แก้วขวัญวันรัก "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
เป็นเรื่องราวต่อยอดมาจาก แก้วขวัญวันรัก
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"

โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"

แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี

แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
Tags: แก้วกัลยา เพทาย ความรัก เดิมพัน

ตอน: ตอนที่ 11 ปิดคดีภีมะ

11
ปิดคดีภีมะ





“เฮียส่งแก้วแค่นี้แหละ เดี๋ยวแก้วโทรกลับ ขอบคุณนะคะเฮีย” แก้วกัลยาเปิดประตูลงจากรถ แก้วกัลยากำลังจะเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ แต่เหมือนนึกขึ้นได้ก็รีบหยิบตลับแป้งขึ้นมาเช็คตัวเองอีกครั้ง เธอมองตัวเองในกระจก พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดก่อนจะยิ้มให้กับตัวเองในกระจกเรียกความมั่นใจ

“คุณแก้ว” แก้วกัลยาสะดุ้งและหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“คุณเพชร”

“วันนี้ดูขวัญอ่อนนะครับ มีอะไรหรือเปล่า แล้ววันนี้...” เขามองการแต่งตัวที่แปลกใจ

“คือแก้วฝันร้าย เลยไปทำบุญมาค่ะ ทำบุญก็แต่งตัวสุภาพ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เข้าไปข้างในเถอะค่ะ” เพทายพยักหน้าและเดินนำเข้าไป หน้าห้องสอบสวนมีตำรวจผู้ดูแลคดียืนรออยู่ เขากำลังคุยอยู่กับตำรวจอีกนายทีน่าจะเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาเมื่อหันมาเห็นทั้งคู่ นายตำรวจคนหนึ่งเข้ามาตรวจค้นในกระเป๋าและอนุญาตให้ทั้งสองเข้าไปข้างในได้ ภายในห้องสอบสวนเป็นห้องโล่ง ๆ มีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่กลางห้อง

ภีมะนั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางดูซึม ๆ ข้างหลังมีตำรวจคอยดูแล ภีมะนักร้องหนุ่มดาวรุ่งเบอร์สองของค่ายถูกจับกุมตัวในฐานะผู้ต้องหาในคดีฆ่าคนตาย ตามจริงทางบริษัทส่งทนายยื่นเรื่องขอประกันตัวแล้ว แต่ทางตำรวจไม่อนุญาต และได้ทำเรื่องฝากขังภีมะระหว่างรอการสืบสวน นับจากวันที่เขาถูกควบคุมตัวมาก็ยังไม่มีนักข่าวคนไหนได้สัมภาษณ์เขาเพราะทางต้นสังกัดได้ขอไว้จนกว่าคดีจะมีความคืบหน้าจะยังไม่ให้การสัมภาษณ์ใด ๆ

แก้วกัลยาสำรวจสภาพความเปลี่ยนแปลงของภีมะที่เห็นได้ชัด เขาดูซูบผอมและหมองลงมาก ประกายออร่าที่พึงมีหายไป แก้วกัลยามองสภาพนี้แล้วส่ายหน้าอย่างเห็นใจ เพทายเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามพร้อมกับแก้วกัลยาที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ภีมะนั่งนิ่งไม่ยอมเงยหน้ามองเขาและแก้วกัลยาเอาแต่ก้มหน้าหลบสายตาของเขาและแก้วกัลยา

“ภีม” ภีมะที่นั่งก้มหน้าเหม่อลอยเงยหน้าขึ้น และยิ้มกวน ๆ ส่งให้แก้วกัลยา

“มาเยี่ยมผมหรอเจ๊”

“ไม่ตลกนะภีม นายได้ดูสภาพนายในกระจกบ้างหรือเปล่า สภาพนายตอนนี้ถ้ามีคนมาเห็นคงคิดว่านายเป็นฆาตกรจริง ๆ” แก้วกัลยาเอ่ยอย่างอดไม่ได้

“ผมไม่ได้ทำ” ภีมะพูดคำเดิม คำเดียวกับที่เขาตอบกับตำรวจ แต่เขาไม่เคยตอบว่าวันเกิดเหตุเขาไปอยู่ที่ไหน แก้วกัลยามองหน้าภีมะ

“ฉันรู้ พวกเรารู้ว่านายไม่มีวันทำ แต่พวกเราต้องการรู้ว่าคืนนั้นนายไปไหน” ภีมะส่ายหน้าเป็นคำตอบ แววตาเศร้า ๆ ส่งมาให้แก้วกัลยาและเพทาย แก้วกัลยาต้องถอนหายใจออกมากับความปากแข็งของคนตรงหน้า

“นายจะไม่บอกพวกเราจริงหรอภีมว่าคืนนั้นนายหายไปไหนมา ถ้านายเอาแต่เงียบ นายจะกลายเป็นฆาตกร ฉันรู้ว่านายไม่ได้ทำ ฉันเป็นคนเลือกนายมากับมือ ฉันเชื่อในตัวนาย แต่นายบอกความจริงฉันมาเถอะภีม ฉันจะปกป้องนายให้ถึงที่สุด” เพทายเอ่ย
“ผมไม่ได้ฆ่าเด็กนั่น ผมไม่รู้จักเด็กนั่นด้วยซ้ำ” ภีมะเอ่ย ตอนนี้สังคมกำลังประณามการกระทำของเขาทั้งที่เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวใด ๆ เลย แต่ทุกคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาผิด

“แต่มีคนเห็นว่าเด็กนั่นมาหานายคืนนั้นก่อนจะหายไป”

“ก็เด็กนั่นเอาดอกไม้มาให้ผมหลังจากผมเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ แล้วผมก็แยกตัวกลับไป มันไม่มีอะไรจริงนะครับคุณเพชร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กนั่นตายได้ยังไง”

“แล้วคืนนั้นนายอยู่ไหนคะภีม” แก้วกัลยาถามบ้าง

“ผม...”

“นายไม่อยากเป็นฆาตกร ก็บอกพวกเรามา พวกเราช่วยนายได้ การที่ปิดปากเงียบไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ พ่อแม่เด็กนั่นพร้อมจะเอาเรื่องคุณ สังคมพร้อมจะเอาเรื่องคุณ ไม่มีใครเชื่อคุณ เพราะทุกคนเชื่อในหลักฐาน เชื่อในภาพพวกนั้น แต่พวกเรา ฉัน คุณเพชรยังเชื่อมั่นในตัวนายอยู่ นายมีอะไรจะบอกพวกเราไหมภีม” แก้วกัลยามอง ภีมะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับแก้วกัลยา และหันไปมองเพทาย

“เอาอย่างนี้ไหมภีม เราคุยกันสองคน นายเชื่อไหมว่าฉันจะหาทางออกให้นายได้” ภีมะทำหน้าไม่แน่ใจ แก้วกัลยาหันไปมองเพทาย และพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าฉันจะคุยเอง คุณออกไปก่อน เพทายพยักหน้าและยอมเดินออกไป ในห้องสี่เหลี่อมสี่ขาวเหลือเพียงแก้วกัลยาและภีมะ แก้วกัลยาเดินมานั่งแทนที่เพทายและจ้องตาภีมะ

“นายคงรู้ว่าฉันมารร้ายอสรพิษ ไม่มีอะไรที่แก้วกัลยาเนรมิตไม่ได้ ไม่มีอะไรที่แก้วกัลยาทำไม่ได้ และถ้าฉันจะช่วยใครฉันไม่เคยทำไม่ได้ แค่นายบอกฉัน ภีมนายหนีความจริงไม่พ้นหรอกนะ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายนายเชื่อคำนี้ไหม” ภีมะมองดวงตาที่ไม่มีแววล้อเล่นของแก้วกัลยา แก้วกัลยาคว้าจับมือภีมะไว้พลางรู้สึกว่าไอ้เฝือกนี่ควรจะได้เวลาตัดทิ้งแล้วนะ มันเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตเธออย่างมาก

“ฉันเข้าใจในสิ่งที่นายเป็น สิ่งที่นายรู้สึก แต่ความจริงคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ ความจริงคือสิ่งที่จะช่วยปลดปล่อยความรู้สึกของนายได้ คนที่พูดความจริงไม่มีอะไรน่าอายเลยภีม คนที่โกหกต่างหากที่สมควรอาย ฉันยังกล้ายอมรับว่าฉันไม่ใช่คนดี กล้ายอมรับว่าหน้าฉันทั้งหน้าไม่ได้สวยมาตั้งแต่เกิด ยอมรับว่าเคยทำให้คนล้มละลายด้วยมือของฉันเพียงเพราะไม่พอใจ ฉันกล้ายืดอกยอมรับทุกอย่าง เรื่องของฉันเลวร้ายและน่าอายกว่านายอีกนะภีม แต่ฉันก็กล้ายอมรับมัน” ภีมะแสดงสายตาไหววูบออกมา แก้วกัลยาลุกขึ้นและเดินอ้อมโต๊ะไปหยุดยืนตรงหน้าภีมะแทน และค้อมตัวลงใช้มือข้างที่ว่างจับไหล่ภีมะไว้แน่นเหมือนกำลังส่งความรู้สึกเป็นกำลังใจไปให้

“แล้วนายจะอายอะไร อายในสิ่งที่ตัวเองเป็นหรอภีม” ภีมะพูดไม่ออกเขากำลังโดนผู้หญิงตรงหน้าอ่านใจได้ เขาไม่คิดว่าผู้หญิงตรงหน้าจะเก่งในเรื่องทฤษฎีจิตวิทยาในการกล่อมคน ตอนนี้เขากำลังอยู่ในสภาวะนั้น ผู้หญิงตรงหน้าชอบทำเหมือนสวยแต่โง่ แต่จริง ๆ ฉลาดมากอย่าบอกใครเลยล่ะ และเขารู้ แม้เพียงไม่นานที่รู้จัก แต่เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนสวยแต่โง่

“คนเราเลือกที่จะเกิด เลือกที่จะเป็นไม่ได้หรอกนะคะ คนที่น่าภูมิใจที่สุดคือคนที่กล้ายืดอกยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น กล้ายอมรับตัวตนของตัวเอง” แก้วกัลยาไม่ละสายตาออกจากภีมะเลย เธอยังคงจ้องตาเขาไว้ ภีมะมองตาเธอเหมือนจะร้องไห้ออกมา ไม่ใช่กลัว แต่เหมือนกำลังสับสน

“แต่ถ้าพ่อแม่ผมรู้เค้าจะเสียใจ”

“นายเคยบอกท่านหรือยัง” ภีมะส่ายหน้า

“เชื่อสิว่าเขาจะรับได้ วันนี้นายทำความสำเร็จสูงสุด ทำให้ท่านภูมิใจแล้ว ท่านจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่นายเป็น แต่ถ้าท่านรับไม่ได้ นายก็ทำให้ท่านรับให้ได้ ฉันเชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนรับไม่ได้ในสิ่งที่ลูกตัวเองเป็น วันหนึ่งเขาจะรับได้ พ่อแม่ของนายจากที่ฉันรู้ท่านภูมิใจในสิ่งที่นายเป็นเสมอไม่ใช่หรอ ฉันเชื่อว่าเขาจะรับได้ ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวนายต่างหากภีม นายอยากจะอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่อย่างอึดอัดแบบนี้ตลอดไปหรอ มันเจ็บนะเป็นอะไรแล้วไม่พูดออกไปแบบนี้”แก้วกัลยาเอ่ยต่อ

“แต่แฟนเพลง”

“ถ้าเขารักนายที่นายเป็นนายเขาจะรับได้ เขาจะรักนายในฐานะของภีมะนักร้องขวัญใจของเขาตลอดไป ฉันจะบอกอะไรให้นะภีม มันไม่แปลกหรอกนะคะที่เราจะเป็นเกย์ คนเป็นทอม เป็นตุ๊ด เป็นแต๋ว เป็นเลส มีเยอะแยะยังไม่อายเลย”

“แต่ผมเป็นคนของประชาชน”

“นายเป็นคนของประชาชน แต่นายอย่าลืมสิ นายยังเป็นมนุษย์ มีจิตใจ มีความรู้สึก มีสิทธิ์เลือกไม่ว่าจะเพศไหน แค่นายเป็นคนดี เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่สังคม ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ไม่ผิดหรอกนะ เดี๋ยวนี้สังคมมันเปิดกว้างแล้วนะภีม ดารานักแสดงมากมายก็กล้ายืดอกยอมรับ ไม่มีใครกล้าว่าคนที่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นหรอก”

“ผม...”

“นายพร้อมจะบอกฉันหรือยังว่าวันนั้นนายหายไปไหนมา ฉันสัญญาฉันจะช่วยนาย ทุกอย่างจะจบอย่างแน่นอน ตอนนี้ฉันหาผู้ชายในคลิปเจอแล้ว เหลือแค่นายยอมบอกเราว่าวันนั้นนายหายไปไหนมา แค่นายยอมเล่าความจริง แล้วที่เหลือฉันกับคุณเพชรจะจัดการเอง”

“ครับ คืนนั้นผมไปหาแฟนผม อยู่กับแฟนผมทั้งคืน ไม่ได้ออกไปไหน แน่นอนว่าผมไม่ใช่คนในคลิป”

“ในภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นว่านายคุยกับเด็กนั่นแล้วออกไปด้วยกัน นายคุยอะไรกับเด็กนั่น”

“เด็กคนนั้นเอาความลับของผมมาขู่ เธอบอกว่าเธอมีหลักฐาน ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้ไปถึงหูพวกนักข่าวให้ไปส่งเธอ ผมกลัว ผมเลยยอมไปส่ง แต่แค่ไปส่ง ในรถก็มีแฟนผมไปด้วย ผมไม่ได้ไปคนเดียว”

“เหมือนคนบงการจะวางแผนมาแล้ว นอกจากแฟนนายมีคนพอจะเป็นพยานให้นายได้อีกไหมคะ”

“หลังจากผมไปส่งเด็กนั่น ผมก็ขับรถกับมาคอนโด เจอลุงยาม กับแม่บ้านประจำคอนโด ก่อนขึ้นคอนโดผมแวะคุยกับป้าคนหนึ่ง ผมสนิทกับป้าแกเลยซื้อขนมไปฝาก ส่วนลุงยามผมก็แวะคุยกับแกก่อนขึ้นมาประจำ แกขอลายเซ็นผมไปให้ลูกสาว ผมยังถ่ายรูปกับลุงเขาอยู่เลย จนเช้าอีกวันผมไม่มีงานต่อผมก็เลยอยู่ที่คอนโดแฟนผม ไม่ได้กลับมาที่คอนโดตัวเอง”

“นัดแฟนคุณมาพบฉันในอีกสองวันได้ไหมคะ ส่วนลุงยามกับแม่บ้านคุณช่วยบอกชื่อมา”

“ครับ”

“นายไม่ต้องกลัวนะคุณภีม ทุกอย่างจะเรียบร้อยหลังการแถลงข่าวในอีกสองวันข้างหน้า เพียงนายแค่กล้ายืดอดยอมรับว่าคืนนั้นนายอยู่กับแฟน นายจะพ้นผิดทันที นายกล้าพอไหมภีม นายเหลือทางเลือกไม่มากหรอกนะ แต่ฉันให้สิทธิ์นายในการเลือกก่อน” แก้วกัลยามองภีมะที่นิ่งไป และภีมะก็พยักหน้า แก้วกัลยายิ้มและคว้ามือภีมะขึ้นมาจับ

“กล้ายอมรับไม่ใช่เรื่องหน้าอาย มันคือความภาคภูมิใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นวันต่อ ๆ ไปนายยังมีครอบครัวที่รักนาย มีแฟนของนายที่รักนาย และมีเพื่อน ๆ ทุกคน” ประตูห้องเปิดออก พ่อและแม่ของภีมะเดินเข้ามา ทั้งสองมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ภีมะวิ่งไปกอดพ่อแม่ไว้และยกมือไหว้แนบอกแม่

“ฮึก...ผม ...ผม”

“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไรนะ ภีมยังเป็นลูกของแม่ เป็นคนดีของแม่ ไม่ว่าภีมจะเป็นอะไรภีมก็เป็นลูกของแม่ แค่ภีมเป็นคนดี ไม่เป็นไรนะลูก” แก้วกัลยามองภาพนั้นและยิ้ม พลางมองไปที่เพทายที่ก็ยิ้มให้กับเธอ แก้วกัลยาเดินไปหาเพทายและพากันเดินออกไป

“ผมพึ่งรู้ว่าคุณเก่งเรื่องกล่อมคน”

“ฉันมีน้องสาวเป็นหมอ แล้วก็เคยเข้าครอสจิตวิทยามา ไม่หัดเอามาให้ก็เสียตังค์เรียนฟรีสิคะ” แก้วกัลยาเอ่ย และเนียนคว้าแขนเพทาย พลางเอาหัวซบไหล่เขาอย่างย่ามใจ เพทายก้มลงมองผู้หญิงที่กำลังยิ้มกริ่มอย่างพอใจ

“เรื่องเบอร์โทร กับเลขโอนบัญชีรู้หรือยังคะว่าใคร”

“ครับรู้แล้ว แต่คงเอาผิดตัวการใหญ่ไม่ได้” แก้วกัลยายกหัวขึ้นและมองหน้าเขา

“หมายความว่ายังไงครับ”

“เลขบัญชีเป็นของญาติห่าง ๆ ของสมชาย คนขับรถของนายเมฆา เจ้าของทีเอ็มมิวสิค ผมให้คนไปจับตาดู แต่เหมือนนายเมฆาจะเปลี่ยนคนขับรถ คาดว่านายสมชายหนีไปแล้ว แม้ตำรวจจะตามจับนายสมชาย ถ้านายสมชายไม่ซัดทอดนายเมฆาก็คงทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เราต้องเอาข้อมูลที่ได้ส่งตำรวจ”

“แล้วเรื่องเด็กผู้หญิงนั้น”

“คงต้องให้ตำรวจจัดการต่อหลังจากนี้ แต่ภีมน่าจะพ้นผิดแล้วล่ะ รอภีมให้การกับตำรวจ และรอแถลงข่าวอีกสองวันข้างน่า เรื่องคดีฆาตกรรมหลังจากนี้ผมว่าถ้าตำรวจลองสาวตัวคนร้ายไปเรื่อย ๆ ก็น่าจะจับตัวคนร้ายตัวจริงได้ ยังไงผมก็ต้องขอบคุณ ๆ มากนะครับ”

“ขอบคงขอบคุณอะไรกันคะ บอกแล้วไงเพื่อที่รัก แก้วทำให้ได้ แต่นับรวมแล้ว ตั้งแต่รู้จักกันแก้วช่วยคุณตั้งหลายครั้งแล้วนะคะ คุณจะไม่ตอบแทนแบบ หอมแก้มฉันบ้างหรอคะ รอบนี้ฉันลงทุนวิ่งเท้าเปล่าในตลอด แถมรองเท้าคู่โปรดของแก้วก็พัง ซ้ำยังโดนตบจนแก้มบวมฉึ่งครั้งนี้ไม่เก็บค่าตอบแทนให้คุ้มก็คงไม่ได้”

“คุณอยากได้อะไรล่ะ”

“ไม่มากค่ะ หอมแก้มแก้วสองข้าง คุณว่าไงคะ” แก้วกัลยาไม่พูดเปล่า แกล้งยื่นแก้มไปให้เขา และหลับตาเหมือนรอให้เขาหอม ทั้งที่ในใจกำลังกลั้นหัวเราะ เธอเดาออกว่าหน้าของเพทายคงจะแดง แล้วก็ทำอะไรไม่ถูก เธอกำลังแกล้งให้เขาเขินเล่น ๆ ไป
“คุณเป็นผู้หญิงนะมาให้ผู้ชายกอดหอมแบบนี้มันจะทำให้คุณเสียหาย”

“โห แก้วเสียหายมานานแล้วค่ะ จะเสียเพิ่มอีกนิดคงไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่หอมแก้มแก้ว แก้วหอมคุณเองนะคะ” เพทายทำท่าจะปลดแขนตัวเองออก แต่แก้วกัลยาไม่ยอมกลับกอดแขนเขาไว้แน่นและเขย่งตัวขึ้นมาจะหอมแก้มเขา แต่ดูเหมือนเพทายจะเริ่มโกรธกับการเล่นของแก้วกัลยา

“ผมไม่เล่นนะคุณแก้ว” ใบหน้าของเขาตีขรึมขึ้นมาทันที แก้วกัลยายิ่งยิ้มกว้าง

“โถ ล้อเล่นนิดเดียว แค่นี้ก็ทำโกรธไปได้ แบบนี้ต้องหอมจริง ๆ จะได้หายโกรธ” แก้วกัลยากะจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แก้มเขา แต่กลายเป็นว่าเพทายหันหน้ากลับมาจะปรามดุผู้หญิงที่นับวันจะเล่นเยอะขึ้น ทำให้ใบหน้าของแก้วกัลยาที่ขยับขึ้นมาอยู่ข้างแก้มไม่ได้อยู่ข้างแก้มแล้ว แต่เป็นตาต่อตา ฟังต่อฟัน จมูกต่อจมูก และปากต่อปาก แก้วกัลยายืนนิ่งช็อคค้าง ทำอะไรไม่ถูกพอจะหันหน้าหนี กลับโดนเพทายจับตรึงใบหน้าไว้ ดวงตาที่เคยมั่นดูหวั่นวิตกขึ้นมาทันที

“อย่าเล่นกับไฟ เพราะไฟมันจะแผดเผาตัวคุณเอง ผมเป็นผู้ชายนะ เล่นให้รู้จักขอบเขต เราเป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว ความสัมพันธ์อย่างอื่นมันไม่ยืดหรอกนะครับ อย่างน้อยเป็นเพื่อนกันก็จะไม่มีวันเกลียดกันได้ แต่ถ้าวันหนึ่งคุณเป็นคนรัก แล้วเราเลิกกัน จะไม่มีวันมองหน้ากันได้อีก” แก้วกัลยามองเข้าไปในตาคมของเขาและเอ่ยบ้าง

“ถ้าฉันรักแล้วไม่มีวันเลิก ต่อให้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่มีวันปล่อยมือคนที่ฉันรัก เพื่อนฉันมีเยอะแล้ว ฉันต้องการเป็นเพื่อนคู่คิดที่จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ไม่ใช่เพื่อนที่ก็เป็นได้แค่เพื่อน ถ้าฉันต้องการแค่นั้น ฉันไม่ทุ่มให้คุณขนาดนี้หรอกค่ะ...คุณเพชร อย่าพยายามบอกให้ฉันหยุด เพราะฉันจะยิ่งตาม ฉันขอคำถามเดียวเป็นการตอบแทนเรื่องวันนี้...คุณรักฉันบ้างหรือยังคะ” คำถามนี้ทำให้เพทายนิ่งไปบ้าง เขาปล่อยใบหน้าของแก้วกัลยาแล้ว แต่แก้วกัลยาไม่ยอมขยับออกห่าง

“ตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ชอบบังคับให้ใครตอบ นี่จะเที่ยงแล้วฉันต้องกลับไปดูยัยรักด้วย ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง” แก้วกัลยาพูดและเดินนำหน้าเพทายไป เพทายมองตามหลังแก้วกัลยาไป แก้วกัลยาหันหน้ามามองเขาและยิ้ม

“ฉันจะบอกอะไรให้นะคะคุณเพชร คุณเป็นผู้ชายที่โกหกไม่เก่ง แม้คุณจะไม่รักฉันแต่ฉันรู้ว่าคุณจะต้องรักฉันแน่ เพราะตอนนี้คุณกำลังหวั่นไหวอยู่ ฉันพูดถูกไหมคะ...คุณเพชร” แล้วแก้วกัลยาก็เดินขึ้นรถไป ส่วนเพทายยืนนิ่งหัวใจเต้นโครมครามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างที่แก้วกัลยาบอก เขากำลังหวั่นไหว หัวใจที่เคยเต้นเฉื่อยชาเวลาพบหน้าแก้วกัลยาตอนนี้กำลังเต้นแรงอย่างมีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“คุณมันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ ...แก้วกัลยา”







แก้วกัลยาเดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าแช่มชื่น ดวงตาดูมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่รอยยิ้มก็หุบฉับลงเมื่อเห็นคนที่เอนหลังนอนพิงพนักโซฟา ใบหน้าที่แหงนเงยดูหมอง ๆ เปลือกตาปิดสนิทแต่เธอก็รู้ว่ารักจิราไม่ได้หลับ แก้วกัลยาเดินมานั่งที่โซฟาตัวตรงข้าม รักจิราจึงลืมตาขึ้น

“ว่าไงแก สายฟ้าล่ะ”

“กลับไปแล้ว แล้วตัวล่ะทำไมไม่อยู่โรงพยาบาล ออกมาตะลอน ๆ แบบนี้ได้ยังไง”

“ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก แกนั่นแหละ ฉันไม่บอกหรอกนะว่าให้แกเลิกเศร้า แต่ฉันอยากให้แกทำใจให้ได้ ปกติฉันก็พูดอะไรแบบนี้ไม่เป็น คนเราเกิดแล้วก็ตาย ไม่มีอะไรแน่นอน เพียงแต่รุจมันไปเร็วกว่าแกแค่นั้นเอง”

“เค้าทำใจไม่ได้ ถ้าเค้าไปทันไอ้รุจคงไม่ตาย เค้า...”

“มันไม่ใช่ความผิดแกนะรัก อะไรรับประกันว่าถ้าแกไปแกจะช่วยรุจได้ คนตายไปแล้วเราทำอะไรไม่ได้ ถ้ามัวแต่มานั่งโทษตัวเองมันจะไปมีประโยชน์อะไร เอาเวลามาคิดดีกว่าว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง คนพวกนั้นเป็นใคร มัวแต่มานั่งหน้างอ ซึมเศร้า ถ้าไอ้รุจมันจะไม่สบายใจก็ตรงนี้แหละ เชื่อเถอะว่าไอ้รุจต้องการให้แกหาตัวคนร้าย ถ้าคนที่ต้องไปนอนให้โลงเป็นแก เชื่อเถอะรุจจะตามหาคนร้าย” รักจิรามองแก้วกัลยา แววตามาดมั่นที่สบมองมาสื่ออะไรบางอย่างออกมาได้มากมาย

“เค้าจะทำให้ได้ แล้วเรื่องที่บาดเจ็บเกิดอะไรขึ้น เมื่อเช้าเฮียเจตแวะมาเค้าถามเฮีย เฮียเจตบอกว่าอุบัติเหตุ แต่หน้าเฮียเจตดูไม่สบายใจเลย ตกลงมันเกดอะไรขึ้นเจ๊แก้ว”

“อืม พอดีฉันรีบ แล้วมัวแต่คุยโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมารถก็พุงชนกับรถคันหน้า โชคดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก แกไปอาบน้ำไป ฉันจะไปอาบน้ำแวะดูงานที่สปา พรุ่งนี้ฉันมีนัดกับคุณเพชรดินเนอร์ตอนเย็น ฉันจะไปเตรียมชุดใหม่ ๆ ทำสปาอบผิวอบตัว แกคอยดูนะฉันจะคว้าหัวใจคุณเพชรมาให้ได้ อากงจะอึ้งที่ฉันพาคุณเพชรไปอวดตอนปีใหม่นี้”

“มั่นจริง เอาแค่รีบถอดเฝือกก่อนจะโดนจับได้ก่อนเถอะ เค้าไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวสายฟ้าจะมารับไปโรงพักตอนบ่าย” รักจิราเอ่ยและเดินกลับขึ้นห้องไป แก้วกัลยาส่ายหน้าและมองตามรักจิราขึ้นไป แม้จะพยายามเข้มแข็งแต่แก้วกัลยาก็ยังมองออกว่ารักจิราเสียใจแค่ไหนที่ไปช่วยเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องไว้ไม่ทัน



...ติดตามตอนต่อไป...



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ค. 2558, 18:18:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ค. 2558, 18:27:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 954





<< ตอนที่ 10 เงามืดที่ใกล้เข้ามา   ตอนที่ 12 พายุเฮอริเคน >>
yapapaya 5 ก.ค. 2558, 07:44:07 น.
มั่นคงจริงๆเจ้แก้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account