พันธกานต์สิเน่หา
งานเขียนนี้เคยตีพิมพ์ในนามปากกาทิตภากร ปัจจุบันต้นฉบับได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่องและวางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!!


(เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วน)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 8

หนึ่งสัปดาห์ให้หลังที่โบสถ์ทันสมัยกลางกรุงลอนดอน เพนนียืนใจลอยมองเงาสะท้อนของตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ ยามนี้ใบหน้าสวยหวานที่รายล้อมด้วยเรือนผมสลวยสีน้ำตาลอ่อนหยิกเป็นลอนสยายได้รับการตกแต่งอย่างประณีต

ชุดแต่งงานสีงาช้างสไตล์เรียบหรูสมราคาที่แพงลิ่วเป็นผลงานการตัดเย็บของห้องเสื้อชื่อดัง เน้นรูปร่างบอบบางด้วยการเปิดเปลือยท่อนแขนเรียวยาวและไหล่นวล อวดผิวเนื้อเนียนละเอียดเหนือเนินหน้าอก ส่งให้ผู้สวมใส่แลสง่างามสมกับเป็นเจ้าสาวแสนสวยที่มีความเซ็กซี่อยู่ในตัว

ทว่าเพนนีกลับไม่ได้หลงใหลได้ปลื้ม เพราะการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า เพื่อประกาศศักดาของหนุ่มนักรักชื่อกระฉ่อน หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อจะบอกทุกคนว่าเขาจะได้ครอบครองทรัพย์สินของตระกูลแบรนเนตในระยะเวลาอันใกล้นี้

“มาเถอะ...ได้เวลาแล้ว”

เพนนีหลุดจากภวังค์ พลางหันมองกอร์ดอนในสูทสีเข้ม วันนี้พี่ชายของหล่อนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ สังเกตจากรอยยิ้มบนริมฝีปาก ซึ่งแตกต่างจากหล่อนที่ยิ้มไม่ออกเอาเสียเลย ถ้าเป็นไปได้...ก็อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลแสนไกล จะได้หลุดพ้นจากพันธนาการแสนโสมมนี้เสียที แต่สิ่งที่ทำได้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

เวลานี้มือที่สั่นเทาของหล่อนสอดเข้าคล้องแขนพี่ชาย ปล่อยให้เขาพาเดินไปยังแท่นประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์กลางโบสถ์เพื่อส่งมอบให้กับผู้ชายร้ายกาจ ความรู้สึกจึงไม่ต่างไปจากนักโทษที่กำลังก้าวขึ้นสู่หลักประหาร แม้จะถูกปิดตาไม่ให้รับรู้สิ่งใด แต่ภายในใจก็ยังรู้ว่าชีวิตกำลังจะจบสิ้นลง

“เลิกทำหน้าซังกะตายซะทีจะได้ไหม วันนี้เป็นวันแต่งงาน แกควรจะยิ้มอย่างมีความสุข” กอร์ดอนเอ็ดด้วยเสียงไม่เบานัก เมื่อหันมองเพนนีระหว่างทางที่เดินไปโบสถ์ แล้วพบว่าน้องสาวตัวดีทำหน้าบอกบุญไม่รับ

“ก็คนไม่อยากแต่งงาน ใครจะไปยิ้มออก”

“กะอีแค่ยิ้ม มันคงไม่ทำให้แกขาดใจตายหรอก”

“ก็เพนนีไม่อยากยิ้มนี่นา ถ้าพี่อยากยิ้มก็ยิ้มไปคนเดียวสิ ทำไมต้องมาบังคับให้คนอื่นทำตามด้วย”

“ไอ้ที่แกไม่อยากยิ้มเนี่ย เพราะเจ้าบ่าววันนี้ไม่ใช่ไอ้สารเลวโรเบิร์ตสุดที่รักของแกใช่ไหม”

“ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย”

“ก็ดี ถ้าเกี่ยวละก็...” กอร์ดอนแสร้งหยุดคำพูดไว้แค่นั้น สายตาและรอยยิ้มที่เป็นปริศนานั้นทำให้เพนนีหวาดหวั่น กลัวเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโรเบิร์ต

“พี่พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง จะทำอะไรเขา อย่าแม้แต่จะคิดนะ”

“ทำไม...รักมันมากนักหรือไง ถึงได้ห่วงมันนัก ถ้ากลัวว่าไอ้สารเลวนั่นจะเป็นอะไรละก็ แกก็อย่าทำตัวงี่เง่า ไม่อย่างนั้น...มันไม่ได้ตายดีแน่!” สิ้นคำขู่นั้น เพนนีก็ฝืนยิ้มออกมา แม้รอยยิ้มจะปูเลี่ยนเต็มทน แต่ก็ทำให้คนข่มขู่พึงพอใจ

ครั้นทั้งสองเดินมาหยุดหน้าประตูโบสถ์ เพนนีก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่หันมองมาเป็นจุดเดียว หล่อนประหม่าจนไม่กล้ามองหน้าใคร ไม่ว่าจะเป็นญาติห่างๆ หรือเพื่อนเจ้าสาว ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่หน้าแท่นประกอบพิธี ทุกคนล้วนเป็นคนแปลกหน้าในสายตาหล่อน

ท่ามกลางเสียงชื่นชมยินดีของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน เพนนีต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะเดินเคียงข้างกอร์ดอนไปตามพรมที่ทอดยาวจรดแท่นประกอบพิธี โดยไม่เป็นลมไปเสียก่อน จนกระทั่งเขาส่งมอบหล่อนให้กับเจ้าบ่าว

“คุณสวยเหลือเกินเพนนี” อันโตนิโอโน้มหน้ามากระซิบข้างหู ขณะจับมือหล่อนแล้วรั้งขึ้นมายืนเคียงกันหน้าแท่นประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์

เพนนีหน้าแดงซ่านทีเดียว ถึงกระนั้นก็เอ่ยขอบคุณเขาตามมารยาท ไม่มีโอกาสพูดอะไรอีก เพราะบาทหลวงกล่าวนำสวดเสียก่อน หล่อนก็ได้แต่ชำเลืองมองเขา

วันนี้อันโตนิโออยู่ในชุดสูทสีเข้ม ท่าทางองอาจผึ่งผายแลมั่นใจส่งบุคลิกให้โดดเด่นชวนมอง ใบหน้าคมเข้มเหมือนประติมากรรมชั้นยอดปรากฏรอยยิ้มยินดี ยามที่กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งคนยืนเคียงข้างอย่างหล่อนก็ยังสัมผัสได้ถึงความมั่นคงในน้ำเสียงนั้น

ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ความรู้สึกหลากหลายได้เกิดขึ้นพร้อมกัน ทั้งเต็มตื้น ตื่นเต้นและตื้นตัน อารมณ์หลากหลายที่ปะดังปะเดเข้ามาทำให้เพนนีกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หัวสมองของหล่อนว่างเปล่า ตั้งใจจะปฏิเสธคำสัตย์ปฏิญาณเพื่อล้มเลิกพิธีแต่งงาน แต่ก็ไม่รู้ว่าเผลอตัวตอบรับออกไปตอนไหน มารู้ตัวอีกทีบาทหลวงก็ประกาศว่าหล่อนกับเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว

วินาทีต่อมา...อันโตนิโอก็เปิดผ้าคลุมหน้าขึ้นสบตากับหล่อน รอยยิ้มของเขาอ่อนโยนแลจริงใจมากกว่าลวงหลอก ผู้ชายคนนี้น่ะหรือ คือหนุ่มนักรักแห่งทศวรรษที่ชอบแสวงหาประโยชน์กับผู้หญิง หล่อนไม่อยากเชื่อเสียด้วยซ้ำ

“ที่ผ่านมาผมอาจจะไม่ใช่คนดีในสายตาคุณ แต่ขอให้รู้ไว้เถอะว่าผมจะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด” อันโตนิโอไล้ปลายนิ้วไปตามเรียวปากนุ่ม พลางเชยคางมนขึ้นรับจุมพิตแสนหวานที่เขามอบให้เจ้าสาว ท่ามกลางเสียงระฆังดังกังวานผสานกับเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของแขกเหรื่อที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน...




การได้อาบน้ำอุ่นใต้ฝักบัวช่วยให้เพนนีผ่อนคลายความเมื่อยล้าและลดความตึงเครียดลงไปกว่าครึ่ง อันเป็นผลพวงมาจากการยืนขาแข็งในพิธีแต่งงานที่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก่อน ซ้ำยังเหน็ดเหนื่อยกับการนั่งเครื่องบินมาต่อเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเดินทางมาฮันนีมูนบนเกาะส่วนตัวของอันโตนิโอ

เพนนีไล้ปลายนิ้วไปบนแหวนเพชรเม็ดงามที่สวมติดนิ้วนางข้างซ้าย พิธีแต่งงานที่เกิดขึ้นช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่ต่างจากความฝัน แต่ทุกอย่างก็เป็นจริงไม่ใช่สิ่งลวงหลอก คิดมาถึงตรงนี้ มโนภาพสามีหมาดๆ ก็ผุดขึ้นมาในความคิด

อันโตนิโอเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ สุภาพอ่อนโยน ช่างเอาอกเอาใจ เขารู้วิธีปฏิบัติต่อผู้หญิง ทำให้หล่อนลดอาการเกร็งและหลงลืมไปชั่วขณะ ด้วยท่าทีที่ไม่คุกคามและการพูดคุยเป็นกันเอง จนหล่อนเผลอคิดไปว่าเขาเป็นคู่รักจริงๆ ที่เดินทางมาฮันนีมูนด้วยกัน

ช่างน่าขำ!

หล่อนลืมไปได้ยังไงกันว่าอันโตนิโอเป็นเสือผู้หญิง เขาแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจจากการแต่งงาน สวมหน้ากาก แสร้งทำดีให้ตายใจ ผู้ชายอย่างเขาเป็นบุคคลอันตรายที่ไม่ควรเข้าใกล้ แล้วหล่อนยังจะหลงใหลในภาพมายานั้นอีกหรือ?

แม้จะเตือนตัวเองเช่นนั้น แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ ผู้ชายที่รู้ตัวว่าต้องการอะไรและมั่นใจว่าต้องได้สิ่งนั้น...เป็นอะไรที่น่ากลัว ก็เกรงว่าสักวันจะหลงเล่ห์เพทุบายเขา เพนนีพ่นลมหายใจออกมา พลางปิดก๊อกน้ำแล้วคว้าผ้าขนหนูมาซับตามเนื้อตามตัวก่อนจะฉวยเสื้อคลุมมาสวมใส่ ไม่สบายใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร

หล่อนต้องอยู่กับอันโตนิโอภายในวิลล่าแห่งนี้อีกเป็นสัปดาห์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นความกรุณาของเขาหรือความโชคดีของหล่อนกันแน่ ที่จู่ๆ เขาก็มีความคิดเรื่องแยกห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัว แน่นอน...หล่อนไม่คัดค้าน เพราะแค่อยู่ใกล้เขาก็ยังร้อนๆ หนาวๆ หากต้องนอนร่วมเตียง หล่อนคงประสาทผวาหรือไม่ก็สติแตกไปเลยก็ได้

“ว้ายย...ย!”

เพนนีกระชับเสื้อคลุมอาบน้ำตามสัญชาตญาณการระวังตัวโดยอัตโนมัติ เมื่อก้าวออกจากห้องน้ำแล้วพบว่ามีใครบางคนนั่งอิงหลังกับหัวเตียงในอิริยาบถสบายๆ ภายในห้องพักของหล่อน ครั้นสบเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มแล้วเห็นประกายปรารถนาเจิดจ้าจากดวงตาคู่นั้น เพนนีก็สูดลมหายใจลึก เก็บอาการหวาดหวั่นแล้วกลั้นใจถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“คุณเข้ามาทำอะไรในห้องนี้”

พันธกานต์สิเน่หา by กันต์ระพี วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!! สามารถโหลดอ่านกันได้แล้วที่..

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjc5OTUiO30



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ค. 2558, 09:59:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ค. 2558, 09:59:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1369





<< ตอนที่ 7   ตอนที่ 9 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account