พันธกานต์สิเน่หา
งานเขียนนี้เคยตีพิมพ์ในนามปากกาทิตภากร ปัจจุบันต้นฉบับได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่องและวางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!!
(เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วน)
(เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วน)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 5
ร่างใหญ่โตของอันโตนิโอที่นอนจมอยู่บนที่นอนพลิกตัวหลบแสงแดดที่เล็ดลอดหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาที่ปิดสนิท ทว่าเสียงสะอื้นไห้ที่แว่วเข้าหูกลับทำให้เขาต้องสลัดความคิดที่จะหลับต่ออีกสักพักแล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมอง
วินาทีที่เห็นเพนนีนั่งชันเข่าซบหน้าสะอื้นไห้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เนื้อตัวเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มห่อหุ้มกาย ความง่วงที่มีอยู่ในตัวเขาก็หายไปในบัดดล รีบทะลึ่งตัวขึ้นนั่ง มองสภาพตัวเองก็เห็นว่าไม่แตกต่างจากหล่อน เขาก็ตระหนักได้ว่าพลาดท่าเสียทีให้กอร์ดอนเสียแล้ว
“เพนนี...”
“ออกไปนะ! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” เพนนีกระชับผ้าห่มในมือแน่น ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักตวัดมองอันโตนิโอที่เขยิบตัวเข้าหาหมายจะปลอบขวัญ
“ฟังผมก่อนได้ไหม ผมอธิบายได้”
“ยังต้องอธิบายอะไรอีก ฉันตื่นขึ้นมาก็อยู่กับคุณในสภาพนี้แล้ว”
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ นี่เป็นการจัดฉากของ...”
(((เพียะ!)))
“คนสารเลว! ยังจะกล้าปฏิเสธอีกอย่างนั้นเหรอ ฉันมันโง่เองที่หลงเชื่อเสือผู้หญิงอย่างคุณ” เพนนีพลั้งมือทำร้ายเขา หล่อนสับสนว้าวุ่นใจไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะโกรธเกลียดหรือน้อยใจที่เขาปัดความรับผิดชอบ
“จะไปไหน” อันโตนิโอคว้าเอวคนที่คว้าชุดนอนมาสวมใส่อย่างรีบร้อนแล้วพลิกตัวขึ้นเหนือร่าง ใช้น้ำหนักตัวกดทับไว้ เมื่อเห็นหล่อนทำท่าจะเดินหนีเขา
“นี่ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ!”
เพนนีดิ้นขลุกขลักต่อต้านทั้งที่หน้าแดงซ่าน เพราะความใกล้ชิดนั้นทำให้รับรู้ได้ถึงสรีระแข็งแกร่งของบุรุษ ซึ่งทำให้หล่อนใจเต้นโครมคราม
“ไม่! จนกว่าคุณจะขอโทษผม”
“ไม่มีวันเสียล่ะ!”
เพนนีเค้นคำพูดลอดไรฟัน ทั้งดิ้นทั้งผลักเป็นพัลวัน ซ้ำยังฝากรอยเล็บเป็นทางยาวไว้บนแผงอกกว้าง เรียกเลือดซิบและเสียงโอดโอยหลุดจากปากอันโตนิโอ
“ให้ตายสิ...หยุดเดี๋ยวนี้นะเพนนี หยุดสิ!”
อันโตนิโอคำรามเสียงเครียด หัวเสียอย่างที่สุด เขาไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เพราะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา ซ้ำยังโอนอ่อนผ่อน ไม่เคยต้องใช้กำลังเลยด้วยซ้ำ แต่เวลานี้เขาจำเป็นต้องใช้มันปราบคนดื้อดึงให้อยู่หมัด
“ฤทธิ์มากนักใช่ไหม ดูสิจะทำอะไรได้อีก” อันโตนิโอใช้กำลังที่มากกว่ารวบจับมือเรียวแล้วตรึงไว้เหนือศีรษะหล่อน
แม้เพนนีจะนอนสิ้นฤทธิ์ หอบหายใจจนอกสะท้อน แต่ก็ไม่วายส่งสายตาท้าทาย โดยหารู้ไม่ว่าเวลานี้หน้าตาที่แดงก่ำเพราะความโกรธกับผมเผ้ายุ่งเหยิง ตลอดจนอาการลากไล้ปลายลิ้นอย่างคนเหนื่อยหอบ ล้วนดึงดูดสายตาและส่งให้หล่อนดูเซ็กซี่อย่างที่สุด
อันโตนิโอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหักห้ามใจตัวเอง แม้จะสกัดกั้นอารมณ์และความรู้สึก แต่ปฏิกิริยาทางกายตามสัญชาตญาณนักรักที่มีอยู่ในตัวก็ลุกโชนอย่างง่ายดาย จนเขาเองยังหงุดหงิด
“คนบ้า! เกลียดนักพวกชอบฉวยโอกาส...”
เพนนีก่นด่าได้เพียงเท่านั้น อันโตนิโอก็โน้มหน้าลงบดจูบโดยไม่มีการบอกกล่าว ริมฝีปากร้อนนั้นกลืนกินทุกคำพูดให้หายลงไปในลำคอ ซ้ำยังอาศัยจังหวะที่หล่อนเผยอริมฝีปาก ตวัดปลายลิ้นเข้าแทรกซอนลิ้มลองความหอมหวาน หยอกเย้ากึ่งขบเม้มอยู่ในทีอย่างผู้ชำนาญการ หลอกล่อให้คล้อยตามด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่า
เพนนีตกใจจนทำอะไรไม่ถูกทีเดียว หล่อนนอนตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้ตกอยู่ใต้อาณัติ วินาทีที่ถูกรุกเร้าอย่างรัญจวน ร่างทั้งร่างก็ร้อนวูบวาบราวกับถูกไฟลามเลีย อ่อนระทวยไร้แรงต้าน ยามฝ่ามือซุกซนลากไล้อย่างช่ำชองก็หลุดเสียงครางออกมาอย่างยากเกินจะกักเก็บ
แม้เสียงสะท้อนในใจจะบอกว่าให้ต่อต้านและยับยั้งการกระทำนั้น แต่ร่างกายของหล่อนกลับไม่ยอมเชื่อฟัง ซ้ำยังทรยศใจตน เบียดกายเข้าหา ตอบสนองอย่างไม่ประสา ราวกับจะเชิญชวนให้ริมฝีปากร้อนที่เคลื่อนลงต่ำลากไล้ไปบนผิวนวล
“ให้ตายสิ!” อันโตนิโอสบถอย่างหงุดหงิด จิตสำนึกด้านดีที่ผุดขึ้นมาในหัวทำให้เขายั้งคิด รีบผละออกห่างจากร่างเย้ายวน พลางลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่
เพนนีหน้าร้อนทีเดียว แม้เวลานี้ลมหายใจยังหอบกระชั้น แต่หล่อนก็รีบลุกขึ้นขยับชุดนอนที่เลื่อนหลุดเพราะฝีมือเขาให้เข้าที่ เมื่อเห็นคนผละออกห่างยืนนิ่งเป็นรูปปั้น ขบกรามจนขึ้นสัน คล้ายจะระงับอารมณ์อะไรบางอย่าง ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาไม่หยุดยั้งเสียก่อน ป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน
“ผมขอโทษ...”
อันโตนิโอเอ่ยเสียงเรียบแล้วก้าวออกจากห้องไป เขาทำราวกับว่าถ้าอยู่ต่ออีกสักนาทีจะไม่มีอากาศหายใจ นั่นก็เป็นเพราะ...เมื่อครู่เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะสกัดกั้นอารมณ์ความรู้สึกและผละออกจากร่างนุ่มนิ่มที่ก่อกวนอารมณ์
ครั้นเดินห่างจากห้องพักมาได้สักระยะ อันโตนิโอก็หยุดยืนถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงหน้าตาใสซื่ออย่างเพนนีจะมีอิทธิพลต่อร่างกายและจิตใจเขาถึงเพียงนี้ หล่อนทำให้เสือผู้หญิงอย่างเขาเหมือนจะคลั่งได้ในพริบตา โดยไม่จำเป็นต้องปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวเลยสักชิ้น
“นี่เขาจะมาสิ้นลายเพราะผู้หญิงคนนี้อย่างนั้นหรือ”
อันโตนิโอพึมพำ ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาเร่าร้อนจนแทบจะลุกเป็นไฟอย่างนี้มาก่อน นี่ถ้าเมื่อครู่ไม่คำนึงถึงความถูกต้องและยับยั้งชั่งใจไว้ละก็ ป่านนี้แม่สาวอ่อนประสบการณ์ที่แม้แต่จูบก็ยังไม่ประสา คงได้มานอนทอดกายอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่าง ส่งเสียงครางเรียกชื่อเขาเป็นว่าเล่นแล้วก็เป็นได้...
คล้อยหลังอันโตนิโอ เพนนีรีบลุกจากเตียงแล้ววิ่งตื๋อกลับห้องพัก ไม่ใส่ใจเสียด้วยซ้ำว่าเขาจะไปไหน ไปทำอะไร รู้แต่ว่าต้องรีบกลับห้องให้เร็วที่สุดก่อนที่ใครจะมาพบเข้า มันคงไม่ดีแน่ หากมีใครผ่านมาเห็นหล่อนก้าวออกจากห้องพักของอันโตนิโอในเวลาเช่นนี้
ครั้นกลับเข้าห้องมีความเป็นส่วนตัว เพนนีก็นั่งทบทวนเรื่องที่เกิด แต่หล่อนจำอะไรไม่ได้เลย รู้แต่ว่าก่อนหน้านี้เวียนศีรษะ มารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงกับอันโตนิโอ ซึ่งหล่อนคงไม่ตกใจจนขวัญหนี หากเนื้อตัวจะมีเสื้อผ้าปกปิด ไม่ใช่นอนแนบชิดกับเขาโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็เปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่
คิดมาถึงตรงนี้ใบหน้างามก็แดงซ่าน เรือนกายแกร่งที่ผุดขึ้นมาในความคิดทำให้ใจเต้นโครมคราม ฉับพลันริมฝีปากก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเหมือนชีพจรทุกจุดมารวมตัวกัน เพื่อตอกย้ำให้นึกถึงจุมพิตแสนหวานที่ยังติดตราตรึงไม่รู้หาย
เพนนีแตะริมฝีปากนิ่มอย่างเผลอไผล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหวั่นไหว มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ ทำไมอันโตนิโอถึงเกิดอารมณ์พิศวาสขึ้นมา ทั้งที่หล่อนก็ไม่ใช่คนสวยสะดุดตา หรือจัดอยู่ในประเภทสาวร้อนแรงที่มักจะตกเป็นข่าวคาวๆ กับเขา
เพนนีไม่อยากคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝีมือกอร์ดอน หล่อนเชื่อมั่นในตัวพี่ชาย ยังไงเสียก็คงไม่ทำร้ายกันทางอ้อม โดยการผลักหล่อนให้ตกลงไปในขุมนรก ทั้งที่รู้ว่าหุ้นส่วนของเขามีข่าวฉาวโฉ่กับผู้หญิงไม่เว้นแต่ละวัน
ฉันจะทำให้แกแต่งงานกับอันโตนิโอให้ได้!
เพนนีพ่นลมหายใจออกมา เสียงสะท้อนที่อยู่ในหัวทำให้ต้องฉุกคิด เพราะนั่นคือจุดประสงค์ของกอร์ดอน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการร่วมมือกันระหว่างกอร์ดอนกับอันโตนิโอ เพื่อให้หล่อนดิ้นไม่หลุดจะได้ไม่ปฏิเสธการแต่งงาน
แต่มันจะเป็นไปได้หรือ?
กอร์ดอนบอกหรือยังครับว่าเขายื่นข้อเสนอให้ผมแต่งงานกับคุณ...
คำพูดของอันโตนิโอที่แทรกเข้ามาในความคิด ราวกับต้องการจะตอบข้อสงสัยนั้นทำให้เพนนีหน้าถอดสี หล่อนช่างโง่เง่าเสียนี่กระไร ลืมไปได้อย่างไรกันว่าหนุ่มนักรักนั่นมีจิตละโมบโลภมากอยู่ในตัว แล้วมีหรือ...ที่เขาจะไม่ร่วมมือกับกอร์ดอน
เวลานี้อันโตนิโอกลายเป็นคนร้ายกาจในสายตาของเพนนีไปเสียแล้ว หล่อนมองว่าเขาเลือดเย็น ต่ำช้าเลวทราม เห็นผู้หญิงเป็นแค่เหยื่อโอชะที่มีไว้บำบัดความใคร่ ผู้ชายไร้หัวใจที่วันๆ ไม่ได้คิดอะไร นอกจากเรื่องบนเตียงกับจ้องจะแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ ช่างน่ารังเกียจที่สุด!
เพนนีรับไม่ได้ หล่อนช่างโชคร้ายเสียจริงๆ ที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคนพรรค์นี้ เวลานี้ความรู้สึกของคนปีนป่ายบนหน้าผาสูงเป็นเช่นไร...ก็คงไม่ต่างจากหล่อน จะก้าวขึ้นไปแต่ละก้าวก็แสนลำบาก ครั้นจะถอยกลับก็ทำไม่ได้ หากตัดสินใจผิดพลาดแม้แต่ก้าวเดียวชีวิตก็จบ ร่างกายคงล่วงหล่นลงมาแหลกเหลวและถูกสัตว์ดุร้ายฉีกทึ้งเป็นชิ้น ๆ
เพนนีนั้นได้แต่ภาวนา...ขออย่าให้มีใครรู้เห็นเรื่องดังกล่าว หล่อนจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในขุมนรก แม้จะรู้ดีว่าคำภาวนานั้นคงไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะหล่อนไม่พูด แต่ก็ใช่ว่าคู่กรณีจะไม่ปากโป้ง
วินาทีที่เห็นเพนนีนั่งชันเข่าซบหน้าสะอื้นไห้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เนื้อตัวเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มห่อหุ้มกาย ความง่วงที่มีอยู่ในตัวเขาก็หายไปในบัดดล รีบทะลึ่งตัวขึ้นนั่ง มองสภาพตัวเองก็เห็นว่าไม่แตกต่างจากหล่อน เขาก็ตระหนักได้ว่าพลาดท่าเสียทีให้กอร์ดอนเสียแล้ว
“เพนนี...”
“ออกไปนะ! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” เพนนีกระชับผ้าห่มในมือแน่น ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักตวัดมองอันโตนิโอที่เขยิบตัวเข้าหาหมายจะปลอบขวัญ
“ฟังผมก่อนได้ไหม ผมอธิบายได้”
“ยังต้องอธิบายอะไรอีก ฉันตื่นขึ้นมาก็อยู่กับคุณในสภาพนี้แล้ว”
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ นี่เป็นการจัดฉากของ...”
(((เพียะ!)))
“คนสารเลว! ยังจะกล้าปฏิเสธอีกอย่างนั้นเหรอ ฉันมันโง่เองที่หลงเชื่อเสือผู้หญิงอย่างคุณ” เพนนีพลั้งมือทำร้ายเขา หล่อนสับสนว้าวุ่นใจไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะโกรธเกลียดหรือน้อยใจที่เขาปัดความรับผิดชอบ
“จะไปไหน” อันโตนิโอคว้าเอวคนที่คว้าชุดนอนมาสวมใส่อย่างรีบร้อนแล้วพลิกตัวขึ้นเหนือร่าง ใช้น้ำหนักตัวกดทับไว้ เมื่อเห็นหล่อนทำท่าจะเดินหนีเขา
“นี่ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ!”
เพนนีดิ้นขลุกขลักต่อต้านทั้งที่หน้าแดงซ่าน เพราะความใกล้ชิดนั้นทำให้รับรู้ได้ถึงสรีระแข็งแกร่งของบุรุษ ซึ่งทำให้หล่อนใจเต้นโครมคราม
“ไม่! จนกว่าคุณจะขอโทษผม”
“ไม่มีวันเสียล่ะ!”
เพนนีเค้นคำพูดลอดไรฟัน ทั้งดิ้นทั้งผลักเป็นพัลวัน ซ้ำยังฝากรอยเล็บเป็นทางยาวไว้บนแผงอกกว้าง เรียกเลือดซิบและเสียงโอดโอยหลุดจากปากอันโตนิโอ
“ให้ตายสิ...หยุดเดี๋ยวนี้นะเพนนี หยุดสิ!”
อันโตนิโอคำรามเสียงเครียด หัวเสียอย่างที่สุด เขาไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เพราะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา ซ้ำยังโอนอ่อนผ่อน ไม่เคยต้องใช้กำลังเลยด้วยซ้ำ แต่เวลานี้เขาจำเป็นต้องใช้มันปราบคนดื้อดึงให้อยู่หมัด
“ฤทธิ์มากนักใช่ไหม ดูสิจะทำอะไรได้อีก” อันโตนิโอใช้กำลังที่มากกว่ารวบจับมือเรียวแล้วตรึงไว้เหนือศีรษะหล่อน
แม้เพนนีจะนอนสิ้นฤทธิ์ หอบหายใจจนอกสะท้อน แต่ก็ไม่วายส่งสายตาท้าทาย โดยหารู้ไม่ว่าเวลานี้หน้าตาที่แดงก่ำเพราะความโกรธกับผมเผ้ายุ่งเหยิง ตลอดจนอาการลากไล้ปลายลิ้นอย่างคนเหนื่อยหอบ ล้วนดึงดูดสายตาและส่งให้หล่อนดูเซ็กซี่อย่างที่สุด
อันโตนิโอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหักห้ามใจตัวเอง แม้จะสกัดกั้นอารมณ์และความรู้สึก แต่ปฏิกิริยาทางกายตามสัญชาตญาณนักรักที่มีอยู่ในตัวก็ลุกโชนอย่างง่ายดาย จนเขาเองยังหงุดหงิด
“คนบ้า! เกลียดนักพวกชอบฉวยโอกาส...”
เพนนีก่นด่าได้เพียงเท่านั้น อันโตนิโอก็โน้มหน้าลงบดจูบโดยไม่มีการบอกกล่าว ริมฝีปากร้อนนั้นกลืนกินทุกคำพูดให้หายลงไปในลำคอ ซ้ำยังอาศัยจังหวะที่หล่อนเผยอริมฝีปาก ตวัดปลายลิ้นเข้าแทรกซอนลิ้มลองความหอมหวาน หยอกเย้ากึ่งขบเม้มอยู่ในทีอย่างผู้ชำนาญการ หลอกล่อให้คล้อยตามด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่า
เพนนีตกใจจนทำอะไรไม่ถูกทีเดียว หล่อนนอนตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้ตกอยู่ใต้อาณัติ วินาทีที่ถูกรุกเร้าอย่างรัญจวน ร่างทั้งร่างก็ร้อนวูบวาบราวกับถูกไฟลามเลีย อ่อนระทวยไร้แรงต้าน ยามฝ่ามือซุกซนลากไล้อย่างช่ำชองก็หลุดเสียงครางออกมาอย่างยากเกินจะกักเก็บ
แม้เสียงสะท้อนในใจจะบอกว่าให้ต่อต้านและยับยั้งการกระทำนั้น แต่ร่างกายของหล่อนกลับไม่ยอมเชื่อฟัง ซ้ำยังทรยศใจตน เบียดกายเข้าหา ตอบสนองอย่างไม่ประสา ราวกับจะเชิญชวนให้ริมฝีปากร้อนที่เคลื่อนลงต่ำลากไล้ไปบนผิวนวล
“ให้ตายสิ!” อันโตนิโอสบถอย่างหงุดหงิด จิตสำนึกด้านดีที่ผุดขึ้นมาในหัวทำให้เขายั้งคิด รีบผละออกห่างจากร่างเย้ายวน พลางลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่
เพนนีหน้าร้อนทีเดียว แม้เวลานี้ลมหายใจยังหอบกระชั้น แต่หล่อนก็รีบลุกขึ้นขยับชุดนอนที่เลื่อนหลุดเพราะฝีมือเขาให้เข้าที่ เมื่อเห็นคนผละออกห่างยืนนิ่งเป็นรูปปั้น ขบกรามจนขึ้นสัน คล้ายจะระงับอารมณ์อะไรบางอย่าง ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาไม่หยุดยั้งเสียก่อน ป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน
“ผมขอโทษ...”
อันโตนิโอเอ่ยเสียงเรียบแล้วก้าวออกจากห้องไป เขาทำราวกับว่าถ้าอยู่ต่ออีกสักนาทีจะไม่มีอากาศหายใจ นั่นก็เป็นเพราะ...เมื่อครู่เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะสกัดกั้นอารมณ์ความรู้สึกและผละออกจากร่างนุ่มนิ่มที่ก่อกวนอารมณ์
ครั้นเดินห่างจากห้องพักมาได้สักระยะ อันโตนิโอก็หยุดยืนถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงหน้าตาใสซื่ออย่างเพนนีจะมีอิทธิพลต่อร่างกายและจิตใจเขาถึงเพียงนี้ หล่อนทำให้เสือผู้หญิงอย่างเขาเหมือนจะคลั่งได้ในพริบตา โดยไม่จำเป็นต้องปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวเลยสักชิ้น
“นี่เขาจะมาสิ้นลายเพราะผู้หญิงคนนี้อย่างนั้นหรือ”
อันโตนิโอพึมพำ ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาเร่าร้อนจนแทบจะลุกเป็นไฟอย่างนี้มาก่อน นี่ถ้าเมื่อครู่ไม่คำนึงถึงความถูกต้องและยับยั้งชั่งใจไว้ละก็ ป่านนี้แม่สาวอ่อนประสบการณ์ที่แม้แต่จูบก็ยังไม่ประสา คงได้มานอนทอดกายอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่าง ส่งเสียงครางเรียกชื่อเขาเป็นว่าเล่นแล้วก็เป็นได้...
คล้อยหลังอันโตนิโอ เพนนีรีบลุกจากเตียงแล้ววิ่งตื๋อกลับห้องพัก ไม่ใส่ใจเสียด้วยซ้ำว่าเขาจะไปไหน ไปทำอะไร รู้แต่ว่าต้องรีบกลับห้องให้เร็วที่สุดก่อนที่ใครจะมาพบเข้า มันคงไม่ดีแน่ หากมีใครผ่านมาเห็นหล่อนก้าวออกจากห้องพักของอันโตนิโอในเวลาเช่นนี้
ครั้นกลับเข้าห้องมีความเป็นส่วนตัว เพนนีก็นั่งทบทวนเรื่องที่เกิด แต่หล่อนจำอะไรไม่ได้เลย รู้แต่ว่าก่อนหน้านี้เวียนศีรษะ มารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงกับอันโตนิโอ ซึ่งหล่อนคงไม่ตกใจจนขวัญหนี หากเนื้อตัวจะมีเสื้อผ้าปกปิด ไม่ใช่นอนแนบชิดกับเขาโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็เปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่
คิดมาถึงตรงนี้ใบหน้างามก็แดงซ่าน เรือนกายแกร่งที่ผุดขึ้นมาในความคิดทำให้ใจเต้นโครมคราม ฉับพลันริมฝีปากก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเหมือนชีพจรทุกจุดมารวมตัวกัน เพื่อตอกย้ำให้นึกถึงจุมพิตแสนหวานที่ยังติดตราตรึงไม่รู้หาย
เพนนีแตะริมฝีปากนิ่มอย่างเผลอไผล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหวั่นไหว มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ ทำไมอันโตนิโอถึงเกิดอารมณ์พิศวาสขึ้นมา ทั้งที่หล่อนก็ไม่ใช่คนสวยสะดุดตา หรือจัดอยู่ในประเภทสาวร้อนแรงที่มักจะตกเป็นข่าวคาวๆ กับเขา
เพนนีไม่อยากคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝีมือกอร์ดอน หล่อนเชื่อมั่นในตัวพี่ชาย ยังไงเสียก็คงไม่ทำร้ายกันทางอ้อม โดยการผลักหล่อนให้ตกลงไปในขุมนรก ทั้งที่รู้ว่าหุ้นส่วนของเขามีข่าวฉาวโฉ่กับผู้หญิงไม่เว้นแต่ละวัน
ฉันจะทำให้แกแต่งงานกับอันโตนิโอให้ได้!
เพนนีพ่นลมหายใจออกมา เสียงสะท้อนที่อยู่ในหัวทำให้ต้องฉุกคิด เพราะนั่นคือจุดประสงค์ของกอร์ดอน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการร่วมมือกันระหว่างกอร์ดอนกับอันโตนิโอ เพื่อให้หล่อนดิ้นไม่หลุดจะได้ไม่ปฏิเสธการแต่งงาน
แต่มันจะเป็นไปได้หรือ?
กอร์ดอนบอกหรือยังครับว่าเขายื่นข้อเสนอให้ผมแต่งงานกับคุณ...
คำพูดของอันโตนิโอที่แทรกเข้ามาในความคิด ราวกับต้องการจะตอบข้อสงสัยนั้นทำให้เพนนีหน้าถอดสี หล่อนช่างโง่เง่าเสียนี่กระไร ลืมไปได้อย่างไรกันว่าหนุ่มนักรักนั่นมีจิตละโมบโลภมากอยู่ในตัว แล้วมีหรือ...ที่เขาจะไม่ร่วมมือกับกอร์ดอน
เวลานี้อันโตนิโอกลายเป็นคนร้ายกาจในสายตาของเพนนีไปเสียแล้ว หล่อนมองว่าเขาเลือดเย็น ต่ำช้าเลวทราม เห็นผู้หญิงเป็นแค่เหยื่อโอชะที่มีไว้บำบัดความใคร่ ผู้ชายไร้หัวใจที่วันๆ ไม่ได้คิดอะไร นอกจากเรื่องบนเตียงกับจ้องจะแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ ช่างน่ารังเกียจที่สุด!
เพนนีรับไม่ได้ หล่อนช่างโชคร้ายเสียจริงๆ ที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคนพรรค์นี้ เวลานี้ความรู้สึกของคนปีนป่ายบนหน้าผาสูงเป็นเช่นไร...ก็คงไม่ต่างจากหล่อน จะก้าวขึ้นไปแต่ละก้าวก็แสนลำบาก ครั้นจะถอยกลับก็ทำไม่ได้ หากตัดสินใจผิดพลาดแม้แต่ก้าวเดียวชีวิตก็จบ ร่างกายคงล่วงหล่นลงมาแหลกเหลวและถูกสัตว์ดุร้ายฉีกทึ้งเป็นชิ้น ๆ
เพนนีนั้นได้แต่ภาวนา...ขออย่าให้มีใครรู้เห็นเรื่องดังกล่าว หล่อนจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในขุมนรก แม้จะรู้ดีว่าคำภาวนานั้นคงไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะหล่อนไม่พูด แต่ก็ใช่ว่าคู่กรณีจะไม่ปากโป้ง
กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มิ.ย. 2558, 09:54:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มิ.ย. 2558, 09:54:34 น.
จำนวนการเข้าชม : 1356
<< ตอนที่ 4 | ตอนที่ 6 >> |