กำราบรักจอมเผด็จการ
'กฎของเราคือห้ามรัก' ชัคไม่คิดว่าจะพาอันนามาสู่อันตราย ร่วมมือกันเพื่อหาคนร้ายคือทางออกเดียวที่เธอจะออกไปจากวังวนของมาเฟียอย่างเขาได้
Tags: ความรัก อดีต ซาบซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 12 ครึ่งแรก

ตอนที่ 12

พอประตูปิดลงนาวินก็แทบเข่าทรุด แต่พอรู้ตัวว่าถูกมองอยู่เพราะหลุดมาดก็รีบยืนตรงแหน่วมองศัตรูหัวใจอย่างเอาเรื่อง แต่ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะในห้องมีบอดี้การ์ดหน้าโหดอีก 2 คน
“คุณทำอะไรน้ำ”
ถามยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ ใบหน้าของนาวินก็สะบัดหงายล้มทั้งยืน ธีราเข้ามาช่วยประคองเพื่อน ดีเท่าไหร่แล้วที่ปากไม่แตกให้เสียหล่อ ชัคย่างสามขุมเข้ามาหน้าตาโหดจนอยากร้องกรี๊ด
“ที่ผมชกคุณไม่ใช่เพราะคุณเข้ามาทำให้เกือบเสียเรื่อง แต่คุณทำให้อันนาเป็นเป้าใหม่ของนักข่าว ลืมไปแล้วหรือไงว่าคุณเองเป็นใคร ไปไหนมาไหนก่อนหน้านี้บ้าง”
นาวินลุกขึ้นมาจ้องหน้าชัค แต่พอถูกจ้องกลับก็ชักหวาดๆ เลยพูดอ้อมแอ้มเสียงเบาลง แต่ยังไม่ชอบหน้าเหมือนเดิม
“ตอนนั้นผมกำลังโกรธ แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่คุณยังไม่ตอบว่าจะรับผิดชอบยังไง”
ชัคกอดอกเริ่มรำคาญ มันเรื่องอะไรที่เขาต้องมาคำถามของเด็กพวกนี้
“เอาเป็นว่าผมมีทางออกสำหรับเราสองคนอยู่แล้ว คุณกลับไปแล้วก็อย่าไปหาอันนาที่หอพักอีก นักข่าวตามคุณจนรู้แน่ๆ ว่าอันนาอยู่ที่ไหน”
ยิ่งกว่าจ๋อย นาวินถอนใจยาวรู้สึกผิดเต็มประตูถึงจะหวังดีก็เถอะ ธีราตีไหล่เพื่อน เนี่ยแหละที่เธอบอกปากแทบฉีก แต่เขาฟังเสียที่ไหน อกหักจนบ้าเลือดเพื่อนเดือดร้อน ถ้าไม่ได้ชอบอยู่ล่ะก็เธอกระโดดเสยคางไปแล้ว
ประตูห้องเปิดออกคนของชัคเข้ามาแล้วกระซิบบอกอะไรสักอย่างที่ทำให้สีหน้าของเขายิ่งถมึงทึงยามมองนาวินมากขึ้นไปอีก
“มีอะไรหรือคะคุณชัค เกี่ยวกับยัยน้ำหรือเปล่า”
“ผมจัดการเอง พวกคุณกลับไปก่อน แล้วอย่าลืม ห้ามไปหาอันนา”
บอดี้การ์ด 2 คนผายมือเชิญแขกแถมยังเดินไปส่ง นาวินกับธีราจำใจต้องกลับไป นักข่าวจะเข้ามาสัมภาษณ์ แต่พอเห็นสองหนุ่มหน้าโหดก็พากันชะงักกึก เดินเร็วๆ มาจนถึงรถ ดาราหนุ่มรีบขับออกไป ธีราเช็คข้อความต่างๆ จากโทรศัพท์ ทั้งเฟสและไลน์พรึบ เธอเลื่อนอ่านอย่างตั้งใจเพราะเป็นเรื่องของเพื่อนทั้งนั้นจนกระทั่งไปเจอพาดหัวในเฟส
‘อดีตกิ๊กนาวิน กลายเป็นสาวปริศนาของ CEO เครื่องดื่มชื่อดัง งานนี้อาจมีวางมวย’
ธีราลอบถอนใจค่อยๆ เก็บโทรศัพท์ ถ้านาวินเห็นได้เดือดกันอีกรอบ ได้พังกับพังแน่ๆ นี่ใช่ไหมข่าวล่าสุดที่ชัคบอกว่าจะจัดการเอง นึกไม่ออกเลยว่าจะไปจัดการยังไง ยัยน้ำกลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของนักข่าวไปแล้ว

หลักฐานต่างๆ ตำรวจเก็บไปหมดรวมทั้งโทรศัพท์ของอันนาและเลือดที่พรม ชาญบอกให้เธอเก็บเสื้อผ้าเพราะที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว หากคนร้ายกลับมาอีกครั้งอาจไม่รอดได้ตื่นมาในตอนเช้าอีกก็ได้ เขาพาเธอออกจากหอพักทางบันไดหนีไฟทั้งๆ ที่ลงลิฟต์ก็ได้ อันนาสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงขนาดต้องหลบผู้คน
รถจอดอยู่หลังตึก ชาญช่วยถือกระเป๋ามาใส่ไว้ในรถแล้วเปิดประตูให้เข้าไปเบาะหลัง อันนาเข้าไปนั่งทั้งเกรงใจทั้งงง พอรถขับผ่านหอพักก็ชัดตงิดที่วันนี้มีรถเข้ามาจอดมากจนล้นถึงถนนด้านนอก พอมองซ้ำรถก็ขับผ่านไปไกลแล้ว
“เรากำลังจะไปไหนหรือคะคุณชาญ”
“ไปบ้านหลังใหม่ครับ ตอนนี้คุณคงกลับห้องไม่ได้สักพัก มันไม่ปลอดภัยแล้วยัง...” นักข่าว ชาญงึมงำอยู่ในลำคอไม่อยากให้อันนาไม่สบายใจ “อย่าเพิ่งถามผมเลยครับ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นทั้งหมดคุณชัคจะอธิบายให้คุณฟัง”
“ถ้างั้นฉันขอยืมโทรศัพท์โทรหาเพื่อนได้ไหมคะ เผื่อมีธุระอะไรสำคัญ”
“ก็ได้ครับ” ชาญส่งโทรศัพท์มาให้
อันนากดเบอร์ของธีรา รอสายอยู่นานกว่าเพื่อนจะรับ แน่ล่ะรายนี้ไม่ค่อยรับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จัก
“น้ำเองนะมด เมื่อเช้ามาหามีอะไรหรือเปล่า”
อันนาได้ยินเสียงกรี๊ดลั่นอย่างกับยัยมดไปเดินเหยียบอะไรเข้าแล้วยังเสียงนาวินที่จะแย่งโทรศัพท์ แต่ถูกเอ็ดกลับ ก่อนจะเปิดลำโพงให้ได้ยินด้วยกัน เพื่อนๆ ดีใจอย่างกับเธอหายไปนาน แต่ตอนกรอกเสียงกลับมานี่สิ อย่างกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง
“โทรไปทำไมปิดเครื่อง”
“เรื่องมันยาวน่ะ แล้ววินทำอะไรให้มดปวดหัวอีกหรือเปล่า”
“เปล่านะน้ำ” นาวินรีบแก้ตัวเลยถูกธีราค้อนใส่ ก็เพิ่งไปทำให้เป็นเรื่องมาหยกๆ ไม่ใช่เรอะ แล้วถ้าคนของชัคตามเจอว่าเราสองคนมาจ่อมอยู่แถวหอของยัยน้ำ มีหวังถูกฆ่าหมกท่อแน่ๆ
“น้ำฟังมดนะ มีสองทางที่น้ำต้องทำ อยู่แต่ในห้องห้ามออกมาจนกว่านักข่าวจะกลับไป หรือว่าหลบออกมาจากหอพักให้ได้ ตอนนี้มดกับวินรออยู่ที่ซอยข้างหลัง เรื่องของน้ำกำลังเป็นข่าว นักข่าวกำลังล่าประเด็นร้อน”
“ประเด็นร้อนอะไรยัยมด”
โทรศัพท์ถูกชาญยึดไปทันที ปลายสายจะพูดอะไรก็ไม่รู้แล้ว อันนาเริ่มไม่พอใจจะดึงโทรศัพท์คืน สีหน้าของบอดี้การ์ดหน้าเรียบเริ่มลำบากใจจนปิดไม่มิด
“ขอโทษครับ แค่ไม่อยากให้คุณกรี๊ดลั่นระหว่างที่ผมขับรถ รอฟังจากคุณชัคทีเดียวดีกว่า”
แล้วทำไมเธอต้องรอฟังจากชัคด้วย เขาไม่ใช่ผู้ปกครองของเธอสักหน่อย อยากอาละวาด แต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าหน้าบึ้งใส่ชาญ แค่ตื่นมาแล้วมีชัคอยู่บนเตียงมันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรนักหนา เราสองคนไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่ากอดสักหน่อย หรือว่ายุคนี้ผู้ชายเป็นฝ่ายเสียตัว แล้วเธอกลายเป็นคนทำให้เขามีมลทินหรือไง มันเรื่องอะไรกันแน่

บ้านสองชั้นในหมู่บ้านมีรั้วรอบขอบชิดกลายเป็นที่อยู่ใหม่ของอันนา การย้ายที่อยู่ชั่วคราวพอเข้าใจได้ แต่ประเด็นร้อนที่ธีราพูดค้างไว้หมายถึงอะไร ภายในบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมเหมือนเอาไว้รับรองแขกอยู่แล้วมีแม่บ้านวัยดึกอยู่หนึ่งคน ชาญสั่งให้นำเสื้อผ้าของเธอไปเก็บ ส่วนตัวเองขับรถหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
อันนาออกมาเมียงมองอยากไปหาธีรามากกว่าอยู่ที่นี่ พอเดินไปที่ประตูบ้าน บอดี้การ์ดของชัคที่ไม่รู้ไปซ่อนตัวอยู่ตรงก็เข้ามาห้ามแล้วขอให้กลับเข้าบ้านไป นี่มันคุกชัดๆ
จากบ่ายจนค่ำยังไร้วี่แววคนให้คำตอบ แม่บ้านทำอาหารมาให้ หญิงสาวกินข้าวคนเดียวเงียบๆ อึดอัดอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ภายในบ้านไม่มีโทรศัพท์เลยสักเครื่อง เธอเปิดทีวีดูแก้เหงา ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร บ้านเงียบ แม่บ้านเหมือนกับหายตัวได้ ถ้าไม่นับบอดี้การ์ดคงเหมือนอยู่คนเดียว เธอขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมานั่งรอชัคด้วยความโมโห เขามีสิทธิ์อะไรมากกักขังปิดกั้นทุกอย่างจนเหมือนนักโทษแบบนี้
เสียงรถขับเข้ามาจอด อันนางัวเงียตื่นรีบลุกจากโซฟาแล้ววิ่งไปหน้าบ้าน แต่ไม่เห็นใคร มีแต่รถที่จอดไว้ เธอเดินหา ทว่าเสียงรถกลับดังขึ้นอีกครั้ง พอวิ่งมาหน้าบ้านอีกรอบรถของชัคก็ไม่อยู่แล้ว หญิงสาวเดินไหล่เหี่ยวคอตกกลับมาที่โซฟาไม่ทันมองด้วยซ้ำว่านั่งลงไปเจออะไร จนกระทั่งถูกกอดเอวไว้ หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นพรวดมองคนทำให้โมโห แล้วย้ายไปนั่งอีกฝั่ง
“กินข้าวหรือยัง” ชัคถามเสียงเพลียๆ เสื้อสูทสีดำวางพาด เสื้อเชิ้ตยับย่นเหมือนไปฝ่าสงครามมาทั้งวัน
อันนากอดอกจ้องหน้าเขา เธอไม่ได้รอมาหลายชั่วโมงเพื่อรอตอบว่ากินข้าวหรือยัง
“ฉันต้องการคำตอบทั้งหมด เริ่มจากคำถามแรก ทำไมฉันถูกพามาที่นี่ มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ประเด็นร้อนอะไร รู้ไหมฉันรอคุณจนโมโหมาก”
ชัคพยักหน้า แต่ยังไม่ตอบ แต่เดินไปรินเครื่องดื่มให้ตัวเอง แถมยังเผื่อแผ่มาถึงคนมองมาตาขวาง ถ้ามีปืนเขาคงถูกยิงไปแล้วกระมัง อันนาเม้มปากมองชัคเขม็ง แต่เขากลับยิ้มกว้างไม่ได้ระคายต่อสายตาของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“มีหลายสิ่งในโลกนี้ที่จู่โจมจนเราต้องทำบางอย่าง แม้จะไม่ใช่ความตั้งใจแรก เหตุผลนี้ทำให้คุณต้องมาที่นี่ ก่อนที่จะเป็นข่าวออกไปในทิศทางที่ผมควบคุมไม่ได้”
“ข่าวอะไร ฉันลุ้นจนจะเป็นลมอยู่แล้วนะคุณ” อีกนิดคงร้องไห้อยู่แล้ว
ไอแพดที่ชัคสั่งให้เลขารวบรวมข่าวทั้งหมดระหว่างเขากันอันนายื่นมาให้ หญิงสาวรับไปอย่างไม่เข้าใจนัก
“ดูซะ ตอนนี้คุณกลายเป็นมือที่สามระหว่างผมกับลิลลาไปเรียบร้อยแล้ว”
“หา!”
อันนาก้มหน้าลงรีบอ่านทุกอย่างที่ควรได้รู้ มือทั้งสองข้างสั่นเทาไม่ใช่เพราะกลัว แต่กำลังโมโหจนน้ำตาคลอ มือที่สาม จับผู้ชาย คบซ้อน นางมาร้ายงั้นเรอะ หญิงสาวสูดหายแรงๆ กลั้นสะอื้นให้อยู่เพียงในอกไม่ใช่มาร้องไห้ด้วยข่าวที่ไม่จริง สายตาคมตวัดผ่านกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงตรงหน้า
“คุณคงไม่บ้าจี้คิดว่าฉันทำเรื่องพวกนี้เพราะจะได้เป็นข่าวกับคุณหรอกนะ”
“ก็...เกือบคิด แต่เรื่องมือที่สามคงเบาลงในวันสองวันนี้ แต่การที่นักข่าวหาตัวคุณไม่พบจะกลายเป็นยิ่งตาม แต่ผมยอมให้คุณไปถูกรุมทึ้งด้วยคำถามทุเรศๆ ไม่ได้หรอก”
คนปากร้าย แต่ใจดีชอบทำหน้าแบบนี้เองสินะ
“ถ้างั้นฉันอยู่เงียบๆ สักอาทิตย์นึง นักข่าวคงหมดความสนใจไปเองแหละเนอะ เอาเป็นว่าฉันลาออกจากบริษัทของคุณ ใบลาออกจะส่งให้ทางไปรษณีย์ก็แล้วกันนะ ตอนนี้ฉันคงไปที่บริษัทไม่ได้แล้ว”
“นักข่าวคงหยุด ถ้าเพื่อนชายของคุณไม่ทำแบบนั้นในการแถลงข่าวของผม”
อันนาฟังแล้วรู้สึกเหมือนตัวเล็กลงเรื่อยๆ เอาความโลกสวยมาใช้กับชีวิตคนจริงๆ ไม่ได้เลยสินะ ทั้งแฟนคลับของนาวินกับลิลลา เธอคงไม่กล้าเข้าเฟส ทวิตเตอร์ไปอีกนาน
“งานนี้ยัยลิลเหยียบฉันจมดินแน่ๆ” อันนาหัวเราะเบาๆ ไม่รู้จะเครียดไปทำไมแล้ว ไม่รับรู้ เดี๋ยวมันคงผ่านไป
“คุณสองคนเคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า”
ชัคมองมาอย่างสงสัย คราวก่อนที่ชาญบอกว่าลิลลาทำให้อันนาสลบจนต้องอุ้มเธอมาหาเขา ตอนนั้นไม่เชื่อ ตอนนี้เริ่มเป็นไปได้
ไวน์แดงที่ชัครินมาให้ถูกยกขึ้นมาดื่ม หลังจากเครียดมาทั้งวัน คนเจ้าเล่ห์มองมา...อีกไม่กี่แก้ว เธอจะตกลงบางอย่างกับเขาได้ง่ายขึ้น
“ลืมไป ฉันคงไม่เล่าถ้าไม่เกิดเรื่อง ฉันกับลิลลาเคยรู้จักกันมาก่อนที่... ช่างเถอะ มันไม่สำคัญเท่าไหร่ ทีนี้ฉันกับยัยลิลดันทะเลาะกัน เลยจากกันไม่สวยไง แถมตอนนี้มีเรื่องของคุณเข้ามาอีก ฉันคงไม่เหลือดี มือที่สามเห็นๆ เลย”
ไวน์รินใส่แก้วให้อีกรอบ อันนายิ้มขอบคุณ ชัคยังหน้านิ่งแม้ว่ากินไวน์ไปหลายแก้วแล้ว สายตาคมวาวมองมา เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“น่าแปลกถ้าคนร้ายไม่ฆ่าเราสองคน แต่ทำให้เกิดเป็นเรื่องฉาว แสดงว่าต้องการให้บริษัทคุณเสียหายด้านภาพลักษณ์ใช่ไหม” เสียงของอันนาเริ่มพลิ้วๆ เธอวางแก้วไวน์รู้สึกเหมือนเมาทั้งที่กินแก้วเดียว เอ หรือสองแก้ว
“ไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ แต่ทำไมถึงต้องเป็นคุณที่มันพุ่งเป้าเข้ามา” นี่ต่างหากที่เขาอยากได้คำตอบ
“ฉันมันตัวซวยละมั้ง แล้วเราควรทำยังไงต่อไปดี กลุ้มชะมัด ผู้หญิงมีเป็นร้อยๆ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะคุณ”
แก้วไวน์วางลง ใบหน้าคร้ามเผยยิ้มร้ายที่อำพรางไว้ “ผมมีข้อตกลงที่พาเราสองคนผ่านเรื่องแย่ๆ ได้ โดยที่ชื่อเสียงของคุณไม่เสียไปกว่านี้ ภาพลักษณ์บริษัทก็ดูดีในพริบตา”
“วิธีไหนหรือคุณ”
อันนายิ้มร่าไม่แน่ใจตัวเองว่าดีใจที่กำลังจะมีทางออกหรือเมาไปแล้ว ชัคบอกวิธีที่คิดมาตั้งแต่บ่ายอย่างมีสติครบถ้วน เธอคงลืมไปแล้วว่าเขาทำธุรกิจอะไร แค่ไวน์ไม่กี่แก้ว ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก

แล้วจะมา up ต่อถึงตอนที่ 15 นะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ มีจำหน่ายในรูปแบบหนังสือและ e-book แล้วค่ะ



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ค. 2558, 09:39:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ค. 2558, 09:39:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1135





<< ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง >>
แว่นใส 3 ก.ค. 2558, 19:38:23 น.
เป็นแฟนกันเถอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account