันเลยต้องมานั่งกินมันแกวที่โรงอาหารแทน กินไป คิดไปเผื่อจะคิดออก “ทำไมผมถึงต้องช่วยคุณงั้นเหรอ” ทำไมล่ะ ทำไม
“ไอ้ณิ!!!!”
“อุ้ยแหก!!!!!” ตกอกตกใจหมดเลย นึกว่าใคร ที่แท้ก็ อัญชัน ลูกพี่ลูกน้องที่อาศัยอยู่กับฉันนี่เอง มันเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการสื่อสารมวลชน ปี 2 ปีเดียวกันเนี่ยแหล่ะ ชอบโผล่แบบนี้อยู่เรื่อย
“ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว่าห้ามโผ่ลมาแบบนี้ หัวใจจะวายตาย”
“โห...ทำเป็นคนแก่ไปได้น่า มาทำอะไรตรงนี้คนเดียวนี้ ไม่มีเรียนเหรอ”
“มีแต่ยังไม่ถึงเวลา เลยมานั่งเครียดตรงนี้ก่อน”
“เครียดเรื่องไรอะ” มันถามพร้อมกับเอามันแกวยัดเข้าปาก เออว่าไปก็ดีเหมือนกันนะที่มันถาม ฉันจะได้ปรึกษามันซะเลย
“เครียดเรื่องคู่แสดงอะดิ ฉันของให้ว่าที่คู่ของฉันมาเป็นคู่ แต่เค้าไม่ยอมว่ะ” คนถามเองก็งงตั้งแต่ว่าที่คู่แล้วเหมือนกัน หวังว่ามันจะฟังออกนะ
“ไม่ยอมประมาณไหนอะ” แหน่...เห็นไหมมันฟังออกด้วย แต่จะบอกมันยังดีอะ
“เค้าบอกว่า ทำไมผมถึงต้องช่วยคุณด้วย” อัญชันทำหน้าคิดหนักมากอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันมายิ้มแบบเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน
“^^+ แกก็บอกไปว่า เพราะคุณคือคู่แท้ที่เหมาะที่สุดแล้ว” เดี๋ยวๆ มันแปลกๆนะ เหมือนฉันกำลังจะขอผู้ชายแต่งงานเลยยังไงก็ไม่รู้สิ
“จะบ้าเหรอวะพูดไปแบบนั้น เดี๋ยวก็เจอทีนหรอก” อี๋ คงขนลุกหน้าดูถ้าฉันพูดแบบนั้นจริงๆ
“ฉันว่าไม่หรอก ลองดูสิ” มันก็น่าลองอยู่หรอก แต่ฉันรู้สึกว่ามันจะไม่ดูฮาไปหน่อยหรอ จะเอาไงดีวะเนี่ยชีวิตฉ๊านนนนนนนนนน



Greek
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มิ.ย. 2558, 10:36:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มิ.ย. 2558, 10:36:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 837





<< ตอนที่ 2 หาคู่   ตอนที่ 4 เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตหรือผีผลัก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account